แอบรักพี่เมีย

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย ABRUK, 7 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    เพราะติงมีความเชื่อว่าคุณABRUK<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5676299", true); </SCRIPT> เป็นคนดี
    หากคุณเป็นคนไม่ดี คุณไม่มาตั้งกระทู้นี้หรอกค่ะ
    ป่านนี้พี่สาวภรรยาคุณเป็นของคุณไปแล้ว

    การบำเพ็ญบารมี มักมีมารมาเกี่ยวข้องเพื่อทดสอบเรา
    และมารนั้นมักรู้จุดอ่อนของเราเสมอ

    อย่างติงเวลาที่จะไปทำอะไรที่เป็นบุญเป็นกุศล
    ก็จะมีอุปสรรคเสมอ
    อย่างคืนวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
    ติงตั้งใจจะไปบวชชีพราหมณ์ และฟังพระธรรมเทศนาตลอดคืน
    ก็มีคำสั่งให้ไปเป็นกรรมการคุทสอบ O-NET ของนักเรียนชั้น ม.๖
    ในวันที่ ๑๘ - ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
    เพื่อนๆทุกคนเลิกล้มความตั้งใจที่จะไปบวช
    แต่ติงต้องเอาชนะตนเองให้ได้
    และทำหน้าที่ทั้งสองอย่างให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
    แล้วติงก็ทำได้ และทำได้ดีด้วย

    ติงเป็นกรรมการคุมสอบคนแรกที่ไปถึงสนามสอบ
    สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้สมบูรณ์ตามที่ระเบียบว่าเอาไว้ทุกประการ
    นี้เป็นประสบการณ์หนึ่งที่ติงพบมา ซึ่งหากสังเกตดีๆแล้ว
    เราจะพบมารในลักษณะนี้เป็นประจำในชีวิต
    หน้าที่ของเราคือรู้เท่าและรู้ทัน
    พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ผิดพลาดน้อยที่สุด หรือไม่ผิดพลาดเลย
    (ซึ่งยากมาก)

    คุณเป็นคนที่มีคุณธรรมของเทวดา
    มีหิริ โอตัปปะ มีความละอายต่อบาป และมีความเกรงกลัวต่อบาป
    นี่เป็นจุดแข็งของคุณ
    ติงมีความเชื่อว่าคุณเอาชนะใจตนเองได้แน่นอน
    ขอเป็นกำลังใจให้คุณนะคะ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2012
  2. ชูนุ่น

    ชูนุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +699
    ความรักและความใคร่ต่างกัน หากเป็นความใคร่ คุณจะอดทนต่อความอยากได้ตัวเธอไม่ไหว หน้ามืดตามัวจนแยกผิดชอบชั่วดีไม่ได้ ไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาจากการกระทำ..
    แต่หากเป็นความรัก ก็ตรงกันข้าม ปรารถนาให้เธอมีความสุข..ไม่ทุกข์ทน ให้ความรู้สึกดีๆเหล่านั้น..อยู่เพียงในใจ
    ไม่ผิดหรอกหากจะรักใคร..แต่จะผิดหากไม่ใช่รักแต่เป็นความใคร่ ดังที่สามีภรรยาคู่อื่นกำลังประสบปัญหาอยู่เยอะแยะมากมาย..ภรรยาคุณเองคุณก็รักและทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง..อย่าคิดมากเลย..ยิ่งคิดยิ่งทำให้จิตใจเศร้าหมอง..พยายามทำให้แปรเปลี่ยนเป็นความปรารถนาดี..ก็คือสิ่งที่คุณอดทนทำมาโดยตลอดนั่นแหละ
     
  3. chocolate kiss

    chocolate kiss Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +95
    อนุโมทนาด้วยค่ะ คุณ ddman
     
  4. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    เอ็งเก่งว่ะรักสาวที่ละตั้งสองคนได้ไนเวลาเดียวกัน โดยที่เขาไม่รู้ทั้งคู่อิจฉาง่ะ ใช้ความเก่งของเอ็งพัฒนาจิตให้สูงขึ้นโดยใช้ปัญญาจากผู้ที่แนะนำปฏิบัติเน้อ โดยเฉพาะเรื่องขี้โดนใจว่ะ จะเอาไว้ทำตอนคิดถึงสาวบ้างง่ะ
     
