พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03col03140750&day=2007/07/14&sectionid=0303

วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6071​

การควบคุมอารมณ์

คอลัมน์ สดจากจิตวิทยา

นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต



ในสังคมปัจจุบันนี้ผู้คนดูเหมือนจะมีอารมณ์ร้อน หงุดหงิดง่าย และไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพนัก จึงมักส่งผลให้เกิดความรุนแรงและเรื่องราวต่างๆ ตามมามากมายเพียงเพราะความใจร้อนและไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้

แนวทางการควบคุมอารมณ์นั้นเราสามารถทำได้โดย

- เรียนรู้และทำความรู้จักกับอารมณ์ของตัวเราว่าขณะนี้เรามีอารมณ์เช่นไร กำลังโกรธ เศร้า ทุกข์ หรือสับสน เพื่อให้เรารู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเองและหาหนทางในการจัดการกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที

- เมื่อรับรู้ว่าตนเองเกิดอารมณ์โกรธ ให้พยายามนับ 1-10 ช้าๆ หรืออาจนับถึง 100 จนกว่าจะรู้สึกว่าจิตใจสงบขึ้น เพื่อบรรเทาอารมณ์โกรธในขณะนั้นให้เบาบางลงและช่วยให้เรามีสติขึ้นมาในขณะนั้น

- หากกำลังโกรธหากสามารถเลี่ยงออกจากสถานการณ์เฉพาะหน้านั้นได้ให้เดินเลี่ยงออกไปเพื่อสงบสติอารมณ์ ให้อารมณ์เบาบางลงแล้วจึงคิดหาแนวทางจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น

- พยายามฝึกสติให้รู้เท่าทันอารมณ์ อย่าให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล เพราะการมีสติจะช่วยให้เรามีเวลาคิดหาเหตุผลและข้อเสียของการแสดงอารมณ์ดังกล่าวและทำให้เรามีจิตใจที่สงบขึ้น

- หาหนทางในการระบายอารมณ์ให้เหมาะสม เช่น ออกกำลังกายที่ใช้พลังงาน เช่น เตะบอล ตีปิงปอง เล่นเทนนิส ชกมวย หรือทำงานที่ได้ออกแรง เช่น ขุดดิน ยกของจัดบ้าน เป็นต้น เพื่อให้เราสามารถระบายอารมณ์ที่คั่งค้างและพลังงานส่วนเกินของร่างกายออกไป

การควบคุมอารมณ์มิใช่การเก็บกดอารมณ์ แต่เป็นการแสดงอารมณ์หรือการหาหนทางในการระบายอารมณ์ออกมาอย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดเรื่องร้ายแรงหรือปัญหาหนักขึ้นในภายหลัง ทั้งยังช่วยให้เรามีสติ มีสมาธิที่ดีอีกด้วย

 

http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03bud04140750&day=2007/07/14&sectionid=0307

วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6071​

ดุจดวงประทีป

คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด



ชีวิตของคนเราที่เป็นไปในปัจจุบันนี้ มักมีปัญหาให้คิดกันอยู่เสมอมาทุกยุคทุกสมัย สมัยใดมีผู้รู้แจ้งเห็นจริงเกิดขึ้น เป็นเหตุให้ชาวโลกดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกต้องได้ การเกิดขึ้นของท่านผู้รู้เหล่านี้จึงเป็นเหมือนหนึ่งดวงประทีปที่ส่องสว่างโชติช่วงขึ้นในท่ามกลางความมืดมน ทำให้ชาวโลกได้รับรู้เห็นสิ่งที่ควรรู้ควรเห็น

ก่อนที่พระพุทธศาสนาจะเกิดขึ้นมาในโลก ชาวโลกได้พากันดิ้นรนแสวงหาทางที่จะนำชีวิตไปสู่ความพ้นทุกข์กันแล้ว แต่การแสวงหาทางพ้นทุกข์ในสมัยก่อนพุทธกาลนั้น ต่างพากันปฏิบัติไปตามความเห็นของตนว่าถูกต้องแล้ว ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรแน่นอนเท่าใดนัก เจ้าสำนักทั้งหลายในสมัยนั้นจึงเกิดขึ้นมากมาย ตั้งตัวเป็นอาจารย์กัน ต่างสอนหลักการอันเป็นความเห็นส่วนตัวแก่ชาวโลก

บางอาจารย์สอนว่า ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายที่เกิดมาในโลกนี้ เมื่อเสียชีวิตไปแล้วก็สูญสิ้นไป ไม่มีการเกิดอีก เพราะฉะนั้น จึงไม่ต้องไปสร้างกรรมดีให้เสียเวลา เพราะผลแห่งกรรมดีก็ไม่มี ผลแห่งความชั่วก็ไม่มี การบำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ก็ไม่มี มีความรู้สึกนึกคิดอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ไม่ต้องเกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น

ชีวิตของเราที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้จึงควรแสวงหาความสุขใส่ตัวให้เต็มที่ ใครจะเดือดร้อนก็ช่าง ไม่สนใจ เพราะเกิดมาเพียงชาติเดียวเท่านั้น ตายไปแล้วก็สูญไปไม่เกิดอีก นรกสวรรค์ไม่มี เป็นเรื่องเท็จทั้งนั้น คนที่เชื่อในลัทธิเหล่านี้จึงหมดความเกรงกลัวต่อบาป หมดความละอายต่อการกระทำความชั่ว

บางอาจารย์สอนว่า การกระทำความดี-ชั่ว เมื่อทำแล้วสักแต่ว่าทำเท่านั้น ไม่มีผลใดๆ

บางอาจารย์สอนว่า คนเราจะดีหรือชั่วก็เป็นเอง จิตจะบริสุทธิ์ได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องไปฝึกหัดปฏิบัติให้เสียเวลา การนั่งภาวนาเพื่อกำจัดกิเลสออกจากจิตถือว่าไม่มีประโยชน์อะไร

บางอาจารย์สอนว่า คนเราจะดีหรือชั่วอยู่ที่อิทธิพลของดวงชะตา แล้วแต่ดวงดาวที่โคจรไปมาในจักรราศี ถ้าดวงดาวโคจรเข้าสู่ราศีที่ไม่ดี ถึงจะทำดีมากเพียงใด ไม่สามารถประสบผลดีได้ ถ้าดวงดาวโคจรสู่ราศีที่ดีแล้ว ถึงจะทำชั่ว ถือว่าไม่เป็นไร ดวงช่วยไว้ได้

บางอาจารย์สอนว่า ชีวิตของสรรพสัตว์ พระพรหมสร้างมาทั้งนั้น คนเราจะดีหรือชั่วขึ้นอยู่กับพระพรหม หรือพระเจ้าเป็นผู้ลิขิต เมื่อเราประสบความทุกข์ ต้องก้มหน้าเดินไปบนเส้นทางชีวิตที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานนั้น ต้องยอมรับเอาความทุกข์ด้วยความภักดี ไม่คิดแก้ไขให้ดีขึ้นได้

พระพุทธศาสนาเกิดขึ้นท่ามกลางเจ้าสำนักครูอาจารย์ทั้งหลาย พระพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้อริยสัจธรรม ทรงเป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ฝึกบุรุษที่ควรฝึกได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ทรงจำแนกเปิดเผยธรรมทุกอย่าง ทั้งที่เป็นส่วนดี ควรปฏิบัติตาม ทั้งที่เป็นส่วนไม่ดี ควรงดเว้น ทรงสอนให้ชาวโลกได้ทราบถึงกฎแห่งความเป็นจริงว่า ไม่มีผู้ใดสร้างขึ้น

แต่กระบวนการของชีวิตที่เป็นไปตามกฎแห่งกรรม

 

ขอโมทนากับข้อความของคุณกวง ครับ
(verygood)

 

พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=42643&NewsType=2&Template=1


วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 เวลา 11:06 น.

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

มีเงินนับว่าเป็นน้องมีทองว่าเป็นพี่ ถ้าน้องมีเงินมากก็สนิทมาก น้องมีเงินน้อยก็สนิทน้อย พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท เหล่านี้คือ คำพูดที่ได้ยินกันอยู่ในสังคมไทย ซึ่งมีความหมายแตกต่างกันตามวันเวลาและโอกาส แต่อย่างน้อยก็ให้รู้ว่าเงินเป็นแร่โลหะที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนกันเป็นเวลานานก่อนจะมีธนบัตรอย่างจีนและฝรั่ง มาตราเงินพดด้วงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชจึงเป็นมาตราที่เป็นมาตรฐานสากลเพราะในยุคนั้นมีทั้งฝรั่ง จีน แขก และชนกลุ่มน้อยใช้กันโดย ทั่วถึงกัน โดยกำหนด
๑ ชั่ง มี ๒๐ ตำลึง ๑ ตำลึง มี ๔ บาท
๑ บาท มี ๔ สลึง ๑ สลึง มี ๒ เฟื้อง
๑ เฟื้อง มี ๔ ไพ ๑ ไพ มี ๒๐๐ เบี้ย

มีผู้อธิบายว่าเงินพดด้วงนั้นหมายถึงเงินแท้ ๙๙.๐๐ เปอร์เซ็นต์ หรือน้อยกว่านั้น คำว่า พดนั้นจะแปลงว่า “งอ” ก็ได้ ส่วนด้วงนั้นเป็นตัวหนอนที่จะกลายเป็นด้วง จำพวกด้วงมะพร้าว ด้วงสาคู ทำนองนั้น มาตรฐานให้เงินที่มีน้ำหนัก ๑ บาท มีน้ำหนัก ๑๕ กรัม มากหรือน้อยเล็กน้อย การทำเงินนั้นมีทั้งเอกชนทำขึ้นเป็นก้อนแร่เงินหรือในรูปของรัฐบาลทำแต่ในระยะหลังก็มีรัฐบาลของนครรัฐทำกันบ้างพวกเงินฝ่ายเหนือเป็นเงินจำพวกเงิน ขาคีม เมืองเชียงแสน เมืองน่าน เป็นต้น

