พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    ได้รับพระจากคุณหนุ่มหลายวันแล้ว โมทนาสาธุค่ะ

    วันนี้ได้โอนเงินเข้าบัญชี 1,000.00 บาท ตามที่ได้จองพระสมเด็จโตไว้
    ส่วนอีก 500.00 บาท ร่วมทอดกฐินค่ะ

    อนุโมทนาสาธุกับทุกๆท่านด้วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2007
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    ผู้คนสนใจมากจริงๆครับ ตั้งแต่ได้นำการวิเคราะห์พระพิมพ์ที่เหมาะกับดวงชาตาของคุณ nongnooo มา post นั้น ความตั้งใจนั้นจริงๆแล้วพระพิมพ์นี้ผมมีความตั้งใจจะเก็บไว้ทำประโยชน์ด้าน"โหราศาสตร์" และงานด้านการเขียนภาพ Tarot ในแนวของ spiritual ที่ร่ำเรียนมาซึ่งเป็นศาสตร์ทางด้านการพยากรณ์ของต่างประเทศ ทางต่างประเทศมีความนิยมอย่างมาก หลายปีที่ผ่านมา..ผมเห็นว่าหากคนไทยไม่รัก และหวงแหนสมบัติชิ้นนี้ ผมจึงคิดจะนำเผยแพร่ให้ชาวต่างชาติที่ศรัทธาทางพุทธศาสนาได้ทราบ และเข้าใจ ส่วนรูปแบบการเผยแพร่อย่างไรนั้น คงจะไม่ขอกล่าวถึง

    มาถึงวันนี้ ผมได้รู้สึกถึงความต่อเนื่องของเหตุการณ์ที่ผมได้ประสพมา การเกิดเหตุการณ์ก่อน-หลังนี้ล้วนไม่ใช่ความบังเอิญ คล้ายกับว่าเมื่อพบวิชชาใดหนึ่งแล้ว ต่อไปจะพบเหตุการณ์ที่นำไปสู่ความรู้ใหม่อีกศาสตร์หนึ่งที่เชื่อมโยงกัน ซึ่งกว่าจะนำมาประเดิมโดยมอบให้คุณ nongnooo นี้ ใช้เวลาไม่น้อยกว่า ๑๐ ปีครับ ครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการเทิดทูนวิชชาของอาจารย์ผมทั้ง ๕ ท่าน โดยนำศาสตร์ ๔ ศาสตร์มาใช้ในการมอบพระพิมพ์ ซึ่งผมจะเรียกว่าเป็น"พระประจำตัว"
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผมเองก็ยังไม่เก่งครับ ยังต้องศึกษาอีกเยอะๆๆๆมากๆๆๆครับ

    ร่วมกันเรียนรู้ศึกษากันไปครับ

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โมทนาสาธุครับพี่อ้อย

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    ผู้คนสนใจมากจริงๆครับ ตั้งแต่ได้นำการวิเคราะห์พระพิมพ์ที่เหมาะกับดวงชาตาของคุณ nongnooo มา post นั้น ความตั้งใจนั้นจริงๆแล้วพระพิมพ์นี้ผมมีความตั้งใจจะเก็บไว้ทำประโยชน์ด้าน"โหราศาสตร์" และงานด้านการเขียนภาพ Tarot ในแนวของ spiritual ที่ร่ำเรียนมาซึ่งเป็นศาสตร์ทางด้านการพยากรณ์ของต่างประเทศ ทางต่างประเทศมีความนิยมอย่างมาก หลายปีที่ผ่านมา..ผมเห็นว่าหากคนไทยไม่รัก และหวงแหนสมบัติชิ้นนี้ ผมจึงคิดจะนำเผยแพร่ให้ชาวต่างชาติที่ศรัทธาทางพุทธศาสนาได้ทราบ และเข้าใจ ส่วนรูปแบบการเผยแพร่อย่างไรนั้น คงจะไม่ขอกล่าวถึง

    มาถึงวันนี้ ผมได้รู้สึกถึงความต่อเนื่องของเหตุการณ์ที่ผมได้ประสพมา การเกิดเหตุการณ์ก่อน-หลังนี้ล้วนไม่ใช่ความบังเอิญ คล้ายกับว่าเมื่อพบวิชชาใดหนึ่งแล้ว ต่อไปจะพบเหตุการณ์ที่นำไปสู่ความรู้ใหม่อีกศาสตร์หนึ่งที่เชื่อมโยงกัน ซึ่งกว่าจะนำมาประเดิมโดยมอบให้คุณ nongnooo นี้ ใช้เวลาไม่น้อยกว่า ๑๐ ปีครับ ครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการเทิดทูนวิชชาของอาจารย์ผมทั้ง ๕ ท่าน โดยนำศาสตร์ ๔ ศาสตร์มาใช้ในการมอบพระพิมพ์ ซึ่งผมจะเรียกว่าเป็น"พระประจำตัว"


    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ผมเองก็ยังไม่เก่งครับ ยังต้องศึกษาอีกเยอะๆๆๆมากๆๆๆครับ

    ร่วมกันเรียนรู้ศึกษากันไปครับ

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    คงไม่ถูกอุ้มหรอก เพราะว่ากินจุเหมือนจับกัง เป็นพวกผู้ใช้แรงงานน่ะ กินมือละ 2 จาน แถมต้องมีขนมขบเคี้ยวอีก รู้แค่นี้ก็ไม่เอาแล้ว อุ้มไปก็เปลืองเปล่าๆ

    :boo: :boo: :boo: :boo: :boo:


    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อย.ผงะ! ตู้ขายน้ำดื่มอัตโนมัติมีจุลินทรีย์ปนเปื้อน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 กันยายน 2550 17:15 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> อย.เผยสำรวจพบน้ำจากเครื่องขายน้ำอัตโนมัติไม่สะอาด ผงะจุลินทรีย์ปนเปื้อน ทำท้องร่วง แต่ภาพรวมพอทานได้ แนะให้ต้มน้ำก่อนบริโภค และล้างภาชนะก่อนรองน้ำ ฝากบริษัทเจ้าของเครื่องขายน้ำหมั่นทำความสะอาดเครื่องมากขึ้นเพิ่มความมั่นใจให้ผู้บริโภค

