ญาณทัศนะ และ ผลจากการปฏิบัติ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย santosos, 11 สิงหาคม 2005.

  1. santosos

    santosos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +3,212
    ปัญญาขันธ์
    หมวดญาณทัศนะ
    ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อ ญาณทัศนะ. เธอย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า กายของเรานี้ มีรูป ประกอบด้วยมหาภูตทั้งสี่ มีมารดาบิดาเป็นแดนเกิด เจริญด้วยข้าวสุกและขนมสด ต้องห่อหุ้มนวดฟั้นอยู่เนืองนิจ แต่ก็ยังมีการแตกทำลายสึกกร่อนเป็นธรรมดา แต่วิญาณของเรานี้ อาศัยอยู่ในกายนั้น เนื่องอยู่ในกายนั้น, รู้เห็นอย่างชัดเจน เปรียบเหมือนมณีไพฑูรย์อันสวยงาม สมชาติแก้ว แปดเหลี่ยม เจียระไนดีแล้ว สดใส ผ่องใส ถึงพร้อมด้วยคุณค่าทั้งปวง
    ในแก้วนั้น มีด้ายร้อยอยู่ สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีขาวบ้าง สีส้มบ้าง. บุรุษผู้มีตาดีวางแก้วนั้นลงในมือแล้ว ก็จะเห็นโดยประจักษ์ว่า มณีไพฑูรย์นี้เป็นของสวยงาม สมชาติแก้ว แปดเหลี่ยม เจียระไนดีแล้ว สดใส ผ่องใส ถึงพร้อมด้วยคุณค่าทั้งปวง ในแก้วนั้น มีด้ายร้อยอยู่ สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีขาวบ้าง สีส้มบ้าง ฉันนั้นเหมือนกัน. แม้นี้ก็เป็นปัญญาของเธอประการหนึ่ง.
    หมวดมโนมยิทธิ
    ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อ การนิรมิตกายอันสำเร็จด้วยใจ. เธอถอดกายอื่นออกจากกายนี้ เป็นกายมีรูป สำเร็จจากใจ มีอวัยวะน้อยใหญ่ มีอินทรีย์ไม่เสื่อมทราม.
    เปรียบเหมือนชายผู้หนึ่งชักไส้หญ้าปล้องออกจากหญ้าปล้อง เขากำหนดได้ว่า นี่หญ้าปล้อง นี่ไส้หญ้าปล้อง, หญ้าปล้องเป็นอย่างหนึ่ง ไส้หญ้าปล้องเป็นอีกอย่างหนึ่ง แต่ไส้นั้นชักออกมาจากหญ้าปล้องนั่นเอง.

    เปรียบเหมือนชายผู้หนึ่งชักดาบออกจากฝัก เขากำหนดได้ว่า นี่ดาบ นี่ฝัก ดาบเป็นอย่างหนึ่ง ฝักเป็นอีกอย่างหนึ่ง แต่ดาบชักออกจากฝักนั่นเอง.
    อีกอย่างหนึ่ง เปรียบเหมือชายคนหนึ่ง ยกงูขึ้นจากข้อง เขากำหนดได้ว่า นี่งู นี่ข้อง งูเป็นอย่างหนึ่ง ข้องเป็นอีกอย่างหนึ่ง แต่งูยกมาจากข้องนั่นเอง, ฉันนั้น เหมือนกัน. แม้นี้ ก็เป็นปัญญาของเธอประการหนึ่ง
    ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อ อิทธิวิธี(วิธีเครื่องแสดงฤทธิ์) เธอย่อมบรรลุวิธีเครื่องแสดงฤทธิ์หลายประการ.
    ทำคนเดียวให้เป็นคนมากบ้าง ทำคนมากกลับเป็นคนเดียวบ้าง ทำที่กำบังให้เป็นที่แจ้ง ทำที่แจ้งให้เป็นที่กำบัง ไปได้ไม่ขัดข้องทะลุฝา ทะลุกำแพง ทะลุภูเขา เหมือนไปในอากาศ, ผุดขึ้นและดำลงในแผ่นดินเหมือนในน้ำ ไปได้เหนือน้ำเหมือนบนแผ่นดิน ลอยไปในอากาศทั้งที่ยังนั่งคู้ขาเหมือนนกมีปีก ลูบคลำดวงจันทร์และดวงอาทิตย์อันมีฤทธิ์อานุภาพมากได้ด้วยฝ่ามือ แสดงอำนาจด้วยกายเป็นไปตลอดถึงพรหมโลก ด้วยความเชี่ยวชาญ.