  5. ช้าง ช้างไท

    ช้าง ช้างไท สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +2
    มันเป็นกรรมแบบไหน ใครบอกได้บ้าง เพราะผมเองก็เจอ แต่ไม่กล้าทำอย่างที่คิด
    อยากหลุดพ้นเหมือนกัน ไม่อยากสร้างเวรกรรมกับใครอีก
     
  6. saionthefly

    saionthefly Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +51
    ตอนนี้เราก็ประสบปัญหาเช่นกันคะ เป็นรุ่นน้องหลายปีมาก ส่วนเรามีครอบครัวแล้ว เขาก็รู้ ตอนนี้ทำได้ดีที่สุด ก็คือ สวดเมตตาใหญ่ มีคนแนะนำมา ไม่รู้จะได้ผลไหม แต่ก็สวดทุกวันคะ และก็รู้ด้วยว่าคนที่เข้ามาเป็นเจ้ากรรมนายเวร ทุกวันนี้ก็ทำใจไม่ได้ ก็เลยไม่ทำใจ ก็ยังคุยกับเขาอยู่ แต่ไม่เจอ และจะพยายามไม่คุยเรื่องส่วนตัว จะคุยแค่เรื่องงาน ทุกครั้งที่สวดมนต์ จะอธิฐานจิต ขอให้จบกันด้วยดี บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น เป็นพี่เป็นน้องกัน ยังทำงานด้วยกันไ้ และขอให้เขาและเราอดทน เพราะถ้าพลาดมันจะพลาดทุกๆๆชาติ มันไม่ใช่แค่วันนี้ พรุ่งนี้ หรือมะรืน เราเคยส่งข้อความอันหนึ่งไปให้เขาอ่าน ลองอ่านดูนะคะ

    ดิฉันมีคนพิเศษที่รักและรู้ใจกันมาเป็นเวลาเกือบสิบปี เราทั้งคู่ต่างสนใจศึกษาธรรมะ และทุกครั้งที่พูดคุยก็จะนำข้อธรรมมาถกกันเสมอ ตลอดเวลาเราต่างมอบความรัก ความเอื้ออาทร และความปรารถนาดีให้แก่กันมาโดย ตลอด แต่ปัญหาก็คือ คนที่ดิฉันรักนั้นเขามีครอบครัวอยู่แล้ว




    ดิฉันมีคำถามใคร่ถามท่าน ว. ดังนี้ค่ะ


    1. การกระทำของดิฉันในทางพุทธศาสนาถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดศีลข้อ 3 หรือไม่คะ


    2. ดิฉันควรพยายามหยุดความสัมพันธ์นี้ลงหรือไม่


    3. หากต้องการคงความสัมพันธ์ไว้ต่อไปในฐานะผู้ที่ปรารถนาดีต่อกัน ดิฉันควรจะวางตัวอย่างไรจึงจะถูกต้องตามทำนองคลองธรรมและไม่ผิดศีลข้อ 3


    ดิฉันขอความกรุณาท่าน ว. โปรดอธิบายความหมายของศีลข้อ 3 โดย ละเอียด ว่าการกระทำเช่นไรจึงจะถือว่าผิดศีลข้อ 3 และอะไรคือผลของการผิดศีลข้อ 3 เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องของพุทธศาสนิกชนเช่นตัวดิฉันและเพื่อนมนุษย์ท่านอื่นๆ ที่อาจตกอยู่ในภาวะเดียวกันด้วยค่ะ








    ก่อนที่จะตอบคำถามในข้อ 1 ที่ว่า "การกระทำของดิฉันถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดศีลข้อ 3 หรือไม่คะ" นั้น เราคงต้องมาดูกันก่อนว่า สิ่งที่เรียกว่าศีลข้อ 3 นั้นคืออะไร มีเนื้อหาสาระว่าอย่างไร


    ศีลข้อ 3 นับเป็นหนึ่งใน "ศีล 5" อันเป็นหลักศีลธรรมขั้นพื้นฐานของพุทธศาสนาที่ประกอบด้วยหลักการอันควรปฏิบัติ 5 ข้อ ได้แก่


