WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

"ปลอดประสพ"มั่นใจรัศมี500กม.รอบกทม.น้ำไม่ท่วมแน่


เมื่อเวลา 13.00 น. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แถลงข่าวสรุปการประชุมติดตามความก้าวหน้าการป้องกันและแก้ไขอุทกภัยของ น.ส.ยิ่งลักษรณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า มีสิ่งที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ไปคือ ฝายต้นน้ำ 2,000 แห่ง 2.พื้นที่รับน้ำ 2.1 ล้านไร่ รับน้ำได้ 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร 3.การพร่องน้ำเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ รับน้ำได้ 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร 4.การซ่อมประตูระบายน้ำหลักที่เสียหาย 5.แนวคันดินริมแม่น้ำ ลำคลอง ทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา 6.การเสริมความสูงถนนเป็นแนวปิดบ้อมพื้นที่สำคัญระยะทาง 500 กม. 7.การเสริมความยาวคันกั้นน้ำตามแนวพระราชดำริ หรือ King Dike ส่วนเรื่องที่ยังต้องอยู่ในการดูแลของนายกรัฐมนตรีมีแบ่งเป็น สิ่งที่กำลังดำเนินการคือ 1.คลังข้อมูล 2.กล้องวงจรปิด (CCTV) และโทรมาตร (Telemeters) 3.การขยายแนวคลองลัดของแม่น้ำท่าจีน 2 จุด 4.การจัดระเบียบการบริหารจัดการอัตราการไหลของน้ำ (flow) ให้เป็นรายวัน

นายปลอดประสบ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องติดตาม คือ 1.การเชื่อมต่อระบบเตือนภัยระหว่างหน่วยงานต่างๆ 2.แก้ปัญหาจุดบอดการระบายน้ำเช่น ระบบ siphon ผ่านคลอง ทางรถไฟ จุดที่ลำน้ำผ่านเมือง 3.การติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ 4.การบริหารจัดการ Single Command Center นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ล่าช้าคือ 1.การปลูกหญ้าแฝกกันดินพัง 2.การขุดคูคลองขนาดเล็กในกทม. 3.การแก้ปัญหาบุกรุกลำคลองสาธารณะ 4.การขุดลอกแหล่งน้ำสาธาณะในพื้นที่ต้นน้ำ ซึ่งจากแผนที่วางไว้คือต้องแล้วเสร็จในเดือนมิ.ย.

นายปลอดประสพ กล่าวต่ออีกว่า จากนี้นายกรัฐมนตรี จะประชุมติดตามการป้องกันและแก้ไขอุทกภัย ทุกสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี พร้อมทั้งมั่นใจว่าพื้นที่สำคัญรัศมี 500 กม. รอบกทม.อย่างเช่น ม.ธรรมศาสตร์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นิคมอุตสาหกรรมทั้ง 6 แห่ง (1.นิคมฯ สหรัตนนคร 2.นิคมฯ บ้านหว้า(ไฮเทค) 3. นิคมฯ บางปะอิน 4.สวนอุตสาหกรมโรจนะ 5. เขตประกอบการอุตสาหกรรมนวนคร 6. สวนอุตสาหกรรมบางกะดี )อ.เมือง จ.นครสวรรค์ นั้นน้ำจะไม่ท่วมแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยตนจะทำแผนที่ที่แสดงถึงพื้นที่ต่างๆเพื่อชี้แจงอีกครั้งหนึ่ง

 

ไฟป่ายังคงลุกลามในรัฐโคโลราโด


เหตุไฟป่าที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ยังคงลุกลามในรัฐโคโลราโดของสหรัฐ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ในขณะที่เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินพยายามจะควบคุมเปลวเพลิงเอาไว้ให้ได้

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ทางการได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์ที่จำเป็นในการดับเพลิงจากการที่เครื่องบินบรรทุกน้ำของกองทัพอากาศ 5 ลำ ได้กลับไปช่วยดับไฟป่าได้อีก หลังเกิดอุบัติเหตุตกเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ท่ามกลางความต้องการการสนับสนุนทางอากาศ เพื่อควบคุมไฟป่า

เมื่อวันอาทิตย์ ได้เกิดเหตุเครื่องบินบรรทุกน้ำตกในแบล็คฮิลส์ รัฐเซาท์ ดาโกต้า ทำให้ลูกเรือเสียชีวิต 4 คน และบาดเจ็บ 2 คน เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบหาสาเหตุ ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมรัฐโคโลราโดและรัฐไอดาโฮ เมื่อวันอังคาร เพื่อดูการรับมือไฟป่าที่สร้างความเสียหายในพื้นที่ทางตะวันตก

ทอม วิลแซ็ค รัฐมนตรีเกษตร ได้กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในโคโลราโด สปริงส์ ที่ไฟป่าได้คร่าชีวิต ประชาชนไป 2 คน และเผาทำลายบ้านเรือนไปเกือบ 350 หลังคาเรือน ซึ่งพื้นที่ประสบภัยจากไฟป่า 3 จุด ในรัฐโคโลราโด มีบ้านเรือนถูกเผาทำลายไปมากกว่า 600 หลังคาเรือนและมีผู้เสียชีวิตไป 6 คน

