จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    จิตไปสะดุดกับชื่อนี้อ่ะ "เกิดมานาน"
    เห็นแล้วนึกถึงจิตตนเอง
    มัน "เกิดมานาน" เจง ๆ
    ถ้าไม่เจอพี่ภู ไม่เจอ "จิตเกาะพระ"
    ข้าเจ้าก็คงจะ "เกิดไปอีกนาน" ฮ่าๆ
    แต่ไม่เอาล่ะ "เกิดมานาน" จนเบื่อล่ะ
    ทุกวันนี้จิตไม่ทุกข์ แต่ขันธ์ห้ามันทุกข์
    เพราะ "เกิดมานาน"
    ฮ่าๆๆ แหม๊เข้าใจไปหาชื่อมาตั้งนะคุณ "เกิดมานาน"
     
  2. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    ขออนุโมทนากับจิตบุญ 29 และครูผู้สอนด้วยครับ

    สาธุ
     
  3. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    ผมรับรุ้ได้ในสิ่งที่พี่ภูส่งมาให้ครับ(ไม่ใช่จากการที่อ่านนะครับ)

    ผมก้อบอกท่านพ่อไว้แล้ว เหมือนพี่ครับ

    รับใช้พระพุทธศาสนาตราบจนผมละขันธ์

    นำดวงจิตขึ้นนิพพาน

    พาไปส่งที่ข้างบน

    เราจะเดินพาเค้าไป

    ..... เรื่อลำนี้จะไม่จมครับ...

    เชิญมาขึ้นเรือได้ครับ

    สาธุ
     
  4. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    คุณเกษทำได้ครับ

    ต้วมเตี้ยมๆๆๆ เต่ายิ้ม 555555
    เอาแบบนี้แหละ เกาะไป ยิ้มไป สบายๆ ว่างๆ

    Good Jobbbbbb
     
  5. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    ไม่มีเรื่องบังเอิญครับ

    เข้ามาแล้ว .. มามะ จูงมือเดินไปด้วยกันครับ

    กลับบ้านเราเถอะ
     
  6. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    สาธุกับธรรมะของท่านเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้.....

    สมแล้วที่ท่านพี่ภูมอบหมายให้เป็น เป็นแม่ทัพด้านวิชาการ

    ใครมีอะไร ถามท่านได้นะครับ

    ตอบได้หมด เป็นอับดุล เชื่อผมสิ อิอิ
     
  7. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    เดี๋ยวให้ครูเพ็ญ ครูนก ครูลูกพลัง ท่านสายปัญญามาตอบแทนดีก่าหัวข้อเรื่อง เจาะใจจิตเกาะพระ และคำว่า จิตเกาะพระนั้นเป็นคำปรามาสพระพุทธเจ้ากันกันหรือไม่ อย่างไร

    ใคร ใคร มาเรียกหาเรา

    อ้อ พี่ภูที่รักของน้อง ๆ นี่เอง

    ท่านพี่มีเรื่องไรรึ?

    อ้อ สงสัยคำว่า "จิตเกาะพระ" ปรามาสพระพุทธเจ้าหรือไม่

    เอ่ เพ็ญว่าพี่ภูไม่ต้องไปถามใครเลยนะเนี่ย

    จิตพี่ภูรู้แจ้งเห็นจริงที่สุด

    คนที่รู้ไม่แจ้งเห็นไม่จริงท่านก็ย่อมสงสัยเป็นธรรมดา

    เราจะตำหนิติเตียนท่านก็ไม่ถูก

    เพราะท่านไม่รู้จริงท่านจึงถาม

    เพราะท่านไม่รู้จริงท่านจึงคิดปรุงแต่งไปต่าง ๆ นานา

    ลูกศิษย์ครูเพ็ญทุกคนคงจำกันได้ใช่ไหม(โดยเฉพาะลูกศิษย์หัวแถว)

    ครูเพ็ญสอนเสมอว่าให้ท่องไว้นะว่า "เราไม่ใช่ผู้วิเศษ"

