พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    สามารถดูได้จากที่คุณตั้งจิตบอก หรือสามารถกดลิงค์ไปที่กระทู้สร้างพระเจดีย์ได้เลย จะอยู่ที่หน้าแรกครับ

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ย้อนอดีต วิถีอาราม สยามสมัย “วัดเบญจมบพิตรฯ”
    http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9500000106168
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>8 กันยายน 2550 20:50 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> “วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม” วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครที่มีชื่อเสียงในเรื่องความงดงามของสถาปัตยกรรม ที่ได้ชื่อว่าเป็น “สถาปัตยกรรมที่สมบูรณ์แบบของศิลปะไทย” โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเป็นผู้ปฏิสังขรณ์ขึ้น และสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัดนั้นก็ออกแบบโดย “นายช่างใหญ่แห่งกรุงสยาม” คือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

    ไม่ว่าจะเป็นพระอุโบสถที่สร้างด้วยหินอ่อนได้สัดส่วนสวยงาม จิตรกรรมฝาผนัง และพระพุทธรูปต่างๆ ก็ล้วนแต่เป็นศิลปะไทยที่งดงามทั้งสิ้น วัดแห่งนี้จึงเป็นที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในชื่อของ “The Marble Temple”

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สิงห์คู่หน้าพระอุโบสถ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> และเพื่อเป็นการร่วมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้สถาปนาวัดเบญจมบพิตร และเพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา ทางกรุงเทพมหานครจึงได้จัดงาน “เทิดไท้ 80 พรรษา ย้อนอดีต วิถีอาราม สยามสมัย ณ วัดเบญจมบพิตร” ขึ้น ในวันที่ 14-15 กันยายนนี้ ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

    พิชัย ไชยพจน์พานิช รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการจัดงานเทิดไท้ 80 พรรษาฯ ว่า ทาง กรุงเทพมหานครมีนโยบายให้ประชาชนช่วยกันรักษาศิลปวัฒนธรรมให้อยู่คู่กับกรุงเทพฯ โดยวิธีหนึ่งที่จะทำได้ก็คือการส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของศิลปวัฒนธรรมด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ และในปีนี้ก็เป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา จึงจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองขึ้น โดยงานนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะเป็นการรักษาศิลปวัฒนธรรมแล้ว ก็ยังเป็นการเชิญชวนให้ประชาชนได้รู้จักกับวัดเบญจมบพิตรฯ อีกด้วย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศงานแถลงข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับกิจกรรมต่างๆ ที่จะจัดขึ้นภายในงาน “เทิดไท้ 80 พรรษา ย้อนอดีต วิถีอาราม สยามสมัย ณ วัดเบญจมบพิตร” นั้น จะจัดขึ้นในบรรยากาศที่ทำให้ผู้เข้าชมงานย้อนรำลึกถึงอดีตในสมัยรัชกาลที่ 5 ด้วย กิจกรรม 3 ประเภท ได้แก่ “มหรสพไทย” เป็นการแสดงแสงสีเสียงและสื่อผสม และมหรสพไทยที่หาชมไม่ได้ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ละครรำเรื่องเงาะป่า หุ่นกระบอกออกตัว ละครร้อง เรื่องสาวเครือฟ้า และโขนสยาม รวมไปถึงการบรรเลงดนตรีไทย ทั้งในแบบไทยเดิม และแบบไทยร่วมสมัย อีกทั้งยังมีหนังกลางแปลงที่นำภาพยนตร์ย้อนยุคที่ได้รับความนิยมของคนไทยในอดีตมาจัดฉายให้นั่งชมสบายๆ บนสนามหญ้าอีกด้วย

    นอกจากนั้นยังมี “ลานบ้าน ลานเมือง วิถีแบบสยาม” มีการเสวนา ลานบ้านลานเมือง พูดคุยกับผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของวัดเบญจมบพิตรฯ และศิลปวัฒนธรรมประเพณีไทย กิจกรรมการสาธิตเอกลักษณ์ไทย การถ่ายภาพย้อนยุค ย้อนไปสู่สมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อการถ่ายภาพเริ่มเป็นที่นิยม และ “นิทรรศการ” รับทราบข้อมูลน่าสนใจผ่านนิทรรศการต่างๆ เช่น นิทรรศการวัดเบญจมบพิตร นิทรรศการอวดรูปเก่าสมัยรัชกาลที่ 5 ทั้งภาพวิถีชีวิตผู้คนและบ้านเมืองที่ล้วนหาชมได้ยาก นิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนิทรรศการประเพณีตานก๋วยสลาก ประเพณีที่จัดขึ้นเป็นประจำที่วัดเบญจมบพิตร

    และนอกจากจะได้สัมผัสกิจกรรมวัฒนธรรมย้อนยุคแล้ว ยังจะได้จับจ่ายใช้สอยสินค้าจากชุมชนและเขตต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร ทั้งงานศิลปหัตถกรรม งานสิ่งประดิษฐ์ที่สะท้อนถึงความเป็นไทย รวมไปถึงอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอื่นๆ ในบริเวณถนนนครปฐม ด้านหน้าวัดอีกด้วย

    สำหรับการเดินทางมาที่บริเวณงาน ทางกรุงเทพมหานครได้จัดรถรางรับส่งนักท่องเที่ยวฟรี ในเส้นทางถนนศรีอยุธยา ผ่านแยกสี่เสาเทเวศร์ ผ่านตลาดเทเวศร์ เข้าถนนราชดำเนิน ผ่านทำเนียบรัฐบาล เข้าถนนหน้าวัดเบญจมบพิตร ตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จิบชายามบ่าย
    http://www.manager.co.th/MetroLife/V...=9500000105385
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 กันยายน 2550 17:57 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=220 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=220>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เรื่อง : ชลธิชา พรหมศิริ,ไพลิน ตั้งศิลป์พูลชัย
    ภาพ : สุรศักดิ์ คลี่แก้ว, ศิวกร เสนสอน

