WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ศุกร์นี้ “บลูมูน” ส่งท้ายรับสารทจีน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>30 สิงหาคม 2555 14:02 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=575><TBODY><TR><TD vAlign=top width=575 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพพระจันทร์เต็มดวงครั้งแรกของเดือน ส.ค.ในปารีส ฝรั่งเศส (สเปซด็อทคอม/VegaStar Carpentier)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> สดร.- คืนวันพระจันทร์เต็มดวงในวันศุกร์นี้ซึ่งตรงกับ “วันสารทจีน” เป้นอีกคืนพิเศษเพราะเกิดปรากฏการณ์ “บลูมูน” ปรากฏการณ์จันทร์เต็มดวงครั้งที่ 2 ในรอบเดือน และเป็นปรากฏการณ์ส่งท้ายก่อนจะเกิดขึ้นอีกครั้งใน 3 ปีข้างหน้า ซึ่งรอบศตวรรษเกิดขึ้นเฉลี่ยเพียง 37 ครั้ง

ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 31 ส.ค.55 ที่จะถึงนี้ จะเกิดปรากฏการณ์บลูมูน (Blue Moon) หรือ ดวงจันทร์จะเต็มดวงรอบที่สองในเดือนเดียวกัน ซึ่งโดยปกติแล้วปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวง (Full Moon) จะเกิดขึ้นเพียงเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น หากเดือนไหนที่มีดวงจันทร์เต็มดวง 2 ครั้ง จะเรียกดวงจันทร์เต็มดวงในครั้งที่สองว่า “บลูมูน” ในภาษาอังกฤษมีสำนวนว่า “Once in a blue moon” หมายถึงนาน ๆ จะเห็นสักครั้ง หรือเปรียบได้กับคำว่า “Rarely” ในภาษาอังกฤษ

ปรากฏการณ์บลูมูนเกิดขึ้นเนื่องจากใน 1 ปี มี 12 เดือน และบางเดือนมี 30 วัน บางเดือนมี 31 วัน แต่ว่ารอบของดวงจันทร์มีเพียง 29.53059 วันต่อเดือน และใน 1 ศตวรรษจะมีทั้งหมด 1200 เดือน โดยจะเกิดดวงจันทร์เต็มดวงได้ถึง 1236.83 ครั้ง แต่จะเป็นบลูมูนแค่ 36.83 ครั้ง เฉลี่ยแล้วประมาณ 2.72 ปีต่อครั้ง หรือประมาณ 3% ของฟูลมูน จะเป็นบลูมูน แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือจะมีการเกิดบลูมูนปีละ 2 ครั้งในทุก ๆ 19 ปี ซึ่งปีล่าสุดที่เกิดบลูมูน 2 ครั้งซ้อนในหนึ่งปี (Double Blue Moons) ก็คือปี พ.ศ. 2542 และถัดไปคือปี พ.ศ. 2561

สำหรับในวันที่ 31 ส.ค.55 ผู้สังเกตจะเห็นดวงจันทร์เต็มดวง รอบที่สองในเดือนเดียวกันทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เวลาประมาณ 18.18 น. โดยดวงจันทร์เต็มดวงอย่างสมบูรณ์เวลาประมาณ 20.57 น. และตกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในเช้าของวันที่ 1 ก.ย.55 เวลาประมาณ 05.37 น. ตามเวลาประเทศไทย ทั้งนี้ ดวงจันทร์จะสว่างเต็มดวงเหมือนเช่นเคยโดยไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินแต่อย่างใด และเรายังสามารถสังเกตเห็นปรากฏการณ์บลุมูนครั้งต่อไปได้ในวันที่ 2 ก.ค.58

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ปฏิทินแสดงการเกิดปรากฏการณ์จันทร์เต็มดวงในเดือน ส.ค. ซึ่งตรงกับวันที่ 2 และ 31 โดยปรากฏการณ์ครั้งหลังเรียกว่า "บลูมูน" เนื่องจากเป็นปรากฏการณืที่นานครั้งจะเกิดจันทร์เต็มดวงถึง 2 ครั้งในรอบเดือน และเกิดขึ้นได้เนื่องจากดวงจันทร์มีรอบเพียง 29.53 วัน แต่ในรอบเดือนส่วนใหญ่นั้นมี 30 วัน หรือ 31 วัน (สดร.)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=575><TBODY><TR><TD vAlign=top width=575 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>อินโฟกราฟิก แสดงปฏิทินอธิบายการเกิดปรากฏการณ์บลูมูนจากสเปซด็อทคอม และพยายามสื่อว่าบลูมูนไม่ใช่จันทร์สีน้ำเงินเหมือนชื่อ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=575><TBODY><TR><TD vAlign=top width=575 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพเครื่องบินตัดดวงจันทร์เต็มดวงเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ในฮุสตัน เท็กซัส สหรัฐฯ ตามเวลาของซีกโลกตะวันตก (สเปซด็อทคอม/Sid Vedula)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

