พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  2. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    วันนี้ (27 - 7 - 50)
    ผมได้โอนเงิน จำนวน 1,000.- บาท นับ 1 ครับ

    สาธุ

    ขออุทิศกุศลผลบุญแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
    พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระพุทธเจ้ามหาจักพรรดิ์
    พระอรหันต์ พระอนาคามี พระสกิทาคามี พระโสดาบัน พระสุปฏิปันโน
    หลวงปู่บรมครูโลกเทพอุดร พลวงปู่สมเด็จโต หลวงปู่ทวด
    หลวงปู่มั่น หลวงปู่ปาน ปลวงปู่ฤาษีลิงดำ หลวงปู่ดู่
    บรรพบุรุษท่านทั้งหลาย พ่อแม่ท่านทั้งหลายทั้งในอดีตชาติ
    ญาติๆทั้งหลาย เทวดาทุกชั้น ทุกพรหม ทุกอรูปพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ผี เปรต สัมภเวสี ทุกชั้น สัพพสัตว์ทุงหลาย
    ท่านผู้สร้างพระ เทวดาผู้ดูและพระทุกองค์ เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย

    ขอให้ท่านได้รับผลบุญผลกุศลทั่วหน้าทุกท่านเทอญ

    สาธุครับ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กระทู้ ช่วยกันเช่าพระของหลวงพ่อฤาษีฯรายได้ทั้งหมดมอบให้ทางเวปเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=83574&page=37

    เรียนคุณphumiput<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_629201", true); </SCRIPT> ครับ

    ผมได้รับพระหางหมาก หลวงพ่อฤาษีลิงดำเรียบร้อยแล้วครับ

    ขอบพระคุณมากครับ

    **********************************************

    ผมตั้งใจว่า จะนำพระคำข้าวและพระหางหมากที่ผมประมูลได้นั้น มาถวายพระอาจารย์นิล เพื่อบรรจุในพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง เพื่อสืบทอดอายุพระศาสนา ให้ครบ 5,000 ปี ตามพุทธดำรัสครับ

    โมทนาสาธุครับ
    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มอบพระธาตุสิวลีอรหันต์เถรเจ้า วันอาทิตย์ที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๐ เป็นวันสุดท้าย
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=72693&page=90
    <TABLE class=tborder id=post631914 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> วันนี้, 09:18 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #898 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_631914", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:37 AM
    วันที่สมัคร: Jul 2006
    อายุ: 42 ปี
    ข้อความ: 996 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 8,893 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 8,849 ครั้ง ใน 1,017 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 995 [​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_631914 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ฆฏสูตร

    "คนดีคนเก่งมักถ่อมตัว

    วันหนึ่งพระสารีบุตรอัครสาวกเบื้องขวาเห็นพระโมคคัลลานะอัครสาวกเบื้องซ้ายมีใบหน้าผ่องใสเป็นพิเศษจึงถามว่า

    "ท่านอยู่ด้วยวิหารธรรมอันละเอียดใดหรือวันนี้จึงมีหน้าตาผ่องใสยิ่งนัก"

    พระโมคคัลลานะตอบว่า

    "ผมอยู่ด้วยวิหารธรรมอย่างหยาบแต่ได้ฟังธรรมจากพระโอษฐ์พระพุทธเจ้าจึงมีปีติในธรรมอย่างยิ่ง"


    ครั้งพระสารีบุตรซักว่าพระพุทธองค์ประทับอยู่ไกลจากที่นี้มากท่านเหาะไปเข้าเฝ้าพระองค์หรือพระโมคคัลลานะตอบว่าไม่ได้เหาะไปแต่ฟังด้วยทิพยโสต

    พระโมคคัลลานะเล่าให้พระสารีบุตรฟังต่อไปว่าท่านได้กราบทูลถามพระพุทธองค์ว่าแค่ไหนเพียงไรจึงจะเรียกว่ามีความพากเพียร

    พระพุทธองค์ตรัสว่าต้องตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ว่า"แม้เลือดในร่างกายเราจะเหือดแห้งไปเหลือแต่หนังเอ็นกระดูกก็ตามตราบใดที่ยังไม่บรรลุผลที่พึงบรรลุถึงได้ด้วยความพากเพียรของบุรุษด้วยความบากบั่นของบุรุษจะไม่ยอมหยุดความพยายามอย่างเด็ดขาดต้องมั่งคงถึงขนาดนี้จึงจะเรียกว่าเป็นผู้มีความพากเพียรจริง"

    พระสารีบุตรกล่าวชมเชยว่า

    "ท่านโมคคัลลานะเป็นผู้มีฤทธิ์มากจริงเมื่อเปรียบกันแล้วผมเป็นเสมือนก้อนหินเล็กวางอยู่ต่อหน้าภูเขาใหญ่คนมีฤทธิ์มากอย่างท่านแม้ปรารถนาจะมีชีวิตอยู่ตลอดกัปก็สามารถทำได้"

