เพราะอะไรจึงเรียกว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณฯ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 4 กรกฎาคม 2012.

  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๗ หน้าที่ ๘๖/๓๑๐
    [๑๕๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอะไรจึงเรียกว่ารูป เพราะสลายไป จึงเรียกว่า รูป
    สลายไปเพราะอะไร สลายไปเพราะหนาวบ้าง เพราะร้อนบ้าง เพราะหิวบ้าง
    เพราะกระหายบ้างเพราะสัมผัสแห่งเหลือบ ยุง ลม แดด และสัตว์เลื้อยคลานบ้าง.
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอะไร จึงเรียกว่า เวทนา เพราะเสวย จึงเรียกว่า เวทนา
    เสวยอะไร เสวยอารมณ์สุขบ้าง เสวยอารมณ์ทุกข์บ้าง เสวยอารมณ์ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขบ้าง.
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอะไร จึงเรียกว่า สัญญา เพราะจำได้หมายรู้ จึงเรียกว่า สัญญา
    จำได้หมายรู้อะไร จำได้หมายรู้สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีแดงบ้าง สีขาวบ้าง.
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอะไรจึงเรียกว่า สังขาร เพราะปรุงแต่งสังขตธรรม จึงเรียกว่า สังขาร
    ปรุงแต่งสังขตธรรมอะไร
    ปรุงแต่งสังขตธรรม คือ รูป โดยความเป็นรูป
    ปรุงแต่งสังขตธรรม คือ เวทนา โดยความเป็นเวทนา
    ปรุงแต่งสังขตธรรม คือ สัญญา โดยความเป็นสัญญา
    ปรุงแต่งสังขตธรรม คือ สังขาร โดยความเป็นสังขาร
    ปรุงแต่งสังขตธรรม คือ วิญญาณ โดยความเป็นวิญญาณ.
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอะไรจึงเรียกว่า วิญญาณ เพราะรู้แจ้ง จึงเรียกว่า วิญญาณ
    รู้แจ้งอะไร รู้แจ้งรสเปรี้ยวบ้าง รสขมบ้าง รสเผ็ดบ้าง รสหวานบ้าง รสขื่นบ้าง
    รสไม่ขื่นบ้าง รสเค็มบ้าง รสไม่เค็มบ้าง.
     
  2. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาครับ

    สลาย
    และเสวย
    สลายง่ายหน่อย
    เสวยนี่ตามดูครับ
    แต่พอดีผมไปได้สติมาก่อน
    คือชอบไหล
    หากสมมุติการไหลนี้คงสมมุติว่าน้ำ
    น้ำไหลจากสูงลงต่ำ
    สตินี้ความจริงหากไม่ไหลคือมีสติ
    แต่หากไหลลงควรไปลงที่ไหน
    สมาธิ

    ท่านมีความเห็นประการใดไหมครับ
    ขอท่านเจริญในธรรมครับ
     
  3. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    อนุโมทนาครับ ผมขอยกกลอนของท่านพุทธทาสมาตอบครับ เจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมครับ
     
  4. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    เรื่อง...แม่น้ำคด น้ำไม่คด ท่านพุทธทาสภิกขุ

    [​IMG]

    แม่น้ำคดส่วนน้ำนั้นไม่คด
    กายกับใจไม่ลามกไม่วกวน
    จิตล้วนล้วนนั้นเป็นประภัสสร
    กิเลสเปรียบลำน้ำที่เลี้ยวลด
    อันจิตว่างมีได้ในกายวุ่น
    ในสงสารมีนิพพานอยู่มากพอ
    พระตรัสให้ตัดป่าอย่าตัดไม้
    รู้แยกน้ำจากแม่น้ำตามว่ามา

