พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เมื่อวานนี้ ผมว่าจะโอนเงินเพื่อร่วมทำบุญในพิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรม 266 วัด ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 25 ช่วยเหลือพระ และเจ้าหน้าที่ ผู้ประสบภัยในเหตุการณ์ความไม่สงบในสี่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2550 เวลา 7.00
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ลืมแจ้งรายนามผู้ร่วมบริจาค ผมขอแจ้งนะครับ

    1.คุณkwok จำนวน 750.00 บาท
    2.คุณchai wong จำนวน 100.00 บาท
    3.คุณเพชร จำนวน 500.00 บาท
    4.คุณaries2947 จำนวน 300.99 บาท
    5.คุณchaipat จำนวน 200 บาท
    6.ผมและภรรยา จำนวน 348.01 บาท
    7.ผู้บริจาคนิรนาม จำนวน 1.00 บาท

    รวมจำนวนเงิน 2,200 บาท

    โมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

    .
     
  3. Pichet-m

    Pichet-m เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +393
    คุณ Sithiphong ครับ ขอจองหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1 เล่มครับ
     
  4. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    ได้รับรูปหลวงปู่แล้วครับ
    ขอบคุณมากๆครับ
    โมทนาสาธุ
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    เมื่อพี่ใหญ่ในก๊วนเล่าให้ฟังเรื่องการจุดธูปบูชาพระ

    เมื่อตั้งหลักจะบูชาพระที่บ้านหากมีตาในจะเห็นเหล่าเทพเทวาสรรพจิต สรรพชีวิต สรรพวิญญาณทั้งหลายรายล้อมรออยู่ (จะไม่ชวนท่านสวดมนต์นั่งสมาธิด้วยก็ใจจืดไปล่ะ)
    ปักธูปดอกที่ 1 โน้มจิตคารวะคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์เป็นที่สุด
    ปักธูปดอกที่ 2 โน้มจิตคารวะบิดา และมารดา ทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ
    เป็นที่สุด
    ปักธูปดอกที่ 3 โน้มจิตคารวะครู อุปัชฌาย์ อาจารย์ บูรพมหากษัตรย์ และผู้มี
    คุณทุกท่านทั้งในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติเป็นที่สุด

    กำหนดจิตนึกถึงท่านที่อยู่ในวรรคข้างต้นร่วมสวดมนต์ภาวนาด้วยทุกครั้ง สวดเสร็จนั่งสมาธิตามถนัดเมื่อเสร็จแล้วอุทิศบุญกุศลให้ท่านแล้วจะขออะไรให้ท่านช่วยก็ขอ ไม่เหลือกำลังบุญ ได้แน่ๆๆๆ...... เล่าให้ฟังเพราะขอแล้วได้แล้ว (ขอให้มีความสุขกับครอบครัว และมีความก้าวหน้าในธรรมพร้อมกับครอบครัวครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2007
  7. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    เมื่อพี่ใหญ่ในก๊วนเล่าให้ฟังเรื่องการจุดธูปบูชาพระ

    เมื่อตั้งหลักจะบูชาพระที่บ้านหากมีตาในจะเห็นเหล่าเทพเทวาสรรพจิต สรรพชีวิต สรรพวิญญาณทั้งหลายรายล้อมรออยู่ (จะไม่ชวนท่านสวดมนต์นั่งสมาธิด้วยก็ใจจืดไปล่ะ)
    ปักธูปดอกที่ 1 โน้มจิตคารวะคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์เป็นที่สุด
    ปักธูปดอกที่ 2 โน้มจิตคารวะบิดา และมารดา ทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ
    เป็นที่สุด
    ปักธูปดอกที่ 3 โน้มจิตคารวะครู อุปัชฌาย์ อาจารย์ บูรพมหากษัตรย์ และผู้มี
    คุณทุกท่านทั้งในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติเป็นที่สุด

    กำหนดจิตนึกถึงท่านที่อยู่ในวรรคข้างต้นร่วมสวดมนต์ภาวนาด้วยทุกครั้ง สวดเสร็จนั่งสมาธิตามถนัดเมื่อแล้วอุทิศบุญกุศลให้ท่านแล้วจะขออะไรให้ท่านช่วยก็ขอ ไม่เหลือกำลังบุญ ได้แน่ๆๆๆ...... เล่าให้ฟังเพราะขอแล้วได้แล้ว (ขอให้มีความสุขกับครอบครัว พบแต่สิ่งที่ดีและมีความก้าวหน้าในธรรมพร้อมกับครอบครัวครับ)
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  9. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097


    ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงสำหรับการปักธูปข้างต้น เพราะได้รับคำแนะนำจากพี่ใหญ่ว่า หากเราไหว้พระ 5 ครั้งแล้ว จำต้องจุดธูป 5 ดอกด้วยกัน เพื่อที่จะมิได้ขาดความเคารพบูชาต่อท่านผู้หนึ่งผู้ใดไปดังนี้
    ธูปดอกที่ 1บูชาคุณพระพุทธคือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นึกถึงพระปริสุทธิคุณแห่งท่าน
    ธูปดอกที่ 2 บูชาคุณพระธรรม ที่เป็นคำสั่งสอนกางกั้นมนุษย์มิให้ตกลงไปในที่ชั่ว โดยนึกถึงปริสุทธิคุณแห่งพระธรรมนั้น
    ธูปดอกที่ 3 บูชาคุณพระสงฆ์ ซึ่งเป็นอริยสงฆ์ที่ประพฤติปฏิบัติตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสงฆ์ที่เป็นเนื้อนาบุญแห่งพระพุทธศาสนา
    ส่วนธูปดอกที่ 4 และ 5 ถึงโน้มจิตให้บิดามารดา และครูอุปัชฌาย์ฯ ตามลำดับ
    เสร็จแล้วชวนท่านสวดมนต์ไหว้พระตามข้างต้นครับ ยืนยันเหมือนเดิมปรารถนาอย่างหนึ่งอย่างใดบอกท่าน หากไม่พ้นวิสัย ขอรับรองไม่นานเกินรอจริงๆ

    ขอผลบุญในการที่ข้าพเจ้าได้เผยแพร่การโมทนาจิตโน้มบุญกุศลในการสวดมนต์ไหว้พระในครั้งนี้ จงมีแด่เทพเทวาองค์ที่ปกปักรักษาพุทธศาสนาทุกองค์อันนับเป็นเทวานุภาพที่มีต่อพุทธบริษัทที่ใฝ่ในกรรมดีทุกท่านด้วยเทอญ
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ผมมาคุยให้ฟัง เรื่องของหนังสือ ปู่เล่าให้ฟัง เล่ม 2
    ผมเดาว่า ท่านอาจารย์ประถม ท่านน่าจะนำเรื่องนี้มามาลงในหนังสือเล่มนี้ด้วย แต่ยังไม่รู้ว่า ผมเดาถูกหรือผิด แต่จะมาลงเป็นตัวอย่างสักเล็กน้อยครับ


    กรรมวิธีการเก็บตัวยาใบไม้รู้นอน ๗ สิ่ง

    เล่าโดย ปรัศนี ประชากร
    (ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร)<O:p</O:p


    .....................ผู้เขียนเองศึกษาวิชาอิธะเจแฝดหรือปถมังอิธะเจลบต่อจากอิธะเจขาดตัว ............... เรียกว่าผงอ่อนใจรัก สร้างพระปิดตาบินเดี่ยวคุณภาพสูงเยี่ยมเท่าหลวงพ่อแก้ว วัดเคลือวัลย์ สมัยโบราณ พญามารได้กลั่นแกล้งจนล้มป่วยอาการขั้นปางตายมาแล้ว บังเกิดความเบื่อหน่ายแบ่งปันผงให้หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้งไปบ้าง ที่เหลือถวายเจ้าคุณวรพรต ปัญญาจารย์ วัดป่าอรัญญิกาวาส และท่านเจ้าคุณได้ถวายล้นเกล้ารัชกาลองค์ปัจจุบันนำไปสร้างพระสมเด็จจิตรลดาหมดไปแล้ว...................................

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผมมีคำถามมาถามทุกท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งกันอีกแล้วครับ
    <O:p</O:p
    เริ่มตอบปัญหาได้ตั้งแต่บัดนี้( 22 มิถุนายน 2550) จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2550 เวลา 18.00 น.(เวลาในเว็บพลังจิต)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    โดยผมมีลูกอม(เป็นชานหมากพระอาจารย์รูปหนึ่ง ผสมกับผงต่างๆ เช่นผงอ่อนใจรักที่ท่านอาจารย์ประถม ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรัชกาลที่ 9 ,ผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ และผงอื่นๆอีกหลายๆอย่าง) เป็นรางวัลที่ 1 ส่วนรางวัลที่ 2
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากกระทู้ กระทู้ ร่วมสนุกตอบปัญหา มอบลูกอม ,สมเด็จอรหังพิมพ์เล็ก และอื่นๆ (http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=82524)

