WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

อาจจะมีข้อจำกัดบางประการของดาวเทียมสอดแนม จึงต้องใช้เครื่องบินสอดแนม ยังเห็นได้ว่า US ยังมีการผลิตเครื่องแบบนี้ประจำการในกองทัพ เช่น อาจจะได้ข้อมูลที่มีความละเอียด เป็นปัจจุบัน ตรงตามความจริงได้มากกว่า คือสามารถสั่งปฏิบัติการได้ทันเวลา หรือเพื่อเตรียมปฏิบัติการสนับสนุนภารกิจบางประการอย่างใกล้ชิด

 

เหนือ-อีสานยังคงมีฝนกระจาย ส่วนภาคอื่นๆมีฝนน้อยลง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 มิถุนายน 2555 05:52 น.

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน 2555 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมอ่าวตังเกี๋ย

ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังคงมีฝนกระจาย สำหรับบริเวณอื่นๆจะมีฝนลดลง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร และพิษณุโลก อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร และนครพนม อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

 

สื่อแพร่ภาพเมฆรูปหมวกโผล่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิในญี่ปุ่น

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 มิถุนายน 2555 05:30 น.

สื่อแพร่ภาพมหัศจรรย์ธรรมชาติ ก้อนเมฆรูปหมวกลอยตระหง่านอยู่เหนือท้องฟ้าญี่ปุ่น ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญชี้มันอาจมีต้นตอจากพายุไต้ฝุ่นลูกหนึ่งที่พัดถล่มแดนปลาดิบในช่วงเวลาดังกล่าว

ปรากฏการณ์การก่อตัวของเมฆลักษณะนี้ ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า "สึรูชิ-กูโม่" ซึ่งหมายถึงเมฆแขวน

เหล่านักวิทยาศาสตร์ระบุว่าปรากฏการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นในสองกรณีคือเมื่อกระแสลมรอบๆภูเขาไฟฟูจิ มีกำลังแรงหรือเกิดจากอิทธิพลของพายุ




ขอบคุณภาพ จาก Video: Rare hat-shaped cloud appears near Mount Fuji

 

สสจ.นครราชสีมา สั่งคุมเข้ม ผู้ป่วยที่มีอาการป่วยเข้าข่ายไข้หวัดใหญ่ 2009



ความคืบหน้าสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 ภายในโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 41 รายนั้น โดยเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล 6 คน ซึ่งไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน และผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษา 35 คน ซึ่งถูกกักบริเวณเพื่อควบคุมการแพร่เชื้ออยู่ในตึกผู้ป่วยในทั้งหมดนั้น ขณะนี้โรงพยาบาลสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้แน่นอนแล้ว และยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มเติมจาก 41 รายแรกแต่อย่างใด และเฝ้าดูอาการเป็นเวลา 14 วัน น.พ.วิชัย ขัตติยวิทยากุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ยืนยันว่า ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมามีมาตรการควบคุมการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 อย่างดี โดยก่อนหน้าที่จะมีการประชุม สั่งการให้โรงพยาบาลทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ให้ตั้งจุดคัดกรองผู้ป่วยอย่างเข้มข้นโดยให้ใช้เครื่องมือวัดอุณหภูมิร่างกาย คอยคัดกรองผู้ที่เข้าออกภายในอาคารทุกแห่ง หากพบว่า เป็นไข้ ตัวร้อน และมีอุณหภูมิขึ้นสูงถึง 38 องศาเซลเซียส ขึ้นไป ก็จะทำการส่งตัวไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง หากพบว่ามีไข้สูงมาก ก็จะส่งตัวรักษาไปที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาทันที อีกทั้งยังได้แจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้กับผู้มาใช้บริการทุกคน ที่มาใช้บริการที่โรงพยาบาลทุกแห่ง

 