    ไม่แกล้งปดดูให้ดีมีเหตุผล
    แต่กิเลสแสนกลนั้นเหลือคด
    กิเลสจรครอบงำทำยุ่งหมด
    จิตเปรียบน้ำตามกฎไม่คดงอ
    ในน้ำขุ่นมีน้ำใสไม่หลอกหนอ
    แต่ละข้องวยงงชวนสงกา
    ไม่เข้าใจตัดได้อย่างไรหนา
    จึงนับว่าผู้ฉลาดสามารถเอยฯ

    จิตเดิมนั้นประภัสสรอยู่ปรกติเป็นกลางๆ มิได้คด มิได้มีกิเลส กิเลสต่างหากคด และคนเข้าใจผิดคิดว่า จิตคด

    เหมือนน้ำซึ่งไม่คด แต่แม่น้ำหรือคลองต่างหากคด. ข้อนี้หมายถึงต้องกำจัดกิเลสที่จู่เข้ามาเป็นครั้งคราว ไม่ใช่ไปทรมานจิตเดิมแท้ที่ประภัสสรอยู่เองแล้ว.
     
  5. นายกสิณ

    นายกสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2011
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +251
    ทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ล้วนมาจากการปฎิบัติอย่างมุ่งมั่น จริงจัง ต่อเนื่องและสม่ำเสมอ (เฉพาะหัวข้อที่คุณตั้งเท่านั้นนะครับ)
     
  6. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    เราไหลมาจากหิมาลัยครับ
    ไตรหรือไตรหรือไทย
    ตอนนี้มีแค่ทางเลือกสองอย่างหรือเล่นกันไม่เลิก
    เพื่อลูกใครหลานมันหรือครับ

    สุดท้ายหากไม่มีมหาสมุทรก็ไม่มีหิมะหรือไม่
    ดันกงจักรให้กลายเป็นดอกบัว

    ดอกบัวจริงๆคือสติสมาธิและปัญญาเท่านั้น
    แล้วต้องว่างก่อนเพื่อควรแก่งาน
    หากไม่ว่างรับหลายงานยุ่งมากๆหรือไม่

    พอกายว่างจากหน้าที่รับส่งลูกไปโรงเรียน
    เวทนาไม่สุขทุกข์
    จิตเดิมหมดจด
    พิจารณาอะไร
    เอาอะไรเข้ามาใส่คงดีกว่า
    ว่างครึ่งไม่ว่างครึ่งรวมมาอีกครึ่ง

    แต่หลักธรรมท่านสอนให้พ้นทุกข์ทางโลกเท่านั้นหรือไม่อย่างไร
    พ้นสองทุกข์คือทั้งโลกทั้งธรรมหรือไม่

    หากก้าวขึ้นมาสูงๆหนาวไหม
    เวทนาที่ขึ้นมาห้า
    เรื่องทางโลกเริ่มหาย
    เงินหาย
    รถหาย
    บ้านหายลุกเต้าหายหมด
    เป็นกฎตายตัวครับ
    คุยเรื่องธรรมทีละขั้น
    หากผู้ที่เขาเข้าไม่ถึง
    ง่วงเหงาหาวนอนขึ้นมาทันที

    พอว่างมากๆ
    หรือทำให้ว่างหมดนี้
    หากไม่เป็นนักบวชสังขารนี้จะอยู่อย่างไร

    ทำไมท่านอยากป็นอริยะ
    โอ้..........

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งครับ
     
  7. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ตรงนี้แหละครับ
    เป็นประเด็นที่ว่า
    ปลวกกัดแทะบ้าน
    ผมไปเจออยู่ที่หนึ่งเมื่อวาน
    ผมยังเข้าใจว่าเอท่าน..........คราด........เคลื่อนหรือไม่
    ไม่สมดุลย์เหวี่ยงเวลาหมุนหรือไม่
    ผมว่าเรามองทางเจตีย์ เจดีย์ หรือเจตนาดีไว้ก่อน
    แล้วพิจารณาไหมครับ

    การเอาตัวเองมาเป็นเหยื่อเข้าแลกหลายท่านแล้วครับ
    หากพิจารณาโดยมวลรวม
    เพียงเพื่อให้เราเข้าไปถึงเท่านั้น
    อุบาย
    กราบอาราธนาท่านละครับ