    ในกระทู้เก่า(ที่โดนด่าไป 555) ครูเพ็ญก็บอกไปแล้วว่าเราไม่ใช่ผู้วิเศษ

    แต่คนอ่านก็ยังตอกกลับมาว่า "ทำได้ขนาดนี้แถวบ้านผมเขาเรียกว่าผู้วิเศษแล้ว"

    เราก็อืม มารพูดไม่รู้เรื่อง ตรูไม่พูดด้วยล่ะ

    ก็บอกแล้วไงว่า "ตรูไม่ใช่ผู้วิเศษ"

    มารก็ยังจะให้ "ตรูเป็นผู้วิเศษ"

    เรื่องของมารไม่ใช่เรื่องของเรา(จิต)

    มุ่งหน้าปฏิบัติต่อไปดีก่า

    ใครอยากจะเป็น "ผู้วิเศษ" ก็เรื่องของเขา

    เพราะมันไม่ช่วยให้จิตข้าเจ้ายกออกจากทุกข์อ่ะ

    ครูเพ็ญจะซาหรุบ(สรุป)ให้ชาวจิตเกาะพระรับทราบเอาไว้นะ

    ไม่ต้องเชื่อครูเพ็ญแต่ขอให้ไปพิสูจน์กันเอาเอง


    ถาม จิตเกาะพระ-ปรามาสพระพุทธเจ้าหรือไม่?

    ตอบ อยู่ที่ "เจตนา"

    ถาม จิตเกาะพระ-ไปนิพพานได้จริงหรือไม่?

    ตอบ ไปได้จริงและไปได้ไวที่สุดในกรรมฐาน 40 กอง

    ถาม จะรู้ได้ยังไงว่าจิตเกาะพระช่วยให้ไปนิพพานได้จริง?

    ตอบ ก็มาทำเองสิฟ๊ะ จะได้ไม่ต้องมาถามอีก

    ถาม มีคนสงสัยว่าทำ "จิตเกาะพระ" จะไปนรกเพราะปรามาสพระพุทธเจ้า?

    ตอบ มันก็แน่นอนอยู่แล้ว ใครปรามาสพระพุทธเจ้า ที่ไปก็ต้องเป็นนรกแหง๋ ๆ ไม่เห็นต้องมาถาม

    ถาม อ้าว ถ้าเป็นอย่างนั้นทำจิตเกาะพระก็ไม่ดีน่ะสิ เพราะเดี๋ยวจะพากันลงนรกหมด?

    ตอบ เอ่อ ถ้าเองเกาะไม่ดี ใจเองคิดเป็นอกุศล เองก็ไปนรกนั่นแหละ แต่ถ้าเองเกาะให้ดี ๆ เกาะให้แน่น ๆ ใจเองคิดเป็นกุศล มีใจรักเคารพนบนอบต่อพระพุทธเจ้า เองไม่ได้ไปหรอกนรกน่ะ แต่เองจะไปนิพพานแทน.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กรกฎาคม 2012
  8. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    ตั้งใจทำไปครับ ทำๆๆๆ แล้วก้อ ทำๆๆๆๆๆๆๆ ตามที่ท่นพี่ลูกพลังบอก

    เดินมาได้ดีแล้วครับ อีกไม่ไกล

    ท่านที่ยังไม่มีครู หาสะนะครับ อย่าเดินคนเดียว หลงทาง หกล้ม เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนนะคร้าบบบบ

    ขอส่งผลบุญและพลังพุทธะที่ผมมีส่งให้ผู้ที่กำลังฝึกทุกท่านะครับ

    ขอให้ถึงที่ทุกท่านะครับ

    สาธุ
     
  9. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    มายืนยันแอนด์นอนยัน
    สิ่งที่เราทำไม่ใช่สิ่งเหนือโลก ไม่ใช่สิ่งพิสดาร มหัศจรรย์พันลึก ไม่ใช่เรื่องของผู้วิเศษ

    เป็นทางที่ธรรมดา

    ยิ่งมาถึง แล้ว ยิ่ง ธรรมดา

    แต่คนธรรมดา จะมาได้ไหม ... มาได้สิ ก้อมผธรรมดานิ

    ธรรมดาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ธรรมดาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    ธรรมชาติๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ธรรมชาติๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    เป็นปัจจัตตัง นะพี่น้องงงงงงงงงงงงงง