<CENTER>การเกิดบลูมูนในอีก 30 ปีข้างหน้า

<TABLE class=BODY border=0 cellSpacing=0 cellPadding=2 width=500 bgColor=#000000 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc width=100>พ.ศ.</TD><TD bgColor=#cccccc width=200>จันทร์เต็มดวงครั้งแรกของเดือน</TD><TD bgColor=#cccccc width=200>จันทร์เต็มดวงครั้งที่สองของเดือน</TD></TR><TR><TD bgColor=#eeeeee width=100>2555</TD><TD bgColor=#eeeeee width=200>Full Moon - 02 สิงหาคม 2555</TD><TD bgColor=#eeeeee width=200>Blue Moon - 31 สิงหาคม 2555</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff width=100>2558</TD><TD bgColor=#ffffff width=200>Full Moon - 02 กรกฎาคม 2558</TD><TD bgColor=#ffffff width=200>Blue Moon - 31 กรกฎาคม 2558</TD></TR><TR><TD bgColor=#eeeeee width=100>2561</TD><TD bgColor=#eeeeee width=200>Full Moon - 02 มกราคม 2561</TD><TD bgColor=#eeeeee width=200>Blue Moon - 31 มกราคม 2561</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff width=100>2561</TD><TD bgColor=#ffffff width=200>Full Moon - 02 มีนาคม 2561</TD><TD bgColor=#ffffff width=200>Blue Moon - 31 มีนาคม 2561</TD></TR><TR><TD bgColor=#eeeeee width=100>2563</TD><TD bgColor=#eeeeee width=200>Full Moon - 01 ตุลาคม 2563</TD><TD bgColor=#eeeeee width=200>Blue Moon - 31 ตุลาคม 2563</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff width=100>2566</TD><TD bgColor=#ffffff width=200>Full Moon - 01 สิงหาคม 2566</TD><TD bgColor=#ffffff width=200>Blue Moon - 31 สิงหาคม 2566</TD></TR><TR><TD bgColor=#eeeeee width=100>2569</TD><TD bgColor=#eeeeee width=200>Full Moon - 01 พฤษภาคม 2569</TD><TD bgColor=#eeeeee width=200>Blue Moon - 31 พฤษภาคม 2569</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff width=100>2571</TD><TD bgColor=#ffffff width=200>Full Moon - 02 ธันวาคม 2571</TD><TD bgColor=#ffffff width=200>Blue Moon - 31 ธันวาคม 2571</TD></TR><TR><TD bgColor=#eeeeee width=100>2574</TD><TD bgColor=#eeeeee width=200>Full Moon - 01 กันยายน 2574</TD><TD bgColor=#eeeeee width=200>Blue Moon - 30 กันยายน 2574</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff width=100>2577</TD><TD bgColor=#ffffff width=200>Full Moon - 01 กรกฎาคม 2577</TD><TD bgColor=#ffffff width=200>Blue Moon - 31 กรกฎาคม 2577</TD></TR><TR><TD bgColor=#eeeeee width=100>2580</TD><TD bgColor=#eeeeee width=200>Full Moon - 02 มกราคม 2580</TD><TD bgColor=#eeeeee width=200>Blue Moon - 31 มกราคม 2580</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff width=100>2580</TD><TD bgColor=#ffffff width=200>Full Moon - 02 มีนาคม 2580</TD><TD bgColor=#ffffff width=200>Blue Moon - 31 มีนาคม 2580</TD></TR><TR><TD bgColor=#eeeeee width=100>2582</TD><TD bgColor=#eeeeee width=200>Full Moon - 02 ตุลาคม 2582</TD><TD bgColor=#eeeeee width=200>Blue Moon - 31 ตุลาคม 2582</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff width=100>2585</TD><TD bgColor=#ffffff width=200>Full Moon - 01 สิงหาคม 2585</TD><TD bgColor=#ffffff width=200>Blue Moon - 31 สิงหาคม 2585</TD></TR></TBODY></TABLE>

</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เมื่อ 2 วันที่แล้ว เกิดอุบัติเหตุ รถ 10 ล้อ ชนเสาไฟฟ้าแถวบ้านล้มไปเกือบ 10 ต้น

เลยทำให้ไม่มี internet ใช้

ช่วงนี้คงไม่สามารถ เข้ามา update ข่าวสารให้ได้

จึงขอฝาก war room กับคุณ falkman ,somsweet ,pattamon39 และเพื่อนด้วยนะจ้ะ

( -_-)_/\

 

แผ่นดินไหวฟิลิปปินส์ 7.9
ผู้รู้ทั้งหลาย ขอคำแนะนำครับ
ทุกมิติครับ <!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->โมฆะแมน
มาคนเดียว ไปคนเดียว<!-- google_ad_section_end -->

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แผ่นดินไหว 7.9 เขย่าฟิลิปปินส์ตะวันออก เตือนภัยสึนามิในหลายประเทศ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>31 สิงหาคม 2555 20:16 น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=399><TBODY><TR><TD vAlign=top width=399 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.9 นอกชายฝั่งทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ วันนี้ (31) โดยมีการประกาศเตือนภัยสึนามิทั้งในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไต้หวัน และญี่ปุ่น ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวของสหรัฐฯ เผย

กรมสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในระดับความลึก 33 กิโลเมตร ในเวลาประมาณ 20.47 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 19.47 น.ตามเวลาของไทย ห่างจากเมืองสุลังกัน ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ราว 139 กิโลเมตร

ประกาศเตือนภัยสึนามิยังมีในปาปัวนิวกินี และกวม ขณะที่หมู่เกาะโซโลมอน หมู่เกาะมาร์แชล และนาอูรู เฝ้าจับตาระวังภัยคลื่นยักษ์อย่างใกล้ชิด ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกเผย โดยเสริมว่า หากเกิดคลื่นสึนามิ อินโดนีเซียจะเป็นประเทศแรกที่โดนซัด

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สาวพิการคิดค้นวีลแชร์ดำน้ำขับเคลื่อนเองตัวแรกของโลก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>31 สิงหาคม 2555 17:18 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเจนซีส์ - ศิลปินสาวชาวอังกฤษผู้มีร่างกายพิการ กำลังแสดงกายกรรมใต้น้ำบนเก้าอี้วีลแชร์ ซึ่งได้รับการดัดแปลงเป็นพิเศษเป็นส่วนหนึ่งในการฉลองเทศกาลวัฒนธรรมลอนดอน 2012

ซู ออสติน จากเมืองเดวอน ซึ่งต้องพึ่งเก้าอี้รถเข็นมาตั้งแต่ปี 1996 ได้คิดค้นและช่วยสร้างสรรค์วีลแชร์ใต้น้ำขับเคลื่อนด้วยตัวเองคันแรกของโลก โดยในสัปดาห์นี้เธอจะใช้แสดงการดำน้ำอันน่าตื่นตาตื่นใจในชุด “Creating the Spectacle!” ที่ศูนย์สันทนาการออสเปรย์ ในเมืองเวย์มุธ

ออสตินกล่าวว่า “ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่คนจำนวนมากได้รับแรงบันดาลใจจากโครงการนี้แล้ว หลายคนบอกกับฉันว่าเมื่อพวกเขาเห็นเก้าอี้รถเข็นใต้น้ำคันนี้แล้วก็ทำให้พวกเขาอยากลองบ้างเช่นกัน”

