หนุ่มฮ่องกงลาออกงานขายทรัพย์สินเพื่อใช้เงินก่อนวันสิ้นโลก

สื่อในฮ่องกง รายงานว่า การที่มีหลายคนเชื่อตามปฏิทินของชาวมายาว่า วันที่ 21 ธันวาคม
จะเป็นวันสิ้นโลก ทำให้ชายชาวฮ่องกงวัย 40 ปีคนหนึ่ง ซึ่งเคยทำงานด้านไอที และหาเลี้ยง
ครอบครัว และใช้จ่ายอย่างประหยัด ได้ขายแฟลตที่เขาพักอาศัยและข้าวของทั้งหมด เมื่อ 6
เดือนก่อน และใช้เงินทั้งหมดไปอย่างรวดเร็ว

ชายผู้นี้ลาออกจากงาน ขายแฟลตและเดินทางไปทั่วทุกหนทุกแห่ง รับประทานอาหารในร้านหรู
และพักตามโรงแรม เขารูดบัตรเครดิตทุกใบ และยังขอยืมเงินคนอื่นด้วย ด้วยความเชื่อว่า จะหา
ความสุขใส่ตัวก่อนที่ชีวิตจะดับสูญไปพร้อมกับวันโลกาวินาศ และเมื่อครอบครัวไม่สามารถจะ
เปลี่ยนความเชื่อของชายผู้นี้ได้ จึงต้องขอความร่วมมือจากนักจิตวิทยา

นักจิตวิทยา กล่าวด้วยว่า ถ้าวันโลกาวินาศไม่เกิดขึ้นจริง ชีวิตของชายผู้นี้ก็มีสิทธิ์จะพังพินาศ
เพราะกองหนี้มหาศาล ซึ่งปัจจุบัน มีผู้ป่วยทางจิตที่เชื่อเรื่องโลกาวินาศ แบบเดียวกันนี้ 8 คน
แล้ว และพฤติกรรมที่แสดงออกมาของคนเหล่านี้ ก็มาจากแรงกดดัน และไม่ควรจะไปตำหนิ
พวกเขา พวกเขาต้องการความเข้าใจและกำลังใจจากคนในครอบครัว และมีความเสี่ยงที่คน
ที่เครียดเหล่านี้ อาจจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเองก่อนที่จะถึงวันที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นวันสิ้นโลก

ปฏิทินรอบยาวของชาวมายา ใช้ระยะวงโคจรของโลกในรอบ 5 พันปี และสิ้นสุดลงในวันที่
21 ธันวาคม 2012 จากการสำรวจทางออนไลน์ ที่จัดทำโดย ฮ่องกง โกลเด้น และ โซนี่
คอมพิวเตอร์ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ฮ่องกง พบว่า 14 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ถูกสำรวจ 1,115 คน
และ 80 เปอร์เซ็นต์ ในจำนวนนี้ เป็นคนที่เกิดหลังยุคทศวรรษที่ 1980 ระบุว่า พวกเขาวิตก
อย่างมาก ถึงมากที่สุด ต่อคำทำนายเรื่องวันสิ้นสุด

มีผู้ถูกสำรวจถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ที่รู้สึกหวาดกลัว หรือ หมดหวังเมื่อทราบรายงานข่าวเกี่ยว
กับคนฆ่าตัวตาย แต่อีก 66 เปอร์เซ็นต์ บอกว่า ไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าเกิดวันโลกาวินาศขึ้นมา
จริง ๆ ก็พบว่า มีอยู่ 29 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าจะอยู่กับพ่อแม่ ส่วนอีก 21 เปอร์เซ็นต์ ต้องการ
อยู่กับคนรัก และเมื่อถามว่า คิดว่าใครจะเป็นผู้กอบกู้ในอุดมคติของพวกเขา พบว่า 33
เปอร์เซ็นต์ เลือกนายเหลียง กั๊วะ หง ส.ส.ผมยาวจากพรรคสันนิบาตสังคมประชาธิปไตย
ซึ่งมากเป็น 4 เท่า ของคนที่เลือกนายเหลียง เจิ้น-อิง ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง

 

กาลามสูตรกังขานิยฐาน 10 หมายถึง วิธีปฎิบัติในเรื่องที่ควรสงสัย หรือหลักความเชื่อ ที่ตรัสไว้ในกาลามสูตร

อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา (มา อนุสฺสเวน)
อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสีบๆกันมา (มา ปรมฺปราย)
อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ (มา อิติกิราย)
อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน)
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก (มา ตกฺกเหตุ)
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน (มา นยเหตุ)
อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน)
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา)
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย)
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ)

 

ประมาทอย่างยิ่ง ><

 

คนไทยคงไม่มีอย่างนี้มั๊ง

เพราะเราเป็นเมืองพุทธ

อย่างน้อยก็รู้จักเดินสายกลาง

 