บทวิเคราะห์ในหนังสือพิมพ์เดนเวอร์ โพสต์ ได้ประเมินว่า ไฟป่าที่สร้างหายนะที่ร้ายแรงที่สุดในรัฐโคโลราโด ได้เผาทำลายบ้านเรือนไปเป็นมูลค่ากว่า 110 ล้านดอลลาร์ ในพื้นที่เพียงจุดเดียวจากจำนวนหลายจุดในรัฐโคโลราโด ส่วนความเสียหายที่แท้จริงน่าจะมากกว่านี้ เนื่องจากประชาชนในเมาน์เท่น ชาโดว์ ได้ประเมินความเสียหายของทรัพย์สินและบ้านหลังใหม่ที่พวกเขาจะต้องย้ายเข้าอยู่ด้วย

ด้านหนังสือพิมพ์ เอล พาโซ่ เคาน์ตี้ ได้ประเมินความเสียหายของบ้านเรือน 341 หลังคาเรือนตามราคาตลาดไว้ที่ 110.2 ล้านดอลลาร์

 

คลื่นกัดเซาะต้นสนหาดปากเมง จ.ตรัง วิกฤต


นายเสริฐ ทองย้อย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง เปิดเผย ผู้สื่อข่าว ว่า ขณะนี้ปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งบริเวณชายหาดปากเมง ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และถือเป็นประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของจังหวัดตรัง กำลังมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าขั้นวิกฤติแล้ว เนื่องจากได้ทำต้นสนที่มีอายุยาวนานกว่า 50 ปี และถือเป็นสัญลักษณ์ของหาดปากเมง ต้องถูกคลื่นกัดเซาะจนโค่นล้มลงไปหลายต้นแล้ว จากจำนวนต้นสนที่มีเหลืออยู่ทั้งหมดประมาณ 200 ต้น และหากปล่อยไว้เช่นนี้เชื่อว่าอีกไม่เกิน 1 ปี ต้นสนก็มีความเสี่ยงที่จะโค่นล้มลงไปทั้งหมด

ก่อนหน้านี้ ทาง อบต.ได้เคยเสนอข้อมูลไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งต่อมาก็ได้จ้างบริษัทเอกชนลงมาสำรวจสภาพพื้นที่เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา และเห็นควรทำการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง จนได้มีการออกแบบ และจัดทำประชาคม หรือประชาพิจารณ์ และได้ผ่านความเห็นชอบของหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งชาวบ้านในตำบลไม้ฝาด เนื่องจากรูปแบบของเขื่อนดังกล่าวมีความสวยงาม และไม่ได้ทำให้ทัศนียภาพของชายหาดปากเมงเสียหายไปอย่างใด แต่ท้ายสุดโครงการนี้ก็ต้องล้มพับเงียบหาย เนื่องจากมีการเปลี่ยนรัฐบาล รวมทั้งข้าราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ นายอำเภอ หน.อุทยานฯ

ล่าสุดในการประชุมภาคส่วนต่างๆ ที่จังหวัดภูเก็ต ได้มีการหยิบยกถึงปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งทะเลอันดามันมาหารืออีกครั้ง พร้อมเสนอให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) ไปทำการวิเคราะห์และออกแบบเขื่อนป้องกันตลิ่ง เพื่อนำมาเสนอ รวมทั้งจัดทำประชาคม หรือประชาพิจารณ์

นายพงศ์ภวัน จิตรบรรเจิดกุล โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตรัง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ออกแบบเขื่อนป้องกันตลิ่ง ที่บริเวณชายหาดปากเมง เสร็จสิ้นลงเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ขั้นตอนการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นการก่อสร้างที่มีระยะทางเกิน 200 เมตรขึ้นไป แต่ขณะนั้นทราบว่า ทางอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เจ้าของพื้นที่ ได้ออกมาแสดงความเห็นคัดค้าน ทั้งที่การออกแบบมีความกลมกลืนกับสภาพธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม หรือชายหาดเดิม เพราะเป็นการฝังลงไปในพื้นทราย ซึ่งไม่ได้ทำให้มองดูน่าเกลียด แต่แล้วจนถึงล่าสุดโครงการนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

 

เตือนมหันตภัยฝนตกน้ำท่วม21จว.อันตราย

วันพุธที่ 4 กรกฎาคม 2555 เวลา 12:12 น.



อุตุเตือนภัย ระวังฝนหนัก น้ำป่าหลาก ท่วมฉับพลัน 21 จังหวัด ทั้งเหนือ อีสาน ยันภาคใต้ฝั่งตะวันตก ชี้พังงา ฝนมากสุด

สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งประกาศเตือนภัย ล่าสุด เป็นฉบับที่ 7 เวลา 11.30 น.วันนี้ (4ก.ค.) เรื่องฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ว่าทั่วทุกภาคของประเทศไทย มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ได้แก่ที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน บริเวณ จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล รวม 21 จังหวัด ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ ในระยะ 1-2 วันนี้


สาเหตุที่มีฝนตกหนัก เนื่องจาก ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

รายงานข่าวจาก สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) แจ้งปริมาณฝน 24 ชม.ย้อนหลังถึงเวลา 11.00 น.วันที่ 4 กค. ที่ (Thaiwater.net) ว่า ปริมาณฝนมากสุดที่ ต.บางวัน จ.พังงา 104.6 มม. ต.กะลาเส จ.ตรัง 87.4 มม. ต.บางหิน จ.ระนอง 87มม. ต.หนองปลิง ต.สกลนคร 79 มม. ต.บ่อเกลือใต้ จ.น่าน 66 มม.