แต่เงินของพระนครศรีอยุธยาเป็นเงินพดด้วงอย่างเดียว ส่วนเงินย่อยใช้เบี้ยหอยจักจั่นซึ่งมีอยู่หลากหลายชนิด โดยกำหนดว่า ๘๐๐ เบี้ยเท่ากับเงิน ๑ เฟื้อง คำว่าเบี้ยใต้ฐานร้าน ซึ่งอาจจะตรงกับพวกหัวคะแนนหรือพวกรับจ้างเรียกร้องความเป็นธรรมแล้วรับเงินมาก็ถือได้ว่าเป็นพวกเก็บเบี้ยใต้ถุนร้านประเภทหนึ่งหรือหมายถึงบนร้านเขาทำกิจกรรมธุรกรรมทางธุรกิจขนาดใหญ่ส่วนตัวก็ก้มหน้าก้มตาเก็บเบี้ยใต้ถุนร้านทำนองนั้นเงินเหล่านี้ก็เป็นเพียงเงินดอกเบี้ยชั้นที่ ๙๙ จาก ๑๐๐ ธนาคารเท่านั้นเอง ซึ่งก็นับว่าผู้เก็บเบี้ยใต้ถุนร้านเป็นผู้ที่ฉลาดในระดับหนึ่งเท่านั้นเอง เพราะเบี้ยเลี้ยงนั้นก็เป็นผลตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจจะเรียกได้ว่าเก็บเบี้ยใต้ถุนร้านก็น่าจะไม่ผิด ถ้าจะเปรียบเทียบกับผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของชาติบ้านเมืองที่ต้องสูญเสียไปในเชิงความศรัทธาความเชื่อถือของนานาประเทศก็เคยได้กราบเรียนมาแล้วว่า “ต้องกำจัดจุดอ่อนที่ต้นเหตุเรื่องทุกอย่างก็จะสวย” ถ้าแก้ปลายเหตุก็ต้องคงเหมือนต้นไม้ ตัดกิ่งก็งอกก้าน ตัดก้านก็งอกช่อจึงจำเป็นต้องถอนรากถอนโคนแล้วนำไปทำถ่านหุงข้าวให้เป็นไฟหมดเชื้อ เกลือหมดความเค็มไปในที่สุด

 

จากจดหมายเหตุและภาพวาดลายเส้นของ บาทหลวงเดอ ลาลูแบร์ คนยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔แห่งฝรั่งเศส จดไว้ในจดหมายเหตุเงินพดด้วง สมัยอยุธยา ขณะนั้น (พ.ศ. ๒๑๙๙-๒๒๓๑) ลักษณะตราประทับบนเงินพดด้วงมี ตราดอกบัวและตราธรรมจักร ซึ่งต่อมาก็มีผู้พบโดยทางการจากการขุดดินทางโบราณคดีจากชาวบ้านขุดได้งมได้จากแหล่งโบราณคดีต่าง ๆ มากมาย มีตราลักษณะแตกต่างกันแต่ที่สำคัญการตัดงอของเงินพดด้วงต้องนำแร่เงินมาถลุงให้เป็นแท่งหรือเป็นเส้นแล้วตัดด้วยขวาน มีดและสิ่วและอื่น ๆ เพื่อนำมาซึ่งให้ได้น้ำหนักที่ต้องการ คือ ๑ บาท สองสลึง สลึงเฟื้อง รวบรวมไว้ในฝาหอยแครง เพื่อไม่ให้กระจัดกระจาย จากนั้นก็เข้าเบ้าหลอมจนละลายเข้ากันดีแล้วเทออกบนแผ่นไม้สักทองก็จะได้ก้อนเงินเป็นรูปไข่รีแบน ๆ จากนั้นต้องนำมาใส่ในแม่พิมพ์หลุมบังคับที่ทำด้วยแท่นบนทั่ง เหล็ก เหลี่ยม แล้วสกัดด้วยสิ่วเล็กให้งอพอดีกับตรงกลางของเงินนั้น คนสกัดก็ต้องสกัดให้ได้กึ่งกลางของก้อนเงินแล้วใช้คีมปากยาวคีบเพื่อทุบอีก
๒ ด้านให้เท่ากัน เรียกว่า ค้อนที่หนึ่งและค้อนที่สอง จากนั้นก็ตอกเม็ดข้าวสารเป็นเครื่องหมายว่าขั้นตอนนี้เสร็จลงด้วยการขึ้นรูปเงินพดด้วงแล้วแต่ก็ยังเป็นเงินดิบอยู่นั่นเอง จึงต้องประทับตราสำคัญอย่างน้อยหรือตรามาตรฐาน ๒ ตรา คือ ตราประจำแผ่นดิน (STAMP) และ ตราประจำรัชกาลอีกตรา เพื่อเป็นการรับรองซึ่งมักเป็นตรามงคลเกี่ยวกับศาสนาและสัญญาอื่น ๆ อันเป็นมงคลซึ่งมีผู้พยายามศึกษาให้เห็นลักษณะของตราไว้หลายท่าน ตราดังกล่าวคือ ตราสังข์ทักขิณาวัฏ ตราจักร ตราฝักบัว หรือตรากลุ่มดาวอันมีพระอาทิตย์เป็นดวงใหญ่ล้อมด้วยดวงดาวเล็ก ๆ ซึ่งตราเหล่านี้มีมากแบบหลายตราแตกต่างกัน ในรายละเอียดบ้างเล็กน้อยโดยรอบลักษณะของตราประทับจะเป็นแท่งรับเหล็กยาวประมาณ ๕ นิ้ว ปลายแท่งลิ่มเหล็กนั้นเป็นเหล็กกล้าจะมีลักษณะเป็นตรากลมกับตราเป็นรูปหยดน้ำภายในมีรายละเอียด เป็นเครื่องหมายสัญลักษณ์ประจำแผ่นดินเวลาตีหรือประทับก็มักใช้กระดูกหน้าแข้งช้างเป็นหมอนหรือทั่งขุดเป็นหลุมแล้วนำเงินที่ขึ้นรูปแล้วตีประทับตรา ๑ ครั้ง ซึ่งตราเช่นนี้จะเห็นได้จากลายประดับมุกบนเจียดส่งพระราชสาส์นของ พระเจ้ากรุงธนบุรี (พ.ศ. ๒๓๑๐- ๒๓๒๕) ทำเป็นพุ่มข้าวบิณฑ์ ขนนกหรือก้านดอกบัว ซึ่งรูปทรงของดอกบัวนั้นอาจจะหมายถึงดอกไม้ชั้นสูง มีความเชื่อตั้งแต่อียิปต์ จีน อินเดีย ซึ่งภาษาสันสกฤตเรียกว่า “ปัทม” และ “อุบล” ดอกบัวทุกชนิดในพุทธศาสนาจัดเป็นดอกไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์

ในพระพุทธศาสนาก็มีการเปรียบสติปัญญาของมนุษย์ เหมือนดอกบัว ๔ เหล่า คือ ดอกบัวที่พ้นน้ำ ปริ่มอยู่กับผิวน้ำ ดอกบัวใต้น้ำและที่ติดอยู่กับโคลนตมย่อมมีโอกาสที่จะเป็นอาหารของปลาและเต่า ดอกบัวยังเป็นดอกไม้ในความเชื่อของลัทธิเต๋าและถือเป็นสัญลักษณ์ของเซียนซือฮ่อเซียนกงอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีบทสวดยอด
พระคาถา มหามนต์ของทิเบตมักจะใช้คาถา “โอมมานิปัทเมฮัม” ซึ่งแปลว่า “โอ้เทพเจ้าแห่งดอกบัว” อันเป็นการกล่าวบูชาพระโพธิสัตว์ปัทมปาณิ หรืออ่านออกเป็นความหมายว่า โปรดให้จิตใจของข้าฯ เหมือนกับดวงแก้วที่สดใสก่อนที่เข้าไปสู่สถานที่อันวิเวกสงบสุขในทะเลสาบก่อนเข้าสู่นิพพาน แม้นในศาสนาพราหมณ์ก็ยังบำเพ็ญจนเกิดดอกบัวผุดขึ้นจากพระนาภี (สะดือ) ของพระนารายณ์ซึ่งลอยพระองค์อยู่ในเกษียรสมุทร (ทะเลน้ำนม)

เรื่องของตราประทับจะเด่นชัดมากก็สมัยรัตนโกสินทร์นี่เอง คือ ตราประจำรัชกาลจะใช้ตราอุณาโลม (อุหรือโอม) ตราครุฑ ตราปราสาท ตรามหาพิชัยมงกุฎ หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นใช้เงินเหรียญกษาปณ์ผลิตจากโรงกษาปณ์แทนโดยสั่งเครื่องจักรประเทศอังกฤษซึ่งตอนนั้นทั่วโลกมีธุระติดต่อกันอย่างมากมายด้วยเริ่มมีเรือกลไฟแทนเรือใบที่ต้องอาศัยธรรมชาติจากท้องฟ้า ดวงดาวและกระแสลมเป็นปัจจัยสำคัญ เมื่อความเจริญงอกงามแตกและดังเป็นพลุ เงินตราจึงต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วยเงินพดด้วงตราสุดท้ายที่ทรงโปรดเกล้าฯ ผลิตขึ้นก็คือ เงินพดด้วง ๘๐ บาท ๒๐ บาท ๑๐ บาท ๔ บาท ๒ บาทเป็นตราช่อดอกรำเพยตามพระราชประสงค์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชชนนี ซึ่งมีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้ารำเพย หลานตาในสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวนั่นเอง