    พระโมคคัลลานะตอบว่า

    "ท่านสารีบุตรต่างหากเป็นสาวกรูปเดียวที่พระพุทธองค์ตรัสยกย่องว่ามีปัญญามากมีศีลและอุปสมะ (ความสงบ) ถ้าจะเปรียบไปแล้วผมก็เหมือนก้อนเกลือเล็กวางอยู่ข้างหม้อเกลือใหญ่"

    พระสูตรนี้ชื่อฆฏสูตรเนื้อหาว่าด้วยพระอัครสาวกสองรูปสนทนากันต่างก็ยกย่องชมเชยกันด้วยใจจริงถึงความสามารถของอีกฝ่ายหนึ่ง<O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>


    โคตรอภิมหาโมทนาสาธุครับคุณเพชร

    (verygood)
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    ขอบคุณครับ บรรยากาศชุ่มฉ่ำใจ สงบรำลึก
     
  7. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485

    ขอบคุณล้ายหลายเด้อครับ
    ไปไหนไปกัน
    บารมีฉันยังไม่ถึง
    เกี่ยวก้อยร้อยเพิ่ม พลังบุญ
    หลวงปู่คุ้ม ศิษยืพี่จุน สบายแฮ ฮิ ฮิ
    (verygood)
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา Fwd Mail ครับ

    Think for foword

    ภาระ คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ เมื่อเทียบกับปูเสฉวนตัวเล็ก ๆ
    ที่ต้องทนแบกเปลือกหอยหนักกว่าตัวมันถึง 5 เท่า
    ... ไว้ตลอด 24 ชั่วโมง ...

    "เพชร" คือ ถ่านไม้ ที่ถูกกดดันเป็นเวลานานหลายล้านปี
    ถ้าไม่ถูกกดดัน "เพชร" จะกลายเป็นแค่ซากพืชธรรมดา

    ไข่มุก เป็นมะเร็งของหอยชนิดหนึ่ง
    อันเกิดจากสิ่งแปลกปลอมเล็ดลอดเข้าไปในตัว
    แต่มันก็เลือกที่จะต่อสู้จนชนะ ...และได้เป็นสิ่งมีค่ากลับมา

    คนมองโลกในแง่ดี มักหัวเราะ เพื่อลืมเรื่องเศร้า
    แต่คนมองโลกในแง่ร้ายมักลืมหัวเราะ

    คนมองโลกในแง่ร้าย คือผู้ที่เห็นความยุ่งยากในทุกโอกาส
    ขณะที่คนมองโลกในแง่ดีจะเห็นโอกาสในทุกความยุ่งยาก

    "รู้ไหมทำไมคนเราถึงมี 2 ตา 2 หู แต่มีแค่ 1 ปาก

    ...ก้อเพื่อที่จะดูและฟัง ให้มากกว่าพูดไง"
     
  9. littlelucky

    littlelucky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +1,938
    อยากทราบพระธรรมครั้งสุดท้ายซึ่งพระโมคคัลานะแสดง

    <table bgcolor="#e4f3f3" border="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="2"><b>ความคิดเห็นที่ 6 : (โชติปาละ)
    ผมไปหาในพระไตรปิฏกฉบับมหามงกุฏ พบคาถาที่พระโมคคัลลานะกล่าวไว้ รวมทั้งตอนที่กราบลาพระพุทธเจ้าเพื่อปรินิพพาน ผมก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าใช่ธรรมสุด้ายที่พระโมคคัลลานะกล่าวหรือไม่นะครับ ลองพิจารณาดูครับ
    พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๗ - หน้าที่ 589 อรรถกถาสรภังคชาดก

    พระศาสดาเมื่อเสด็จประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงพระปรารภการปรินิพพาน ของพระมหาโมคคัลลานะ ตรัสพระธรรมเทศนานี้มีคำเริ่มต้นว่า อลงฺกตา กุณฺฑลิโน สุวตฺถา ดังนี้.
    ได้ยินว่า พระสารีบุตรเถระกราบทูลให้พระตถาคตเจ้า ซึ่งประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงอนุญาตการปรินิพพานแล้ว เดินทางไปปรินิพพาน ณ ห้องที่ตนเกิดในนาลันทคาม. พระศาสดาทรงสดับข่าวว่า พระสารีบุตรปรินิพพานแล้ว จึงเสด็จไปยังกรุงราชคฤห์ ประทับอยู่ในพระเวฬุวันวิหาร. คราวนั้น พระมหาโมคคัลลานเถระ อยู่ที่กาฬศิลาประเทศ ข้างภูเขาอิสิคิลิ. ก็ท่านพระมหาโมคคัลลานะนั้น เที่ยวไปยังเทวโลกบ้าง อุสสทนรกบ้าง ด้วยความเป็นผู้ถึงที่สุดด้วยกำลังฤทธิ์. ท่านเห็นอิสริยยศใหญ่ของพุทธสาวกในเทวโลก เห็นทุกข์ใหญ่หลวงของติตถิยสาวกในอุสสทนรก แล้วกลับมายังมนุษยโลก แจ้งแก่มนุษย์ทั้งหลายว่า อุบาสกคนโน้น และอุบาสิกาคนโน้นบังเกิดเสวยมหาสมบัติในเทวโลกชื่อโน้น สาวกของเดียรถีย์คนโน้นกับคนโน้นบังเกิดที่นรกเป็นต้น ในอบายชื่อโน้น. มนุษย์ทั้งหลายพากันเลื่อมใสในพระศาสนา ละเลยพวกเดียรถีย์เสีย.