    (1) ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต


    (2) ไม่ละเมิดกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของผู้อื่น


    (3) ไม่ละเมิดจริยธรรมทางเพศของคนที่มีคู่ครองแล้ว


    (4) ไม่พูดเท็จ (รวมถึงคำหยาบ ส่อเสียด เพ้อเจ้อ)


    (5) ไม่ดื่มสุราเมรัยและเครื่องดื่ม (รวมทั้งยาเสพติด) ที่ก่อให้เกิดความประมาทขาดสติ


    การกระทำที่จะถือว่าผิดศีลข้อ 3 นั้น ท่านวางหลักการไว้กว้างๆ ว่า


    (1) คนที่ไม่ควรละเมิด (แต่งงานแล้ว)


    (2) เจตนาที่คิดจะละเมิด


    (3) การละเมิด (มีความสัมพันธ์)


    (4) กระทำการสำเร็จตามเจตนารมณ์


    ถ้าคุณคบกับใครแล้วกระทำการครบทั้งสี่ข้อนี้ นั่นคือการละเมิดศีลข้อ 3 โดยสมบูรณ์ เมื่อดูเงื่อนไขทั้งสี่ข้อแล้ว คุณก็น่าจะประเมินตัวเองออก บอกตัวเองได้ว่ายังคงมีศีลข้อ 3 สมบูรณ์ดีอยู่หรือไม่


    คำถามที่ว่า "ควรหยุดความสัมพันธ์นี้หรือไม่" ก็ตอบได้ว่า ถ้าความสัมพันธ์นั้นวางไว้ในฐานะของ "กัลยาณมิตร" คือ เป็นแค่เพื่อนคู่คิด มิตรที่ปรึกษาในคราทุกข์ร้อน หรือเป็นแค่คนที่ "คุยถูกคอกันมากที่สุด" คนหนึ่ง โดยไม่มีแผนว่าจะพัฒนาไปเป็นความสัมพันธ์เชิงชู้สาว ก็ไม่น่าจะถือว่าเป็นอันตรายแต่อย่างใด แต่หากคุณเห็นว่า ขืนปล่อยไว้ คงมีโอกาส "ต่อยอด" ไปในทางชู้สาว คุณก็ควรหยุดหรือปล่อยวาง ความสัมพันธ์อย่างนี้ไม่ถือว่าอันตรายมาก แต่ก็ไม่ควรไว้วางใจ เพราะมันเป็นต้นทางที่จะหมุนไปทั้งในทางดีและทางร้ายได้ทุกเมื่อ


    กรณีของคุณนั้นเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจมาก ในโลกนี้มีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ในโลกแห่งความเป็นจริงต้องมีชีวิตอยู่กับใครคนใดคนหนึ่งซึ่งไม่ถูกฝาถูกตัว แต่กว่าจะรู้สึกตัวว่าไม่ใช่คนที่ใฝ่หา ก็ผ่านวันเวลามาด้วยกันหลายปีแล้ว และมีลูกหลานที่ผูกพันกันมาจนเกินกว่าจะเริ่มต้นใหม่กับใครได้ง่ายๆ อีก แต่คนที่ใช่จริงๆ กลับเป็นใครอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่นอกเส้นทางของชีวิตคู่ ทว่าในแง่ของจิตใจ คุณกับเขาต่างก็สมรสกันได้อย่างสนิทสนมกลมกลืน คนอย่างนี้คุณอาจคบได้ คุยได้ แต่ก็ควรกระทำอย่างเปิดเผย แจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเป็นสามีหรือภรรยาของคุณรู้เอาไว้ในฐานะที่เขาเป็น "กัลยาณมิตร" ของคุณ อย่าให้อีกฝ่ายที่เป็นหุ้นส่วนชีวิตคู่ของคุณหรือเขาเกิดความรู้สึกว่าไม่น่าไว้วางใจ มิเช่นนั้นจะกลายเป็น "สัมพันธพลาด"ของคุณกับคนที่เป็นหุ้นส่วนชีวิตของคุณเอง