ทางด้านกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานปริมาณฝนวันที่ 3 ก.ค. มากที่สุด ที่ จ.มุกดาหาร 89.4 มม. จ.ภูเก็ต 89.4มม.และที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 37.9 มม.

 

ตอนนี้เส้นฝนมันลงมาแล้ว

 

ตะลึง! แพทย์ผ่าตัด เนื้องอก 23 กก. ให้สตรีอเมริกัน



ตะลึง! แพทย์ผ่าตัด เนื้องอก 23 กก. ให้สตรีอเมริกัน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะศัลยแพทย์ที่ศูนย์การแพทย์ริเวอร์วิว เมืองเรดแบงค์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ของสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จ เมื่อสามารถผ่าตัดเอาเนื้องอกหนัก 23 กิโลกรัม ออกจากท้องของสตรีวัย 65 ปี ได้อย่างปลอดภัย
โดย นพ.เดวิด ดูปรี หัวหน้าคณะศัลยแพทย์ กล่าวว่า ครั้งแรกที่ตนเจอคนไข้เมื่อ 6-8 สัปดาห์ ก่อน เธอเป็นคนที่ผอมบาง แต่ท้องโตมากราวกับตั้งครรภ์แฝดสาม จากการสังเกตได้เห็นความผิดปกติในช่องท้อง
ด้าน เอเวอลีน ซึ่งเป็นคนไข้ดังกล่าว เผยว่า เธอรู้สึกอึดอัดในท้องมากและยังมีความรู้สึกว่าท้องมันบวมโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปกติเธอจะมีน้ำหนักเพียง 54 กิโลกรัม แต่ช่วงก่อนผ่าตัดกลับมีน้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 76.5 กิโลกรัม และมีอาการเท้าบวม เกิดภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง ซึ่งจากผลการสแกนพบเนื้องอกขนาดใหญ่กดทับเส้นเลือดดำต่ำกว่ากะบังลมที่นำเลือดกลับไปยังหัวใจ ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตอย่างยิ่ง



ทั้งนี้ แพทย์ได้ใช้เวลาการผ่าตัดให้กับเธอถึง 5 ชั่วโมงจึงจะเสร็จสิ้น พบว่าเนื้องอกที่ตัดออกมานั้น มีน้ำ หนักถึง 23 กิโลกรัม และสันนิษฐานว่าเนื้องอกเกิดจากเนื้อเยื่อไขมันรอบลำไส้ใหญ่

อย่างไรก็ดี เธอยังคงต้องพบนักวิทยาเนื้องอกเพื่อตรวจมะเร็งที่อาจถูกกำจัดไม่หมดจากการผ่าตัด และอาจต้องรับการรักษาด้วยรังสีหรือเคมีบำบัดต่อไป
Mthai News

 

<TABLE style="FILTER: progidXImageTransform.Microsoft.Gradient(startColorStr=#C0FFFFCC, endColorStr=#10FFFFFF, gradientType=0)" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; BORDER-RIGHT: gray 1px solid" width="100%" colSpan=3 align=middle>ประกาศเตือนภัย
"ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก"

ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 04 กรกฎาคม 2555

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BORDER-RIGHT: gray 1px solid; PADDING-TOP: 10px" width="100%" colSpan=3 align=middle> ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย
ที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ ในระยะ 1-2 วันนี้

ประกาศ ณ วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ออกประกาศ เวลา 15.30 น.

สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
</TD></TR></TBODY></TABLE>


--เวลานี้รามอินทราฝนตกหนัก มืดฟ้ามัวฝนกันทีเดียว-- :boo:

B5 - War Room Falkman

 

อยู่รามอินทราเหมือนกัน

 

4 July 2012


สถานภาพของประเทศไทยล่าสุดจากระบบเครือข่ายเรดาร์ของสำนักระบายน้ำกรุงเทพฯ

B5 - War Room Falkman

 

รายงานข้อมูล จากเพื่อนบ้านที่ไปทำงานไต้หวัน

ก่อนฝนจะตกแบบไม่ลิมหูลืมตาพร้อมลมรุนแรง เราได้คุยกับเพื่อนบ้านที่แฟนไปทำงานไต้หวัน เค้าเล่าว่าโทรไปหาแฟนเพราะยังไม่ส่งเงินมาให้ แฟนของเขาที่อยู่ไต้หวันบอกว่า ฝนตกหนักมากไปส่งเงินไม่ได้ และไม่ได้ออกไปทำงานหลายวันแล้วเพราะพายุเข้าต้องอยู่แต่ในบ้าน แถมมีแผ่นดินไหวมาเป็นระลอก อยากกลับเมืองไทยใจจะขาดไม่อยากอยู่ไต้หวันแล้ว แต่ติดสัญญาอีก 3 ปี...:'(

โอ้นี่แค่กลางปี ยังไม่ถึงช่วงเวลาที่คาดการณ์ ..อย่างไรก็ตามขอให้พระคุ้มครองคนดีด้วยcatt24

 