เงินพดด้วงรุ่นสุดท้ายของเมืองไทยนั้นผลิตเพื่อเป็นที่ระลึกมากกว่าใช้จริงคือ เงินพดด้วง พ.ศ. ๒๔๐๒ น้ำหนักหนึ่งชั่ง (๘๐ บาท) หนึ่งตำลึง และกึ่งตำลึงโดยใช้ตราจักร ๗ กลีบกับตรามงกุฎ เลิกใช้ พ.ศ. ๒๔๔๗ จึงเป็นอันจบเรื่องเงินพดด้วงหรือเงินกลมที่ใช้กันสืบเนื่องยาวนานและมีเอกลักษณ์พิเศษไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนเพียงเท่านี้กับชุดหนึ่งชั่ง หนึ่งตำลึง กึ่งตำลึง ตราจักร และช่อดอกรำเพย ออกในเวลาใกล้เคียงกัน

เรื่องการใช้เงินพดด้วงนี้ยังมีกล่าวไว้ โดยถ้ามีชื่อรุ่นสุนทรภู่ ชื่อนายมีเป็นมหาดเล็กหน้าที่เก็บอากรเดินตลาด ชื่อราชทินนามว่า หมื่นพรหมสมพัตสร เขียนผลงานไว้ในนิราศสุพรรณ ว่า

ไม่เคยเป็นข้าบ่าวพระยา

เป็นแต่ข้าแผ่นดินเหมือนริ้นยุง

ได้อาศัยในแผ่นดินทำกินคล่อง

มีเงินทองเฟื้องสลึงไม่ถึงถัง

ถึงมีมากมั่งคั่งตั้งกระบุง

ทุกถุงเข้าไปกองท้องพระคลัง

จะไปทำสมพัตสรอากรตลาด

ถ้าไม่ขาดทุนถวายต่อภายหลัง

ขอพระเดชพระคุณบุญประทัง

ให้ได้ดังดวงจิตที่คิดปอง.......

สรุปเงินพดด้วงมีขนาดแตกต่างกันขึ้นอยู่กับขนาดน้ำหนักและลักษณะการใช้เช่นที่กล่าวไว้ในนิราศสุพรรณ เฟื้อง สลึง ถัง กระบุง ซึ่งการแบ่งขนาดของเงินในสมัยอยุธยาได้กล่าวว่ามี ๖ ขนาด คือ บาท กึ่งบาท สลึง เฟื้อง สองไพ และไพ แต่ที่รู้จักกันแพร่หลาย คือ บาท สลึง เฟื้อง และ สองไพ เงินย่อยใช้เบี้ยหอยจักจั่นแทน การหมุนเวียนของเงินในตลาด
จึงจำกัดอยู่ในวงการค้าระหว่างพระคลังสินค้าและบริษัทต่างชาติ ส่วนการจับจ่ายใช้สอยของราษฎรนั้น การใช้เงินอยู่ในขอบเขตจำกัด จึงนิยมใช้กันเพียง สลึง เฟื้อง และเบี้ย เท่านั้น จึงมีคำพูดเสมอว่า พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง ดังนี้เป็นต้น.

ภุชชงค์ จันทวิช​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="VERTICAL-ALIGN: top; TEXT-ALIGN: left"><TABLE id=Table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=message-bold>คอลัมน์ย้อนหลัง</TD></TR><TR><TD><TABLE id=ctl00_ContentPlaceHolder1_ctl00_Popup_news_15_oldcolumn1_dlsOColumn style="WIDTH: 100%; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">‘ในจานมีปลา ในนามีข้าว’
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">‘ตู้พระไตรปิฏกลายรดน้ำ’ หนึ่งในสยาม
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">คณฑี-พิธีกรรม
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ป.ปืนใหญ่
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ต.โสภาเดินหน้า ฆ.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">กลองเก่าเล่าความหลัง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">สิบลายร้อยยี่สิบปีของดีลายคราม
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">สุกรนั้นไซร้มิใช่หมูธรรมดา
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">กว่าจะเป็นเหรียญ ๆ เหรียญ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (ตามที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเป็นผู้ที่ค้นคว้ามา) ผมเปิดให้จองแล้วครับ โดยจองเล่มละ 200 บาทและค่าจัดส่งเล่มละ 50 บาท(โดยหากค่าจัดส่งมากกว่านี้ ผมจะจ่ายให้เองครับแต่หากน้อยกว่านี้ ผมจะนำไปเป็นค่าพิมพ์หนังสือครับ) และกรุณาระบุด้วยว่า จองกี่เล่ม โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
<O</O
<O</O
1.ต้องเป็นผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเท่านั้น<O</O

2.ผมขอสงวนสิทธิ์ในการรับจองหรือไม่รับจอง ถึงแม้ว่าจะได้มาร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งแล้วก็ตาม และผมไม่แจ้งเหตุผลให้ทราบนะครับ<O</O

3.เงินค่าจองหนังสือ ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้ทราบทาง PM อีกครั้งเมื่อผมรับจองแล้ว
บัญชีที่จะให้โอนเงินค่าหนังสือนั้น เป็นบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมเองไม่สามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งได้เลย <O</O

4.เงินในส่วนต่างนั้น ผมจะนำเงินในส่วนนี้นำไปพิมพ์หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด<O</O
<O</O

ผมเริ่มให้จองตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2550 ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2550 เวลา 18.00 น. ครับ


รูปเล่มนั้น ต้องยอมรับว่าสวยงามครับ อีกทั้งมีรูปพระพิมพ์อีกพอสมควร ทางคณะผู้จัดทำ จะทำให้ดีที่สุด เพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่พระองค์ได้มีความเมตตาที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ และอยู่ดูแลพระศาสนาไปจนครบ 5000 ปีตามพุทธดำรัสครับ

ผมจะนำรายชื่อทั้งหมด ลงไว้ท้ายเล่มด้วยนะครับ

ผมเองก็ใช้หนังสือเล่มนี้เป็นครูในการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและเป็นส่วนหนึ่งในการเสาะแสวงหาพระของหลวงปู่ และอีกเล่มก็คือหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าครับ

ส่วนหนังสือปู่เล่าให้ฟังที่กำลังจะตามมานั้น เป็นเรื่องราวที่ท่านอาจารย์ประถมได้เคยเขียนลงในหนังสือต่างๆ และนำมารวบรวมไว้ในเล่มเดียวกัน แต่จะมีการปรับปรุงเนื้อหาบางเรื่อง ที่ได้ความรู้ใหม่ มาเพิ่มเติมขึ้นอีก และจะแตกต่างจะหนังสือปู่เล่าให้ฟังเล่มแรกและไม่ซ้ำกับหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรครับ
<!-- / message --><!-- sig -->
สาเหตุที่ผมจะไม่รับจองหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
<O</O
<O</O
1.ผมไม่ต้องการให้หนังสือเล่มนี้ไปตกอยู่กับบุคคลที่จะนำไปหาผลประโยชน์(ไม่ว่ากรณีใดๆ)
<O</O
<O</O
2.ผมป้องกันในเรื่องของที่จะมีบุคคลที่นำข้อมูลไปทำพระปลอม เนื่องจากมีรูปสีค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าหากว่ามีการหลุดไปจริงๆ ผมถือว่าผมได้ทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุดแล้ว<O</O
<O</O

3.คณะผู้จัดทำทุกๆท่าน ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และแรงเงิน ที่จะทำเพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
<O</O
<O</O
4.ผมเองตามหาเรื่องหลวงปู่มาเป็นระยะเวลา 10 ปี ถึงได้เจอ ได้พบเรื่องราวของหลวงปู่และพระพิมพ์ของท่าน ผมมีความพยายามตามหามาตลอดเวลา และที่สำคัญเมื่อผมได้พบนั้น ผมได้พบหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1 พระองค์(หลวงปู่ท่านอยู่ในห้าองค์ แต่ผมไม่บอกว่าผมได้พบองค์ไหนครับ) และหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ด้วยตาเนื้อของผมเอง โดยมีพระสงฆ์ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ผมไม่น้อยกว่าสองรูปและฆารวาส 2 ท่านได้รับรองในเรื่องนี้ครับ<O</O
<O</O

5.มีวาสนาบารมีก็จะได้มีไว้ จะช้าหรือเร็วนั้นอีกเรื่องนึง แต่ถ้าไม่มีวาสนาบารมีทำอย่างไรก็จะไม่มีโอกาสมีไว้<O</O
<O</O

หมายเหตุ บุคคลใดๆก็ตามทำอะไรไว้ จะได้รับผลที่ตนเองได้ทำไว้เสมอ

สำหรับทุกๆท่านที่นับถือหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร มักโดนทดสอบจิตใจ ,กำลังใจอยู่โดยตลอด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือสติ และคำสอนของหลวงปู่ ที่จะเป็นสิ่งที่ช่วยประคับประคองให้ผ่านเหตุการณ์ต่างๆไปได้

สิ่งที่เป็นวัตถุมงคลอันล้ำค่าที่บรรพบุรุธเราได้พากเพียรสร้างขึ้น แต่ถูกคนในยุคหลังดูถูกดูหมิ่น แต่ก็อีกนั่นแหละ อย่างที่ลายเซ็นผม ผมได้บอกไว้ มีวาสนาบารมีก็ได้ไว้ ไม่มีวาสนาบารมีก็ไม่มีวันได้เจอของแท้ สิ่งที่ไม่ว่าใครๆได้กระทำอะไรไว้ ต้องได้รับผลของสิ่งที่ตนเองกระทำ ปลูกข้าวย่อมได้ข้าว ปลูกมะม่วงย่อมได้มะม่วง ไม่เคยมีใครสักคนที่ปลูกข้าวแล้วจะได้มะม่วงสักราย เช่นเดียวกันกับกรรม หากเราไม่รู้จริง ก็ไม่ควรที่จะไปดูถูกดูหมิ่น สิ่งที่เรารู้มิใช่ว่าจะรู้ไปทุกๆเรื่องเพราะว่าเราไม่ใช่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระองค์ท่านเป็นสัพพัญญู รู้ในทุกสิ่ง หรือเราไม่ใช่พระอรหันต์(ปฎิสัมภิทาญาณ) ที่เราสามารถมองกลับไปได้ในทุกๆเรื่อง