    ลาภสักการะใหญ่หลวงได้มีแก่สาวกของพระพุทธเจ้า. ลาภสักการะของพวกเดียรถีย์ก็เสื่อมลง. พวกเดียรถีย์เหล่านั้นจึงพากันผูกอาฆาตในพระเถระว่า เมื่อพระเถระนี้ยังมีชีวิตอยู่ อุปัฏฐากของพวกเราก็แตกแยก ทั้งลาภสักการะก็เสื่อมลง พวกเราจักฆ่าพระเถระให้ตาย.
    พวกเดียรถีย์ทั้งหลาย จึงจ้างโจรชื่อสมณกุตต์ เป็นเงินพันหนึ่ง เพื่อให้ฆ่าพระเถระ.

    โจรสมณกุตต์คิดว่า เราจักฆ่าพระเถระให้ตาย จึงไปยังถ้ำกาฬศิลาพร้อมด้วยสมุนโจรเป็นอันมาก. พระเถระเห็นโจรสมณกุตต์ก าลังเดินมา จึงเหาะหลบหลีกไปเสียด้วยฤทธิ์. วันนั้นโจรเห็นพระเถระเหาะไปจึงกลับเสียได้มาติด ๆ กัน ทุก ๆ วันรุ่งขึ้น รวม ๖ วัน. ฝ่ายพระเถระก็หลบหลีกไปด้วยฤทธิ์ ดังที่เคยมา.

    แต่ในวันที่เจ็ด อปราปรเวทนียกรรมที่พระเถระทำไว้ในปางก่อนได้โอกาส. ได้ยินว่า ในชาติก่อน พระเถระเชื่อถ้อยคำของภรรยาประสงค์จะฆ่ามารดาบิดาให้ตาย จึงน าไปสู่ป่าด้วยยานน้อย. ทำอาการดุจโจรตั้งขึ้น แล้วโบยตีมารดาบิดา. มารดาบิดาทั้งสองมองไม่เห็นอะไร เพราะมีจักษุพิการ จำบุตรของตนนั้นไม่ได้ โดยสำคัญว่า นั่นเป็นพวกโจร ต่างปริเทวนาการ เพื่อประโยชน์ต่อบุตรอย่างเดียวว่า ลูกเอ๋ย ให้โจรพวกโน้น มันฆ่าพ่อฆ่าแม่เถิด เจ้าจงหลบเอาตัวรอดเถิด. บุตรชายคิดว่า มารดาบิดาของเราทังสองท่านนี้ แม้จะถูกเราทุบตี ก็ยังร่ำไรรำพัน เพื่อประโยชน์แก่เราผู้เดียว เราทำกรรมอันไม่สมควรเลย.


    ลำดับนั้น เขาจึงปลอบโยนมารดาบิดา แสดงอาการดุจพวกโจรหนีไป แล้วนวดฟั้นมือเท้าของท่านทั้งสองพูดว่า คุณแม่คุณพ่ออย่ากลัวเลย พวกโจรหนีไปแล้ว แล้วนำกลับมายังเรือนของตนตามเดิม.
    กรรมนั้นไม่ได้โอกาส ตลอดเวลามีประมาณเท่านี้ ตั้งอยู่เหมือนกองเพลิง ถูกเถ้ากลบไว้เฉพาะหน้า แล้ววิ่งเข้าสู่สรีระอันไม่มีที่สุดนี้. ก็กรรมนี้ได้โอกาสในที่ใดย่อมให้ผลในที่นั้น เปรียบเหมือนสุนัขอันนายพรานพบเนื้อแล้วปล่อยให้ไล่ติดตามเนื้อ ทันกันในที่ใดก็กัดในที่นั้นฉะนั้น ขึ้นชื่อว่าผู้ที่จะพ้นจากกรรมนั้นได้ไม่มีเลย.


    พระเถระรู้ว่า กรรมที่ตนทำไว้หน่วงเหนี่ยวจึงมิได้หลบหลีกต่อไป. เพราะผลของกรรมนั้น พระเถระจึงไม่สามารถจะเหาะไปในอากาศได้. ฤทธิ์ของพระเถระแม้สามารถทรมานนันโทปนันทนาคราช แลสามารถยังเวชยันตปราสาทให้หวั่นไหว ก็ถึงความทุรพลเพราะกำลังแห่งกรรม. โจรจับพระเถระได้ทุบจนกระดูกของพระเถระมีขนาดเท่าเมล็ดข้าวสารแหลกละเอียดไป เหมือนบดฟางให้เป็นแป้งฉะนั้น แล้วโยนไปที่หลังพุ่มไม้แห่งหนึ่ง ด้วยสำคัญว่าตายแล้ว พร้อมด้วยสมุนโจรหลีกกลับไป.