โรคลึกลับคร่าชีวิตเด็กกัมพูชาไปแล้วกว่า 60 ราย ภายใน 3 เดือน โดยยังไม่ทราบสาเหตุ



July 4, 2012 – CAMBODIA – An unidentified disease has killed 60 young children in Cambodia in three months, the World Health Organization said Tuesday as it raced to identify the cause. “The number of deaths reported to WHO are 60 cases and they have all been in young children,” said Dr Nima Asgari, a public health specialist for the UN body in Cambodia, adding that the first casualties were reported in April. The WHO is currently working with the Cambodian Ministry of Health “to identify the cause and the route of spread of this disease,” he said. With the investigation still at an early stage, Asgari said it was difficult to specify the symptoms, which “include high fever and severe chest disease symptoms, plus in some children there were signs of neurological involvement.” There have been 61 reported cases so far, Asgari said, with just one patient surviving. The victims, all aged seven and under, were admitted to hospitals in the capital Phnom Penh and the northwestern tourist hub of Siem Reap. In separate comments sent to AFP, the WHO said there were no signs yet of contagion. “To date, there is no report of any staff or any neighboring patients to the cases at the hospitals becoming sick with similar symptoms,” it said. Asgari confirmed there was “no cluster of the cases yet” but said the high mortality rate in such a short space of time was worrisome. “WHO is always concerned about a disease which causes death in such high numbers of children,” he told AFP. Cambodian health ministry officials were not immediately available for comment. –Medical Xpress


<!-- /.images-list-items --><!-- /.images-list-container --><!-- /.images-list-wrapper -->
<!-- /.featured-img -->ทีมผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลกประจำกัมพูชา กำลังเร่งหาสาเหตุและที่มาที่ไปของโรคลึกลับ ที่คร่าชีวิตเด็กเล็กอายุไม่เกิน 7 ขวบ 60 รายแล้ว ในช่วงเวลาแค่ 3 เดือน
<!-- /.content -->
<!-- /#featured-caption -->วันนี้ (3 ก.ค.) คณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก (ฮู) ประจำกัมพูชา กำลังเร่งตรวจสอบหาสาเหตุ และตัวตนของโรคลึกลับชนิดหนึ่ง ซึ่งคร่าชีวิตเด็กเล็กในกัมพูชา 60 รายแล้ว ในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา โดย ดร.นิมา อัสการี ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของฮูประจำกัมพูชา เผยที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ ว่า ผู้ป่วยทั้งหมดล้วนเป็นเด็กเล็กอายุไม่เกิน 7 ขวบ ถูกนำส่งโรงพยาบาลในกรุงพนมเปญ และจังหวัดเสียมเรียบ เมืองท่องเที่ยวทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ มีผู้ป่วยติดเชื้อเท่าที่พบ 61 ราย รอดชีวิตแค่รายเดียว นอกนั้นเสียชีวิตทั้งหมด โดยรายแรกเสียชีวิตในเดือน เม.ย. อาการที่พบคือ มีไข้ขึ้นสูง เจ็บหน้าอกรุนแรง และเด็กบางรายมีอาการทางประสาทเกี่ยวข้องด้วย
ดร.นิมา กล่าวอีกว่า การสอบสวนยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น โรคนี้ถือว่าเข้าขั้นร้ายแรง เมื่อดูจากจำนวนผู้เสียชีวิตในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าโรคนี้มีการติดต่อ ไม่มีแพทย์พยาบาล หรือเพื่อนบ้านล้มป่วย ด้วยอาการคล้ายคลึงกัน.



B5 - War Room Falkman

 

บางจาก-ปตท.ปรับขึ้นน้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ลิตรละ50สต.และคงดีเซลมีผลพรุ่งนี้



บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมัน เฉพาะกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลิตรละ 50 สตางค์ ส่วนราคาดีเซลยังคงตรึงไว้เท่าเดิม โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันพรุ่งนี้( 5 ก.ค.) เป็นต้นไป หลังคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ปรับลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันลงลิตรละ 50 สตางค์

ส่งผลให้ราคาน้ำมันในสถานีบริการของบางจากฯ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลวันพรุ่งนี้( 5 ก.ค. ) เป็นดังนี้ เบนซิน 91 ราคาลิตรละ 40.55 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 36.23 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 34.48 บาท, E20 ลิตรละ 32.58 บาท, E85 ลิตรละ 20.48 บาท ส่วนดีเซลยังคงเดิมที่ลิตรละ 29.83 บาท

นอกจากนี้ ผู้ค้าน้ำมันเอกชน อาทิ เชลล์ เอสโซ่ คาลเท็กซ์ และปิโตรนาส ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกทุกชนิดอีก 50 สตางค์ต่อลิตร มีผลวันนี้(4 ก.ค.) ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันตามสถานีบริการของผู้ค้าเอกชน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นดังนี้ แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ลิตรละ 34.48 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ลิตรละ 36.23 บาท เบนซิน 91 อยู่ที่ลิตรละ 40.55 บาท และดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 30.33 บาท

B5 - War Room Falkman

 

สุดตระการตา "องค์การนาซ่า"เปิดภาพ"พลุอวกาศ"ก่อนฉลองวันชาติสหรัฐ (4 July)