    เปรียบเหมือนนายช่างหม้อ หรือลูกมือของนายช่างหม้อ ผู้เชี่ยวชาญ เมื่อขยำดินไว้ดีแล้ว ปรารถนาจะทำภาชนะชนิดต่างๆกัน ก็พึงทำภาชนะดินชนิดต่างๆนั้นได้สำเร็จ. อีกอย่างหนึ่ง เปรียบเหมือนนายช่างทอง หรือลูกมือของนายช่างทอง ผู้เชี่ยวชาญ เมื่อแต่งเนื้อทองคำดีแล้ว ตนปรารถนาเครื่องทองชนิดต่างๆ ก็ทำเครื่องทองรูปต่างๆให้สำเร็จได้, ฉันนั้นเหมือนกัน. แม้นี้ ก็เป็นปัญญาของเธอประการหนึ่ง.

    หมวดอิทธิวิธี
    ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อ อิทธิวิธี (กลไกวิธีแสดงฤทธิ์). เธอย่อมบรรลุกลไกวิธีแสดงฤทธิ์หลายประการ ทำคนเดียวเป็นคนมากบ้าง ทำคนมากกลับเป็นคนเดียวบ้าง ทำที่กำบังให้เป็นที่แจ้ง ทำที่แจ้งให้เป็นที่กำบัง ไปได้ไม่ขัดข้องทะลุฝา ทะลุกำแพง ทะลุภูเขา เหมือนไปในอากาศ, ผุดขึ้นและดำลงในแผ่นดินได้เหมือนในน้ำ ไปได้เหนือน้ำเหมือนบนแผ่นดิน ลอยไปในอากาศได้ทั้งที่ยังนั่งคู้ขาเหมือนนกมีปีก, ลูบคลำดวงจันทร์และดวงอาทิตย์อันมีฤทธิ์อานุภาพมากได้ด้วยฝ่ามือ แสดงอำนาจด้วยกายเป็นไปตลอดถึงพรหมโลก ทำได้ด้วยความเชี่ยวชาญ.
    เปรียบเหมือนนายช่างหม้อ หรือลูกมือของนายช่างหม้อผู้เชี่ยวชาญ เมื่อขยำดินไว้ดีแล้วปรารถนาจะทำภาชนะดินชนิดต่างๆกัน ก็พึงทำภาชนะดินชนิดต่างๆนั้นได้สำเร็จ. อีกอย่างหนึ่ง เปรียบเหมือนนายช่างงา หรือลูกมือของนายช่างงาผู้เชี่ยวชาญ เมื่อแต่งงาดีแล้ว ถ้าปรารถนาวัตถุงาชนิดต่างๆ ก็ทำวัตถุนั้นให้สำเร็จได้. อีกอย่างหนึ่ง เปรียบเหมือนนายช่างทอง หรือลูกมือของนายช่างทองผู้เชี่ยวชาญ เมื่อแต่งเนื้อทองคำดีแล้ว ตนปรารถนาเครื่องทองชนิดต่างๆ ก็ทำเครื่องทองรูปต่างๆให้สำเร็จได้ ฉันนั้นเหมือนกัน. แม้นี้ ก็เป็นปัญญาของเธอประการหนึ่ง.