    ฝ่ายพระเถระกลับได้สติ แล้วคิดว่า เราจักถวายบังคมลาพระศาสดาก่อน จึงจักปรินิพพาน ดังนี้ แล้วเยียวยาอัตภาพด้วยฌานทำให้มั่นคง แล้วเหาะไปยังสำนักของพระศาสดาทางอากาศ ถวายบังคมพระศาสดาแล้วทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อายุสังขารของข้าพระองค์ถดถอยแล้ว ข้าพระองค์จักปรินิพพาน. พระศาสดาตรัสถามว่า ดูก่อนโมคคัลลานะ เธอจักปรินิพพานหรือ ? ทูลตอบว่า พระพุทธเจ้า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ตรัสถามว่า เธอจักไปปรินิพพานที่ไหน ทูลตอบว่า ที่แผ่นหิน ในถ้ำกาฬศิลา พระเจ้าข้า. ตรัสว่า โมคคัลลานะ ถ้าเช่นนั้นเธอจงกล่าวธรรมแก่เราก่อน แล้วค่อยไปเพราะบัดนี้ การที่จะได้เห็นสาวกเช่นเธอ ไม่มีอีกแล้ว. พระมหาโมคคัลลานะทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์จักกระทำตามพระพุทธดำรัส แล้วเหาะขึ้นไปบนอากาศ สูงชั่วต้นตาล แสดงฤทธิ์มีประการต่างๆ เหมือนพระสารีบุตรเถระในวันที่จะปรินิพพาน

    กล่าวธรรมกถาถวายบังคมพระบรมศาสดาแล้วปรินิพพาน ณ ดงเนกาฬศิลาประเทศ.
    พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าอโนมทัสสีเป็นพระโลกเชษฐ์ เป็นนระผู้องอาจ อันเทวดาและภิกษุ สงฆ์แวดล้อม ประทับอยู่ ณ ภูเขาหิมวันต์. พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงเป็นพระชินเจ้า เสด็จลงจากภูเขาหิมวันต์นั้นแล้วเสด็จเที่ยวจาริกไป ทรงอนุเคราะห์หมู่สัตว์เสด็จเข้าถึงกรุงพาราณสี. พระมหามุนีผู้นำโลกแวดล้อมด้วยพระขีณาสพ ๑,๐๐๐ ทรงส่องทิศทั้งปวงให้สว่างไสวไพโรจน์.ในคราวนั้น เราเป็นคฤหบดีอันสหายผู้มีมหิทธิฤทธิ์ นามว่าสรทะส่งไป ได้เข้ารูปเฝ้าพระศาสดา. ครั้นแล้ว ได้ทูลนิมนต์พระตถาคตสัมพุทธเจ้านำเสด็จไปยังที่อยู่ของตน ทำการบูชาพระมหามุนีอยู่, เวลานั้นเรายังพระมหาวีรเจ้าผู้ประเสริฐกว่าเทวดา เป็นนระผู้องอาจ ผู้เสด็จเข้ามาพร้อมทั้งภิกษุสงฆ์ ให้อิ่มหนำด้วยข้าวและน้ำ.
    พระมหาวีรเจ้าผู้เป็นพระสยัมภูอัครบุคคลทรงอนุโมทนาแล้ว ประทับนั่งอยู่ในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ได้ตรัส พระคาถาเหล่านี้ว่า

    ผู้ใดได้บูชาพระสงฆ์และได้บูชาพระพุทธเจ้าผู้นายกของโลก ด้วยจิตอันเลื่อมใส ผู้นั้นจักไปสู่เทวโลก จักเสวยเทวรัชสมบัติ ๗๗ ครั้ง จักเสวยราชสมบัติในแผ่นดิน ครอบครองพสุธา ๑๐๘ ครั้ง และจักเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๕๕ ครั้ง โภคสมบัติอันนับไม่ถ้วนจักบังเกิดแก่ผู้นั้นในขณะนั้น. ในกัปอันนับไม่ได้แต่กัปนี้ พระศาสดาพระนามว่าโคตมะโดยพระโคตร ซึ่งสมภพในวงศ์ของพระเจ้าโอกกากราช จักอุบัติขึ้นในโลก ผู้นั้นเคลื่อนจากนรกแล้ว จักถึงความเป็นมนุษย์ จักเป็นบุตรพราหมณ์ มีนามว่า โกลิตะภายหลังอัน กุศลมูลกระตุ้นเตือนแล้วเขาจักออกบวช จักได้เป็นพระสาวกองค์ที่สองของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าโคดม. จักปรารภความเพียร มีใจสงบถึงความยอดเยี่ยมแห่งฤทธิ์ กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะจักปรินิพพาน.