ตามคาดการ การใช้มันคงจะมีความแตกต่างเหมือน เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์B2 กับ เครื่องบินขับไล่โจมตีทิ้งระเบิดF15 ผมเคยเห็นมีดาวบนท้องฟ้ามันวิ่งไป กลับมาบนท้องฟ้า วนเวียนแบบนี้ตลอดเวลา คาดเป็นดาวเทียมทหารของ US เพื่อติดตามบังคับบัญชา/ป้องกัน/เป็นตาให้กองเรือที่ 7 ตอนกองเรือที่ 7 ของ us มาฝึกที่ชลบุรี (ตอนนั้นไปฝึกภาคสนามที่หาดยาว สถานที่ฝึกคอบร้าโกลด์ )
เรื่อง จับอาวุธสงคราม คาดว่าเป็นการหักเหลี่ยมกันระหว่าง ค่ายอินทรี กับ ค่ายหมีขาว อีกฝ่ายสร้างสถานการณ์แล้วเสนอขายอาวุธ อีกฝ่ายขายแบบห้างสรรพสินค้าอาวุธ ใคร่ซื้อ ซื้อแบบช้อปปิ้งเสรี เขาขายแบบมีโชว์รูม เข้าไปช้อปปิ้งได้ ตามทราบมา คนนำอาวุธมา ถูกส่งไป US แล้ว

 

ดูแล้วไม่ไกลจาก Lake Toba ซึ่งเป็น supervolcano เท่าไร ต้องคอยมองๆ

 

ดินไหวเกาะสุมาตรา 6.3ริกเตอร์ - ตึกสูงภูเก็ต,สงขลารู้สึก

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2555 12:34น



แผ่นดินไหว เหนือเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนิเซีย ขนาด 6.3 ริกเตอร์ มีรายงานตึกสูง ภูเก็ต-สงขลา รู้สึกถึงแรงสะเทือน แต่ไม่กระทบไทย

สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า เมื่อเวลา 11.34 น. ที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวบริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนิเซีย ที่ความลึก 86 ก.ม. มีขนาด 6.3 ริกเตอร์ เบื้องต้นรายงานว่า ประชาชนที่อยู่ในตึกสูง จ.ภูเก็ต และ จ.สงขลา รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้

B5 - War Room Falkman

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชาวบ้านมาบตาพุดตื่น หลังเกิดเหตุก๊าซไนโตรเจน บ.ปตท.รั่วไหล</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>22 มิถุนายน 2555 19:12 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js" gapi_processed="true"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9550000076915&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ศูนย์ข่าวศรีราชา -ชาวมาบตาพุด ตื่นตระหนกอีกครั้งหลังเกิดเหตุก๊าซไนโตรเจน ของ บริษัท ปตท.รั่วไหล คาดอาจเกิดจากคนงานของ บริษัทผู้รับเหมาวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติโครงการเส้นที่ 4 ระยอง-แก่งคอย ขุดแนวท่อกระทบท่อส่งก๊าซ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00น.วันนี้ ( 22 มิถุนายน) ได้รับแจ้งว่ามีเหตุก๊าซรั่วไหลบริเวณแนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ใกล้ตลาดลาว ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง สร้างความตื่น ตกใจให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว

จึงสอบถามไปยังนายประทีป เอ่งฉ้วน ผู้อำนวยการ สำนักงาน การนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง ทราบว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีเหตุก๊าซรั่วจริง และเป็นก๊าซ ของ ปตท.ไม่ใช่ของการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยก๊าซที่รั่วไหล เป็นก๊าซไนโตรเจน ซึ่งเป็นก๊าซเฉื่อย ไม่ใช่ก๊าซไวไฟ และไม่มีอันตราย

สาเหตุเกิดจากบริษัทผู้รับเหมาวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติโครงการเส้นที่ 4 ระยอง-แก่งคอย ซึ่งอยู่ระหว่างการขุดแนวท่อขนาด 4 นิ้ว ตามแนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง คาดว่าคนงานอาจจะขุดไปโดนท่อไนโตรเจนของ ปตท.ที่ฝังอยู่ใต้ดินแนวเดียวกัน ทำให้ก๊าซไนโตรเจนรั่วไหล หรืออาจมีการใส่ก๊าซไนโตรเจนเข้าไปในท่อป้องกันการเกิดสนิม

ทำให้มีแรงดันจนเกิดการรั่วทำให้ก๊าซไนโตรเจนรั่วไหลออกมาจากท่อ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเจ้าหน้าที่ของ ปตท.ได้เข้าไปซ่อมแซมท่อที่รั่วไหลแล้ว.


