ด่วน!! รีบจองที่นั่งเฝ้าระวัง: เดี่ยวภัยพิบัติ1 เเสดงแล้ววันนี้ทุกประเทศทั่วโลก

ข่าวเย็นนี้

คลื่นสูง 3 เมตรพัดถล่มชายฝั่งเทศบาลเมืองหัวหิน



ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 25 ธันวาคม ว่าจากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ทำให้มีคลื่นทะเลความสูงประมาณ 3 เมตร พัดเข้าชายฝั่งในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ชาวประมงเรือเล็กต้องนำเรือเข้าฝั่ง นำเรือหลบเข้าไปด้านในเขื่อนกันคลื่น เพื่อป้องกันความเสียหาย ส่วนนักท่องเที่ยวที่จะลงเล่นน้ำทะเลต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเทศบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรักษาความปลอดภัย

ทางด้านทางลงชายทะเลใกล้โรงแรมเซนทาราแกรนด์หัวหิน พบว่ามีปริมาณน้ำขึ้นสูงกว่าปกติบรรดาพ่อค้าแม่ค้าร้านอาหารชายหาด ต้องนำเตียงผ้าใบออกไปบางส่วน และผู้ประกอบการบางรายได้ย้ายร้านมาเปิดบริการด้านหน้าโรงแรมแทน เนื่องจากมีประสบการณ์จากปีที่ผ่านมาที่ขนย้ายสิ่งของไม่ทันทำให้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก


พัทลุง6อำเภอจมน้ำป่าทะลัก-เตือนระวังโคลนถล่ม



จ.พัทลุง จมบาดาล 6 อำเภอ ปภ. สั่งทุกภาคส่วนพร้อมช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเตือน 5 อำเภอแถบเทือกเขาบรรทัด นายกรัฐมนตรี สั่ง ปภ. ลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ แล้ว

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ของ จ.พัทลุงได้ขยายวงกว้างเพิ่มขึ้น ใน 6 อำเภอ ในพื้นที่รอบนอกตัว จ.พัทลุง และหนักสุดที่ ต.ชะทวง ต.ควนขนุน ต.ปันแต ต.มะกอกเหนือ ต.พะนางตุง อ.ควนขนุน น้ำป่าไหลหลากมาจากเทือกเขาบรรทัด ผ่านลองท่าแนะเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตร สวนยางพาราและนาข้าว มีน้ำท่วมสูง 1 เมตร ชาวบ้านยังคงเร่งนำกระสอบทรายมาวางกั้น เพื่อป้องกันน้ำที่เพิ่มระดับมากขึ้นตลอดเวลา และยังมีทีท่าว่าจะเพิ่มระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ และหากฝนไม่หยุดตก

โดยทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประเมินสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด ได้ขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นเป็นระยะๆ เนื่องจากฝนยังตกหนักอย่างต่อเนื่อง จึงได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมือพร้อมให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตลอด 24 ช.ม. ในขณะเดียวกันได้ฝากไปยังประชาชนในแถบริมเทือกเขาบรรทัดใน 5 อำเภอ คือ อ.ป่าบอน อ.ตะโหมด อ.กงหรา อ.ศรีนครินทร์ และ อ.ศรีบรรพต ให้เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม นอกจากนี้ ยังต้องติดตามรายงานกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด



นายกฯ สั่ง ปภ. ลงพื้นที่ติดตามน้ำท่วมภาคใต้

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ได้แจ้งไปยัง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด รวมถึงสั่งการให้ทีมล่วงหน้าหามาตรการป้องกันใหม่ เนื่องจากมีสภาวะภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปจึงจำเป็นจะต้องหามาตรการรับมือที่เหมาะสม และเฝ้าติดตามสถานการณ์และปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด



พายุซัดตรังสวนยางเสียหายกว่า40ไร่

หลังจากที่เกิดพายุลมแรงและฝนตกในพื้นที่จังหวัดตรังติดต่อหลายวัน โดยในพื้นที่ ต.ช่อง อ.นาโยง เกิดลมพัดแรงทำให้ต้นยางพาราหักโค่นล่มทับบ้านเรือนจนได้รับความเสียหายจำนวนมาก และในวันนี้ รถเคลื่อนที่เร็ว อบต.ช่อง เร่งออกประชาสัมพันธ์เตือนชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เชิงเขาในพื้นที่หมู่ที่ 2 และ 5 ให้อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยดินโคลนถล่ม ลมพัดแรง โดยให้ออกมาอยู่ในที่โล่งเพื่อความปลอดภัย จากการสำรวจเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ อบต.ช่อง สวนยางพาราได้รับความเสียหายกว่า 40 ไร่ บ้านเสียหาย 70 หลังคาเรือน กระแสไฟฟ้าดับทั้ง 2 หมู่บ้าน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เร่งซ่อมแซมระบบไฟให้กับชาวบ้านแล้ว


บินพม่า'จอดฉุกเฉินบนถนนดับ2เจ็บ11



เครื่องบินของสายการบินในประเทศของพม่า พร้อมผู้โดยสาร 65 คน ลงจอดฉุกเฉินบนถนนในรัฐฉาน ก่อนเกิดเพลิงลุกไหม้ มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 11 คน

25 ธ.ค. 55 เครื่องบินรุ่น ฟอกเกอร์-100 ของสายการบิน แอร์ พุกาม พยายามลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินเฮโฮ ในรัฐฉาน ซึ่งเป็นเหมือนประตูสู่จุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยม ทะเลสาบอินเล แต่เครื่องบินกลับบินเลยสนามบินไปถึง 3 กม.และตกลงบนถนน
สถานีโทรทัศน์ของทางการระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 2 คน ได้แก่ ผู้โดยสารวัย 11 ปีชาวพม่า และชายคนหนึ่งที่ขี่มอเตอร์ไซค์บนถนนตอนที่เครื่องบินตกลงมา นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บ 11 คน เฟซบุ๊กของสายการบินระบุว่า เครื่องบินลำนี้บรรทุกผู้โดยสาร 63 คน ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ 51 คน และลูกเรืออีก 6 คน และมีชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บ 4 คน ได้แก่ ชาวอเมริกัน 2 คน ชาวอังกฤษ 1 คน และชาวเกาหลี 1 คน
สายการบิน ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการลงจอดฉุกเฉิน แต่สถานีโทรทัศน์ของทางการรายงานว่า สภาพอากาศเลวร้ายทำให้นักบินเข้าใจผิดว่าถนนสายดังกล่าวเป็นรันเวย์ และเครื่องบินลงจอดแบบกระแทกพื้นถนนอย่างแรง แล้วไถลไปหยุดที่ทุ่งนาในบริเวณใกล้กัน ส่วนหางของเครื่องบินหักและเกิดไฟลุกไหม้ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถควบคุมเพลิงได้ภายใน 45 นาที
สายการบิน แอร์ พุกาม เป็นหนึ่งในสายการบินภายในประเทศ ที่พยายามแสวงกำไรในช่วงที่การท่องเที่ยวในพม่ากำลังเบ่งบาน หลังจากตกอยู่ภายใต้การปกครองของทหารมานานหลายทศวรรษ เจ้าของสายการบินนี้ คือ นายเตย์ ซา มหาเศรษฐีที่มีความใกล้ชิดกับอดีตรัฐบาลทหาร สายการบินมีเครื่องบินรุ่น ฟอกเกอร์-100 จำนวน 2 ลำ ซึ่งรุ่นนี้ไม่มีการผลิตแล้ว