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งครับ
     
  8. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    เจดีย์ก็เป็นเจดีย์ จะไปแต่งว่าเป็น... มันเป็นของสมมติครับ พระพุทธเจ้าตรัสไว้แค่เจดีย์ จะไปแกล้งปดให้เป็น... มันก็เป็นแค่หิน ดิน ทราย ปล่อยให้ปลวกกัดกินบ้าน รักษากันเอง รักษาไม่ได้ บ้านเสื่อมครับ

    เอาเหยื่อเข้าแลก ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อผู้อื่น เสียเหยื่อสักพัน เห็นธรรมแค่หนึ่งก็ไม่เสียประโยชน์ครับ
     
  9. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๘
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งใดเป็นอนัตตา
    สิ่งนั้นท่านทั้งหลายพึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่
    ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา เสียง กลิ่นรส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์
    เป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งใดเป็นอนัตตา สิ่งนั้นท่านทั้งหลายพึงเห็น
    ด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา
    นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ... ฯพระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๘
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งใดเป็นอนัตตา
    สิ่งนั้นท่านทั้งหลายพึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่
    ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา เสียง กลิ่นรส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์
    เป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งใดเป็นอนัตตา สิ่งนั้นท่านทั้งหลายพึงเห็น
    ด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา
    นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ... ฯ

    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งใดเป็นอนัตตา
    สิ่งนั้นท่านทั้งหลายพึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่
    ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา"

    มีหลายพระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสพระสัทธรรมนี้ คำว่า "รูป" เป็นคำมีความหมายกว้างมากครับ ไม่ได้หมายถึงรูปกายอย่างเดียว ธรรมธาตุทุกอย่างที่ประกอบกันขึ้นมา ตามองเห็น เรียกว่ารูปทั้งหมด ใครยังคิดว่ารูปเป็นตัวตนของเรา เป็นเรา ก็ไม่แปลก เป็นเรื่องของเขาที่เข้าใจอย่างนั้น เขาศรัทธาแบบนั้น ไม่แสวงหาทางหลุดพ้น ใครอยากหลุดพ้น เห็นรูปตามความเป็นจริงตามพระสัทธรรม อนุโมทนาครับ
     
  10. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอะไรจึงเรียกว่า วิญญาณ เพราะรู้แจ้ง จึงเรียกว่า วิญญาณ
    รู้แจ้งอะไร รู้แจ้งรสเปรี้ยวบ้าง รสขมบ้าง รสเผ็ดบ้าง รสหวานบ้าง รสขื่นบ้าง
    รสไม่ขื่นบ้าง รสเค็มบ้าง รสไม่เค็มบ้าง

    เรียนถาม จขกท.ครับ ว่า วิญญาน คำนี้ แปลว่ารู้หรือรู้แจ้ง ทำไมไปรู้แจ้งเรื่องรส ที่เป็นชิวหาปสาทเล่า
    ที่จริงนั้นจะต้องรู้แจ้งธรรมารมณ์ คือ นึก คิด เรื่องราวต่างๆ
    คุณอ้างพระไตรปิฏกบาลี สยามรัฐ(ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๗ หน้าที่ ๘๖/๓๑๐
    ผมเองก็ไม่มีพระไตรปิฎกเสียด้วยซิ ช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้นจึงเป็นอย่างนั้น
    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 กรกฎาคม 2012
  11. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    วิญญาณ คือความรู้สึกทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
    ตา มองเห็นรูป มีทั้งที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ เฉยๆ
    หู ได้ยินเสียง มีทั้งที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ เฉยๆ
    จมูก รับกลิ่น มีทั้งที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ เฉยๆ
    ลิ้น รับรส เปรี้ยว ขม เผ็ด หวาน มีทั้งที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ เฉยๆ
    กาย สิ่งที่มากระทบกาย ความรู้สึกทางกาย ร้อน หนาว มีทั้งที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ เฉยๆ
    ใจ รับรู้ รู้สึก มีทั้งที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ เฉยๆ

