ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

กราบหลวงปู่ของลูกหลานด้วยความเคารพ
อรุณสวัสดิ์เช้าวันสุขครับพี่น้อง
ระวังฟ้าระวังฝนไว้แหน่เด้อครับผม

 

อรุณสวัสดิ์ครับทุกๆท่าน............มาไม่ทันท่านมหา....

 

​

หลวงพ่อทวดหลังหนังสือใหญ่ รุ่นแรก เนื้อทองแดงโบราณ กฐิน 55
เปิดโชค เปิดลาภ เปิดมหาบารมี
หน้า พ หลังสายฝน ผิวปรอทคลุม ตอกโค๊ดกรรมการ ​

พ่อท่านพรหม วัดพลานุภาพ จ.ปัตตานี ​

หลวงพ่อทวด (รุ่นแรก) พ่อท่านพรหม รุ่นกฐิน ๒๕๕๕ กำลังมาแรง สุดๆ​

เพื่อนสมาชิก ที่ปรารถนา อัญเชิญไว้เป็นเจ้าของ​

PM แจ้ง​

๑. ชื่อ-สกุล-Usename (ที่ใช้ในกระทู้)
๒. แจ้ง สถานทีจัดส่งพระมาให้ พร้อมเบอร์โทร
๓. แจ้ง (ทายเลข) ๓ ตัว ที่เพื่อนๆ คิดว่า น่าจะใช่เลขสามตัวองค์จริง ที่จะแจก​

องค์พระ พิมพ์กรรมการ ใหญ่ สวยมาก​

เริ่มวันนี้ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๕ หมดสิทธิ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๕​

ราคาในเว็บพระบางแห่ง เริ่มเข้าสู่ หลักพันแล้ว ขอรับ​

King Cobra​

​

 

กราบหลวงปู่ทวด
และสวัสดีกับพี่ๆ ทุกคน

 

กราบหลวงปู่ทวดครับ
คุณนวลช่างหาคำสอนของหลวงพ่อมาให้อ่านกันดีจังชออนุโมทนาครับ

 

เริ่มสว่างนิดๆแล้วจ้า.

 

งั้นผมสลัว สลัว แล้วกัน 555

สวัสดีครับพี่พี่ เพื่อนๆ ทุกท่าน

กราบหลวงปู่ทวดยามเที่ยงครับ

 

ขอบคุณครับ สำหรับคำสอนครูบาอาจาร์ยที่เป็นสัจธรรมความจริง


อันนี้ เรียบง่าย แต่แฝงด้วยคติธรรมมากมาย ชอบ ( จำง่ายด้วย555 )

ถ้าคิดดีก็เป็นทางเย็น ถ้าคิดเป็นก็เย็นสบาย

 

​

 

สวัสดียามเย็นค่ะ

เมื่อวานแวะไปรับน้องที่โรงเรียนช่วงเที่ยง.....
พอเดินกลับมาที่รถ (มอเตอร์ไซด์คันงาม ปรากฎว่า นกมายอดผู้กองที่เบาะรถ).....
ช่างบินหาที่หย่อนนะเจ้านกตัวนี่....

จากนั้นกลับเข้าไปทำงานค่ะ ที่จอดรถก็แสนหายาก ใครทันก็ได้จอด....ที่ร่ม
ตอนแรกจะจอดรถที่เคยจอดประจำ แต่ไม่รู้นึกยังไงค่ะ ลองขับเข้าไปข้างใน เพราะที่จอดรถ
ด้านในมีหลังคากันแดด กันฝน (ฝนทำท่าจะตกด้วย) พอรถเลี้ยว สังเกตเห็นอะไรตกที่พื้นค่ะ....แวววับสีทอง หยิบขึ้นมาดูเป็นแหวนพระค่ะ.....
ลุ้นว่าน่าจะทำด้วยทองคำด้วย......อยากตามหาเจ้าของค่ะ ....เพราะไม่ใช่ของเรา
เจ้าของคงเสียดายเป็นแน่... คงจะหากันวุ่นแล้ว..
วันนี้ก็ไม่เห็นมีใครมาถามหาแหวนพระวงนี้เลย.....