    เราอาศัยมิตรชั่วตกอยู่ในอำนาจของกามราคะ มีใจอันโทษประทุษร้ายแล้ว ได้ฆ่ามารดาและบิดา. เราเข้าถึงกำเนิดใด ๆ จะเป็นนรกหรือมนุษย์ก็ตาม เพราะความเป็นผู้พรั่งพร้อมด้วยกรรมอันลามก ต้องเป็นผู้มีศีรษะแตกตาย นี้เป็นผลกรรมครั้งสุดท้ายของเรา ภพสุดท้ายย่อมดำเนินไป ผลกรรมเช่นนี้จักมีแก่เราในเวลาใกล้จะตายแม้ในที่นี้.
    เราหมั่นประกอบในวิเวก ยินดีในสมาธิภาวนา กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่. แม้ แผ่นดินอันลึกซึ้งหนา ใคร ๆ กำจัดได้ยาก เราผู้ถึงความยอดเยี่ยมแห่งฤทธิ์ พึงทำให้ไหวได้ด้วยนิ้วหัวแม่มือซ้าย. เราไม่เห็นอัสมิมานะ เราไม่มีมานะ เรากระทำความเคารพยำเกรง แม้ที่สุดในสามเณร. ในกัปอันประมาณมิได้แต่กัปนี้ เราสั่งสมกรรมใด เราได้บรรลุถึงภูมิแห่งกรรมนั้น เป็นผู้ถึงความสิ้นอาสวะแล้ว. คุณวิเศษเหล่านี้ คือปฏิสัมภิทา ๔ ฯ ล ฯ คำสอนของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ฉะนี้แล.

    จบอรรถกถามหาโมคคัลลานเถรคาถา จบปรมัตถทีปนี

    ในทันใดนั้นเอง ชาวเทวโลกทั้ง ๖ ชั้น เกิดโกลาหลเป็นอันเดียวกันว่า ข่าวว่า อาจารย์ของพวกเราปรินิพพานแล้ว ต่างถือของหอม มาลา ธูป เครื่องอบ และจันทน์จุรณอันเป็นทิพย์ทั้งฟืนนานาชนิดมา (ประชุมกันแล้ว). จิตกาธารแล้วด้วยจันทน์แดง สูง ๙๙ ศอก พระศาสดาประทับอยู่ใกล้ ๆ ศพพระเถระ ตรัสสั่งให้จัดการปลงศพของพระเถระ. รอบ ๆ สุสาน ฝนดอกไม้โปรยตกลงมาในที่ประมาณโยชน์หนึ่ง ได้มีมนุษย์อยู่ระหว่างเทวดา เทวดาอยู่ระหว่างมนุษย์. ถัดเทวดาโดยลำดับพวกยักษ์ยืนอยู่ ถัดพวกยักษ์มาก็เป็นพวกคนธรรพ์ ถัดจากพวกคนธรรพ์มาเป็นพวกนาค ถัดจากพวกนาคมาเป็นพวกครุฑ ถัดจากพวกครุฑมาเป็นพวกกินนรา ถัดจากพวกกินนรามาเป็นพวกกินนร ถัดจากพวกกินนรมาก็เป็นฉัตร ถัดจากฉัตรออกมาเป็นสุวรรณจามร ถัดจากสุวรรณจามรออกมา เป็นธงชัย ถัดธงชัยออกมาเป็นธงแผ่นผ้า. ผู้ที่มาประชุมทุกเหล่า บรรดามีต่างเล่นสาธุกีฬาอยู่ตลอดเจ็ดวัน. พระศาสดาตรัสสั่งให้เก็บธาตุของพระเถระมาทำเจดีย์บรรจุไว้ที่ซุ้มประตู พระเวฬุวันวิหาร.
    </b> </td></tr> <tr><td colspan="2"> จากคุณ : โชติปาละ [ 29 ส.ค. 2545 / 15:43:27 น. ]

    อ้างอิงจาก 'http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/006137.htm
    [SIZE=-1]
    [/SIZE]
    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2007
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา Fwd mail

    ใครใช้บัตรเครดิต โปรดอ่าน ด่วน...

    ข้อความต่อไปนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งที่จะรู้จักวิธีการหลอกลวงฉ้อฉล
    ด้วยการแอบอ้างว่าโทรมาจาก VisaหรือMaster Cards
    เพื่อให้คุณได้ระมัดระวังตนเองไม่ตกเป็นเหยื่อวิธีการฉ้อฉลดังกล่าว
    เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ภรรยาผมได้รับโทรศัพท์จาก Visa
    และผมก็ได้รับโทรศัพท์ จากMasterCardใน r
    วันพฤหัสต่อมา

    คนที่โทรมาพูดว่า
    ดิชั้น........(ชื่อ) โทรจากฝ่ายรักษาความปลอดภัย ของ Visaค่ะ
    คือเราตรวจพบว่ามีความผิดปกติในการสั่งซื้อ จึงโทรมาตรวจสอบว่าบัตร Visa ของคุณที่ออกโดยธนาคาร.(ชื่อ) มีการสั่งซื้ออุปกรณ์ระบบป้องกันภัยมูลค่า20,000 บาท จากบริษัท ในอเมริกาหรือเปล่าคะ "