ญาติมิตรเผย แม่มือปืนกราดยิง ร.ร. “วิตกจริต” เชื่อโลกใกล้ล่มสลาย


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 ธันวาคม 2555

เดลิเมล์/เอเจนซีส์ - บรรดาเพื่อนฝูงและคนในครอบครัวของมือปืนผู้ก่อเหตุบุกเดี่ยวกราดยิงโรงเรียนประถมในมลรัฐคอนเนตทิคัต เผย แนนซี แลนซา มารดาของฆาตกรสังหารหมู่รายนี้ อาจเป็นต้นเหตุสำคัญสำหรับอาการผิดปกติทางจิตของเขา เนื่องจาก เธอมีความเชื่อว่าโลกกำลังเผชิญภาวะล่มสลายทางเศรษฐกิจ และคอยวิตกกังวลว่าตัวเองจะต้องเป็นผู้รอดชีวิต

ญาติสนิทมิตรสหายของแนนซี แลนซา วัย 52 ปีกล่าวว่า เธอกำลังเตรียมตัวสำหรับเอาตัวรอดจากการล่มสลายของสังคมศิวิไลซ์ ด้วยการสะสมอาหาร น้ำ และปืนไว้ในบ้านหลังใหญ่ ที่เธออาศัยอยู่กับลูกชาย อดัม แลนซา วัย 20 ปี เพียง 2 คนในคอนเนตทิคัต

เธอกลายเป็นหมกมุ่นกับปืน และคอยสอนวิธีการยิงแก่อดัม และไรอัน ลูกชายคนโต หรือแม้แต่พาพวกเขาออกไปสนามฝึกยิงปืนในละแวกบ้าน

มาร์ชา พี่สะใภ้เล่าว่า นางแลนซาเป็นคนที่พึ่งพาตัวเอง พวกเธอมักคุยกันเรื่องการเตรียมตัวสำหรับการล่มสลายทางเศรษฐกิจ ส่วนเรื่องปืน นางแลนซาเป็นคนรอบคอบมาก ไม่เคยนำออกมาเปิดเผย แต่ก็ไม่ได้ปกปิดว่าเธอครอบครองคอลเลกชันอาวุธอะไรไว้บ้าง

ไม่เพียงแต่ปืนพก 2 กระบอก และไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติซึ่งเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุสะเทือนขวัญ แต่นางแลนซายังมีปืนสำหรับล่าสัตว์อีก 2 กระบอกด้วย

ด้าน แดน โฮล์มส์ คนดูแลสวนของบ้านแลนซาเผยว่า เขาเคยเห็นนางแลนซาพาลูกๆ ออกไปยิงปืนค่อนข้างบ่อยทีเดียว และเธอก็ไม่ชอบใครคนอื่นสอดรู้สอดเห็นเข้าไปภายในบ้านของเธอ

“ผมจะต้องกดกริ่งที่หน้าประตู และเธอจะออกมาด้านนอกเพื่อพบผม มันค่อนข้างประหลาดทีเดียว เมื่อย้อนกลับไปนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น” โฮล์มส์เล่า

ส่วนตัวอดัมซึ่งถูกระบุว่ามีความผิดปกติทางจิตขั้นรุนแรงนั้นเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว จนกระทั่ง ญาติสนิทเองก็ยังไม่ได้เห็นหน้าค่าตาเขามาหลายปีแล้ว

นอกจากนี้ รอนดา คอลเลนส์ เพื่อนบ้านที่มักเล่นเกมทอยลูกเต๋ากับนางแลนซามานานถึง 15 ปี เผยว่า กลุ่มเพื่อนที่เล่นเกมกันมานั้น ไม่เคยมีใครได้เข้าไปในบ้านของแนนซีเลย และเมื่อถึงคราวแนนซีเป็นเจ้าบ้าน เวลาสลับสับเปลี่ยนสถานที่เล่นเกมกัน เธอก็ขอยกเลิกเสมอ

เพื่อนๆ เล่นเกม และเพื่อนบ้านต่างระบุว่า แนนซีเป็นคนใจกว้าง แต่เก็บตัว เป็นผู้หญิงจิตใจดี ซึ่งชอบพูดคุยเกี่ยวกับต้นไม้ดอกไม้ในสวน แต่ก็ไม่มีใครเคยเห็นลูกชายคนเล็กของเธอมาก่อน เช่นเดียวกับคนสวนโฮล์มส์

เพื่อนบ้านหลายรายเล่าว่า นางแลนซาเพิ่งลาออกจากงานเกี่ยวกับการเงิน เพื่อใช้เวลาดูแลลูกชายที่มีปัญหาของเธอ แม้เบื้องต้นจะมีรายงานว่า เธอเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนประถมแซนดี ฮุก ซึ่งลูกชายของเธอเข้าไปก่อเหตุ แต่จริงๆ แล้วเธอเป็นเพียงแม่บ้านเท่านั้น

