ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

เหนียวครับช่วงนี้. ผมก็รู้สึดเหนียวๆแระ.

 

ตาลายค่ะ มองไม่เห็นกระทู้ ต้องsearch หา:d

 

แอบกระซิบ รุ่น สร้างศูนย์ศิลปาชีพวัดช้างให้ ปี 37
ที่วัดคลองเปลยังมีค่ะ.....อีก 1 บาท ครบ 300 ค่ะ

 

น้องนวล.มาทีกระทู้กลับมาเลย.(k)

 

ตอนแรกก็หากระทู้อยู่นานเหมือนกันค่ะพี่...นึกว่า...โดนลบไปหรือเปล่า ก็ยังงงงงอยู่ค่ะ....

เป็นเพราะพี่ล้างใจ ฮาโล่ เทส... เปล่า กระทู้เลยกลับมา...

 

ตื่นขึ้นมาตกใจหมดเลย เมื่อคืนก็ฝันว่าหลวงพ่อทวดที่ห้อยอยู่องค์นี้ แตกสลายเป็นผง

เสียใจมาก ตื่นมากระทู้หายอีก..:'''(





ไม่ใช่เพราะพี่ ฮาโล่ เทส หรอกครับ พี่เห็นกระทู้เพราะคุณน้องนวลนี่แหระ...555

 

เคยเห็นเหมือนกันครับมีอีกพอควร ติดต่อป้าทัยครับ

 

รุ่นสร้างศูนย์ศิลปาชีพวัดช้างให้ ปี 37 ที่วัดช้างให้หมดแล้วครับ (ผมเคยไปมา) ถ้าสนใจ คงต้องหาเช่าตามที่เพื่อนๆ บอกมา

 

ค่ะเมื่อวันที่ไปทำบุญวันสารทเดือนสิบ วันจันทร์ ยังมีอีกค่ะ ติดต่อป้าทัย ตามคุณหมอบอกค่ะ....

 

เวปคงมีปัญหานะคะ กระทู้หายในหลายกระทู้....

พระบูชา หลวงพ่อทวดวัดช้างให้ปี 2545

 

เรื่องจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ค่ะ รับพระหลวงปู่ทวด

แห่ลงนามถวายพระพรสมเด็จพระสังฆราช-พร้อมรับหลวงปู่ทวด

วันอังคารที่ 2 ตุลาคม 2555 เวลา 13:57 น.