“เราสร้างสรรค์สิ่งใหม่และน่าตื่นเต้น และได้รับการพูดถึงจากผู้คนจริงๆ ดังนั้น พวกเขาก็ได้ตระหนักว่า การมองโลกจากมุมที่แตกต่างทำให้พวกเขาได้ปลดปล่อยและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ” เธอเสริม

สำหรับวีลแชร์จากประกันสุขภาพแห่งชาติของเธอนั้นมีการปรับเปลี่ยนโดยติดโฟมว่ายน้ำ เท้ากบ พร้อมกับคันบังคับพาหนะด้วย 2 เท้าอีกด้วย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=512><TBODY><TR><TD vAlign=top width=512 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>S&P หั่นเรตติ้ง “ชาร์ป” เหลือสถานะขยะ ชี้การเงินขาดสภาพคล่อง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>31 สิงหาคม 2555 16:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ บริษัทเครดิตเรตติ้งรายใหญ่ของโลก ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของ “ชาร์ป คอร์ป” ลงเหลือสถานะขยะ หลังจากยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่น ซึ่งกำลังประสบปัญหาแห่งนี้ ขาดทุนมหาศาล

เอสแอนด์พีลดเครดิตเรตติ้งของชาร์ปลง 2 ขั้นเหลือ BB+ พร้อมเตือนว่าบริษัทด้านอิเล็กทรอนิกส์แห่งนี้ยังต้องถูกรุมเร้าด้วยปัญหาสภาพคล่องทางการเงินอ่อนแอ และสภาพตลาดเลวร้ายลง

หุ้นของชาร์ปตกลงเกือบ 13% เหลือ 198 เยน ในวันนี้ (31) ด้วยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของข้อตกลง ที่บริษัทฮอนไฮพรีซิชันของไต้หวันจะทุ่มเงิน 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลงทุนในบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นดังกล่าว

ในวันเดียวกันนี้ ดาวโจนส์ นิวส์ไวร์สยังรายงานว่า ชาร์ปซึ่งผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์หลายประเภทรวมถึงแบรนด์อควอสด้วยนั้น ยังไม่ได้เริ่มการผลิตหน้าจอสำหรับไอโฟนรุ่นต่อไปของแอปเปิลจำนวนมากเลย

เอสแอนด์พีคาดว่า ทรัพย์สินของชาร์ปจะดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ ที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม ปี 2013 แต่เตือนว่าอันดับความน่าเชื่อถือในปัจจุบันนั้นขึ้นอยู่กับการบรรลุข้อตกลงกับบริษัทฮอนไฮ ผู้ผลิตอุปกรณ์ของแอปเปิลในจีน ให้ได้เสียก่อน

บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวยังเสริมว่า เรตติ้งของชาร์ปนั้นยังขึ้นอยู่กับว่า ธนาคารผู้ให้เครดิตรายใหญ่ๆ ยังจะสนับสนุนการเงินที่มั่นคงต่อไป รวมถึงบริษัทจะต้องไม่มีปัญหาร้ายแรงในการรีไฟแนนซ์หนี้ของตนเองด้วย

ทั้งนี้ ชาร์ปเผยตัวเลขขาดทุน 1,760 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายนทีผ่านมา ทั้งยังคาดการณ์การขาดทุนตลอดทั้งปีจำนวนมากกว่านั้น โดยมีการประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ซึ่งจะมีการตัดลดพนักงานลงทั่วโลกถึง 15%

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รพ.จุฬาฯ ให้อิสระผู้ป่วยเลือกจ่ายหรือไม่จ่าย 30 บาท</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>31 สิงหาคม 2555 16:12 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>รพ.จุฬายันทำตามนโยบายร่วมจ่าย 30 บาท ไม่มีการบังคับผู้ป่วย ให้เป็นไปตามสมัครใจ พร้อมเร่งทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติงาน เผยหากไม่ทัน 1 ก.ย. จะชะลอการเก็บเงิน ด้าน สปสช.เตรียมรับเรื่องร้องเรียนผ่าน 1330 “วิทยา” สวน รพ.ไม่เก็บ 30 บาทต้องมีเหตุผล ชี้เปิดช่องให้ไม่ประสงค์ร่วมจ่ายอยู่แล้ว ยันไม่เกี่ยวการเมืองหรือสร้างแบรนด์

รศ.นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวถึงการดำเนินตามนโยบายรัฐบาลในการร่วมจ่าย 30 บาท ในโครงการหลักประกันสุขภาพว่า ทางโรงพยาบาลจุฬาฯ พร้อมที่จะทำตามนโยบายข้อปฏิบัติของรัฐบาลในโครงการร่วมจ่าย 30 บาท แต่ทางโรงพยาบาลจะไม่มีการบังคับหรือบอกให้ผู้ป่วยที่มาใช้บริการให้จ่ายเงินแต่จะให้ประชาชนเป็นผู้เลือกเองว่าจะจ่ายหรือไม่จ่ายก็ได้ เนื่องจากในโครงการร่วมจ่าย 30 บาท ที่ได้กำหนดสิทธิ์ในการร่วมจ่ายจำนวนทั้งสิ้น 21 ข้อ นั้น ในข้อ 21 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขมีการระบุบที่ชัดเจนว่าจะมีการยกเว้น กับบุคคลที่ไม่ประสงค์ร่วมจ่าย ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลก็มีความพร้อมในการให้บริการ

ขณะที่ รศ.นพ.จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ รองผู้อำนวยการ รพ.จุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า รพ.จุฬาฯ เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ กำลังอยู่ระหว่างทำแนวปฏิบัติและสื่อสารให้กับผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งหากไม่ทันก่อนวันที่ 1 กันยายน รพ.จุฬาฯ จะเลือกสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนก่อนให้ได้มากที่สุด โดยจะยังไม่เก็บเงินดังกล่าว คือ อาจต้องชะลอการเก็บเงินไปก่อน เพื่อให้ระบบเข้าที่กว่านี้

