พญานาคกับอดีตที่ผ่านมา

น้องฟ้ามุ่ย น้องฝน คุณนุ้ย ท่านชายกิตติยา มีนิทานมาเหลาให้อ่านมั๊ยคร๊าาาา

วันนี้ง่วงแต่เช้าาาาาาา

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะคะ ก่อนหน้านั้นก็มีอย่างนี้เหมือนกัน
แต่ไม่ได้คิดว่าเป็นของอะไร ก็เก็บกวาดทิ้งปกติ

แต่เมื่อวานได้ฟังเรื่องของมิกกี้ แล้วสังเกตตัวเอง
จากอาการร้อนขณะที่นั่งสมาธิ เป็นสภาวะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เรานั่งสมาธิมากกว่า 10 ปีแล้ว ไม่เคยร้อนอย่างนี้ ร้อนมากๆ
และทุึกครั้งที่ร้อน ก็จะกำหนดว่ารู้หนอ ร้อนหนอ แล้วให้ละกาย
ทิ้งกาย บอกกับสิ่งที่ทำให้ร้อนว่า กายนี้ สังขารนี้ไม่ใช่ของเรา
อยากทำอะไรก็ทำ แล้วทุกครั้งก่อนที่จะสัมผัสว่าร้อน
เราจะเริ่มชาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แข็งเป็นท่อนไม้
จะร้อนอยู่ประมาณ 10-15 นาที ก็คืนสู่ความเป็นปกติ
แล้วก็จะมีเสียงของตกที่หน้าแท่นบูชา

 

เมื่อคืนฝันว่า...กำลังจะออกเดินทางไปไหนไม่ทราบ เวลาเกือบเที่ยงแล้ว แต่มี
หลายคนที่ยังมาไม่ถึง เราจึงชวนใครคนหนึ่งออกไปตาม ระว่างทาง...มีใครบาง
คนโยนซากนกที่ตายแล้วลงมาจากฟ้า...ปาใส่เรา...แต่เราก็หลบทัน...เลยไม่โดน

เรายืนมองซากนกเหล่านั้นด้วยความสงสาร (มีหลายตัวเชียว) จากนั้นก็มีพระรูป
หนึ่งเดินทางผ่านมาถึง ทำการสวดส่งวิญญาณ...เราหันมองคนชุดขาวกลุ่มหนึ่ง
(เพิ่งเห็นว่าคณะที่ไปกันใส่ชุดขาว) ทำตัวเสมอพระ (นั่งระดับเดียวกับพระ) เรานึก
ตำหนิพวกเขาอยู่ในใจ...ช่างไม่รู้สิ่งไหนควร สิ่งไหนไม่ควรเอาเสียเลย (การกล่าว
ตำหนิผู้อื่นในฝันก็มิควรหนอ)

คืนก่อนโน้น...ฝันว่าใครบางคนส่งวัวกระทิงดุมาต่อสู้กับเรา (แต่เราก็ไม่โดน
ขวิด) คืนต่อมาฝันว่า...มีคนกลุ่มหนึ่งติดตามไล่ล่าเรา จับเรามัดด้วยเชือก ร้อย
โยงกับอีกหลายคน...แต่ก็มีใครบางคนมาช่วยแกะเชือกปลดปล่อยเราออกจาก
พันธนาการนั้น...คืนต่อมาฝันว่า...มีใครบางคนส่งฝูงแมลงมาให้ ปีกใสๆ ของมัน
กรีดผิวเนื้อเราจนเลือดซิบ (แต่ไม่ยักกะเจ็บ) และคืนนี้...ก็เจอซากนกตายอีก...
เฮ้อ!!...แต่เราก็ไม่ยักกะกลัวหนอ...