B5 - War Room Falkman


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เจอถี่ๆ เวียดนามสยอง โผล่ในอ่าวอีก 2 ฉลามขาวล้วน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>23 มิถุนายน 2555 05:44 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js" gapi_processed="true"> {lang: 'th'}</SCRIPT>

<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9550000077036&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=599><TBODY><TR><TD vAlign=top width=599 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
เจ้าตัวเล็กเคราะห์ร้ายยาว 1.5 เมตรติดอวนเป็นตัวล่าสุดในวันที่ 13 มิ.ย. ห่างจากชายหาดราว 200 เมตรเท่านั้น ชาวบ้านตามไปดูด้วยตาเมื่อรู้ว่ามันเป็นฉลามขาวซึ่งในอ่าวท่องเที่ยวแห่งนี้ไม่เคยมีใครจับได้มาก่อน ก็จึงมีการตั้งคำถามว่า "แล้วตัวแม่จะมาด้วยหรือไม่" หลายปีมานี้ชาวประมงจับปลาฉลามขึ้นจากอ่าวกวีเญิน (Quy Nhơn) ใน จ.บี่งดิง (Bình Định) ได้นับร้อยตัว นักวิทยาศาสตร์ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่า เพราะเหตุใดฉลามจึงชอบที่นี่เป็นพิเศษ.-- ภาพ: Báo Đất Việt. </B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> .

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- เจ้าหน้าที่เวียดนามงงไม่หาย แม้จะหามาตรการป้องกันอย่างไร ปลาฉลามก็ยังคงแวะเวียนเข้าไปในอ่าวท่องเที่ยวในภาคกลางสม่ำเสมอ และในช่วงห่างกันไม่ถึง 2 สัปดาห์จับได้อีก 2 แม้จะตัวเล็กก็จริง แต่คราวนี้เป็นฉลามขาวล้วนๆ ซึ่งทำให้อ่าวที่นักท่องเที่ยวเคยพลุกพล่านเงียบเหงา กลายเป็นอ่าวฉลาม

ฉลามขาว (Great White Shark) ได้ชื่อเป็นพันธุ์ดุร้ายที่สุดในโลก แม้มันจะไม่ได้ดุดันหรือฉลาดหลักแหลมอย่างที่เห็นในภาพยนตร์ "Jaws" ซึ่งเคยทำให้นักเล่นน้ำทั่วโลกสยดสยองเมื่อกว่า 20 ปีก่อนก็ตาม แต่ 2 ตัวที่พบในอ่าวกวีเญิน (Quy Nhơn) จ.บี่งดิง (Bình Định) ในปลายเดือน พ.ค. กับต้นเดือนนี้ เพียงพอทำให้นักท่องเที่ยวขวัญหนีดีฝ่อ ไม่ย่างลงไปเล่นน้ำเหมือนเมื่อก่อน สื่อของทางการกล่าว

ชาวประมงจับฉลามขาวขนาดเล็กได้ล่าสุดในวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยติดอวนลากขึ้นจากอ่าว ถึงแม้จะยาวเพียง 1.5 เมตร ชั่งน้ำหนักได้เพียง 60 กก. แต่ผู้ที่พบเห็นก็ตกใจ เมื่อรู้ว่าเป็นฉลามขาว เนื่องจากไม่เคยมีผู้ใดจับได้ฉลามพันธุ์นี้มาก่อนในบริเวณอ่าวกวีเญิน

เมื่อข่าวสะพัดออกไปทำให้ชาวบ้านร้านตลาดตามไปดูฉลามขาวด้วยตาตนเองจนเนืองแน่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ “เดิ๊ตเหวียด” (Báo Đất Việt) ภาษาเวียดนามรายงาน

ก่อนหน้านี้ในตอนเช้าวันที่ 27 พ.ค. ฉลามอีกตัวติดอวนลากปูของชาวประมง ขณะอยู่ห่างชายหาดราว 200 เมตรเท่านั้น เมื่อนำขึ้นฝั่งจึงพบว่าเป็นฉลามขาว และนั่นคือยามเช้าที่มักจะมีนักเล่นน้ำลงไปว่ายน้ำออกกกำลังกายเสมอๆ

