ทำอย่างไรจึงจะดับทุกข์เพราะรักได้

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย sutthida, 18 ธันวาคม 2006.

  1. sutthida

    sutthida เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +3,388
    ทำอย่างไร จึงจะดับทุกข์เพราะรักได้ ?

    จากหนังสือ สู่ความดับทุกข์ ธรรมรักษา

    ทำอย่างไร จึงจะดับทุกข์เพราะรักได้

    อย่าเอาถึงดับเลย เอาแค่บรรเทาให้เบาบางก็ดีมากแล้วด้วยการ ทำใจ และปฏิบัติ ดังนี้



    ๑. เอาสติคอยห้ามใจ มิให้จิตคิดในเรื่องราคะไม่ดูรูป ไม่ฟังเสียง ที่จะเป็นสื่อให้เราคิดถึงคนรัก ไม่พูดไม่คุยถึงเรื่องนั้น ไม่คบกับคนที่จะชักพาไปในทางนั้น



    ๒. ระลึกถึงอสุภารมณ์ เมื่อเราไม่อาจที่จะหักห้ามใจได้ เพราะความรักมันรุนแรง ก็ให้คิดในแง่ตรงข้ามกับความสวยงาม ทางพระเรียกว่า ปลงอสุภะ คือพิจารณาในสิ่งที่ไม่สวยงาม ราคะมันจะเบาลง ระลึกถึงภาพอะไร ๆ ที่เราเคยเห็นว่าน่ารังเกียจ เช่น ศพคนตายในที่ต่างๆ ที่เราเคยพบมาแล้ว ก็เอาไป เปรียบเทียบ กับคนที่เรากำลังรักอยู่ ว่าถ้าเขาตายแล้วมันก็จะมีสภาพไม่ต่างอะไรกัน ทั้งตัวเราและตัวเขาด้วย



    ๓. หางานอะไรทำ อย่าอยู่คนเดียว อย่าอยู่ในที่สงบสงัด จงหางานอะไรทำไว้เรื่อยๆ งานที่หนักหรือยุ่งๆ ยิ่งดี ในมันจะได้ไมมีเวลาไปคิดเรื่องรักหรือคนรัก



    ๔. หาเพื่อนคุย คุยกับคนที่ถูกคอกัน หรือไปหาท่านผู้รู้ให้ท่านช่วยให้ข้อคิดหรือเตือนสติ เกิดปัญญารู้เท่าทันความคิด ไม่หลงผิด ก็ ย่อมจะดีกว่าการคุยกันโดยไร้สาระ

    ๕. อ่านหรือฟังธรรมะ หาหนังสือธรรมะมาอ่านหรือฟังธรรมะจากเทป หรือทางวิทยุก็มีมาก เลือกอ่านหรือฟังเรื่องที่ตรงกับตนกำลังทุกข์อยู่ ก็จะเป็นการดีมาก เท่ากับเป็นการเกาถูกที่คัน ความทุกข์ก็ย่อมจะสลายลงในทันที



    ๖. ไม่ต้องทำอะไรเลย มันทุกข์มันทรมาน ก็ให้รับรู้ว่ามันทุกข์หนอ มันทรมานหนอ ไม่ต้องไปละหรือลืมมัน ไม่ต้องไปทำอะไรทั้งนั้น ปล่อยให้มันผ่านไปวัน ๆ เดี๊ยวมันก็จางลงเอง และจะลืมไปในที่สุดเพราะตัวความทุกข์เอง มันก็เป็นอนิจจังเหมือนกัน



    แม้เราจะพยายามไม่ให้ลืม มันก็จะต้องลืมไปตามกฎแห่งอนิจจัง เพียงแต่ว่าเราอย่าใจร้อน อย่าเร่งวันเวลาปล่อยให้มันผ่านไปเรื่อยๆ แล้วมันก็จะลืมของมันไปเองเพียงแต่ว่ามันช้าหน่อยเท่านั้น



    ๗. โยนิโสมนสิการ ความรักเกิดจากราคะ ราคะเกิดจากความดำริผิด คือขาด โยนิโสมนสิการ ได้แก่การกระทำในใจไว้โดยไม่แยบคาย นั่นก็คือการหมกมุ่นแต่ในเรื่องเพศ ลุ่มหลงมัวเมาในกามคุณหรือกามราคะ จึงเกิดความกำหนัดขึ้น เมื่อเกิดความกำหนัด ก็ต้องการจะสนองมันเรื่อยๆ ไปเมื่อไม่ได้สนองก็ทุกข์ใจ และทรมารใจร่านทะยานอยากไม่สิ้นสุด ความรักจึงเป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์นานา



    ปุถุชนคนกิเลสหนาตัณหาจัด จึงยอมสยบในเรื่องนี้ เพราะความเห็นผิดและดำริผิด พระพุทธเจ้าทรงเป็นเอกบุรุษของโลก ที่ทรงค้นพบความจริงของสรรพสิ่งในโลกและทรงอยู่เหนือสิ่งเหล่านั้น ในฐานะชาวพุทธ เราจึงควรที่จะเอาธรรมะของพระองค์มาดับทุกข์ไม่ควรที่จะเอาสิ่งอื่นมาดับเพราะไม่มีทางที่จะดับได้อย่างแท้จริง หรือดับอย่างนิจนิรันดร
     
  2. จิตมีธรรม

    จิตมีธรรม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +3
    ขอบคุณมากคะที่ให้แง่คิดดีเช่นนี้ มาอ่าน
     

แชร์หน้านี้

Loading...