    เมื่อคุณบอกว่า "เปล่านี่คะ "

    คนที่โทรมาก็จะบอกว่า "ถ้ายังงั้นเราจะคืนเงินให้คุณกลับคืน
    เรากำลังตรวจสอบบริษัทฉ้อฉล โดยมีวงเงินที่ฉ้อโกงลูกค้า ครั้งละ12,000 -20,000 บาท
    เราจะส่งหนังสือแจ้งการคืนเงินให้คุณทราบที่....(ที่อยู่ของคุณ) ถูกต้องมั๊ยคะ"

    เมื่อคุณบอกว่า " ถูกต้องค่ะ"
    คนที่โทรมาจะพูดต่อไปว่า " ดิชั้นจะทำการสืบสวนต่อไป หากคุณมีข้อสงสัย
    ให้โทรตามหมายเลขที่อยู่หลังบัตรแล้วต่อฝ่ายรักษาความปลอดภัย
    คุณต้องระบุหมายเลขอ้างอิงนี้ (คนที่โทรมาจะบอกหมายเลข 6 หลัก)
    คุณต้องการให้ดิชั้นทวนหมายเลขมั๊ยคะ"

    ต่อไปนี้จะเป็นส่วนสำคัญของกลโกง

    คนที่โทรมาจะพูดว่า
    "เพื่อให้ทราบว่าคุณเป็นเจ้าของที่แท้จริงของเครดิตการ์ดใบนี้
    กรุณาพลิกด้านหลังของบัตร และให้ดูที่หมายเลข7ตัวสุดท้าย 4 ตัวแรกจะเป็นหมายเลขบัตร 3ตัวต่อมาจะเป็นเลขสำหรับรักษาความปลอดภัยว่าคุณคือเจ้าของที่แท้จริง
    และใช้ในการสั่งซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ทกรุณาบอกเลข 3ตัวสุดท้ายด้วยค่ะ "

    เมื่อคุณบอกเลข 3ตัวสุดท้ายไป คนที่โทรมาจะบอกว่า
    "ตัวเลขถูกต้อง ดิชั้นต้องการให้แน่ใจว่าบัตรยังอยู่กับคุณ มิได้สูญหาย
    หรือถูกขโมย คุณมีข้อสงสัยอื่นใดอีกหรือเปล่าคะ"

    เมื่อคุณบอกว่า "ไม่มีค่ะ"คนโทรมาจะขอบคุณและบอกว่าหากมีในภายหลังก็ให้โทรสอบถามได้เสมอ
    แล้ววางสาย

    ความจริงคุณพูดไปน้อยมาก
    คนโทรมาไม่ได้ขอหมายเลขบัตรเครดิตของคุณ
    แต่ภรรยาผมเกิดเอะใจ จึงโทรกลับไปหลังจากวางสาย 20นาที ปรากฏว่าVisaตัวจริงบอกว่า ภรรยาผมถูกหลอกแล้ว และเมื่อ15นาทีที่ผ่านมาได้มีรายการซื้อสินค้าจำนวน 20,000บาท
    ส่งมาเรียกเก็บในที่สุดVisaได้ยกเลิกบัตรและออกบัตรใหม่ให้

    ผู้ฉ้อฉลต้องการเพียงเลข3ตัวสุดท้ายด้านหลังบัตร
    อย่าให้ไปเป็นอันขาด ให้คุณบอกว่า แล้วจะโทรกลับไปแจ้งเองโดยตรงจะดีกว่า

    วันพฤหัสต่อมา ผมได้รับโทรศัพท์จากคุณ....(ชื่อ) อ้างว่าโทรจาก
    MasterCard ซึ่งมีข้อความเหมือนกับที่ภรรยาผมได้รับคำต่อคำเลย
    ผมเลยไม่รอให้เขาพูดจบ ผมรีบวางสาย
    แล้วไปแจ้งความที่สถานีตำรวจตามที่ Visaให้คำแนะนำมา
    ตำรวจบอกว่าได้รับแจ้งแบบเดียวกันนี้วันหนึ่งหลายราย
    จึงขอร้องให้ช่วยกันบอกต่อด้วย เราต้องระมัดระวังตนเอง
     
  11. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    กระผมให้คุณโต หายจากอุบัติภัยในครั้งนี้ด้วยเถิด
    ขออาราธนาบารมีของหลวงปู่ช่วยให้หายจากการบาดเจ็บครั้งนี้ด้วย

    โอ๊ต
     
  12. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    ไม่ทราบว่าทุกท่านรู้สึกเหมือนกันกับผมหรือเปล่าว่าวันนี้เว็บพลังจิตไม่มีอาการ
    อืด ที่จะต้องกด refresh หรือว่า F5 เลย