    ชายามบ่าย เป็นวัฒนธรรมของผู้ดีอังกฤษ แพร่หลายเข้ามาในเมืองไทยในสมัยรัชกาลที่ 6-7 เนื่องจากลูกเจ้านายที่จบการศึกษาวิชาการจากต่างประเทศกลับเมืองไทย จึงได้นำวัฒนธรรมนี้กลับมาด้วย การจิบชาริเริ่มในตำหนักเจ้านายพระองค์ต่างๆ การจิบชาต่างๆในสมัยนั้นยังไม่ได้ครบเครื่องหรือเป็นไปอย่างสูตรต้นตำรับจากอังกฤษ ขนมแป้งอบทั้งหลายที่ชาวอังกฤษนิยมรับประทานแกล้มกับน้ำชา เมืองไทยในยุคแรกใช้ขนมไทยบางอย่างเช่น ขนมช่อม่วง,สาคูไส้หมู, ขนมครก, ลูกชุบ, ทองม้วน เป็นต้น

    ต่อมา ชายามบ่าย เข้ามาเป็นกิจกรรมหนึ่งของโรงแรมหรูหราต่างๆในกรุงเทพฯ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของ “Tea Room” ต่างๆ อุปกรณ์การดื่มชาอย่างที่ชาวอังกฤษแท้ๆ เริ่มนิยมใช้กันมากขึ้น รวมไปถึงพวงวางขนมอย่างอังกฤษที่แสนจะเก๋และเท่ บรรดานักเรียนนอก รวมถึงไฮโซจึงนิยมไปจิบชายามบ่ายกันเป็นทิวแถว

    โรงแรมแห่งแรกที่เริ่มเสิร์ฟชายามบ่ายที่ริมสระน้ำคือ โรงแรมเอราวัณ และการเสิร์ฟชาที่เป็นกิจจะลักษณะนั้น เริ่มต้นที่โรงแรมโอเรียนเต็ล ตามมาด้วยโรงแรมเพนนินซูลา (หรือ Four Season ปัจจุบัน) ทั้งนี้เพื่อให้เป็นกิจจะลักษณะเช่นเดียวกับ Afternoon Tea อย่างในฮ่องกง

    ชั่วโมงการจิบชา Afternoon Tea เริ่มที่ เวลา 15.00 น. , High Tea เริ่มเวลา 17.00 น. และจะมีอาหารหลักรองท้องด้วย

    Tea Room วันนี้มีความหลากหลาย มากด้วยบรรยากาศ เหมาะกับวันพักผ่อนที่ไม่ต้องการความเร่งรีบ ให้เวลากับตัวเองมากขึ้น ผู้ที่เข้าถึงอารมณ์ชา กล่าวไว้อย่างคมคายว่า

    “ดื่มชา จิบแรกทำให้ตื่น จิบที่สองรู้สึกว่ามีพลังเพิ่มขึ้น จิบที่สามให้ความคิดของคุณโลดแล่น และจิบต่อ ๆ ไปทำให้ดับกระหาย”

    ************

    Divana
    จิบชากลางสวนสวย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ลองนึกภาพสวนเขียวขจี แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และพรรณไม้นานาพันธุ์ กับเก้าอี้นั่งสีขาวสบายตา บรรยากาศสบาย ๆ แล้วชาถ้วยดีดีสักแก้ว กับขนมแสนอร่อย...

    Well Being คือคอนเซ็ปต์ของ Divana Spa สปาทั้ง 3 แห่งของดีวานา อันได้แก่ DVN Nurture, Divine และ Virtue มี Nurture (สุขุมวิท 35) แห่งนี้แหละที่พิเศษ แตกต่างด้วยมีห้อง Tea Room ไว้บริการลูกค้า

    พื้นที่กว่า 2 ไร่ ถูกเนรมิตให้เป็นโอเอซิสของกรุงเทพ ฯ ส่วนที่เป็นสปาอยู่ภายในตัวบ้านด้านใน และ ด้านหน้าเป็นทีรูม สามารถเดินเข้าจากประตูกระจกทางด้านหน้า หรือเมื่อใช้บริการสปาเสร็จ เดินมาทางเชื่อมต่อด้วยทางเดินท่ามกลางแมกไม้สีเขียว ทั้งไม้พุ่มและไม้ยืนต้น โดยเฉพาะโครงสร้างของต้นก้ามปูที่นี่ สวยงามและโดดเด่น แผ่ร่มเงาให้ความร่มเย็นไปทั่ว

    “เราอยู่ภายใต้ธรรมชาติให้ธรรมชาติเป็นหลัก เราพยายามกลมกลืนไปกับธรรมชาติไม่ได้ให้ธรรมชาติเข้าหาเรา เราก็แค่ร่วมอาศัยกับเขาได้อย่างปกติสุขโดยที่ไม่ไปทำลายก็คือช่วยเหลือพึ่งพากัน” ตง- ธเนศ จิระเสวกดิลก มาร์เกตติ้ง ไดเรกเตอร์ และหนึ่งในหุ้นส่วนของดิวานา เล่าให้เมโทรไลฟ์ฟัง

    ห้องทีรูมตกแต่งแบบเรียบง่าย โล่ง โปร่ง สบาย เพดานสูงเน้นสีขาวและเขียวจากธรรมชาติเป็นหลัก ทีรูมนี้เสมือนเรือนต้อนรับแขกก่อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน ใช้กระจกใสเป็นผนังรอบตัวเรือนเพื่อให้มองเห็นทิวทัศน์ โดยเฉพาะสีเขียวสดของร่มไม้ภายในบ้านอย่างชัดเจน เฟอร์นิเจอร์แบบสบายๆ เหมือนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นภายในบ้าน มีทั้งแบบโซฟาร์ โต๊ะ –เก้าอี้สีขาวที่ถูกจัดวางไว้เป็นคู่ ตรงกลางสำหรับเชื่อมต่อโต๊ะหลายตัวเข้าด้วยกัน เผื่อสำหรับแขกที่มาเป็นหมู่คณะ

    เมื่อเอนหลังได้ที่กับโซฟาร์สบายๆ กลิ่นหอมกรุ่นของชาก็ลอยฟุ้งมาแต่ไกล พร้อมกับเบเกอรีที่เรียกว่า Afternoon Tea Set เบเกอรีของดิวานาเป็นแบบโฮมเมด ไม่หวานจัด ทุกชิ้นผลิตเองพิถีพิถันทุกขั้นตอน สามารถเลือกทานได้หลายอย่าง เช่น ทาร์ตผลไม้ ทาร์ตคาว ทาร์ตหวาน มินิแซนด์วิช มินิครัวซองค์ เค้ก สโคน ชิ้นเล็ก ๆ น่ารัก