UPDATED: 07:22 GMT, 4 July 2012


Cosmic fireworks: NASA scientists released this image of a geyser of hot gas from a newborn star ricocheting off a dense area of cloud and molecular hydrogen. They have compared the picture to a classic Independence Day fireworks display


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศของสหรัฐ หรือนาซา ได้เปิดเผยภาพที่บันทึกได้จากกล้องโทรทัศน์อวกาศ"ฮับเบิล"แสดงให้เห็นภาพการกำเนิดดาวดวงใหม่ในจักรวาล โดยเป็นการก่อตัวของก๊าซหลากสี คล้ายพลุในอวกาศ โดยปรากฎการณ์นี้จะเกิดชึ้นในช่วงเริ่มกำเนิดดวงดาว และปกติแล้วจะใช้เวลากว่า 1 แสนปีกว่าจะหมดลง โดยเจ้าหน้าที่นาซาเปิดเผยว่า แม้ว่ากลุ่มก๊าซดังกล่าวจะดูเหมือนกลุ่มก๊าซบาง ๆ แต่มันมีความหนามากกว่าควันของพลุในวันฉลองวันชาติสหรัฐนับพันล้านเท่า

ทั้งนี้ สำหรับกล้องโทรทัศน์ฮับเบิลได้ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศตั้งแต่ปี 1990 โดยเป็นปฎิบัติการร่วมระหว่างองค์การนาซาและหน่วยงานอวกาศของยุโรป

B5 - War Room Falkman

 

พบสาร "ไซลีน-โทลูอีน" หลังโรงกลั่นบางจากระเบิด แนะปชช.สวมหน้ากาก ห้ามเปิดแอร์

วันที่ 04 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 14:12:21 น




จากเหตุระเบิดคลังน้ำมันบางจาก สุขุมวิท 64 ไฟโหมสูงเท่าตึก 6 ชั้น ตำรวจยันไร้คนเจ็บ ครม.ศก.ถกด่วนก.อุตสั่งปิดโรงกลั่น30วัน บางจาก คาด ซ่อม100ล้าน ยันมีสต๊อกพอ ไม่มีแผนย้าย หากสร้างใหม่ใช้งบกว่าหมื่นล้าน

ที่บริเวณโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุการณ์โรงกลั่นน้ำมัน บริษัท บางจากปิโตเลียม จำกัด (มหาชน) ระเบิดนั้น ล่าสุดกรมควบคุมมลพิษ ได้ส่งรถโมบายตรวจมลพิษ และกลุ่มก่อสารมะเร็งแล้ว โดยผลจากการตรวจเบื้องต้นพบสารไซลีน โทลูอีน และเบนซีน แต่มีปริมาณไม่มาก หรือยังไม่เกินค่าอันตรายที่ 1 PPM โดยทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำประชาชนที่อยู่บริเวณรอบโรงงานไม่ควรเปิดแอร์ เพราะอาจจะดูดสารดังกล่าวเข้าไป ทั้งนี้ ควรสวมหน้ากากไว้ เพื่อป้องกันอาการอาเจียนและวิเวียนศีรษะ

B5 - War Room Falkman

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ญี่ปุ่นฝนตกหนัก!! สูญหาย 1 คน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>4 กรกฎาคม 2555 17:31 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT><IFRAME style="WIDTH: 116px; HEIGHT: 20px" class="twitter-share-button twitter-count-horizontal" title="Twitter Tweet Button" src="http://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.1340179658.html#_=1009823719656&count=horizontal&id=twitter-widget-0&lang=en&original_referer=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FHome%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000082087&size=m&text=%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%9D%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81!!%20%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%201%20%E0%B8%84%E0%B8%99&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FHome%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000082087&via=ASTVManager" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

Share4
<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เกิดเหตุฝนตกหนักในเขตโออิตะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นวันนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลว่า อาจจะมีดินถล่มตามมา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยของญี่ปุ่น กำลังค้นหาชายผู้หนึ่งซึ่งสูญหายไปจากเหตุตลิ่งพัง และแม่น้ำท้องถิ่นไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและทรัพย์สินของชาวญี่ปุ่น
ทางการญี่ปุ่นแนะนำให้ชาวพื้นเมืองญี่ปุ่นที่มากกว่า 1,700 คน อพยพออกจากพื้นที่

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชิมแปนซีขย้ำ นศ.มะกันรอดถูกเชือด จนท.ชี้มูลเหตุปกป้องอาณาเขตตัวเอง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>4 กรกฎาคม 2555 14:09 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT><IFRAME style="WIDTH: 116px; HEIGHT: 20px" class="twitter-share-button twitter-count-horizontal" title="Twitter Tweet Button" src="http://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.1340179658.html#_=1009823986218&count=horizontal&id=twitter-widget-0&lang=en&original_referer=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FAround%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000081880&size=m&text=%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%B3%20%E0%B8%99%E0%B8%A8.%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94%20%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%97.%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FAround%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000081880&via=ASTVManager" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

