ฌานาภิญญาสูตร

ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 8 สิงหาคม 2012.

  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๖ หน้าที่ ๒๐๗/๒๘๘
    ๙. ฌานาภิญญาสูตร
    [๔๙๗] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
    เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม แล้วเข้าถึงปฐมฌาน มีวิตก
    มีวิจาร มีปีติและสุข อันเกิดแต่วิเวกอยู่ได้เท่าใด แม้กัสสปก็หวังสงัดจากกาม สงัดจาก
    อกุศลธรรม แล้วเข้าถึงปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกอยู่ได้เท่านั้น
    เหมือนกัน ฯ
    [๔๙๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังเข้าถึงทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน
    เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไปมีปีติและสุขอันเกิด
    แต่สมาธิอยู่ได้เท่าใด แม้กัสสปก็หวังเข้าถึงทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน
    เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิ
    อยู่ได้เท่านั้นเหมือนกัน ฯ
    [๔๙๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังเป็นผู้มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะและเสวยสุข
    ด้วยนามกายเพราะปีติสิ้นไป เข้าถึงตติยฌาน ที่พระอริยเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้
    เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุขได้เท่าใด แม้กัสสปก็หวังเป็นผู้มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ
    และเสวยสุขด้วยนามกาย เพราะปีติสิ้นไป เข้าถึงตติยฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่า
    ผู้ได้ฌานนี้เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุขได้เท่านั้นเหมือนกัน ฯ
    [๕๐๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังเข้าถึงจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์
    และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ได้เท่าใด
    แม้กัสสปก็หวังเข้าถึงจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุขเพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ
    ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ได้เท่านั้นเหมือนกัน ฯ
    [๕๐๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังเข้าถึงอากาสานัญจายตนะ มีอารมณ์ว่า อากาศไม่มี
    ที่สุด เพราะล่วงรูปสัญญา ดับปฏิฆสัญญา ไม่ใส่ใจถึงนานัตตสัญญา โดยประการทั้งปวงอยู่
    ได้เท่าใด แม้กัสสปก็หวังเข้าถึงอากาสานัญจายตนะมีอารมณ์ว่า อากาศไม่มีที่สุด เพราะล่วง
    รูปสัญญา ดับปฏิฆสัญญา ไม่ใส่ใจนานัตตสัญญาอยู่ได้เท่านั้นเหมือนกัน ฯ
    [๕๐๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังเข้าถึงวิญญาณัญจายตนะ มีอารมณ์ว่า วิญญาณไม่มีที่สุด
    เพราะล่วงอากาสานัญจายตนะได้ โดยประการทั้งปวงอยู่ได้เท่าใด แม้กัสสป
    ก็หวังเข้าถึงวิญญาณัญจายตนะ มีอารมณ์ว่า วิญญาณไม่มีที่สุดเพราะล่วงอากาสานัญจายตนะ
    ได้โดยประการทั้งปวงอยู่ได้เท่านั้นเหมือนกัน ฯ
    [๕๐๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังเข้าถึงอากิญจัญญายตนะ มีอารมณ์ว่า หน่อยหนึ่ง
    ไม่มี เพราะล่วงวิญญาณัญจายตนะได้โดยประการทั้งปวงอยู่ได้เท่าใดแม้กัสสปก็หวังเข้าถึง
    อากิญจัญญายตนะ มีอารมณ์ว่า หน่อยหนึ่งไม่มี เพราะล่วงวิญญาณัญจายตนะได้ โดย
    ประการทั้งปวงอยู่ได้เท่านั้นเหมือนกัน ฯ
    [๕๐๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังเข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ เพราะล่วง
    อากิญจัญญายตนะได้ โดยประการทั้งปวงอยู่ได้เท่าใด แม้กัสสปก็หวังเข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ
    เพราะล่วงอากิญจัญญายตนะได้โดยประการทั้งปวงอยู่ได้เท่านั้นเหมือนกัน ฯ
    [๕๐๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังเข้าถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ เพราะล่วงเนวสัญญานา
    สัญญายตนะได้ โดยประการทั้งปวงอยู่ได้เท่าใด แม้กัสสปก็หวังเข้าถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ
    เพราะล่วงเนวสัญญานาสัญญายตนะได้โดยประการทั้งปวงอยู่ได้เท่านั้นเหมือนกัน ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2012
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    <center>




    [๔๙๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหวังเข้าถึงทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน
    เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไปมีปีติและสุขอันเกิด
    แต่สมาธิอยู่ได้เท่าใด แม้กัสสปก็หวังเข้าถึงทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน
    เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิ
    อยู่ได้เท่านั้นเหมือนกัน ฯ



    .
    <center></center></center>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2012
  4. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    จขกท. คงตั้งชื่อกระทู้ไม่ถูกน่ะ ดูๆแล้วมันขัดกันเอง
    คงไม่มีความเข้าใจพอ กับเนื้อหาในพระไตรปิฎก
     
  5. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    เอาไว้ให้ จขกท. อ่านพระไตรปิฎกให้ครบ ทั้ง 3 ไตรก่อนก็ได้
     
  6. ณัฐสุภัค

    ณัฐสุภัค สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    ยินดีที่ได้เป็นสมาชิกกับเว็บพลังจิตและจะร่วมทำบุญด้วยค่ะ
     
  7. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218
    การนำเอาพระพุทธพจน์มาแสดง นับเป็นบุญเป็นกุศลอย่างยิ่ง เป็นธรรมทานอย่างสูงชั้นสุดยอด