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>สำหรับคนไทย ธเนศ จิระเสวกดิลกแนะนำชาผลไม้สำหรับคนไทย เพราะว่าเป็นชาที่มีรสชาติแปลก ให้ความรู้สึกสดชื่น แรก ถ้าเป็นคนไทยที่มาประจำ มาแบบร้อน ๆ เหนื่อย ๆ ก็พวกชา เอิร์ลเกรย์ หรือชาแขก

    ชาวญี่ปุ่น แนะนำชาฝรั่งหรือชาไทย ถ้าเป็นฝรั่งเป็นชาจีน (ชาไทย) เบลนให้มีรสชาติจากความเคยชินของเขา โดยพิจารณาจากบุคลิกของคนที่แตกต่างกัน

    “การมาดื่มชาไม่ได้มารีบดื่มแล้วจบ ชาเป็นเครื่องดื่มร้อน มันต้องค่อย ๆ จิบ การที่ค่อยๆ จิบก็ทำให้เราสามารถสร้างบรรยากาศร่วมได้ ได้ความหอมละมุนของชา รสชาติจากชา จากขนม ได้เห็นบรรยากาศรอบ ๆ สิ่งนี้มันช่วยบำบัดเราได้ นอกเหนือจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าเราดื่มชาในระยะเวลาไหน เราดื่มในสถานที่แบบไหน มันก็เป็นองค์ประกอบร่วมทำให้เรามีความสุขอิ่มกับความรู้สึกมากขึ้น” ธเนศ เล่าเรื่องราวของชาให้เราฟัง

    Afternoon Tea ทำให้เราสงบ ผ่อนคลายจากเรื่องวุ่นวายในชีวิตใช้เวลาช่วงหนึ่งสั้นๆนั่งอ้อยอิ่งอยู่กับธรรมชาติ ให้ธรรมชาติบำบัดเราทั้งกายและใจให้ละเอียด มีกำลังใจสู้กับความรีบเร่งในเมืองหลวง

    Divana nurture spa
    ซอยสุขุมวิท 35 คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
    โทรศัพท์ 0-22614-817
    เว็บไซท์ www.divana-dvn.com
    เวลาเปิด – ปิด 10.00 – 20.00 น. หยุด วันพุธ

    ประเภทชา
    traditional - chinese jasmine, english breakfast, english earl gray,
    indian assam
    indian - Darjeeling, japanese green tea, thai lemon grass
    herbal - chai, ginger, lavender, menthe, menthe – lemon, thym - citron
    fruit tea - apple, berries, cherry, orange, peach, strawberry

    *************
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>Al Majlis
    ห้องนั่งเล่นสบาย ๆ สไตล์โมร็อกโก

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=220 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=220>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ไปดื่มชาโมร็อกโกกัน!
    Al Majlis(อัลล์ มาฮ์จิส) ภาษาอาหรับ แปลว่า “ห้องนั่งเล่น” และความต้องการในอารมณ์ประมาณนี้ ร้านนี้จึงจำลองบรรยากาศแบบห้องนั่งเล่น สบายๆ ถึงขนาดนอนเล่นก็ยังได้ ตกแต่งร้านอย่างศิลปะโมร็อกเคิล ผสมผสานศิลปะของอังกฤษและตะวันออกกลาง เปรียบเปรยโถงใหญ่ห้องนี้ประหนึ่งละครแนวดรามา – โรแมนติก หรูหรา ไฮโซ และ โดดเด่นด้วยแชนเดอเลียร์ห้อยระย้า และทิวผ้าที่ห้อยตวัดไปตามมุมต่างๆ เน้นสีขาว ไม่ได้สีสดแบบโมร็อกเคิลแท้ แต่เพิ่มสีสันด้วยหมอนอิงหลากสีสันเพื่อให้ดูมีชีวิตชีวา


    “ถ้าสีจัดมากก็จะทำให้คนรู้สึกอึดอัดไม่สบายตา” บอย - วันทิต ไตรวิทยานุรักษ์ กล่าวกับเมโทรไลฟ์

    อัลล์ มาฮ์จิส ตั้งอยู่ที่ ซอยเอกมัย 12 บริเวณเดียวกับประดู่สปา แม้ทางเข้าร้านจะซับซ้อนอยู่บ้าง แต่ไม่ยากที่จะมองบรรยากาศดีๆแบบนี้มาให้รางวัลกับชีวิตในชั่วโมงสบายๆ รับรองว่า เห็นบรรยากาศแล้ว หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

    ชาสไตล์โมร็อกโกที่เสิร์ฟมาพร้อมปั้นชาคลาสสิกแบบโมร็อกโคก และถ้วยชาที่ดีไซน์ได้เก๋ไก๋ ตามสไตล์ตะวันออกกลาง แค่นี้กลิ่นของทะเลทรายก็เริ่มเขยิบเข้ามาใกล้เราแล้ว

    แนะนำ โมร็อกเคิลมินต์ที เป็น ชาเขียวผสมมินต์ ซึ่งมีขั้นตอนในการเสิร์ฟพิเศษกว่าชาทั่วไป คือ จะต้องรินสูง ๆ ไปมาสัก 3-4 รอบ เพื่อให้มีอากาศเข้าไปในชา จะทำให้ชาเบาและหอม สัมผัสที่ปลายลิ้น หยั่งรู้ถึงความเบา หอมและเย็นจากมินต์

    “ คนโมร็อกโกทั่วไป อาศัยในบริเวณอากาศร้อนอย่างทะเลทราย การทานชาจะไม่เข้มและช่วยในการผ่อนคลาย มินต์จะช่วยระบายความร้อน ซึ่งชาของจริงก็จะหวานมากเพื่อเพิ่มพลังงานให้ แต่ในเมืองไทยไม่ได้ร้อนมากขนาดนั้นจึงลดความหวานลงเพื่อให้คนไทยทานง่ายมากขึ้น”

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>นอกจากชาโมร็อกเคิลแล้วที่นี่ยังมีทั้ง ชาไทย ชาญี่ปุ่น ชาจีน ชาอังกฤษ ชามาเลย์ ชาโฮมเมด ให้เลือกหลากหลายมาก