    <TABLE class=tborder id=post608597 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 09:15 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#21 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พันวฤทธิ์<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_608597", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:22 PM
    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 141 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 131 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 1,262 ครั้ง ใน 136 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 152 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_608597 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->นับว่าแต่ละท่านได้ติดตามและเก็บข้อมูลมาได้ดีจริงๆ ขอชมเชยจากใจสำหรับผมคงวางกติกาไว้คือ นำมาดูทีละข้อ ทีละตอน เปรียบเทียบกัน และจะไม่พยามยามนำหลักธรรมที่มิใช่เกิดจากกระทู้นี้มาเป็นแต้มต่อให้สำหรับ คำตอบในข้อที่ 2 ถึงแม้จะมีผู้กล่าวไว้หลายท่านก็ตาม แต่เนื่องจากภูมิในการขวนขวายในหลักธรรมและหลักปฏิบัติต่างๆ ภายนอกต่างกัน ทุกอย่างในข้อที่ 2 จึงยังคงยึดตามที่คุณหนุ่มกำหนดให้คือนำมาจากในกระทู้นี้เท่านั้นน้ำหนักคะแนนของผมจึงให้ข้อ 2 เป็นหลัก ส่วนข้อรองคือการนำไปใช้ในชีวิตจริงของผู้ที่คิดว่าจะเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏบัติชอบตามคำสอนในข้อที่ 3 ส่วนคำถามที่เปิดกว้างเช่น คำถามในข้อ 1/4/5 เพื่อให้ทุกคนได้แสดงออกนั้น ผมจะให้น้ำหนักคะแนนเท่ากันครับ เนื่องจากลูกอมซึ่งเป็นของศักดิ์สิทธิมากจนแทบจะบินได้ด้วยตัวเองอยู่แล้วมีอยู่เพียงหนึ่งเดียว รางวัลรองสมเด็จอะระหังก็ใช่ย่อยซะเมื่อไรสมเด็จฯ ท่านเชิญท่านท้าวมาเวสฯ ราชาแห่งทรัพย์มาด้วย แขวนแล้วโชคดีมีแฮงเหลือหลายผมคงต้องพิมพ์ออกมาเป็นฮาร์ดก๊อปปี้ เพื่อจะนั่งอ่านนอนอ่านให้ครบทุกคน จึงขอเวลานิดนึงครับ แต่ภายในวันที่ 6/7 นี้เสร็จแน่นอน จริงๆ แล้วอยากให้ไป
    รับกับมือ อ.ประถมด้วยกันในวันที่ 15/7 นี้ครับ

    (verygood)
    <!-- / message --><!-- edit note -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=42007&NewsType=2&Template=1

    วิธีบริหารสมอง
    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีการบริหารสมองแบบง่าย ๆ มาบอกกัน....
    นักวิจัยมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ เมโทรโพลิแทน ประเทศอังกฤษ ให้ข้อมูลว่า วิธีพัฒนา-ฟื้นฟูความจำของสมองมนุษย์แบบง่าย ๆ ทำได้ด้วยการค่อย ๆ กรอก "ลูกตา" จากข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งเท่านั้นเอง
    เคล็ดลับการกรอกลูกตาที่ว่านี้ ต้องทำในแนวนอน เช่น กรอกตามองจากฝั่งซ้าย มาตรงกลาง แล้วไปทางขวา หรือไม่ก็ทำในทิศทางสลับกัน แต่ต้องกรอกตา หรือ ทำต่อเนื่องเพียง 30 วินาทีต่อวัน
    ดร.แอนดรูว์ ปาร์กเกอร์ นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญระบบประสาท ผู้นำการวิจัย กล่าวว่า การฝึกกรอกตาไปมาแบบนี้จะช่วยให้ "สมองทั้ง 2 ซีก" ทำงานตอบสนองกันดียิ่งขึ้น เมื่อทำบ่อย ๆ จึงเหมือนเป็นการ "ออกกำลังกายสมอง" ไปในตัว ทำให้สมองของผู้ฝึกมีความจำดีกว่าเดิม 10 เปอร์เซ็นต์
    ดร.แอนดรูว์ สรุปการทดลอง โดยแบ่งนักศึกษา 102 ออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกให้ฝึกกรอกตาซ้ายขวา, กลุ่มที่สองกรอกตาขึ้นลง และกลุ่มที่สามไม่ต้องฝึกอะไรเลย ผลการทดลองพบว่า กลุ่มแรกสามารถจดจำคำพูด 300 คำที่นักวิจัยเปิดเทปให้ฟังได้มากที่สุด
    ถ้าใครอยากมีความจำดี ๆ ก็ลองนำวิธีบริหารสมองไปปฏิบัติดูได้.


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="VERTICAL-ALIGN: top; TEXT-ALIGN: left"><TABLE id=Table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=message-bold>คอลัมน์ย้อนหลัง</TD></TR><TR><TD><TABLE id=ctl00_ContentPlaceHolder1_ctl00_Popup_news_15_oldcolumn1_dlsOColumn style="WIDTH: 100%; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีบริหารสมอง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีเก็บรักษาดอกไม้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีดูแลรักษาพื้นครัวให้สะอาด
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">น้ำร้อนช่วยแก้ปัญหาท่อน้ำทิ้งอุดตัน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">8 วิธีที่ทำให้ผมเสีย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">4 วิธีแก้อาการปวดหลัง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ลดความอ้วนด้วยบุก
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ดูแลผิวในห้องแอร์
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ใบกระเพรากระตุ้นรัก
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ประโยชน์ของมะขามเปียก
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.thairath.co.th/news.php?section=technology&content=52302