จากเหตุดังกล่าวมา ผมยิ่งมีความหวงแหนพระวังหน้าอีกทั้งหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรมากขึ้นไปอีก สำหรับการที่จะให้ผู้ที่สนใจสั่งจองหนังสือ ผมต้องพิจารณาให้มากขึ้นไปกว่านี้อีกมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ครับ

ผมลีมบอกอีกเรื่องที่สำคัญมากก็คือ การที่นำพาคนที่ไม่รู้เรื่อง ,ไม่ทราบเรื่องราวที่แท้จริง แล้วพาไปเข้าป่า เข้ารก เข้าพง หรือ ลงเหว โดยที่ให้ความรู้ที่ไม่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง นั้นก็เป็นกรรมหนัก ในชาตินี้และชาติต่อๆไป จะเป็นคนที่มีปัญหาทึบ อย่ารู้ตัวก็ต่อเมื่อสายเกินแก้แล้ว

ด้วยความปราถนาดีเสมอ

<O</O<!-- / message --><!-- sig -->

************************************************
฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿

รายละเอียดพระพิมพ์และวัตถุมงคล ที่มอบให้กับผู้ร่วมทำบุญในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ ( http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=68899 ) จะอยู่ในหน้าแรกของกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

ส่วนยอดคงเหลือ ผมจะแจ้งให้ทราบในกระทู้เป็นระยะครับ
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->

 

วันนี้ยินดี และดีใจมากครับที่ได้พบกับทุกท่าน
อ.ประถมท่านมีเมตตา และใจดี มากครับ แม้ผมเพิ่งพบท่านเป็นครั้งแรกได้สนทนากับท่าน เหมือนญาติผู้ใหญ่ที่สนิทมานานเลยครับ มีโอกาสคงได้พบกับทุกๆท่านอีก
ขอบคุณและโมทนาสาธุครับ
nongnooo...

 

เรียนคุณdrmetta

ผมจะดำเนินการจัดส่งพระพิมพ์ในในวันอังคารนะครับ

วันจันทร์จะขอเคลียร์เรื่องทุกๆท่านที่ร่วมทำบุญอีกครั้งว่ายังมีท่านใดบ้างที่ผมยังไม่ได้ส่งพระพิมพ์ให้ รวมทั้งท่านที่ตอบคำถามและผมยังไม่ได้จัดส่งพระพิมพ์ให้ครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

เรียนคุณsithiphong
ผมขอจอง หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ด้วย สาม เล่ม นะครับ
ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งและขอโมทนาสาธุด้วยครับ
drmetta

 

http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03p0160150750&day=2007/07/15&sectionid=0301

วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6072​

หลวงปู่สุภา กันตสีโล พระเกจิ5แผ่นดิน-112ปี

คอลัมน์ มงคลข่าวสด



"ถ้าเสียสัตย์ ก็เสียศีล เสียศีลแล้ว ธรรมก็ไม่บังเกิด"

"ฆ่าจิตของเราให้มันตาย อย่าให้มีโกรธ อย่าให้โลภ อย่าให้มีหลง"

ปาฐกถาธรรมอันสะท้อนถึงแก่นแท้แห่งพระพุทธศาสนา โดยพระมงคลวิสุทธิ์ หรือที่ชาวภูเก็ตหรือพุทธศาสนิกชนชาวไทยรู้จักกันดีในนามของ "หลวงปู่สุภา กันตสีโล" พระเถระเจ้าอาวาสที่มีอายุยืนที่สุดในโลก

ปัจจุบัน หลวงปู่สุภา สิริอายุ 112 พรรษา 92 เป็นเจ้าอาวาสวัดสีลสุภาราม หมู่ที่ 6 ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต

อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า สุภา วงศ์ภาคำ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 พุทธศักราช 2438 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ปีวอก ณ บ้านคำบ่อ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายพล และ นางสอ วงศ์ภาคำ

เมื่ออายุได้ 7 ขวบ ได้พบกับพระธุดงค์ที่มาปักกลดที่ใต้ต้นตะแบกใหญ่ท้ายหมู่บ้านคำบ่อ ได้คลานเข้าไปกราบบนตักพระธุดงค์รูปนั้น ได้ลูบศีรษะด้วยความเมตตาเอ็นดูพร้อมกับกล่าวว่า

"เด็กน้อยเอ๋ย ต่อไปเจ้าจักได้บวชเรียนในพระพุทธศาสนาบวชเมื่อใดแล้ว อย่าลืมไปเสาะหาหลวงพ่อให้จงได้ พบกันในวาระที่เจ้าได้ครองผ้าเหลืองเหมือนหลวงพ่อนี่แหละ"

2 ปีต่อมา จึงเข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร ด้วยการที่โยมบิดาได้นำตัวไปฝากพระอาจารย์สวน อบรมสั่งสอนอยู่หนึ่งปีเต็ม กระทั่ง พระอาจารย์สวนบอกกับหลวงปู่สุภาว่า "อย่างเณรมันต้องก้าวหน้ากว่านี้ ฉันจะพาไปเมืองอุบลไปเล่าเรียนต่อให้แตกฉาน อยู่กับฉันมันก็แค่นี้"

พ.ศ.2449 ได้รับการนำตัวลงจากบ้านคำบ่อมาฝากไว้ในสำนักเรียนของพระมหาหล้า แห่งวัดไพรใหญ่ จ.อุบลราชธานี โดยพระมหาหล้าได้ทดสอบความรู้เบื้องต้น พบว่า สามเณรสุภามีความรู้เบื้องต้นดีมาก

สามเณรสุภา ได้เล่าเรียนมูลกัจจายน์และวิปัสสนากัมมัฏฐาน ก่อนออกเดินทางไปที่วัดท่าอุเทน เนื่องจากได้ยินกิตติศัพท์ถึงพระภิกษุผู้เป็นพระสายวิปัสสนา ที่กำลังสร้างพระธาตุท่าอุเทน จ.นครพนม ว่าเป็นพระผู้มีบารมีธรรมอันน่าเคารพนับถือ

ครั้นสามเณรเข้าไปกราบนมัสการตรงหน้าของพระวิปัสสนาจารย์ ท่านกล่าวขึ้นว่า "บัดนี้ถึงเวลาที่เราได้พบกัน เด็กน้อยจำเราได้หรือไม่"

ภาพเด็กตัวน้อยที่คลานเข้าไปกราบพระธุดงด์ที่ปักกลดอยู่ใต้ต้นตะแบกใหญ่ กลับมาปรากฏชัดขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับเสียงของพระวิปัสสนาจารย์ที่กำลังสร้างพระธาตุท่าอุเทนพูดขึ้นว่า

"เราชื่อสีทัตต์ เณรมีนามใดกัน มาจากที่ใดต้องการอะไรจากเรา"

สามเณรสุภา กล่าวตอบด้วยความปีติว่า "กระผมนมัสการพระคุณอาจารย์ด้วยความปรารถนาจะได้รับการอบรมด้านวิปัสสนากรรมฐานตามแบบที่พระคุณอาจารย์ได้รับการถ่ายทอดมา กระผมเรียนมูลกัจจายน์ห้าเล่มสำเร็จแล้วขอรับ"

พระอาจารย์สีทัตต์หยั่งเชิงสามเณรน้อยเพื่อค้นหาตัวตนที่แท้จริงว่า "เณรเรียนมูลกัจจายน์มาแล้วไยไม่เรียนปริยัติธรรมต่อไป เพราะการเรียนปริยัติธรรม เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม และยังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ก้าวหน้าในตำแหน่งการปกครอง ส่วนประโยชน์ทางโลก เมื่อสึกออกไปแล้วสามารถเทียบวุฒิทำงานหรือรับราชการได้ตำแหน่งดี"

สามเณรสุภา กล่าวด้วยความมุ่งมั่นว่า "กระผมต้องการเพียงอย่างเดียว คือ ปฏิบัติทางจิต หรือวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อใช้ชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์ ขอเพียงพระอาจารย์รับเป็นศิษย์จะอยู่ในโอวาทสืบไป"

หลังจากทดสอบความตั้งใจจริง ทำให้พระอาจารย์สีทัตต์ รับสามเณรสุภาเป็นศิษย์และสอนอบรมกัมมัฏฐานให้

กระทั่ง อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีพระอาจารย์สีทัตต์ เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับฉายาว่า กันตสีโล

พศ.2463 พระสุภาได้ตัดสินใจออกธุดงด์ จึงเข้าไปกราบลาพระอาจารย์สีทัตต์

พระอาจารย์สีทัตต์ได้บอกกับศิษย์ ให้ไปพบกับพระครูวิมลคุณากร หรือหลวงปู่ศุข เกสโร แห่งวัดอู่ทอง ปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกสิณและวิชชาแปดประการมีอภิญญาจิตสูง

ท่านจึงเดินทางไปวัดปากคลองมะขามเฒ่า เพื่อนมัสการหลวงปู่ศุข เมื่อไปถึงเห็นพระภิกษุรูปร่างสันทัด ผอมเกร็ง แต่ผิวพรรณวรรณะผุดผ่องคล้ายทาด้วยขมิ้น แต่เมื่อเข้าไปใกล้จึงรู้ว่าไม่ใช่ขมิ้น แต่กลับเป็นแสงที่เรื่อเรืองอยู่บนผิว