    คำถามสุดท้ายจึงขอแนะนำสั้นๆ เพียงว่า ควรทำให้ความสัมพันธ์นั้นเป็นไปในทางสูง คือ เปิดเผยให้คู่สมรสของอีกฝ่ายทราบ แล้ววางความสัมพันธ์ไว้ในฐานะ "กัลยาณมิตร" ของกันและกัน รวมทั้งของครอบครัวอีกฝ่าย (เป็นคุณลุง คุณป้าที่น่ารัก เป็นเพื่อนของพ่อของแม่ที่น่าสนิทสนม) ไม่มีการพัฒนาต่อไปในทางโลกิยารมณ์ หรือหากเห็นว่าเปิดเผยไม่ได้ก็คบกันต่อไปได้ แต่ต้องมั่นใจในตัวเองว่าไม่ใช่ในเชิงชู้สาวหรือชู้ทางใจ แต่เป็นได้แค่ "เพื่อนคู่คิด มิตรที่ปรึกษา" เท่านั้น กล่าวอย่างสั้นที่สุด ควรเป็น "กัลยาณมิตร"ของกันและกันแค่นั้น อย่าผูกพันจนเลยเถิดเป็น "หนึ่งมิตรชิดใกล้"แค่นั้นพอ


    ส่วนผลของการผิดศีลข้อ 3 ก็คือ ความเดือดร้อนในชีวิตปัจจุบัน เช่น เดือดร้อนใจที่ต้องคอยรู้สึกผิดอยู่ในใจ เดือดร้อนใจที่ต้องระมัดระวังความสัมพันธ์ที่ผิดปกติ เดือดร้อนใจกลัวว่าหากถูกจับได้ไล่ทัน ชีวิตจะตกอยู่ในห้วงอันตราย เดือดร้อนใจว่าหากถูกจับได้ ภัยอันใหญ่หลวงจะตามมา ทำให้ชีวิตคู่ต้องพังครืน เดือดร้อนใจว่าจะเสื่อมเสียเกียรติคุณชื่อเสียง และหากคู่กิ๊กนำโรคอันตรายมาให้ ก็เดือดร้อนใจว่าจะต้องแบกทั้งโรคและโลกอย่างทุกข์ระทมไปยาวนาน


    ผลในอนาคตกคือ จะไม่มีความสุขกับการครองชีวิตคู่ หรืออาจเป็นไปได้ที่จะมีความเบี่ยงเบนทางเพศ หรือไม่มีความสุขในเชิงกามารมณ์ ต้องทุกข์ระทมด้วยปัญหาทางเพศไม่จบสิ้น [​IMG]








    เรื่อง : ว.วชิรเมธี


    Answer Keys


    นิตยสาร Secret
     
  7. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    เห็นด้วยกับที่คุณ pim_jai กล่าวมาค่ะ ว่าทางที่ดีให้พยายามออกห่างจากพี่สาวภรรยาซะ และหันมาลองใกล้ชิดกับภรรยาตัวเองให้มากขึ้น จะได้ไม่หมกมุ่นกับพี่สาวภรรยามากเกินไป

    กิเลสตัณหาที่เป็นด้านมืดของมนุษย์มันก็มีอยู่ในตัวเราทุกคนแหละค่ะ
    สิ่งที่จะเป็นเครื่องฉุดรั้งไม่ให้เราไหลไปตามอำนาจกิเลสตัณหาจนสร้างความเดือดร้อนกับตนเองและผู้อื่นก็คือ สติสัมปชัญญะ ซึ่งพิจารณาจากที่คุณเล่ามา คุณเองก็มีอยู่แล้ว จึงระลึกได้ถึงผลดีผลเสียที่จะตามมาและได้ยั้งการกระทำของตนเองเอาไว้ได้ แต่ก็ยังเห็นว่าเป็นสภาวะที่ไม่มั่นคง ยังหวั่นไหวอยู่

    ทางที่ดีออกห่างมาเสียดีกว่าค่ะ ถ้าสติยังครองใจไม่มั่นคง หรือกลัวว่าจะยังควบคุมจิตใจตัวเองไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะหากยังอยู่ในสภาวะเดิมๆ อาจเผลอไผลไปได้สักวัน

    ถอยห่างออกมาตั้งหลักก่อนดีกว่าค่ะ โดยวิธีที่ใกล้ชิดกับภรรยาตนเองให้มากขึ้น ชวนกันไปทำกิจกรรมดีๆ อย่างเช่นการปฏิบัติธรรม ถ้าพี่ภรรยาต้องการคำปรึกษาหารือเหมือนที่ผ่านๆ มา ก็ให้น้องสาวเขาเป็นผู้ทำหน้าที่แทนคุณจะดีกว่าค่ะ คุณอาจจะคอยช่วยอยู่ห่างๆ หันเหความสนใจของตัวเองออกมาให้มากที่สุด จนกว่าจะเกิดความมั่นคงในอารมณ์มากขึ้นแล้ว (มีสติมั่นคงขึ้น ไม่หวั่นไหว วูบวาบ ไปตามอารมณ์)
     