นราธิวาส-น้ำท่วมสูงหลายจุด ต้องปิด รร.อพยพชาวบ้าน



สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนราธิวาส ขยายวงกว้างไปทั้ง 13 อำเภอ เนื่องจากฝนยังตกหนักถึงหนักมากทำให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ราบลุ่ม และ พื้นที่การเกษตร ต้องปิดโรงเรียน 3 แห่ง ต้องอพยพประชาชนกว่า 150 คน

ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนราธิวาส เช้านี้ (25 ธ.ค.) ล่าสุดฝนยังคงตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ส่งผลทำให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ราบลุ่ม และพื้นที่ทางการเกษตร บ้านเรือนประชาชน ขยายวงกว้างไปทั้ง 13 อำเภอแล้ว โดยระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 40-50 ซ.ม. ส่งผลให้โรงเรียนในสังกัดสำนักงานพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส ต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราวแล้ว 3 โรง ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านปลักปลา โรงเรียนบ้านจูดแดง และ โรงเรียนบ้านโต๊ะนอ เพราะน้ำท่วมเข้าไปในห้องเรียน สื่อการเรียนการสอนถูกน้ำท่วม

นอกจากนี้ ถนนสายหลักและสายรองในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมกว่า 20 สาย ยานพาหนะไม่สามารถสัญจรไปมาได้บนถนน 2 สาย ในพื้นที่อำเภอศรีสาคร คือ ถนนสายบ้านฆอลอกาแว ม.1 และ ถนนสายบ้านตามุง ม.2 ตำบลเชิงคีรี ซึ่งมีน้ำท่วมขังสูงเฉลี่ย 70-100 ซ.ม.

สำหรับพื้นที่ที่มีปริมาณฝนตกมากที่สุดอยู่ที่อำเภอเมืองนราธิวาส วัดได้ 229.8 ม.ม.และ ฝนตกน้อยที่สุดอยู่ในอำเภอแว้ง วัดได้ 180.0 ม.ม. ซึ่งล่าสุดปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำสุไหงโก-ลก มีระดับน้ำล้นตลิ่ง 90 ซ.ม.แม่น้ำบางนรา มีระดับน้ำล้นตลิ่ง 20 ซ.ม.ส่วนแม่น้ำสายบุรี มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3 เมตร

ซึ่งผลพวงของฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก จุดวิกฤติที่สุดอยู่ในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก บริเวณตลอดแนวริมตลิ่งของแม่น้ำในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอสุไหงโก-ลก มีระดับน้ำท่วมขัง 8 ชุมชน คือ บริเวณชุมชนหัวสะพาน ชุมชนบือเร็งใน ชุมชนบือเร็งนอก ชุมชนกือดาบารู ชุมชนท่าโรงเลื่อย ชุมชนโบฮงยามู ชุมชนท่าประปา และชุมชนท่ากอไผ่ ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 70-90 ซ.ม.ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 24 หลังคาเรือน กว่า 150 คน ต้องอพยพข้าวของที่จำเป็น และสมาชิกในครัวเรือนไปอาศัยอยู่ชั่วคราวที่ศูนย์อพยพโรงเรียนเทศบาล 4

และที่อำเภอตากใบ ซึ่งได้รับผลกระทบจากแม่น้ำสุไหงโก-ลก ล้นตลิ่ง ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่บ้านแฆแบ๊ะ และ บ้านกัวลอต๊ะ ม. 4 ถูกน้ำท่วมขังสูงเฉลี่ย 50-60 ซ.ม. ชาวบ้านต้องอพยพไปอาศัยอยู่ชั่วคราวบนถนนที่ อบต.ได้นำเต็นท์มากางไว้ให้พักอาศัยอยู่ชั่วคราว

ปัตตานี-บ้านจางา ต.ปะกาฮารัง น้ำท่วมสูง



บ้านจางา ม.1 ตำบลปะกาฮารัง ถูกน้ำท่วมสูง 30-40 ซม.ชาวบ้านกว่า 70 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งไร่อ้อยหลายแปลง เกษตรกรต้องนำเชือกมาผูกไว้กันต้นอ้อยล้มตาย

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดปัตตานี หลังจากเกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับน้ำเหนือที่ไหลบ่ามาจากจังหวัดยะลา ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำปัตตานีเอ่อล้นตะลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่ม บริเวณ ม.1 บ้านจางา ตำบลปะกาฮารัง อำเภอเมืองปัตตานี บ้านเรือนประชาชนกว่า 70 หลัง ถูกน้ำท่วมสูง 30-40 ซม. ถนนเข้าหมู่บ้านจมอยู่ใต้น้ำ ขณะที่ไร่อ้อยหลายแปลงถูกน้ำท่วมสูง เกษตรกรต้องนำเชือกมาผูกไว้เพื่อไม่ให้ต้นอ้อยล้มตาย ขณะที่แม่น้ำปัตตานีที่ไหลผ่านตำบลปากาฮารังมีทีท่าว่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหากฝนยังตกลงมาอีก 2 วัน คาดว่าน้ำจะท่วมสูงขึ้นอีก และจะขยายวงกว้างเข้าท่วมหลายหมู่บ้านในตำบลปะกาฮารัง ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านได้ขนย้ายข้าวของขึ้นไปอยู่บนที่สูงแล้ว และเตรียมเรือไว้ใช้ในการเดินทางเข้า-ออกหมู่บ้าน

ชาวบ้านรายหนึ่งบอกว่า น้ำได้เอ่อล้นตะลิ่งและเข้าท่วมบ้านเรือนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งโชคดีที่ทางจังหวัดได้แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังน้ำท่วม ทำให้ชาวบ้านมีการเตรียมตัวและขนย้ายของหนีได้ทัน สำหรับ หมู่บ้านจางา หากเกิดน้ำท่วมเต็มที่แล้วระดับน้ำจะสูงถึง 1 – 2 เมตรทุกปี เนื่องจากเป้นพื้นที่ลุ่มติดแม่น้ำปัตตานี ชาวบ้านต้องอพยบหนีอาศัยอยู่ในเต็นท์ที่จังหวัดจัดให้

อุดรธานี-หนาวสุดในอีสาน วันเดียวอุณหภูมิลด 6 องศา



ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคอีสานตอนบน เผยจังหวัดอุดรธานีหนาวสุดในอีสาน วันเดียวลดฮวบ 6 องศา ชาวบ้านเริ่มสัมผัสอากาศหนาว ผู้ว่าฯ เชิญชวนร่วมงานเคาน์ดาวน์ที่ภูฝอยลม แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

สำนักอุตุนิยมวิทยาภาคอีสานตอนบนแจ้งว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีอากาศหนาวเย็น กับมีลมแรงและมีหมอกบางในตอนเช้า โดยเฉพาะจังหวัดอุดรธานี อุณหภูมิลดลงวันเดียวถึง 6 องศา โดยวันนี้ อุณหภูมิต่ำสุด 13.0 องศา ทำให้ชาวบ้านเริ่มสัมผัสอากาศหนาว ต้องหาเสื้อผ้าหนาๆมาสวมใส่