<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.featured-img -->ปชช.ฝ่าสายฝนแห่ลงนามถวายพระพร-รับหลวงปู่ทวด สังฆราช 99 พรรษา สำนักเลขาฯแจ้ง ทหาร-ตำรวจ ชายแดนใต้ ส่งชื่อที่อยู่ส่งมาวัด จัดพระส่งไปให้ถึงที่ สร้างขวัญกำลังใจคนทำงาน
<!-- /.content -->ฝ่าสายฝนแห่ถวายพระพร สมเด็จพระสังฆราช
<!-- /.content -->
<!-- /#featured-caption -->เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่วัดบวรนิเวศวิหาร พระครูสังฆสิทธิกร หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า การจัดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เจริญพระชนมายุ 99 พรรษา 3 ตุลาคม 2555 ในวันที่สองนี้ น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาร่วมตักบาตร ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราช
สำหรับในช่วงบ่าย สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ วัดพิชยญาติการาม พร้อมพระเถรานุเถระ และกรรมการมหาเถรสมาคม(มส.)อีกจำนวน 20 รูป รับมหาสังฆทาน ณ ตำหนักคอยท่าปราโมช วัดบวรนิเวศวิหาร ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราชอีกด้วย
พระครูสังฆสิทธิกร กล่าวต่อไปว่า การลงนามถวายพระพรตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชนและหน่วยงานต่างๆมาลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มียอดสรุปผู้ที่ได้รับพระหลวงปู่ทวด ญสส. รุ่นฤาฤทธิ์ ซึ่งเป็นของที่ระลึกที่สมเด็จพระสังฆราช ประทานให้ประชาชนและหน่วยงานต่างๆไปแล้ว ระหว่างวันที่ 1-2 ต.ค. จำนวน 10,000 องค์
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีฝนตกและมีฟ้าคะนองอย่างหนัก แต่ประชาชนก็ยังฝ่าสายฝนยืนรอต่อแถวลงนามถวายพระพรอย่างเนืองแน่น ส่วนทหารและตำรวจที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่ได้รับหลวงปู่ทวด สามารถส่งชื่อ ที่อยู่มายังเลขที่ 248 สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งทางสำนักเลขาฯจะดำเนินการจัดส่งหลวงปู่ทวดองค์ดังกล่าวไปให้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
“กำหนดการบำเพ็ญพระกุศลเนื่องในวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในวันที่ 3 ตุลาคมนี้ นั้น ในช่วงเช้ามีการตักบาตรที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ต่อมาเวลา 10.30 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อัญเชิญดอกไม้พระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ถวายสมเด็จพระสังฆราช ยังพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร
จากนั้นในช่วงบ่าย จะมีพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ ตึก 100 ปี โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรี และในช่วงเย็นที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว คณะสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ถวายเป็นพระราชกุศล จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมถวายพระพร เนื่องในโอกาสมหามงคลครั้งนี้”หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ กล่าว
ด้านนายบุญชัย พสุนนท์ ประชาชนจากเขตหนองแขม กรุงเทพฯ กล่าวว่า ได้มาที่วัดตั้งแต่เช้า เพื่อมาถวายพระพรสมเด็จพระสังฆราช ขอให้พระองค์มีสุขภาพที่แข็งแรง ส่วนตัวจะมาทุกปี ศรัทธาในพระองค์ท่าน และได้นำหลักที่พระองค์ได้สอน โดยเฉพาะเรื่องการทำดีได้ดี มาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต จะทำจิตใจของเรามีความสุข ที่สำคัญทราบว่า พระองค์ได้ประทาน พระหลวงปู่ทวด ญสส. รุ่นฤาฤทธิ์ จึงได้มารอรับตั้งแต่เช้า เพื่อนำไปเก็บไว้บูชาและระลึกถึงความเมตตาที่พระองค์มีให้ประชาชน

อ้างอิง...
แห่ลงนามถวายพระพรสมเด็จพระสังฆราช-พร้อมรับหลวงปู่ทวด | เดลินิวส์

 

อ่านเจอมาค่ะ...

วันพฤหัสบดี ที่ 23 สิงหาคม 2555
Posted by ชบาตานี , ผู้อ่าน : 1113 , 19:00:03 น.


<FORM method=post action=http://www.oknation.net/blog/home/comment.php>

ช่วงนี้ เหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่เกิดขึ้นแทบทุกวี่ทุกวัน​

ทั้ง ยิง ระเบิด เผา!!!


จนเมืองทั้งเมืองแทบจะเป็นแดนมิคสัญญี


ผู้คนต้องอยู่ภายใต้ความหวาดวิตก


จนไม่กล้าออกทำมาหากิน


แต่


หากมัวรักตัวกลัวตาย


มัวหดหัวอยู่ในกระดอง


กลัว...การเดินมุ่งหน้าท้าทายกับความตาย


ชีวิตครอบครัวก็คงไม่แคล้วที่จะต้องอดตาย!!!


อย่างไรเสีย


ชีวิตมันก็ต้องเสี่ยง!!!


เพื่อออกไปทำมาหาเลี้ยงชีพ


แม้บางคนอาจจะโชคร้าย


ออกจากบ้าน




แล้วไม่มีโอกาสกลับมาบ้านพร้อม "ลมหายใจ"


แต่


เพื่อ ปาก และ ท้อง


ที่มันต้องกินต้องใช้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน


ลูกเต้าก็ต้องเรียนหนังสือ


ออกจากบ้านเมื่อไหร่ก็เป็นอันต้องใช้ “เงิน”


ชีวิตมันต้องยอมเสี่ยง


เพราะมันไม่มีอะไรที่จะเสียมากไปกว่านี้อีกแล้ว


ตายเป็นตาย!!!