    27/07/2550
    เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:17 PM
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาคุยกันเรื่องเบาๆนะครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พระพิมพ์ที่ติดพลอย ,หรือประเภทหินต่างๆนั้น จะมีทั้งพระและเณร(ของเทียม) ต้องดูจากเนื้อหาทรงพิมพ์ ,ทองหรือเงินที่บุ หรือทองคำเปลวที่ติดองค์พระพิมพ์ ถ้าเป็นพระพิมพ์ของแท้นั้น จะเป็นพระพิมพ์ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ในช่วงปี พ.ศ.2451 ซึ่งเป็นปีที่มีพระราชพิธีเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ครบ 40 ปี (พระองค์ท่านเริ่มขึ้นครองราชในปี พ.ศ.2411) และพิธีเฉลิมฉลองพระบรมรูปทรงม้า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านเป็นประธานฝ่ายฆารวาส และเป็นแม่งานในการสร้างพระพิมพ์และวัตถุมงคลขึ้นมาเป็นจำนวนมาก รวมทั้งพระพิมพ์ที่ด้านหลังจะติดแผ่นทองคำบุคำต่างๆและระบุว่าเป็นปี พ.ศ.2411 แผ่นทองคำด้านหลังต้องเป็นแผ่นทองคำแท้นะครับ การระบุเช่นนั้นเป็นการรำลึกถึงการขึ้นครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ท่านเริ่มขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ.2411 แต่ถ้าเป็นทองเหลืองต้องพิจารณามากสักหน่อย ในสมัยนั้นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านเป็นประธานฝ่ายฆารวาส และเป็นแม่งาน คงไม่นำแผ่นทองเหลืองมาติดให้เสียพระเกียรติเป็นแน่แท้ เงินในท้องพระคลังก็มีเป็นจำนวนมาก ผมเองมีรูปหล่อพระสิวลีเถระเจ้าทรงยืน ฐานพระสิวลีนั้น เป็นแผ่นทองคำแท้ที่ระบุวัดพระแก้ว ปี 2411 (ซึ่งจริงๆจะเป็นพิธีในปี 2451)ครับ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ส่วนพระพิมพ์ที่สร้างขึ้นที่วังหน้านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นพระเนื้อผง วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ปรากฏนั้น ก็เป็นวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการสร้างพระผง รวมทั้งปูนเพชร กระทั้งเตาเผาเครื่องสังฆโลก ก็มีส่วนในการสร้างพระพิมพ์ด้วยเช่นกัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    โมทนาสาธุครับ<O:p</O:p
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="70%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat>ข้อความจากบอร์ด</TD></TR><TR><TD class=panelsurround align=middle>
    <!-- main error message -->ในขณะนี้ Server กำลังทำงานหนัก. กรุณาลองใหม่อีกครั้ง โดยกด F5 หรือ Refresh
    <!-- / main error message -->​

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    พูดมายังไม่ทันไร มาอีกแล้วครับท่าน

    .
     
  16. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    หุๆ เจอเหมือนกันพี่ ไม่น่าชมเล้ยย
     
  17. tawatd

    tawatd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    506
    ค่าพลัง:
    +2,020
    คุณคาสโนวาตั้งใจให้อาจารย์ประถมเขียนจดหมายเพื่อให้มีผลทางกฏหมายหรือ ง่ายดีนะการที่จะให้คนอื่นมาตกกับดักของตัวเอง ถ้าคุณต้องการเป็นเจ้าของ ทางกฎหมายให้คุณทำเองหาหลักฐานให้พร้อมยื่นศาลให้สั่งให้คุณมีลิขภาพในภาพเลยถ้าคุณคิดว่าคุณมี ถ้าผมเป็นอาจารย์ประถมผมไม่เขียนจดหมายลงลายมือชื่อผูกมัดตัวเองโดยไม่จำเป็นหรอกครับ ผมเคยอธิบายในกระทู้ก่อนแล้วว่าเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่จำเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6085​

    รู้ทันกรรม


    คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด



    กฎหมายกับความยุติธรรม ต่างกัน ยุติธรรมเป็นเรื่องของความถูกต้องเกี่ยวข้องจิตใจ แต่กฎหมายเป็นเรื่องคำสั่ง เป็นแบบแผนที่จะต้องปฏิบัติตาม เพราะบางทีผู้ตัดสินว่า เป็นความยุติธรรมแล้ว แต่ผู้ถูกตัดสินอ้างว่าไม่เป็นธรรม ยังไม่เป็นความยุติธรรมที่แท้ แต่ถ้ายอมรับก็ถือเป็นความยุติธรรม ตัวอย่าง สมมติว่าท่านมีลูกอยู่ ๕ คน วันหนึ่งท่านไปตลาด เห็นส้มเขียวหวานน่ารับประทานจึงซื้อมา ๒๐ ผล มาถึงบ้านจัดแบ่งให้ลูกทั้ง ๕ คน คนละ ๔ ผล ซึ่งถ้าจะพิจารณาตามจำนวนผลเป็นความยุติธรรมดีแล้ว เพราะผลเท่าๆ กัน จำนวนเท่ากัน แต่ลูก ๕ คนนั้นถ้ามีคนหนึ่งเกิดร้องขึ้นว่า ท่านไม่ยุติธรรม ท่านจะมีความรู้สึกอย่างไร คงมีความรู้สึกว่าลูกคนนั้นโกง ใช้ไม่ได้ เอาเปรียบคนอื่น ทั้งๆ ที่ท่านแบ่งให้ตามจำนวนเท่ากัน แต่ถ้าถามเขาว่าเพราะเหตุใดจึงไม่ยุติธรรม เขาจะตอบว่า เพราะกลีบส้มมันไม่เท่ากัน รสของส้มไม่เท่ากัน เพราะส้มแต่ละผลนั้นย่อมมีกลีบและรสส้มไม่เหมือนกันอยู่แล้ว