    ความรู้สึกพอใจ ไม่พอใจ เฉยๆ อารมณ์ที่วิญญาณเข้าไปรับรู้ เรียกว่า ธรรมารมณ์
     
  12. รอยตะวัน

    รอยตะวัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +116
    มันเหมือนการกำเนิดโลกพรหมและพลังงานของโลกหรือเปล่าคะ
     
  13. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ลุงหมาน [​IMG]
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะอะไรจึงเรียกว่า วิญญาณ เพราะรู้แจ้ง จึงเรียกว่า วิญญาณ
    รู้แจ้งอะไร รู้แจ้งรสเปรี้ยวบ้าง รสขมบ้าง รสเผ็ดบ้าง รสหวานบ้าง รสขื่นบ้าง
    รสไม่ขื่นบ้าง รสเค็มบ้าง รสไม่เค็มบ้าง

    เรียนถาม จขกท.ครับ ว่า วิญญาน คำนี้ แปลว่ารู้หรือรู้แจ้ง ทำไมไปรู้แจ้งเรื่องรส ที่เป็นชิวหาปสาทเล่า
    ที่จริงนั้นจะต้องรู้แจ้งธรรมารมณ์ คือ นึก คิด เรื่องราวต่างๆ
    คุณอ้างพระไตรปิฏกบาลี สยามรัฐ(ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๗ หน้าที่ ๘๖/๓๑๐
    ผมเองก็ไม่มีพระไตรปิฎกเสียด้วยซิ ช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้นจึงเป็นอย่างนั้น
    ขอบคุณครับ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    วิญญาณ คือความรู้สึกทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
    ตา มองเห็นรูป มีทั้งที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ เฉยๆ
    หู ได้ยินเสียง มีทั้งที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ เฉยๆ
    จมูก รับกลิ่น มีทั้งที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ เฉยๆ
    ลิ้น รับรส เปรี้ยว ขม เผ็ด หวาน มีทั้งที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ เฉยๆ
    กาย สิ่งที่มากระทบกาย ความรู้สึกทางกาย ร้อน หนาว มีทั้งที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ เฉยๆ
    ใจ รับรู้ รู้สึก มีทั้งที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ เฉยๆ

    ความรู้สึกพอใจ ไม่พอใจ เฉยๆ อารมณ์ที่วิญญาณเข้าไปรับรู้ เรียกว่า ธรรมารมณ์<!-- google_ad_section_end -->

    ***************************************************
    ถามต่อ.....ก็อธิบายไม่เห็นจะตรงกับที่ยกพระไตรปิฎกเอามาอ้างอิงเลย ที่ตรงสีแดงน่ะ
    อธิบายนะเข้าใจ แต่พระไตรปิฎกนั้นเสริมแต่งหรือเปล่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 กรกฎาคม 2012
  14. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ตามองเห็นเรียกว่ารูปทั้งหมด อันนี้เห็นจะไม่จริงครับ รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ทำไมจึงเรียกว่ารูปได้ละทั้งๆที่มองไม่เห็น
     
  15. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระสูตรนี้ตรัสซ้อนกัน ใจกับวิญญาณ มีบางพระสูตรซ้อนกันหลายชั้น ธรรมเป็นธรรมลึกซื้ง ไม่ใช่ของง่ายที่จะทำความเข้าใจ ต้องอ่านหลายๆ รอบ ความเข้าใจก็จะลึกขึ้นๆ ทุกครั้งที่อ่านครับ หลายพระสูตรผมอ่านคิดว่าเข้าใจแล้ว แต่พอมาอ่านอีกรอบ ความเข้าใจตอนแรกมันไม่ใช่ อันนี้เข้าใจกว่าลึกกว่า
     
  16. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๙ หน้าที่ ๑๖๕/๔๙๔
    [๓๑๙] ชื่อว่า ใจ ในคำว่า คิดถึงทิฏฐิทั้งหลายด้วยใจ ความว่า ใจ คือ จิต ใจ
    มานัส หทัย ปัณฑระ มนะ มนายตนะ มนินทรีย์ วิญญาณ วิญญาณขันธ์ มโนวิญญาณ
    ธาตุที่เกิดแต่ผัสสะเป็นต้นนั้น.