    นายณัฐวุฒิ ศรีทองเติม เจ้าหน้าที่หน่วยตรวจสอบเคลื่อนที่เพื่อความปลอดภัยด้านอาหาร หรือโมบายยูนิต กองควบคุมอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า จากการศึกษาสถานการณ์ความปลอดภัยของน้ำบริโภคที่ผลิตจากเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ ในกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต จำนวน 350 ตัวอย่าง เก็บตัวอย่างตั้งแต่ ธ.ค.2549 - ก.พ.2550 พบว่า ตัวอย่างที่เก็บมาจุลินทรีย์ไม่ผ่านเกณฑ์ เนื่องจากพบแบคทีเรียอีโคลาย จำนวน 2 ตัวอย่างจากทั้งหมด คิดเป็น 0.57% และพบแบคทีเรียโคลิฟอร์มที่เป็นจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วงเช่นเดียวกับแบคทีเรียอีโคลาย พบจำนวน 19 ตัวอย่างจากทั้งหมด คิดเป็น 5.43% ทั้งนี้ แบคทีเรียดังกล่าวไม่ควรพบในน้ำดื่มเลย

    “เมื่อสำรวจลักษณะของเครื่องจำหน่ายพบว่ากว่า 50% ตะไคร่ติดอยู่บริเวณท่อจ่ายน้ำ เนื่องจากแสงแดดเป็นปัจจัยหลัก เพราะสปอร์ของตะไคร่น้ำเหล่านี้อยู่ในอากาศอยู่แล้ว แต่ไม่น่าวิตกเพราะหากบริษัทเจ้าของเครื่องมาทำความสะอาดบ่อยครั้งขึ้นก็สามารถแก้ไขปัญหาตะไคร่น้ำได้” นายณัฐวุฒิ กล่าว

    นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ในส่วนของทางเคมี พบว่า มีความกระด้างต่ำกว่าค่ามาตรฐานถึง 7 ตัวอย่างคิดเป็น 2% ในส่วนของค่าความเป็นกรดและด่างนั้น มีตกมาตรฐานถึง 64 ตัวอย่าง คิดเป็น 18.29% ทั้งนี้ เมื่อสอบถามจากผู้บริโภคพบว่า 50% ไม่มั่นใจในการซื้อน้ำดังกล่าว อีก 3% คิดว่า ไม่สะอาดเลย มีเพียง 47% ที่มั่นใจว่า น้ำที่จำหน่ายด้วยตู้อัตโนมัติสะอาด และเมื่อสอบถามกับผู้บริโภคที่นำภาชนะมาบรรจุว่า มีเพียง 14.11% ที่นำไปล้างทำความสะอาดภาชนะก่อนมาบรรจุน้ำทุกครั้ง มี 15% ที่ทำความสะอาดบ้างไม่ทำบ้าง และ 74.94% นำน้ำที่บรรจุไปดื่มทันที มีเพียง 10.42% นำไปต้ม และ 13.15% นำไปกรองก่อน ทั้งนี้ หากมีเชื้อจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนอาจทำให้ป่วยได้ จึงอยากแนะนำให้ผู้บริโภคนำไปต้มก่อนก็จะดี

    “ในภาพรวมแล้ว แม้ว่าจะมีการพบจุลินทรีย์ปนเปื้อนบ้าง มีค่าความเป็นกรดด้าง และความกระด้างของน้ำบ้าง ก็สามารถดื่มได้ไม่ต้องตื่นตระหนก แต่อย่างใด เพราะหากนำไปต้มก่อนบริโภคเชื้อโรคก็จะไม่เป็นอันตรายกับผู้บริโภค ทั้งนี้ ระบบการกรองที่เครื่องส่วนใหญ่ใช้ระบบผ่านเยื่อกรองที่มีขนาดเล็กมาก หรืออาร์โอ ซึ่งจากการเก็บข้อมูลพบว่า บริษัทเจ้าของเครื่องจำหน่ายต่างๆ มีอัตราการทำความสะอาดระบบกรองประมาณ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ หากให้ความสำคัญในส่วนนี้มากขึ้นก็จะเป็นเรื่องที่ดี ขณะเดียวกัน ฝ่ายผู้บริโภคเองก็ควรระมัดระวังในการทำความสะอาดภาชนะบรรจุให้ดีก่อนไปใส่น้ำ” นายณัฐวุฒิ กล่าว

    นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับตัวเครื่อง เพราะไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ชัดเจน แม้ว่าอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆ ที่นำมาประกอบจะมีมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) แต่เมื่อนำมาประกอบเป็นเครื่องจำหน่ายน้ำอัตโนมัติแล้วกลับไม่มีการควบคุมมาตรฐานและมีเจ้าภาพดูแลอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ในส่วนของเครื่องจำหน่ายน้ำดื่มอัตโนมัตินี้อยู่ในข่ายตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขเรื่องคุณภาพและมาตรฐานน้ำดื่มหยอดเหรียญ ซึ่งมีมาตรฐานน้อยกว่า มาตรฐานะของน้ำดื่มที่ อย.เป็นผู้ควบคุมดูแล ซึ่งคุมเข้มในหลายส่วน อาทิ สถานที่ตั้ง วัสดุอุปกรณ์ แหล่งที่มาของน้ำดื่ม ฯลฯ นอกจากนี้ หากจัดให้อยู่ในกฎหมายมาตรฐานของน้ำดื่มแล้ว เสนอแนะให้ผู้ประกอบการนำน้ำมาผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ อาทิ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ฯลฯ เป็นระยะเพื่อทดสอบคุณภาพของน้ำดื่มที่จำหน่ายให้ผู้บริโภค
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    อย่าทำเป็นเล่นๆกับพระกรุนี้ไปนะครับ กรุวัดพระแก้ววังหน้านี้ไม่ใช่พระแบบทั่วไปที่จะนำมาซื้อขายกัน แล้วนำรายได้ หรือกำไรเข้ากระเป๋าส่วนตัวได้ หรือให้บูชากัน แล้วรายได้แบบหักค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง ทำบุญส่วนหนึ่งก็ตาม "ผลกรรม"ยังไม่เกิดตอนนี้ ดูกันต่อไป จะรู้ว่าไม่คุ้มที่ทำอย่างนั้น หากไม่ทำตามคำแนะนำของการชำระหนี้สงฆ์แม้จะทำบุญรับมอบพระไปแล้วก็ตาม ยังมีเศษบาปอยู่ ทำให้ถูกต้องเถอะ ชำระหนี้สงฆ์เพียงสลึงเดียวผมก็ว่ายังแก้กรรมตรงนี้ได้ ผลกรรมเกิดเมื่อไหร่ เมื่อนั้นจะเกิดภาพนิมิตขึ้นมาว่าเราเคยได้ทำกรรมแบบนี้ไป สายไปแล้ว....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2007
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ผมได้ยินเรื่องการชำระหนี้สงฆ์จากการเทศน์ขององค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ จึงขอนำเรื่อง"การชำระหนี้สงฆ์"ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำจากที่"คุณเตอร์"ได้ post ไว้ที่เวป http://www.pranippan.com/new/board/index.php?showtopic=58&pid=299&mode=threaded&show=&st=&