    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">จัดบ้านปลอดภัยให้เจ้าตัวเล็ก [30 มิ.ย. 50 - 00:47]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    บ้านไหนมีสมาชิกเป็นเด็กตัวเล็ก ในวัยกำลังหัดคลาน ยืน เดิน คงมีเรื่องให้ปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน ที่ต้องคอยเฝ้าระวังไม่ให้สมาชิกตัวน้อยเคลื่อน ไหวไปชนสิ่งของต่างๆภายในบ้าน ระหว่างที่กำลัง “สำรวจโลก”
    ถ้าจะให้ดี พ่อแม่ ผู้ปกครองควรจะต้องจัดบ้านให้เรียบร้อยกันเสียแต่ต้นมือ เคล็ดลับในการจัดบ้านให้ปลอดภัยสำหรับเด็กๆมีหลายข้อ ในที่นี้ ที่ขอสรุปมาจากนิตยสาร “First Year of Life” คู่มือเจริญวัยขวบปีแรก พฤษภาคม-ตุลาคม 2550 มีอยู่ 10 ข้อ พอเป็นสังเขปดังต่อไปนี้
    1. ไม่ควรปล่อยให้ลูกอยู่ในรถหัดเดินคนเดียว หากที่บ้านมีพื้นต่างระดับ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้
    2. บันไดขึ้นลง ควรติดตั้งประตูกั้นขวางทางขึ้นลงไว้เพื่อความปลอดภัย
    3. ควรหาพลาสติกป้องกันไม่ให้เด็กแหย่นิ้วเข้าไปในช่องปลั๊กไฟ
    4. ไม่ควรปล่อยให้ลูกนั่งเล่นใกล้พัดลม เพราะอาจแหย่นิ้วเข้าไปโดนใบพัด
    5. ไม่ควรให้ลูกเข้าใกล้ขณะที่ผู้ใหญ่รีดผ้า เพราะเพียงแค่เผลอนิดเดียว เขาอาจจะคว้าเตารีดลงไปแล้ว
    6. เมื่อลูกคลานได้คล่อง เขาจะเริ่มจับยึดเฟอร์นิเจอร์เพื่อพยุงตัวเองให้ยืนและเดินได้ จึงควรตรวจดูชั้นวางของและสิ่งต่างๆให้มั่นคงแข็งแรงพอ หากไม่แข็งแรง เวลาเขาจับยึดอาจล้มลงมาทับได้
    7. เก้าอี้ทำงานที่มีขาเป็นล้อเลื่อนควรเก็บให้ห่าง เพราะถ้าเด็กจับยึดเกาะอาจทำให้ลื่นล้ม
    8. ไม่ควรวางของโงนเงนได้ง่ายอย่างแจกันดอกไม้ไว้หลังตู้ หากเจ้าตัวเล็กไถรถหัดเดินไปชนตู้อาจทำให้แจกันตกลงมาใส่ได้
    9. เวลาให้ลูกนั่งเก้าอี้สำหรับเด็ก (high chair) ควรรัดเข็มขัดทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย
    10. ไม่ควรเปิดประตูห้องต่างๆทิ้งไว้ เพราะอาจหนีบนิ้วเด็กๆ.
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ที่มา http://www.thairath.co.th/news.php?section=technology&content=52303

    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">ธนบัตรเป็นตัวการแพร่โรคหวัด เชื้อยึดเป็นยาน ทะยานหาคนอื่น [30 มิ.ย. 50 - 00:48]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>นักวิจัยโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเจนีวา บอกเตือนให้รู้ว่าธนบัตรอาจกลายเป็นพาหะแพร่เชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ ให้เกิดระบาดขึ้นอีกได้
    นักวิจัยอีฟส์ โทมาส กับคณะได้ศึกษาโดยการหยอดเชื้อไวรัสโรคหวัดสายพันธุ์ต่างๆ ซึ่งเคยปรากฏเมื่อคราวระบาดระหว่างฤดูหนาวคราวที่แล้ว ลงบนธนบัตรสวิสชนิดต่างๆ แล้วปล่อยตากลมทิ้งอยู่ในห้องเป็นเวลานานต่างๆกัน เพื่อจะดูว่าเชื้อไวรัสจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานสักเท่าไร “เราต้องการ ที่จะตรวจดูว่าเชื้อไวรัสไข้หวัดติดเปื้อนอยู่ตามธนบัตรที่เราใช้กันผ่านมือวันหนึ่งๆ เป็นล้านๆฉบับนั้น จะมีชีวิตอยู่ได้นานสักเท่าใด”
    ผลการศึกษาพบว่า เชื้อบางพันธุ์อายุอยู่ได้ นานแค่ 2 ชม. แต่หากมันได้เปลี่ยนที่อยู่จากบนแบงก์ เข้าไปอยู่กับน้ำมูกในรูจมูก จะช่วยให้อยู่ได้นานถึง 24 ชม. พันธุ์ที่แพร่หลายที่สุด พันธุ์เอช 3 เอ็น 2 สามารถอยู่ได้นานถึง 3 วัน 3 คืน และหากมันอยู่ กับน้ำมูกด้วยจะอยู่ได้ทนถึง 17 วัน
    นักวิทยาศาสตร์เคยถกกันว่าเชื้อหวัดที่ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ ทำให้โรคแพร่กระจายได้อย่างไร แต่ในการทดลองได้พบว่า มันทำให้คนติดต่อกันโดยไปสัมผัสพื้นผิวที่คนอื่นทำเปื้อนเปรอะไว้ ซึ่งหมาย ความว่าหากเราไปจับต้องธนบัตรที่มีเชื้อเป็นๆอาศัยอยู่ ก็อาจติดโรคได้ แสดงว่าการรับธนบัตรระหว่างกันนั้นทำให้ติดโรคถึงกันได้.
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=62202