    “ถ้าเราจะมุ่งหน้าไปอาหรับแท้ ๆ ยังใหม่มากสำหรับคนไทย และยอมรับว่า ยังไปไม่ถึงสุด เพราะฉะนั้นเราก็หาอะไรที่มันเป็นกลาง คือ ๆ เอาตัวเด่นของชาบางตัวที่คนไทยดื่มได้ เช่น
    เลบานีสมินต์ที มอรอคเคิลมินต์ที ”

    ร้านอัลล์ มาฮ์จิส รักษาคุณประโยชน์และรสชาติที่กลมกล่อมของชา ด้วยการลวกชาเพียงน้ำเดียวเท่านั้น

    “ลูกค้าหลายคนมาที่ร้านเพื่อดื่มชาคนเดียว เพราะว่า อบอุ่น เขาไม่เก้อเขิน ตรงนี้ถือว่า เราประสบความสำเร็จตามคอนเซ็ปต์ร้านที่ตั้งไว้คือ เหมือนนั่งเล่นในบ้าน ทั้งนี้เพราะว่า เราเป็นผู้บริโภคมาก่อน เราก็เลยพยายามทำให้ผู้บริโภคของเราได้รับสิ่งที่ดีที่สุดทุกขั้นตอน ทั้งชา อาหาร การบริการ และสถานที่ เป็นเซอร์วิสที่มีความเป็นกันเองที่สุด”

    ส่วนอาหารที่เสิร์ฟพร้อมกับชาของที่นี่ก็มีความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ซึ่งที่เด่น ๆ ของที่นี่ คือ ทูน่า ไบท์ ที่ใช้ แป้งพิซซ่า อบจนกรอบ ๆ และใช้นำทูน่าสลัดมาวางบนผ่าแป้ง เสิร์ฟพร้อมคิวคัมเบอร์สลัด ที่ใช้โยเกิร์ต เป็นน้ำสลัด รับรองว่าเมนูนี้ไม่อ้วนแน่

    มาถึงของหวานที่เรียกได้ว่าเป็นนางเอกของร้านนี้คือ Al Majlis Cake เนื้อชิฟฟ่อนเค้กและครีมหอมมัน นุ่ม เนื้อแน่นละเอียด ตัดกับเนื้อผลไม้รสเปรี้ยว ทานกับชาร้อน ๆ อร่อยมาก และที่นี่ยังมี เมนู High-Tea Set (คนละ 350 บาท) ที่มีเค้ก ชิ้นเล็ก ๆ ให้เลือกมากกว่า 10 รายการ และโปรโมชันช่วงนี้ ลดเหลือ 300 บาท ถ้ามา 2 คนจ่ายเพียง 500 บาทเท่านั้น

    ที่ตั้ง : 83/8 ประดู่สปาคลับ เอกมัย ซ. 12 (ซ.เจริญใจ) ถ.สุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
    โทรศัพท์ : 0-2392-2345
    เวลาเปิด – ปิด : จันทร์ – เสาร์ 17.00 - 1.00 น.
    www.almajlis-tearoom.com
    เมนู High-Tea Set บริการช่วงเวลา 15.00 -17.00 น. เฉพาะวันเสาร์

    *************

    ดื่มด่ำชาสไตล์ไทยที่
    เอราวัณ ทีรูม

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=420 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=420>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ถ้าพูดถึงวัฒนธรรมการจิบชายามบ่าย เราอาจจะนึกถึงการจิบชาแบบอิงลิชที ที่ต้องมีชาฝรั่งกับเบเกอรี แต่คุณรู้ไหมว่าการจิบชานั้นเราสามารถนำมาผสมผสานความเป็นไทยได้อย่างลงตัว

    ห้องอาหารไทยเอราวัณ ทีรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ห้องอาหารที่ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารไทย และการตกแต่งที่มีสไตล์ ความโดดเด่นของห้องอาหารเอราวัณทีรูม คือการตกแต่งที่ใช้ความเป็นไทยผสมตะวันตก ด้วยการออกแบบของสถาปนิกและนักออกแบบระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา โทนี่ ชี ได้ผสมผสานความร่วมสมัยเข้ากับบรรยากาศคลาสสิก อย่างเช่น โต๊ะไม้ เก้าอี้สไตล์เขมร โซฟาที่นั่งได้ 3 คน สุดเก๋ และเครื่องเงิน ภาชนะต่าง ๆ นำมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว โดยสีโทนหลักที่ใช้จะเน้นสีเข้ม

    เมนูชาที่มีให้เลือกหลากหลาย เช่น ชาเย็นเอราวัณ ชาไทย ชาดำเย็น ชาเย็นตะไคร้ ชาเย็นใบเตย ชาเย็นลิ้นจี่ ชากระเจี๊ยบ ชาขิงสด ชามะตูม และชาฝรั่ง เช่น เอิร์ลเกรย์ ดาร์จีลิง แต่ชาที่โดดเด่นที่สุด คือ ชาไทย ที่ทางร้านได้คิดสูตรขึ้นมาเอง นำเอาผลไม้ หรือสมุนไพรนำมาทำชาให้เราได้เลือกมีทั้งร้อนและเย็น

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>พิเศษที่สุดของที่นี่คือชุด เซต “Afternoon tea” ที่มีอาหารไทยให้เลือกมากมาย ประกอบด้วย ขนมปังหน้ากุ้ง, ไส้กรอกอีสาน, หมูปิ้ง ช่อม่วงไส้ปู, กะหรี่ปั๊บไส้ไก่, ลาบไก่, ข้าวเหนียวมะม่วง, ขนมปังสังขยา, ขนมครก, ลูกชุบ, ทองม้วน และผลไม้รวม ด้วยราคาเพียง 199 บาท

    นอกจากนี้ที่นี่ยังจำหน่ายตัวผลิตภัณฑ์ชาที่เป็นโอทอป แยม เครื่องเทศ ขนม และของที่ระลึกเก๋ ๆ มากมาย

    ห้องอาหารเอราวัณ ทีรูม จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ชื่นชอบในการดื่มชา ได้มาใช้เวลาจิบชา ฟังเพลงยุค 70-80’s เบา ๆ นั่งคุยกับคนรู้ใจหรือนั่งคุยงาน และทานอาหารไทยไปด้วย นี่คือวัฒนธรรมการดื่มชาแบบไทยๆ ที่เราสามารถไปสัมผัสได้

    ที่ตั้ง : ชั้น 2 ภายในห้างฯ เอราวัณ แบงค็อก Urban Click Lifestyle ถนนราชดำริ กรุงเทพฯ 10330
    โทรศัพท์ 0-2254-1234
    เวลาเปิด - ปิด : 10.00-20.00 น.
    เมนูเซต “Afternoon tea” บริการช่วงเวลา 14.30 – 16.00 น.