อย่างกรณีเผาโชว์รูมบริษัทฮอนด้าปัตตานี


รถยนต์ป้ายแดงถูกเผาวอดไปในคืนเดียว 15คัน


ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจาก


ที่ทำงานของชบาตานีมากนัก


หรือพูดง่ายๆว่า อยู่ใกล้กันแค่หายใจรถต้นคอ


หากจะพูดภาษาปักษ์ใต้บ้านเรา


คือ อยู่ใกล้แค่ “หัวหมูก” เข้ามาแล้ว


และเหตุการณ์อื่นๆ อีกอีกหลายเหตุการณ์


(ในขณะที่ชบาตานีเองก็ต้องผ่านเส้นทางดังกล่าว)


แม้ในความรู้จะเกิดความ "ชินชา"


ไม่คิดที่จะกลัว แม้กระทั่ง


“ความตาย”


แต่หัวใจมันก็มีเลือด มีเนื้อ เหมือนทุกๆ คน


บ่อยครั้งเข้ามันก็อดที่จะรู้สึกสลดหดหู่ไม่ได้


ใจให้รำลึกนึกถึง “หลวงปู่ทวด”







พระซึ่งชบาตานีและเหล่าไทยพุทธศรัทธา


และท่องบทสวดมนต์จนจำขึ้นใจ


“นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภัควา”​

​

​

​

​

อ้างอิงจาก.....​

ขอ ... หลวงปู่ทวด...เป็นที่พึ่งทางใจ!!!
http://www.oknation.net/blog/chabatani/2012/08/23/entry-1
</FORM>

 

เรียนประวัติศาสตร์จากของเก่า
ลักษณะเก๊ตาเปล่า ของเนื้อพระรูปหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน 2497

1. ผิวมันเรียบเหมือนพลาสติก เลียนแบบพระเนื้อแก่ดินกากยายักษ์ อาจพยายามทำเป็นคลื่นๆบ้างแต่ก็หยาบๆ ไม่เป็นลักษณะเหมือนผิวเม็ดๆแบบมีมวลสารผสมในเนื้อ
2. มีคราบโปะเหมือนแป้ง เป็นก้อนๆ หรือโรยแป้งแบบมั่วๆ ไม่กลืนเข้าไปในเนื้อพระ หรือเนื้อน้ำว่าน
3. ในทางตรงกันข้าม พระจะมีผิวหยาบกระด้าง แห้งๆ ปนกับคราบแป้ง ที่น่าจะทำเก๊มานาน ตั้งแต่สมัยพระของแท้ เนื้อยังไม่พัฒนามากนัก แค่ระดับแห้งๆ นวลๆ
4. เม็ดแร่ทองน้อยขนาดใหญ่ ที่ดูง่าย โปะอยู่ด้านหลัง โดยช่างที่ไม่น่าจะเคยเห็นของจริง ว่าแร่สีอะไร ขนาดไหน อยู่อย่างไร
5. มีแร่ลักษณะใหม่ๆ หลากชนิด ลอยที่ผิว นี่ก็น่าจะมาจากแนวคิดเดียวกันกับข้อ 4
6. แร่ทองน้อยยังไม่เกิดสนิม ที่คาดว่าเพิ่งทำขึ้นมาใหม่ๆ ยังไม่มีพัฒนาการของเนื้อ และแร่ที่ใช้อาจจะดูภายนอกคล้ายๆกัน แต่เป็นแร่คนละชนิด จึงยังไม่เกิดสนิมเหมือนในพระแท้
7. รอยแร่หลุดไม่มีสีสนิมเหล็ก เป็นหลุมว่างๆ ที่น่าจะเป็น

8. ผิวกร่อน แต่มองไม่เห็นมวลสารสีต่างๆในเนื้อ

นี่คือลักษณะ 8 ประการที่ควรหลีกเลี่ยงในการหยิบพระรูปหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เนื้อว่าน 2497
คิดว่าหลายท่านคงเคยเห็นพระลักษณะทั้ง 8 มาแล้วทั้งนั้นครับ

