WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

สุรินทร์เตือนฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง ในระยะนี้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มิถุนายน 2555 10:38 น.

นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จากการติดตามตรวจสอบสภาวะอากาศกับ กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี จึงขอแจ้งเตือนประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงของจังหวัดให้ทราบ เกี่ยวกับภัยอันเกิดจากสภาวะอากาศแปรปรวน ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เกษตรกร บ้านเรือน โรงเรือน และพืชผลทางการเกษตร โดยขอให้เตรียมการป้องกันระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติ ในช่วงนี้
นอกจากนี้ ขอให้ระมัดระวังการใช้เครื่องมือสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ เครื่องประดับ อย่าอยู่กลางที่โล่งแจ้งขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง เนื่องจากอาจเกิดอันตรายจากฟ้าผ่าได้ ซึ่งหากพื้นที่ใดประสบภัย ขอให้แจ้งมาได้ ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ หมายเลข 044-143-059

 

ดินริมลำน้ำสงครามทรุดหวิดตายยกครัวที่นครพนม

เมื่อเวลา 05.20 น. วันที่ 20 มิถุนายน ได้เกิดเหตุน้ำป่าทะลักลงสู่ลำน้ำโขง ในลำน้ำสงคราม ตำบลไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ส่งผลให้ดินตลิ่งทรุดตัวนับ 50 เมตร บ้านเรือนประชาชน หวิดตายหมู่ นายสุริยา ช่วงหาราช อายุ 65 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 43/1 เปิดเผยว่า ครอบครัวตนมีมีอยู่ 5 ชีวิตเกือบตายหมู่เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 05.20 น.ตนตื่นเช้าขึ้นมาเพื่อหุงข้าวได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวนึกว่าต้นไม้โค่นล้มเมื่อออกมาดูตกใจแทบช๊อคดินตลิ่งทรุดเป็นบริเวณกว้างจนติดเสาเรือนบ้านตน โชคดีที่บ้านไม่ถล่มจมน้ำ ซึ่งในเบื้องตนการแก้ไขปัญหาทาง อบต.พร้อมชาวบ้านได้ช่วยกันนำกระสอบทรายสร้างเขื่อนไม้ป้องกันดินถล่มป้องกันดินทรุด

น.ส.วันเพ็ญ มณีรัตน์ นายช่างโยธาสำนักงานโยธาและฝังเมืองนครพนม เปิดเผยหลังลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายว่า ในการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นวันนี้ตนจะนำเรื่องเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อของบประมาณเร่งด่วนคือจะต้องนำเสาไม้ที่แข็งแรงมาตอกเหมือนเสาเข็มและนำตาข่ายมากั้นก่อนนำหินและดินมาถมตรงจุดถล่มเพื่อป้องกันดินทรุดอีกในอนาคตต้องจัดงบประมาณมาทำการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพังต่อไป


ชาวนาแม่ระหัน ยังเร่งเกี่ยวข้าวสดหนีน้ำท่วม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถึงแม้ว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.พิษณุโลก จะเริ่มคลี่คลายก็ตาม แต่ยังมีหลายพื้นที่ยังคงมีน้ำขังในพื้นที่เกษตรกรรม โดยเฉพาะพื้นที่ อ.บางระกำ อ.พรหมพิราม และ อ.เมือง ส่งผลให้ชาวนาในพื้นที่ดังกล่าว ได้เร่งเกี่ยวข้าวหนีน้ำ เนื่องจากเชื่อว่ายังมีน้ำเหนือจะไหลบ่ามาอีก

นายบุญเลิศ มีชัย อายุ 50 ปี ชาวนาหมู่ 10 บ้านแม่ระหัน อ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ตนทำนากว่า 40 ไร่ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีน้ำเหนือ จ.สุโขทัย ไหลเข้าท่วมนาข้าวจนเกือบมิดรวง แต่โชคดีที่น้ำได้ยุบลงมาบ้าง ทำให้ตนเองต้องนำเรือมาเร่งเกี่ยวข้าวที่เหลือทันที ถึงแม้ว่ารวงข้าวยังจะเขียวสดก็ตาม แต่เชื่อว่าน้ำจะมาอีกและส่งผลให้ข้าวเสียหายได้ โดยข้าวที่เกี่ยวนั้นขายได้เพียงตันละ 6,000 บาท แต่ก็ยังดีกว่าข้าวเสียหายจากน้ำท่วม นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านในพื้นที่บ้านแม่ระหัน จำนวนกว่า 20 ราย ยังได้จ้างรถเกี่ยวข้าวในราคาไร่ละ 450 บาท เกี่ยวข้าวที่เขียวสดไปขายให้กับโรงสีกันจำนวนมาก เนื่องจากเชื่อว่าจะมีน้ำเหนือไหลบ่ามาอีก และจะท่วมนาข้าวเหมือนทุกปีที่ผ่านมา



ชาวบ้านริมแม่น้ำตาปียังอ่วมน้ำท่วมนับพันครัวเรือน


สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สุราษฎร์ธานีวันที่ 20 มิถุนายน แม้ว่าฝนหยุดตกมาร่วมสัปดาห์แล้ว หลายพื้นที่น้ำลดลงเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ในส่วนพื้นที่ริมแม่น้ำตาปี อ.พุนพิน ยังมีน้ำท่วมสูงในพื้นที่ 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน คือ ม.1 ม.4 ต.ท่าสะท้อน ม.7 ต.ท่าข้ามและ ม.2 ต.กรูด บ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมกว่าพันหลังคาเรือน โดยระดับน้ำสูงเฉลี่ยกว่า 1 เมตร ชาวบ้านยังต้องอาศัยอยู่ในบ้านลอยน้ำที่เตรียมการไว้รองรับล่วงหน้า ขณะที่ทางอำเภอพุนพินยังคงทยอยแจกถุงยังชีพต่อเนื่อง

นายไพศาล ตรีธัญญา นายอำเภอพุนพิน กล่าวว่า พื้นที่ของ อ.พุนพินที่ถูกน้ำท่วมส่วนใหญ่อยู่ริมแม่น้ำตาปีและแม่น้ำพุมดวง ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำตาปี ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งรองรับจากพื้นที่ อ.พระแสง เคียนซาและบ้านนาสาร ก่อนที่ค่อย ๆไหลลงสู่ทะเล

สำหรับการช่วยเหลือในตอนนี้ใช้งบฉุกเฉินของอำเภอที่มีอำนาจเบิกจ่ายจำนวน 1 ล้านบาท ช่วยเหลือในเรื่องของถุงยังชีพ และเวชภัณฑ์ หากเกินงบของอำเภอ ทางจังหวัดยังมีงบสำรองอีก 50 ล้านบาท ส่วนโครงการใหญ่ ๆต้องรองบประมาณจากส่วนกลาง และขณะนี้พื้นที่ทางการเกษตรส่วนใหญ่ที่เสียหายเป็นบริเวณกว้างยังไม่สามารถสำรวจและประเมิณการได้ เพราะน้ำยังท่วมสูง