    *************
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>“High Tea”
    หอมกรุ่นอย่างมีรสนิยม

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=360 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=360>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>หากคุณนึกถึงบรรยากาศที่ร่มรื่น หรือมองหาสถานที่สามารถทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การจิบชายามบ่ายนั้นเป็นกิจกรรมหนึ่งที่สามารถตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง และสถานที่พิเศษที่เมโทรไลฟ์จะขอนำเสนอ คือร้านน้ำชา “High Tea” ตั้งอยู่ ถนนหลังสวน ซอย 3 ภายในร้านดอกไม้ชื่อ เรือนบุษบา

    บ้านหลังเล็กสีขาว เต็มไปด้วยความเพลิดเพลิน และกลิ่นหอมกรุ่นของน้ำชา ที่ซุกตัวอยู่ในเมืองหลวง เหมาะสำหรับการนั่งในแบบสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบ

    High Tea ตกแต่งร้านสไตล์อังกฤษ “คลาสสิก คอตเทต” เปิดมานานกว่า 3 ปี โดยเจ้าของร้านหนุ่มโรแมนติกอย่าง ฉันฑิต สว่างเนตร หรือยุ่น ได้แรงบันดาลใจในการเปิดร้านน้ำชาแบบ high tea ตามแบบฉบับอังกฤษ หลังจากได้ใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน และตระเวนชิมอาหารหลากหลายเมนูมาแล้วทั่วโลก

    “ร้าน High Tea เปรียบเสมือน จุดนัดพบสังสรรค์ในหมู่เพื่อนฝูง หรือเหมาะมาเจรจาธุรกิจ แม้กระทั่งเป็นบ้านหลังที่สองโดยคุณสามารถเอนหลังอ่านหนังสือเล่มโปรดในยามบ่าย ผมจึงมองว่านี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ร้าน high Tea ได้รับความไว้วางใจเพื่อใช้เป็นสถานที่ในการจัดงาน อีเวนต์ หรือว่างานสัมมนาที่สามารถจุคนได้มากกว่า 80 คน”

    นอกจากเรื่องของบรรยากาศที่บ่งบอกถึงรสนิยม “ใบชา” ที่นี่ยังผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดีจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งให้รสชาติกลมกล่อม และ กลิ่นหอมรัญจวนเหมือนดอกไม้นานาพันธุ์ ที่บรรจงเลือกมาให้เหมาะกับบรรยากาศภายในร้านได้อย่างลงตัว

    สำหรับผู้ที่สนใจใบชา เพื่อสุขภาพทางร้าน High Tea มีชานานาชนิดให้เลือกจิบ
    Green Mint ที่มีส่วนผสมของใบมะกรูด ซึ่งช่วยบำบัดสุขภาพในเรื่องของการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี

    Un’ Gentlemen ให้ความรู้สึกคล้ายกับชา Earl Grey ที่ผสมผสานกับ ดอกวนิลา และ ช็อกโกแลต จะให้ความรู้สึกดื่มด่ำ เหมือนจิบชาต้นตำรับแบบอังกฤษ ที่นครลอนดอน”

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>Chamomile ที่ให้รสชาติกลมกล่อม ลื่นคอ และยังมีสรรพคุณในการช่วยให้ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการนอน ให้หลับสบายยิ่งขึ้น

    Forest Fruit ชากลิ่นผลไม้ที่เพียงได้จิบเบาๆ ก็สามารถลดความเหนื่อยล้า และเติมความสดชื่นระหว่างวัน ในราคา 80 บาทต่อกา หรืออาจจะเลือกใบชาสดที่บรรจุอยู่ในกระป๋องสุดหรูสีแดง ขนาด 125 มิลลิกรัม ที่เหมาะชงดื่มเองที่บ้าน หรือสามารถซื้อไปเป็นของขวัญฝากคนรู้ใจ (925 บาท)

    ถ้าจะให้ครบสูตรในการจิบชาที่ร้าน High Tea ตามต้นตำรับต้องสั่งอาหารมาเรียกน้ำย่อย ไม่ว่าจะเป็น ซีซาร์สลัด (100 บาท) ที่เน้นความสดของผักนานาชนิด เสิร์ฟเคียงคู่มากับน้ำสลัดแบบไร้ไขมัน ตามมาด้วย พ็อกช๊อฟ (280บาท) ที่เนื้อหมูต้องผ่านการอบมากกว่า 6 ชั่วโมง เพื่อให้เนื้อมีความนุ่ม ประกอบกับกลิ่นหอมของ ชินนามอน อบเชย และลูกเกด ที่เป็นเครื่องปรุงของน้ำซอส ที่ปรุงอย่างกลมกล่อม ราดลงบนเนื้อหมูอย่างชุ่มฉ่ำน่ารับประทาน

    และอีกหนึ่งเมนูเด็ดของร้านคือ สเต๊กปลากะพง (280 บาท) ปลาที่นำมาปรุงแต่งล้วนทำอย่างพิถีพิถัน รับรองว่าต้องถูกปากหนุ่มสาวเมโทร

    สุดท้ายตบด้วยของหวานซึ่งขาดไม่ได้สำหรับการจิบชายามบ่ายในแบบฉบับ High Tea โดยเค้กที่ติดชาร์ตของร้าน Dark chocolate ประกอบไปด้วยช็อกโกแลตล้วนๆ ที่ใครได้ลองกินต้องติดใจในรสชาติที่สามารถละลายเพียงแค่ลิ้นสัมผัส ซึ่งเค้กทุกชิ้นของร้าน high tea จะถูกแช่เย็นไว้ ในตู้เย็นที่ตั้งอุณหภูมิไว้ประมาณ 4-6 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาความเย็น และความสดอร่อย

    จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงได้การตอบรับเป็นอย่างดี จากหนุ่มสาวออฟฟิศวัยทำงาน หรือว่าครอบครัว และคู่รักในวันหยุดพักผ่อนสุดสัปดาห์ ถ้าคุณกำลังมองหาบ้านหลังเล็กๆที่ให้ความรู้สึก ผ่อนคลาย อย่างเป็นกันเอง ร้านน้ำชา High Tea ก็คงจะเป็นร้านที่ให้บรรยากาศโรแมนติก แบบมีรสนิยมแต่สบายกระเป๋า

    ที่ตั้ง : 68/1 ถนนหลังสวน ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพ 10330
    โทรศัพท์ : 0-2652-1244
    เวลาเปิด- ปิด : 10.00-22.00 น.
    Website : www.ruernboossaba.com

    ************

    4 ขั้นตอน ง่ายๆ
    กับการจัดโต๊ะชาแบบเรือนบุษบา

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=220 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=220>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>1) เตรียมโต๊ะที่ดี บรรยากาศเหมาะๆ: โต๊ะดื่มชาที่ดี ควรจะคลุมด้วยผ้าปูโต๊ะลายดอกไม้ที่มีตราเล็กๆ เพื่อที่จะมาเบรกกับ อุปกรณ์ที่อยู่บนโต๊ะให้จาน หรือว่ากาน้ำชามีขนาดเล็กลง

    2) อุปกรณ์ในการดื่มที่พร้อมสรรพ: สมัยก่อนถ้วยชามีอยู่สองประเภทคือถ้วยชา porcelain และ Bone China ซึ่งประเภทหลังนั้น เป็นถ้วยชา หรือกาชา ที่มีราคาแพงซึ่งชนชั้นสูงนิยมใช้กัน แต่ถ้าหากเป็นการจัดโต๊ะชาด้วยตัวเองนั้น กาน้ำชาที่มีอยู่ที่บ้านก็น่าจะพอ

    3) เครื่องเคียงของการดื่มน้ำชาในแบบ high tea: การดื่มชาที่ดี แบบมีสีสัน จะขาดไม่ได้เลยก็คงเป็นเรื่องของเครื่องเคียง เช่น แซนด์วิช, แซนด์วิชแบบเปิดหน้า, หรือ scone โดยผสมแล้วก็เป็นเรื่องของผู้ทานเองที่จะใส่ไส้ด้วยเครื่องอะไรก็ได้ ตามความพึงพอใจของผู้ทาน แต่ถ้าอยากให้เป็นแบบอังกฤษต้นตำรับเลยต้องเป็น บูเชสต้า แซลมอนรมควันที่ใส่ไส้ครีมชีส แกล้มด้วยแตงกวา

    4) เติมเต็มบรรยากาศ: ขั้นตอนสุดท้ายในการจัดโต๊ะชาก็ คงจะเป็นการจัดแจกันดอกไม้ เพื่อทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น เหมาะกับการดื่มน้ำชายามบ่ายในบรรยากาศสุดคลาสสิก ที่รังสรรค์อย่างมีสไตล์ง่ายๆด้วยตัวคุณเอง

    ***************

    10 ข้อเกี่ยวกับชาที่คุณควรรู้

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=230 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=230>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>1. ชา เป็นคำจีนที่ปรากฏอยู่ในภาษาไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งน่าจะเพี้ยนจากคำว่า “ฉา” ภาษาจีนกลาง ซึ่งพ่อค้าจีนที่เข้ามาค้าขายนำมาเผยแพร่

    2. จีนเป็นชาติแรกที่รู้จักการดื่มชา และแพร่หลายสู่ชาติอื่นที่ทำการค้ากับจีน แต่ชาวอังกฤษที่ชื่นชอบการดื่มชาจากจีนจนเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตกลับเป็นผู้เผยแพร่วัฒนธรรมการดื่มชาให้รู้จักไปยังดินแดนต่าง ๆ ผ่านอาณานิคมอังกฤษที่มีอยู่ทั่วโลก

    3. คนจีนเชื่อว่าเวลามีผู้มาหาถึงบ้านจะต้องยกน้ำชาออกมาต้อนรับ ถ้าไม่รักกันจริงจะไม่ยกน้ำชามานั่งดื่ม เพราะจะได้คุยให้เสร็จ ๆ แล้วรีบออกไปจากบ้านซะ

    4. ชา มีบทบาทโดดเด่นในการสร้างชาติอเมริกาให้เป็นเอกราชจากอังกฤษ รัฐสภาอังกฤษเก็บภาษีใบชาคนอเมริกันสูงมาก(ขณะนั้นเป็นอาณานิคมของอังกฤษ) ก่อเกิดความไม่พอใจและต่อต้าน ขนหีบชาทิ้งทะเลอันเป็นที่มาของชื่อ Boston tea Party

    5. Afternoon tea เริ่มขึ้นในศตวรรษที่ 18 แอนนา 7 th Duchess of Bedford เป็นเจ้าของความคิดของมื้อน้ำชายามบ่ายนี้ขึ้น

    6. “ชา” เป็นผลผลิตที่มาจากพืชชนิดเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นชาจีน ชาอินเดีย ชาศรีลังกา ชาญี่ปุ่น แต่กลับปรากฏว่าการชงชาที่แตกต่างกันในหลายวัฒนธรรม ทำให้เกิดชารูปแบบต่าง ๆ กว่า 3,000 ชนิด แตกต่างกันทั้งกรรมวิธีการผลิตใบชา การชงชาไปจนถึงการปรุงแต่งรสชาติของชา

    7. ในจีน ร้านน้ำชาเป็นแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมจีน เช่น การแสดงงิ้ว การเล่านิทาน การสนทนารูปแบบการเล่นตลก เป็นต้น

    8. ถ้าไปออสเตรเลียแล้วได้รับการเชิญชวนให้ดื่ม Cuppa หมายถึงน้ำชา แต่ถ้าชวนว่า Have tea with us นั่นแปลว่าเขาชวนทานข้าวเย็น

    9. การทำน้ำชาดื่ม คนอังกฤษถนัดต่างคนทั่วไป คือคนทั่วไปมักจะรินน้ำชาลงถ้วยก่อนแล้วเติมนมหรือครีมและน้ำตาล แต่คนอังกฤษจะใส่ครีมหรือนมลงไปก่อน เติมน้ำตาล แล้วจึงรินน้ำชาร้อน ๆ ลงไปเป็นอันดับสุดท้าย