    หมวดทิพยโสต
    ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อ โสตธาตุอันเป็นทิพย์ หมดจดวิเศษ ล่วงเกินโสตธาตุของสามัญมนุษย์ ได้ยินเสียงทั้งสองชนิด คือทั้งเสียงทิพย์และเสียงมนุษย์ ทั้งจากที่ใกล้และไกล ชัดเจนว่าเป็นเสียงอะไร เช่นเดียวกับชายเดินทางไกล เขาได้ยินเสียงกลองบ้าง เสียงตะโพนบ้าง เสียงสังข์ เสียงบัณเฑาะว์ เสียงเปิงมางบ้าง จากในเมือง เขาย่อมสามารถกำหนดได้ว่า นั่นเสียงกลอง นั่นเสียงตะโพน นั่นเสียงสังข์ นั่นเสียงบัณเฑาะว์ นั่นเสียงเปิงมาง, ฉันนั้นเหมือนกัน. แม้นี้ ก็เป็นปัญญาของเธอประการหนึ่ง.
    หมวดเจโตปริยญาณ
    ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อ ญาณกำหนดรู้ใจผู้อื่น. เธอย่อมกำหนดรู้ใจสัตว์เหล่าอื่น บุคคลเหล่าอื่น ด้วยใจของตน.
    จิตของผู้มีราคะว่า มีราคะ ไม่มีราคะว่า ไม่มีราคะ มีโทสะว่า มีโทสะ ไม่มีโทสะว่า ไม่มีโทสะ มีโมหะว่า มีโมหะ ไม่มีโมหะว่า ไม่มีโมหะ หดหู่ว่าหดหู่ ฟุ้งซ่านว่าฟุ้งซ่าน มีจิตเป็นมหรคตะ(จิตใหญ่)ว่าเป็นจิตมหรคตะ ไม่มีจิตเป็นมหรคตะว่า ไม่เป็น มหรคตะ มีจิตอื่นยิ่งกว่าว่า มีจิตอื่นยิ่งกว่า ไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่าว่า ไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า มีจิตตั้งมั่นว่ามีจิตตั้งมั่น ไม่มีจิตตั้งมั่นว่าไม่มีจิตตั้งมั่น มีจิตหลุดพ้นว่า มีจิตหลุดพ้น ไม่มีจิตหลุดพ้นว่า ไม่มีจิตหลุดพ้น แต่ละอย่างรู้ได้ชัดเจน
    เปรียบเหมือนชายหนุ่มหญิงสาว รักการแต่งตัว เมื่อส่องดูเงาแห่งหน้าของตนในกระจกเงาอันหมดจอผ่องใส หรือในน้ำอันใส ถ้ามีไฝฝ้า ก็รู้ว่ามีไฝฝ้า ถ้าไม่มีไฝฝ้า ก็รู้ว่าไม่มีไฝฝ้า, ฉันนั้นเหมือนกัน. แม้นี้ ก็เป็นปัญญาของเธอประการหนึ่ง.