    ขออนุโมทนากับ"คุณเตอร์"ด้วยครับที่นำมาเผยแพร่ให้ได้ทราบกัน และ

    http://www.firstbuddha.com/Buddha/dharma3.html

    คัดมาจากหนังสือธัมมวิโมกข์ ฉบับพิเศษ และหนังสือสมบัติ พ่อให้
    ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง อุทัยธานี




    "การชำระหนี้สงฆ์"
    โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

    ต่อไปนี้ก็จะขอนำเรื่องการชำระหนี้สงฆ์พร้อมทั้งตัวอย่าง ซึ่งจัดว่าเป็นเกร็ดความรู้ที่ได้ประสบมาเองมาเล่าให้ฟัง เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ท่านทั้งหลาย จะได้นำไปประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้อง อีกทั้งจะได้เป็นเครื่องป้องกันตัวเอง และผู้อื่นไม่ให้กระทำความชั่วต่างๆที่เกี่ยวกับของสงฆ์อีก ทั้งนี้ก็เพราะว่า ของทุกอย่างที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสมบัติของสงฆ์แล้ว จะเป็นสิ่งของหรือวัตถุเครื่องใช้อะไรก็ตาม จะมีราคามากหรือน้อยก็ตาม ผู้ที่นำไปใช้โดยพละการหรือทำสิ่งของเหล่านั้นเสียหาย จะต้องนำสิ่งของเหล่านั้นมาทดแทนให้เหมือนเดิม ไม่เช่นนั้นจะทำให้ผู้ล่วงละเมิดลงสู่อเวจีมหานรกได้โดยง่าย
    ในสมัยนี้ จะหาบุคคลที่เล่าเกี่ยวกับการชำระหนี้สงฆ์นี่ยากเต็มที พระขนาดไหนก็ตามไม่ค่อยจะมีใครพูดกัน เทศน์ก็ไม่เคยฟัง ได้ฟังอยู่สำนักเดียวคือสำนักของหลวงพ่อปานเท่านั้น หลวงพ่อปานนี่ท่านพูดถึงการชำระหนี้สงฆ์ทุกปี พอขึ้นปีใหม่หรือเข้าพรรษาใหม่ๆท่านก็ประกาศขอซื้อของสงฆ์ คำว่าซื้อของสงฆ์นี่ ท่านซื้อไม้ไผ่ ซื้อผลไม้ ซื้อดอกไม้ที่มีในวัดทั้งหมด ปีละ ๑๐๐ บาท ในสมัยนั้นค่าของเงินสูงมาก ท่านขอซื้อไว้ทั้งหมด
    ในเมื่อพระสงฆ์สาธุ ท่านจะมอบเงินจำนวนนั้นเป็นสมบัติของสงฆ์ เป็นสิทธิของสงฆ์ที่จะพึงใช้ จะใช้ได้ก็ต้องเอาเงินจำนวนนั้นไปใช้ในการก่อสร้าง หรือบำรุงสงฆ์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ท่านจะชวนพระชำระหนี้สงฆ์ ตัวท่านเองก็ชำระหนี้สงฆ์เหมือนกัน
    คราวนี้มาว่ากันถึงการซื้อของสงฆ์หรือชำระหนี้สงฆ์ก่อน ท่านทั้งหลายอาจสงสัยว่า ของต่างๆที่เป็นสิ่งก่อสร้างก็ดี วัสดุเครื่องใช้ต่างๆก็ดี หรือต้นไม้ใบหญ้าก็ดี ของที่อยู่ในวัดทั้งหมดถ้าหากเรารื้อหรือนำเอาไปใช้แล้วเกิดชำรุดเสียหาย ทำไมเราจะต้องสร้างแทนของเดิม ทั้งนี้เพราะทรัพย์สินต่างๆที่เขาสร้างไว้ในวัด เขาไม่สร้างให้พระองค์ใดองค์หนึ่ง เขาสร้างถวายบูชาพระพุทธเจ้า คำว่าของสงฆ์นี่นะ ต้องหมายถึงพระพุทธเจ้าเป็นประธาน เป็นของส่วนกลาง ไม่มีใครหรอกที่จะถือสิทธิว่าเป็นของฉัน จะมาชี้ว่า สมบัตินี่เป็นของฉัน เป็นของส่วนตัว ถ้าทำอย่างนั้นจะต้องลงนรกหมด เรื่องนรกนี่เขาไม่เว้นใครหรอก
    หลวงพ่อปานซื้อของสงฆ์เพราะของเหล่านี้มันอยู่ในวัด ท่านเป็นประมุขของวัด ความจริงถ้าเราจะคิดกันอย่างเราๆก็คิดว่าท่านควรมีสิทธิ ท่านจะให้ใครก็ได้ ท่านจะกินจะใช้อย่างไรก็ได้ แต่ทว่าพระวินัยแล้วไม่มีสิทธิ ของในวัดถ้าพระองค์ไหนปลูกไว้ถ้าเขาสึกแล้วก็ตาม เขาตายแล้วก็ตาม ของเหล่านั้นเป็นของสงฆ์ ถ้าหากเขายังบวชอยู่ เขามีอำนาจให้ใครก็ได้ กินเองก็ได้ ถ้าหากว่าเขาตายหรือสึกไปแล้ว พระองค์ใดองค์หนึ่งจะถือเป็นทายาทกินเองก็ดี ใช้เองก็ดี ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเป็นของสงฆ์เสียแล้ว เวลาจะกินจะใช้ก็ต้องประชุมสงฆ์ สงฆ์ทั้งหมดต้องประชุมอนุมัติว่าเราจะกินจะใช้ของประเภทนี้ด้วยวิธีการอย่างไร ถ้าหากว่าพระองค์ใดองค์หนึ่งก็ตาม เด็กก็ตาม ฆราวาสก็ตาม กรรมการวัดก็เถอะไปถือสิทธิ์ว่าฉันเป็นเจ้าหน้าที่ในวัด จะกินลูกไม้ลูกไหนก็ได้ จะเด็ดดอกไม้ดอกไหนก็ได้ จะโค่นต้นไม้ต้นไหนก็ได้ ไม้ลำไหนก็ได้ หน่อไม้หน่อไหนก็ได้ เอามากินมาใช้ส่วนตัวโดยที่สงฆ์ไม่ลงมติอนุมัติ อย่างนี้มีโทษไปอเวจีมหานรกแน่
    วิธีการของหลวงพ่อปานท่านซื้อของสงฆ์ ท่านซื้อแบบไหน ท่านบอกว่าต้นไม้ก็ดี ต้นเล็กๆไม่ใช่โค่นต้นใหญ่นะ ไม้ลำหรือไม้หน่อบางส่วนไม่ใช่ทั้งหมด เป็นเพียงส่วนเล็กน้อย หรือว่าลูกไม้ก็ตาม ดอกไม้ก็ตาม ถ้าใครจะเด็ดเอาไปดมเอาไปบูชา ท่านบอกว่าส่วนเล็กน้อยประเภทนี้ ฉันขอซื้อของสงฆ์ด้วยจำนวนเงิน ๑๐๐ บาท เพื่อป้องกันโทษของบุคคลผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ พระสงฆ์ก็สาธุ
    เป็นอันว่า เด็กก็ดี ผู้ใหญ่ก็ดี ที่ได้กินมะม่วงบ้าง ฝรั่งบ้าง ผลไม้ที่มีอยู่ในวัดมีอยู่เยอะ ใครอยากกินอะไรก็เอามากินได้ตามชอบใจเพราะหลวงพ่อปานท่านซื้อแล้ว พอท่านซื้อท่านก็ให้สิทธิ์อนุญาต อย่างนี้เอาไปกิน เอาไปใช้ได้
    เรื่องชำระหนี้สงฆ์ พอถึงวันเข้าพรรษาคนทำบุญมาก ท่านก็ประกาศแก่คนทุกคนว่าใครจะชำระหนี้สงฆ์บ้าง ของสงฆ์ตกอยู่ที่ไหนเรียกว่า ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ อย่างวัดร้างที่ปรากฏเป็นดินเปล่า ไม่มีฐานะแสดงว่าเป็นวัดก็ดี หรือบางแห่งแสดงฐานะว่าเป็นวัดแต่อยู่ในป่าในดงก็ตาม หรือที่มีพระก็ตาม เราจะไปนำสิ่งของอะไรมาก็ตามในเขตนั้น จะเป็นต้นหญ้าสักต้น ไม้หักสักอันก็ตาม เขาถือว่า ของเหล่านั้นเป็นของสงฆ์ หรือว่าถ้าใครยึดแผ่นดินของสงฆ์ไว้เป็นสมบัติส่วนตัวละก็ ซวยขนาดหนัก แบบนี้มีผู้เรืองอำนาจรุกรานสงฆ์เคยตกนรกขุมที่ ๗ มาแล้ว
    ท่านก็บอกว่า คนเราทั้งหมดนี่นะจะรู้ได้อย่างไร ไม้ลอยน้ำมาหน้าบ้าน เราเห็นว่าไม่มีเจ้าของ เอาเข้ามาทำฟืน แต่ถ้าไม้นั้นมันมาจากวัดก็ถือว่าเป็นไม้ของวัด เป็นของสงฆ์ ไปเอาเข้ามันก็บาป ต้นไม้หญ้า ต้นฟาง ที่มันอยู่กลางทุ่ง สถานที่อย่างนั้น อาจจะเคยเป็นวัดมาก่อนก็ได้ เขาเคยถวายเป็นของสงฆ์ แต่ว่าสภาพวัดมันสูญไป ของที่อยู่ในวัดนั้นทั้งหมด แม้แต่แผ่นดินก็ยังเป็นของสงฆ์ เราไปเอาต้นหญ้ามาต้นเดียวก็เป็นบาปแล้ว โทษของสงฆ์นี่หนักมาก
    แล้วท่านก็ชวนชาวบ้านชำระหนี้สงฆ์ ว่าใครจะชำระหนี้บ้างด้วยเงินจำนวนเท่าไหร่ก็ตาม เอามารวมกันแล้วประกาศต่อหน้าสงฆ์ ขอชำระหนี้สงฆ์ว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2007
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ chaipat [​IMG]
    เรียน ท่านพี่เพชร