 

ไฟป่าเกาะสุมาตราส่อเค้ารุนแรงหนัก หลังพบจุด Hotspots เพิ่ม

นายวรศาสตร์ อภัยพงษ์รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวถึงปัญหาฝุ่นละอองที่เกิดจากไฟป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ภาคใต้ของไทยว่า ล่าสุดพบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมงที่ตรวจวัดได้ในพื้นที่จังหวัดยะลา และ จังหวัดนราธิวาส พบว่าอยู่ที่ประมาณ 70 - 80 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ไมเกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อย่างไรก็ตาม พื้นที่บริเวณดังกล่าวในช่วงปกติ มีค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเฉลี่ย 30 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หากเปรียบเทียบกับปัจจุบันพบว่าขณะนี้มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเท่าตัว นอกจากนี้ จากการตรวจวัดจุดที่มีค่าความร้อนมากผิดจากปกติบนผิวโลก หรือ (Hotspots) บนเกาะสุมาตรา พบว่ามีอัตราการเพิ่มขึ้นรายวัน โดยเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาพบ 80 จุด แต่จากข้อมูลวานนี้(19 มิ.ย.) พบถึง 300 จุด ซึ่งคาดว่าสถานการณ์หลังจากนี้อาจมีความรุนแรงมากขึ้น ใกล้เคียงกับปี 2549 ที่ได้รับผลกระทบกว่า 2 เดือน

รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ประสานให้ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ ติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด หากพบว่าปริมาณฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานให้แจ้งเตือนประชาชนทันที โดยขณะนี้แนะนำให้ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง และ ผู้ป่วยที่เป็นโรคทางเดินหายใจควรเตรียมหน้ากากอนามัยไว้ให้พร้อม



 

ไข้หวัด 2009 กลับมาอีกครั้ง! โคราชติดเชื้อแล้ว 28 ราย



แพทย์เผย ไข้หวัด 2009 กลับมาอีกครั้ง ขณะนี้ที่ จ.นครราชสีมา พบผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมด 28 ราย ทั้งนี้ ได้กักบริเวณกันการแพร่เชื้อแล้ว คาดรักษาหายขาด
วันนี้ (19 มิถุนายน) นพ.วรัญญู สัตยวงศ์ทิพย์ ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา (สสจ.) ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ ได้ทำการควบคุมผู้ป่วยที่ติดเชื้อ H5N1 หรือไข้หวัด 2009 จำนวน 28 ราย โดยในจำนวนทั้งหมดนี้ เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล 2 ราย และลูกของเจ้าหน้าที่ 2 ราย นอกเหนือจากนั้นเป็นผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาจำนวน 24 ราย
ทั้งนี้ นพ.วรัญญู ระบุว่า สำหรับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล และลูก รวมทั้งหมด 4 คน ได้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนผู้ป่วยอีก 24 คน ทางโรงพยาบาลได้ทำการแยกออกจากผู้ป่วยทั่วไปแล้ว และกักบริเวณไว้ทั้งหมด 3 จุด เพื่อควบคุมการแพร่เชื้อ
อย่างไรก็ตาม สำหรับอาการของผู้ป่วยทั้ง 28 ราย ยังไม่รุนแรงมากนัก โดยทั่วไปยังมีอาการไข้ขึ้นสูง แต่ไม่มีอาการหายใจลำบาก หรืออาการปอดบวม จึงไม่น่าเป็นห่วง ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถรักษาผู้ป่วยทั้งหมดให้หายขาดได้ไม่นานนี้

(เครดิต:กระปุกดอทคอม )

 

มหัศจรรย์สมุนไพรไทยป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009

ปัจจุบัน การใช้สมุนไพรที่มีอยู่ใกล้ตัวเพื่อใช้ในการหรือรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ นั้น กำลังเป็นที่นิยม โดยเฉพาะพืชสมุนไพรที่ กระทรวงสาธารณะสุข ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2552 ว่ามี สมุนไพรไทยอยู่ 3 ชนิด ที่สามารถป้องกัน โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 ชนิดเอ (H1N1) ได้ โดยมีฤทธิ์ของยาไม่แพ้ยารักษาหวัด 2009 จากต่างประเทศ คือ 1.ฟ้าทะลายโจร 2.ขิง3.กระเทียม จึงต้องการแนะนำให้ทุกท่านหันมาบริโภคสมุนไพรไทย เพื่อป้องกันไข้หวัด 2009 และเพื่อดูแลสุขภาพร่างกายในด้านอื่นๆ อีกด้วย


เลือกบริโภคสมุนไพรไทยที่เหมาะกับคุณ

ฟ้าทะลายโจร ใช้ทานเป็นยาขมเจริญอาหาร และใช้บรรเทาอาการ “หวัดร้อน” ที่มีอาการเหงื่อออก เจ็บคอ กระหายน้ำ ท้องผูก แต่ฟ้าทะลายโจรไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการของ “หวัดเย็น” คือไม่มีเหงื่อ มือเท้าเย็น ปัสสาวะมาก รู้สึกหนาวสะท้าน ยิ่งถ้าทานฟ้าทะลายโจรเข้าไป จะทำให้ยิ่งหนาวสั่น คลื่นไส้ และไม่ควรทาน ฟ้าทะลายโจร เพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ติดต่อกันเกิน 1 สัปดาห์ เนื่องจากอาจส่งผลให้ร่างกายโดยเฉพาะ แขนขาไม่มีเรี่ยวแรง​

สมุนไพรฟ้าทะลายโจร

​

ขิง เป็นพืชสมุนไพรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านรสและ กลิ่น ที่อุดมไปด้วย ชันน้ำมัน (oleoresin) น้ำมันหอมระเหย (volatile oil) รวมทั้ง วิตามิน และแร่ธาตุ อย่าง แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และมีวิตามินซีในระดับสูง โดยเฉพาะขิงที่มีอายุ 11-12 เดือน ซึ่งหาไม่ได้ในขิงช่วงอายุอื่นๆ อีกทั้งขิงยังมีคุณสมบัติที่ช่วยในการขับลม แก้จุกเสียด คลื่นไส้ อาเจียน ทำให้เหงื่อออกมาก แก้หวัด แก้ไข้ สร้างความกระชุ่มกระชวย น้ำขิงร้อนๆ แก้อาการหวัดที่มีอาการหนาว (หวัดเย็น) ไข้ต่ำ ไม่ค่อยมีเหงื่อ มีเสมหะเหลวใส หรือ ขี้มูกใส ซดน้ำขิงจะ ทำให้จมูกโล่งดี ร่างกายอบอุ่น ช่วยฟื้นฟูระบบการทำงานต่างๆ ให้กลับคืนสู่ภาวะสมดุล ซึ่งเราสามารถบริโภคขิงได้ทุกวันโดยไม่ต้องกลัวผลเสียใดๆ แก่ร่างกาย และยิ่งเดี๋ยวนี้มีเครื่องดื่มน้ำขิงในรูปแบบผงที่หาซื้อได้ง่าย สะดวก ให้คุณดื่มทุกวัน
ขิง