เราเล่าเรื่องนี้ให้พี่คนหนึ่งฟัง พี่คนนั้นถามว่า พระรูปนั้น ใช่....มั้ย? เพราะพี่เค้า
นิมิตเห็นเช่นนั้น

เราบอกว่า จำไม่ได้ รู้แต่ว่าขณะที่ท่านสวดสัพเพฯ และคาถาอื่นๆ เราก็ร่วมสวด
มนต์ด้วย โดยนั่งห่างจากท่านมาทางขวาพร้อมกับคนชุดขาวกลุ่มหนึ่ง ในขณะที่
คนชุดขาวอีกกลุ่มกลับนั่งสูงกว่าท่าน (ทำตัวตีเสมอพระ)

 

แหะๆ... ไม่มีเรื่องมาเล่าเลยค่ะ จำอะไรไม่ได้เลยจ้าาา

แต่เมื่อคืนตั้งแต่อยู่กรุงเทพมา เป็นคืนที่แม้พระจันทร์จะไม่เต็มดวงแต่ส่องสว่างมากๆ มีแสงตกมาที่ระเบียง รีบเอาท่านมณีนาคาทั้งหลายไปอาบแสงจันทร์โดยว่องไวค่ะ แถมยังเห็นดาวศุกร์ส่องสว่าง และดาวไถอีก คือ งดงามมากๆค่ะ

ปล. เหมือนเคยอ่านหนังสือว่า ถ้าดาวศุกร์ยิ่งส่องสว่าง เหล่ามารทั้งหลายจะมีอำนาจมากขึ้น ไม่รู้เท็จจริงประการใดจ้า

 

เมื่อคืนใส่เสื้อยืดสีแดงนอนค่ะ ก่อนนอนยังนึกอยู่ว่าคืนนี้ฉานจะปายบาดาลอีกหรือเปล่าหนอ
ตอนที่หยิบมาใส่น่ะไม่ได้คิดอะไรค่ะ เพราะว่าเสื้อนอนตัวอื่นๆ ยังไม่ได้ซัก ปกติจะใส่สีขาว

แล้วก็ฝันเห็นนาคีสาวที่รู้จัก มายืนคุยให้ฟังเรื่องของตระกูลปยานาคตระกูลหนึ่ง
เป็นตระกูลที่ใหญ่มากๆๆๆๆๆ มีลูกหลานเหลนโหลนเยอะมั่กมาก เธอก็คุยไป
เราก็ฟังไป ปกติจะเป็นคนที่เวลาฟังเรื่องราวอะไร ก็จะฟังไปเรื่อยๆ ค่ะ ไม่ได้เก็บ
มาคิดต่อ ทีนี้ เค้าก็เล่าว่าท่านแม่ชื่ออะไร แต่งงานกับท่านพ่อชื่ออะไร ตัวเค้า
ชื่ออะไร มีพี่น้องชื่ออะไรบ้าง มาสะุดุด ตรงชื่อของทุกคนล้วนแล้วแต่ขึ้นต้นด้วยมณี
ก็เลยคุยโต้ตอบไปบ้างว่า อืม...มีแต่มณีนะ เค้าก็บอกว่าใช่ คนน้องชื่อ "มณีมุทิตา"
โห...ชื่อนี้ชอบมากๆ ไพเราะจังเลย
แล้วอีกชื่อก็ไพเราะ มีมณีเหมือนกัน แต่ลืมไปแล้วมัวแต่ท่องจำชื่อ มณีมุทิตาเพราะชอบ

จำได้แค่นี้ค่ะ ขอโตดที

 

ฟังคร่า !!!!เล่ามาโล้ด(f)

 

พี่มิ๊กโดนอีกแล้วหนอ... จะเล่นกันไปอีกนานไหมนิ

ชื่อเพราะจริงๆค่ะพี่นุ๊ก มณีมุทิตา ว่าแต่นางนั้นยังอยู่ภพบาดาลใช่ไหมคะ

 

แต่ตัวรอมา 2 คืนแระ กลัวโดนแซว หวีผมใส่น้ำมันมาซะเรียบกริบ รอเก้ออีกแระ[Embarrass หลงใหลเมืองบาดาลเป็นพิเศษ

 

น่าจะเป็นน้องๆ ที่อยู่กับพี่ค่ะ เพิ่งมาแนะนำตัวกันเมื่อคืน

 

น้องๆ เยอะจริงๆด้วยจ้าาา พี่นุ๊ก อิอิ

 

ไม่ทราบว่ามีใครอยากมาอยู่กะเค๊าบ้างคะ ยกมือขึ้น

 

มันตั้งโปรแกรมไม่ได้น้า..าา
เวลาจะไป เวลาจะมา ก็ไม่เคยคาดการณ์ล่วงหน้าอ่ะ
ใครจูนเจอก่อนก็ไปตรงน้าน..น