    หมวดปุพเพนิวาสานุสสติญาณ*
    ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ.
    เธอย่อมระลึกถึงขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยในภพก่อนได้หลายประการ คือระลึกได้ชาติหนึ่งบ้าง สองชาติ สามชาติ สี่ชาติ ห้าชาติบ้าง, สิบชาติ ยี่สิบชาติ สามสิบชาติ สี่สิบชาติ ห้าสิบชาติบ้าง, ร้อยชาติ พันชาติ แสนชาติบ้าง.
    ตลอดหลายสังวัฏฏกัปป์ หลายวิวัฏฏกัปป์ หลายสังวัฏฏกัปป์และวิวัฏฏกัปป์บ้าง, ว่าเมื่อเราอยู่ในภพโน้น มีชื่ออย่างนั้น มีโคตร มีวรรณะ มีอาหาร อย่างนั้นๆ เสวยสุขและทุกข์เช่นนั้นๆ มีอายุสุดลงเท่านั้น ครั้นจุติจากภพนั้นแล้ว ได้เกิดในภพโน้น มีชื่อ โคตร วรรณะ อาหารอย่างนั้นๆ, ได้เสวยสุขและทุกข์เช่นนั้นๆ มีอายุสุดลงเท่านั้น, ครั้นจุติจากภพนั้นๆๆๆ แล้ว มาเกิดในภพนี้. เธอนั้น ระลึกถึงขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยในภพก่อน ได้หลายประการ พร้อมทั้งอาการและลักษณะ ระลึกได้ชัดเจน ดังนี้
    เปรียบเหมือนชายผู้หนึ่ง ออกจากบ้านตนไปบ้านคนอื่น แล้วออกจากบ้านนั้น ไปสู่บ้านอื่นอีก แล้วออกจากบ้านนั้นๆกลับมาสู่บ้านของตน เขาระลึกได้อย่างนี้ว่า เราออกจากบ้านตนไปสู่บ้านโน้น ที่บ้านโน้น เราได้ยืน ได้นั่ง ได้พูด ได้นิ่ง อย่างนี้ๆ, ครั้นออกจากบ้านนั้นแล้ว ได้ไปสู่บ้านโน้นอีก, แม้ที่บ้านโน้นนั้น เราได้ยืน ได้นั่ง ได้พูด ได้นิ่ง อย่างนั้นๆ, เราออกจากบ้านนั้นแล้ว กกลับมาสู่บ้านตนนั่นเทียว ฉันนั้นเหมือนกัน. แม้นี้ ก็เป็นปัญญาของเธอประการหนึ่ง.

    หมวดจุตูปปาตญาณ*

    ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อ ญาณเครื่องรู้ซึ่งจุติและอุปะปาตะของสัตว์ทั้งหลาย.
    เธอมีจักขุทิพย์ บริสุทธิ์กว่าจักขุของสามัญมนุษย์ ย่อมแลเห็นสัตว์ทั้งหลายจุติอยู่ บังเกิดอยู่, เลวทราม ประณีต มีวรรณะดี มีวรรณะทรามมีทุกข์ มีสุข.

    เธอรู้แจ้งชัดหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงตามกรรมว่า ผู้เจริญทั้งหลาย ! สัตว์เหล่านี้หนอ ประกอบกายทุจริต
    มโนทุจริต พูดติเตียนพระอริยเจ้าทั้งหลาย เป็นมิจฉาทิฏฐิ ประกอบการงานด้วยอำนาจมิจฉาทิฏฐิ, เบื้องหน้าแต่กายแตกตายไป ย่อมพากันเข้าสู่อบาย ทุคติวินิบาตนรก.
    ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ส่วนสัตว์เหล่านี้หนอ ประกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ไม่ติเตียนพระอริยเจ้า เป็นสัมมาทิฏฐิ ประกอบการงานด้วยอำนาจสัมมาทิฏฐิ, เบื้องหน้าแต่กายแตกตายไป ย่อมพากันเข้าสู่สุคติโลกสวรรค์.

    เธอมีจักขุทิพย์ บริสุทธิ์ล่วงจักขุสามัญมนุษย์ เห็นเหล่าสัตว์ผู้จุติอยู่ บังเกิดอยู่ เลว ประณีต มีวรรณะดี มีวรรณะทราม มีทุกข์ มีสุข. เธอรู้ชัดหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงตามกรรมได้ เห็นชัดแจ้ง ดังนี้,

    เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีจักษุยืนอยู่บนปราสาทที่ทางสามแพร่งกลางนคร เขาจะเห็นมนุษย์เข้าไปในเรือนบ้าง ออกมาจากเรือนบ้าง เที่ยวไปตามถนนด้วยรถบ้าง นั่งอยู่กลางทางสามแพร่งบ้าง, เขาเห็นชัดเจนอย่างนี้ว่า มนุษย์พวกนี้เข้าไปในเรือน พวกนี้ออกจากเรือน พวกนี้เที่ยวไปตามถนนด้วยรถบ้าง พวกนี้นั่งอยู่กลางทางสามแพร่ง ดังนี้ ฉันนั้นเหมือนกัน. แม้นี้ ก็เป็นปัญญาของเธอประการหนึ่ง.
    หมวดอาสวักขยญาณ*
    ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อ อาสวักขยญาณ.