อ้างอิง...
ลักษณะเก๊ตาเปล่า ของเนื้อพระรูปหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน 2497

 

ส่วนผสมของพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน 2497

จากการสืบค้น และสืบหาข้อมูลการสร้างหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน 2497

ได้พบประเด็นสำคัญว่า

• เป็นพระเนื้อว่าน 108
  • ที่เป็นพืชสมุนไพรหลากชนิด
  • ตามภูมิปัญญาของคนแถวนั้น และ
  • พอหาได้จากป่าธรรมชาติแถวๆนั้น
  • นำมาตากแห้ง หั่น สับ ตำให้ละเอียด
  • นำมาผสมดินสีดำ
    • จากถ้ำของภูเขาศักดิ์สิทธ์ ที่ลำพระยา เมืองยะลา
    • ที่น่าจะเป็นดินเหนียวในถ้ำหินปูน
    • ตามความเชื่อของคนแถวนั้น
    • ที่เกี่ยวข้องกับความศักดิ์สิทธิ์ของถ้ำ และดินในถ้ำ
    • ที่น่าจะเป็นดินที่มีความเหนียว และอมน้ำปูนจากสภาพแวดล้อมรอบถ้ำ
    • เรียกตามตำนานว่า “กากยายักษ์”
    • ผสมน้ำมันตังอิ้ว ตามแบบภูมิปัญญาการสร้างพระเนื้อผง เพื่อลดการปริแตก
    • ผสมข้าวเหนียว
    • เนื้อกล้วยป่า
    • ผสมปูนขาว
    • ทำให้พระรูปหลวงพ่อทวดมีความคงทนมาก
    • ไม่มีการปริแตก ระเบิด หักเปราะ
    • ไม่ถูกแมลงที่เรียกว่า “ตัวกินพระ” กัดกิน

มีข้อมูลว่า พิมพ์กรรมการจะออกสีดำ เพราะใช้ดินกากยายักษ์มาก ที่น่าจะเป็นพระเนื้อละเอียด แน่น

หากเป็นพิมพ์ทั่วไปจะออกสีเทานวล แต่จะพบเห็นมีสีแดงนวลบ้างเข้าใจว่าเป็นเพราะผสมว่านสบู่เลือดลงไปมาก

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่า

• มวลสารที่ส่องจะพบเห็นเม็ดคล้ายอิฐแดงบดละเอียด ที่น่าจะเป็นแร่เหล็กตามหลักของการสร้างพระสมเด็จ ที่นำแนวคิดมาจากพระกำแพงซุ้ม จะนำมาจากไหนนั้น ข้อมูลไม่ชัดเจน อาจจะนำมาจากกำแพงเพชร หรือแหล่งแร่อื่นๆ ก็เป็นได้ แต่ในเชิงพุทธคุณ น่าจะอนุมานว่านำมาจากกำแพงเพชรมากกว่า
• และยังพบว่า มีมวลสารสีขาว ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับพระสมเด็จ ที่มีผู้สันนิษฐานว่าอาจเป็นเศษจากการสร้างพระสมเด็จหลวงปู่ภู หรือพระสมเด็จอื่นๆ หรือเป็นเนื้อปูนเปลือกหอย ที่นับถือกันว่าเป็น “ผงสมเด็จ” ก็เป็นได้
• และยังมีการผสมเม็ดแร่เหล็กสีดำเหลื่อมทอง เรียกว่า ทองน้อย หรือ ภาษาจีนว่า แร่กิมเซียว ที่ตามตำนานว่า คุณอนันต์ คณานุรักษ์ นำมาจากเหมือง ผสมเป็นมวลสาร และในบางองค์เมื่อนำออกจากแม่พิมพ์ก็จะใช้นิ้วกดเม็ดแร่กิมเซียวที่ด้านหลังองค์พระ แต่ไม่พบมากในบรรดาพิมพ์ใหญ่