หลวงปู่ศุขถามว่า ต้องการจะเรียนอะไรก็บอกมาเพราะท่านสีทัตต์ฝากฝังไว้แล้ว ท่านกลับตอบว่า ขอให้เป็นเรื่องที่พระอาจารย์จะเมตตาอบรมสั่งสอน ทำให้หลวงปู่ศุขพึงพอใจ

ทั้งนี้ หลวงปู่ศุขได้เมตตาถ่ายทอดวิชาให้ท่าน รวมทั้งคอยทำหน้าที่อุปัฏฐากหลวงปู่ศุข

ต่อมาในปี พ.ศ.2466 หลวงปู่ศุข มรณภาพลงระหว่างที่ท่านกำลังออกธุดงควัตรใหม่ เพื่อแสวงหาวิเวก โดยเดินทางขึ้นไปทางภาคเหนือข้ามชายแดนไปยังประเทศต่างๆ อาทิ พม่า อินเดีย จีน เป็นต้น

ครั้งหนึ่ง ได้มีโอกาสพบกับพระภิกษุอายุถึง 100 กว่าปี คือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งมีวิชาอาคมแขนงต่างๆ และเชี่ยวชาญด้านกสิณและฌานสมาบัติต่างๆ ซึ่งท่านได้สั่งสอนหลวงปู่สุภาถึงสามปีเต็ม

หลวงปู่สุภา เป็นผู้ชอบเล่าเรียนศึกษา ได้ยินว่าที่แห่งใด มีพระอาจารย์ผู้มีวิชาอาคมและวัตรปฏิบัติดี ท่านมักจะไปขอเล่าเรียนวิชาการ อาทิ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ, หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา, หลวงพ่อกบ วัดชนแดน, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เป็นต้น

หลวงปู่เสาะแสวงจนได้วิชาจากอาจารย์หลากหลายสำนัก รวมถึงไปขอเรียนวิชาปรอทสำเร็จจากหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค

เส้นทางธุดงค์จากภาคอีสาน เหนือ ใต้ กลาง ตะวันออก ตะวันตก ไม่มีดินแดนแห่งใดที่หลวงปู่สุภาไม่เคยธุงดงค์ไปเหยียบ ท่านท่องธุดงค์ไปแล้วแทบทุกตารางนิ้ว รวมไปถึงมาเลเซีย สิงคโปร์

อาจกล่าวได้ว่า ครึ่งชีวิตของหลวงปู่สุภา คือ การธุดงค์ ตลอดเวลาที่ธุดงค์ไปในประเทศไทย หลวงปู่สร้างแต่ความเจริญไว้เสมอ เช่น สร้างวัด สร้างศาลาการเปรียญ สร้างสำนักสงฆ์ ตามถิ่นทุรกันดารทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา

หลายครั้งที่มีผู้เหนี่ยวรั้งให้หยุดธุดงค์เพื่อเป็นเจ้าอาวาส จนเล่ากันว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาหลวงปู่สุภาได้พัฒนาสร้างวัดมาหลายสิบวัด แต่ไม่ยอมรับเป็นเจ้าอาวาส

ล่าสุด ได้มาสร้างวัดแห่งหนึ่ง และได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ว่า วัดสีลสุภาราม และหลวงปู่สุภายอมรับเป็นเจ้าอาวาสเป็นวัดแรกในชีวิต

หลวงปู่สุภา นับเป็นตัวอย่างของการปฏิบัติอยู่ในความเพียร ความวิริยะ อุตสาหะ ความมุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรม

แม้วัยล่วงเลยมากว่าหนึ่งศตวรรษ แต่หลวงปู่สุภา ไม่เคยย่อท้อในชีวิตของท่าน มีแต่คำว่าให้และสร้างทุกอย่างสำเร็จ

ด้วยเมตตาบารมีธรรมของท่าน

 

พระคำข้าวรุ่นปืนแตก ให้การสนับสนุนโดยคุณ woottipon นักบุญแห่งพยุหคีรี

ปิดประมูลวันที่ 15 กรกฎาคม 2550 (คืนนี้) เวลา 24.00 น.(ถือเวลา GMT+7 ของในเวปเป็นเกณฑ์ตัดสินครับ)



มอบพร้อมพระธาตุพระมหากัจจายนะ เกศาครูบาศรีวิชัย พระธาตุชานหมากหลวงพ่อฤาษี (ชานหมากกลายเป็นพระธาตุ) เกศาครูบาวงค์ ผงชานหมากครูบาวงศ์ พระธาตุพระสีวลี(ในถ้ำป่าไผ่)
คุณ woottipon มอบเพิ่มเติม
พระผงหลวงปู่วงศ์รุ่น 1 พิมพ์เล็ก ปี 15 ให้ 1 องค์
<LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>


สมเด็จชานหมาก บรรจุพระธาตุข้าวบิณฑ์ 1 องค์


สมเด็จอวตาล 84 พร้อมติดเส้นเกศาและพรมน้ำหมากของครูบาฯท่าน อีก 1 องค์


พระรอดชานหมากบรรจุพระธาตุข้าวบิณฑ์ 1 องค์


รูปหล่อลอยองค์หลวงพ่อฤาษีฯ เนื้อเงิน ของวัดถ้ำป่าไผ่ 1 องค์ (องค์เดียวนะครับ ไม่ใช่ทั้งหมดที่เห็น)
<LEGEND></LEGEND>


ผมได้ไปประมูลในนามของคณะ เพื่อช่วยเหลือเว็บพลังจิตในการปรับปรุงเซอร์เวอร์ต่างๆ ส่วนพระพิมพ์และวัตถุมงคลก็นำไปบรรจุในพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งครับ

รายนามของคณะที่ผมและคุณเพชรเป็นตัวแทนมีดังนี้ครับ

1.พี่แอ๊ว
2.คุณเพชร
3.พี่ตุ่น
4.คุณkaicp
5.คุณพ่อของน้องton344
6.sithiphong
7.คุณchaipat

ทำบุญกันสองต่อ โมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ

<TABLE class=tborder id=post621222 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 12:00 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #233 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_621222", true); </SCRIPT>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 12:03 AM
วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 12,535 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 14,335 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 64,522 ครั้ง ใน 9,067 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 7733



</TD><TD class=alt1 id=td_post_621222 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->พระคำข้าวรุ่นปืนแตก ให้การสนับสนุนโดยคุณ woottipon นักบุญแห่งพยุหคีรี

ปิดประมูลวันที่ 15 กรกฎาคม 2550 (คืนนี้) เวลา 24.00 น.(ถือเวลา GMT+7 ของในเวปเป็นเกณฑ์ตัดสินครับ)

ประมูลราคา 5,000 บาท
<!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post621221 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 11:59 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #232 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_621221", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 12:03 AM
วันที่สมัคร: Jul 2006
อายุ: 42 ปี
ข้อความ: 874 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 8,466 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 7,766 ครั้ง ใน 882 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 874



</TD><TD class=alt1 id=td_post_621221 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->พระคำข้าวรุ่นปืนแตก ให้การสนับสนุนโดยคุณ woottipon นักบุญแห่งพยุหคีรี

ปิดประมูลวันที่ 15 กรกฎาคม 2550 (คืนนี้) เวลา 24.00 น.(ถือเวลา GMT+7 ของในเวปเป็นเกณฑ์ตัดสินครับ)



มอบพร้อมพระธาตุพระมหากัจจายนะ เกศาครูบาศรีวิชัย พระธาตุชานหมากหลวงพ่อฤาษี (ชานหมากกลายเป็นพระธาตุ) เกศาครูบาวงค์ ผงชานหมากครูบาวงศ์ พระธาตุพระสีวลี(ในถ้ำป่าไผ่)
คุณ woottipon มอบเพิ่มเติม
พระผงหลวงปู่วงศ์รุ่น 1 พิมพ์เล็ก ปี 15 ให้ 1 องค์
<LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>


สมเด็จชานหมาก บรรจุพระธาตุข้าวบิณฑ์ 1 องค์


สมเด็จอวตาล 84 พร้อมติดเส้นเกศาและพรมน้ำหมากของครูบาฯท่าน อีก 1 องค์


พระรอดชานหมากบรรจุพระธาตุข้าวบิณฑ์ 1 องค์


รูปหล่อลอยองค์หลวงพ่อฤาษีฯ เนื้อเงิน ของวัดถ้ำป่าไผ่ 1 องค์ (องค์เดียวนะครับ ไม่ใช่ทั้งหมดที่เห็น)
<LEGEND></LEGEND>

4,700
<!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=threadslist cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2></TD><TD class=thead width="100%">คะแนน ชื่อกระทู้ / ผู้ตั้งกระทู้ </TD><TD class=thead noWrap align=middle width=150>ข้อความล่าสุด </TD><TD class=thead noWrap align=middle>คำตอบ </TD><TD class=thead noWrap align=middle>เปิดอ่าน </TD></TR></TBODY><!-- show threads --><TBODY id=threadbits_forum_15><TR><TD class=alt1 id=td_threadstatusicon_22445 style="CURSOR: hand"> </TD><TD class=alt2></TD><TD class=alt1 id=td_threadtitle_22445 title="พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ถ้าต้องการที่จะได้......................<O</O<O</Oแนะนำ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... (3 คน กำลังดูอยู่) ( 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... หน้าสุดท้าย)
sithiphong


</TD><TD class=alt2 title="จำนวนตอบ: 6,018, จำนวนอ่าน: 139,447">วันนี้ 12:14 AM

โดย sithiphong ​

</TD><TD class=alt1 align=middle>6,018</TD><TD class=alt2 align=middle>139,447</TD></TR><TR><TD class=alt1 id=td_threadstatusicon_83574> </TD><TD class=alt2></TD><TD class=alt1 id=td_threadtitle_83574 title="สืบเนื่องจากกระทู้นี้ครับ