    เธอย่อมรูชัดตามเป็นจริงว่า นี้ทุกข์, นี้เหตุแห่งทุกข์, นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์, นี้แนวทางปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์. และเหล่านี้เป็นอาสวะทั้งหลาย, นี้เหตุแห่งอาสวะทั้งหลาย, นี้ความดับไม่เหลือแห่งอาสวะทั้งหลาย, นี้แนวปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งอาสวะทั้งหลาย. เมื่อเธอรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ จิตก็พ้นจากกามาสวะ ภวาสวะ และอวิชชาสวะ.

    ครั้นจิตพ้นวิเศษแล้ว ก็เกิดญาณหยั่งรู้ว่า จิตพ้นแล้ว เธอรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ต้องทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีก.

    เปรียบเหมือนห้วงน้ำใส ที่ไหล่เขา ใสสะอาด ไม่ขุ่นมัว คนมีจักษุยืนอยู่บนฝั่งในที่นั้น เขาจะเห็นหอยตัวกลมบ้าง หอยตัวแบนบ้าง ก้อนกรวดก้อนหินบ้าง ฝูงปลาบ้าง อันหยุดอยู่ และว่ายไปในน้ำนั้น, เขาจะเห็นชัดจนรู้สึกว่า ห้วงน้ำนี้ ใสไม่ขุ่นเลย หอย ก้อนกรวด ก้อนหิน ปลาทั้งหลาย เหล่านี้ หยุดอยู่บ้าง เที่ยวไปบ้าง ในห้วงน้ำนั้น, ฉันนั้นเหมือนกัน. แม้นี้ ก็เป็นปัญญาของเธอประการหนึ่ง.

    มานพ ! นี้แล อริปัญญาขันธ์นั้น ที่พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนนี้สมาทาน ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ.

    http://rakangthong.com/_notes/punya001/punya01.htm
    สนใจเพิ่ม ติดต่อหนุ่ม
    025792201 ขอสายหนุ่ม
    เวลาโทรมา บอกแค่โทรมาคุย ไม่ต้องบอกเรื่องราวนะ
    ผมขอบอกว่า นี่ไม่ใช่การสอน นี่เป้นแค่การแลกเปลี่ยน
     
  2. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    อภิญญาของจิงยังมีอยู่

    ใครสนใจไปปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานได้คับทุกคนมีในตัวคือญาน ได้ที่จังหวัดเชียงรายคับบรรยากาศดีมากเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านก็เมตตาเป็นกันเองสอบอารมณ์ให้ทุกเย็นคับ ลืมบอกไม่เก็บค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว ที่วัดไม่มีตู้บริจาค และมีพระจำพรรษา 43 รูปเยอะสุดในเชียงรายจิงๆน่าจะมีเกือบร้อยรูปแต่ติดตรงกุฏิเต็มคับทั้งที่ยังเป็นสำนักสงฆ์อยู่เลย และมีโยมมาปฏิบัติ10-20คนขึ้นๆลงๆจิงๆมากกว่านี้ แต่ห้องจะเต็มคับ ทั้งพระและโยมมาจากทั่วประเทศ พระจบดร.ได้ปธ9กำลังจะเป็นเจ้าคุณก็ยังมาฝึกที่วัดคับและปธ.8 อีกหลายรูป ที่วัดไม่มีงมงายคับแต่ให้ผู้ปฏิบัติเห็นธรรมด้วยตนเอง เชิญไปปฏิบัติธรรม2-3วันดูคับ เมื่อรู้วิธีปฏิบัติแล้วก็นำกลับไปทำที่บ้านก็เห็นได้เหมือนกันคับ แล้วใช้ปัญญาพิจารณาว่าทางนี้ถูกต้องไหมหรืองมงาย ส่วนตัวผมจบเอแบคมาคับซึ่งตอนแรกไม่เชื่อเรื่องพวกนี้และเวรกรรมเลยจนได้มาสัมผัสเอง และเจ้าอาวาสหลายวัดก็ยอมสละลาภสักการะตำแหน่งและพระเถระมากมายก็มาฝึกวิปันากรรมฐานที่นี่คับ ผู้ใดสนใจและตั้งใจปฏิบัติจิงๆและต้องการหาผู้รู้จิงแนะนำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2013
  3. banmabe