    ลบกระทู้ ลบโพสต์&หากระทู้เก่า~การลบกระทู้ หรือโพสต์ของเราด้วยตนเอง และการหากระทู้เก่า

    ส่วนเทคนิคอื่นๆ ลองเข้าไปศึกษาได้ในห้องนี้ครับ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD>[​IMG]</TD><TD> </TD><TD width="100%">palungjit.org > ทั่วไป > Music Board </TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG] ห้องเทคนิค </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.palungjit.org/board/forumdisplay.php?f=34

    ผมเองก็ว่าจะไปศึกษาดูซะหน่อยแล้ว

    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01bud02010750&day=2007/07/01&sectionid=0121


    วันที่ 01 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10704​

    ท่าทีที่พึงปฏิบัติต่อเทพ


    คอลัมน์ รื่นร่มรมเยศ

    โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก



    พระพุทธศาสนาพูดถึงเทพ ๓ ประเภทคือ

    1.สมมติเทพ เทพโดยสมมติ ได้แก่ พระราชามหากษัตริย์

    ๒.อุปปัตติเทพ เทพโดยอุบัติ คือ เกิดเป็นเทพในกามาพจรสวรรค์ รวมถึงพรหมด้วย

    3.วิสุทธิเทพ เทพโดยความบริสุทธิ์ คือ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย

    ประเภทที่ 1 และที่ 3 รู้กันโดยมากแล้ว ในที่นี้จะขอพูดถึงประเภทที่ 2 คือ เทพหรือเทวดาจริงๆ มนุษย์ส่วนมากคิดว่าเทพนี้มีอิทธิฤทธิ์สามารถบันดาลความสุขความสำเร็จให้มนุษย์ จึงพากันเคารพนับถือบูชาเทพแบบสุดตัวเลย พูดอีกนัยหนึ่งว่ามอบชะตากรรมทั้งหมดให้อยู่ในความรับผิดชอบของเทพโดยสิ้นเชิง ไม่เหลือเผื่อให้การกระทำของตนเองแม้แต่นิดเลย

    การนับถือเทพแบบสุดชีวิตจิตใจเช่นนี้ พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าไม่ถูกต้อง เพราะเงื่อนไขใหญ่อยู่ที่การกระทำของมนุษย์เอง เทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ถ้าจะช่วยได้บ้าง ก็เป็นเพียงปัจจัยเสริมเท่านั้น ไม่ใช่ปัจจัยหลัก

    ในบางพระสูตร พระพุทธเจ้าถึงกับตรัสเตือนสติมนุษย์ว่า ในบรรดาเทวดาทั้งหลายนั้น เวลามีเทวดาตนใดจะจุติ (คือตาย) พวกเขาจะพากันมาห้อมล้อม กล่าวอนุโมทนาด้วยความยินดีว่า "ยินดีที่ท่านจะตายไปเกิดในสุคติคือโลกมนุษย์"

    เท่ากับแสดงให้เห็นว่าในสายตาของเทพนั้น มนุษยโลกสำคัญที่สุด เป็น "สุคติ" ที่แท้จริง ประเสริฐกว่าเทวโลกด้วยซ้ำ แม้ว่าจะเป็นสุคติเหมือนกันก็ตาม ทั้งนี้ เพราะเทพเขาถือว่าเป็นมนุษย์มีโอกาสดีกว่าเทพ มีโอกาสพัฒนาตนตามหลักอริยมรรคบรรลุมรรคผลนิพพานได้ ซึ่งเทวดาไม่สามารถทำได้ ถ้าอยากเป็นพระอรหันต์ ต้องมาเกิดเป็นมนุษย์เท่านั้น

    ในขณะที่มนุษย์กลับดูถูกศักยภาพของตนเอง หวังพึ่งแต่เทพบันดาลอย่างเดียว

    เพื่อให้เกิดอนุสติ ผมขอยกเรื่องเล่าจากชาดกบ้าง พระสูตรบ้าง อรรถกถาบ้าง มาให้ฟังสัก 2-3 เรื่องดังนี้ครับ

    เรื่องที่หนึ่ง มหาชนกชาดก พระมหาชนกโพธิสัตว์ลงเรือเพื่อไปค้าขายต่างเมือง ร่วมกับลูกเรือจำนวนมาก บังเอิญเกิดพายุใหญ่กระหน่ำกลางทะเล ขณะเรือกำลังจะจมทะเลนั้น บรรดาลูกเรือทั้งหลายต่างก็อ้อนวอนกราบไหว้ ขอพรให้เทพทั้งหลายที่ตนนับถือ ให้ช่วยเหลือ พระมหาชนกยืนดูพวกเขาเหล่านั้น ด้วยความสลดสังเวชใจ รำพึงเบาๆ ว่า มัวแต่ฝากชีวิตไว้กับเทพเจ้าทั้งหลาย ไม่คิดช่วยตัวเองเลย อย่างนี้มีแต่ตายกับตายลูกเดียว