ด้าน นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ ในกฎหมายของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ไม่ได้ระบุชัดถึงข้อปฏิบัติของหน่วยบริการว่าต้องดำเนินการเก็บร่วมจ่ายหรือไม่ แต่ไปเน้นในการให้บริการประชาชนและให้พวกเขาได้ร่วมจ่าย ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นจะผิดหลักกฎหมายหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ คงต้องกลับไปพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 1 กันยายนที่จะเริ่มเก็บเงินเป็นวันแรกนั้น ทางสปสช.ได้เตรียมระบบรับเรื่องร้องเรียนตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านสายด่วน โทร. 1330

นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในกรณีโรงพยาบาลที่ประกาศว่าจะไม่เก็บ 30 บาทนั้นก็ต้องมีเหตุผล ซึ่งนโยบายได้เปิดช่องไว้ให้ในกรณีที่ประชาชนไม่ประสงค์จะร่วมจ่ายได้อยู่แล้ว โดยเรื่องนี้ เป็นนโยบายเพื่อทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพดำเนินไปอย่างดี ไม่เกี่ยวกับเรื่องของการเมือง หรือต้องการจะสร้างแบรนด์แต่อย่างใด เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล และไม่ได้บังคับเพราะหากประชาชนไม่อยากจ่ายก็สามารถทำได้

“วิทยา” ดีเดย์ร่วมจ่าย 30 บาท เมื่อรับยา

นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการร่วมจ่ายค่าธรรมเนียม 30 บาทตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคยุคใหม่ ซึ่งจะเริ่มพร้อมกันทั่วประเทศวันที่ 1 กันยายน 2555 เป็นต้นไปว่า การให้ประชาชนร่วมจ่ายค่าธรรมเนียม 30 บาท จะดำเนินการเฉพาะการรักษาในโรงพยาบาลตั้งแต่โรงพยาบาลชุมชนขึ้นไป จนถึงโรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์ รวมทั้งโรงพยาบาลสังกัดอื่น และโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ ในกรณีเดียวคือเฉพาะรายที่ได้รับยาเท่านั้น ซึ่งในกลุ่มผู้ที่มีบัตรทอง 30 บาทที่อยู่ในข่ายร่วมจ่ายมี 25.9 ล้านคน ส่วนค่ายายังฟรีเหมือนเดิม หรือกล่าวง่าย ๆ ว่าตรวจโรค ไม่รับยา ไม่ต้องจ่ายค่าบริการ

นายวิทยากล่าวว่า การร่วมจ่ายนี้เป็นการสร้างความรู้สึกภาคภูมิใจแก่ผู้รับบริการ และเป็นการกระตุ้นให้สถานพยาบาลทุกระดับเกิดการพัฒนาคุณภาพบริการยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ให้ประชาชนเข้าถึงบริการเจ็บป่วยฉุกเฉิน การรักษาโรคไต เอดส์ อาหารสุขภาพในโรงพยาบาล และให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ส่วนผู้ที่ใช้บริการตรวจโรคหรืออื่นๆ เช่น ทำแผล ฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลที่กล่าวมาที่ไม่ได้รับยา รวมทั้งใช้บริการที่ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง ศูนย์สุขภาพชุมชนในถิ่นทุรกันดาร และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล หรือ รพ.สต. ทั่วประเทศ ยังเป็นการให้บริการฟรีทั้งหมดเช่นเดิม อย่างไรก็ตาม หากไม่ประสงค์จะร่วมจ่ายก็สามารถสงวนสิทธิ์ได้ โดยในปีงบประมาณ 2556 นี้รัฐบาลได้จัดสรรงบรายหัวในโครงการ 30 บาท ในอัตรา 2,755.60 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2554 หัวละ 209.12 บาท

นายวิทยากล่าวต่อว่า กลุ่มประชาชนที่ไม่ต้องร่วมจ่ายค่าธรรมเนียม 30 บาท ได้แก่ กลุ่มที่ได้รับการยกเว้นเดิม 20 กลุ่ม เช่นผู้พิการ ผู้สูงอายุ พระภิกษุ สามเณร แม่ชี ผู้นำศาสนาอิสลาม เป็นต้น และผู้ที่ใช้บริการด้านการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค เช่นฉีดวัคซีน การเข้ารับบริการกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน วิกฤติ/ฉุกเฉินเร่งด่วน หรือเข้ารับบริการในหน่วยบริการระดับต่ำกว่าโรงพยาบาลชุมชน คือที่ รพ.สต. 9,750 แห่ง ศูนย์สุขภาพชุมชนในถิ่นทุรกันดาร 200 แห่ง และศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง 240 แห่งทั่วประเทศ โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียวยื่นเมื่อเข้ารับบริการ การบริการเร็วขึ้น มีระบบให้คำปรึกษาออนไลน์หรือระบบการแพทย์ทางไกล เทเลเมดิซิน (Telemedicine) ระหว่าง รพ.สต. หรือ ศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองที่อยู่ใกล้บ้านกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เป็นบริการใกล้บ้านใกล้ใจ ผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลในเมืองก็ได้

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานโครงการ 30 บาทในรอบปีที่ผ่านมา พบว่าประชาชนได้รับการดูแลทั่วถึง โดยมีผู้เข้าใช้บริการตรวจรักษาที่แผนกผู้ป่วยนอก 153 ล้านกว่าครั้ง และนอนรักษาในโรงพยาบาล 5 ล้านกว่าราย โดยในผู้ที่เจ็บป่วยด้วยโรคที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงหรือโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะ 7 โรคได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง อาทิ ผู้ป่วยมะเร็งเข้าถึงการบำบัด 447,182 ราย ผ่าตัดสมอง 4,715 ราย ผ่าตัดหัวใจ 38,847 ราย ผ่าตัดข้อเข่าเสื่อม 6,292 ราย ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายได้รับการดูแลล้างไตและฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมรวม 25,001 ราย และผ่าตัดเปลี่ยนไต 662 ราย ส่วนผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อเอดส์ได้รับยาต้านไวรัส 153,214 ราย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