 

เรื่องเล่าจากเวป....

ใครมีประสบการณ์เรื่องแขวนพระแล้วแคล้วคลาดปลอดภัยบ้างครับเล่าเหตุการณ์แบ่งปันประสบการณ์กันครับ...



payan

• 
• 
• กระทู้: 500
• เพศ:

ผมมีเรื่องนึงครับ รถความร้อนขึ้นแล้วแวะจอดในปั้มด้วยความใจร้อนไม่ได้รอให้ความร้อนของเครื่องยนต์ลดลงก่อน หากระดาษ A4ได้ 5-6 แผ่น รองฝาหม้อน้ำแล้วเปิดฝา และแล้วสิ่งที่น่ากลัวก็บังเกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึง น้ำร้อนๆจากหม้อน้ำพุ่งออกมาอัดเข้าที่ใบหน้าและแขนอย่างแรง น้ำพุ่งสูงจากรถ 3 เมตรกว่าๆ ร้อนวูบวาบไปทั้งหน้าและแขน ในใจคิดว่า"หน้าเละเสียโฉมแน่ๆเลย" เมื่อน้ำพุ่งออกจนหมดปรากฏว่าหน้าไม่เป็นไรเลยครับแค่ร้อนวูบวาบแล้วก็หายไป ที่แขนก็มีอาการร้อนวูบวาบ หลังจากเกิดเหตุ 2 วัน หนังที่แขนก็ลอกออกแบบ บางๆเหมือนตอนไปตากแดดนานๆแล้วหนังลอกแค่นั้นเอง ส่วนที่หน้าไม่เป็นอะไรเลยครับ วันนั้นแขวนพระไป 3 องค์ กับตระกุด 1 ดอกครับ รอดมาได้ครั้งนี้เลยยกความดีให้กับพระกับตะกรุดที่ห้อยครับ
...........................................................



udomkd

• บานไม่รู้โรย
• 
• กระทู้: 1,732

Re: ใครมีประสบการณ์เรื่องแขวนพระแล้วแคล้วคลาดปลอดภัยบ้าง ?

« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 06, 2009, 09:30:44 »



แขวนพระ อะไรก็ได้

ขอให้ใจนับถือด้วย น๊ะครับ เคารพ ระลึกถึงท่าน ทำความดี เฉกเช่นท่านทำ ละเว้นความไม่ดี ผมว่าพระท่านคุ้มครองเราครับ

ประสบการณ์ของผม (หากไม่เชื่อถือ คิดเสียว่า มันเป็นเหตุบังเอิญ ครับ)

เรื่องมีอยู่ว่า ไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน ไปลืมพระใว้ที่เชียงใหม่ เขาเก็บใว้ให้ ไม่หาย

เส้นทางจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอน กี่ร้อยพันโค้ง ไม่นับแหละครับ ใครที่เคยไป ก็ทราบดี ใครที่ไม่เคยไป ก็บอกให้ทราบว่า ใครขับรถเส้นนี้ผ่านตลอด (จากเชียงใหม่ ไปแม่ฮ่องสอน วนเป็นวงกลม แล้วกลับมาเชียงใหม่ ก็ให้มั่นใจเลยว่า ท่านมีความสามารถ ขับรถท่องเที่ยวได้ทั่วประเทศไทย อย่างสบายใจ ละครับ คงไม่มีเส้นทางใหน (ออนโร๊ด) ในเมืองไทย ที่มันจะสุดแสน สนุกสนาน แบบเส้นทางนี้แล้ว อิๆ)

ออกจากเชียงใหม่ ไปนอนคืนแรกที่ห้วยน้ำดังครับ ระหว่างทางก็แวะเที่ยวไปเรื่อยๆ เหตุเกิด ที่ห้วยน้ำดังแหละครับ พอผมขับรถเข้าไปจอด สักพักหนึ่ง ยางรถผมรั่วครับ) อิๆ ไม่อยากคิดเลยว่า หากมันรั่วในระหว่างทาง ที่มันขึ้นลง ป่ายซ้าย ป่ายขวาอยู่นั้น คงไม่สนุก แน่นอน