    พระมหาชนกไม่คุกเข่าอ้อนวอนเทพเหมือนคนอื่น ใช้ปัญญาคิดแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยเริ่มกินอาหารให้อิ่ม เอาผ้าชุบน้ำมันพันกาย (เข้าใจว่าเพื่อให้ร่างกายเบาจะได้ไม่จมน้ำง่าย) เมื่อเสากระโดงเอนลงมา ก็ปีนเสากระโดงเรือ กำหนดทิศทางเมืองมิถิลานคร แล้วก็กระโดดให้ไกลที่สุด เกาะแผ่นกระดานว่ายไปในทะเล

    คนทั้งหลายที่ฝากชีวิตไว้กับเทพที่ว่าศักดิ์สิทธิ์นักหนา พากันตายหมด เหลือแต่พระมหาชนกคนเดียว เพียรพยายามว่ายอยู่ในทะเลโดยไม่หยุด จนกระทั่งนางมณีเมขลา เทพธิดาประจำมหาสมุทรได้มองเห็น และตามดูพฤติกรรมของพระมหาชนกอยู่ อยากรู้ว่าทั้งๆ ที่มองไม่เห็นฝั่ง ทำไมจึงเพียรพยามยามอยู่

    นางปรากฏกาย ร้องถามว่าใครนั่นน่ะ เพียรพยายามว่ายน้ำอยู่ มหาสมุทรกว้างใหญ่ไพศาล เห็นแต่น้ำกับฟ้า ฝั่งก็มองไม่เห็น ไม่มีทีท่าว่าจะถึงฝั่ง พูดง่ายๆ ว่ายก็ตาย ไม่ว่ายก็ตาย จะพยายามอยู่ทำไม

    พระมหาชนกตอบว่า "เกิดเป็นคนต้องพยายามจนถึงที่สุด เมื่อได้พยามเต็มที่แล้ว จะถึงฝั่งหรือไม่ถึงไม่สำคัญ ถ้าเราได้ทำหน้าที่ของคนที่เกิดมาแล้ว ถึงจะตายไปก็นับว่าไม่เป็นหนี้ใคร"

    นางมณีเมขลาจึงช่วยอุ้มพระมหาชนกไปวางไว้บนบก พระมหาชนกได้พูดกับนางมณีเมขลาว่า "คนในเรือตายหมด เหลือแต่เราคนเดียวพยายามแหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทร จนที่สุดได้พบท่าน และท่านก็เมตตาช่วยนำเราเข้าสู่ฝั่ง นี่มิใช่อานุภาพแห่งความเพียรหรือ"

    เล่าแค่นี้แหละ ไม่อธิบายให้มากความ เข้าใจว่าท่านผู้อ่านคงได้คำตอบด้วยตัวท่านเอง

    เรื่องที่สอง พระราชาสองเมืองรบกันแบบมาราธอน คือ ไม่มีใครชนะใคร เพราะต่างก็มีฝีมือด้วยกัน ถึงฤดูฝนก็พักรบ หน้าแล้งมาก็เริ่มรบกันต่อ

    ฤๅษีท่านหนึ่งถามพระอินทร์ว่า กษัตริย์สององค์นี้องค์ไหนจะชนะ พระอินทร์กล่าวว่า พระราชาเมือง ก.จะชนะ พระราชาเมือง ข.จะแพ้ไม่เป็นท่าเลย หลวงพ่อฤๅษีก็ถ่ายทอดคำทำนายของพระอินทร์ให้ลูกศิษย์ฟัง ไม่นานคำทำนายนั้นก็รู้ไปถึงพระกรรณของพระราชาทั้งสอง

    องค์ที่ได้รับคำทำนายว่าจะแพ้ แรกๆ จะถอดใจ แต่คิดอีกที ไหนๆ ก็สู้มาจนถึงป่านนี้ จะยอมแพ้ง่ายๆ ก็ดูกระไร ฝีมือเราก็มิได้เป็นรองแต่อย่างใด มันคงไม่แพ้ง่ายดายดังคำทำนายดอก จึงพยายามฝึกปรือทหารหาญของตน โดยไม่ประมาท ใช้ปัญญาพิจารณาอย่างรอบคอบว่าจุดไหนเป็นช่องว่างช่องโหว่ พยายามปิดพยายามเสริมให้เต็มที่

    ฝ่ายพระราชาที่ได้รับคำพยากรณ์ว่าจะชนะ ก็ดีใจ จัดพิธีเฉลิมฉลองเอิกเกริก ไม่ใส่ใจฝึกปรือทหาร มัวแต่สนุกสนานเพลิดเพลิน เมาแอ่นกันทั้งกองทัพ ประมาณนั้น

    ถึงเวลารบจริง ก็แพ้อย่างไม่เป็นท่า ทั้งๆ ที่คำทำนายว่าจะชนะ จึงไปต่อว่าฤๅษีว่าหาว่าโกหกหลอกต้มตน ไหนว่าจะชนะแต่ทำไมจึงแพ้ยับเยินเช่นนี้ ฤๅษีเองก็ตกใจเหมือนกัน ที่คำทำนายกลับตาลปัตรเช่นนี้ จึงไปต่อว่าพระอินทร์