    banmabe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +102
    เพ่งมองไปที่ท้องฟ้า สักพักจะมองเห็นเม็ดเล็กๆใส ๆ วิ่งวนไปมาเยอะแยะมากมาย หมายความว่า อะ ไรค่ะ ชี้แนะด้วยค่ะ
     
  4. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    โมทนาสาธุคะ ธรรมทุกประการ ขอให้ ชัดเจนแจ่มใส เหมือนผู้บอก กล่าวนะคะ
     
  5. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320

    ลองดูเรื่องวุ้นในลูกตานะครับ
     
  6. banmabe

    banmabe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +102
    เข้าอ่านแล้วค่ะ มีประโยชน์มากมาย ข:cool:อบคุณค่ะ
     
  7. วิหคอิสระ

    วิหคอิสระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +1,318
    ไม่เป็นไรจ้า ด้วยความยินดี
     
  8. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ญานทรรศนะเริ่มเปิดแล้วคับ คุณหลับตาเพ่งไปที่เหนือสะดือสองนิ้วดูก็เห็นเหมือนกัน ต้องมีครูบาอาจารย์รู้จิงสอน ท่านจะได้ธรรมวิเศษและยกระดับจิตได้คับ http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%86%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1/129242477178238 ลองไปขอคำชี้แนะดูคับ ไม่ผิดหวัง คนรู้จิงได้ธรรมวิเศษมาแล้วถึงจะแนะนำให้คนไม่รู้ได้ถูกไหมคับ ลืมบอกเห็นแล้วให้กำหนด เห็นหนอๆไม่เที่ยงหนอไม่ยึดมั่นถือมั่นหนอ ยกไตรลักษณ์ แล้ว จะหายไปสีอื่นขึ้นมาแทน ปลงบ่อยๆคับ จะชัดขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2012
  9. banmabe

    banmabe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +102
    ขอบคุณค่ะ:cool:
     
  10. santosos

    santosos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +3,212
    just tell me what u need me to search for u na
     
  11. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ส่วนนึงของสี ญาน ฌาน ท่านควรไปปรึกษาผู้รู้จิง หรือไปตามที่ผมบอก ผมก็เห็นเหมือนกัน และในสีหลุมเทาดำ ท่านจะลงไปเห็นธรรมได้ ทั้งนี้ผมยังอ่อนหัดบวชแค่พรรษาเดียว ไม่อาจชี้แนะใครได้มาก ท่านสนใจจิงลองไปขอคำแนะนำหลวงพ่อดู ท่านปฏิบัติกรรมฐานมา26พรรษาได้ มีญาณหยั่งรู้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2012
  12. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    just suggest people who don't know go through the right. but they need people who really knows that is here สำนักสงฆ์พระธาตุสันติธรรม | Facebook ,better try if u want to upgrade your mind and don't know how to get อภิญญา or upper level that really have. If u get อภิญญา so u know how to go upper by u self right ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2012
  13. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    คุณปฏิบัตวิปัสนากรรมฐานไหมคับ ถ้าทำเยอะจะเห็นสี แต่ไปต่อไม่ได้เพราะไม่มีผู้รู้จิงครูอาจารย์ชี้แนะต่อ ไปขั้นสูงคับ ทั้งนี้ต้องรักษาศีลควบคู่จะไปได้เร็ว ควรลองไปฝึกที่วัดดูคับ สำนักสงฆ์พระธาตุสันติธรรม | Facebook ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อ ญาณทัศนะ ถามนั้นจิงๆคับถึงจะเห็นไม่งั้นไม่เห็น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2012
  14. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วิปัสสนาแล้วเห็นสี ไปผิดทางแล้วครับ...
    กลับมารู้ปัจจุบัน กายนี้มีความรู้สึกอย่างไร ใจนี้มีความรู้สึกอย่างไร มีสติกลับมาอยู่กับปัจจุบันเรื่อยๆ ก่อนครับ
     