วันนั้น ไม่มีพระแขวนอยู่ครับ เพราะลืมใว้ที่เชียงใหม่ ออกไปไกลแล้ว เขาโทรตามมาบอกว่า ลืมพระใว้ที่โรงแรม จะกลับหลังมาก็เสียเวลามาก แต่มันสบายใจอย่างว่า ไม่หายแน่ เพราะเขาแจ้งมาแล้วว่า จะเก็บใว้ให้ ก็ภารนา คิดถึงองค์ท่าน วันนั้น มีติดคออยู่ สามองค์ ให้เพื่อนที่เชียงใหม่ไปองค์ เหลือสอง

สามองค์ ที่แขวนไป มีหลวงพ่อดำ วัดที่บ้านหัวหมอน นาโหนด พัทลุง หลวงพ่อคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดจันดี นคร หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี


อ้างอิง
http://www.bladereview.com/forums/index.php?topic=9932.0

 

อ่านเจอมา นำมาให้อ่านค่ะ...


<TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=3 width="100%" align=center height=30><TBODY><TR vAlign=top><TD>ลูกขอร่วมโมทนาสาธุกับบุญบารมีของหลวงพ่อทวด

เหยียบน้ำทะเลจืด​

ลูกได้เพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจ ในสติปัญญาของหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด อย่างรอบด้านมากขึ้น ยิ่งกว่าที่เคยได้รับทราบมาในอดีต เพิ่มพูนศรัทธา และความรักและเคารพลูกต่อองค์หลวงพ่อทวดฯ​

ลูกขออาราธนาหลวงพ่อทวดฯได้โปรดโมทนาบุญบารมีของลูกทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ที่ลูกได้ขอพระบารมีของแสงทิพย์นิพพานของพระบรมธรรมบิดา ฝากบุญเอาไว้กับเครือข่าย แสงทิพย์นิพพานของพระบรมธรรมบิดาทุกๆแห่ง เป็นต้นที่ แสงทิพย์อริยธรรมของพระบรมธรรมบิดา พระฉัพพรรณรังสีรัศมี 6 ประการของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เครือข่ายบายศรีธรรมจักรของพระบรมธรรมบิดาอีก 130 แห่ง เครือข่ายศูนย์ถ่ายทอดแสงทิพย์อริยธรรม กายสสารของลูกๆพระบรมธรรมบิดาอีก 700 กว่าแห่ง​

ขอให้บุญบารมีของลูกที่ฝากสต๊อคเอาไว้ในเครือข่ายข้างต้น ได้มีส่วนช่วยเติมพลังงานทดแทน ร่วมในภารกิจนานัปการของหลวงพ่อทวดฯตลอดไปด้วยเถิด ลูกขอร่วมโมทนาบุญบารมีกับหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดนับแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ตลอดไป ตราบจากลาหลวงพ่อทวดฯกลับสู่บ้านเดิมด้วยเทอญ​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE> ​

<TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=3 width="100%" align=center height=30><TBODY><TR vAlign=top><TD>คราวนี้เป็นคำขอของพระภิกษุบ้าง

ครั้งที่ ๓ มีพระอธิการยิ้ม หลวงพ่อแดง พระภิกษุกาว สำนักวัดแป้น อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ได้พากันไปวัดช้างให้ เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๔๙๕ และพักอยู่ที่วัดหนึ่งคืน รุ่งขึ้นวันที่ ๓ เวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น. พระภิกษุทั้ง ๓ รูป ได้มาขอพบข้าพเจ้าที่บ้าน แล้วเล่าให้ฟังว่าหลวงพ่อแดงนั้นเคยทราบจากข้าพเจ้าว่า หลวงพ่อทวดวัดช้างให้ ได้กระทำการยึดรถไฟมาแล้วถึง ๒ ครั้ง เหตุนี้พอตอนเช้าหลวงพ่อแดง จึงเดินออกไปยืนอยู่ข้างสถูปรถไฟเช้า ยะลา-หาดใหญ่ แล้วกล่าวคำปรารภขึ้นว่าเขาลือกันมานักว่า หลวงพ่อทวดฯ มีอภินิหารศักดิ์สิทธิ์มากเคยยึดขบวนรถไฟมาแล้วถึง ๒ ครั้ง ​