จากตำนาน ได้ข้อมูลว่า

ชาวบ้านที่อาศัยข้างวัดช้างให้เวลาไปสวนยาง ขากลับจะนำว่านมาถวายวัด โดยการวางไว้ตรงบริเวณลานวัดเพื่อทำการตากแห้ง เช่น

• ว่านสบู่เลือดตัวผู้-ตัวเมีย
• ว่านกลิ้งกลางดง
• ว่านสาวหลง
• ว่านพญาว่าน
• ว่านหม้อข้าว หม้อแกงลิง(มีฝาเปิดปิดดักจับแมลง)
• ว่านหนุมานนั่งแท่น
• ว่านคางคก
• ว่านนางกวัก
• ว่านนกคุ้ม และว่านอื่นอีกมากมาย

นอกจากนี้ ตำนานกล่าวว่า พระอาจารย์ทิม จะเก็บข้าวก้นบาตรไว้ทุกวัน เพื่อที่จะนำไปส่วนผสมในการทำพระเครื่องหลวงพ่อทวด โดยการนำข้าวก้นบาตรไปตากแดดบนหลังคากุฏิ เพื่อกันไก่ เข้าไปกิน

และในพิธีขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 คือวันไหว้ครู ที่จะจัดขึ้นเป็น ประจำของทุกปี

• จะมีการนำข้าวเหนียวที่ปั้นแล้วมาปลุกเสกนั้นเป็นพิธีกรรมโบราณซึ่งมีมานานแล้ว ซึ่งข้าวเหนียวนั้นจะเป็นส่วนผสมในการสร้างหลวงพ่อทวดว่าน 2497ด้วยเช่นกัน จะนำไปตากแดดให้แห้งแล้วนำไปบดผสมกับว่าน 108
• ยังมีผลกล้วยป่าเป็นจำนวนมากเพื่อที่จะนำมาเป็นตัวประสาน
• อีกทั้ง น้ำมันตังอิ้ว และ ปูนขาว

เพื่อให้เนื้อมวลสารต่างๆรวมตัวกันและจับตัวเป็นก้อนแข็งแน่นแบบเดียวกับพระสมัยทวาราวดี และผงสุพรรณ

แต่อาจมีบางองค์ที่ร่วนซุย จากส่วนผสมในแต่ละครกแก่ว่าน ปูนน้อย

จึงทำให้พระหลวงพ่อทวดเนื้อว่านรุ่นแรก เนื้อหาสาระไม่แข็งแกร่ง

บางองค์แก่ดิน บางองค์แก่ว่าน บางองค์แก่ปูน

จากตำนานการสร้างพระเนื้อว่าน แบบตำมือกดมือนั้น แต่ละครกเนื้อจะมีเอกลักษณ์ของตัวเองไปเลย

และในกระบวนการกดในแม่พิมพ์ตัวเมีย เกือบ 100 แม่พิมพ์ ที่ทำจากขี้ครั่งพุทรา ที่มีความเหนียวเป็นยางสีดำแดง โดยใช้แม่พิมพ์ตัวผู้หลักๆ 3 พิมพ์ และมีพิมพ์ย่อยๆอีกหลายพ่อพิมพ์ ที่มีการสร้างไม่มากนัก ที่เมื่อใช้ไปนานๆ จะเกิดรอยปริแยก หรือตำหนิใหม่ๆ ในแต่ละแม่พิมพ์