  15. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    วิปัสสนาแล้วเห็นสี ผิดทางหรอ เคยอ่านนี้ยังก่อนพูด ...ในแก้วนั้น มีด้ายร้อยอยู่ สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีขาวบ้าง สีส้มบ้าง ฉันนั้นเหมือนกัน. แม้นี้ก็เป็นปัญญาของเธอประการหนึ่ง.... เห็นจิงๆคับถ้าท่านทำสมาธิถามคนทำสมาธิประจำก็รู้ว่ามีจิงไหม แต่จะไปต่อไม่ได้เพราะไม่มีผู้รู้จิงแนะนำ นี่แค่ธรรมเบื้องต้นผมพบมาเองแล้วพระที่ได้อภิญญา5ตาทิพย์ อ่านใจคน ระลึกชาติได้ ที่สำคัญสามารถสอนให้คนอื่นได้ตาม อันที่6ผมไม่สารถรู้ได้ว่าพระท่านได้ยังวิธีตัดกิเลสได้ยัง ผมเลยไม่กล้าบอก แต่ที่แน่ๆพระท่านจะบวชตลอดชีวิตท่านว่าเค้าจะได้ไหม ใครไปไม่ถึงอย่าบอกว่าไม่มีเลย พระอรหันทั้งหลายผ่านมาแล้ว จนถึง อภิญญา6 อ่อพระที่ได้อภิญญา5-6ก็ผ่านดวงสีมาก่อน เริ่มแรกที่ปฏิบติวิปัสนากรรมฐาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2012
  16. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ไม่เปนไรคับยินดี เพียงแต่อยากยืนยันว่าสิ่งที่พระไตรปิฏกบอกมีจิงหมด อภิญญา6 มีจิง เพราะผมเจอกับตัวมาแล้วพระท่านได้อภิญญา5-6 สามารถ ล่วงรู้ทุกอย่าง อ่านใจรู้ความคิดเรา รู้เราทำไรมา ระลึกชาติได้และสอนให้คนอื่นสามารถได้ด้วยตนเอง ตัวตัดกิเลสผมไม่สามารถรู้ได้พระท่านอาจได้หรือไม่ได้ แต่ถ้าท่านได้อภิญญาสามารถดูกันได้ว่าใครขั้นไหนคับ อ่อผมจบเอแบคและแต่ก่อนไม่ค่อยไปวัด ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เมื่อก่อน ลืมบอกการจะได้สิ่งเหล่่านี้ ท่านต้องรักษาศีลห้ามรั่วเลย และทำวิปัสนากรรมฐานเองคับ ไม่ใช่เลี้ยงกุมารหรือขอฤทธิ์ฤาษี อภิญญาที่เกิดจากสมาธิไม่มีวันเสื่อมคับ ต่างจากที่บอกข้างต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2012
  17. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ถ้าท่านคิดว่าวิปัสสนาแล้วเห็นสี เป็นการไปถูกทาง
    ขอให้ท่านอธิบายกระบวนการที่จิตเห็นสี ด้วยความรู้ของท่านด้วยครับ
    หากอธิบายไม่ได้ คงจะยังไม่เหมาะที่จะชี้บอกทางใครครับ

    ป.ล. ในกลุ่มผู้ปฏิบัติจริงๆ ผู้ที่อภิญญา มีเยอะครับ ไม่ใช่เจอกันแค่ คนสองคนหรอกครับ อีกสักระยะนึงคุณจะเจออีกหลายท่าน ทั้งพระและฆราวาส ครับ
     