ลูกหลานมาจากที่ไกลใคร่จะขอชมสักครั้ง ชั่วครู่ขบวนรถไฟเมื่อมาถึงหน้าวัดแล้วก็ต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่เฉยๆ จะทำอย่างไรก็ไม่สามารถเคลื่อนที่ไปได้ แต่ล้อรถจักรก็คงหมุนรอบๆ อยู่บนรางอย่างคราวก่อนๆ แสดงให้เห็นว่าน่าจะมีอะไรยึดอยู่ข้างหลังขบวนรถ หลวงพ่อแดงว่า ท่านเห็นเป็นที่ประจักษ์และตื่นเต้นจนขนลุก จึงกล่าวขึ้นว่า ลูกหลานได้ชมแล้ว ขอให้ปล่อยไปเถิด ขบวนรถไฟจึงได้เคลื่อนเป็นปกติ ครั้งนี้รถไฟติดอยู่กับที่ประมาณ ๘-๙ นาที

(ในความเป็นจริงการจะหยุดขบวนรถไฟซึ่ง มีแรงโมเม้นตัมจากการวิ่งมาด้วยความเร็วนั้น จะต้องใช้พลังแรงต้านไม่น้อยทีเดียว ซึ่งหากผู้ที่บันดาลให้เกิดขึ้นไม่มีอำนาจพลังงานมากพอ หรือมีพลังงานสำรองไม่เพียงพอ ย่อมจะทำไม่ได้ในครั้งต่อๆมา...
​

ส่วนคุณประโยชน์ที่เกิดขึ้น ผู้ที่มีปัญญาได้ประสบพบเห็น ย่อมจะได้พบขุมทรัพย์ อันเป็นที่พึ่งพาได้จริง เป็นโอกาสดีอย่างยิ่ง ต่อการขอพึ่งพาขอรับการสงเคราะห์จากหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ในเรื่องต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตทั้งทางโลกและทางธรรม)​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD align=right>By n_data 2010-03-18 14:54:23 [IP : 125.24.204.xxx] </TD></TR></TBODY></TABLE>​

<TABLE style="WIDTH: 650px; HEIGHT: 388px" border=0 cellSpacing=3 cellPadding=3 width=650 align=center height=388><TBODY><TR vAlign=top><TD>หลวงพ่อทวดยึดขบวนรถไฟตามคำขอของเด็กๆ เพื่อสนองแรงศรัทธาของเยาวชน

ครั้งที่ ๒ ต่อจากขบวนรถไฟญี่ปุ่นถูกหลวงพ่อทวดฯ ยึด ครั้งที่ ๑ ประมาณเดือนเศษ วันหนึ่งเวลาเช้า มีพวกเด็กๆ เล่นอยู่หน้าวัดและใกล้ๆ กับสถูปนั้น ได้พูดเล่ากันถึงหลวงพ่อทวดฯ ยึดขบวนรถไฟคราวแรก มีเด็กคนหนึ่งพูดท้ากันว่า วันนี้หลวงพ่อทวดฯ ยึดรถไฟหรือไม่ยึด อีกฝ่ายหนึ่งว่าไม่ยึด ​