กระเทียม เป็น ทั้งสมุนไพร เครื่องเทศ และมีสรรพคุณทางยามากมาย หัวกระเทียมมีน้ำมันหอมระเหยเผ็ดร้อน เป็นยาขับเหงื่อ ขับเสมหะ หรือโขลกกับน้ำส้มกวาดคอ แก้อักเสบเสียงแห้ง แก้ปวดศีรษะข้างเดียว ส่วนมากนิยมนำมาใช้ในการปรุงอาหาร หรือ นำมาบรรจุเป็นแคปซูลขายในร้านอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับคนที่มีความดันสูง อีกทั้งกลิ่นของกระเทียมยังไม่เป็นที่ชื่นชอบเท่าไร จึงมีบ้างแต่ก็ไม่เยอะเท่าที่ควรที่จะนำกระเทียมมาบริโภคเพื่อแก้หวัด
กระเทียม


และอย่าลืมใส่ใจสุขภาพของตัวเองให้ห่างไกลจากไข้หวัด 2009 ด้วยการ กินของร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ และสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อเป็นหวัด รับรองปลอดภัยจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แน่นอน

เอกสารอ้างอิง
1.www.matichon.co.th/prachachat/news_detail.php?newsid=1248162206&grpid=03&catid=00
2.www.ku.ac.th/e-magazine/february45/agri/far.html
3.สมุนไพรผักพื้นบ้าน เพื่อชีวิต & สุขภาพ /มนตรี แสนสุข
4.ขิงสมุนไพรเพื่อการดูแลสุขภาพตนเอง/ศักดิ์ บวร

 

ชาวบ้านผวาแผ่นดินเมืองกาญฯยุบ 10 เมตร

วันพุธที่ 20 มิถุนายน 2555 เวลา 13:14 น.


<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->แผ่นดินยุบลึก10เมตรหน้าสนามโรงเรียนบ้านไร่ป้า กาญจนบุรี ชาวบ้านผวา รอนักธรณีฟิสิกส์เข้าตรวจสอบ ด้านปภ.เตือนระวังธรณียุบ แนะตาดูหูฟัง


<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content --><!-- /#featured-caption -->วันนี้ (20 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังฝนตกติดต่อกันหลายวันในจ.กาญจนบุรี ส่งผลให้เกิดดินยุบตัวหน้าสนามโรงเรียนบ้านไร่ป้า ต.ห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) เป็นหลุมลึกราว 5 เมตรนั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ หลุมดังกล่าวเกิดยุบเพิ่มลงไปอีกกว่า 4 เมตร ลึกราว 10 เมตร ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5.6 เมตร สร้างความแตกตื่นให้ผู้พบเห็นรวมทั้งนักเรียนและประชาชนในย่านดังกล่าว เกรงแผ่นดินถล่ม เจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ห้ามเข้าเพื่อความปลอดภัย เพื่อรอนักธรณีฟิสิกส์นำเครื่องมือเข้าสำรวจพื้นที่ใต้ผิวดินเพื่อหาสาเหตุของการเกิดดินยุบตัวในครั้งนี้ รวมทั้งหาทางป้องกันและแก้ไขในช่วงเย็นวันนี้

ด้านนายนราเมศวร์ ธีระรังสิกุล ผู้อำนวยการทรัพยากรธรณี เขต 3 (ปทุมธานี) ที่เดินทางเข้ามาดูพื้นที่ กล่าวว่า สาเหตุที่เกิดดินยุบ น่าจะมาจากการผุพังของดินตะกอนที่ละลายน้ำได้ เมื่อมีน้ำมาชะตะกอน สภาพพื้นดินเสียทำให้เกิดดินยุบตัวลง เบื้องต้นขอแนะนำให้ผู้เกี่ยวข้องนำหินขนาดใหญ่ลงถมก่อนถมด้วยหินก้อนเล็กอีกชั้น ตามด้วยดินปิดกลบด้านบน ไม่ให้ยุบตัวขยายวงกว้าง โดยทุกพื้นที่ที่เกิดปัญหาให้ดำเนินการดังกล่าว จะช่วยป้องกันไม่ให้ขยายวงได้

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวว่า เพื่อความปลอดภัย ปภ.แนะวิธีสังเกตและข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดหลุมยุบ ดังนี้ สิ่งบอกเหตุก่อนเกิดหลุมยุบและโพรงยุบ มี เสียงดังคล้ายฟ้าร้องจากใต้ดิน มีน้ำทะลักพุ่งขึ้นจากใต้ดิน ดินมีรอยร้าวอย่างผิดสังเกต ในลักษณะกลม หรือ เป็นวงรี คล้ายร่างแห หรือ ใยแมงมุม ท่อน้ำ เสา รั้ว มีลักษณะคดโค้งหรือเลื่อนตัวผิด ประตู หน้าต่างบ้านบิดเบี้ยวจนปิดยาก เกิดแอ่งน้ำในพื้นที่ที่ไม่เคยมีแอ่งน้ำ ต้นไม้และดอกไม้เหี่ยวเฉาในบริเวณแคบๆหรือเป็นวงกลม เนื่องจากชั้นดินสูญเสียความชื้นจนเกิดโพรงใต้ดิน น้ำตามบ่อบาดาล หรือบ่อน้ำใกล้เคียง มีสีขุ่นข้น หรือเป็นโคลนโดยไม่มีสาเหตุ

ข้อควรปฏิบัติเมื่อพบเห็น รีบออกห่างจากบริเวณไม่ต่ำกว่า 100 เมตร พร้อมกั้นเขตพื้นที่และติดป้ายประกาศเตือนภัย พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือ กำนัน ผู้ใหญ่ เข้าตรวจสอบสภาพพื้นที่และสภาพธรณีวิทยา.

B5 - War Room Falkman

 

แพทย์ยันผู้ป่วยจิตเวชโคราชติดเชื้อหวัดมรณะ 41 รายปลอดภัย

วันพุธที่ 20 มิถุนายน 2555 เวลา 18:03 น.