    พระพุทธเจ้าทรงใช้คำว่า "ใจ" หลายไวพจน์ครับ
     
  17. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    บางครั้งก็ตรัสซ้อนกันขึ้นมา ยกตัวอย่างนะครับ

    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงข้อปฏิบัติอันสมควรแก่การเพิกถอนซึ่งความ
    สำคัญสิ่งทั้งปวงด้วยตัณหา มานะและทิฐิแก่เธอทั้งหลาย เธอ ทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี
    เราจักกล่าว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ข้อปฏิบัติอัน สมควรแก่การเพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วย
    ตัณหา มานะและทิฐิ เป็นไฉนดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้ ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุ
    ย่อมไม่สำคัญในจักษุ ย่อมไม่สำคัญแต่จักษุ ย่อมไม่สำคัญว่า จักษุของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งรูป ...
    ในรูป ... แต่รูป ... ว่า รูปของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งจักษุวิญญาณ ... ในจักษุวิญญาณ ...
    แต่ จักษุวิญญาณ ... ว่า จักษุวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญจักษุสัมผัส ... ในจักษุสัมผัส ...
    แต่จักษุสัมผัส ... ว่า จักษุสัมผัสของเรา ย่อมไม่สำคัญสุขเวทนา ทุกข เวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา
    ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ... ในเวทนา นั้น ... แต่เวทนานั้น ... ว่า เวทนานั้นเป็น
    ของเรา ฯลฯ ย่อมไม่สำคัญซึ่งใจ ... ในใจ ... แต่ใจ ... ว่า ใจของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งธรรมารมณ์ ...
    ในธรรมารมณ์ ...แต่ธรรมารมณ์ ... ว่า ธรรมารมณ์ของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่งมโนวิญญาณ ...
    ในมโนวิญญาณ ... แต่มโนวิญญาณ ... ว่า มโนวิญญาณของเรา ย่อมไม่สำคัญซึ่ง มโนสัมผัส ...
    ในมโนสัมผัส ... แต่มโนสัมผัส ... ว่า มโนสัมผัสของเรา ย่อมไม่สำคัญในสุขเวทนา ทุกขเวทนา
    หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัส เป็นปัจจัย ... ในเวทนานั้น ... แต่เวทนานั้น ...
    ว่า เวทนานั้นเป็นของเรา ย่อมไม่ สำคัญซึ่งสิ่งทั้งปวง ... ในสิ่งทั้งปวง ... แต่สิ่งทั้งปวง ...
    แต่สิ่งทั้งปวงเป็นของเรา บุคคลผู้ไม่สำคัญอยู่อย่างนี้ ย่อมไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก เมื่อ
    ไม่ถือมั่น ย่อมไม่ สะดุ้งกลัว เมื่อไม่สะดุ้งกลัว ย่อมปรินิพพานได้เฉพาะตนทีเดียว รู้ชัดว่า
    ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความ เป็นอย่างนี้มิได้มี
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันนี้แล คือ ข้อปฏิบัติที่สมควรแก่การ เพิกถอนซึ่งความสำคัญสิ่งทั้งปวงด้วย
    ตัณหา มานะ และทิฐิ ฯ"
     
  18. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ไม่เหมือนครับ
     
  19. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เรียกว่า รูปทราม ครับ
     
  20. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ถามต่อครับ
    แล้วรูปละเอียดคือรูปอะไรครับ....รูปเช่นไรซึ่งเป็นรูปละเอียด
    ขอรายละเอียดหน่อยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...