"จงกั๋วจุน" ตึกที่จะสูงที่สุดในกรุงปักกิ่ง<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>31 สิงหาคม 2555 18:44 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=243><TBODY><TR><TD vAlign=top width=243 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพจำลองอาคาร จงกว๋อจุน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และเป็นที่ทราบกันดีว่า จะเป็นตึกที่สูงที่สุดในกรุงปักกิ่งในอีก 5 ปีข้างหน้า (ภาพเอเยนซี)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเยนซี - สื่อจีนเผย (30 ส.ค.) ภาพชุด อาคารไชน่า จุน ("จงกั๋วจุน(中国尊)") ซึ่งกำลังจะสร้างสถิติเป็นตึกระฟ้าที่สูงท่สุดในกรุงปักกิ่ง โดยอาคารฯ กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว ตั้งอยู่กลางกรุงปักกิ่ง มีความสูง 520 เมตร (108 ชั้น ) ซึ่งสูงกว่าอาคาร เวิร์ลเทรดเซนเตอร์ทาวเวอร์ ถึง 190 เมตร

รายงานข่าวกล่าวว่า อาคาร "จงกั๋วจุน" ใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งประกอบด้วยการใช้พลังงานทดแทน ใช้ผนังคุณภาพสูงที่เอื้อต่อการประหยัดพลังงานและการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นต้นคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2559 ซึ่ง ณ เวลานั้น จะกลายเป็นอาคารที่สูงที่สุดในกรุงปักกิ่ง และหานับอาคารระฟ้าทั้งหมดในภูมิภาคตอนเหนือของจีน ก็จะสูงเป็นรองเพียง อาคาร โกลด์ไฟแนนซ์ 117 ในเมืองเทียนจินเท่านั้น

นอกจากนี้ ที่มาของคำว่า "จงกั๋วจุน" นั้น มาจากรูปลักษณ์ภายนอกของตัวอาคารมีลักษณะคล้าย "จุน(尊)" ซึ่งเป็นภาชนะจีนโบราณ ที่ด้านล่างแคบด้านบนบานออก

มีการคาดการณ์ว่า เมื่อถึงปี พ.ศ. 2555 ประเทศจีนจะมีตึกระฟ้ามากถึงร้อยละ 30 ของบรรดาอาคารที่สูงที่สุด 100 แห่งทั่วโลก โดยเว็บไซต์ Motiancity.com ได้จัดอันดับเมืองที่มีตึกระฟ้ามากที่สุดของจีน ไว้ดังนี้ 1.ฮ่องกง มีตึกสูง 58 แห่ง 2.เซี่ยงไฮ้ 51 แห่ง 3.เซินเจิ้น 46 แห่ง 4.ก่วงโจว 44 แห่ง 5.หนานจิง 23 แห่ง 6.จงจิ้ง 18 แห่ง 7.เทียนจิน 15 แห่ง 8.อู่ฮั่น 13 แห่ง 9.ปักกิ่ง 13 แห่ง และ 10.ต้าเหลียน 11 แห่ง ขณะที่มีตัวเลขระบุว่าหลังเหตุการณ์ 11 กันยายน 2544 (หรือเหตุการณ์ 9/11) เป็นต้นมามีการก่อสร้างตึกระฟ้าซึ่งมีความสูงกว่า 200 เมตร มากกว่า 350 แห่งทั่วโลก โดยครึ่งหนึ่งของตึกระฟ้า 350 แห่งนึ้ถูกสร้างขึ้นในประเทศจีน นอกจากนี้ก่อนปี พ.ศ. 2554 ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก 10 อันดับแรกนั้นเป็นตึกที่อยู่ในประเทศจีน (รวมไต้หวัน) ถึง 6 แห่งด้วยกัน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัฐหลุยเซียน่าหลายพันคน ต้องอพยพเมื่อวานนี้ หลังจากพายุไอแซคที่ลดระดับความแรงลมจากพายุเฮอร์ริเคน หลังจากพัดกระหน่ำรัฐหลุยเซียน่าเป็นวันที่ 3