    แต่ต้องซื่อตรงต่อพระพุทธพจน์ ต้องระมัดระวังในการนำเอาพระพุทธพจน์มาแสดง ต้องมีความรู้ด้วยปัญญาญาณอย่างลึกซึ้งในพระพุทธพจน์ ต้องมีความสามารถในการอธิบายพระพุทธพจน์อย่างฉลาดลึกซึ้งแหลมคม เพราะพระพุทธพจน์หรือพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสแสดงไว้ดีแล้วนั้นมีหลายระดับ ต้องมีความเข้าใจพระธรรมในทุกระดับ และไม่ควรตีความพระพุทธพจน์เข้าข้างตัวเอง เพราะอาจจะเป็นการบิดเบือนพระพุทธพจน์ได้โดยไม่รู้ตัว


    การกินข้าว ก่อนกินเราก็ต้องหุงข้าวให้สุกก่อน ต้องเลือกกับข้าวที่จะกิน ต้องเลือกกับข้าวที่มีประโยชน์ ต้องกินแต่พอดี ต้องกินให้ถูกกับธาตุในร่างกาย ต้องทำการเคี้ยวให้ละเอียด และ ต้องระมัดระวังในขณะที่เคี้ยวด้วย


    การนำพระไตรปิฎกมาแสดงนั้น ต้องรอบคอบละเอียดถี่ถ้วนและมุ่งที่ความถูกต้องในพระธรรม ไม่ใช่ความถูกใจของตนหรือของใคร ต้องมีความซื่อตรงและมีความลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง จึงจะเกิดประโยชน์อย่างเต็มที่สูงสุด


    ส่วน ภาษา นั้น อธิบายด้วยสำนวนง่ายๆ ก็ได้ เป็นเรื่องของภาษา ไม่ใช่การบิดเบือนพระธรรม


    เพราะถ้าพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ พระองค์ก็จะทรงใช้ภาษาบาลีเป็นหลัก ซึ่งเราคนไทยย่อมฟังไม่รู้เรื่องแน่ ถ้าไม่ได้ทำการศึกษาให้เข้าใจในภาษาบาลีอย่างแตกฉานมาก่อน หรือ ถ้าพระพุทธองค์ไม่ทรงใช้พระพุทธานุภาพเพื่อช่วยให้ผู้ฟังที่เป็นคนต่างชาติต่างภาษาให้เข้าใจได้โดยง่ายแล้ว ย่อมเป็นการยากที่คนไทยอย่างเราจะเข้าใจและเข้าถึงซึ่งพระธรรมได้


    ดังนั้น การใช้ภาษาไทย เพื่อให้ผู้ฟังที่เป็นคนไทยที่กำลังศึกษาในพระธรรมทั้งหลายอยู่ ได้เข้าใจและเข้าถึงพระธรรมได้โดยง่ายจึงเหมาะสมกับคนไทยทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่ได้ห้ามผู้หนึ่งผู้ใดทำการศึกษาในภาษาบาลี อันเป็นภาษาแม่บท เป็นภาษาต้นแบบของพระไตรปิฎก ทั้งนี้การศึกษาในภาษาบาลีนั้น ย่อมเป็นการอนุรักษ์และสืบสานคุณค่าแห่งพระพุทธพจน์ได้อย่างแท้จริง แต่ก็ไม่ใช่เป็นการบังคับให้ต้องศึกษา เพราะขึ้นอยู่กับความสมัครใจ ความพอใจ และ อัธยาศัยของแต่ละคน


    การนำธรรมะในพระไตรปิฎกมาอธิบายด้วยภาษาไทย เพื่อให้เข้าใจในพระธรรมได้โดยง่าย จึงไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพราะไม่ใช่เป็นการบิดเบือนพระพุทธพจน์


    การนำพระธรรมมาแสดงแบบผิดๆ คือ ผิดไปจากวัตถุประสงค์ พระพุทธประสงค์ ความมุ่งหมาย และ สาระใจความแห่งพระพุทธพจน์ ต่างหาก ที่เป็นการบิดเบือน ส่วน ภาษา ที่จะใช้แปลความ และ อธิบายความหมายแห่งพระพุทธพจน์พระธรรมทั้งหลายนั้น จะใช้ภาษาใด ใช้สำนวนแบบใดก็ได้ แต่ต้องยังคงใจความและสาระสำคัญแห่งพระพุทธพจน์และพระธรรมนั้นๆ อยู่ ไม่ควรออกไปจากขอบเขตแห่งพระธรรม และ พระพุทธประสงค์ เพราะพระพุทธดำรัสนั้น ย่อมมีความหมายอันสูงสุด ต่อชาวพุทธทั้งมวล


    ดังนั้น หากจะทำการเผยแผ่พระธรรม จึงต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ทั้งต้องมีความชำนาญแตกฉานในพระไตรปิฎกครบถ้วนทั้ง 3 ประการ คือ พระวินัย พระสูตร และ พระอภิธรรม ไม่ใช่แตกฉานเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วนำมาแสดงต่อสาธารณะ หรือ ตีความหมายแห่งพระธรรมแบบผิดๆ ตีความพระธรรมแบบเข้าข้างตนเอง โดยขาดความระมัดระวัง ซึ่งนับเป็นเรื่องที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง ทั้งต่อตนเอง และต่อพระพุทธศาสนาโดยรวม



    ด้วยความปรารถนาดีล้วนๆ



    ขอเจริญพร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2012
  8. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ผู้บรรลุฌานจะรู้สึกถึงอารมณ์ตามนั้นจิงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...