ฝ่ายที่ว่ายึดก็ได้เก็บเอาก้นเทียน และธูปที่เหลืออยู่หน้าสถูปจุดไฟขึ้นบูชา และอาราธนาขอให้หลวงพ่อทวดฯ ยึดขบวนรถไฟซึ่งกำลังวิ่งมา วันนั้นเวลาเช้า มีขบวนรถไฟเช้าระหว่างยะลาหาดใหญ่ พอหัวรถจักรเคียงขนานกับสถูปศักดิ์สิทธิ์ ก็หยุดนิ่งอยู่จะเคลื่อนที่ต่อไปก็ไม่ได้อย่างครั้งแรก ​

รถทั้งขบวนติดอยู่ ประมาณ ๓๐ นาที จึงเคลื่อนที่ไปได้ตามปกติ​

(เด็กๆพวกนี้โชคดี ที่ได้เข้าใกล้หลวงพ่อทวด และจะจดจำไปตลอดชีวิตในประสบการณ์ที่ตนได้รับ เป็นที่ประจักษ์ จากการอธิษฐานขอของตนเองกับหลวงพ่อทวด)

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD align=right>By e_news 2010-03-18 14:41:58 [IP : 125.24.204.xxx] </TD></TR></TBODY></TABLE>​

อ้างอิง
http://www.ainews1.com/modules.php?name=Web_Board&file=view&No=232

 

กราบหลวงปู่ทวด ด้วยจิตและใจ
แม้รู้ว่าความตายนั้นเกิดได้ทุกเมื่อทุกเวลาแต่ชีวิตเราต้้ิิ้่่่องดำเนินต่อไป แต่ต้องทรงไว้ซึ่งความไม่ประมาท
ไม่มีใครรู้ว่าพรุ่งนี้มีอะไรรออยู่แต่ทุกชีวิตต้องเดินหน้า
อยู่ด้วยความหวัง เพราะทุกชีวิตต้องมีความหวังครับ
หลังพ้นความมืดมิด ความสว่างสดใสรอเราอยู่

 

เรื่องเล่าค่ะ....

36 ชั่วโมงที่ผจญอาถรรพ์ที่ป่าเขาใหญ่ และเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องต่อสู้กับจิตวิญญาณสายพรายร้ายแบบเต็มๆ

วันศุกร์ที่ 01 มิถุนายน 2012 เวลา 03:38 น. | เขียนโดย Administrator


ทรงชัย เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ในย่านประชาชื่น กล่าวผ่านนักข่าวบ้านมนตราว่าผมมีเรื่องที่จะเล่าอาจจะเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่พุดจาอะไรที่ไม่ค่อยระวังปากที่บางครั้งพลั้งเผลอไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ตั้งใจ อาจเป็นเพราะว่าความมึนเมา ความสนุกสนานในชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่ทำให้เกือบทำให้ต้องเสียชีวิต