    จะเห็นชัดเจนว่า ความยุติธรรมโดยสมมตินั้นจะเกิดปัญหาเช่นนี้เสมอ เมื่อผู้ใดประสบปัญหาเช่นนี้แล้วมักจะพูดอย่างน้อยใจว่า ในโลกนี้หาความยุติธรรมไม่ได้ และบุคคลเหล่านี้น่าจะได้รับการเห็นใจ เพราะยังไม่เข้าใจว่า ยุติธรรมที่แท้คืออะไร

    ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นไปตามกระบวนการของความยุติธรรมทั้งนั้น เพราะตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนานั้น บุคคลกระทำกรรมอันเป็นเหตุอย่างใด ต้องรับผลแห่งกรรมอย่างนั้น

    สัตว์ที่ถูกเขาฆ่า เพราะในอดีตเคยไปฆ่าเขามาก่อน สัตว์ที่ถูกเบียดเบียน ถูกข่มเหงรังแก เพราะในอดีตเคยไปเบียดเบียนไปข่มเหงรังแกเขามาก่อน สัตว์ที่ถูกหลอกลวงในปัจจุบัน เพราะในอดีตเคยไปหลอกลวงเขามาก่อน คนที่ถูกโกงในปัจจุบัน เพราะอดีตเคยไปโกงเขามาก่อน


    คนที่ถูกลงโทษถึงติดคุกติดตะราง โดยปัจจุบันไม่เคยกระทำความผิดแต่อย่างใด เพราะอดีตเคยลงโทษผู้ที่ไม่ได้กระทำความผิดมาก่อน ในปัจจุบันนี้จึงได้รับผลแห่งการกระทำอย่างนั้นบ้าง จึงกล่าวได้ว่าเป็นความยุติธรรมโดยธรรมชาติ

    คนที่ทำชั่วในปัจจุบัน แต่ไม่ถูกลงโทษ อย่าคิดว่าตนไม่ต้องรับผลแห่งการกระทำนั้น สักวันหนึ่งผลแห่งการกระทำจะต้องลงโทษอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนจะลงโทษให้เห็นในปัจจุบันหรือในภายภาคหน้า แล้วแต่น้ำหนักของกรรม ซึ่งผลของกรรมดังที่กล่าวนี้เป็นหลักของการพิจารณาว่าโลกของเรานี้มีความยุติธรรมอย่างแน่นอน

    http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03bud04280750&day=2007/07/28&sectionid=0307
     
  19. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    วันนี้เว็บไม่อืดเลย ผู้คนหายไปไหนกันหมด
    ไปไหนมาไหน ขอให้ปลอดภัยกันทุกคน นะครับ
     
  20. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    [​IMG]

    ก่อนไปไหนก็ขอให้เดินทางไปกลับโดยสวัสดิภาพครับ
    สาธุครับ

    ชมภาพก่อนไปนะครับ (เสียดายที่มาทั้งหมดนะ ตั้งใจว่าจะทีละภาพเพื่ออรรถรสในการชมครับ คราวหน้าว่ากันใหม่ครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • BB.jpg
      BB.jpg
      ขนาดไฟล์:
      265 KB
      เปิดดู:
      27
    • CC.jpg
      CC.jpg
      ขนาดไฟล์:
      242.4 KB
      เปิดดู:
      29
    • EE.jpg
      EE.jpg
      ขนาดไฟล์:
      231.1 KB
      เปิดดู:
      56
    • GG.jpg
      GG.jpg
      ขนาดไฟล์:
      243 KB
      เปิดดู:
      26
    • HH.jpg
      HH.jpg
      ขนาดไฟล์:
      273.2 KB
      เปิดดู:
      26
    • II.jpg
      II.jpg
      ขนาดไฟล์:
      214.3 KB
      เปิดดู:
      34
    • JJ.jpg
      JJ.jpg
      ขนาดไฟล์:
      192.6 KB
      เปิดดู:
      27
    • KK.jpg
      KK.jpg
      ขนาดไฟล์:
      225.2 KB
      เปิดดู:
      25
    • AA.jpg
      AA.jpg
      ขนาดไฟล์:
      264.6 KB
      เปิดดู:
      262
    • DD.jpg
      DD.jpg
      ขนาดไฟล์:
      224.9 KB
      เปิดดู:
      30
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2007

แชร์หน้านี้

Loading...