ด้าน นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมงานเคาน์ดาวน์ที่ภูฝอยลม ในวันที่ 31 ธ.ค. นี้ โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่าง อาทิ วิ่งซุปเปอร์มินิมาราธอน ปั่นจักรยานพิชิตภูฝอยลม ประกวดธิดาภูฝอยลม แข่งขันกินข้าวปุ้น-ตำส้มตำ แข่งขันดนตรี กีฬาพื้นบ้าน รับประทานอาหารพาแลง ชมไม้ดอกและทิวทัศน์ภูฝอยลมที่สวยงามตระการตา และร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป ในเช้าวันขึ้นปีใหม่ 1 ม.ค.56 ด้วย

ขณะที่บรรยากาศบนภูฝอยลมในยามค่ำคืน ขณะนี้มีบรรดานักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปสัมผัสกับไอหนาวกันบ้างแล้ว ส่วนใหญ่มาเป็นหมู่คณะ โดยเจ้าหน้าที่เผยว่าภูฝอยลมมีสถานที่พักขนาด 8 คน 2 หลัง, 14 คน 2 หลัง, 30 คน 2 หลัง และ 40 คน 2 หลัง รวมทั้งมีเต็นท์ หรือพื้นที่กางเต็นท์ไว้ให้บริการจำนวนมาก

ที่มาข่าวจาก

ทหารเร่งกู้สะพานสิชล เปิดทาง จนท. เข้ากู้ระบบไฟฟ้า



ทหารเร่งกู้สะพานสิชล หวังช่วยเปิดทางให้ เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าเข้ากู้ระบบไฟฟ้าในพื้นที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

วันนี้ (25 ธันวาคม) นายสำคัญ ศรีสุข นายก อบต. สี่ขีด ได้ขอความร่วมมือจากทหารในพื้นที่สิชล ให้เข้ามาช่วยซ่อมแซมสะพานที่ถูกน้ำป่าซัดเสียหายจำนวน 3 จุด ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อเปิดทางเข้าหมู่บ้าน ให้แก่เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าเข้าไปซ่อมเสาไฟฟ้า ในพื้นที่หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 10 ต.เทพราช และหมู่ที่ 10 ต.ฉลอง อ.สิชล

ล่าสุด ทหารได้เข้ามาทำการซ่อมแซมสะพานที่ หมู่ที่ 1 ต.สี่ขีด อ.สิชล ที่ได้รับความเสียหายและเป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่าง หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 10 ต.เทพราช และหมู่ที่ 10 ต.ฉลอง อ.สิชล จนสามารถเปิดใช้เส้นทางได้แล้ว และขณะนี้ เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าซึ่งเข้าไปในพื้นที่กำลังเร่งดำเนินการซ่อมแซมเสาไฟ คาดว่า ใช้ระยะเวลาซ่อมแซมประมาณ 3 ชั่วโมง

 

ผมว่างานนี้หลังจากท่านหงอคงออกจากฟิลิปปินส์แล้วไม่อ่อนแรงลง ทางภาคใต้ของเราคงต้องลุ้นกันครั้งใหญ่อีกแล้วล่ะครับ

หวังแต่ว่าจะอ่อนแรงลงครับ

 

รายงานสด!เกาะติด'ซานตา'แจกของขวัญ

เว็บไซต์ตามรอย 'ซานตาคลอส' ของนอราด ในปีนี้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แค่ใช้คอมพิวเตอร์ก็รู้แล้วว่า 'ซานตา' ไปแจกของขวัญที่ไหนบ้าง

http://youtu.be/jb0gj_sIBdg


25 ธ.ค. 55 ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสในอดีตที่ผ่านมา เด็กๆ มักจะได้แค่ฝันว่า ซานตาคลอส บนรถลากเลื่อนและกวางเรนเดียร์ของเขา กำลังเดินทางไปไหนบ้างในช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ พร้อมกับหวังว่า บ้านของพวกเขาจะอยู่ในรายชื่อของการมาเยือนเพื่อหย่อนของขวัญเอาไว้ให้ด้วย แต่ในปัจจุบัน เด็กๆ ไม่ต้องมานั่งสงสัยเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เพราะพวกเขาสามารถติดตามซานตาของพวกเขาจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่งได้อย่างง่ายดาย ด้วยคอมพิวเตอร์ของพวกเขาเอง
ศูนย์บัญชาการป้องกันอากาศยานแห่งอเมริกาเหนือ หรือ นอราด ได้จัดทำโครงการตามรอยซานตาคลอส ไปแจกของขวัญทั่วโลกเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 2501 จนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ โดยหน่วยงานของกองทัพสหรัฐแห่งนี้ มีหน้าที่ในการสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวบนน่านฟ้าสหรัฐและแคนาดา ตลอด 364 วัน แต่ที่พิเศษคือวัน เซนต์ นิค หรือวันที่ 24 ธันวาคม ที่จะเป็นการติดตามการเดินทางของซานตาคลอส ผ่านแผนที่ออนไลน์ ตามเวลาจริง
ในเว็บไซต์ของนอราด (Official NORAD Santa Tracker) เด็กๆ หรือผู้ใหญ่ที่หัวใจเด็ก สามารถเห็นได้ด้วยตัวเองว่า ของขวัญหลายพันล้านชิ้น จะถูกนำส่งไปที่เมืองไหนบ้าง นอราดยังตั้งเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ รวมถึง ยูทูบและกูเกิล แอคเคาท์ เพื่อคอยติดตามซานตาคลอส แบบนาทีต่อนาที ตั้งแต่ออกเดินทางจากขั้วโลกเหนือลงมา
ถ้าจะตั้งคำถามว่า เหตุใดนอราด ที่ปกติจะมีหน้าที่เฝ้าระวังขีปนาวุธ อากาศยาน หรือยานอวกาศ ที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐ หรือแคนาดา จึงต้องให้ความสำคัญกับการเดินทางของซานตาคลอส นอราดได้ให้คำอธิบายไว้ในเว็บไซต์ว่า ได้ติดตามเรื่องนี้ มาตั้งแต่ปี 2498 ในขณะที่ยังใช้ชื่อว่า ศูนย์บัญชาการป้องกันภัยทางอากาศแห่งทวีป หรือ โคนาด และจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ และการติดตามเส้นทางแจกของขวัญของซานตาคลอส พวกเขาเชื่อว่า ซานตาคลอส มีชีวิตและสถิตอยู่ในจิตใจของเด็กๆ ทั่วโลก แต่เรื่องราวของลุงอ้วนหนวดยาวสีขาวในชุดสีแดงนี้ ยังเป็นเรื่องลึกลับสำหรับทุกคน
นอราด ยังคำนวนให้ด้วยว่า ถ้าซานตาคลอสต้องส่งของขวัญให้เด็กทั่วโลกในเวลาเดียวกัน เขาจะใช้เวลาเพียง 0.00003 วินาที ในการส่งของขวัญให้บ้านแต่ละหลัง
ซานตาคลอส มีชื่อเป็นที่รู้จักหลายชื่อ แต่ที่รู้จักดีคือ เซนต์ นิค (Saint Nick) ที่นักประวัติศาสตร์ ระบุว่า เริ่มต้นจากความเชื่อเกี่ยวกับเซนต์ นิโคลัส (Saint Nicholas) นักบวชในศาสนาคริสต์ เมื่อศตวรรษที่ 5 ซึ่งมีชีวิตอยู่ในตะวันออกกลาง และมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของความใจดี เขามักให้ของขวัญแก่ผู้ด้อยโอกาส หย่อนของขวัญที่มีทองลงในปล่องไฟตามบ้าน หรือสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยด้วยการซ่อนของขวัญในถุงเท้ายาว
นอราด ใช้อุปกรณ์ที่มีเพื่อติดตามซานตาคลอสตั้งแต่วันคริสต์มาส อีฟ โดยเริ่มตั้งแต่สถานีเรดาร์ใกล้ขั้วโลกเหนือ อันเป็นจุดเริ่มต้นเดินทางของซานตาคลอส ก่อนจะใช้กลุ่มดาวเทียมคอยจับตาการเดินทางโดยอาศัยจุดเด่นของจมูกกวางเรนเดียร์ตัวที่เป็นจ่าฝูง
จมูกสีแดงของรูดอล์ฟ (Rudolph) เรนเดียร์จ่าฝูง จะให้สัญญาณอินฟราเรด ซึ่งช่วยให้ดาวเทียมของเราตรวจพบมันและซานตาคลอสได้ โดยที่เครือข่ายกล้องความเร็วสูงซานตา แคมส์ (Santa Cams) ที่จะถูกใช้งานเพียงปีละครั้ง คอยบันทึกภาพและวิดีโอขณะรถลากเลื่อนลอยผ่านไป
นอราด ระบุด้วยว่า นักบินของเครื่องบินรบในสังกัด นอราด ของแคนาดา ที่ขับเครื่องบินเจ็ท CF-18 จะบินเข้าสกัดและต้อนรับซานตาคลอสสู่อเมริกาเหนือ ส่วนในสหรัฐ นักบินของเครื่องบินรบในสังกัด NORAD ก็จะขับทั้ง F-15 , F-16 หรือเอฟ F-22 บินประกบซานตาคลอสและกวางเรนเดียร์ของเขาเข้าสู่ประเทศ
กวางของซานตาคลอส นอกจากรูดอล์ฟ ที่เป็นจ่าฝูงแล้ว ยังมี แดเชอร์ (Dasher) แดนเซอร์ (Dancer) แพรนเซอร์ (Prancer) วิกเซน (Vixen) คิวปิด (Cupid) ดอนเนอร์ (Donner) และบลิทเซน (Blitzen)

(ขอบคุณเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม :NORADTracksSanta - [ame="http://www.youtube.com/watch?v=jb0gj_sIBdgNORAD"]2012 NORAD Tracks Santa (HD) - YouTube[/ame] is Tracking Santa : Official NORAD Santa Tracker)

 

ระทึก! คลื่นยักษ์ซัดถล่มภาคใต้ หัวหิน-ชุมพร-สมุย เสียหายหนัก



คลื่นยักษ์จากอ่าวไทยบุกถล่ม หมู่บ้าน 3 ตำบล ใน อ.หลังสวน พบรุนแรงสุดในรอบ 50 ปี ขณะที่หัวหิน-สมุย โดนซัดหนัก บ้านพังยับ ชาวบ้านหนีตายชุลมุน

เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันนี้ (25 ธันวาคม) อิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ทำให้บริเวณพื้นที่หมู่ 12 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ 4-5 เมตร พัดเข้าถล่มหมู่บ้าน ทำให้ประชาชนต้องหนีตายกันจ้าละหวั่น บ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนักกว่า 200 หลังคาเรือน โดยนายปรีชา สุวีรานุวัฒน์ กำนัน ต.บางมะพร้าว ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่ภายในบ้าน ก่อนรายงานให้ทางจังหวัดเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จากนั้น นายอภิญญา คนดี ปลัดอาวุโส รักษาการนายอำเภอหลังสวน จึงได้สั่งการให้ชาวบ้านอพยพไปอาศัยที่วัดแหลมโตนด ซึ่งเป็นจุดปลอดภัย ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวาย และแตกตื่นอย่างหนัก เนื่องจากถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้บ้านพักของประชาชนกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ถูกน้ำทะเลไหลทะลักเข้าท่วมทั้งหมด โดยมีบ้านพักของประชาชนถูกคลื่นซัดพังถล่ม 3 หลังคาเรือน ขณะเดียวกันในพื้นที่ ต.ปากน้ำหลังสวน ต.บางน้ำจืด ใน อ.หลังสวน ยังถูกคลื่นยักษ์พัดถล่มเช่นกัน รายงานข่าวแจ้งว่า มีนักท่องเที่ยวติดอยู่บนเกาะพิทักษ์ หมู่ 14 ต.บางน้ำจืด หลายสิบคน ยังไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวบ้าน ใน 3 ตำบล คือ ต.บางมะพร้าว ต.ปากน้ำหลังสวน ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน ร่วม 2 พันคน ต้องอพยพออกมาในจุดที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ

ขณะเดียวกันที่ จ.สงขลา ตลอดแนวชายหาดแหลมสมิหลาระยะทางกว่า 9 กิโลเมตร เกิดเหตุคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยซัดเข้าสู่ชายหาดตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะบริเวณรูปปั้นนางเงือก ความแรงของคลื่นกินพื้นที่ลึกเข้ามาถึงแนวคอนกรีตสำหรับให้นักท่องเที่ยวยืนชมวิวซึ่งอยู่ห่างจากทะเลกว่า 10 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องเตือนนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้รีบกลับขึ้นฝั่ง เพราะเสี่ยงที่จะถูกคลื่นซัดและได้รับอันตราย พร้อมกับแจ้งเตือนห้ามลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาด

ด้านชายหาดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เกิดมรสุมพัดเข้าชายฝั่งตลอดแนวตั้งแต่ท่าอากาศยานหัวหิน วังไกลกังวล ไปถึงหมู่บ้านเขาตะเกียบ ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดคลื่นลมแรง โดยเฉพาะบริเวณท่าเทียบเรือสะพานปลาหัวหิน มีคลื่นขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ 4-5 เมตร พัดเข้ากระทบชายฝั่ง ทำให้ชาวประมงต้องนำเรือประมงขนาดเล็กกว่า 100 ลำ มาจอดหลบหลังแนวเขื่อนกั้น และไม่สามารถออกหาปลาในช่วงนี้ได้

ทั้งนี้ บริเวณชายหาดหัวหิน ตั้งแต่ศาลเจ้าแม่ทับทิม ไปถึงเขาตะเกียบ ไร้เงานักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเล เนื่องจากกลัวอันตรายจากคลื่นลมแรง อากาศหนาว และน้ำทะเลสีขุ่น ขณะที่ร้านอาหารติดชายหาดบางร้านถูกคลื่นซัดน้ำทะเลทะลักเข้าท่วมในร้านจนไม่สามารถให้บริการลูกค้าได้ และที่บริเวณตู้ยามบ้านเขาตะเกียบ เกิดน้ำท่วมขังสูงราว 30 เซนติเมตร จนตำรวจต้องออกประชาสัมพันธ์ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำในช่วงนี้