    ไม่ลองไม่รู้

    แต่ที่แน่ๆๆๆๆ ผมจะพาคุณเดินกลับบ้าน ถ้าคุณอยากกลับ

    ธรรมชาติสวัสดี

    วิทย์ จบ.11
     
  10. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    เดี๋ยวกลับออกมาจากห้องพระ..... จะมีอะไรมาบอกกกกก
    ธรรมดาม้ากกกกกกกกกกกกก

    55555
     
  11. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    หลักในการพิจารณา

    หลักในการพิจารณา

    วันนี้เรามาว่าด้วยเรื่อง"หลักในการพิจารณา"
    พิจารณาอะไร?
    ก็ใช้ปัญญาในการพิจารณาสภาวะธรรมใดๆก็แล้วแต่ ว่ามีเหตุปัจจัยจึงยังผลให้เกิดผลลัพธ์ เมื่อมีสิ่งนั้นจึงมีสิ่งนี้..
    หลักในการพิจารณาอย่างง่ายก็ให้ดูที่ "เจตนา"
    หลักในการพิจารณาอย่างละเอียดก็ให้แบ่งดูที่ "มโนกรรม วจีกรรม กายกรรม"
    หลักในการพิจารณาอย่างละเอียดมากขึ้น(ภาคพิศดาร)ก็ให้แบ่งดูที่:-
    1. รู้ใช่ไหมว่าเป็นสิ่งนั้นๆ
    2. เริ่มมีความคิดที่จะกระทำต่อสิ่งนั้นๆ
    3. ได้ลงมือกระทำต่อสิ่งนั้นๆ
    4. ภายหลังกระทำการได้สำเร็จสมตามความคิดตั้งแต่แรก

    ยกตัวอย่างเช่น มีคนสงสัยว่าเดินๆไปแล้วเหยียบมดตาย ผิดศีลข้อ1-ปานาติบาตหรือไม่?
    เราก็ให้เอาหลักในการพิจารณามาจับ ดังนี้
    1. รู้ไหมว่ามีมดอยู่ - ไม่รู้
    2. ตั้งใจจะเหยียบมด - ไม่ได้ตั้งใจ
    3. ได้ลงมือ(เท้า)กระทำ - เหยียบมด
    4. สำเร็จไหม - สำเร็จคือมดตายคาที่เลย
    เมื่อองค์ประกอบแห่งเหตุยังไม่ครบถ้วนทั้ง4ข้อ ก็ยังไม่ถือว่าสำเร็จกิจ หรือ"ศีลไม่ขาด" (ส่วนกรรมติดตัวไปนั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง)

    ตัวอย่างต่อมาเช่น มีคนสงสัยว่าหยิบก้อนกรวดรูปร่างดีจากวัดนำกลับบ้านไปบูชา ผิดศีลข้อ2-อทินาหรือไม่?
    เราก็ให้เอาหลักในการพิจารณามาจับ ดังนี้
    1. รู้ไหมว่าก้อนกรวดนี้อยู่ในวัดและเป็นของวัด - รู้ (คำตอบแบบแกล้งโง่เข้าข้างตัวเอง ไม่เอานะครับ..เช่นมันอยู่ที่พื้นดิน)
    2. คิดตั้งใจจะนำกลับบ้าน - ใช่คิดจะนำกลับบ้าน
    3. ได้ลงมือกระทำ - ได้หยิบใส่กระเป๋าเอากลับบ้าน
    4. สำเร็จไหม - สำเร็จคือได้นำกลับมาบูชาที่บ้าน
    เมื่อองค์ประกอบแห่งเหตุครบถ้วนทั้ง4ข้อ ก็ถือว่าสำเร็จกิจ หรือ"ศีลข้อลักทรัพย์ขาด" (ส่วนกรรมติดตัวไปนั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งคือ ขโมยของสงฆ์ของวัดไป จะต้องตกนรกแล้วมาเกิดเป็นเปรตเฝ้าวัดในภายหน้า - เมื่อเราไปใช้ห้องนำ้ห้องท่าที่วัดได้เปิดไฟใช้นำ้ ก็ควรทำบุญให้กับวัดนั้นๆด้วย เขาเรียกว่า "เป็นการใช้หนี้สงฆ์" ผู้มีปัญญา+สติย่อมไม่ประมาทแม้นเรื่องเล็กน้อย..)