• ทำให้หลวงพ่อทวดในแม่พิมพ์เดียวกัน ก็อาจมีตำหนิอันเนื่องจากรอยแตกแยกออกมาอีกหลายแบบ ตามอายุของแม่พิมพ์ตัวเมีย
• และจะแตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับส่วนผสม มวลสาร ระยะเวลา น้ำหนักในการตำผสม ระยะเวลาในการกดพิมพ์
• ความแห้ง ความเหนียว ของลูกกระสุน (เมื่อตำผสมเสร็จแล้วจะปั้นเป็นลูกกระสุนกลมๆขนาดพอกดเต็มพิมพ์)
• ปั้นกันเป็นร้อยๆลูกใส่ถาดไว้
• • ลูกที่เอามากดก่อนก็จะเต็มพิมพ์กดง่าย
  • ลูกหลังๆก็จะแห้งและกดยากไม่เต็มพิมพ์
  • ลูกที่ตำไม่ถึงก็จะเหนียวน้อยแตกราน
  • ลูกที่ตำเหลวไปพิมพ์ก็จะบิดเบี้ยวเมื่อเนื้อแห้งแล้ว
  • • ลูกกระสุนที่แห้งนั้นเวลากดพิมพ์ หน้าจะไม่เต็ม หลังจะนูน เพราะกดไม่ลงเต็มพิมพ์ จึงผิดเพี้ยนกันไปในแต่ละองค์ทั้งที่พิมพ์เดียวกัน
    • มวลสารครกเดียวกัน หลวงพ่อทวดเนื้อว่าน ๙๗ ทุกองค์จึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
• กดแล้วก็นำผงแร่ทองน้อยมาแตะไว้ด้านหลัง จนมักเกิดลายมือที่กดแร่ลงไปในเนื้อพระ
• นำไม้ผิวไผ่บ้าง ก้านธูปบ้างมาแคะองค์พระออกจากพิมพ์
• นำพระที่กดแล้วไปผึ่งลมจนแห้ง

อ้างอิง
ส่วนผสมของพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน 2497

 

พระหลวงปู่ทวด​

พุทธคุณพระหลวงปู่ทวด
เด่นดังในเรื่องของเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ประสบการณ์ตรงนี้เกิดจากสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวของ Admin เรื่องนี้เกิดขึ้นมาประมาณสองปีเศษ และทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้ต่างเชื่อว่าเป็นเพราะพุทธคุณพระหลวงปู่ทวดนั่นเอง วันหนึ่งขณะที่พี่ชายของ Admin ไปทำงานที่จังหวัดสระบุรี ขณะที่ขับรถอยู่บนถนน สองข้างทางเป็นเหว ถนน 4 เลน มีเกาะกลางถนน ขณะนั้นมีฝนตกปรอยๆ ลงมาทำให้ถนนเกิดลื่น รถที่พี่ขับอยู่นั้นเกิดเสียหลัก ควบคุมพวงมาลัยไม่ได้เลย เมื่อเบรกกระทันหันจึงทำให้รถเกิดเสียหลัก อีกทั้งรถยังวิ่งมาด้วยความเร็วสูง จึงหมุนคว้างอยู่กลางถนน และขณะนั้นเป็นเวลาพลบค่ำ พี่ของ Admin ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังนับว่าพอมีสติอยู่บ้าง จึงระลึกถึงองค์หลวงปู่ทวด ขอให้ช่วยคุ้มครอง ปรากฏว่าขณะที่รถกำลังลอยหมุนข้ามเกาะกลางอยู่นั้น ก็กลับเบรกและควบคุมพวงมาลัยได้ตามปกติ ในวันนั้นพี่ชายของ Admin ได้สวมสร้อยพระหลวงปู่ทวด และรวมถึงเพื่อนที่นั่งมาด้วยกันก็สวมสร้อยพระหลวงปู่ทวดเช่นกัน​