  18. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ต้องถามก่อนท่านทำสมาธิมานานยังคับ ไม่เห็นสีหรอคับ ? ถ้าท่านไม่เห็นสีก็ลองเองไม่ได้แล้วคับ เพราะต้องเห็นสีก่อนถึงลองไปดูธรรมวิเศษด้วยตัวเองที่บ้านได้คับ สีก็คือญานทรรศนะระดับเริ่มแรกคับที่คนทำสมาธิจะเห็น ซึ่งยังมีขั้นสูงกว่านี้อีก หากแต่ต้องรักษาศีลทำสมาธิยาวๆถึงได้จะขึ้นไปได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2012
  19. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เห็นสารพัดเลยหละ แต่มันไม่ใช่สาระสำคัญของวิปัสสนาครับ

    สภาวะในสมาธิของผู้ปฏิบัติหนะ มีเป็นร้อยเป็นพันครับ คุณจะเอาแค่สิ่งที่ตัวเองเห็น มาเทียบเป็นหลักการปฏิบัติของผู้อื่นหนะไม่ได้หรอก...

    ตำราสอบอารมณ์ วิปัสสนาญาณ 16 อย่างละเอียดหนะ มีครับ แต่พระอริยะท่านที่เขียนแบบครบออกมา ไม่เผยแพร่ เพราะว่ามันทำให้คนหลงในสภาวะครับ

    การปฏิบัติวิปัสสนา ผ่านญาณต่างๆ อย่าเอาแค่สิ่งที่เห็น เป็นตัววัดระดับสภาวะ ต้องเอาสิ่งที่จิตรับรู้ ซึ่งครูบาอาจารย์จะมีวิธีสอบอารมณ์ หากเป็นผู้ปฏิบัติเริ่มต้น แนะนำคนอื่นแค่เริ่มต้นพอดีกว่าไหมครับ? ถ้าพาคนหลงทางไป ถึงแม้ไม่ได้ตั้งใจ ก็มีวิบากนะครับ

    ป.ล. สภาวะ "ธรรมวิเศษ" ที่คุณเห็นหนะครับ บอกตรงๆ ไม่มีอะไรวิเศษหรอกครับ ดวงจิตทุกดวง เห็นได้หมด
    ที่มันดูเหมือนวิเศษ เพราะว่าคนที่ไม่ได้ฝึก ถูกกิเลสพอกเอาไว้จนจิตไม่ละเอียดพอจะเห็นเท่านั้นเอง
    เมื่อปฏิบัติถึงจุดๆ นึง จิตละเอียดพอ มันอยากรู้อยากเห็นอะไร มันเห็นได้หมดแหละครับ
    แต่ถ้าคุณเอาสภาวะธรรมดาๆ อุปาทานไปใส่มันว่ามันวิเศษ อันนี้เป็นการสร้างความยึดติดนะครับ
    ผมเตือน เพื่อความก้าวหน้าในการปฏิบัติของคุณเองนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2012
  20. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    คุณชี้ทางให้คนอื่นระลึกชาติ และอภิญญาได้ใช่ไหมคับ อนุโมทนาด้วยละกัน ผมแค่อยากบอกว่าวัดที่ผมไปก็ชี้ทางได้ให้คนปฏิบัติเห็นธรรมด้วยตนเอง และผมก็ระลึกชาติได้คับตอนบวชพรรษาเดียวจากวัดน้ั้นแต่ยังเป็นธรรมขั้นพื้นฐานอยู่ แต่ที่วัดคนหายของหายใครคิดไรฝันไรพระท่านรู้หมด จากที่ผมไม่ค่อยศรัทธาในธรรมกลับหันมาศึกษาธรรมมากขึ้น ลืมบอกผมจบจากเอแบคคับไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เลยตอนแรก ผมรู้เล็กน้อยแต่พระชี้ทางให้ไปขั้นสูงได้เพราะพระท่านได้แล้ว และไม่เก็บค่าใช้จ่ายสักบาท ท่านชี้ทางให้คนอื่นบรรลุธรรมได้ผมก็อนุโมทนาไว้นะที่นี้ อยากเตือนว่า มานะ ทิฐิ โทสะควรละเสีย และการกล่าวว่าคนพูดจิงนั้นก็บาปนะคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...