31 ส.ค. 55 ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ทางการต้องเร่งอพยพประชาชนในหลายพื้นที่ ก่อนที่พายุจะพัดเข้าไปถึงที่อยู่อาศัยของพวกเขา และต้องช่วยเหลือประชาชนที่ไม่สามารถหนีได้ทัน ระดับน้ำที่สูงขึ้นและท่วมอาณาบริเวณทั้งหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว บ้านเรือนหลายร้อยหลังคาเรือน หรืออาจจะมากกว่านี้ ต่างจมอยู่ใต้น้ำ ประชาชนหลายพันคน ต้องไปอาศัยอยู่ในสถานที่พักพิง และพื้นที่ราวครึ่งรัฐ ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้
<!-- inside news --><SCRIPT type=text/javascript src="http://partner.googleadservices.com/gampad/google_service.js"> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript> GS_googleAddAdSenseService("ca-pub-1114872005097511"); GS_googleEnableAllServices(); </SCRIPT><SCRIPT src="http://partner.googleadservices.com/gampad/google_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript> GA_googleAddSlot("ca-pub-1114872005097511", "Insidenews"); </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript> GA_googleFetchAds(); </SCRIPT><!-- Insidenews --><SCRIPT type=text/javascript> GA_googleFillSlot("Insidenews"); </SCRIPT><SCRIPT src="http://pubads.g.doubleclick.net/gampad/ads?correlator=4271524267341099&output=json_html&callback=GA_googleSetAdContentsBySlotForSync&impl=s&client=ca-pub-1114872005097511&slotname=Insidenews&page_slots=Insidenews&cookie_enabled=1&url=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2Fdetail%2F20120831%2F138982%2F%E0%B8%88%E0%B8%A1!%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%8B%E0%B8%84%E0%B8%96%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%883.html&ref=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2Findex.php&lmt=1009838471&dt=1009838471468&cc=59&oe=windows-874&biw=1131&bih=633&adk=4030606619&adx=78&ady=911&ifi=1&oid=3&u_tz=420&u_java=true&u_h=864&u_w=1152&u_ah=834&u_aw=1152&u_cd=32&flash=10.0.32.18&gads=v2&ga_vid=1301012143.1009838403&ga_sid=1009838403&ga_hid=1421943663&ga_fc=true"></SCRIPT>ประชาชนราว 500 คน ได้รับการช่วยเหลือโดยเรือ หรือไม่ก็รถยนต์ที่ถูกปรับให้สูงสามารถวิ่งบนน้ำได้ และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน ขณะที่พายุซึ่งหมุนเป็นเกลียวขนาดใหญ่ ได้ลดระดับความรุนแรงลงเป็นดีเปรสชั่้นเขตร้อน ตอนที่พัดเข้าสู่แผ่นดิน และเส้นทางในการเคลื่อนตัวเต็มไปด้วยความคดเคี้ยว คาดการณ์ไม่ได้ แต่การเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ พอที่จะคาดการณ์ได้ว่า พายุไอแซค ได้มุ่งหน้าสู่เมืองตามพื้นที่ต่ำ ก่อนจะเคลื่อนตัวออกจากแผ่นดิน ทางการระบุว่า กำลังเผชิญปัญหาความรุนแรงอย่างแท้จริง ความแรงของพายุไอแซค ทำให้ต้นไม้หักโค่น ส่วนน้ำท่วมได้เริ่มเมื่อเวลาประมาณ 24.30 น. ถนนและบ้านเรือนในเมืองลาฟิตต์ ถูกน้ำท่วม ซึ่งถ้าใครก็ตามที่ติดอยู่ในบ้านที่อยู่ในพื้นต่ำในเมืองลาฟิตต์ และไม่มีช่องทางที่จะติดต่อกับทางการได้ ก็จำเป็นต้องจัดหน่วยช่วยเหลือเข้าไปยังพื้นที่ หรือ ส่งเรือเข้าไป ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ เพราะคนที่เดือดร้อนไม่สามารถติดต่อกับภายนอกได้ เพราะโทรศัพท์บ้านใช้การไม่ได้ไฟฟ้าดับ , และสัญญาณโทรศัพท์มือถือก็ล่ม ผู้ประสบภัยคนหนึ่ง ที่พยายามกลับไปหาลูกที่บ้าน ระบุว่า ไม่เคยเจอน้ำท่วมที่เลวร้ายแบบนี้มาก่อน ที่เพล้คไมน์ส แพริช เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามจะทำลายคันกั้นน้ำ เพื่อลดแรงดันจากระดับน้ำท่วมจากอิทธิพลของพายุไอแซค ประชาชนบางส่วนได้รับการช่วยเหลือออกจากบ้านที่ถูกน้ำท่วม บ้านเรือนและธุรกิจกว่า 9 แสนแห่งทั่วรัฐหลุยเซียน่า หรือประมาณ 47 เปอร์เซ็นต์ ของผู้บริโภคทั้งรัฐ ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ แต่ความเสียหายเหล่านี้อาจจะยังไม่จบสิ้น เพราะระดับน้ำยังคงท่วมสูง และเขื่อนที่อยู่บริเวณทะเลสาบใกล้กับชายแดนระหว่างรัฐหลุยเซียน่าและรัฐมิสซิสซิปปี้จะต้องเผชิญแรงดันจากกระแสน้ำอย่างหนัก ตอนที่พายุไอแซคเคลื่อนเข้าสู่รัฐอาคันซอส์ เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศ ได้คาดการณ์ว่า พายุไอแซค จะเคลื่อนตัวเข้าสู่แผ่นดิน ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และจะทำให้หลายรัฐที่เผชิญความแห้งแล้งมานาน มีฝนตกหนัก

 

ไทยเข้าข่าย 8 ประเทศระวังภัยเชื้อวัณโรคดื้อยาระบาด ที่จะก่อปัญหาทั้งด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจของประเทศเพราะรักษาได้ยากและมีต้นทุนสูง


31 ส.ค. 55 นักวิจัยแห่งสถาบันควบคุมโรคติดต่อแห่งสวีเดน เผยผลการศึกษาสถานการณ์การระบาดของเชื้อวัณโรคใน 8 ประเทศ ทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกาใต้ พบว่า 43.7% ของเชื้อวัณโรคที่พบเป็นชนิดที่สามารถต้านทานยาฆ่าเชื้อวัณโรคขั้นที่สองอย่างน้อยหนึ่งชนิด หรือที่เรียกว่า เชื้อเอ็มดีอาร์ ทีบี โดยพบเชื้อชนิดนี้ในประเทศเอสโตเนีย ลัตเวีย เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ และไทย นายสเวน ฮอฟเนอร์ ตัวแทนสถาบันควบคุมโรคติดต่อแห่งสวีเดน กล่าวว่า มาตรฐานระหว่างประเทศที่ใช้ควบคุมการระบาดของเชื้อวัณโรค ได้รับการพัฒนาขึ้นมา เพื่อรับมือกับเชื้อวัณโรคดื้อยาที่มีจำนวนเพียง 5% ในจำนวนเชื้อวัณโรคที่พบในประเทศหนึ่งๆ ขณะที่ตัวเลขเชื้อดื้อยาในบางประเทศที่ทำการศึกษานั้นสูงกว่ามาตรฐานโลกถึง 10 เท่า ทีมนักวิจัยยังพบเชื้อวัณโรคที่ทนทานต่อยาเกือบทุกชนิดที่เรียกว่าเชื้อ เอ็กซ์ดีอาร์ ทีบี ถึง 6.7% ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสเพิ่มขึ้นที่ประชาชนในประเทศเสี่ยงจะติดเชื้อเอ็กซ์ดีอาร์ ที่มีความต้านทานต่อยาฆ่าเชื้อวัณโรคระดับสอง และทำให้การรักษายากขึ้นทั้งยังมีต้นทุนการรักษาสูงขึ้นตามไปด้วย โดยเฉลี่ยแล้วค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยวัณโรคที่ติดเชื้อเอ็มดีอาร์ ทีบี ที่มีระดับการดื้อยาต่ำกว่าเชื้อเอ็กซ์ดีอาร์ ทีบี ในสหรัฐอเมริกา สูงถึง 2.5 แสนดอลลาร์สหรัฐต่อคน (ประมาณ 7.75 ล้านบาท) โดยใช้เวลารักษาราว 6 เดือน ขณะที่การรักษาผู้ป่วยวัณโรคที่ติดเชื้อระดับ เอ็กซ์ดีอาร์ ทีบี จะใช้เวลาราว 2 ปี และมีต้นทุนการรักษาสูงขึ้นอย่างมากจากการใช้ยาฆ่าเชื้อวัณโรคที่มีราคาแพง ทั้งยังไม่สามารถรับรองได้ว่าผู้ป่วยจะรอดชีวิตในการรักษา ด้านองค์การอนามัยโลก (ฮู) รายงานว่า ในปี 2553 มีผู้ติดเชื้อวัณโรคทั่วโลกราว 8.8 ล้านคน ในจำนวนนี้ 1.4 ล้านคนเสียชีวิต ขณะเดียวกันเชื้อวัณโรคยังเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคภูมคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์) ถึง 1 ใน 4 ของผู้ที่เป็นโรคนี้ ส่วนสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคติดต่อแห่งสหรัฐอเมริกา (ซีดีซี) เปิดเผยว่า มีการพบเชื้อเอ็กซ์ดีอาร์ ทีบี ใน 77 ประเทศทั่วโลกแต่ยังไม่มีข้อมูลจำนวนเชื้อที่พบในประเทศเหล่านั้นอย่างชัดเจน