    10. การดื่มชาใส่น้ำแข็งเริ่มขึ้นในงานมหกรรมโลกที่เซนต์หลุยส์ ปี ค.ศ.1904 โดยหนุ่มอังกฤษ ชื่อ ริชาร์ด เบลชินเดรน (Richard Blechyndren) ช่วงนั้นอากาศร้อนมากเขาขายน้ำชาร้อน ๆ ไม่ออก จึงรินน้ำชาราดลงไปบนก้อนน้ำแข็ง

    11. ฝรั่งเศสเป็นชาติแรกที่เติมนมสดในน้ำชา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.2550
    <O:p</O:p
    หนังสือวิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า เจ้าพระยาภานุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุญนาค) ซึ่งเขียนโดยปรัชนี ประชากร(ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร) ผมจะแจกให้กับผู้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง
    3 ท่านแรก(ตามกติกา) จำนวน 3 เล่ม(ท่านละ 1 เล่ม) โดยมีหลักเกณฑ์ตามนี้ ต้องเป็นผู้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งไม่น้อยกว่า 50,000 บาท(โดยที่ท่านทำบุญและขอรับพระพิมพ์จากผมตามปกติ)
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ส่วนพระสมเด็จกลักไม้ขีด ผมมอบให้ผู้ร่วมทำบุญ จำนวน 5 องค์ สำหรับ 5 ท่านแรก (ผ่านพิธีพุทธาภิเษกในวันที่ 10 กรกฎาคม 2550 ในการพุทธาภิเษกผ้ายันต์ที่พระอาจารย์นิลนำลงไปแจกผู้ปฏิบัติงานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้) องค์ผู้อธิษฐานจิต หลวงปุ่บรมครูเทพโลกอุดร 4 พระองค์(หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า ,หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า ,หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) ,หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) ) ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ,หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ,หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ,หลวงปู่โพกสะเม็ก(หลวงปู่ขี้หอม) ,สำเร็จลุน ประเทศลาว ,หลวงปู่สีทัตถ์ ฯลฯ โดยมีหลักเกณฑ์ตามนี้ ต้องเป็นผู้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งไม่น้อยกว่า 50,000 บาท(โดยที่ท่านทำบุญและขอรับพระพิมพ์จากผมตามปกติ) <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    โดยท่านผู้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งไม่น้อยกว่า 50,000 บาท(โดยที่ท่านทำบุญและขอรับพระพิมพ์จากผมตามปกติ) สามารถขอรับหนังสือวิเคราะห์ฯ และร่วมทำบุญเพื่อขอรับพระสมเด็จกลักไม้ขีดได้พร้อมกันครับ แต่หนังสือมีจำนวน 3 เล่มเท่านั้น ส่วนพระสมเด็จกลักไม้ขีดมีจำนวน 5 องค์ ดังนั้นท่านที่ 4 และท่านที่ 5 จะไม่ได้รับหนังสือแต่ผมจะมอบพระพิมพ์สมเด็จกลักไม้ขีดเพิ่มให้อีก 1 องค์ครับ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผมขอสิ้นสุดการมอบหนังสือและพระสมเด็จกลักไม้ขีดในการร่วมทำบุญ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 จำนวนเงิน 50,000 บาท(รวมทั้งการร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูป 5 พระองค์(สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกกุสันโธ ,สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามโกนาคมน์ ,สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกัสสป ,สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามสมณโคดม ,พระศรีอาริยเมตไตร) ซึ่งผมจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป พร้อมมณฑปรอบพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง) ผมขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงระยะเวลา ถ้าหากว่าพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งสร้างเสร็จสมบูรณ์ก่อน และถ้าหากท่านใดได้ร่วมทำบุญและประสงค์ที่จะรับหนังสือและพระสมเด็จกลักไม้ขีด ผมขอพิจารณาเป็นรายๆครับ และผมให้สิทธิ์ในการจองหนังสือวิเคราะห์ฯและพระสมเด็จกลักไม้ขีดได้นะครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    โมทนาบุญทุกประการครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หมายเหตุ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับพิธีพุทธาภิเษก วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม 2550<O:p</O:p
    กระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้<O:p</O:p
    หลวงปู่สุภา กันตสีโล โพสที่ 6010 หน้าที่ 601<O:p</O:p
    หลวงปู่สุภา กันตสีโล โพสที่ 6034 หน้าที่ 604<O:p</O:p
    สำเร็จลุน โพสที่ 6138 หน้าที่ 614<O:p</O:p
    พระครูโพนเสม็ด (ญาคูขี้หอม) โพสที่ 6139 หน้าที่ 614<O:p</O:p
    พระอาจารย์สีทัตถ์ วัดท่าอุเทน นครพนม โพสที่ 6140 หน้าที่ 614<O:p</O:p
    พระอาจารย์สีทัตถ์ วัดท่าอุเทน นครพนม โพสที่ 6141,6142,6143 หน้าที่ 615<O:p</O:p
    พระครูโพนเสม็ด (ญาคูขี้หอม) โพสที่ 6176,6178,6179,6180 หน้าที่ 618<O:p</O:p
    พระอาจารย์สีทัตถ์ วัดท่าอุเทน นครพนม โพสที่ 6181,6182,6183,6184,6185 หน้าที่ 619<O:p</O:p
    พระครูวิหารกิจจานุการ (หลวงพ่อปาน) โพสที่ 6186,6187,6188 หน้าที่ 619<O:p</O:p
    พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) โพสที่ 6189 หน้าที่ 619<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คุณเพชร<O:p</O:p
    โพสที่ 6017 หน้าที่ 602<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คุณพันวฤทธิ์<O:p</O:p
    โพสที่ 6022 หน้าที่ 603
    โพสที่ 6103 หน้าที่ 611
    โพสที่ 6105 หน้าที่ 611

    [​IMG]
    <O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- sig -->


    สำหรับไม้ครูที่หลายๆท่านประสงค์ที่จะมีไว้ป้องกัน,คุ้มครองตนเองและสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้

    ผมจะมอบให้ฟรีกับผู้ที่ร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ มีรายละเอียดดังนี้