<!-- /.images-list-items --><EMBED height=370 type=application/x-shockwave-flash width=620 src=http://www.youtube.com/v/qP7AS7DqJcI?version=3&hl=en_US&rel=0 wmode="transparent" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></EMBED>
<!-- /.images-list-items youtube_embed -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
แพทย์ยืนยันผู้ป่วยจิตเวชที่ รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั้ง 41 คน อาการปลอดภัย ไม่มีไข้แล้ว มีเพียง 3 รายที่ยังมีไข้ต่ำ


<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content --><!-- /#featured-caption -->วันนี้ ( 20 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีตรวจพบผู้ป่วยที่นอนพักรักษาตัวอยู่ใน รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 35 ราย และเจ้าหน้าที่ของ รพ.และบุตรหลานอีก 6 ราย รวมเป็น 41 ราย ซึ่งสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งให้กักกันพื้นที่ในโรงพยาบาลเป็นพื้นที่เฝ้าระวังการแพร่ระบาด โดยออกมาตรการให้แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ใน รพ. รวมกว่า 350 คน ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนยาต้านไวรัส เพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวมทั้งเข้มงวดให้ทุกคนโดยเฉพาะผู้ป่วยและญาติผู้ป่วย ที่เข้ามาภายใน รพ. ต้องได้รับการตรวจคัดกรอง โดยการวัดไข้ สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ขณะเดียวกันในอาคารหอพักผู้ป่วยที่พบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ เจ้าหน้าที่ได้เร่งทำความสะอาดวัสดุอุปกรณ์ เครื่องนอน โต๊ะ เก้าอี้ มุ้งลวด โดยเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ เพื่อทำลายเชื้อไข้หวัดที่อาจแฝงอยู่ เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้

นพ.พิทักษ์พล บุณยมาลิก ผอ.รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ถูกกักพื้นที่ให้อยู่ในบริเวณจำกัด โดยเฉพาะผู้ป่วยจิตเวชทั้ง 35 คน ได้แยกออกจากผู้ป่วยทั่วไปให้มาอยู่รวมกัน โดยการรักษาที่ผ่านมา แพทย์ได้ให้ยาต้านไวรัสทุกคนเรียบร้อยแล้ว อาการทั่วไปพบว่าผู้ติดเชื้อทุกคนไม่มีไข้สูงแล้ว มีเพียง 3 รายเท่านั้นที่ยังมีไข้ต่ำ ๆ แต่ยังต้องเฝ้าติดตามอาการและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 14 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยไม่มีเชื้ออีก ถึงจะวางใจได้

พร้อมกันนี้ได้พยายามค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ เพื่อนำเข้าสู่ระบบการรักษา โดยการคัดกรองทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ของโรงพยาบาล ซึ่งวันนี้ยังไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มเติม จากการติดตามอาการของเจ้าหน้าที่และบุตรรวม 6 คน ที่แยกตัวออกไปพักในบ้านพักแล้ว ก็พบว่าอาการดีขึ้น ไม่มีไข้แล้ว แต่ได้สั่งให้หยุดงาน 7 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่แพร่เชื้อ ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ทั้ง 41 คน อาการปลอดภัยแล้ว และแนะนำให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะมีอาการเป็นหวัด มีไข้สูง ปวดตามเนื้อตัว ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจจะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และรีบเข้ามารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลทันที.

B5 - War Room Falkman

 

รถบัสจีนตกเหวตาย 17 เจ็บเพียบ

วันพุธที่ 20 มิถุนายน 2555 เวลา 17:15 น.


<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-container -->
<!-- /.images-list-wrapper -->

<!-- /.featured-img -->เกิดอุบัติเหตุรถบัสวิ่งทางไกลพลิกคว่ำและตกลงไปในเหวลึกของเมืองหนิงตี้ในมณฑลฝูเจี้ยน มีผู้เสียชีวิต 17 ศพ และบาดเจ็บสาหัส 3 คน
<!-- /.content -->
<!-- /#featured-caption -->วันนี้ (20 มิ.ย.) สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถบัสวิ่งทางไกลพลิกคว่ำและตกลงไปในเหวลึกของเมืองหนิงตี้ในมณฑลฝูเจี้ยน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 ศพ และบาดเจ็บสาหัส 3 คน ขณะที่ รถบัสพร้อมผู้โดยสาร 45 คนวิ่งมาจากมณฑลเจียงซูมุ่งหน้าไปยังเมืองชายฝั่งเซียะเหมินของมณฑลฝูเจี้ยน แต่ได้เกิดพลิกคว่ำเสียก่อน ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด

ทั้งนี้ ความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นปัญหาใหญ่ในจีน อุบัติเหตุส่วนมากเกิดจากถนนชำรุดขาดการซ่อมแซมที่ดี อีกทั้งคนขับรถมักประมาทเลินเล่อ เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถบัสตกเหวในมณฑลชานสี ทางเหนือของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 ศพ.

B5 - War Room Falkman

 

เห็นด้วยจ้า..เตรียมพร้อมกันไว้ก่อน ไม่ประมาทจ้า

B5 - War Room Falkman

 

พายุไต้ฝุ่นถล่มญี่ปุ่น ตาย1ศพ เจ็บ50

วันพุธที่ 20 มิถุนายน 2555 เวลา 10:04 น.


<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-container -->
<!-- /.images-list-wrapper -->

<!-- /.featured-img -->พายุไต้ฝุ่นถล่มญี่ปุ่นตายแล้ว1ศพ บาดเจ็บ 50 คน สายการบินยกเลิกเที่ยวบิน 400 เที่ยว การขนส่งทางบกและรถไฟได้รับผลกระทบหนัก
<!-- /.content -->
<!-- /#featured-caption -->วันนี้ (20 มิ.ย.) สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและสื่อในญี่ปุ่นรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นกำลังแรงกูโชล ก่อให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วเกาะฮอนชู ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ของประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ และมีผู้บาดเจ็บราว 50 คน สายการบินต่างๆต้องยกเลิกเที่ยวบิน 400 เที่ยว ขณะที่ การขนส่งทั้งทางบกและทางรถไฟได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน
สำนักข่าวเกียวโดแจ้งวันนี้ว่า ทางการญี่ปุ่นสั่งอพยพประชาชนกว่า 150,000 คนในทางตอนกลาง ทางตะวันออก และทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ พร้อมเตือนให้ระวังดินถล่ม อันเนื่องจากฝนตกหนัก โดยในจังหวัดชิซูโอกะ ทางตะวันออกเฉียงใต้ มีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ศพ หลังโรงเก็บของพังถล่มลงมาทับเขา นอกจากนี้ ในอีกราว 15 จังหวัดมีผู้บาดเจ็บประมาณ 52 คน
ไต้ฝุ่นกูโชล ซึ่งเข้าสู่ทางเหนือของกรุงโตเกียวเมื่อคืนวันอังคาร ด้วยความเร็วลม 125 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้สายการบินต่างๆ ยกเลิกเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศรวมกัน 452 เที่ยว ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสาร 35,000 คน ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงมีทั้งล่าช้าและหยุดบริการชั่วคราว ขณะเดียวกัน มีการปิดถนนบางสาย อย่างไรก็ตาม ไต้ฝุ่นลูกที่ 5 ทาลิม ถูกคาดหมายว่า จะเข้าถึงพื้นที่ของญี่ปุ่นในวันศุกร์นี้