    มีหลายท่านสนใจเรื่องพระประจำตัวกันครับ
    หลายคนครับ ผมใคร่ขอเรียนเสนอ

    การจัดพระประจำตัวดีไหมครับ ท่านใดได้ข้อมูลแล้ว
    ก็สร้างบุญสร้างกุศล ไปพร้อมด้วยก็ดีนะครับ

    สาธุครับ[​IMG][​IMG][​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ขอเพิ่มเติมนิดเดียว

    ได้อ่านหนังสือ ได้ฟังปู่เล่าให้ฟัง ได้ฟังพี่ๆเล่าให้ฟัง หลวงปู่ท่านสอนอะไร ต้องพยายามทำนะครับ หลวงปู่ท่านสอนคำสั้นๆ ไม่ยาว แต่ได้ใจความสำคัญ ทำได้เลิกกันในชาตินี้ ไม่ต้องวนเวียนว่ายอยู่อีก พี่เองก็พยายามทำในสิ่งที่หลวงปู่ท่านสอนไว้ เอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“เกลียดกันเข้าไส้”
    ทำไงดี เมื่อต้องร่วมงานกัน ?
    http://www.manager.co.th/lady/viewnews.aspx?NewsID=9500000110169
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ถนอมจิต คงจิตต์งาม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 กันยายน 2550 11:52 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> thanomjit8@yahoo.com

    บัวหลากสีไม่ว่าสายพันธุ์ใด ยามเบ่งบานรับแสงตะวันดูงามงดเหมือนกันหมด หากมีโอกาสโผล่พ้นน้ำขึ้นชูช่อ ความสวย ความหอมจะหลอกล่อหมู่แมลงให้บินวนเวียนไปมา สร้างความสุขใจแก่ผู้พบเห็น

    ดอกบัวคือดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของความสงบ เห็นดอกบัวเรามองเห็นความนิ่ง ความเยือกเย็นที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน ยามบัวแย้มบานเราเห็นความรื่นรมย์ของทุกสรรพสิ่งรอบตัว

    แต่ถ้าตัดฉับกลับมายังภาพยามเย็นช่วงโพล้เพล้ ที่แสงอาทิตย์จวนเจียนลับหายไปจากขอบฟ้า เห็นแต่ความขมุกมัวในความสลัวราง ใจเราก็สัมผัสได้ถึงความวังเวง หดหู่ หมองเศร้า