พระหลวงปู่ทวด

พระหลวงปู่ทวด​

หลังจากเหตุการณ์แคล้วคลาดในครั้งนั้น ก็มีความอัศจรรย์เกิดขึ้นอีก ซึ่งล้วนแล้วแต่เกิดจากความเชื่อที่ว่าพระเครื่องหลวงปู่ทวดที่ตนสวมอยู่นั้นคุ้มครองให้แคล้วคลาดนั่นเอง วันหนึ่งขณะที่พี่ชายได้เดินทางกลับบ้านและได้พบกับญาติผู้ใหญ่ห่างๆ ท่านหนึ่งซึ่งไม่ได้พบปะกันเลยตั้งแต่สมัยเด็กๆ ท่านมีสัมผัสพิเศษสามารถทำนายเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้วในอดีต และเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ท่านพูดกับพี่ชาย Admin ว่า วันนั้นถ้าเอ็งไม่ได้หลวงปู่ทวดช่วยไว้ ป่านนี้เอ็งตายไปแล้ว ไม่สำคัญหรอกว่าพระหลวงปู่ทวดที่เอ็งสวมอยู่นั้นดังแค่ไหน แต่มันขึ้นอยู่กับว่าจิตของเอ็งสามารถสื่อถึงท่านได้และท่านก็คุ้มครองเอ็งอยู่ ทำให้ดี แล้วเอ็งจะแคล้วคลาด และเจริญรุ่งเรือง เรื่องที่ได้เขียนมานี้จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ผู้อ่าน admin เพียงแค่เล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ตรงกับบุคคลในครอบครัวให้ฟังเท่านั้น
คาถาบูชาพระหลวงปู่ทวด
ตั้งนะโม 3 จบนะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (3 จบ)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก www.tumsrivichai.com

อ้างอิงจาก
http://www.tadarab.com/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%94/​

 

<table id="post6786194" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175">naruephan
สมาชิก

วันที่สมัคร: Aug 2012
ข้อความ: 10
Groans: 0
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 6
ได้รับอนุโมทนา 9 ครั้ง ใน 5 โพส
พลังการให้คะแนน: 0


</td> <td class="alt1" id="td_post_6786194" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <ins style="display:inline-table;border:none;height:280px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:336px"><ins id="aswift_0_anchor" style="display:block;border:none;height:280px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:336px"></ins></ins>
สวัสดีครับพี่ๆทุกคนผมเป็นเด็กใหม่ครับส่วนตัวผมห้อยหลวงปูทวดเสมาปี22ครับ เวลาห้อยแล้วไปไหนมาไหนรู้สึกอุ่นใจมากครับ


<fieldset class="fieldset"> <legend>รูปขนาดเล็ก</legend>
</fieldset>
</td></tr></tbody></table>

สวัสดีครับ เป็นอีกรุ่นที่กระแสโลหะสวยงามมากครับ

 

"ขอพระองค์ทรงพระเจริญ" .......



เจลลี่ พระราชทาน เป็นเงินส่วนพระองค์ของในหลวงทำออกมาแจกให้กับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งในช่องปาก
และ ผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤก อัมพาต ผู้ป่วยที่ไม่สามารถกินอาหารได้ต้องให้อาหารทางสายยาง
ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบดเคี้ยว ลิ้นแข็ง เบื่ออาหาร ทำให้ร่างกายผู้ป่วยผอม ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
ลองไปขอรับเจลลี่ พระราชทาน มารับประทานดู
มันจะเหมือนเต้าหู้นิ่มก้อนสี่เหลี่ยม มีรสชานม กับรสมะม่วงกินแทนข้าวมันจะอิ่ม หรือจะกินข้าว แล้วกินเจลลี่ พระราชทาน
คู่กันไปด้วยก็ได้ แต่ถ้ากินข้าวได้ก็ให้กินข้าว แต่ถ้ากินข้าวไม่ได้ก็ให้กินเจลลี่ พระราชทาน 1 มื้อ ต่อ 1 กล่อง

เราก็ไปขอรับมาแล้วที่คณะทันตแพทย์ศาสตร์ จุฬา เราเอามาให้แม่กิน (แม่ไม่ซำบาย) ตอนแรกรู้ข่าวไปขอรับ
นึกว่าจะได้กล่องเล็กๆ หนึ่งกล่อง ที่ไหนได้!! เจ้าหน้าที่หอบมาให้ 2 แพ็ก รสชานม (แพ้นมก็กินได้)
แล้วก็เอารสมะม่วงอีกหนึ่งกล่องมาให้ (ลองชิม) เพราะรสมะม่วงหมด