    ตัวอย่างต่อมาเช่น มีคนสงสัยว่า"การทำจิตเกาะพระ" เป็นการปรามาสพระหรือไม่?
    เราก็ให้เอาหลักในการพิจารณามาจับ ดังนี้
    1. รู้ไหมว่านี่เป็นพระ/ภาพพระ - รู้แบบเทิดทูลของสูง (รู้ด้วยว่าเรากำลังจะเจริญพุทธานุสติ+กสิน เป็นสมถะกรรมฐาน)
    2. คิดตั้งใจจะปรามาสพระ(คือคิดด้านอกุศลต่อพระพุทธเจ้า) - ไม่ใช่เลย ตั้งใจจะเจริญกรรมฐานด้วยศรัทธาต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ศาสดาเอกของโลกด้วยจิตความเคารพเลื่อมใสอย่างสูงยิ่ง..
    3. ได้ลงมือกระทำอกุศลกรรม/ปรามาสพระพุทธเจ้า - หามิได้และไม่ใช่อย่างยิ่ง..
    4. สำเร็จไหม - หามิได้เพราะว่าไม่ได้กระทำอกุศลกรรมหรือการปรามาสแต่อย่างใดเลย..
    เมื่อองค์ประกอบแห่งเหตุไม่ครบถ้วนทั้ง4ข้อ ก็ถือว่าไม่สำเร็จกิจ (แถมเป็นไปในทางตรงกันข้ามอีก) หรือกล่าวได้ว่า
    "การทำจิตเกาะพระ เป็นพุทธานุสติแบบหนึ่งเป็นการเทิดทูลองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของพวกเรา หามิได้เป็นการปรามาสพระแต่อย่างไร.."
    มิฉะนั้นแล้วช่างหล่อพระหรือช่างปั้นพระ ก็ต้องปรามาสพระทุกวันหรือ? แล้วใครจะมายอมหล่อหรือปั้นพระให้พวกเราได้กราบไหว้บูชาหล่ะ..
    แต่จะอย่างไรเสียผู้ปฎิบัติธรรมก็ควรหมั่นขอขมาต่อพระรัตนตรัยอยู่เนืองๆ ในกรณีอาจมีผิดพลาดพลั้งเผลอไปบ้าง..

    พุทธศาสนิกชนและผู้ปฎิบัติธรรมทุกหมู่เหล่าควรเจริญด้วย สัมมาสติ(ระลึกชอบ) สัมมาทิฏฐิ(เห็นชอบ) สัมมาสังกัปปะ(ดำริชอบ) และสัมมาวาจา(เจรจาชอบ) ซึ่งเป็น4องค์ในอริยมรรค8
    เส้นทางสายตรงมุ่งสู่มรรคผลนิพพานจะต้องเดิมตามรอยอริยมรรควีธีเท่านั้น (ศีล สมาธิ ปัญญา) จึงจะสำเร็จได้ ซึ่งมรรคก็เป็นหนึ่งในอริยสัจ4 ซึ่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้จนเป็นที่มาของพระพุทธศาสนาของพวกเรานั่นเอง..

    ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ..สาธุสวัสดี
     
  12. ่jarunee

    ่jarunee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +1,917

    [​IMG]


    ธรรมโอวาทเพื่อพระนิพพาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน



    พิจารณาตน

    ๑.ถ้าบุคคลใดไม่สนใจจริยาของบุคคลอื่น
    ไม่เพ่งเล็งบุคคลอื่น ไม่ยกตนข่มท่าน ไม่มีความประมาท
    มีจริยาดี มีความสงบใคร่ครวญเฉพาะความประพฤติของตัว
    อย่างนี้ชื่อว่าเข้าถึง สะเก็ดความดี ที่ตถาคตสอน