เมื่อปลายปี 2552 ผมกับเพื่อนๆที่คณะบริหารฯ ประมาณ 10 กว่าคน ได้ไปเที่ยวที่ เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และได้ไปกางเต๊นท์ที่บริเวณผากล้วยไม้ ตกเย็นเราได้ตั้งแค้มป์เล็กๆ และรับประทานอาหารกันมีเบียร์และไวน์ ดื่มกันอย่างสนุกสนาน ช่วงกลางดึก ป๋อง เพื่อนในกลุ่มดันเล่าเรื่องผี โดยป๋องเล่าว่าที่บ้านพี่สาว และพี่เขต ชอบเลี้ยงจิตวิญาณ เรียกว่าใครมีอะไรที่ว่าแรงเขามีหมด บ้านพี่สาวเปิดเป็นร้านเสริมสวย ตกกลางคืนคนเดินผ่านไปมักจะเห็นเด็ก และหญิงสาว คนแก่ยืนกันเต็มร้านไปหมด จนไม่มีใครกล้าเดินผ่าน ผมมันประเภทปากไม่ค่อยดี เลยเบรคไอ้ป๋องไปว่า เฮ้ยอย่าเอาเรื่องโกหกมาเล่าให้ฟัง มันไม่ตลกหรอก สมัยนี้มันยุคอะไรควรจะรู้บ้างถ้ามีเจอกันหน่อย มากินเหล้าด้วยกัน ผมพูดพร้อมทำท่าทางประกอบผสมความมึนเมา ผมพูดอะไรอีกบ้างผมจำไม่ได้ พอตอนดึกต่างคนต่างแยกย้ายกันไปนอน เต็นท์ละ 3-4 คน ซึ่งผมนอนกับ ต้นและเต้น ซึ่งต้นจะเป็นคนธรรมะธัมโม กลุ่มเพื่อนๆมักจะเรียกว่ามหา กลางดึกคืนนั้นเองน่าจะประมาณตี 2 -ตี 3 ผมนอนไม่หลับรู้สึกว่าเหมือนมีคนมาเดินรอบๆเต็นท์ของผม ผมโผล่ไปมองก็ไม่มีใคร จนผมต้องข่มใจนอนหลับ ก่อนจะหลับผมเห็นชายชราคนหนึ่งโผล่มาครึ่งตัว พร้อมเอามือมาชี้หน้าผม ผมตกใจมาก แต่ผมหารู้ไม่สิ่งที่ผมเห็น หรือผมได้ยิน ต้นก็เห็นด้วย พอผมร้องภาพที่เห็นก็หายไปพร้อมกับต้นเอามือมาจับที่แขนบอกว่านอนเถอะเขาไปแล้วไม่มีอะไรหรอก สักครู่ต้นคงเห็นผมนอนกระสับกระส่าย ต้นส่งสร้อยคอมาให้ผมแล้วบอกว่าสวมซะจะทำให้จิตใจดีขึ้น ผมรับมาแล้วรีบสวมลงคอ แค่สวมผมรู้สึกว่าอบอุ่นใจอย่างน่าประหลาดผมามต้นว่าพระอะไร ต้นบอกว่าหลวงปู่ทวดรุ่น 1 หลังเต่ามหาโภคทรัพย์ และพญาเขี้ยวเสือเศียรพญานาคของ อาารย์เล็ก รู้ด้วยญาณ ผมถามว่ามาให้ผมแล้วต้นมีอะไร ต้นบอกว่าผมมีพญาเขี้ยวเสือเศียรพญานาคสุริยัน-จันทรา และเหล็กไหล 7 สี จากนั้นผมสามารถหลับได้ถึงเช้าโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตอนเช้าผมถอดสร้อยคืนต้นแต่ต้นไม่รับ เหมือนกับต้นคงรับรู้อะไรบางอย่างได้ แต่ไม่สามารถบอกผมได้ ต้นบอกว่าจะรับคืนต่อเมื่อถึงกรุ่งเทพแล้ว ตอนสายเราออกเดินเที่ยวน้ำตกเหวนรก ต้นส่งเป้อันหนึ่งให้ผม ผม รับเป้แบบงงๆ แล้วถามว่าอะไร ต้นบอกว่ามี ผ้ามีอาหารและน้ำ ไฟฉาย ยากันยุง ผมงงจะเอาไปทำไม ประเดี๋ยวพวกเราก็กลับ และผมได้ห่อข้าวกับน้ำ1 ขวดผมมีแล้ว แต่ไม่ให้ขัดใจเพื่อนผมจึงแบกเป้ขึ้นบ่า แล้วเดินลงไปเที่ยวน้ำตก แต่น่าแปลกมากครับ แรกสนุกจนพวกเราเดินถึงน้าตกข้างล่าง