  8. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ทำให้ดิฉันได้ประโยชน์ไปด้วยจากคำตอบของเพื่อนสมาชิกทุกท่าน เหมือนเป็นการเตือนสติกันและกันไปในตัว

    อ่านปัญหาของคุณเสร็จ ทำให้ดิฉันนึกถึงเรื่องด้านมืดของมนุษย์ นึกถึงด้านมืดของตัวเอง นึกถึงว่าอะไรทำให้เราเป็นอย่างนั้น และอะไรทำให้เราถอนตนเองออกมาได้ เหมือนได้ทบทวนตัวเองไปในตัว เห็นตัวเราที่เคยเป็น และเห็นในผลของสิ่งที่เราเลือก

    ด้านมืดก็เป็นประโยชน์ในแง่ให้เราเรียนรู้เพื่อจะรู้จักตัวเอง รู้จักความเป็นมนุษย์
     
  9. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    ดิฉันชอบที่คุณติงติงตั้งคำถามให้ลองคิดดูค่ะ...

    หากพี่สาวของภรรยาคุณยอมตามใจคุณ คุณยังจะเห็นคุณค่าในตัวเธอไหม
    ครอบครัวของเธอจะเป็นอย่างไร
    และหากพี่สาวของภรรยาคุณไม่ยอมตามใจคุณ ไปเล่าให้สามีเธอฟัง เล่าให้ภรรยาคุณฟัง อะไรจะเกิดขึ้น

    ปัญหาและความวุ่นวายที่ยังไม่เกิด คงเป็นผลดีของการ "คิดก่อนทำ"
     
  10. maruman

    maruman สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    มาจากความ มักมากในกาม ไม่ใช่ความรัก เลยสักนิด แค่ความอยากมีเพศสัมพันธ์ กับผู้ที่ด้อยกว่าทางการเงินใน สังคม
     
  11. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ท่องเสมอไว้ในใจหรือออกเสียงเมื่อเจอหน้าีพี่สาวภรรยา
    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