เมื่อคืนป้อจายก็ไม่ไปรับเหรอ แย่จังเยย ก็บอกให้ไปรับแล้วนิ
ตะเอง...แต่งตัวสวยเกินไปหรือเปล่า เค้าก็เลยไม่กล้าไปรับอ่ะ

 

เมื่อวานเล่าเรื่องคุรุเทพ พระสรัสวตี ยังไม่จบจ้ะ วันนี้ต่อนะ

[FONT=&quot]ต่อมา ในขณะที่ลัทธิที่บูชาพระนางเป็นเทพสูงสุดยังคงสืบทอดกันอยู่ในภาคเหนือของ อินเดีย การบูชาพระนางในศาสนาฮินดูก็แพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วพระนางก็เลยกลายเป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งในศาสนาพุทธฝ่ายมหายาน ถือเป็นพระโพธิสัตว์เพศหญิงที่สำคัญในลำดับต้นๆ รองจากพระนางปรัชญาปารมิตา และพระนางตาราเลยค่ะ และในทางมหายานนั้นนับถือกันว่าพระนางเป็นศักติของพระโพธิสัตว์มัญชุศรี ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์แห่งสติปัญญาค่ะ[/FONT]

[FONT=&quot]และ คติการบูชาพระนางในทางมหายานนี่แหละค่ะ ที่แพร่ไปถึงญี่ปุ่น จนพระนางกลายเป็นหนึ่งในเทพแห่งโชคลาภ ๗ องค์ของศาสนาชินโต มีพระนามในภาษาญี่ปุ่นว่า เบนเทน ([/FONT][FONT=&quot]Benten) เป็นเทวีผู้อุปถัมภ์พวกเกอิชา ซึ่งเป็นพวกที่ทำมาหากินด้วยวิชานาฏศิลป์การดนตรี การร้องรำทำเพลงเป็นหลักค่ะ[/FONT]

 

[FONT=&quot]นอกจากนั้น การนับถือพระนางก็ปรากฏอยู่ในชวา ซึ่งก็เป็นการนับถือตามหลักมหายานเช่นกัน ในขณะที่อาณาจักรขอมซึ่งเจริญต่อมาก็นับถือพระสรัสวดีทั้งในยุคสมัยที่ นับถือฮินดู และสมัยที่นับถือมหายาน[/FONT]

[FONT=&quot]ส่วนในเมืองไทย มีหลักฐานสมัยอยุธยาซึ่งนับถือพระนางเป็นคุรุเทพในด้านอักษรศาสตร์ โดยในตำราจินดามณีซึ่งเป็นตำราอักษรศาสตร์ของไทยนั้น ตั้งตามพระนามในภาษาทมิฬของพระนางคือ จินดา ([/FONT][FONT=&quot]Chinta) แสดงให้เห็นว่า คติการนับถือพระนางในแง่นี้ ไทยเราน่าจะได้รับมาจากอินเดียใต้[/FONT]

[FONT=&quot]นอกจากนี้ พระสรัสวดีในสมัยอยุธยายังคงเป็นคุรุเทพในด้านดนตรี นาฏศิลป และการละคร โดยยังคงเหลือร่องรอยอยู่ในบทไหว้ครูละครชาตรี ซึ่งสืบทอดมาจากละครสมัยอยุธยาค่ะ [/FONT][FONT=&quot]
[/FONT]

 

[FONT=&quot]ส่วน ในอารยธรรมมอญและพม่า พระสรัสวดีเป็นหนึ่งในคณะเทพนารีผู้รักษาพระไตรปิฎกทั้ง ๔ องค์ และเป็นภาพรวมของเทวีทั้ง ๔ องค์นั้น เรียกว่า [/FONT][FONT=&quot]Thuyathadi [/FONT][FONT=&quot] ค่ะ ถือกันว่าเป็นเทวีผู้อุปถัมภ์การศึกษาพระไตรปิฎกในพม่า และปัจจุบันนี้ก็ยังคงได้รับการบูชาอย่างแพร่หลายในพม่าค่ะ [/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]เทวรูปพระนางในศิลปะพม่าจะเป็นรูปเทพนารีประทับบนหงส์ ถือคัมภีร์ พระนางยังเป็นคุรุเทพในศาสตร์ลี้ลับต่างๆ ของทางไทยใหญ่อีกด้วย [/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]ส่วนในอินเดียทุกวันนี้ พระแม่สรัสวดีเป็นหนึ่งในเทวีที่ได้รับความนิยมสูงสุด ต่อจากพระแม่ลักษมี และพระแม่อุมา ภาพของท่านที่อยู่ร่วมกับพระคเณศ และพระลักษมีนั้นมีให้เห็นทั่วไป ซึ่งคนอินเดียบูชากันเพื่อความสำเร็จ โชคลาภ และสติปัญญา เทวรูปของพระนางก็หาได้ไม่ยากเลยค่ะ [/FONT]