    แล้วบุคคลใดไม่ทำลายศีลด้วยตนเอง
    ไม่ยุยงส่งเสริมให้คนอื่นทำลายศีล
    ไม่ยินดีเมื่อบุคคลอื่นทำลายศีลแล้ว
    สามารถระงับนิวรณ์ ๕ ได้ตามต้องการ จิตทรงฌาน
    มีอารมณ์ทรงพรหมวิหาร ๔ เป็นปกติ
    ชื่อว่าเป็นผู้ทรงฌานโลกีย์
    อย่างนี้ถือว่าเข้าถึง เปลือกความดี ที่พระองค์ทรงสอน

    ถ้าบุคคลใดทำความดีดังนี้ตามลำดับมาครบถ้วนทรงตัว
    สามารถทำจิตให้ระลึกชาติได้โดยไม่จำกัด
    อย่างนี้เข้าถึง กระพี้ความดี ที่พระองค์สอน

    ถ้าบุคคลใดทำจุตูปปาตญาณให้เกิดขึ้น
    เห็นคนและสัตว์รู้ได้ทันทีว่าคนและสัตว์นี้ก่อนเกิดมาจากไหน
    คนตายแล้วไปอยู่ไหน
    อย่างนี้ถือว่าเข้าถึง แก่นความดี ที่พระองค์สอน แต่เป็นแก่นขั้นฌานโลกีย์

    ต่อไปทบทวนความดีนี้ให้ทรงตัว ทำวิปัสสนาญาณ
    ถ้ามีบารมีแก่กล้า จะตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทประหาน ได้ภายใน ๗ วัน
    ถ้าบารมีอย่างกลาง จะตัดกิเลสได้หมดภายใน ๗ เดือน
    ถ้าบารมีอย่างอ่อน จะตัดได้หมดภายใน ๗ ปี

    ๒.ดีหรือชั่วมันอยู่ที่การควบคุมกำลังใจ
    ถ้าใจของเราบริสุทธิ์ผุดผ่องเสียอย่างเดียว ใครจะว่าดีหรือชั่วไม่มีความสำคัญ
    เขาจะประนามว่าเลว มันก็เลวไม่ได้ มันก็ต้องดีอยู่ตลอดเวลา
    ถ้าจิตของเราชั่ว เขาจะสรรเสริญว่าดี มันก็ดีไม่ได้เหมือนกัน

    นี่เป็นอันว่า พระพุทธเจ้าทรงสอนให้รักษากำลังใจเป็นสำคัญ
    ควบคุมกำลังใจให้ดีไว้ แล้วมันดีเอง
    ไม่ต้องไปฟังคำชาวบ้านเขา
    การที่เราดีเพราะรอให้ชาวบ้านเขาสรรเสริญ นั่นมันป็นอารมณ์ของความชั่ว

    <center></center>​
     
  13. อัญญะมณี

    อัญญะมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ชอบเจงๆ เด็ดดวงมาก
    คำตอบเดียวสะเทือนถึงจักรวาล 5555

    ปล.อย่าคิดมาก เสียงโมทนาสาธุกึกก้องทั้งโลกมนุษย์และโลกทิพย์น่ะค่ะ 55555
     
  14. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233

    กลับมาแล้วครับ












    เห็นอะไรที่ผมบอกไหมครับ

    ปริศนาธรรมนะ

    ธรรมชาติสวัสดี

    วิทย์ จบ.11
     
  15. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ natthapatpun
    ถาม จะรู้ได้ยังไงว่าจิตเกาะพระช่วยให้ไปนิพพานได้จริง?
    ตอบ ก็มาทำเองสิฟ๊ะ จะได้ไม่ต้องมาถามอีก

    ฮ่าๆ ครูเพ็ญ ท่านคือนักเลงตัวจริง เสียงจริงฟ๊ะ
    ท่านตอบแบบสะใจโก๊ะตี๋เลยง่ะ
    ไม่ให้ขำกลิ้งได้ไงหล่ะ! พี่น้องพ้องเพื่อน