Share
<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=512><TBODY><TR><TD vAlign=top width=512 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>แฟ้มภาพ ลิงชิมแปนซีในสวนสัตว์ทามะของญี่ปุ่น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - ลิงชิมแปนซี 2 ตัว ซึ่งรุมขย้ำนักศึกษาชาวอเมริกันรายหนึ่งจนบาดเจ็บสาหัส จะไม่ถูกฆ่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบว่าสัตว์ทั้งสองก่อเหตุรุนแรงดังกล่าวเพียงเพราะต้องการปกป้องอาณาเขตของตนเองจากผู้บุกรุกเท่านั้น ผู้อำนวยการอุทยานแห่งชาติในแอฟริกาใต้เผย

คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติพบว่า แอนดริว โอเบอร์เล นักศึกษาวัย 26 ปี ซึ่งต้องเสียหูไปข้างหนึ่ง และได้แผลฉกรรจ์ที่นิ้วเท้า นิ้วมือ และอัณฑะ หลังถูกลิงชิมแปนซีคู่ดังกล่าวโจมตี เนื่องจากเขาพยายามเข้าไปในเขตต้องห้าม ณ ศูนย์อนุรักษ์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เจน กู๊ดออล อินสติติวท์ ชิม เอเดน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

“พวกเขาไม่เชื่อว่าชิมแปนซีทั้ง 2 ตัวควรต้องถูกกำจัด เนื่องจากพวกมันกำลังปกป้องอาณาเขต และพวกมันก็ไม่ได้หลบหนี หรือพยายามปีนรั้วด้วยความตั้งใจที่จะทำร้ายใคร หรือโจมตีนักท่องเที่ยวคนใดเลย” ยูจีน คัสสันส์ ผู้อำนวยการชิม เอเดนกล่าว

โอเบอร์เล นักศึกษาปริญญาโทด้านมานุษยวิทยา และวานรวิทยา มหาวิทยาลัยเทกซัส ในซานอันโตนิโอ กำลังทำวิจัยเรื่องลิงที่ถูกทำร้าย และกำพร้า ในศูนย์อนุรักษ์สัตว์ดังกล่าว โดยในวันเกิดเหตุ เขากำลังนำนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมศูนย์ และได้ข้ามรั้วเข้าไปในเขตต้องห้าม เพื่อไปเอาหินที่ชิมแปนซีอาจใช้ขว้างใส่ผู้คนได้

“ตัวเขาเองข้ามรั้วกั้นเพื่อความปลอดภัย และเข้าไปในเขตห้ามเข้าเอง” คัสสันส์กล่าว และว่า แอนดริวคงต้องการเข้าไปขัดขวางไม่ให้ลิงเหล่านั้นใช้หินขว้างใส่ผู้คน แต่เขาไม่เคยได้รับการอบรมให้ดำเนินการเช่นนั้น ซึ่งจำเป็นต้องเป็นผู้ที่ได้รับการฝึกฝนในระดับสูงเท่านั้นถึงจะเข้าไปในเขตห้ามเข้าได้

ทั้งนี้ คัสสันส์ยิงชิมแปนซีหนึ่งในนั้นซึ่งชื่อเจ้านิกกิได้รับบาดเจ็บ ขณะพยายามช่วยเหลือโอเบอร์เลจากการถูกรุมขย้ำ โดยเขายังคงมีสติแม้ได้รับบาดเจ็บสาหัสไปทั่วร่างกาย กระทั่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการโคมา แต่เวลานี้อาการของเขาเริ่มทรงตัวแล้ว

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อึ้ง! เผยโฉม “กิ้งก่าไอ้แมงมุม” สุดเท่แบบซูเปอร์ฮีโร่</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>2 กรกฎาคม 2555 10:38 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT><IFRAME style="WIDTH: 116px; HEIGHT: 20px" class="twitter-share-button twitter-count-horizontal" title="Twitter Tweet Button" src="http://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.1340179658.html#_=1009824050531&count=horizontal&id=twitter-widget-0&lang=en&original_referer=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FAround%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000080696&size=m&text=%E0%B8%AD%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87!%20%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%89%E0%B8%A1%20%E2%80%9C%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E2%80%9D%20%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%8B%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%AE%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B9%88&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FAround%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000080696&via=ASTVManager" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

Share604
<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=634><TBODY><TR><TD vAlign=top width=634 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กิ้งก่าพันธุ์ Mwanza Flat Headed Agama สายพันธุ์ท้องถิ่นของทวีปแอฟริกา มีสีแดงและน้ำเงินคล้ายกับ "ไอ้แมงมุม" </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเจนซี- ธรรมชาติมักมีสิ่งที่น่าประหลาดใจซ่อนเร้นอยู่เสมอ และแล้วสองผัวเมียคู่หนึ่งก็ได้บังเอิญพบกับ “กิ้งก่า” ประหลาด ซึ่งนอกจากจะมีสีแดงและน้ำเงินสดคล้ายกับ “ไอ้แมงมุม” แล้ว ยังโพสท่าบนก้อนหินได้สุดเท่ไม่ต่างไปจากซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจเด็กๆ ด้วย

สัตว์เลื้อยคลานที่เห็นนี้คือกิ้งก่าพันธุ์ Mwanza Flat Headed Agama ซึ่งเป็นพันธุ์ท้องถิ่นของทวีปแอฟริกา และมักอาศัยอยู่รวมกันโดยมีตัวผู้เป็นจ่าฝูง ซึ่งก็มักจะเป็นตัวที่สีสันสะดุดตาที่สุด