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บัวหลากสี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ศิลปินอาจมองว่าได้เป็นความตรึงใจแบบฟิล์มนัว มืดมน หม่นหมอง เหงา เศร้า แต่สร้างสุขได้อีกแบบ

    ภาพเหล่านี้ เป็นภาพสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตมนุษย์ เดี๋ยวแจ่มใส เดี๋ยวหดหู่ ปะปนสลับคละเคล้ากันไป ในแต่ละวัน อารมณ์ของคนทุกข์ ดี๋ยวสุข วันละนับร้อย นับพันครั้ง เหมือนภาพดอกบัวสดใสตัดกับภาพตะวันตกดินที่หม่นเศร้า หากให้เลือก เราคงอยากพบกับความแจ่มใส รื่นรมย์เพียงด้านเดียวมากกว่า

    ที่คิดเรื่องนี้ เพราะวันก่อนมีโอกาสได้เจอบรรดาเพื่อนพ้องน้องพี่หลายคน ทั้งที่เป็นลูกน้องและทั้งที่เป็นเจ้านาย น่าแปลก คุยเรื่องเที่ยว คุยเรื่องครอบครัว แล้วก็ต้องมาจบกันด้วยเรื่องของคนที่ต้องทำงานร่วมกัน

    ดิฉันเชื่อว่า ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนตื่นขึ้นมาแล้วไม่อยากไปทำงาน ก็คือการต้องเผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมงานที่ไม่ชอบหน้ากัน แต่ที่กลายเป็นปัญหาก็คือ มีงานที่ต้องทำงานร่วมกันเสียด้วยซิ พูดง่ายๆก็คือ “เกลียดกันเข้าไส้ แต่ต้องทนทำงานร่วมกัน”

    คนส่วนใหญ่ใช้เวลาทำงานมากกว่าอยู่บ้าน โอกาสที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง หรือคนในครอบครัว จึงมีมาก เจอสถานการณ์อย่างนี้เข้า หากคิดทางออกให้ตัวเองไม่ได้ก็ย่ำแย่ สุขภาพจิตก็จะตกต่ำไปเรื่อยๆ

    ความไม่ค่อยจะลงรอยกันของคนทำงาน มีหลากหลายสาเหตุตั้งแต่ไม่ชอบหน้า หมั่นไส้เล็กน้อย รุนแรงมากก็คือถึงขั้นทำงานร่วมกันไม่ได้

    ถ้าเกลียดกันแล้วยังต้องทำงานร่วมกันนี่สิ แสบสันต์ที่สุด เป็นชีวิตที่ขมขื่นยิ่งกว่าเลือกแต่งงานกับคนผิดเสียอีก เพราะแต่งได้ก็เลิกได้ แต่เลือกที่จะทำงานกับคนไม่ชอบหน้ากันมันเลือกไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องงาน ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว

    บอกได้เลยงานนี้อย่าหวังพึ่งพาเจ้านายขี่ม้าขาวมาช่วย เพราะเจ้านายอาจไม่เห็น ไม่รู้ หรือรู้ก็คิดไม่ออกว่าจะทำยังไง จำไว้ว่าตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน เราต้องหาทางออกให้ตัวเองให้ได้

    ความรู้สึกของมนุษย์เป็นเรื่องประหลาดยิ่งนัก ความรักกับความเกลียดเหมือนเป็นเหรียญสองด้านที่อยู่ร่วมกัน บางครั้งยากที่จะห้ามไม่ให้รักก็รัก ไม่อยากให้เกลียดก็ทำไม่ได้ บางคนเกลียดคนอื่นโดยที่เขาไม่รู้ตัว แต่ที่หนักหนาสาหัสก็คือ ต่างคนต่างก็เกลียดชังกันและกัน

    หากใครเจอปัญหานี้มีวิธีเดียวคือต้องเปลี่ยนตัวเรา เพราะเปลี่ยนได้ง่ายกว่าไปเปลี่ยนคนอื่น

    ลองเปลี่ยนมุมมองดูไหม ดิฉันว่ามุมนี้ใช้ได้กับความเกลียดทุกประเภท ทั้งที่เป็นเพื่อนร่วมงาน แฟนเก่า สามี ภรรยา ที่อยู่ด้วยกันทุกวัน เพื่อนบ้านที่รั้วติดกัน หรือแม้กระทั่งความเกลียดชังพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงที่สร้างปมเจ็บร้าวลึกให้เรา

    ลองมองเขาแบบที่เขาเป็นคนธรรมดา มีเลว มีดี มีปะปนกันอยู่ในร่างเดียวกัน เราก็จะไม่ถือโทษโกรธเคืองเขาจนเกินเหตุ เพราะเขาก็คือคนธรรมดา เป็นบัวก็ยังไม่รู้จะโผล่พ้นน้ำหรือไม่ เหมือนกับเราเหมือนกัน

    ส่วนในบทบาทสมมุติ สมมุติว่าเป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เป็นสามีภรรยา

    หากเราต้องเกี่ยวข้องเป็นเพื่อนร่วมงานก็ทำงานร่วมกันให้งานสำเร็จ เอาตัวตนออกไปเสียคิดถึงแต่งานเป็นที่ตั้ง หากเป็นพ่อแม่ก็ต้องบูชาเลี้ยงดู เป็นเจ้านายก็ต้องให้ความเคารพ เรามีหน้าที่ต้องทำต่อเขาอย่างไรก็ต้องทำไปตามนั้น

    อย่าไปมองความเป็นคนปะปนกับบทบาทสมมุติที่เขาเป็นอยู่ เพราะเราจะคิด จะคาดหวังให้เขาดีกว่านี้ เขาน่าจะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ เขาเองก็คงคาดหวังว่าเราน่าจะดีกว่านี้เช่นกัน

    ยามนี้ไม่ว่าใครเกลียดใครก็ตาม ดิฉันว่าน่าจะหันไปดูความเศร้าสลดจากความสูญเสียของผู้คนที่ประสบอุบัติเหตุที่ภูเก็ต

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ตะวันตกดิน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> สิ่งเหล่านี้อาจให้ข้อคิดเตือนใจ
    เราไม่รู้เลยว่าวันไหนจะเป็นวันที่เราต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
    รู้วันเกิด มิรู้วันตาย
    เราไม่รู้เลยว่า วันไหนคนที่เราแสนเกลียดชังอาจจะไม่มีโอกาสกลับมาให้เราได้เกลียด ได้ขอโทษที่เราเคยเข้าใจผิด
    น้อยคนนักที่จะอายุยืนยาวถึงร้อยปี