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=_QxdkxFqW6A"]Typhoon Guchol Hits Japan - YouTube[/ame]



B5 - War Room Falkman

 

กปน.แจ้งหยุดสูบจ่ายน้ำซ่อมไฟ 22 มิ.ย.

20 มิถุนายน 2555 เวลา 18:37 น

กปน.หยุดสูบจ่ายน้ำซ่อมระบบไฟฟ้า22มิ.ย.ถนนกาญจนาภิเษก-บางบัวทอง-จรัญสนิทวงศ์น้ำประปาไม่ไหล

วันนี้ (20มิ.ย.) การประปานครหลวง (กปน.) แจ้งว่า จะหยุดการสูบจ่ายน้ำเพื่อซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้า โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ วันที่ 22มิ.ย.2555 ระหว่างเวลา 01.00 - 03.00 น. ส่งผลให้น้ำประปาไหลอ่อนถึงไม่ไหล ในพื้นที่ถนนกาญจนาภิเษก ตั้งแต่คลองบางเชือกหนัง ถึงสุดเขตการจ่ายน้ำของการประปานครหลวง ถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ถนนเทิดพระเกียรติ ถนนสิรินธร ถนนบรมราชชนนี ถนนบางกอกน้อย-นครชัยศรี ถึงสุดเขตการจ่ายน้ำของการประปานครหลวง ถนนจรัญสนิทวงศ์ ตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึงคลองบางอ้อ ถนนบางกรวย ถนนบางบัวทอง ตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึงวัดโพธิ์เผือก

ดังนั้น ประชาชนควรสำรองน้ำประปาไว้ใช้ล่วงหน้าในช่วงวันและเวลาดังกล่าว หากประสบข้อขัดข้องกรุณาแจ้ง ศูนย์บริการประชาชน โทร. 1125 หรือ facebook การประปานครหลวง ยินดีต้อนรับสู่ Facebook - เข้าสู่ระบบ ลงทะเบียน หรือเรียนรู้เพิ่มเติม หรือ การประปานครหลวง (mwa1125) on Twitter ตลอด 24 ชั่วโมง

B5 - War Room Falkman

 

หลุมยุบ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งที่ดินยุบตัวลงเป็นหลุมลึก และมีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 1-200 เมตร ลึกตั้งแต่ 1 ถึงมากกว่า 20 เมตร เมื่อแรกเกิดปากหลุมมีลักษณะเกือบกลมและมีน้ำขังอยู่ก้นหลุม ภายหลังน้ำจะกัดเซาะดินก้นหลุมกว้างขึ้น ลักษณะคล้ายลูกน้ำเต้า ทำให้ปากหลุมพังลงมาจนเหมือนกับว่าขนาดของหลุมยุบกว้างขึ้น โดยปรกติหลุมยุบจะเกิดในบริเวณที่ราบใกล้กับภูเขาที่เป็นหินปูน เนื่องจากหินปูนมีคุณสมบัติละลายน้ำที่มีสภาพเป็นกรดอ่อนได้ ประกอบกับภูเขาหินปูนมีรอยเลื่อนและรอยแตกมากมายดังจะสังเกตเห็นได้ว่าภูเขาหินปูนมีหน้าผาชัน หน้าผาเป็นรอยเลื่อนและรอยแตกในหินปูนนั่นเอง บริเวณใดที่รอยแตกของหินปูนตัดกันจะเป็นบริเวณที่ทำให้เกิดโพรงได้ง่าย โพรงหินปูนถ้าอยู่พ้นผิวดินก็คือถ้ำ ถ้าไม่พ้นเรียกว่าโพรงหินปูนใต้ดิน ซึ่งจำแนกเป็น 2 ระดับ คือ โพรงหินปูนใต้ดินระดับลึก (ลึกจากผิวดินมากกว่า 50 เมตร) และโพรงหินปูนระดับตื้น (ลึกจากผิวดินไม่เกิน 50 เมตร) ส่วนใหญ่หลุมยุบจะเกิดในบริเวณท่มีโพรงหินปูนใต้ดินระดับตื้น หลุมยุบเกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กรมทรัพยากรธรณีได้รับแจ้งและเข้าไปตรวจสอบพื้นที่มากกว่า 45 แห่ง โดยพบว่าพื้นที่ที่เกิดหลุมยุบอยู่บนที่ราบใกล้ภูเขาหินปูน ภายหลังการเกิดพิบัติภัยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 พบว่ามีหลุมยุบเกิดขึ้นมากว่า 19 ครั้ง โดยเกิดใน 4 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากธรณีพิบัติภัยครั้งนี้คือ จังหวัดสตูล พังงา กระบี่ และตรัง ถึง 14 ครั้ง เกิดขึ้นในภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย 4 ครั้ง และเกิดในภูมิภาคอื่นคือ จังหวัดเลย 1 ครั้ง


ปัจจัยที่ทำให้เกิดหลุมยุบ

1. เป็นบริเวณที่มีหินปูนรองรับอยู่ในระดับตื้น
2. มีโพรงหรือถ้ำใต้ดิน
3. มีตะกอนดินปิดทับบาง (ไม่เกิน 50 เมตร)
4. มีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดิน
5. มีรอยแตกที่เพดานโพรงใต้ดิน
6. ตะกอนดินที่อยู่เหนือโพรงไม่สามารถคงตัวอยู่ได้
7. มีการก่อสร้างอาคารบนพื้นดินที่มีโพรงหินปูนใต้ดินระดับตื้น
8. มีการเจาะบ่อบาดาลผ่านเพดานโพรงหินปูนใต้ดินระดับตื้น ทำให้แรงดันน้ำและอากาศภายในโพรงถ้ำเปลี่ยนแปลง
9. มีผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเกิน 7 ริกเตอร์

สาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมยุบหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์
แผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระดับ 9 ริกเตอร์ ทำให้หินปูนที่มีคุณสมบัติแข็งแต่เปราะได้รับการกระทบกระเทือนเป็นบริเวณกว้าง เพดานโพรงหรือถ้ำใต้ดินที่อยู่ระดับตื้นและไม่แข็งแรงอยู่เดิมมีโอกาสยุบตัวหรือถล่มลงมาได้ง่าย นอกจากนี้คลื่นยักษ์ (สึนามิ) ที่กระหน่ำเข้ามามีแรงกระแทกมหาศาล ทำให้ระดับน้ำและบนดินมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จากปัจจัยที่กล่าวมาแล้วบวกกับปัจจัยที่มีอยู่เดิมทำให้เกิดหลุมยุบขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในบริเวณที่ได้รับผลระทบจากแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์โดยตรง และในบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเพียงอย่างเดียว


สรุปสาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมยุบหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ คือ

1. เกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดินอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเกิดคลื่นยักษ์ทำให้แรงดันของน้ำและอากาศภายในโพรงเสียสมดุล
2. เกิดการขยับตัวของพื้นที่ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยร้าวของเพดานโพรง สืบเนื่องจากการเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง

ข้อสังเกตก่อนเกิดหลุมยุบ

1. ดินทรุดและยุบตัว ทำให้กำแพง รั้ว เสาบ้าน ต้นไม้ โผล่สูงขึ้น
2. มีการเคลื่อนตัว/ทรุดตัว ของกำแพง รั้ว เสาบ้าน ต้นไม้ ประตู/หน้าต่างบิดเบี้ยว ทำให้ปิดยากขึ้น
3. เกิดแอ่งน้ำขนาดเล็กในบริเวณที่ไม่เคยมีแอ่งน้ำมาก่อน
4. มีต้นไม้ ใบไม้ ดอกไม้ และพืชผัก เหี่ยวเฉาเป็นบริเวณแคบๆ หรือเป็นวงกลม เนื่องจากสูญเสียความชื้นของชั้นดินลงไปในโพรงใต้ดิน
5. น้ำในบ่อ สระ เกิดการขุ่นข้น หรือเป็นโคลน โดยไม่มีสาเหตุ
6. อาคาร บ้านเรือนทรุด มีรอยปริแตกบนกำแพง พื้น ทางเดินเท้า และพื้นดิน

สิ่งบอกเหตุก่อนเกิดหลุมยุบและโพรงยุบในพื้นที่ราบที่อยู่ใกล้เขาหินปูน

1. เกิดเสียงดังคล้ายเสียงฟ้าร้องจากใต้ดิน ซึ่งเป็นผลมาจากการถล่มของเพดาน โพรงหินปูนใต้ดินหล่นลงมากระแทกพื้นถ้ำใต้ดิน ก่อนที่จะเกิดการยุบตัวของหลุมในเวลาต่อมา ซึ่งอาจจะหลายนาที หลายชั่วโมงหรือเป็นวันก็ได้
2. บางกรณีจะมีน้ำทะลักพุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน ภายหลังการเกิดเสียงดังจากใต้ดิน เนื่องจากเกิดการยุบถล่มของเพดานถ้ำที่มีน้ำอยู่ในโพรงใต้ดิน
3. ก่อนเกิดการยุบตัว พื้นดินรอบข้างจะมีรอยแตกร้าวอย่างผิดสังเกต ซึ่งรูปร่างของพื้นที่ที่พบรอยแตกร้าว ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นวงกลมหรือวงรี คล้ายร่างแหหรือใยแมงมุม ขนาดของพื้นที่ที่พบรอยแตกร้าวจะใกล้เคียงกับขนาดโพรงหรือถ้ำที่อยู่ใต้ดิน โดยทั่วไปมีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 5 เมตร
4. สิ่งก่อสร้างที่หยั่งลึกลงไปในดิน เช่นท่อน้ำ เสา รั้ว จะมีลักษณะคดโค้งหรือเลื่อนตัวผิดสังเกต
5. บางครั้งจะพบว่าน้ำตามบ่อบาดาลหรือบ่อน้ำที่อยู่ใกล้เคียงจะมีสีขุ่นข้นหรือเป็นโคลน อันเนื่องจากการพังทลายของผนังถ้ำ

ข้อปฏิบัติตนในกรณีที่พบสิ่งบอกเหตุเกิดหลุมยุบและโพรงยุบในพื้นที่ราบที่อยู๋ใกล้เขาหินปูน

1. เมื่อได้ยินเสียงดัง หรือพบสิ่งบอกเหตุอื่นๆ ข้างต้น ให้รีบออกจากบริเวณนั้นทันที หรือถ้าเป็นเขตบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ให้อพยพออกไปจากจุดนั้นอย่างน้อย 100 เมตร
2. ให้รีบแจ้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยด่วน เพื่อทำการกั้นเขต
3. สังเกตเบื้องต้นถึงขนาด และทิศทางการขยายตัวของสิ่งบอกเหตุเกิดหลุมยุบ ถ้าเป็นลักษณะวงกลมหรือวงรี ให้กั้นแนวห้ามเข้าใกล้อย่างน้อย 10-15 เมตร จากบริเวณนั้น แต่ถ้ามีลักษณะเป็นแนวยาว ให้กั้นแนวห้ามเข้าบริเวณปลายทั้งสองเพิ่มกว่าปกติ เนื่องจากการขยายตัวของหลุมจะอยู่ในแนวยาว
4. ทำรั้วกันพื้นที่รอบทิศ ติดป้ายประกาศเตือนภัยตามแบบประกาศเตือนภัยหลุมยุบของกรมทรัพยากรธรณี หรือป้ายเตือนอื่นๆ ที่มองเห็นได้ชัดเจนในระยะไม่ต่ำกว่า 50 เมตร อย่างน้อย 4 ด้าน
5. หลังจากเกิดสิ่งบอกเหตุ อาจจะเกิดหลุมยุบภายในระยะเวลาไม่กี่นาที หรืออาจขยายไปถึงหลายวัน ดังนั้นพึงระวังไว้ว่าไม่ควรเข้าใกล้พื้นที่ดังกล่าว ถึงแม้ว่าจะไม่เกิดหลุมยุบก็ตาม ทั้งนี้ควรให้เจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรธรณีหรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตรวจสอบ

แผนที่แสดงพื้นที่มีโอกาสเกิดหลุมยุบ แสดงเป็น PDF File http://www.dmr.go.th/geohazard/sinkhole/thailand.pdf หลุมยุบ แสดงเป็น PDF File http://www.dmr.go.th/brochure/snkhle/sh.pdf




ที่มา http://www.dmr.go.th/geohazard/sinkhole/sinkholemanual.htm

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สตักซ์เน็ตเอาไม่อยู่! ผู้เชี่ยวชาญเผย “โครงการนุกอิหร่าน” ยังเดินหน้าเต็มสูบ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>21 มิถุนายน 2555 11:22 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>