กิ้งก่าตัวนี้ถูกจับภาพไว้ได้ด้วยฝีมือของช่างภาพ คาสซิโอ โลเปซ ซึ่งเดินทางไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติ มาไซ มารา ในเคนยา พร้อมกับอเลซซานดรา ภรรยาของเขา

ช่างภาพวัย 38 ปีจากเมืองเซาเปาลู บอกว่า “เราสองคนไปร่วมเวิร์คช็อปเกี่ยวกับการถ่ายภาพ และบ่ายวันหนึ่งเราก็แวะพักริมแม่น้ำรอนไก ประมาณ 2 ชั่วโมง”

“ตอนนั้นเป็นช่วงหน้าแล้ง เราได้ยินมาว่า มีเสือดาวเพศเมียออกหากินแถบนั้นเมื่อตอนเช้า เราเลยตัดสินใจออกตามหามัน”

“เดินอยู่ตั้งนานก็ไม่พบเสือดาว เราเลยมองหาสัตว์อื่นๆ ดูบ้าง แล้วภรรยาผมก็เห็นเจ้ากิ้งก่าตัวนี้นอนอาบแดดอยู่บนก้อนหินใกล้แม่น้ำ... นี่เป็นครั้งแรกที่เราเจอกิ้งก่าพันธุ์นี้ แม้จะเคยมาแอฟริกาหลายครั้งแล้วก็ตาม เรารู้สึกทึ่งกับลวดลายบนตัวมันมาก”

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=634><TBODY><TR><TD vAlign=top width=634 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สไปเดอร์แมน หรือ "ไอ้แมงมุม" ซูเปอร์ฮีโรขวัญใจคอการ์ตูน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> ริช นันน์ จากบริษัท นอสแตลเจีย แอนด์ คอมมิกส์ ในเมืองเบอร์มิงแฮม บอกว่า กิ้งก่าตัวนี้ช่างมีความละม้ายคล้ายคลึงกับสไปเดอร์แมนอย่างไม่น่าเชื่อ

“มันเป็นกิ้งก่าตัวแรกที่ผมพบว่าสีเหมือนสไปเดอร์แมนอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะช่วงอก และขาทั้ง 4 ข้าง”

“ผมเชื่อว่าคงมีคอการ์ตูนหลายคนอยากจะเลี้ยงกิ้งก่าแบบนี้ เพราะมันเหมือนฮีโร่ของพวกเขา”

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปากคำผู้อยู่ในเสี้ยวนาทีท่อน้ำมันบางจากบึ๊ม </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>4 กรกฎาคม 2555 15:56 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT><IFRAME style="WIDTH: 116px; HEIGHT: 20px" class="twitter-share-button twitter-count-horizontal" title="Twitter Tweet Button" src="http://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.1340179658.html#_=1009824330843&count=horizontal&id=twitter-widget-0&lang=en&original_referer=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FHome%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000081995&size=m&text=%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%B6%E0%B9%8A%E0%B8%A1%20&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FHome%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000081995&via=ASTVManager" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

Share16
<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เผยเสี้ยวนาทีท่อส่งน้ำมันบางจากระเบิด ชาวบ้านในชุมชนระบุเสียงและแรงสั่นสะเทือนรู้สึกไกลไปถึงพระประแดง ครั้งนี้รุนแรงสุดในรอบ 40 ปี ไม่มีประชาสัมพันธ์บอกชุมชน แต่ก็ยังเชื่อในระบบความปลอดภัยของโรงกลั่น

จากเหตุการณ์ท่อส่งน้ำมัน บริษัท บางจากปิโตเลียม จำกัด (มหาชน) เกิดระเบิดบริเวณหน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 3 ภายใน บริษัท บางจากปิโตเลียม จำกัด (มหาชน) ซอยสุขุมวิท 64 ถนนริมทางรถไฟสายเก่า แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. เมื่อเวลาประมาณ 07.20 น.วันนี้ (4ก.ค.)

ชาวบ้านภายในชุมชนหน้าโรงกลั่นซึ่งตั้งอยู่ติดกับโรงกลั่นนับเป็นกลุ่มที่ประสบเหตุใกล้ชิดที่สุดกลุ่มหนึ่ง โดย นายสมควร บุญเพชร อายุ 83 ปี กล่าวว่า ตนอยู่ในชุมชนนี้มา 40 ปี แล้ว ที่บ้านเปิดร้านขายของชำ ซึ่งช่วงเช้าระหว่างที่กำลังขายของอยู่ก็ได้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น 1 ครั้ง บ้านก็สั่นสะเทือนหวั่นไหวไปทั้งหลัง รู้สึกตกใจกลัวไม่ทราบว่าเสียงอะไรมาจากไหน จากนั้นก็มีชาวบ้านตะโกนให้หนีออกมาจากบ้าน เมื่ออกมาก็เห็นควันดำโขมงลอยออกจากโรงกลั่น แต่ข้าวของภายในบ้านไม่ได้เสียหายอะไร

“รู้สึกกลัวมากเพราะบ้านอยู่ใกล้โรงกลั่นน้ำมัน ต่อในอนาคตไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นอีก ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยระเบิดมา 1 ครั้ง แต่ไม่รุนแรงเท่าครั้งนี้”