 

เช่นกันคะ จะมาช่วยด้วยคนคะ

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เหนือ-อีสานฝนตกหนัก ส่วนภาคอื่นๆฝนฟ้าคะนองกระจาย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 กันยายน 2555 06:01 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันเสาร์ที่ 1 กันยายน 2555 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ในช่วงวันที่ 1-6 กันยายน 2555 ร่องมรสุมกำลังแรงจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่ง

ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่า ไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย บึงกาฬ หนองคาย นครพนม และสกลนคร อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฏร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อุตุฯเตือนภัยฝนตกหนัก-น้ำท่วมฉับพลันภาคเหนือและอีสาน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 กันยายน 2555 05:48 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา"ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก" ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 01 กันยายน 2555

ในช่วงวันที่ 1-6 กันยายน 2555 ร่องมรสุมกำลังแรงจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่ง

ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่า ไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พบสาส์นเกือบ100ปีในขวดแก้วลอยทะเล เก่าแก่ที่สุดในโลก!!</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 กันยายน 2555 03:31 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=310><TBODY><TR><TD vAlign=top width=310 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สาส์นในขวดแก้วที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อายุ98ปี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเจนซี/บีบีซี - ชาวประมงสกอตแลนด์พบขวดใบหนึ่งระหว่างลากอวนหาปลา ภายในบรรจุจดหมายที่ถูกเขียนขึ้นเมื่อ 98 ปีก่อน และได้รับการยืนยันแล้วว่ามันเป็นสาส์นในขวดแก้วเก่าแก่ที่สุดในโลก

แอนดรูว์ ลีเปอร์ พบขวดบรรจุจดหมายในตาข่ายขณะกำลังลากอวนอยู่นอกชายฝั่งทางเหนือของสกอตแลนด์ และเมื่อวันพฤหัสบดี(30) กินเนส เวิล์ด เรคอร์ดส ยืนยันว่าจดหมยดังกล่าวคือสาส์นในขวดแก้วที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ทำลายสถิติเดิมไป 5 ปี

"ขณะที่เรากำลังลากอวน ผมเห็นคอขวดเล็ดลอดออกมา ผมจึงรีบความมันไว้ก่อนที่มันจะร่วงตกทะเล" ลีเปอร์ วัย 43 ปีบอกกับบีบีซี "ผมตื่นเต้นมากที่จู่ๆก็เจอขวดและแทบอดใจที่จะเปิดมันออกไม่ไหว"

ที่ไม่น่าเชื่อก็คือสถิติสาส์นในขวดแก้วลอยทะเลเก่าแก่ที่สุดในโลกเดิมก็ถูกพบโดยเรือลำเดียวกันนี้ที่มีชื่อว่า "Copious"

"เรารู้สึกยินดีมากที่ได้ทราบว่าเรือลำเดิมทำลายสถิติของกินเนส เวิล์ด เรคอร์ด สำหรับพบสาส์นในขวดแก้วถึง 2 ครั้ง" โฆษกของกินเนส เวิล์ด เรคอร์ดระบุ "มันคือบันทึกอันงดงาม ไม่ว่าจะด้านประวัติศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์"

ในปี 1914 คุณครูซี.เอช.บราวน์ของโรงเรียนกลาสโกว์ สคูล ออฟ เนวิเกชัน ได้ปล่อยขวดจำนวน 1,890 ใบ ส่วนหนึ่งในการทดลองของรัฐบาลเพื่อวางแปลนกระแสใต้น้ำของทะเลต่างๆรอบสกอตแลนด์ โดยขวดแต่ละใบบรรจุโปสการ์ดขอให้ผู้พบบันทึกรายละเอียดของจุดที่เจอขวดเหล่านี้

"มันประจวบเหมาะกันอย่างไม่น่าเชื่อ"มันเหมือนกับถูกลอตเตอร์รี 2 ครั้งเลย" ลีเปอร์กล่าว อย่างไรก็ตามสถิตินี้มีสิทธิ์ถูกทำลายโดยเรือลำอื่นๆในอนาคต เนื่องจากเวลานี้พบขวดที่คุณครูซี.เอช.บราวน์ ปล่อยลอยทะเลแค่ 350 ขวดเท่านั้น
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ยกเลิกเตือนภัยสึนามิ พบตายแล้ว 1 จากภัยดินไหวฟิลิปปินส์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>31 สิงหาคม 2555 23:15 น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=380><TBODY><TR><TD vAlign=top width=380 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กรมสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯเผยแพร่แผ่นที่แสดงจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.6 เขย่าชายฝั่งฟิลิปปินส์เมื่อวันศุกร์(31) จุดชนวนการเตือนภัยสึนามิในหลายประเทศ และตรวจพบคลื่นสึนามิ ซัดกระทบทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ แต่ภายหลังพบว่ามีขนาดเล็กมาก ทำให้มีการยกเลิกประกาศเตือนภัยเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามมีรายงานล่าสุดว่าพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 ราย

ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกของสหรัฐฯระบุว่าแผ่นดินไหว 7.6 ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิลูกเล็กๆและเวลานี้ได้ซัดถึงชายฝั่งแล้ว "จากการอ่านค่าของระดับน้ำยืนยันว่าได้เกิดสึนามิ" ถ้อยแถลงยืนยัน พร้อมเผยว่าคลื่นความสูง 3 เซนติเมตร ได้พัดถึงชายฝั่งเมืองเลกาสปี ณ เวลาประมาณ 20.43 น.(ตรงกับเมืองไทย 19.43 น.)