    ผมยังจำธรรมะของพระครูวิลาศกาญจนธรรม(พระอาจารย์เล็ก สุธัมมปัญโญ)แห่งวัดท่าขนุนได้เลย
    ท่านก็เคยพูดถึงเรื่องฤทธิ์เดช อำนาจทางใจ อภิญญา ท่านบอกว่าถ้าใครมีแล้ว ไม่รู้นำไปตัดกิเลสของตนเองนะ(ขอย้ำอีกทีนะว่า กิเลสตนเอง)
    และไม่น้อมนำเข้ากฎไตรลักษณ์กันนะ
    ท่านบอกว่า ไปไกลแล้ว คือหลงตนเอง คือกู่ไม่กลับ ขานั้นไม่ฟังใครแล้ว เหมือนคนหูดับ คือไม่พยายามเข้าถึงกฎธรรมดา ก็เลยกลายไปได้ ไม่ธรรมดาเข้าให้

    มีอีกธรรมะนึงของพระอาจารย์เล็ก แห่งวัดท่าขนุน
    มีญาติโยมถามท่านว่า อาการ อารมณ์ของพระโสดาบันมันเป็นยังไงคะ?
    ท่านตอบว่า(ตอบคล้ายๆกับครูเพ็ญของเรานี่แหล่ะ)
    โยมก็ลองมาเป็นพระโสดาบันกันดูบ้างสิ จะได้รู้ จะได้เข้าใจ
    เอาแต่ถามๆ เอาแต่สงสัยๆนี่มันจะไปรู้ไหม๊ จะไปรู้ได้อย่างไง จะเข้าใจกันยังไง ถึงตอบท่านไปก็ไม่รู้ ไม่เข้ากันอยู่ดี

    เอ่อ! มานึกขึ้นได้ เหมือนคนที่ชอบลังเล หรือสงสัยเรื่อง ทำจิตเกาะพระ นี่แหล่ะ! นำหน้าการปฎิบัติกันก่อนเลย แล้วเมื่อจะทำได้หล่ะ!
    ถ้าใครเป็นอย่างนี้ ก็ปล่อยให้คนอื่นทำสำเร็จให้ดูก่อน ถึงจะทำบ้างงั้นหรือ?
    งั้นชาตินี้คุณก็ดูเขาขึ้นนิพพานกัน แต่ตนเองจะได้ไปไหม๊น่ะ
    เหมือนเราไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ วันๆได้แต่ไปดูเขาขึ้นเครื่องไปต่างประเทศ ตัวเองไม่ยอมไปซื้อตั๋วเครื่องบินสักทีนึง แล้วเมื่อเราจะได้ไปแบบเขาน่ะ

    อย่าช้านะ อย่าช้า
    สติอยู่ที่ไหนกัน ให้ไวๆเลย
    นี่มาบอกบุญ บอกทางลัดให้ยังไม่เอากัน
    ใกล้จะหมดลมหายใจเมื่อไหร่ จะไปตามหามิสเตอร์ภู กับครูเพ็ญ
    หรือครูท่านอื่นๆ กันได้ที่ไหนหล่ะ! คราวนี้

    สวัสดี...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 กรกฎาคม 2012
  16. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ปฏิปทาการสอนของท่านหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นอย่างไร


    · หลวงปู่สอนเน้นหนักในการปฏิบัติตามแบบของพระพุทธเจ้า
    คือ หลักแห่งศีล สมาธิ และปัญญา ท่านไม่เคยพูดถึงแนวทางการปฏิบัติแหวกแนวอะไรในทำนองทางลัดตรง
    หรือธรรมะนอกพระไตรปิฎก เพราะท่านสอนให้กตัญญูและซื่อตรงต่อพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์

    · หลวงปู่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย
    และระมัดระวังในเรื่องการอวดอุตริมนุษธรรม ไม่ว่าจะเป็นการรู้การเห็นภายใน
    หรือการรู้วาระจิต ภูมิจิตภูมิธรรมเหล่านี้ของท่าน ลูกศิษย์ต้องสังเกตเอาเอง เพราะท่านจะใช้อย่างแนบเนียนมาก
    นอกจากนี้ท่านยังเน้นการสอนด้วยการทำให้ดู มากกว่าคำพูดคำสอน