ส่วนที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้เกิดคลื่นขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน โดยมีระดับความสูงประมาณ 3-4 เมตร พัดกระหน่ำเข้ากระทบตลอดแนวชายฝั่งของเกาะอย่างรุนแรงในพื้นที่หมู่ 1 ต.มะเร็ต ทำให้บ้านเรือนของชาวประมงได้รับความเสียหาย 5 หลัง ขณะที่ใน ต.แม่น้ำ คลื่นซัดสู่ฝั่งจนร้านค้าตามแนวชายหาดที่อยู่ด้านหลังแนวกั้นคลื่นพังเสียหายจำนวนมาก และบริเวณถนนสายเลียบชายทะเล บ้านหน้าทอนหมู่ 3 ต.อ่างทอง ซึ่งเป็นถนนที่ใช้สัญจรผ่านออกจากเกาะสมุย ได้ถูกน้ำทะเลหนุนสูง ซัดขึ้นมาบนถนนจนน้ำท่วมขังราว 20-30 เซนติเมตร ทำให้รถยนต์ขนาดเล็กสัญจรไปมาอย่างยากลำบาก

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ นายประเสริฐ จิตรมุ่ง นายอำเภอเกาะสมุย ได้สั่งการให้นายพูลศักดิ์ โสภณปทุมรัตน์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน อ.เกาะสมุย นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจพื้นที่เสียหาย และอยู่ระหว่างการดำเนินการช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวอย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ควรใช้ความระมัดระวังในการท่องเที่ยว





ที่มาจาก เดลินิวส์

 

สัญญาณบ่งบอกว่า มันกำลังจะมา.....พายุ

 

ผมก็เป็นบ่อยๆ แต่ของผมไม่เพียงแต่เว็บฯนี้น่ะถ้าไม่ทำอะไรต่อเนื่อง แต่ถ้าเปิดรายการในยูทูปที่ยาวมากๆถึง5-6ชั่วโมง เปิดไว้อยู่ตลอด แก้ไขปัญหานี้ได้ครับ

 

เราจองด้วย ครับ

 

ข่าวเช้า 26-12-2012 เวลา 07.00 น.
(ครบ 8 ปี สึนามิภาคใต้)


02:00 พายุ 04A ทางตะวันออกของประเทศโซมาเลีย สลายตัวแล้ว
00:10 ความกดอากาศสูงจากจีนอ่อนแรงลง อากาศโดยทั่วไปเริ่มอุ่นขึ้นเล็กน้อย
00:00 ทั่วโลกแผ่นดินหยุดไหวไป 7 ชั่วโมง สงบเงียบผิดปกติ (วัดจากรายงานของเอเยนเจ้าใหญ่ๆ เช่น USGS Geofon)
03:00 ดีเปรสชันหวู่คง ทวีกำลังเป็นพายุโซนร้อนและขึ้นฝั่งประเทศฟิลิปปินส์
07:15 พายุหงอคง หรือ หวู่คง หรือ QUINTA ตามการเรียกของฟิลิปปินส์ อ่อนแรงลงเล็กน้อยเมื่อขึ้นฝั่งที่ Leyte และล่าสุดกำลังเคลื่อนไปทางเกาะ Camotes



ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 26 ธันวาคม 2555 เวลา 07.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป ส่วนบริเวณภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามยอดดอย ในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นในระยะนี้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยยังมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศตั้งแต่เช้าวันนี้ (26 ธ.ค. 55) จนถึงเช้าวันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพร ขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา กระบี่ ตรัง และสตูล ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส
สภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ คำนวณโดยกรมอุทกศาสตร์
วันนี้ น้ำขึ้นเต็มที่ เวลา 08.15 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1 เมตร 36 เซนติเมตร และเวลา 15.21 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 95 เซนติเมตร
น้ำลงเต็มที่ เวลา 00.09 น. ต่ำกว่าระดับทะเลปานกลาง 20 เซนติเมตร และเวลา 12.19 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 72 เซนติเมตร
วันนี้ ที่ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.18 น.
กรุงเทพมหานคร ดวงอาทิตย์ตกเวลา 17.58 น.

ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : เอกสารข่าว เอกสารข่าว
Rewriter : กัลยา คงยั่งยืน / สวท. กัลยา คงยั่งยืน / สวท.
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

ไทยตอนบนหนาวจัดใต้ฝนลดลงกทม.อากาศเย็น



กรมอุตุฯ เตือน ประเทศไทยตอนบนอากาศหนาวเย็น ภูเขาสูงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามยอดดอย - ภาคใต้ฝนลดลง ส่วน กทม.เย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน ลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน เริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป ส่วนบริเวณภูเขาสูง จะมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามยอดดอย ในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นในระยะนี้
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยยังมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

ส่วน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ช.ม.

พายุซัดตรังสวนยางเสียหายกว่า40ไร่



พายุพัดถล่มเมืองตรัง ต้นยางพาราหักโค่น เสียหายกว่า 40 ไร่ บ้านพัง 70 หลังคาเรือน ไฟดับ 2 หมู่บ้าน
หลังจากที่เกิดพายุลมแรงและฝนตกในพื้นที่ จ.ตรัง ติดต่อหลายวัน โดยในพื้นที่ ต.ช่อง อ.นาโยง เกิดลมพัดแรง ทำให้ต้นยางพาราหักโค่นล้มทับบ้านเรือน จนได้รับความเสียหายจำนวนมาก และในวันนี้ รถเคลื่อนที่เร็ว อบต.ช่อง เร่งออกประชาสัมพันธ์เตือนชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เชิงเขา ในพื้นที่หมู่ที่ 2 และ 5 ให้อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยดินโคลนถล่ม ลมพัดแรง โดยให้ออกมาอยู่ในที่โล่งเพื่อความปลอดภัย จากการสำรวจเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ อบต.ช่อง สวนยางพาราได้รับความเสียหายกว่า 40 ไร่ บ้านเสียหาย 70 หลังคาเรือน กระแสไฟฟ้าดับทั้ง 2 หมู่บ้าน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เร่งซ่อมแซมระบบไฟให้กับชาวบ้านแล้ว


สื่อนอกรายงาน 3 พระสงฆ์ไทยมรณภาพใน “สกอตแลนด์” หลังประสบอุบัติเหตุบนทางหลวง




เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานในวันอังคาร (25) โดยระบุว่าพบพระสงฆ์ไทยจำนวน 3 รูปมรณภาพจากอุบัติเหตุทางรถยนต์บนทางหลวงสาย “เอ 68” ทางตะวันออกของแคว้นสกอตแลนด์ในสหราชอาณาจักร

รายงานข่าวระบุว่า พระสงฆ์ทั้ง 3 รูปซึ่งมรณภาพนั่งอยู่บริเวณเบาะหลังของรถยนต์นิสสัน “โน้ต” สีทองคันหนึ่ง ซึ่งมีสตรีที่คาดว่าจะมีสัญชาติไทยและไม่เปิดเผยชื่อรายหนึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าว โดยระหว่างที่รถแล่นอยู่บนทางหลวงสาย “เอ 68” ของสกอตแลนด์ห่างจากเมืองพาทเฮดไปทางใต้ราว 2 กิโลเมตรนั้น ได้เกิดพุ่งชนอย่างจังกับรถยนต์สโคดารุ่น “ออคทาเวีย” สีเงินที่แล่นสวนทางมา