ผู้ให้เช่าบูชามงคลวัตถุและอื่นๆ เจียดรายได้ช่วยบำรุงเวบด้วยดีไหมคะ (<a href=" target="_blank" href="http://www.palungjit.org" images multipage.gif? misc board www.palungjit.org http:> แนะนำ <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574" target=_blank>ช่วยกันเช่าพระของหลวงพ่อฤาษีฯรายได้ทั้งหมดมอบให้ทางเวปเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ (6 คน กำลังดูอยู่) ( <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574" target=_blank>1 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=2" target=_blank>2 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=3" target=_blank>3 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=4" target=_blank>4 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=5" target=_blank>5 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=6" target=_blank>6 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=7" target=_blank>7 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=8" target=_blank>8 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=9" target=_blank>9 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=10" target=_blank>10 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=11" target=_blank>11 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=12" target=_blank>12 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=13" target=_blank>13 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=14" target=_blank>14 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=15" target=_blank>15 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=16" target=_blank>16 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=17" target=_blank>17 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=18" target=_blank>18 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=19" target=_blank>19 <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=20" target=_blank>20 ... <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=24" target=_blank>หน้าสุดท้าย)
Pattana


</TD><TD class=alt2 title="จำนวนตอบ: 232, จำนวนอ่าน: 7,296">วันนี้ 12:00 AM

โดย <A href="http://www.palungjit.org/board/member.php?find=lastposter&t=83574" target=_blank>sithiphong <A href="http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=621222#post621222" target=_blank> ​

</TD><TD class=alt1 align=middle><A href="http://www.palungjit.org/board/#" target=_blank>232</TD><TD class=alt2 align=middle>7,296</TD></TR></TBODY></TABLE>


เวลาที่เข้าประมูล พอดีเป๊เลย พระพิมพ์ชุดนี้ก็คงได้ไปบรรจุในพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง เพื่อให้คนทั้งหลายได้มีโอกาศกราบไหว้บูชากัน ต้องขอขอบคุณ คุณwoottiponเป็นอย่างสูงด้วยครับ

**************************************************

<TABLE class=tborder id=post621247 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 12:25 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #<A id=postcount621247 href="http://www.palungjit.org/board/showpost.php?p=621247&postcount=234" target=new rel=nofollow name=234>234 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><A class=bigusername href="http://www.palungjit.org/board/member.php?u=150423">วิเศษชัยชาญ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_621247", true); </SCRIPT>
สมาชิก

<A href="http://www.palungjit.org/board/member.php?u=150423">

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 12:29 AM
วันที่สมัคร: Jul 2007
อายุ: 35 ปี
ข้อความ: 56 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 638 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 225 ครั้ง ใน 48 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 29


</TD><TD class=alt1 id=td_post_621247 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->คุณพัฒนาครับ
การประมูลพระคำข้าวรุ่นปืนแตกพร้อมของสมนาคุณจากคุณ woottipongประมูลกันดุเดือดมาก และรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะ 2 ราย(#232และ#233)ดูเหมือนว่ามีการเตี๊ยมการประมูล เผื่อว่ารายใดรายหนึ่งพลาดเกินเวลาอีกรายก็อยู่ในเวลาตามกติกา ผู้อื่นก็ไม่สามารถแทรกเข้าได้ เพราะฉะนั้นผมขอประท้วงการประมูลนี้ครับ เพราะเป็นการฮั้วการประมูล เป็นใครมาดูก็รู้ครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจมากครับ จึงขอเสนอให้ล้มการประมูลนี้ครับเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่ร่วมประมูลรายการนี้ เพราะเป็นการส่อเจตนาที่ไม่เป็นธรรม
</TD></TR></TBODY></TABLE>

.

 

<TABLE class=tborder id=post615046 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">09-07-2007, 05:19 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#96 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>woottipon<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_615046", true); </SCRIPT>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 09:29 PM
วันที่สมัคร: Sep 2005
สถานที่: สทช.8 นครสวรรค์
ข้อความ: 2,466 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 5,177 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 15,713 ครั้ง ใน 2,585 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 1838




</TD><TD class=alt1 id=td_post_615046 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ร่วมประมูล พระหลวงพ่อรุ่นปืนแตก เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆของเวปพลังจิตครับ เริ่มต้นด้วย ราคา 99 บาท ขั้นต่ำ ครั้งละ 50 บาทครับ ปิดประมูล วันที่ 15 กรกฎาคม 2550 เวลา 24.00 น. (มอบพร้อมพระธาตุพระมหากัจจายนะ เกศาครูบาศรีวิชัย พระธาตุชานหมากหลวงพ่อฤาษี (ชานหมากกลายเป็นพระธาตุ) เกศาครูบาวงค์ ผงชานหมากครูบาวงศ์ พระธาตุพระสีวลี(ในถ้ำป่าไผ่) ...........
<!-- / message --><!-- attachments -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

</FIELDSET>

</TD></TR></TBODY></TABLE>


<TABLE class=tborder id=post615165 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">09-07-2007, 07:18 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #100 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>woottipon<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_615165", true); </SCRIPT>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 09:29 PM
วันที่สมัคร: Sep 2005
สถานที่: สทช.8 นครสวรรค์
ข้อความ: 2,466 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 5,177 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 15,713 ครั้ง ใน 2,585 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 1838



</TD><TD class=alt1 id=td_post_615165 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->พระธาตุพระมหากัจจายยนะ พระเกศาหลวงปู่ครูบาศรีวิชัย เกศาหลวงปู่ครูบาวงค์ ผงชานหมากครูบาวงศ์ ผมได้รับมาจากพระและเณรที่วัดพระบาทห้วยต้มครับ สำหรับชานหมากกลายเป็นพระธาตุรับมาจากหลวงพ่อมหาสิงห์ ที่หลวงพี่ชูชาติ รับจากหลวงพ่อฤาษีโดยตรงบูชามานานพึ่งมาเปิดดูเมื่อปีที่แล้วกลายเป็นพระธาตุไปหมดถวายท่านไว้ สำหรับพระธาตุพระสีวลี นั้นเจอในถ้ำป่าไผ่(ท่านบอกว่าเขานับถือเป็นพระธาตุพระสีวลี) ผมลืมกล้องถ่ายรูปมาจากลำปาง วันเสาร์จะถ่ายภาพมาให้ชมครับ รูปพระองค์ที่โชว์อยู่นี้คุณพงษ์สิทธิ์ได้บูชาไปแล้วเป็นรูปแทนครับ องค์จริงสวยมากไม่ได้จับต้อง เดิมๆจากวัด
<!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผมขอเตือนเรื่องการกด หากข้อความใดที่ท่านใดก็ตาม โพสไม่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงแล้ว กรุณาอย่ากด มิฉะนั้นสิ่งที่ไม่ดีที่ผู้โพสไม่ถูกต้อง จะได้รับนั้น ผลนั้นก็จะมาถึงผู้ที่กด ให้ระวังกันให้มากๆนะครับ

ส่วน <TABLE id=table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left><!-- Start Post Groan Hack --> ก็ให้ระวังเรื่องการกดเช่นเดียวกันนะครับ ไม่ใช่ว่าเขาทำบุญกันแล้วไปกดไม่เห็นด้วย ให้ระวังกันครับ</TD></TR></TBODY></TABLE>


เรื่องกรรมนั้น ผมขอให้เป็นกรรมใครกรรมมันนะครับ อย่านำตนเองไปร่วมกรรม(ไม่ดี)กับผู้อื่นเลย

โมทนาสาธุครับ

.

 

หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร (ตามที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเป็นผู้ที่ค้นคว้ามา) ผมเปิดให้จองแล้วครับ โดยจองเล่มละ 200 บาทและค่าจัดส่งเล่มละ 50 บาท(โดยหากค่าจัดส่งมากกว่านี้ ผมจะจ่ายให้เองครับแต่หากน้อยกว่านี้ ผมจะนำไปเป็นค่าพิมพ์หนังสือครับ) และกรุณาระบุด้วยว่า จองกี่เล่ม โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
<O</O
<O</O
1.ต้องเป็นผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเท่านั้น<O</O

2.ผมขอสงวนสิทธิ์ในการรับจองหรือไม่รับจอง ถึงแม้ว่าจะได้มาร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งแล้วก็ตาม และผมไม่แจ้งเหตุผลให้ทราบนะครับ<O</O

3.เงินค่าจองหนังสือ ผมจะแจ้งหมายเลขบัญชีให้ทราบทาง PM อีกครั้งเมื่อผมรับจองแล้ว
บัญชีที่จะให้โอนเงินค่าหนังสือนั้น เป็นบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมเองไม่สามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบัญชีที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งได้เลย <O</O

4.เงินในส่วนต่างนั้น ผมจะนำเงินในส่วนนี้นำไปพิมพ์หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด<O</O
<O</O

ผมเริ่มให้จองตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2550 ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2550 เวลา 18.00 น. ครับ


รูปเล่มนั้น ต้องยอมรับว่าสวยงามครับ อีกทั้งมีรูปพระพิมพ์อีกพอสมควร ทางคณะผู้จัดทำ จะทำให้ดีที่สุด เพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่พระองค์ได้มีความเมตตาที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ และอยู่ดูแลพระศาสนาไปจนครบ 5000 ปีตามพุทธดำรัสครับ

ผมจะนำรายชื่อทั้งหมด ลงไว้ท้ายเล่มด้วยนะครับ

ผมเองก็ใช้หนังสือเล่มนี้เป็นครูในการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและเป็นส่วนหนึ่งในการเสาะแสวงหาพระของหลวงปู่ และอีกเล่มก็คือหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าครับ