    · หลวงปู่สอนให้ปฏิบัติเพื่อให้มีตัวเองเป็นที่พึ่ง
    ท่านไม่ให้ติดตัวครูอาจารย์หรือตัวท่าน แต่ให้ติดที่หลักการหรือแก่นของพระศาสนาแทน
    คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ (หมายถึงพุทธัง ธัมมัง สังฆังฯ ที่เป็นภาพรวมหรือที่เป็นตัวสภาวะ)
    ในทางตรงกันข้าม ท่านก็แสดงให้เห็นด้วยเช่นกันว่าแม้ตัวท่านก็ไม่ยึดติดในตัวศิษย์

    · คำสอนที่หลวงปู่พูดสอนบ่อยครั้ง คือ
    “ของดีอยู่ที่ตัวเรา ของไม่ดีก็อยู่ที่ตัวเรา ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต” และ “เกิด แก่ เจ็บ ตาย เน้อ
    (ให้พากันพิจารณา)”
    รวมทั้ง “ภาวนาให้ได้ทุกอิริยาบท ยืน เดิน นั่ง นอน (ไม่มีเวลาเริ่ม เวลาเลิก”)

    luangpudu.com / luangpordu.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 กรกฎาคม 2012
  17. เมิล

    เมิล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +3,132

    ^ ^ วาง ว่าง ว้าง
    คริ คริ คริ
     
  18. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    หัวแหลมเหมือนลิง
    ปัญญาดีจิงๆ

    ทำไปทำมาเจอแต่ความว่าง 55555
     
  19. preechaniy

    preechaniy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +2,356
    สวัสดีครับครูวิทย์,ครูทุกท่านจิตบุญทุกๆคนและเพื่อนสมาชิกครับ.
    ภาพพระที่จิตจับได้ความรู้สึกผมว่าน่าจะเป็นภาพพระใสๆครับที่แรกก็มัวแต่อยากจะเห็น
    แต่พอตัดความอยากออกไปก็รู้สึกว่าที่มืดดำเพราะภาพพระท่านใส ความรู้สึกก็บอกว่าท่านอยู่ข้างหน้านี้นั้นแหละ สิ่งเปลี่ยนแปลงคือมีสติมากขึ้น ตัวรู้ทำหน้าที่ได้ดี ไม่ปรุงแต่งกับเหตุที่เข้ามากระทบ เข้ามาแล้วก็จากไป (เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป) ถ้าจิตเอามาปรุงแต่งสิ่งที่ได้คือความทุกข์ตามมา รู้สึกว่าเราจะเฉยๆกับเหตุที่เข้ามากระทบซะอย่างนั้นครับ.
    อนุโมทนาในบุญกุศลทั้งหมดทั้งมวลครับ.
    หลวงปู่ดู่ท่านสอนว่า " ถ้าเอ็งปฏิบัติไปแล้ว โลภ โกรธ หลง มันลดลงหรือเปล่า ถ้าลดลง ข้าก็ว่าเอ็งใช้ได้นะ "
    นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2012
  20. อัญญะมณี

    อัญญะมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +2,169
    น้อมจิตเข้าไปหาท่าน(พระใส)ค่ะ ทรงอารมณ์ให้สบายๆ เดี๋ยวก็จะเห็นขอบ เห็นความละเอียดเพิ่มขึ้นตามความละเอียดของจิตเราค่ะ ความเพียรเท่านั้นค่ะ

    เมื่อทรงฌาณแล้ว สติรู้เท่าทันสิ่งกระทบ วิปัสนาจะเกิดบ่อยขึ้น ตามดู ตามรู้ไป เกิด ดับ รู้ วาง เก็บแต้มไปเรื่อยๆ ค่ะ เหมือนสะสมไมล์ สะสมแต้มไว้เยอะก็ออกตังค์น้อย สะสมแต้มไว้น้อยก็ออกตังค์เยอะ
    แต้ม+ตังค์ครบเมื่อไหร่ เดี๋ยวจะได้ตั๋วเครื่องบินไปพระนิพพานค่ะ 5555

    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...