อุบัติเหตุครั้งนี้ส่งผลให้พระสงฆ์จากประเทศไทยทั้ง 3 รูปมรณภาพทันทีในที่เกิดเหตุ ขณะที่คนขับรถที่เป็นสตรีสามารถออกมาจากรถได้หลังจากการชน รวมถึงผู้ชายอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านหน้าของรถที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากซากของรถนิสสันคันที่ประสบเหตุโดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในพื้นที่โดยไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง เช่นเดียวกับคนขับรถยนต์สโคดาคู่กรณีซึ่งเป็นเพศชายที่ไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงเช่นกัน

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ซึ่งทำการปิดทางหลวงสายดังกล่าวเพื่อทำการเก็บหลักฐาน ยังไม่อาจสรุปได้ว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร พร้อมเรียกร้องให้บรรดาผู้ใช้เส้นทางดังกล่าวที่พบเห็นรถยนต์ทั้ง 2 คันในวันที่เกิดเหตุช่วยแจ้งเบาะแสเพิ่มเติมแก่เจ้าหน้าที่สำหรับทำการสืบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป ขณะเดียวกันยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระสงฆ์ไทยที่มรณภาพในครั้งนี้ออกมาเช่นกัน

ทั้งนี้ ข้อมูลของตำรวจสกอตแลนด์ระบุว่า ทางหลวงสาย “เอ 68” ถือเป็นเส้นทางสายหลักที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างเมืองดาร์ลิงตัน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ มายังนครเอดินบะระของสกอตแลนด์ โดยในแต่ละปีเกิดอุบัติเหตุบนทางหลวงสายนี้ไม่บ่อยนัก

ด้านเว็บไซต์ “อะลิตเติลบุ๊ดดา” (alittlebuddha.com) ของวัดไทยลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ได้รายงานว่า ได้ติดต่อสอบถามไปยังพระปัญญาพุทธิวิเทศ (เจ้าคุณเหลา ปญฺญาสิริ) เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุประเทศอังกฤษ เลขาธิการองค์การพระธรรมทูตไทยในประเทศอังกฤษ ได้รับคำตอบว่า ทั้ง 3 รูปที่มรณภาพนั้นเป็นพระสงฆ์ชาวไทยจริง

โดยรูปแรกนั้นคือ พระมหาประนอม วิริยธมฺโม ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา อดีตเคยจำพรรษาอยู่ที่วัดมหาธาตุ ประเทศอังกฤษ แล้วย้ายไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไทยพุทธาราม ในสกอตแลนด์ได้ไม่นาน เพิ่งเดินทางจากเมืองไทยเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา

รูปที่สองคือ พระมหาเกรียงไกร พระธรรมทูตวัดพุทธประทีป กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นพระอาคันตุกะ มีกำหนดเดินทางกลับประเทศไทยในเร็ววันนี้ ส่วนรูปที่สามคือ พระมหาชัย สุตเมธี วัดสังฆประทีป ประเทศอังกฤษ

โดยพระสงฆ์ทั้ง 3 รูปได้รับนิมนต์จากญาติโยมในสกอตแลนด์ เพื่อเดินทางไปเจริญพระพุทธมนต์ฉันเพลในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ และได้เดินทางออกจากวัดพุทธประทีป กรุงลอนดอน ในเวลาประมาณ 4 ทุ่ม กำหนดเดินทางให้ถึงแคว้นสกอตแลนด์ในเวลาเช้า แต่ต้องมาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน

พระปัญญาพุทธิวิเทศยังอธิบายด้วยว่า คณะที่เดินทางไปมีทั้งหมด 5 รูป/คนด้วยกัน โดยมีนายสังข์ทอง (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งเพิ่งลาสิกขาได้ไม่นาน เดินทางไปเพื่อคอยรับใช้พระธรรมทูต อีกคนหนึ่งเป็นสุภาพสตรีและเป็นคนขับรถ โดยนายสังข์ทองนั่งคู่กับคนขับที่ด้านหน้า ส่วนพระไทยทั้ง 3 รูปนั้นนั่งเบาะหลังทั้งหมด เมื่อเกิดอุบัติเหตุนั้น พบว่าพระไทยทั้ง 3 รูปมรณภาพในรถ ส่วนสุภาพสตรีและนายสังข์ทองได้รับบาดเจ็บ


ยกระดับเตือนภัย'สึนามิ'ลบฝันร้าย



ยกระดับเตือนภัย'สึนามิ'ลบฝันร้าย'คลื่นยักษ์'กลืนชีวิต : จุฬารัตน์ แสงปัสสา, ปองพล สารสมัคร
ย้อนเวลาไปในเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2547 เป็นวันที่หลายคนกำลังสนุกกับการเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ขณะเดียวกันเป็นวันที่หลายคนยากจะลืมเลือน หลังจากพวกเขาต้องพบความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต จากเหตุการณ์ แผ่นดินไหว ระดับ 9 ริกเตอร์ โดยมีจุดศูนย์กลางในทะเลทางตอนเหนือของหมู่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ทำให้เกิด คลื่นสึนามิ ขนาดใหญ่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าซัดถล่มชายฝั่งทะเลอันดามัน ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย

ไม่มีใครรู้ว่า "คลื่นยักษ์" กำลังเคลื่อนตัวเข้าถล่มชายหาดท่องเที่ยวสำคัญฝั่งทะเลอันดามัน และปราศจากคำเตือนใดๆ กระทั่ง "คลื่นยักษ์" ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง และกลืนชีวิตผู้คนกว่า 5,000 คน และสูญหายอีกนับพันชีวิต

นั่นคือเหตุเขย่าขวัญเมื่อ 8 ปีก่อน ทว่าวันนี้ประเทศไทยได้พัฒนาระบบเตือนภัยให้ประชาชนได้เตรียมตัวอพยพจากพื้นที่ "เสี่ยงภัยให้เร็วที่สุด"

นาวาเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ในฐานะเจ้าภาพหลัก บอกว่า ศูนย์ได้ติดตั้งระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิและแผ่นดินไหวในทะเลใช้งบประมาณกว่า 70 ล้านบาท เพื่อให้ระบบมีความสมบูรณ์มากขึ้น โดยติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิ 3 ทุ่น สำหรับ 2 ทุ่นแรก อยู่ที่บริเวณห่างจากเกาะสุรินทร์ จ.พังงา ไปทางฝั่งประเทศพม่า ประมาณ 250 กิโลเมตร และห่างจาก จ.ภูเก็ต ใกล้เขตประเทศมาเลเซียประมาณ 230 กิโลเมตร ส่วนอีก 1 ทุ่น วางไว้บนแนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหวกลางมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากชายฝั่ง จ.ภูเก็ต ประมาณ 1,000 กิโลเมตร ที่ระดับความลึก 3 กิโลเมตร

ทั้งนี้ ทุ่นน้ำลึกวัดคลื่นสึนามิต้องนำมาเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ทุก 2 ปี นอกจากนี้ยังติดตั้งหอเตือนภัย 136 แห่ง ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และยังมีหอเตือนภัยอีก 144 แห่ง ในฝั่งอ่าวไทย ซึ่งจะเตือนภัยสึนามิ และช่วยเตือนภัยคลื่นสูงยกตัวขึ้นฝั่งและพายุด้วย