เราถึงกับร้องโอ้โฮ !!!!! ให้เยอะจัง เจ้าหน้าที่บอกให้มาทานทั้งหมด 6 วันลองดูก่อน ถ้าหมดแล้วมาขอรับใหม่ได้
เราก็เลยถามกลับไปว่า แล้วจะ ขอบริจาคช่วยด้วยจะได้มั๊ย (เกรงใจให้ตั้งเยอะ ใส่ถุงผ้าอย่างดีเลย คิดแล้วคงจะหลายตังค์)

เจ้าหน้าที่บอกว่าที่นี่ไม่มีให้รับบริจาค เพราะเป็นเงินของ ในหลวง

โห !!! เรานี้ตะลึง ตึง ตึง เลย !!! ปลาบปลื้มเอามั่กๆไม่คิดเลยว่าในหลวงจะห่วงประชาชนคนไทย
ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยจริงๆ ไม่มีฟันเคี้ยวอาหารก็ทำรากฟันเทียมให้ใส่ กินอาหารไม่ได้ก็ทำเจลลี่ พระราชทานให้กิน โห !!!
ซาบซึ้งพระองค์ท่านสุดๆ จริงๆ ไม่มีความรักใดยิ่งใหญ่กว่าความรักของในหลวงที่มีให้กับประชาชนคนไทยทุกคนจริงๆ
" ทรงพระเจริญ "

1. โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา 044-235582, 081-955-9002
2. สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรุงเทพฯ 02-3547025-35
3. ศูนย์มหาวชิราลงกรณ ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 02-5461960-6
4. ศูนย์มะเร็งชลบุรี 038-784001-5
5. ศูนย์มะเร็งลพบุรี 036-621800
6. ศูนย์มะเร็งลำปาง 054-335262-8
7. ศูนย์มะเร็งอุดรธานี 042-207375-80
8. ศูนย์มะเร็งอุบลราชธานี 045-285610-5, 045-285637-40
9. ศูนย์มะเร็งสุราษฎร์ธานี 077-211625-8 ต่อ 1006
10. คณะทันตแพทย์ศาสตร์ จุฬา 089-664-4634, 02-218-9027

 

๓ ตุลาคม ๒๕๕๕ วันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
พระชนมายุ ๙๙ พรรษา

ขอน้อมเกล้าถวายพระพร ขอทรงพระเกษมสำราญ
ทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน เสด็จสถิตเป็นบุณยฐานและเป็นประทีปธรรม

 

Test............................ll....

จิตสุดท้ายก่อนที่จะสิ้นใจ มีผลต่อการไปเกิดในภพภูมิ สภาวะจิตสุดท้ายก่อนที่จะสิ้นลมหายใจ นั้นมีผลไหม ?





ตอบ....ปล่อยรู้ คนที่พะวงคอยระวังจิตก่อนตาย เป็นคนประมาทโดยแท้ เพราะประมาทที่จะยอมดูจิตที่เป็นปัจจุบันการไปเกิดในภพภูมิขึ้นอยู่กับวิบากกรรมโดยแท้

- กรรมคือเหตุที่จะนำพาไปยังภพ มีสภาวะเป็นบวกและลบ คือ ดี และ เลว
- ความหนักเบาของกรรมคือความน่าจะเป็นของการนำไปสู่ภพนั้นๆ มีค่าวิ่งตั้งแต่ (0-1) คือแรงมากจนถึงแรงที่สุด

ผลสรุปสุดท้ายทั้งชาติว่ากรรมจะใดส่งผล = กรรมเก่าสะสม + ผลรวมของ (กรรมปัจจุบัน x ความหนักเบาของกรรมปัจจุบันนั้น)

ตัวแปรเสี่ยงคือ กรรมเก่าสะสม ซึ่งไม่มีใครรู้เลยนอกจากอริยบุคคล ว่ามีมากน้อยแค่ไหนดีเลวแค่ไหน จะให้ผลอย่างไรต่อชาตินี้ ดังนั้นการมารอลุ้นกับสภาวะจิตสุดท้ายก่อนตายที่ยังไม่ถึงขั้นอริยะบุรุษ ก็ ค่อนข้างประมาทพอสมควร จริงไหมครับ