สำหรับ ไรอัน ลูกชายคนโตวัย 24 ปี มีหน้าที่การงานดีในบริษัททางการเงินในนิวยอร์ก ขณะที่ไม่มีหลักฐานว่ามือปืนซึ่งเป็นน้องชายของเขาเคยมีงานทำหรือไม่ และแม้ว่าอดัมจะเป็นคนติดคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็เพื่อเล่นเกมที่มีแต่ความรุนแรง แต่เขากลับไม่มีโซเชียลเน็ตเวิร์กใดๆ ทั้งเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์

ยิ่งไปกว่านั้น ไรอัน คราฟต์ พี่เลี้ยงเด็กซึ่งเคยดูแลอดัมเมื่อตอนอายุ 10 ปีเล่าว่า เด็กชายคนนี้มีแนวโน้มเป็นคนโมโหร้าย ส่วนแม่ของเขาก็ปกป้องลูกจนเกิดเหตุ ถึงกับไม่เคยปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียวแม้แต่ตอนเข้าห้องน้ำ แต่เขาก็จำได้ว่านางแลนซาเป็นแม่ต่อสู้และทำทุกอย่างที่ดีที่สุดเพื่อลูก

ในวันอาทิตย์ (16) เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพยายามซ่อมฮาร์ดไดรฟ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งพบพังเสียหายอยู่บนพื้นในห้องนอนของอดัม โดยพวกเขาเชื่อว่า น่าจะมีร่องรอยสำคัญที่นำไปสู่แรงจูงใจในการก่อเหตุสยองครั้งนี้ได้

 

ตัวอย่างของการสื่อสาร และเสพสื่อที่ไม่ได้ใช้ปัญญา
บาปกรรมยิ่งนัก กรรมของผูุ้ทำให้บุคคลหลงเชื่อเช่นนี้ ผู้ก่อจะมีมิจฉาทิฐิเป็นเบื้องหน้า ยาวนานประมาณไม่ได้

อย่าก่อกรรมให้ใคร เพราะความไม่รู้แจ้งแห่งเราเป็นเหตุ ให้เข้าใจผิดเป็นเหตุ

 

เวรกรรม ประมาทที่สุด!

 

เรื่องนี้เป็นบทเรียนสอนให้รู้ว่า การนำเสนอข้อมูลข่าวสารนั้น แม้ผู้นำเสนอจะนำเสนอด้วยความปรารถนาดีเพียงใด ก็อาจเป็นดาบสองคม สำหรับผู้ที่เสพข่าวสารโดยขาดวิจารณญาณ จึงมีคำถามว่า ด้วยเหตุนี้ สื่อจะต้องรับผิดชอบหรือไม่ อย่างไร โดยเฉพาะยุคข้อมูลข่าวสารไร้พรมแดนนี้

 

ถูกปั่นโดยสื่อระดับโลกเป็นส่วนใหญ่
ส่วนสื่อไทยก็เอาสื่อของฝรั่งเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว
ก็แปลกดีที่นาซาออกมาแก้ข่าวเรื่องพวกนี้

FULL MOVIE: 2012 - The End of World - YouTube

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/XgY7f9m-W9Q" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


Surely You're Joking, Mr. Kaku! - YouTube
Published on Jul 7, 2010

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/eBQO1S3OSBo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

Michio Kaku says you are a terrorist if you are against the coming New World Order. He also uses the propaganda tool called the Kardashev Scale to sell the coming staged "alien" disclosure/invasion deception that will be used to bring in the New World Order.

The actual meanings of the Kardashev Scale defined:

Type I - New World Order man [ex: TR-3B astra]
Type 2 - fallen watchers(greys) / nagas(reptilians) / new brood of nephilim [ex: vimana/vailixi]
Type 3 - fallen archons (Galactic Federation of Lies) [ex: lightship]
Type 4 - God and His loyal angels [ex: merkabah]

Know ALL of your "alien" deceivers:
"GFOL"= fallen archons (original fallen angels led by Lucifer the former covering cherubim)
"Nordics"/giant "hybrids"= 4th Reich Nazi ubermensch/new brood of nephilim (Daniel 2:43)
"greys"= fallen watchers (class of fallen angels that fell in days of Jared led by Semyaza-Genesis 6/ 1 Enoch)
"reptilians" = nagas/seed of the nachash (Genesis 3:15)

How will they explain away the stench of sulfur of the fallen watchers(greys)?
My guess is they will say they are sulfur based instead of carbon...

 

ผมว่าประเทศเรางมงายโดยเฉลี่ยเท่าๆกัน ของเขานานๆทีจะแหล็มออกมาคน

 

สุโค่ย....หลาย เด้อ..

 

สรุปแล้ว ภัยพิบัติก็ยังคงเลื่อนไปอีก....4.4.4.4