    แต่ละวันของเราผ่านไปเร็วนัก แต่เราใช้เวลาให้หมดไปจมอยู่ความเกลียดชัง จนไม่มีทีว่างให้กับความสนุกสนาน และความรื่นรมย์อย่างอื่นในชีวิต แค่เห็นชายกระโปรงก็หมดความรู้สึกดีๆ ที่อุตส่าห์เว้นวรรคลางานไปชาร์จแบตเสียแล้ว

    กลายเป็นว่าคนที่เรารู้สึกเกลียดที่สุด เข้ามาอยู่ในชีวิตเรามากกว่าคนที่เรารักเสียอีก

    ลองหยุดความเกลียด เริ่มต้นเรียนรู้ที่จะรัก เริ่มต้นที่จะหัดปรารถนาดีกับคนอื่น โดยไม่ต้องหวังสิ่งตอบแทนใดๆ คืนกลับ ทำให้เพราะอยากทำ ไม่ต้องมีเหตุผลประกอบมากมายนัก

    ส่วนคนอื่นเขาเกลียดเรา เขาคิดไม่ได้ ก็เรื่องของเขา เป็นปัญหาของเขา เขาก็รุ่มร้อนนอนไม่หลับไปเอง เราหันมาใส่ใจตัวเองด้วยการคิดดี พูดดี ทำดีให้ได้ก่อน หากเราเข้มแข็งพอ เชื่อเถอะว่า แม้จะเกลียดกันเข้าไส้ ก็ยังทำงานร่วมกันได้

    ปัจจุบันเป็นโมงยามที่สำคัญที่สุด อย่าเสียเวลาไปกับความโกรธ ความเกลียดเลย

    เพราะเรายังไม่รู้เลยว่า.... เราจะมีวันพรุ่งนี้อีกหรือไม่
    อยากจะรื่นรมย์แบบบัวสวย หรือหดหู่แบบตะวันตกดินตลอดเวลา เราเลือกเป็นได้ทั้งนั้น
    ชีวิตเป็นของเรา เลือกออกแบบได้ตามใจชอบ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ร่วมทำบุญถวายห้องสุข(า)ถวายหลวงปู่ทองดี อนีโฆ วัดใหม่ปลายห้วย พร้อมรับพระและวัตถุมงคล
    http://palungjit.org/showthread.php?t=87911&page=13

    <TABLE class=tborder id=post712851 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 08:18 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #250 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Dej Amarin<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_712851", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:18 PM
    วันที่สมัคร: Feb 2007
    ข้อความ: 38 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 37 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 274 ครั้ง ใน 41 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_712851 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ขอนุโมทนาบุญ
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ก่อนอื่นผมกราบขอโทษผู้ร่วมบุญอย่างสูงครับที่ต้องทำให้ลูกศิษย์ผมผิดคำพูดขอโทษอย่างสูงครับ(จังหวะบุญมันไหลขอจงอนุมทนาเทอญครับ ) สาธุ
    ผมได้นำปัจจัยส่วนหนึ่งไปถวายกับพระเดชพระคุณหลวงปู่แล้วจำนวน
    50,000 บาทถ้วนและมีคณะของคุณ ฉัตรเทพไปถวายอีกจำนวน 1 ห้อง รวมได้ถวายไปแล้ว 11 ห้อง คงจะนำไปถวายอีกครั้งในวันที่ 23 ต.ค. 50 ครับ
    พรุ่งนี้คงจะได้ชมภาพเหตุการณที่ได้ถวายปัจจัยกับหลวงปู่และห้องน้ำที่สร้างเสร็จแล้ว( เร่งสร้างเพื่อให้ทันงานรับเสด็จ ) ผมไปกราบหลวงปู่ขณะที่หลวงปู่ท่านอาพาธท่านยังรับถวายปัจจัยและหลวงปู่ขออนุโมทนาส่วนบุญที่ทำกับทุกท่านด้วยหลวงปู่ท่านเป็นผู้สร้างและผู้ให้ เปรียบเหมือนท่านเป็นเทียนตั้งไว้บูชาคอยผู้มาจุดเพื่อให้เกิดแสงสว่างแห่งธรรม เมื่อท่านมีเวลาอยู่ก็จงทำเสียอย่ามัวไปแต่จะทำ แล้วเมื่อไรละจะได้ทำไม่ได้ทำด้วยวัตถุปัจจัยก็ร่วมอนุโมทนาบุญก็มีส่วนแห่งบุญแล้ว ทำบุญแล้วก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลบอกกล่าวเทวดารักษาตัวของท่านเทวดารักษากิจการงานบ้านเรือนของท่านด้วยท่านเทวดาจะได้มีพลังส่งผลมายังท่านตัวท่านและกิจการงานบ้านเรือน ร้านค้า ให้มีโชคลาภต่าง ๆ นานาอย่าลืมบอกกล่าวกันซะละ
    หลวงปู่ท่านกล่าวว่ารับผิดชอบแล้วทำสำเร็จนะมันดีมาก ไม่ใช่รับผิดชอบแล้วจะให้วัดดำเนินการมันไม่ดี( พวกเราที่ทำอยู่ขณะนี้ท่านบอกว่าถูกต้องแล้วท่านกล่าวกับผมครับ ) ขอให้ท่านทั้งหลายที่ร่วมบุญจงประสพพบแต่สิ่งดีงาม ขอให้ท่านทั้งหลายจงได้แก้วสารนึกทุกท่านด้วยเทอญ สาธุ
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 10 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, aries2947+, โลกิยะ, chaipat+, onimaru_u </TD></TR></TBODY></TABLE>

    พวกเราต้องเตือนกันก่อน ก่อนจะถูกเตือนนะน้องchaipat และน้องaries2947

    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มีคำถามมาถามกันครับ แต่ไม่มีรางวัลให้ครับ

    ถามว่ารูปทั้งสองรูปนั้นเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ระยะเวลาที่ถ่ายรูปนั้น ห่างกันไม่ถึง 30 วินาทีครับ ติ๊กตอก ติ๊กตอก ติ๊กตอก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ


    [​IMG]

    [​IMG]
    .
     