"เมื่อมีตัวเล็กมันก็อาจจะมีตัวโตเช่นกัน" นายเหวียนวันหาย (Nguyễn Văn Hải) เจ้าของเรือหาปูวัย 36 ปีกล่าว

คำพูดนี้ทำให้ทุกคนนึกถึงเหตุการณ์ในเดือน ก.ค.2552 ซึ่งชาวประมงจากจังหวัดใกล้เคียงล่าฉลามขนาดใหญ่ขึ้นจากอ่าวกวีเญินได้ถึง 2 ตัว ตัวแรกหนักราว 1 ตัน ต่อมาไม่นานก็ลากขึ้นจากน้ำอีกตัวหนักกว่าครึ่งตัน แม้ว่าจะไม่ใช่ฉลามขาว แต่มันก็ทำร้ายคนได้หากตกใจหรือหิวจัด ผู้เชี่ยวชาญแห่งสถาบันสมุทรศาสตร์เมืองญาจางกล่าว
.

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=490><TBODY><TR><TD vAlign=top width=490 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
เจ้าตัวเล็กนักราว 80 กก.ตัวนี้ติดอวนลากขึ้นมาในวันที่ 27 พ.ค. ให้เป็นที่หวาดผวา ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่ามันเป็นฉลามขาวตัวที่ยังเล็ก และเป็นฉลามพันธุ์ดุร้ายตัวแรกที่จับได้ในอ่าวกวีเญิน (Quy Nhơn) ใน จ.บี่งดิง (Bình Định) ซึ่งฉลามชุกชุมมาก ตอนนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำอีก กลายเป็นอ่าวฉลามไปโดยปริยาย.-- ภาพ: Báo Đất Việt. </B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350><TBODY><TR><TD vAlign=top width=350 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
ตัวนี้หนักกว่าครึ่งตัน ชาวประมงลากขึ้นมาได้ในเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว ในเดือนนั้นมีฉลามขนาดต่างๆ ติดอวนขึ้นมาถึง 6 ตัว เพียงแต่ว่าไม่ใช่ฉลามขาว นักท่องเที่ยวยังพอทำใจได้.-- ภาพ: Báo Đất Việt. </B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=549><TBODY><TR><TD vAlign=top width=549 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
เจ้าตัวนี้หนัก 1 ตันหรือ 1,000 กก. ชาวประมงจากจังหวัดใกล้เคียงล่าขึ้นจากอ่าวกวีเญิน (Quy Nhơn) เพื่อเงินรางวัล ดูจากขนาดของปากแล้ว มันคงกลืนเจ้าหนูที่ยืนดูอยู่ข้างๆ ได้สบาย เป็นฉลามขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจับได้ในอ่าวท่องเที่ยวแห่งนี้ .. แล้วจะมีมาอีกหรือไม่?. -- ภาพ: [FILE] VietnamExpress.</B> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=460><TBODY><TR><TD vAlign=top width=460 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
นี่ก็อีกตัวที่ลากขึ้นจากอ่าวกวีเญิน (Quy Nhơn) ปีที่แล้ว แม้ไม่ใช่ฉลามขาวแต่ก็ทำให้นักท่องเที่ยวสยองได้เช่นกัน นักวิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบไม่ได้ว่า เพราะเหตุใดฉลามจึงชอบอ่าวท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นพิเศษ.-- ภาพ: [FILE] VietnamExpress.</B> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> .
หลายปีมานี้ชาวประมงจับได้ปลาฉลามขนาดเล็กจำนวนมาก ทำให้ทางการ จ.บี่งดิง ต้องย้ายแพปลาออกไปให้ห่างจากอ่าวท่องเที่ยว และห้ามเลี้ยงปลาในกระชังภายในบริเวณอ่าวเด็ดขาด โดยเชื่อว่าทั้งหมดเป็นเหยื่อล่อให้ฉลามเข้าไปหากินใกล้ฝั่ง แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น ชาวประมงยังจับฉลามได้เรื่อยๆ