ด้านสถาบันภูเขาไฟและแผ่นดินไหววิทยาฟิลิปปินส์ ระบุว่าตรวจพบคลื่นสึนามิสูง 16 เซนติเมตร ซัดเข้าชายฝั่งเมืองสุรีเกา ทางตะวันออกประเทศ ขณะที่ทางหัวหน้าศูนย์รับมือภัยพิบัติของรัฐบาลมีความกังวลว่าพื้นที่แถบดังกล่าวอาจต้องเผชิญกับคลื่นที่สูงกว่านี้

"เรายืนยันได้รับรายงานคลื่นสูง 16 เซนติเมตรในสุรีเกา แต่ยังไม่ได้รับข้อมูลจากพื้นที่อื่นๆ" เรนาโต โซลิดัม ผู้อำนวยการสถาบันภูเขาไฟและแผ่นดินไหววิทยาฟิลิปปินส์ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุท้องถิ่น พร้อมระบุว่าคลื่นลูกต่อไปอาจสูงกว่านี้

อย่างไรก็ตามในเวลาไม่นานศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกได้ยกเลิกประกาศเตือนภัยทั้งในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียเป็นที่เรียบแล้ว หลังจากทางสำนักงานบริหารภาคพื้นทะเลและบรรยากาศแห่งสหรัฐฯซึ่งทำหน้าที่ดูแลศูนย์เตือนภัย แจ้งว่าตรวจพบคลื่นสึนามิลูกแรกขนาดเล็กๆกระทบชายฝั่งเท่านั้น

กรมสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในระดับความลึก 33 กิโลเมตร ในเวลาประมาณ 20.47 น.ตามเวลาท้องถิ่น (19.47 น.ตามเวลาของไทย) ห่างจากเมืองสุลังกัน บนเกาะซามาร์ ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ราว 139 กิโลเมตร

เบื้องต้น ประกาศเตือนภัยสึนามิมีทั้งในปาปัวนิวกินี และกวม ขณะที่หมู่เกาะโซโลมอน หมู่เกาะมาร์แชล และนาอูรู เฝ้าจับตาระวังภัยคลื่นยักษ์อย่างใกล้ชิด แต่ก็มีการยกเลิกอย่างรวดเร็วในประเทศเหล่านั้น ขณะที่ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกเสริมว่าหากเกิดคลื่นสึนามิ อินโดนีเซียจะเป็นประเทศแรกที่โดนซัด ณ เวลาประมาณ 20.35 น.(ตามเวลาในเมืองไทย) ตามด้วย ฟิลิปปินส์ ณ เวลาประมาณ 20.38 น. (ตามเวลาในเมืองไทย) อย่างไรก็ตามทุกอย่างก็ผ่านพ้นโดยปราศจากรายงานความเสียหายร้ายแรงใดๆ

ผู้อำนวยการสถาบันภูเขาไฟและแผ่นดินไหววิทยาฟิลิปปินส์บอกว่าผู้คนที่อยู่ตามชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศถูกอพยพออกมาในมาตรการป้องกันไว้ก่อน เนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งนี้มีจุดศูนย์กลางที่ตื่นมาก ขณะที่ทางการอินโดนีเซีย ยืนยันไม่พบสัญญาณของคลื่นสึนามิใดๆ

"จนถึงตอนนี้เรายังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับคลื่นสึนามิซัดขึ้นฝั่งที่ไหนในอินโดนีเซีย" ซูฮาร์โยโน ประธานเทคนิคของศูนย์อุตุนิยมวิทยา ภูมิอากาศวิทยาและธรณีฟิสิกส์ของอินโดนีเซียบอกกับเอเอฟพี "เรารับทราบถึงการเตือนภัยสึนามืและได้แจ้งไปยังหน่วยงานรับมิอภัยพิบัติในจังหวัดต่างๆบนเกาะปาปัวและมาลูกู ให้เตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ที่ต้องอพยพหากมีคลื่นสึนามิ"

เบื้องต้นทางการฟิลิปปินส์ยืนยันว่ายังไม่พบผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ แต่มีความเสียหายทางโครงสร้าวในบางพื้นที่ "จนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตหรือไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ตั้งแต่ทางใต้ไปจนถึงเหนือเลยทีเดียว" เบนิโต รามอส หัวหน้าศูนย์ป้องกันพลเรือนบอก

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา รามอส เผยว่าพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 รายจากเหตุดินถล่มที่เกิดขึ้นจากแรงเขย่าของแผ่นดินไหว "สตรีวัย 60 ปีเสียชีวิตและหลายสาวอายุ 5 ขวบได้รับบาดเจ็บ จากเหตุดินถล่มเล็กๆในเมืองคากายัน เดอ โอโร แผ่นดินไหวเกิดขึ้นท่ามกลางฝนตกหนัก ดังนั้นแรงสั่นสะเทือนจึงทำให้ดินคลายตัวและถล่มลงมา"

พอลลา ดาซา ผู้ว่าราชการจังหวัดซามาร์ ทางเหนือของฟิลิปปินส์ หนึ่งในเมืองที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวมากที่สุด บอกว่าเกิดไฟฟ้าดับในพื้นที่และได้รับรายงานเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหาย "เราพบเห็นรอยแตกบนพื้นถนนคอนกรีต และฐานของสะพานอย่างน้อยหนึ่งแห่งก็มีรอยร้าว"

</TD></TR></TBODY></TABLE>