 

น่ากัวจังอะคับ :boo:

 

[FONT=&quot]ในขณะที่ในเนปาลและทิเบตนั้น ก็นิยมบูชาพระนางกันมากจนฝรั่งที่สนใจศิลปะเนปาลนิยมสะสมเทวรูปของท่านกันทั่วไป[/FONT][FONT=&quot] แต่ในเมืองไทย คติการบูชาพระแม่สรัสวดีเริ่มลดลงภายหลังเสียกรุงครั้งที่ ๒ แต่ยังมีการบูชาพระนางเป็นการภายในอยู่ในราชสำนัก ดังที่มีเทวรูปท่านประดิษฐานอยู่ที่หอพระสยามเทวาธิราชจนทุกวันนี้ค่ะ [/FONT]

[FONT=&quot]ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๕ สมเด็จพระวันรัตน (แดง) เกิดนิมิตจากการภาวนาคาถาสุนทรีวาณี เป็นเทพธิดาผู้รักษาพระไตรปิฎก หรือพระแม่องค์ธรรม นิยมเรียกกันทั่วไปว่า พระสุนทรีวาณี ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในสมัยนั้นอธิบายว่าเป็นเทวีองค์เดียวกับพระสรัสวดี ก็นับว่าอีกภาคหนึ่งของท่านได้มาเป็นเทพผู้รักษาพระไตรปิฎกในคติเถรวาทของ ไทยเราด้วย เช่นเดียวกับของมอญ พม่าค่ะ [/FONT][FONT=&quot]^ ^[/FONT]

 

แหมบศรี, 9999nui, fahmui, mukmik+, nouk, dirtygirl, hastin, AO_N2001, Thidanakin, รวัสสรร

สวัสดีตอนเช้าค่ะทุกๆคนอ่านเรื่องเล่าของมิกกี้กับคุณนุ๊กแล้วก็
อืมม์.......ระวังตัวกันด้วยนะคะ
เมื่อคืนนี้ฝันถึงคนสี่คนในกระทู้ด้วยค่ะแต่จำได้แค่นิดเดียวเองค่ะ
ฝันเหมือนได้อ่านข้อความที่โพสต์ในกระทู้โพสต์ของพี่รั้งกับมิกกี้ขึ้นก่อน
ตามด้วยโพสต์ของคุณนุ๊กแต่จำได้แต่โพสต์ของคุณนุ๊กค่ะ
เขียนว่า ถ้าคุณคุรุวาโร....ต้องมาชี้แนะสมุนาคนแรกแน่ๆเยยยยยยย

(ฝันครั้งนี้คุณนุ๊กไม่ดุแล้วน๊าาาา 55555)

 

[FONT=&quot]แต่หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ทรงยกย่องพระพิฆเนศขึ้นเป็นเทพแห่ง ศิลปะแทน ทำให้คติการบูชาพระสรัสวดีในฐานะคุรุเทพฝ่ายอักษรศาสตร์และศิลปะดนตรี นาฏศิลปต่างๆ เหลือร่องรอยอยู่เพียงเป็นเทพที่ชาวอักษรศาสตร์จุฬาฯ นับถือกันอยู่บ้างเท่านั้น และก็เป็นเทพประจำโรงเรียนสตรีในต่างจังหวัดบางโรงเรียนค่ะ อ้อ...เป็นรางวัลพระสรัสวดีหรือตุ๊กตาทอง ที่มอบให้คนในวงการบันเทิงด้วย

จบแล้วคร้า....เรื่องของคุรุเทพสรัสวตี แต่ยังมีคุรุเทพองค์อื่นๆ อีก
[/FONT]

 

ตัวจริงก็ไม่ดุคร้า..าา แค่สร้างภาพจนติดตาประชาชน