นาวาเอกสอง เอกมหาชัย ช่วยราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานเตือนภัยและเผยแพร่ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ อธิบายว่า หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย ทุ่นที่ติดตั้งไว้ในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามันจะรายงานผลการตรวจวัดการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ ทุ่นจะรายงานผลการตรวจวัดกลับมายังศูนย์ปฏิบัติการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ผ่านดาวเทียมภายในเวลา 2 นาที

จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ เช่น ศูนย์ธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกา กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมชลประทาน เป็นต้น เมื่อได้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน เจ้าหน้าที่จะนำมาวิเคราะห์คำนวณทิศทางของคลื่นสึนามิ และระยะเวลาในการเดินทางของคลื่นจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว ถึงชายฝั่งอันดามันของประเทศไทย โดยใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 15 นาที ก็สามารถส่งสัญญาณเตือนภัยผ่านดาวเทียมไปยังหอเตือนภัยต่างๆ ตามแนวชายฝั่งอันดามันได้ทันสถานการณ์

"เราวิเคราะห์แล้วพบว่า หากเกิดแผ่นดินไหวใต้มหาสมุทรอินเดียใกล้กับทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา คลื่นสึนามิจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ในการเดินทางมาถึงประเทศไทย เรามีเวลาเตรียมตัวเพียงพอที่จะอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง" นาวาเอกสองกล่าว

ที่สำคัญ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติยังส่งข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งส่งแฟกซ์ อีเมล ฮอตไลน์สายด่วน 8 เลขหมาย โปรแกรมบนสมาร์ทโฟน สถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง โดยเฉพาะการส่งสัญญาณเตือนภัยผ่านสถานีโทรทัศน์ทางศูนย์เตือนภัยพิบัติฯ ได้ติดเครื่องมือเพื่อตัดรายการโทรทัศน์ และถ่ายทอดสัญญาณการเตือนภัยโดยอัตโนมัติทันทีโดยไม่ต้องรอขออนุญาตจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทีวีพูล) หรือผู้อำนวยการสถานี นอกจากนี้ทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เตรียมออกกฎระเบียบเพื่อรองรับการดำเนินงานของศูนย์เตือนภัยพิบัติฯ ในการตัดรายการของสถานีโทรทัศน์ทันที

ขั้นตอนการเตือนภัยในปัจจุบันมีอยู่ 4 ขั้น คือ แจ้งข่าว เฝ้าระวัง เตือนภัย และยกเลิก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือ "สื่อมวลชน" ส่วนใหญ่เอาข้อมูลในขั้นตอนแจ้งข่าวไปเตือนภัยทำให้เกิดการตื่นตระหนก แต่ตอนนี้ได้คุยกับทาง กสทช. และตัวแทนสื่อมวลชนที่รับผิดชอบให้เข้าใจตรงกันแล้ว

ด้าน รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา พบว่าจำนวนแผ่นดินไหวและความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นทั่วโลกไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย โดยเฉพาะแผ่นดินไหวในทะเลพบว่ามีแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นโดยเฉลี่ย 10 ครั้งต่อปี แต่สิ่งที่เพิมขึ้นคือจำนวนภัยพิบัติที่เกิดจากแผ่นดินไหว เนื่องจากแผ่นดินไหวส่วนใหญ่เกิดในเขตเมืองขนาดใหญ่ อีกทั้งมีการขยายตัวที่อยู่อาศัยของประชากรไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวมากขึ้น

กว่าจะเกิดแผ่นดินไหวที่ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิแต่ละครั้งคงต้องรอนาน ซึ่งเป็นภัยพิบัติที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เมื่อปี 2547 มีผู้เสียชีวิตจากคลื่นสึนามิหลายพันคน เนื่องจากประเทศไทยยังไม่มีความพร้อม แต่ตอนนี้ระบบเตือนภัยมีความพร้อมเรียบร้อยแล้ว ความสูญเสียน่าจะน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 8 ปีที่ผ่านมา ในแง่ของทรัพย์สิน หากประชาชนสามาถหนีได้ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติม เพราะหากปรับปรุงอาคารบ้านเรือนให้ทนกับสึนามิน่าจะทำได้ยาก

"เรามีเรื่องที่ต้องคิดเยอะ เป็นเรื่องที่ทำได้และพอรู้ระดับหนึ่ง มันไม่ใช่เป็นปัญหาที่จัดการไม่ได้ และปัญหาเราง่ายกว่าฝั่งญี่ปุ่น" รศ.ดร.เป็นหนึ่ง กล่าวทิ้งท้าย

 

สกู๊ปพิเศษ 1

พายุโซนร้อนอู่คง (Wunkong)


แผนภูมิพยากรณ์ที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางเวียดนามเผยแพร่ในวันอังคาร 25 ธ.ค.นี้ แสดงให้เห็นพายุโซนร้อนอู่คง (Wukong) ที่คาดว่าจะเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในวันพุธ และเข้าถึงชายฝั่งทะเลภาคใต้เวียดนามอีก 2 วันข้างหน้า ซึ่งหากเป็นไปตามนี้นครโฮจิมินห์กับชายทะเลหวุงเต่าก็จะฉลองปีใหม่กันแบบฉ่ำฝน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวโฮจิมินห์อาจจะได้ลุยน้ำกันอีกต่างหาก.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ไม่เคยเห็นก็ได้เห็นไต้ฝุ่นอีกลูกกำลังจะพัดเข้าสู่ทะเลจีนใต้ตอนใกล้จะสิ้นปี ทั้งๆ ที่ฤดูพายุควรจะสิ้นสุดลงไปตั้งแต่ปลาย ต.ค.-ต้น พ.ย. เช่นเดียวกับในหลายปีที่ผ่านมา แต่ปีนี้พิเศษสุด

พายุลูกใหม่ที่ก่อตัวขึ้นในทะเลแปซิฟิก 2-3 วันที่ผ่านมา ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ได้ทวีความเร็วลมขึ้นเป็นระดับพายุโซนร้อนในเวลาเที่ยงของวันคริสต์มาส 25 ธ.ค.นี้ สำนักพยากรณ์อากาศชั้นนำหลายแห่งคาดว่า พายุอู่คง (Wukong) จะกลายเป็นไต้ฝุ่นภายใน 24 ชั่วโมง และเคลื่อนเข้าถึงฝั่งเวียดนามภายใน 72 ชั่วโมงข้างหน้า

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอยได้ออกคำเตือนเรื่องนี้ ขอให้ทางการท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่ภาคกลางลงไปจนถึงตอนใต้สุดตรงปลายแหลมญวนจับตาพายุลูกนี้อย่างใกล้ชิด

ไต้ฝุ่นชื่อจีนกำลังจะเข้าถล่มเกาะมินดาเนาอีกครั้งหนึ่งในตอนกลางคืนวันอังคาร 25 ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นเวลาเพียงข้ามสัปดาห์หลังจากเกาะใหญ่ทางภาคใต้ ถูกซูเปอร์ไต้ฝุ่น “บุปผา” (Bopha) ซัดกระหน่ำทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน ในขณะที่การเยียวยาความเสียหายยังคงดำเนินอยู่