เดือน เม.ย.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สถาบันสมุทรศาสตร์เมืองญาจาง (Nha Trang) จ.แค๊งฮว่า (Khánh Hòa) ที่อยู่ใต้ลงไป ซึ่งช่วยทางการเมืองกวีเญิน ศึกษาปัญหาปลาฉลามได้นำลวดตาข่ายลงไปติดตั้งรอบๆ อ่าวโดยเชื่อว่าจะกันฉลามไม่ให้เข้าไปในเขตที่ผู้คนลงเล่นน้ำได้

แต่นอกเขตลวดตาข่ายออกไป ปลาฉลามก็ยังคงชุกชุม หนังสือพิมพ์ออนไลน์ภาษาเวียดนามกล่าว

ห่างออกไปจากหาดกวีเญินราว 2 ไมล์ทะเล ใน 2 สัปดาห์แรกเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว เรือประมงลำเดียวลากฉลามเข้าฝั่งได้ถึง 6 ตัว ในการออกหาปลา 6 ครั้ง และเมื่อฉลามติดอวนก็จะต้องแล่นกลับเข้าฝั่งเพื่อจัดการกับมันก่อน จึงจะกลับออกไปลากอวนต่อได้ ซึ่งทำให้เสียเวลาและเพิ่มค่าใช้จ่ายให้อีก

ชาวประมงในแถบนี้จึงพากันเกลียดฉลาม แต่หลายคนก็ชอบครีบของมันที่เรียกว่า "หูฉลาม" เพราะขายได้ราคาดี สื่อออนไลน์กล่าว

ช่วง 2 ปีมานี้ชาวประมงจับฉลามขนาดเล็กน้ำหนัก 20-50 กก.ขึ้นจากอ่าวแห่งนี้ได้นับร้อยตัว หลังจากมีนักว่ายน้ำถูก "สัตว์น้ำลึกลับ" ไล่งับหรือถูกทำร้ายไปนับสิบคนก่อนหน้านั้น

นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญแห่งสถาบันสมุทรศาสตร์ฯ ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเพราะเหตุใดปลาฉลามจึงชอบอ่าวกวีเญินมากเป็นพิเศษ แต่ก็หวังว่าลวดตาข่าย จะสามารถกันฉลามขนาดใหญ่ได้ หากปลายักษ์พวกนั้นจะกลับไปที่นั่นอีก.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
B5 - War Room Falkman

 

อิตาลีเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด

23 มิย. 55 11:51:29น.



อิตาลีเผชิญอากาศร้อนอบอ้าว ทำให้ประชาชนต้องออกมาคลายร้อนด้วยวิธีต่างๆ ขณะที่กรมอุตุฯ เผยว่า อุณหภูมิอาจพุ่งสูงถึง38องศาในช่วงสุดสัปดาห์นี้


สถานการณ์ยุโรปในตอนนี้เข้าสู่ช่วงหน้าร้อน ประเทศอิตาลีกำลังเผชิญคลื่นความร้อนที่แผ่กระจายไปทั่ว ส่งผลให้อุณหภูมิสูงอยู่ที่ 35 องศา มาหลายวัน ทำให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวต่างต้องออกมาหาวิธีคลายร้อนแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่ที่บริเวณน้ำพุจะมีประชาชนรวมกันอยู่มากเป็นพิเศษ สำหรับบางครอบครัวก็วิ่งเข้าไปกรูอยู่กลางศาลาไอน้ำเพิ่มความเย็น ซึ่งอากาศร้อนตอนนี้ทำให้ไม่มีผู้ใดมองหาพาสต้า หรือ พิซซ่าทาน แต่ในทางตรงกันข้ามทำให้เจลาโต้ หรือ ไอศครีมและผลไม้แช่เย็นขายดี



ทางด้านสวนสัตว์ในกรุงโรม เจ้าหน้าที่ต้องช่วยคลายร้อนให้กับสัตว์ต่างๆ เช่น หมี ช้าง ลิง เป็นต้น ทั้งนี้ล่าสุดกรมอุตุนิยมของอิตาลี เผยว่า อุณหภูมิอาจพุ่งสูงถึง 38 องศาเซลเซียส ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ และจะค่อยลดลงไป จนกระทั่งต้นเดือนกรกฎาจะร้อนจัดขึ้นอีกรอบ

B5 - War Room Falkman

 

ตอนเช้าใครบอกว่าราบเรียบดีจัง