<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js" gapi_processed="true"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=460><TBODY><TR><TD vAlign=top width=460 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>โรงเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่านที่เมืองนาตันซ์ (ภาพ: www.nti.org)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านยังคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และไม่สะดุ้งสะเทือนจากการโจมตีของหนอนคอมพิวเตอร์ “สตักซ์เน็ต” แม้แต่น้อย ผู้เชี่ยวชาญแถลงต่อสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (20)

คณะผู้เชี่ยวชาญแถลงต่อคณะกรรมาธิการทหารแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ว่า อิหร่านอาจผลิตวัสดุฟิสไซล์ได้มากพอที่จะผลิตอาวุธนิวเคลียร์ภายใน 4 เดือนข้างหน้า หากผู้นำประเทศตัดสินใจทำเช่นนั้น

ข้อมูลจากทบวงการปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ระบุว่า “เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า อิหร่านจะสามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้อย่างรวดเร็ว หากปรารถนาจะทำ” สตีเฟน เรดเมเกอร์ จากศูนย์นโยบายร่วม 2 พรรค (Bipartisan Policy center) กล่าว

ไอเออีเอเผยว่า อิหร่านผลิตยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ 3.5% ได้แล้วประมาณ 3,345 กิโลกรัม ซึ่งหากนำไปเสริมสมรรถนะต่อ จะสามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 2 ลูก

หากรัฐบาลอิหร่านมุ่งหมายจะผลิตระเบิดนิวเคลียร์ “ก็จะใช้เวลาแค่ราวๆ 35-106 วัน เพื่อผลิตวัสดุฟิสไซล์ให้ได้จำนวนเพียงพอ” เรดเมเกอร์กล่าว

เดวิด อัลไบรท์ ประธานสถาบันวิทยาศาสตร์และความมั่นคงระหว่างประเทศ (ไอเอสไอเอส) แจ้งต่อคณะกรรมาธิการเช่นกันว่า “อิหร่านต้องการเวลาอีกราว 4 เดือน เพื่อผลิตยูเรเนียมเกรดอาวุธ... ไว้ทำเป็นระเบิด”

ทั้งนี้ ยูเรเนียม 235 ที่จะผลิตเป็นระเบิดนิวเคลียร์ จะต้องผ่านการเสริมสมรรถนะถึง 90%

เตหะรานมีเครื่องหมุนเหวี่ยง (centrifuge) กว่า 9,000 ตัวที่สามารถผลิตยูเรเนียม 3.5% ได้ 158 กิโลกรัมต่อเดือน หรือประมาณ 3 เท่าของอัตราการผลิตในช่วงกลางปี 2009 ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ของโรงงานนิวเคลียร์นาตันซ์ถูกไวรัสสตักซ์เน็ตโจมตี

“สตักซ์เน็ตอาจทำให้พวกเขาสะดุด แต่ความเสียหายไม่ได้รุนแรงอะไร” เรดเมเกอร์กล่าว

หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ต่างอนุมัติแผนใช้ไวรัสสตักซ์เน็ตเข้าขัดขวางโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่โลกได้รับรู้แผนของสหรัฐฯ ที่จะใช้ไวรัสคอมพิวเตอร์โจมตีประเทศอื่น

ด้านหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เชื่อว่า ผู้นำอิหร่านยังไม่ตัดสินใจผลิตอาวุธนิวเคลียร์ในขณะนี้ แม้จะพยายามเดินหน้าโครงการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ตลอดจนกิจกรรมอื่นๆ ที่จะนำไปสู่การผลิตอาวุธดังกล่าวได้ก็ตาม

อัลไบรท์ชี้ว่า หากอิหร่านตัดสินใจผลิตยูเรเนียมเกรดอาวุธจริง ทั้งไอเออีเอ และหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ จะทราบความเคลื่อนไหวได้ภายใน 1-3 สัปดาห์
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>คน “บางระกำโมเดล” เร่งมือเกี่ยวข้าวสดขายไม่หยุด หวั่นน้ำระลอกใหม่ท่วมซ้ำ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>21 มิถุนายน 2555 10:36 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>


<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js" gapi_processed="true"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=right></TD><TD height=1 vAlign=bottom background=/images/linedot_hori.gif align=middle></TD><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle></TD><TD><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle></TD></TR><TR><TD height=1 vAlign=top width=1 align=right></TD><TD height=1 vAlign=top background=/images/linedot_hori.gif align=middle></TD><TD height=1 vAlign=top width=1 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>พิษณุโลก - คนพื้นที่ “บางระกำโมเดล” ยังคงต้องเร่งเกี่ยวข้าวหนีน้ำท่วม ผวาน้ำเหนือซ้ำอีกระลอก ด้าน ผอ.ชลประทานพิษณุโลกยืนยันเพิ่มเครื่องจักรขุดลอกคลองให้เสร็จทันสิงหาฯ นี้แน่ ขณะที่ 2 เจ้าอาวาสวัดดังโร่ปลอบขวัญเลี้ยงข้าวเด็กนักเรียนบ้านตระแบกงาม หลังน้ำเหนือทะลักเข้าโรงเรียน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิษณุโลกว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในเขตอำเภอบางระกำ จ.พิษณุโลก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลายหน่วยงานระดมสรรพกำลังลงในพื้นที่บางระกำโมเดล หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยกคณะลงตรวจพื้นที่ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ แม้กระทั่งกรมประมงก็ต้องระดมแจกจ่ายพันธุ์ปลาผ่าน อบต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ ท่ามกลางเครื่องมือเครื่องจักรของชลประทานจังหวัดพิษณุโลกกำลังเร่งทำงาน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของชาวบ้านในเขตบางระกำโมเดลนั้นกลับต้องเร่งมือเก็บเกี่ยวข้าวข้างคันคูคลองชลประทาน เพราะหลายคนยังเชื่อว่าน้ำเหนืออาจเข้ามาซ้ำเติมอีกรอบ จนเหมือนเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 54 ที่ผ่านมา

โดยชาวนาบางระกำหลายคนที่น้ำยังท่วมไม่ถึงต่างว่าจ้างให้รถเกี่ยวข้าวเก็บเกี่ยวข้าวให้แล้วเสร็จ แม้นาข้าวจะอยู่ใกล้กับคันคลองคลองเกตุ-คลองกล่ำ ม.9 ต.ชุมแสงสงคราม ก็ต้องรีบเร่งเก็บเกี่ยว ส่วนบางรายที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำจะท่วมต่างผวารีบเก็บเกี่ยวข้าว แม้ข้าวยังเขียวก็ตาม