ส่วนหนังสือปู่เล่าให้ฟังที่กำลังจะตามมานั้น เป็นเรื่องราวที่ท่านอาจารย์ประถมได้เคยเขียนลงในหนังสือต่างๆ และนำมารวบรวมไว้ในเล่มเดียวกัน แต่จะมีการปรับปรุงเนื้อหาบางเรื่อง ที่ได้ความรู้ใหม่ มาเพิ่มเติมขึ้นอีก และจะแตกต่างจะหนังสือปู่เล่าให้ฟังเล่มแรกและไม่ซ้ำกับหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรครับ
<!-- / message --><!-- sig -->
สาเหตุที่ผมจะไม่รับจองหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
<O</O
<O</O
1.ผมไม่ต้องการให้หนังสือเล่มนี้ไปตกอยู่กับบุคคลที่จะนำไปหาผลประโยชน์(ไม่ว่ากรณีใดๆ)
<O</O
<O</O
2.ผมป้องกันในเรื่องของที่จะมีบุคคลที่นำข้อมูลไปทำพระปลอม เนื่องจากมีรูปสีค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าหากว่ามีการหลุดไปจริงๆ ผมถือว่าผมได้ทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุดแล้ว<O</O
<O</O

3.คณะผู้จัดทำทุกๆท่าน ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และแรงเงิน ที่จะทำเพื่อเทิดพระเกียรติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
<O</O
<O</O
4.ผมเองตามหาเรื่องหลวงปู่มาเป็นระยะเวลา 10 ปี ถึงได้เจอ ได้พบเรื่องราวของหลวงปู่และพระพิมพ์ของท่าน ผมมีความพยายามตามหามาตลอดเวลา และที่สำคัญเมื่อผมได้พบนั้น ผมได้พบหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1 พระองค์(หลวงปู่ท่านอยู่ในห้าองค์ แต่ผมไม่บอกว่าผมได้พบองค์ไหนครับ) และหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ด้วยตาเนื้อของผมเอง โดยมีพระสงฆ์ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ผมไม่น้อยกว่าสองรูปและฆารวาส 2 ท่านได้รับรองในเรื่องนี้ครับ<O</O
<O</O

5.มีวาสนาบารมีก็จะได้มีไว้ จะช้าหรือเร็วนั้นอีกเรื่องนึง แต่ถ้าไม่มีวาสนาบารมีทำอย่างไรก็จะไม่มีโอกาสมีไว้<O</O
<O</O

หมายเหตุ บุคคลใดๆก็ตามทำอะไรไว้ จะได้รับผลที่ตนเองได้ทำไว้เสมอ

สำหรับทุกๆท่านที่นับถือหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร มักโดนทดสอบจิตใจ ,กำลังใจอยู่โดยตลอด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือสติ และคำสอนของหลวงปู่ ที่จะเป็นสิ่งที่ช่วยประคับประคองให้ผ่านเหตุการณ์ต่างๆไปได้

สิ่งที่เป็นวัตถุมงคลอันล้ำค่าที่บรรพบุรุธเราได้พากเพียรสร้างขึ้น แต่ถูกคนในยุคหลังดูถูกดูหมิ่น แต่ก็อีกนั่นแหละ อย่างที่ลายเซ็นผม ผมได้บอกไว้ มีวาสนาบารมีก็ได้ไว้ ไม่มีวาสนาบารมีก็ไม่มีวันได้เจอของแท้ สิ่งที่ไม่ว่าใครๆได้กระทำอะไรไว้ ต้องได้รับผลของสิ่งที่ตนเองกระทำ ปลูกข้าวย่อมได้ข้าว ปลูกมะม่วงย่อมได้มะม่วง ไม่เคยมีใครสักคนที่ปลูกข้าวแล้วจะได้มะม่วงสักราย เช่นเดียวกันกับกรรม หากเราไม่รู้จริง ก็ไม่ควรที่จะไปดูถูกดูหมิ่น สิ่งที่เรารู้มิใช่ว่าจะรู้ไปทุกๆเรื่องเพราะว่าเราไม่ใช่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระองค์ท่านเป็นสัพพัญญู รู้ในทุกสิ่ง หรือเราไม่ใช่พระอรหันต์(ปฎิสัมภิทาญาณ) ที่เราสามารถมองกลับไปได้ในทุกๆเรื่อง

จากเหตุดังกล่าวมา ผมยิ่งมีความหวงแหนพระวังหน้าอีกทั้งหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรมากขึ้นไปอีก สำหรับการที่จะให้ผู้ที่สนใจสั่งจองหนังสือ ผมต้องพิจารณาให้มากขึ้นไปกว่านี้อีกมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ครับ

ผมลีมบอกอีกเรื่องที่สำคัญมากก็คือ การที่นำพาคนที่ไม่รู้เรื่อง ,ไม่ทราบเรื่องราวที่แท้จริง แล้วพาไปเข้าป่า เข้ารก เข้าพง หรือ ลงเหว โดยที่ให้ความรู้ที่ไม่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง นั้นก็เป็นกรรมหนัก ในชาตินี้และชาติต่อๆไป จะเป็นคนที่มีปัญหาทึบ อย่ารู้ตัวก็ต่อเมื่อสายเกินแก้แล้ว

ด้วยความปราถนาดีเสมอ

<O</O<!-- / message --><!-- sig -->

************************************************
฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿

รายละเอียดพระพิมพ์และวัตถุมงคล ที่มอบให้กับผู้ร่วมทำบุญในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ ( http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=68899 ) จะอยู่ในหน้าแรกของกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

ส่วนยอดคงเหลือ ผมจะแจ้งให้ทราบในกระทู้เป็นระยะครับ
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->

 

โมทนาสาธุครับคุณหนุ่ม รายการวัตถุมงคลทั้งหมดนำบรรจุที่พระธาตุเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งครับ ผู้มอบวัตถุมงคลคือคุณwoottipon ก็ได้รับอานิสงค์กัน 2 ต่อด้วยครับ...

ผมก็ไม่ทราบจะอธิบายยังไงนะครับ เอาเป็นว่าขอบันทึกไว้เป็นเหตุการณ์ซึ่งในวันหนึ่งข้างหน้าอาจได้ประโยชน์จากข้อมูลนี้ก็ได้ครับ ผมหมายถึงว่าอีกเป็น พันปี หากกรุพระธาตุเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งแตกขึ้นมาในอนาคต วัตถุมงคลเหล่านี้ก็จะได้นำมาบูรณะพระธาตุเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งได้ทัน จึงขอบันทึกเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการประมูลในครั้งนี้ซึ่งไม่มีบุคคลใดในคณะปรารถนาจะครอบครองวัตถุมงคล และพระธาตุทั้งหลายเหล่านี้เป็นของส่วนตัว ต่างตั้งจิตถวายบรรจุไว้ในพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง

ในรายละเอียดของการสร้างผ้ายันต์ และงานพิธี ขอให้คุณหนุ่มที่ทราบข้อมูลดีมาช่วยผมเสริมในรายละเอียดด้วย เพื่อให้ข้อมูลมีความชัดเจน และถูกต้องนะครับ...

คุณหนุ่ม copy ข้อมูลผม แล้วกรอกรายละเอียดที่เว้นไว้ด้วย

วันอังคารที่ 7 ก.ค. 2550 ทางคณะศิษย์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร คณะศิษย์หลวงปู่สุภา และคณะศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้ร่วมกันจัดสร้างผ้ายันต์รุ่น.....................เพื่อมอบให้ทหารหาญ ตำรวจ และคนไทยที่อยู่ในพื้นที่ความเสี่ยงทาง 3 จังหวัดชายแดนทางภาคใต้ ผ้ายันต์นี้มุมซ้ายบนเป็นรูปหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ทางขวาบนเป็นภาพหลวงปู่สุภา ภาพกลางบนได้อัญเชิญภาพยันต์เกราะเพชรมาประทับไว้ (ภาพอื่นจากนี้คุณหนุ่มช่วยต่อให้หน่อย ผมจำได้เท่านี้..)พระอาจารย์นิล และคณะศิษย์ได้นำผ้ายันต์จำนวน............ผืน และวัตถุมงคลอื่นๆมาเข้าพิธีจำนวน......พิธีโดยพิธีสุดท้ายคือวันอังคารที่ 7 ก.ค. 2550 ได้ทำพิธีพุทธาภิเษกที่บ้านอาจารย์ปู่ประถม จ.ชลบุรี พระอาจารย์นิลได้นำสวดมนต์ และปฏิบัติกรรมฐาน และสมาธิประมาณ 1 ชม ระหว่างนั้นพี่ใหญ่ของคณะศิษย์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรได้สวดคาถาบารมี 30 ทัศ เป่าไปที่วัตถุมงคลทั้งหลาย และผ้ายันต์ (ซึ่งท่านไม่ทราบว่ามีวัตุมงคลอะไรบ้างในพิธีพุทธาภิเษกนี้) ทันใดนั้นก็ปรากฎภาพยันต์เกราะเพชรสีทองลอยขึ้นมาในพิธี ซึ่งท่านก็สอบถามอาจารย์ปู่ประถมในภายหลังว่า การสวดบารมี 30 ทัศ เป็นผลเสีย หรือผลดีกับพิธีนี้ อาจารย์ปู่ประถมได้แต่ยิ้มๆ และชี้แจงว่า เป็ยการเสริมกันให้ดียิ่งขึ้น เพราะต่างมี 56 ห้องเท่ากัน กลายเป็นว่าบารมี 30 ทัศเข้าไปเสริมยันต์เกราะเพชร หลวงปู่ปาน และหลวงพ่อฤาษีฯได้เสด็จมาร่วมในพิธีพุทธาภิเษกนี้ด้วยสืบเนื่องจากว่าการมอบผ้ายันต์ทั้งหมด........ผืนนี้เป็นงานสาธารณประโยชน์ที่ช่วยเหลือประเทศชาติ พระท่านจึงมาสงเคราะห์ลูกหลาน ปัจจัยที่ 2 ที่ท่านมาสงเคราะห์ในงานครั้งนี้ก็สืบเนื่องจากว่าท่านทราบด้วยอนาคตังสญาณว่าคณะศิษย์ทั้งหลายมีความศรัทธาในการสร้างพระธาตุเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง และจะขอนำวัตถุมงคลของท่านบรรจุเพื่อสืบพระศาสนาให้ครบ 5,000 ปี ท่านจึงมาโมทนา และสงเคราะห์เสกพระยันต์เกราะเพชรให้ ผู้ได้มโนมยิทธิแจ่มใสก็ได้เห็นหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 4 พระองค์โดยเว้นหลวงปู่หน้าปาน 1 พระองค์ เนื่องจากไม่เคยเห็นหลวงปู่ทั้ง 5 พระองค์มาก่อน แต่ดูจากรูปแล้วชี้ว่าเห็นพระองค์ไหน สมเด็จโตพรหมรังสีก็เสด็จมาร่วมในงานพิธีครั้งนี้ เพียงแต่ไม่ได้มาเสก พุทธาภิเษกครั้งนี้มีนกสาริกา 1 คู่มาเกาะที่หลังคาบ้าน 1 คู่ ต่างจากพิธีวันเสาร์ 5 ที่มาเกาะกันเต็มหลังคาบ้านส่งเสียงเจี๊ยวจ้าว...