และรับประทานข้าวห่อกันปรากฏว่าผมเห็นนักท่องเที่ยวคนหนึ่งสวยมาก เขาทำท่าเดินไปเหมือนกับหลงกลุ่มกับเพื่อนๆ เดินหลงเข้าไปในป่า อารามที่เราไม่นึกอะไร ผมรีบวิ่งตามไป ปรากฏว่าไม่ทันสักที ผมวิ่งไปสัก 10 นาที ชัดเริ่มเอะใจ ว่าผมก็หลงจากกลุ่มเพื่อนๆด้วยเช่นกัน จนผมวิ่งมาทันนักท่องเที่ยวคนนี้ผมจึงถามว่าคุณมาทำอะไร ปรากฏว่านักท่องเที่ยวคนนี้ได้สติ (มารู้ที่หลังว่าถูกผีสิงให้มากระโดดน้ำตาย) จากนั้นเราหาทางกลับกัน จนเวลาผ่านไป 3 ชม เราก็ยังหาทางกลับกันไม่ได้ ประกอบกับสภาพป่ามองซ้ายขวา หน้า หลัง มีแต่ต้นไม้ ทำให้เราเริ่มเหนื่อยและท้อแท้กลับชีวิตของเรามากไหนจะต้องกลัวสัตว์ร้าย อาวุธสักชิ้นก็ไม่มี ตกเย้นความมืดเริ่มเข้ามครอบงำ ความหิวเข้ามาผมนึกถึงเป้บนหลังผมได้ เลยเปิดออกมา มีมาม่า ขนมปัง นมกล่อง ผ้าพสาสติก มีดแมกไดเวอร์ ไฟฉาย เทียน ไม้ขีด น้ำอีก 2-3 ขวด เหมือนกับว่าป๋องจะรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า กลางคืนปรากฏว่ามีผีร้ายจะพยายามมาเอาน้องนักท่องเที่ยวมาเป้นตัวตายตัวแทนให้ได้ ผมไม่รู้จะทำอย่างไรนึกถึงองค์หลวงปู่ทวดกับพญาเขี้ยวเสือเศียรพญานาคให้ช่วย และผมได้แบ่งหลวงปู่ทวดรุ่น 1 หลังเต่าให้น้องไปติดตัว ส่วนผมมีพญาเขี้ยวเสือแล้ว คืนทั้งคืนปีศาจร้ายเรียกจะแทบทั่งป่าต่างวนเวียนมาหลอกหลอนผมกับน้องนักท่องเที่ยวคนนี้จนแทบเอาชีวิตไม่รอดแต่น่าแปลกไม่มีปีศาจตัวใดที่เข้าใกล้ได้เลย จนกระทั้งสุดท้ายน้องนักเที่ยวอธิฐานจิตยกหลวงปู่ทวดูไปด้านหน้าเหมือนปราฏิหารย์ปรากฏแสงสีทองส่งไปโดนปีศาจที่ติดตามน้องเขาแต่แรกส่งเสียงร้องดังและหายไป ส่วนผีที่เหลือผมอธิฐานต่อพญาเขี้ยวเสือเศียรพญานาค ปรากฏว่าผมได้ยินเสียงเสือตัวใหญ่คำราม และเสียงของงูตัวใหญ่มากเลื้อยไปมาจนผีปีสาจกระเจิง เหตุการณืเข้าสุ่สภาวะปรกติ จนแสงทองจับท้องฟ้า จนชาวผมเดินไปตามแม่น้ำจนตกเย็นผมได้พบชาวบ้านจึงขอความช่วยเหลือและออกจากป่ามาได้อย่างสวัสดิภาพ
ที่เล่ามาผมอยากบอกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิืมีจริง วัตถุมงคลหากถึงคราวคับขันสามารถช่วยได้จริงๆ



แก้ไขล่าสุด (วันศุกร์ที่ 01 มิถุนายน 2012 เวลา 14:48 น.)

อ้างอิง
36 ชั่วโมงที่ผจญอาถรรพ์ที่ป่าเขาใหญ่ และเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องต่อสู้กับจิตวิญญาณสายพรายร้ายแบบเต็มๆ

 

ปลุกเสก ๓ ครั้ง
ครั้งที่ 1 โดยอาจารย์ประสูต วัดในเตา
ครั้งที่ 2 อาจารย์พรหม วัดพลานุภาพ
ครั้ที่ 3 หลวงปู่เขียว วัดห้วยเงาะ​

 

​

 

​

 

กราบหลวงพ่อทวดครับ ศรัทธาท่านมากครับ

 

พระงามมากๆครับ
​