    พระอินทร์กล่าวว่า คำทำนายไม่ผิดดอก ถ้าปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามวิถีทางของมัน พระราชาเมือง ก.จะชนะแน่ แต่เนื่องจากพระราชาเมือง ข.ได้พากเพียรพยายามเต็มที่โดยไม่ประมาท ในขณะที่พระราชาเมือง ข.ประมาท ผลจึงเป็นอย่างที่เห็นนี้

    แล้วพระอินทร์ก็สรุปว่า "มนุษย์ถ้าพากเพียรจนถึงที่สุดแล้ว เทวดาก็กีดกันไม่ได้"

    เรื่องนี้ก็แจ่มแจ้งแล้ว ไม่มีคอมเมนต์เพิ่ม

    เรื่องสุดท้าย อนาถบิณฑิกเศรษฐี ผู้สร้างพระเชตวันมหาวิหาร เป็นเศรษฐีใจบุญ สละทรัพย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาจำนวนมาก ว่ากันว่า เศรษฐีทำบุญเลี้ยงพระวันละ 500 รูปทุกวัน คราวหนึ่งเศรษฐกิจตกต่ำ การค้าขายขาดทุน แต่ท่านก็ไม่งด หรือลดงบประมาณในการทำบุญ ยังคงทำเหมือนเดิม จนเทวดาที่สิงสถิตอยู่ที่ซุ้มประตู ผู้หวังดีต่อเศรษฐี ทนไม่ได้ที่เห็นท่านเศรษฐีลำบาก จึงปรากฏตัว และแนะนำให้เศรษฐีเลิกทำบุญ หรือลดงบประมาณในการทำบุญลง

    เศรษฐีถามว่า ท่านเป็นใคร ได้รับคำตอบว่า เป็นเทวดาที่สิงสถิตอยู่ที่ซุ้มประตู จึงตวาดว่า การที่ท่านได้เกิดเป็นเทพ เป็นผลของการทำบุญทำทานมิใช่หรือ ท่านมาห้ามข้าพเจ้ามิให้ทำบุญทำทานสมควรแล้วหรือ ไม่ละอายใจหรือ ถ้าท่านไม่อนุโมทนาในบุญกุศลที่ข้าพเจ้าทำ ก็ไม่ควรอยู่ที่ซุ้มประตูบ้านข้าพเจ้า

    พูดแบบสำนวนกำลังภายในก็ว่า "โน่นประตู ไสหัวไป"

    เทวดาตนนั้นเลยไม่มีที่อยู่ เพราะถูกเศรษฐีขับไล่ ต้องไปพึ่งพระมหากรุณาของพระพุทธเจ้า พระองค์รับสั่งให้มาขอขมาเศรษฐี เศรษฐีก็ยกโทษให้ และอนุญาตให้สิงสถิตอยู่ที่เดิมต่อไป

    มีอีกหลายตัวอย่างต้องการบอกว่า เกิดเป็นมนุษย์นั้นมีศักยภาพสมบูรณ์ที่จะพัฒนาตนเองให้งอกงามด้วยคุณธรรม สร้างที่พึ่งแก่ตนเองด้วยการปฏิบัติธรรม ไม่ต้องอ้อนวอนร้องขอความช่วยเหลือจากเทพาอารักษ์ใดๆ

    คำสอนพระพุทธศาสนาให้แนวคิดว่า

    เป็นมนุษย์อย่างเรานี้แหละ สามารถทำตนให้เป็นเทพได้ เทพที่มีคุณธรรม เทพที่พูดได้ เดินได้ สัมผัสได้ พึ่งตนเองได้ ด้วยการพึ่งธรรม ไม่จำเป็นต้องไปงอนง้อขอให้เทพภายนอกช่วยเหลือให้เมื่อย

    คุณธรรมที่ทำคนให้เป็นเทพ หรือยิ่งกว่าเทพคือ หิริ (อายชั่ว) โอตตัปปะ (กลัวบาป)

    ใครมีคุณธรรมสองประการนี้เป็นยิ่งกว่าเทพไหนๆ ไม่ว่าจตุคามฯหรือจตุคำ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    9ย่างตามรอยเท้าพ่อ กตัญญู
    http://www.thaihealth.or.th/cms/deta...6m66mp147c8s27

    [​IMG]พระราชปรารภในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว[​IMG]