<!-- / message --><!-- sig -->

 

ขออารธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ พรหม เทพ เทพยดา อาจารย์ทั้งหลายๆสืบๆกันมา โดยมีหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงเป็นที่สุด

ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลจากการร่วมบุญปรับปรุงระบบ server และsoftware ในเวปพลังจิตดอทคอม และได้ตั้งใจแน่วแน่ร่วมกันที่จะนำวัตถุมงคล และพระธาตุทั้งหลายที่ได้รับมาจากการร่วมบุญในครั้งนี้จากคุณwoottipon น้อมอัญเชิญบรรจุไว้ยังพระธาตุเจดีย์ผาผึ้ง โดยไม่ปรารถจะครอบครองไว้เป็นสมบัติของปัจเจกบุคคลแต่อย่างใด ทั้งนี้เพื่อสืบพระศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ ปีในครั้งนี้ แด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ พรหม เทพ เทพดา อาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมาโดยมีหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงเป็นที่สุด พระยายมราช ท่านท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ เทพเทวาทั่วสากลพิภพ ขอพระยายมราช และท่านท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ จงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าทั้งหลายในครั้งนี้ด้วยเถิด

ขออุทิศส่วนกุศลนี้แด่บูรพกษัตริย์ทุกๆพระองค์ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระศรีสุริโยทัย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา จวบจนถึงบูรพกษัตราธิราชในราชวงศ์จักรีอันมีสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกรัชกาลที่ ๑ จนถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชรัชกาลที่ ๙ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกๆพระองค์ กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนารทวังหน้าองค์ที่ ๑ ในราชวงศ์จักรี จนถึงกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ วังหน้าองค์ที่ ๕ ในราชวงศ์จักรี

ขออุทิศส่วนกุศลนี้แด่เทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาพระวังหน้า พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า ทุกๆองค์ ทุกๆพิมพ์ที่ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ครอบครอง พระอริยสงฆ์ที่ได้เสกพระพิมพ์ทุกๆองค์ เจ้าของสถานที่ พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ววังหน้า และวัดพระแก้ววังหลวงที่ใช้เป็นสถานที่ในการปลุกเสกองค์พระ ช่างสิบหมู่ทุกๆท่านที่มีส่วนร่วมในการสร้างพระวังหน้า และสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า และอุทิศส่วนกุศลนี้แด่เทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ปกปักรักษาพระเครื่องทุกๆพิมพ์ และทุกๆองค์ของวัดท่าซุงโดยเฉพาะพระคำข้าวรุ่น"ปืนแตก"องค์นี้ รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวรขององค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงที่องค์หลวงพ่อฤาษีฯได้เคยล่วงเกินมาแต่ชาติไหนๆก็ดี จนถึงชาติสุดท้ายนี้ที่ยังไม่ถึงสิ้นอาสวะวัฏสงสารขอได้มาโมทนาส่วนบุญส่วนกุศลนี้

ขออุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยล่วงเกินมาแต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี จะด้วยเจตนาก็ดี หรือไม่เจตนาก็ดี ใช่ญาติ หรือไม่ใช่ญาติก็ดี ขอจงได้อโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายตั้งแต่วันนี้ตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพาน

ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอญ หากยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงไร ขอความคล่องตัว และขอคำว่าไม่มี จงอย่าได้บังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยเทอญ<!-- / message --><!-- sig -->

 

วันนี้ข้าพเจ้า,ภรรยา และครอบครัว ได้ร่วมบุญปรับปรุงระบบ server และsoftware ในเวปพลังจิตดอทคอม และได้ตั้งใจแน่วแน่ร่วมกันที่จะนำวัตถุมงคล และพระธาตุทั้งหลายที่ได้รับมาจากการร่วมบุญในครั้งนี้จากคุณwoottipon น้อมอัญเชิญบรรจุไว้ยังพระธาตุเจดีย์ผาผึ้ง โดยไม่ปรารถจะครอบครองไว้เป็นสมบัติของปัจเจกบุคคลแต่อย่างใด ทั้งนี้เพื่อสืบพระศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี ขอให้ คุณบิดา มารดา พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ , คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์,พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ และทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ผู้มีพระคุณ ญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ญาติสี่สกุลเจ็ดชั่วโคตรของข้าพเจ้า เจ้ากรรมนายเวร ปู่ ย่า ตา ยาย เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า ,เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกองค์ ,พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช,สมเด็จพระเอกาทศรถ,สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ,พระยาพิชัยดาบหัก ,กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ,กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ,พระสยามเทวาธิราช ,พระภูมิ-เจ้าที่ที่บ้านข้าพเจ้า ,แม่ย่านางรถของข้าพเจ้า,ผู้ที่เสียสละให้กับแผ่นดินไทยทุกท่าน ,ท่านผู้เสกทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร-พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าทุกท่าน-พระพิมพ์ของวังหน้าและพระกรุวัดพระแก้วทุกท่าน,ท่านผู้เสกทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างวัตถุมงคลของวังหน้า-กรุวัดพระแก้ว-วัตถุมงคลหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกประเภทที่ข้าพเจ้ามีอยู่ , เพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย แม่พระโพสพ พระภูมิ-เจ้าที่ พระมหาฤาษีและพระฤาษีทุกๆตน พระพิรุณ พยายมราช นายนิริยบาล ทั้งท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุด พรหมาเบื้องต่ำตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาล คุณพระศรีรัตนตรัยและเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคา ขอให้มาอนุโมทนาในบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำในครั้งนี้ด้วยเทอญ<O</O
<O</O

อิมินาปุญญะกัมเมนะ ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้า,ภรรยา และครอบครัว ได้ ร่วมบุญปรับปรุงระบบ server และsoftware ในเวปพลังจิตดอทคอม และได้ตั้งใจแน่วแน่ร่วมกันที่จะนำวัตถุมงคล และพระธาตุทั้งหลายที่ได้รับมาจากการร่วมบุญในครั้งนี้จากคุณwoottipon น้อมอัญเชิญบรรจุไว้ยังพระธาตุเจดีย์ผาผึ้ง โดยไม่ปรารถจะครอบครองไว้เป็นสมบัติของปัจเจกบุคคลแต่อย่างใด ทั้งนี้เพื่อสืบพระศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่ คุณบิดา มารดา พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ,พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ ,ตัวข้าพเจ้าและทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ผู้มีพระคุณ ญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ญาติสี่สกุลเจ็ดชั่วโคตรของข้าพเจ้า เจ้ากรรมนายเวร ปู่ ย่า ตา ยาย เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า ,เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกองค์ ,พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช,สมเด็จพระเอกาทศรถ,สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ,พระยาพิชัยดาบหัก ,กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ,กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ,พระสยามเทวาธิราช ,พระภูมิ-เจ้าที่ที่บ้านข้าพเจ้า ,แม่ย่านางรถของข้าพเจ้า,ผู้ที่เสียสละให้กับแผ่นดินไทยทุกท่าน ,ท่านผู้เสกทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร-พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าทุกท่าน-พระพิมพ์ของวังหน้าและพระกรุวัดพระแก้วทุกท่าน, ท่านผู้เสกทุกท่าน เจ้าของและผู้สร้างวัตถุมงคลของวังหน้า-กรุวัดพระแก้ว-วัตถุมงคลหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกประเภทที่ข้าพเจ้ามีอยู่ , เพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย แม่พระโพสพ พระภูมิ-เจ้าที่ พระมหาฤาษีและพระฤาษีทุกๆตน พระพิรุณ พยายมราช นายนิริยบาล ทั้งท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุด พรหมาเบื้องต่ำตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาล คุณพระศรีรัตนตรัยและเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคา ท่านทั้งหลายที่ต้องทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ท่านได้สุข ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้าอุทิศไปให้นี้ จงเป็นอุปนิสัยปัจจัยให้ถึงพระนิพพานในปัจจุบันและอนาคตเบื้องหน้าโน้นเทอญ ฯ หากยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงไร ขอความคล่องตัว และขอคำว่าไม่มี จงอย่าได้บังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยเทอญ<!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig -->

พุทธังอนันตัง ธัมมังจัรวาลัง สังฆังนิพพานัง ปัจจโยโหนตุ

 

กรรมใครกรรมมัน รับกันไปเองนะครับ

เร็วๆนี้

.