เช่นเดียวกับอีกฟากฝั่งของตัวเมืองพิษณุโลกในแถบ ต.แม่ระหัน อ.เมืองพิษณุโลก มีชาวนากว่า 20 รายว่าจ้างรถเกี่ยวข้าวในราคาไร่ละ 450 บาท เกี่ยวข้าวที่เขียวสดไปขายให้โรงสีเพราะกลัวน้ำเหนือไหลบ่าท่วมมาซ้ำอีก

นายบุญเลิศ มีชัย อายุ 50 ปี ชาวนาหมู่ 10 บ้านแม่ระหัน อ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ตนทำนากว่า 40 ไร่ สัปดาห์ที่ผ่านมาน้ำเหนือจากสุโขทัยไหลเข้าท่วมนาข้าวจนเกือบมิดรวง แต่บังเอิญน้ำลดระดับลงก่อน ท่วมไม่มิด จึงต้องนำเรือเกี่ยวข้าวที่เหลือทันที

“อย่างไรแล้วก็เชื่อว่าน้ำเหนือปีนี้คงไหลมาซ้ำอีกระลอกแน่”

ด้านนายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผู้อำนวยการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า งานก่อสร้างและขุดลอกกำลังเร่งให้เสร็จทันในเดือนสิงหาคม 55 นี้ตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการ เพราะได้เรียกประชุมผู้รับเหมาให้เพิ่มคนและเครื่องจักรแล้ว น่าจะรับมือน้ำเหนือช่วงฤดูฝนนี้ให้น้ำไหลผ่านอย่างสะดวก ประเมินว่าปริมาณน้ำปีนี้คงมาเร็วเหมือนปี 54

อย่างไรก็ตาม แก้มลิงที่เป็นแหล่งรับน้ำนั้นก็ดำเนินการทั้งบึงขี้แร้ง, บึงตะเคร็ง, บึงระมาณ อ.บางระกำ ให้เสร็จรับน้ำในระยะยาว รวมไปถึงบึงสะเดา อ.วังทอง ถึงแม้นายกรัฐมนตรีไม่ได้ลงไปตรวจในพื้นที่ก็จะดำเนินการสร้างให้เป็นแหล่งรับน้ำที่ไหลบ่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ผ่านมาทางอำเภอวังทอง ดักทางน้ำก่อนไปไหลรวมที่จังหวัดพิจิตร

ขณะที่นายเมธา คชาภิชาติ นักวิชาการประมงชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด
พร้อมคณะ ได้เดินทางไปปล่อยปลาลงคลองเกตุ-คลองกล่ำ เขต ม.9 ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จำนวน 10,000 ตัว อาทิ ปลาตะเพียน ปลานิล และปลายี่สก พร้อมปล่อยลูกกบลงแปลงนาของชาวบ้าน

นายกิตติพงษ์ ในไพศาล ประมงอำเภอบางระกำ กล่าวว่า ทางประมงอำเภอร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด อบต.ชุมแสงสงคราม และประชาชนร่วมกันปล่อยสัตว์น้ำลงในแหล่งน้ำแห่งใหม่ โครงการ “ปล่อยกบลงนา ปล่อยปลาลงหนอง” ในคลองเกตุ-คลองกล่ำ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำในโครงการ “บางระกำโมเดล” ที่กำลังดำเนินการเพื่อให้มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์และเป็นแหล่งอาหารของคนในพื้นที่ต่อไปในอนาคต

พร้อมกันนั้น พระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ และพระครูเกษมวาปีพิสัย เจ้าอาวาสวัดบึงกระดาน อ.เมืองพิษณุโลก ได้จัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านตระแบกงาม ม.9 ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ตามที่โรงเรียนขอความอนุเคราะห์ให้ทางวัดช่วยเหลืออาหารกลางวันแก่เด็กนักเรียน เพราะเป็นโรงเรียนระดับชั้นประถม แต่ยังขาดความพร้อม อีกทั้งปี 54 ที่ผ่านมาก็ประสบภาวะน้ำท่วมใหญ่

นางสุณี ไวกสิกรณ์ ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า โรงเรียนบ้านตระแบกงามมีนักเรียนระดับประถมจำนวน 78 คน และนักเรียนอนุบาลอีก 12 คน รวม 90 คน โรงเรียนมีโครงการจัดอาหารกลางวันเลี้ยงเด็ก แต่บางครั้งไม่เพียงพอ จึงขอความเมตตาจากเจ้าอาวาสวัดราชบูรณะนำอาหารกลางวันมาจัดเลี้ยงเด็กนักเรียน ตลอดทั้งยังได้รับมอบเงินช่วยเหลือเป็นทุนอาหารแก่โรงเรียนส่วนหนึ่งสำหรับช่วยเหลือช่วงน้ำท่วมที่กำลังจะมาถึง

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

21 มิ.ย. 55 เรดาห์ที่สนามบินสุวรรณภูมิเสีย 18.45-19.00 น. โดยช่วงเวลาดังกล่าวให้ใช้สนามบินอู่ตะเภาแทน
จากวิทยุข่าว FM 96.5MHz กทม. 22.05 น.

เรดาร์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขัดข้อง ส่งผลกระทบ6เที่ยวบินต้องเปลี่ยนสถานที่ลงจอดอู่ตะเภาแทน

วันนี้ (21มิ.ย.) น.ต.ประจักษ์ สัจจโสภณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย(บวท.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.00น. ระบบเรดาร์ที่สนามบินสุวรรณภูมิขัดข้อง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิทยุสื่อสารเพื่อนำเครื่องบินลงสนามบินอู่ตะเภา 6 เที่ยวบิน และบินรอ 20 เที่ยวบิน หลังจากใช้เวลาแก้ไขระบบเรดาร์แล้วเสร็จในเวลาประมาณ 18.30 น. จึงใช้งานได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ระบบเรดาร์ยังใช้การไม่ได้ ทางบวท.ได้แจ้งไปยังสายการบินทั้งในและต่างประเทศให้ชะลอการนำเครื่องบินขึ้น

สำหรับ เที่ยวบินทั้ง 6 เที่ยวบิน ที่ไปลงสนามบินอู่ตะเภา ได้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเซีย 2 เที่ยวบิน สยามแอร์ 1 เที่ยวบิน การบินไทย 1 เที่ยวบิน ซาอุดิอาระเบีย 1 เที่ยวบิน และนกแอร์ 1 เที่ยวบิน ทั้งนี้ สาเหตุที่นกแอร์ต้องลงที่อู่ตะเภาเพราะเรดาร์ที่สุวรรณภูมิเชื่อมต่อกับสนามบินดอนเมือง
Ref.: โพสต์ ทูเดย์