    และเป็นกำลังใจให้พ้นบ่วงมารนี้ครับ เพราะถ้าพลาดไปแล้วเรื่องใหญ่ที่ตามมาเยอะครับ
     
  12. siwatcha

    siwatcha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +1,242
    สมาชิกหลาย ๆ ท่านได้ให้ข้อคิด ที่ดีงาม ทุกคำแนะนำ ดียิ่ง บางคำแนะนำอ่านไป ขำไป ด้วยคาดไม่ถึง (เรื่องนำหลอดยาดมบรรจุอุจจาระพี่ภรรยาเอามาดม) เป็นอุบายทางออกให้มนุษย์ที่ยังมึนเมาในตัณหา อุปาทาน ได้อย่างแยบคาย แต่ดิฉันค่อนข้างเห็นด้วยกับท่าน Pim_Jai มากที่สุดคะ!.... เพราะหากยังเห็นกันทุกวี่ ทุกวัน พบปะกันเกือบตลอดแบบนี้ มันล่อแหลม แล้วมารหรือเจ้ากรรมนายเวรอย่างที่ท่านได้กล่าวไว้มันกวักมือตลอด มันมาในรูปแบบยวนใจ ถูก SPEC. สุด ๆ และท่านเองยังไม่เชี่ยวชาญชำนาญพอวาระจิตรยังไม่เข้มแข็งพอโอกาสพ่ายแพ้มีสูง และมันไม่คุ้มเลยจริง ๆ จริงอยู่ ......ใช่คะคุณ ABRAK ศีล ข้อ (3) ท่านยังอยู่ ยังไม่ขาดเพราะการขาดจากศีลข้อ( 3) ทันที 100% คือ 1. มโนทุจริต 2. วจีทุจริต และ 3. กายกรรมทุจริต ณ เวลานี้ คุณ ABRAK ได้ทำให้ศึลข้อ (3) ของท่านนั้น หม่นหมองและด่างไปไม่ขาวสะอาดหมดจดแต่ยังไม่ขาด เพราะเมื่อใดที่ท่าน ได้ล่วงวาจา (เอ่ยคำอันใดจะด้วยสารภาพความในใจออกไปให้พี่ภรรยาได้ทราบว่าท่านรักและปราถนาในตัวเธอ) ก็หวุดหวิดจะศีลขาด รอมร่อแล้ว และเมื่อท่าน ABRAK ได้ล่วงประเวณีในพี่สะใภ้เข้าไปแล้ว ก็เป็น กายกรรมทุจริตรคราวนี้ละครบ 100% จะกลายเป็นคนมีแค่ศีล 4 ข้อ ไม่ครบ 5 และมันต่อเนื่องนะคะ? หากละเมิดศีล ข้อ (3) ทุกท่านเลย จะต้องละเมิดศึล ข้อ (4) ทันทีมันเป็นอัตโนมัติเพราะต้องมีการโกหก หลอกลวง คู่สมรสของตนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทีนี้ละ น่ากลัวมากท่านจะกลายเป็นคนมีศึล ที่รักษาได้แค่ 3 ข้อ นั่นมันไม่ได้! และไม่เพียงพอในการจะเอาตัวรอดพ้นจากอบายภูมินะคะ ขอให้ท่าน ABRAK จงเป็นผู้มีสติรู้ระลึกให้มากนะคะ และข้อแนะนำ จากท่าน Pim_Jai ให้แยกออกไปอยู่กับภรรยาท่านเองนาน ๆ มาพบปะเจอกันฉันท์ญาติสนิทเป็นคราว ๆ ไปก็น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุด เพราะการตัดไฟแต่ต้นลมเช่นนี้ดีที่ีสุดคะ

    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในใจให้มาก ๆ นะคะ
     
  13. ทะเล้น

    ทะเล้น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +208
    - คุณยอมให้เมียคุณไปนอนกับพี่ชายคุณ หรือ ญาติคุณ หรือ คนอื่นๆไหม หรือ ให้มานอนกับผมไหมครับ คุณจะพอใจยินดีไหมหากเมียคุณไปนอนกับชายอื่น หรือ ใครก็ได้ที่ไม่ใช่คุณ

    - หากคุณชอบ คุณพอใจยินดี นั่นก็แสดงว่าคุณไม่สามารถที่จะดูแลเธอได้ ควรเลิกๆกับเธอเสีย เพราะว่ามันจะทำร้ายให้แฟนคุณเจ็บที่สุด แล้วคุณอยากจะไปนอนกับใครก็ตามสบายก็ถือว่าไม่ผิดแล้ว ไม่ต้องมาเครียดหรือหนักใจใดๆ

    - หากคุณไม่ชอบไม่พอใจยินดีที่จะให้เป็นเช่นนั้น คุณก็ควรอดใจไว้ไม่ไปทำอย่างนั้นกับคนอื่น นั่นก็คือ เมียคุณ พี่สาวเมียคุณ และ พี่เขยเมียคุณ หรือ กับใครๆก็ตาม ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก
    - ด้วยเหตุนี้ๆพระพุทธเจ้าจึงบัญญัติศีลข้อ กาเมฯ ขึ้นมา เพื่อไม่ให้เรานั้นไปพึงกระทำอย่างนี้ๆกับใคร ไม่ไปกระทำผิดต่อ ลูกใคร เมียใคร ผัวใคร พ่อใคร แม่ใคร พี่ใคร น้องใคร หลานใคร ปู่ใคร ย่าใคร ตาใคร ยายใคร หลานใคร เหลนใคร แต่หากบุคคลดังกล่าวทั้งหมดนี้สามารถยอมรับได้ให้คุณมีคนอื่นไปนอนกับคนอื่นได้นอกจากภรรยาของคุณ คุณก็มีได้ถือว่าไม่ผิดศีลข้อกาเม เพราะทุกคนยอมรับได้ไม่ไปผิดต่อใครๆแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 เมษายน 2013
  14. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    เขาไม่ได้เข้าเว็บมาปีนึงแล้วนะ
    คงไม่ได้มาอ่านหรอก
     

แชร์หน้านี้

Loading...