  13. thanyaka

    thanyaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +2,497
    7.พระจิตรดา (ด้านบนองค์ขวา) (เนื้อกรมท่า)<O:p</O:p
    มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 800 บาท
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    8.พระพิมพ์ไตรโลกอุดร (เนื้อกรมท่า) ด้านล่างองค์ซ๊าย<O:p</O:p
    มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 500 บาท
    <O:p</O:p

    9.สมเด็จวังหน้า (เนื้อสีขาว) ด้านล่างองค์กลางและองค์ขวา<O:p</O:p
    มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 400 บาท

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    [​IMG]

    ขอจองอย่างละ 1 องค์ค่ะ ขอเป็นสิ้นเดือนนะคะ
     
  14. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ไม่มีเจตนาจะทำให้เสียกำลังใจครับ การมอบพระวังหน้าพิมพ์ใดก็แล้วแต่นั้น จุดเสี่ยงที่ไม่คุ้มกับผลกรรมนั้น มันหนักกว่ากรุวัดธรรมดาทั่วไป เพราะนี่คือ"วัง" ของกษัตริย์ หรือของพระมหาอุปราช ดังนั้นต้องเตือนกันในกระทู้ของพวกเรานี่แหละ กระทู้อื่นจะนำมาทำอย่างไรช่างเขา เราไม่ไปยุ่ง และขออย่าได้นำมาถามในกระทู้ของเราว่า ทำไมที่นั่นถูกกว่า แล้วต่างกันยังไง หรืออะไรในทำนองนี้ ไม่ว่าของนั้นจะถูก หรือแพงก็ตามก็ต้องทำให้ถูกต้อง สาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่ถูก หรือแพง ขอให้ดูเจตนาของผู้มอบ และการบอกกล่าวข้อมูลในรายละเอียดของงานบุญนั้น ของพระองค์นั้นพิมพ์นั้น รวมทั้งการบอกกล่าวเรื่องการชำระหนี้สงฆ์เป็นสำคัญ รวมความว่า ผู้มอบต้องสามารถอธิบายให้คุณมั่นใจได้ว่า ดี และดีอย่างไร ไม่ดี ไม่ดีอย่างไร ก็คือต้องวัดดวงด้วยกันทั้งนั้นไม่ว่าจะถูกจะแพง แต่คุณพอใจหรือไม่เท่านั้นครับ เพราะบางท่านพอใจเพียงแค่ว่าขอแค่ทันสมเด็จโต บางท่านก็อยากรู้มากกว่านั้นว่า ตกลงสมเด็จโตท่านสร้างใช่หรือไม่ ขนาดบอกว่าท่าน"เสก" ยังอยากทราบต่อว่า"สร้าง"หรือไม่ แบบนี้ก็คงต้องไปปฏิบัติเองแล้วหนอ มาถึงขนาดคุณหนุ่ม คุณพันวฤทธิ์ แจ้ง"รังสี"ของหลวงปู่แล้ว ผมก็ว่าละเอียดแล้วนะ...
     
  15. thanyaka

    thanyaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +2,497
    เป็นเนื้อปูนเพชรใช่ไม๊คะ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ของเก่าเล่าใหม่

    <TABLE class=tborder id=post217657 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">24-03-2006, 08:51 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #474 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_217657", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:38 AM
    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 15,080 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 18,187 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 84,146 ครั้ง ใน 11,377 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 9951 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_217657 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message --><O:pอานิสงส์ของการให้ทานด้วยตนเองและชวนผู้อื่น
    http://www.pratatlanna.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=pratatlannacom&thispage=1&No=131570
    ffice<O:p</O:p

    พระพุทธพจน์
    "บุคคลบางคนในโลกนี้ให้ทานด้วยตน (แต่) ไม่ชักชวนผู้อื่น, เขาย่อมได้โภคสมบัติ
    (แต่) ไม่ได้บริวารสมบัติ ในที่แห่งตนเกิดแล้วๆ,
    บางคนไม่ให้ทานด้วยตน ชักชวนแต่คนอื่น, เขาย่อมได้บริวารสมบัติ (แต่)
    ไม่ได้โภคสมบัติ ในที่แห่งตนเกิดแล้วๆ;
    บางคนไม่ให้ทานด้วยตนด้วย ไม่ชักชวนคนอื่นด้วย,
    เขาย่อมไม่ได้โภคสมบัติไม่ได้บริวารสมบัติ ในที่แห่งตนเกิดแล้วๆ;
    เป็นคนเที่ยวกินเดน
    บางคนให้ทานด้วยตนด้วย ชักชวนคนอื่นด้วย, เขาย่อมได้ทั้งโภคสมบัติและบริวารสมบัติ
    ในที่แห่งตนเกิดแล้วๆ."


    บริวาร ความหมายคือ ผู้แวดล้อม, ผู้ห้อมล้อม ติดตาม, ผู้รับใช้

    คนบางคนมีสมบัติมาก แต่เพื่อนแท้ไม่มี ลูกน้องไม่ดี ไม่เชื่อฟัง (คนที่แวดล้อม
    ไม่ได้เข้ามาด้วยความผูกพันในบุญกุศล บางทีอาจจะรู้สึกว่าไม่มีใครที่จริงใจเลย)
    คนบางคนไม่ได้ร่ำรวย แต่พร้อมไปด้วยเพื่อนดีๆ
    และผู้ที่คอยรับใช้ช่วยเหลืออย่างจริงใจ
    คนบางคนไม่รวยด้วย ไม่มีเพื่อนด้วย
    คนบางคนพร้อมด้วยสมบัติและเพื่อนที่ดี ผู้คอยช่วยเหลือ บริวารทั้งหลายดี
    ด้วยกำลังของบุญกุศล การที่เคยร่วมบุญกันมา



    วัตถุสิ่งของใดๆที่นำไปทำทาน จะเกิดผลบุญมากน้อยอย่างไร ก็เกิดที่ใจ
    ไม่ได้เกิดตามวัตถุที่มากน้อยนั้นๆเลย
    วัตถุที่เราหวงแหน สมบัติที่หามาได้ยากลำบาก
    เรายอมแบ่งส่วนสละออกให้ผู้อื่นไปใช้ประโยชน์บ้าง ใจอย่างนี้จึงประเสริฐ
    หลักการให้ทานพึงให้ทานโดยเคารพ ให้ทานด้วยมือของตน ให้ทานด้วยความนอบน้อม
    มิได้ให้ทานอย่างทิ้งให้