    <O:p</O:p
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]ยามแก่เฒ่า หวังเจ้าเฝ้ารับใช้[​IMG]<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    [​IMG]
    “พ่อแม่...พอแก่แล้ว ก็เหมือนไม้ใกล้ฝั่ง ฝนตก น้ำเซาะ อีกไม่นานก็โค่น พอถึงเวลานั้น เราก็ไม่มีแม่ให้กราบแล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    “ในหลวงจึงตัดสินพระทัยไปกินข้าวกับแม่สัปดาห์ละ ๕ วัน เมื่อตอนที่สมเด็จย่าอายุ ๙๓...
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    “สัปดาห์หนึ่งมี ๗ วัน ในหลวงไปกินข้าวกับแม่ ๕ วัน อีก ๒ วัน ดร.เชาว์ ณ ศีลวันต์ องคมนตรี บอกว่า ในหลวงถือศีล ๘ ต้องงดข้าวเย็นเลยไม่ได้ไปหาแม่วันนี้ เพราะถือศีล อีกวันหนึ่งที่เหลือ...อาจจะกินข้าวกับพระราชินี กับคนใกล้ชิด แต่ ๕ วัน ให้แม่...”<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    “...ทุกครั้งที่ในหลวงไปหาสมเด็จย่า ในหลวงจะต้องเข้าไปกราบที่ตัก แล้วสมเด็จย่าก็ดึงตัวในหลวงเข้ามากอด กอดเสร็จก็หอมแก้ม”<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    “...อะไรอร่อยๆ ในหลวงก็จะตักใส่ช้อนแม่ อันนี้อร่อย แม่ลองทาน รู้แม่ชอบทานผัก หยิบผักมาม้วนๆ ใส่ช้อนแม่ เอ้าแม่...แม่ทานซะ...ของที่แม่ชอบ แทนที่จะกินแค่ ๓ คำ ๔ คำ ก็เจริญอาหาร กินได้เยอะ เพราะมีความสุขที่ได้กินกับลูก มีความสุขที่ลูกดูแล เอาใจใส่”<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    <O:p
    จากหนังสือเรื่อง “พระมหากษัตริย์ยอดกตัญญู”<O:p</O:p
    โดย พ.อ. (พิเศษ) ทองคำ ศรีโยธิน<O:p</O:p

    <O:p</O:p


    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    ที่มา<O:p</O:p
    ข้อมูลจาก : หนังสือ ๙ ย่างตามรอยเท้าพ่อ
    ภาพประกอบ : หนังสือ ๙ ย่างตามรอยเท้าพ่อ
    สนับสนุนโดย : [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD height=20>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</TD></TR><TR><TD bgColor=#990000 height=3></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left>[​IMG] 9 ย่างตามรอยเท้าพ่อ</TD></TR><TR><TD align=left>[​IMG] ๙ ย่างตามรอยเท้าพ่อ ในโครงการฝนหลวง หรือฝนทียม</TD></TR><TR><TD align=left>[​IMG] ๙ ย่างตามรอยเท้าพ่อ การนำหญ้าแฝกมาใช้ประโยชน์</TD></TR><TR><TD align=left>[​IMG] ๙ ย่างตามรอยเท้าพ่อ พระอัจฉริยภาพด้านการพัฒนาพันธุ์ข้าว</TD></TR><TR><TD align=left>[​IMG] ๙ ย่างตามรอยเท้าพ่อ พระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ (4)</TD></TR><TR><TD align=left>[​IMG] ๙ ย่างตามรอยเท้าพ่อ พระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ (3)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาเก็บรูปเอนิเมชั่นครับ

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาเก็บรูปเอนิเมชั่นครับ

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาเก็บรูปเอนิเมชั่นครับ

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ผมมาคุยให้ฟัง เรื่องของหนังสือ ปู่เล่าให้ฟัง เล่ม 2
    ผมเดาว่า ท่านอาจารย์ประถม ท่านน่าจะนำเรื่องนี้มามาลงในหนังสือเล่มนี้ด้วย แต่ยังไม่รู้ว่า ผมเดาถูกหรือผิด แต่จะมาลงเป็นตัวอย่างสักเล็กน้อยครับ


    กรรมวิธีการเก็บตัวยาใบไม้รู้นอน ๗ สิ่ง

    เล่าโดย ปรัศนี ประชากร
    (ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร)<O:p</O:p


    .....................ผู้เขียนเองศึกษาวิชาอิธะเจแฝดหรือปถมังอิธะเจลบต่อจากอิธะเจขาดตัว ............... เรียกว่าผงอ่อนใจรัก สร้างพระปิดตาบินเดี่ยวคุณภาพสูงเยี่ยมเท่าหลวงพ่อแก้ว วัดเคลือวัลย์ สมัยโบราณ พญามารได้กลั่นแกล้งจนล้มป่วยอาการขั้นปางตายมาแล้ว บังเกิดความเบื่อหน่ายแบ่งปันผงให้หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้งไปบ้าง ที่เหลือถวายเจ้าคุณวรพรต ปัญญาจารย์ วัดป่าอรัญญิกาวาส และท่านเจ้าคุณได้ถวายล้นเกล้ารัชกาลองค์ปัจจุบันนำไปสร้างพระสมเด็จจิตรลดาหมดไปแล้ว...................................

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผมมีคำถามมาถามทุกท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งกันอีกแล้วครับ
    <O:p</O:p
    เริ่มตอบปัญหาได้ตั้งแต่บัดนี้( 22 มิถุนายน 2550) จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2550 เวลา 18.00 น.(เวลาในเว็บพลังจิต)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    โดยผมมีลูกอม(เป็นชานหมากพระอาจารย์รูปหนึ่ง ผสมกับผงต่างๆ เช่นผงอ่อนใจรักที่ท่านอาจารย์ประถม ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรัชกาลที่ 9 ,ผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ และผงอื่นๆอีกหลายๆอย่าง) เป็นรางวัลที่ 1 ส่วนรางวัลที่ 2
     

แชร์หน้านี้

Loading...