นายสำราญ ศรีเมฆ อายุ 40 ปี ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าหลังตนไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนพูนสิน ก็กลับมาบ้านและให้อาหารไก่อยู่ ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ตนเกิดตกใจและกลัวเป็นอย่างมาก จึงหันไปหาที่มาของเสียงก็พบว่ามีกลุ่มควันลอยออกมาจากโรงกลั่น จึงสันนิฐานว่าโรงกลั่นอาจจะระเบิด ซึ่งระหว่างที่เกิดระเบิดนั้นตนรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงมาก จากนั้นก็มีเพื่อนตนที่อยู่ย่านพระประแดงโทรมาสอบถามตนว่าเกิดอะไรขึ้นและตนเป็นอย่างไรบ้าง เนื่องจากเพื่อนที่อยู่พระประแดงก็ได้รับแรงสั่นสะเทือนเช่นกัน ก่อนหน้านี้ทางโรงกลั่นเคยให้คณะกรรมการหมู่บ้านเข้าไปดูมาตรการรักษาความปลอดภัยของโรงงาน และระบบการป้องกันหากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ซึ่งพบว่าระบบเซฟตี้ของโรงงานมีความปลอดภัยสูงและเชื่อใจได้

นายสำราญ กล่าวอีกว่า แต่ว่าวันนี้เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกลับไม่มีการประชาสัมพันธ์ หรือเสียงตามสายเลย ทำให้พวกตนในชุมชนไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น และมีผลกระทบร้ายแรงแค่ไหน หรือต้องอพยพกันหรือไม่ จึงอยากให้ทางโรงงานดูแลเรื่องดังกล่าวด้วย นอกจากนี้หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนพุนสินที่ลูกสาวตนเรียนอยู่ได้โทรมาให้มารับลูกสาวกลับบ้านเพราะโรงเรียนได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เกรงว่าจะได้รับผลกระทบ ตนจึงไปรับลูกสาวกลับบ้าน

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 07.20 น. ท่อส่งน้ำมัน บริษัท บางจากปิโตเลียม จำกัด (มหาชน) เกิดระเบิดบริเวณหน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 3 ภายใน บริษัท บางจากปิโตเลียม จำกัด (มหาชน) ซอยสุขุมวิท 64 ถนนริมทางรถไฟสายเก่า แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ได้เกิดระเบิดขึ้น

แรงระเบิดส่งผลให้เกิดกลุ่มหมอกควันหนามืด และแสงเพลิงพวยพุ่งท่วมสูงออกจากหอแยกน้ำมันก๊าดในหน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 3 เจ้าหน้าที่ต้องใช้น้ำฉีดสกัดกั้นเพลิงเพื่อควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายลุกลาม จากนั้นเจ้าหน้าที่ของบริษัทบางจาก ได้ทำการปิดวาล์ลท่อส่งน้ำมันและก๊าซเพื่อไม่ให้มีน้ำมันและก๊าดไหลเข้าไปเพิ่มเติม ก่อนฉีดน้ำและโฟมเพื่อหล่อความเย็นเอาไว้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จากการตรวจพบว่าท่อส่งน้ำมันได้รับความเสียหายและต้องหยุดการผลิตน้ำไปในหน่วยน้ำมันดิบเป็นการชั่วคราว และกระจกของอาคารบางแห่งก็แตกเสียหายบางส่วน

ต่อมา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่า กทม.และเจ้าหน้าที่บริหาร กทม.เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เปิดเผยว่า ระหว่างเกิดเหตุทาง กทม.ได้ส่งรถน้ำและทีมอนามัยมาช่วยเหลือบริษัทบางจาก ซึ่งขณะนี้เพลิงได้สงบแล้ว แต่ก็ยังได้ให้ทางรถน้ำและทีมอนามัยอยู่ก่อนเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยและตรวจสอบสภาพความเสียหายทั้งในบริษัทและชุมชนโดยรอบเพื่อให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่รอบพื้นที่ได้รับความอุ่นใจ

นอกจากนี้ยังให้ทีมอนามัยของ กทม.ตรวจสุขภาพคนในชุมชนหลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดของท่อส่งน้ำมัน ตรวจสภาวะอากาศรวมถึงตรวจดูมลพิษที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่า เกิดจากก๊าดรั่ว ส่วนที่ว่ามาตราการต่อไปในเรื่องที่ว่าโรงกลั่นอยู่ในชุมชนเมือง ก็จะได้พูดคุยกับทางบริษัทว่าจะสามารถย้ายออกไปตั้งในพื้นที่อื่นได้หรือไม่ แต่นี่ก็ยังเป็นเพียงความคิดเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่ได้ดำเนินการอะไร

รายงานข่าวแจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทบางจากไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในพื้นที่ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทดูแลอยู่แล้ว 200 คน และมีระบบรักษาความปลอดภัยอยู่ครบครัน ซึ่งทางบริษัทอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยรถดับเพลิงและรถฉีดโฟม เข้าไปที่เกิดเหตุได้เพียง 5 คัน แต่เพลิงเกิดรุนแรงขึ้นมากทางบริษัทจึงให้รถดับเพลิงเข้าไปช่วยเพิ่มเติมอีก 2 คันจึงสามรถควบคุมได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ตร.ได้ทำการปิดการจราจรถนนริมทางรถไฟสายเก่าตลอดทั้งเส้น

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>