    การทำทานด้วยจิตอนุเคราะห์ ให้ แม้ของเพียงเล็กน้อยแล้วชื่นหัวใจ
    ความชื่นหัวใจนี่หล่ะเป็นยาบำรุงใจชั้นดีเชียว
    ผมเคยเห็นเด็กพิการคนหนึ่งที่หูหนวก บ้านอยู่ลึกในป่า ความเป็นอยู่อัตคัต
    เห็นพระและเณรผ่านมา ได้ตักน้ำเปล่าประเคนให้
    พระเณรท่านฉันแล้วชื่นใจคลายร้อน ผมยังปลื้มถึงบุญของเขาไม่หายเชียว

    บางคนทำบุญด้วยเงิน สมบัติต่างๆ อยากได้ผลอะไรเหมือนการลงทุน ซื้อสวรรค์
    ชื้อความปลอดภัยจากเจ้ากรรมนายเวร ฯลฯ ไม่ได้ทำด้วยทานจิต
    ผลบุญนั้นได้น้อยมาก
    เพราะความโลภซึ่งเป็นขั้วตรงข้ามกับความสละออกความโลภเอาไปกินหมด
    ทำทานด้วยความเข้าใจผิดๆ
    เคยมีเจ้าของซ่องโสเภณี บริจาคสร้างวัด(ชื่อวัดคณิกาผล) สมัยสมเด็จพระพุฒาจารย์โต
    วัดระฆัง
    สมัยนั้นเป็นแฟชั่น คนมีเงินจริงต้องแสดงออกด้วยการสร้างวัด
    เจ้าของซ่องโสเภณีก็อยากมีหน้ามีตา
    สมเด็จฯ ท่านเทศน์สอนในงานที่ฉลองวัดใหม่ว่า ได้บุญเพียงสลึงเฟื้อง

    แม้บุญเล็กน้อยก็อย่าประมาท ค่อยๆสะสมบุญที่เกิดจากใจสละที่ถูกต้อง
    ผ่านกาลเวลาไปกองบุญย่อมเพิ่มพูน ต่อยอดอย่างคาดไม่ถึง
    เหมือนคนจีนเสื่อผืนหมอนใบ ขยันประหยัดสร้างตัวมาเป็นเศรษฐี
    ด้วยความที่เคารพในการเก็บเงินแม้เงินเล็กน้อยก็ตาม


    ผู้ตั้งกระทู้ นันทภพ ::วันที่ลงประกาศ 07-01-2006 21:20:25
    </O:p
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ของเก่าเล่าใหม่ ประสบการณ์คุณพุทธันดร

    <TABLE class=tborder id=post237238 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">03-05-2006, 06:52 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #625 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_237238", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:09 AM
    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 15,083 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 18,193 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 84,154 ครั้ง ใน 11,379 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 9952 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_237238 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เมื่อวันที่ 1 พค.49 ที่ผม ,ลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ประถม ท่านหนึ่ง ,พี่ตุ่น ,คุณพุทธันดร ได้ไปหาท่านอาจารย์ประถมนั้น เกิดเรื่องราวที่หาคำอธิบายไม่ได้ คือ ในช่วงตอนบ่ายหลังจากกลับมาจากการรับประทานอาหารกัน คุณพุทธันดร ได้นำกล้องถ่ายรูป ไปถ่ายรูปโต๊ะหมู่บูชาที่บ้านท่านอาจารย์ประถม โดยคุณพุทธันดร ได้ให้น้องเป็นผุ้ที่ถ่ายรูปให้ แต่คุณพุทธันดรกับน้องได้ขออนุญาตหลวงปู่แล้ว ปรากฎว่า ถ่ายได้ประมาณ 6 รูป เกิดไฟในห้องพระดับ คุณพุทธันดรตกใจ ก็เลยจุดธูปบอกหลวงปู่ ในขณะเดียวกัน ลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ประถม ที่ไปพร้อมกัน ได้ไปปิด เปิดสวิทไฟอีกครั้ง แต่ปรากฎว่า ไฟก็ยังดับอยุ่ ผมเองก็เลยอาสาที่จะถ่ายรูปให้โดยใช้แฟรช ผมก็ได้ถ่ายรูปให้จนเสร็จเรียบร้อย หลังจากนั้น คุณพุทธันดร ได้ลากลับไปก่อน ในขณะที่คุณพุทธันดร เดินออกจากบ้าน ปรากฎว่าลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ประถม ได้ลุกขึ้นไปลองเปิดไฟในห้องพระอีกครั้ง ผลปรากฎว่า ไฟติดเป็นปรกติ ก็เลยรีบไปแจ้งคุณพุทธันดร คุณพุทธันดร กลับเข้ามาอีกครั้ง เห็นไฟติด ตกใจ และรีบไปกราบหลวงปู่ เพื่อขอขมาในสิ่งที่ไม่รู้ว่า มีการล่วงเกินหลวงปู่หรือไม่ ท่านอาจารย์ประถม ท่านบอกว่า ไม่มีอะไรหรอก หลวงปู่ท่านมาและแสดงให้คนที่อยู่ที่นั่นได้รู้ว่า ท่านมา ผมเองก็บอกกับคุณพุทธันดรว่า ไม่มีอะไร หลวงปู่ท่านมาหยอกครับ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่หาสาเหตุไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไร ทั้งๆที่ขั้วของหลอดไฟก็ไม่ดำ หลอดก็เป็นหลอดที่เพิ่งใช้ได้ไม่นานครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ของเก่าเล่าใหม่ครับ

    <TABLE class=tborder id=post244978 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">28-05-2006, 07:08 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #679 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>guawn<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_244978", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:44 AM
    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 8,086 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 12,510 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 26,534 ครั้ง ใน 5,264 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 3478 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_244978 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->การทำบุญที่ไม่มีการหักค่าใช้จ่าย
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ผมขออนุโมทนาอย่างสูงกับความตั้งใจในการทำบุญครั้งนี้โดยการนำสมบัติส่วนตัวที่คุณ sithiphong ห่วงแหนมาร่วมทำบุญพร้อมการจัดส่ง โดยไม่มีการหักค่าใช้ใดๆทั้งสิ้น ขอให้อนิสงค์ผลบุญนี้จงสำเร็จแก่คุณ sithiphong ขอให้คุณ sithiphong จงมีแต่ความสุขความเจริญ ส่วนตัวผมจะขอช่วยอีกแรงพร้อมทั้งขอเชิญทุกท่านที่เข้ามาอ่านร่วมช่วยกัน

    ถ้ามีข้อสงสัยในการทำบุญครั้งนี้ขอเรียนเชิญเดินทางมาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้เพื่อเห็นสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริง
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...