    1.ต้องเป็นผู้ร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ มาตั้งแต่ต้นหรือเป็นผู้ร่วมทำบุญใหม่ โดยทำบุญและขอรับพระพิมพ์ตามปกติ จำนวนเงินที่ร่วมทำบุญรวมกัน(หลายๆครั้งหรือครั้งเดียว) ตั้งแต่ 55,555 บาท

    2.เมื่อร่วมทำบุญครบ 55,555 บาท แล้วจะรับไม้ครู ต้องไปรับไม้ครูที่บ้านท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเท่านั้น

    โมทนาสาธุครับ

    รายละเอียดพระพิมพ์และวัตถุมงคล ที่มอบให้กับผู้ร่วมทำบุญในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิบมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ ( http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=68899 ) จะอยู่ในหน้าแรกของกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

    ส่วนยอดคงเหลือ ผมจะแจ้งให้ทราบในกระทู้ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ และกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้เป็นระยะครับ
     
  8. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    สวัสดีครับ คุณหนุ่มนี่หนุ่มสมชื่อจริง แรงดีไม่มีตก กลับถึงบ้านก้โพสต์ได้เลย
    สงสัยจะคิดถึงกระทู้มาก
     
  9. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    ท่านอื่นๆละครับ สลบหลับใหลไปแล้วยังครับ มีอะไรก็มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
    ผมคอยทั้งวัน
    (b-ahh)
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผบทบ.สั่งให้รีบขึ้นไปอาบน้ำ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานข้างนอกเสียด้วย กลัวจะตื่นสาย ผมบอกว่าอีกสักพักครับ

    วันนี้นำบุญมาฝากทุกคนเลยครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  11. C-Path

    C-Path เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +340
    ขอรบกวนคุณ Sithipong
    ช่วยสรุปยอดพระของหลวงปู่ ที่ยังมีอยู่ และวิธีการร่วมบูชาให้หน่อยนะครับ
    เพราะอ่านแล้วงง ไม่รู้ว่าตอนนี้ยอดเป็นอย่างไรบ้าง อยากจะขอร่วมทำบุญด้วยนะครับ

    หรือส่งเมลมาก็ได้ครับ chrisenterprise2002@yahoo.com
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ผมเล่าทางโทรศัพท์ไปแล้วครับ รอท่านอื่นมาเล่าสู่กันฟังอีกครับ

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมขอเวลาอีกสักสองวัน จะสรุปยอดคงเหลือพระพิมพ์ให้นะครับ

    ส่วนท่านที่ร่วมทำบุญ ก็เหมือนกันนะครับ ขอเวลาสักนิด จะลงรายละเอียดให้เป็นปัจจุบัน ตอนนี้รายละเอียดล้าหลังอยู่หลายๆท่านครับ
    .
     
  14. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    โอ้ว... คำสั่งผบทบ.เป็นอันสิ้นสุด แม้น คมช.(ใครมาช่วย) จะเป็นคนข้างบ้าน คนหลังบ้าน หรือบ้านตรงข้าม ก็ไม่อาจช่วยได้ เช่นนั้นอย่านอนดึกนะครับ
    ขอบคุณมากครับ
    โมทนาสาธุ[b-wai]
     
  15. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ตั้งจิต, nongnooo, Windwaker </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้าว คุณน้องหนู มาเมื่อไรครับ อาบน้ำก่อนก็ได้นะครับ
     
  16. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    วันนี้ผมคิดถึง คุณตั้งใจมากที่สุดเลย มีบางท่านบอกไม่ให้เล่าให้คุณตั้งใจฟังน่ะครับ เพียงแต่ผมอดไม่ได้ เอาแบบสั้นๆนะครับ
    1.ได้ร่วมบุญถวายไม้ครูและพระพิมพ์ของ ท่าน ปา-ทาน มอบเพื่อบรรจุพระเจดีย์ครับ
    2.อาหารที่พี่แอ๊วเตรียมมาอร่อยมาก (ขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ อิ่มเลยครับ)
    3.ได้ประทะพลังพระพิมพ์ของศิษย์น้องคุณหนุ่ม (กลับบ้านแล้วยังไม่หายปวดหัวเลย!!!!)
    4.พระขรรค์รูปหลวงปู่และพระขรรค์เล็กของคุณหนุ่มไม่มีคำบรรยายครับ(สุดยอดพลัง)
    5.พระพิมพ์ของพี่ นายสตินี่ก็ไม่ต้องบรรยายครับผมดูซุ้มไข่ปลา(พิมพ์ซุ้มรัศมี)แบบวางไม่ลง....คือติดมือน่ะครับ
    6. นาย.คลิกๆๆๆ เปลี่ยนเป็น นายสมหวังแล้วครับ
    7.อื่นๆอีกมากมายครับ
    nongnooo...
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ตั้งจิต [​IMG]
    ท่านอื่นๆละครับ สลบหลับใหลไปแล้วยังครับ มีอะไรก็มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
    ผมคอยทั้งวัน
    (b-ahh)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ในความคิดส่วนตัวผม ผมคิดว่าคุณnongnooo ได้บุญมากกว่าผมอีก เนื่องจากว่า ผมได้นำไม้ครูไปมอบให้คุณnongnooo แล้วคุณnongnooo ได้ถวายพระอาจารย์นิลเพื่อบรรจุในพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ทั้งๆที่คุณnongnooo มีอยู่เพียงด้ามเดียว

    ผมขออภิมหาโมทนาบุญด้วยครับ

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ผบทบ.สั่งให้รีบขึ้นไปอาบน้ำ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานข้างนอกเสียด้วย กลัวจะตื่นสาย ผมบอกว่าอีกสักพักครับ

    วันนี้นำบุญมาฝากทุกคนเลยครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เยี่ยมครับเยี่ยม เข้าใจคิด คิดได้ไงเนี่ย

    คมช. (ใครมาช่วย) เยี่ยมๆๆๆ(good)
     
  20. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    อื้อฮือ นี่ขนาดย่อๆนะครับ ผมละแสนเสียดายจริงๆ ที่ไม่ได้ไป ดีใจด้วยครับกับนายสมหวัง สงสัยคืนนี้จะนอนตาค้างอีก ที่เสียดายจริงๆ ก้คือขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ ของชอบ (b-inlove) เฮ้อ
    ขอบคุณคุณน้องนู๋มากๆครับ
    โมทนาบุญด้วยครับ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...