ตามรายงานของสำนักงานพยาการณ์อากาศในกรุงมะนิลา ตอนเที่ยงวันวันอังคารนี้พายุอู่คงอยู่ห่างจากหมู่เกาะราว 299 กิโลเมตร และกำลังเคลื่อนตัวในแนวตะวันตก-ตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 20 กม./ชม. ทำให้เกิดฝนตกประปรายจนถึงตกหนักตั้งแต่ตอนใต้เกาะลูซอน (ตั้งเมืองหลวง) ลงไปจนถึงหมู่เกาะแถบภาคกลางตอนล่าง

คาดว่าพายุจะพัดเข้าฝั่งบริเวณเกาะเลย์เต (Leyte) กลางดึกคืนนี้ และขอให้ประชาชนในย่านนี้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศต่อไปอย่างใกล้ชิด

หน่วยงานของฟิลิปปินส์คาดว่า ไต้ฝุ่นอู่คงจะเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในคืนเดียวกัน และในเวลาเที่ยงวันวันพุธ 26 ธ.ค.จะเข้าถึง “ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก” ห่างจากหมู่เกาะปาลาวัน (Palawan) ราว 235 กม. (บริเวณหมู่เกาะสแปร็ตลีย์)

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ ในกรุงฮานอยรายงานในเวลาเที่ยงวันนี้ว่า อู่คงกำลังจะเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 10 ใน “ทะเลตะวันออก” ปีนี้ โดยคาดว่าจะเคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 20-25 กม./ชม.ในแนวตะวันตก-ตะวันตกเฉียงเหนือ ก่อนจะชะลอตัวลงใน 48 ชั่วโมงข้างหน้า และขอให้ชาวประมงเพิ่มความระมัดระวัง ติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด.


พายุโซนร้อนอู่คง (Wunkong) ในภาพดาวเทียมของสำนักงานบริหารพื้นมหาสมุทรและห้วงอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือ NAOA (National Oceanic and Atmospheric Administration) แสดงให้เห็นพายุลูกใหญ่ขณะทวีความเร็วขึ้นเป็นพายุโซนร้อนที่ควรจะหมดไปจากทะเลแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือตั้งแต่เดือนที่แล้ว.


ภาพจากดาวเทียม MTSAT ที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอยเผยแพร่ในเช้าวันนี้ แสดงให้เห็นพายุโซนร้อนอู่คง (Wukong) หมุนติ้วขณะมุ่งหน้าเข้าถล่มเขตวิซายาส (Visayas) หรือหมู่เกาะภาคกลางฟิลิปปินส์ หลังจากสัปดาห์ก่อนมหาไต้ฝุ่นบุปผาซัดเกาะมินดาเนาที่อยู่ใต้ลงไปแหลกราญ มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน.



แผนภูมิของศูนน์ร่วมเตือนภัยไต้ฝุ่น JTWC (Joint Typhoon Warning Center) หน่วยงานของกองทัพเรือสหรัฐ แสดงเส้นทางเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อนอู่คง (Wukong) ไปจนถึงช่วงก่อนสิ้นปี พายุชื่อจีนลูกนี้กำลังจะเพิ่มความแรงขึ้นเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้าขณะพัดเข้าทะเลจีนใต้ คราวที่แล้ว JTWC ถูกซูเปอร์ไต้ฝุ่นบุปผาหลอกล่อจนหลงทางอยู่หลายวัน.



คราวนี้สำนักพยากรณ์อากาศทุกแห่งในย่านเอเชีย-แปซิฟิก พยากรณ์ตรงกัน พายุโซนร้อนอู่คงกำลังมุ่งหน้าเข้าแปซิฟิก และพุ่งตรงไปฉลองปีใหม่ทางตอนใต้สุดของชายฝั่งเวียดนาม คราวที่แล้วหลายสำนักโดนไต้ฝุ่นบุปผา (Bopha) หลอกล่อหลงทางอยู่หลายวัน.



อย่างไรก็ตาม -- สำนัก TSR (Tropical Storm Risk) ที่ได้รับความเชื่อถือมานานปี ดูจะเป็นเพียงแห่งเดียวที่ชี้ทิศทางสุดท้ายของพายุอู่คง (Wukong) ไปยังเกาะตอนเหนือของฟิลิปปินส์ในอีก 3 วันข้างหน้า ใกล้เคียงกับเส้นทางที่ไต้ฝุ่นบุปผา (Bopha) เคยหลอกล่อให้หลายสำนักพยากรณ์อากาศสับสน .. คราวนี้ต้องรอดู.

ที่มาจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

 

สกู๊ปพิเศษ 2

5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ “กวางเรนเดียร์”


กวางเรนเดียร์ สัตว์ที่ได้ชื่อว่าเป็นพาหนะของซานตาครอส ( Dreamstime.com)

กวางเรนเดียร์เป็นที่รู้จักในฐานะพาหนะของ “ลุงซานต้า” แต่จากรายงานไลฟ์ไซน์ได้อ้างถึงการศึกษาเมื่อช่วงต้นปีนี้ ว่า กวางเรนเดียร์ได้ลดจำนวนลงเกือบ 60% ในช่วงเวลา 3 ทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และที่มนุษย์เข้าไปรบกวนถิ่นอาศัยของกวาง

ไลฟ์ไซน์อ้างถึงคำพูดของ จัสตินา เรย์ (Justina Ray) ผู้อำนวยการของสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าแคนาดา ที่กล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2008 ว่า กวางเรนเดียร์นั้น มีความสำคัญต่อระบบนิเวศของซีกโลกเหนือ ด้วยความต้องการพื้นที่ในการดำรงชีวิตเป็นวงกว้าง จึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชีวิตว่าเราประสบความสำเร็จในการสนองต่อความจำเป็นในการดำรงชีวิตของกวางชนิดนี้ ภายใต้พื้นที่ซึ่งมีความกดดันรุนแรงหรือไม่

กวางเรนเดียร์รู้จักในอีกชื่อว่า กวางแคริบู (Caribou) ซึ่งเป็นกวางในอเมริกาเหนือ ที่อยู่ในสปีชีส์ “แรนจิเฟอร์ ทารันดัส” (Rangifer tarandus) แต่กวางเรนเดียร์ที่อาศัยอยู่ในสแกนดิเนเวีย และไซบีเรีย นั้น มีขนาดค่อนข้างเล็กกว่าและมีขาสั้นกว่ากวางป่าแคริบู โดยกวางที่อาศัยในไซบีเรียนั้นจะถูกเรียกว่า “เรนเดียร์ป่า”


กินหญ้าในเขตหนาว แต่อยู่ได้ด้วยขนที่กักอากาศเพื่อเป็นฉนวนกันอากาศหนาวเย็นจากภายนอกได้ ( U.S. Fish & Wildlife Service)

ขนาดและน้ำหนักของเรนเดียร์ จะขึ้นอยู่กับแพศและอายุ โดยกวางที่โตเต้มวัยจะสูงได้ราว 1 เมตร และตัวผู้หนักเฉลี่ยประมาณ 170 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียหนักเฉลี่ยประมาณ 90 กิโลกรัม

สำหรับ 5 เรื่องน่าสนใจของกวางเมืองหนาวชนิดนี้ คือ

1.เป็นนักท่องโลก
ในแต่ละปีกวางแคริบูเดินท่องได้ไกลเกือบ 5,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการเดินทางไกลที่สุดของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยบนบก เป็นรองก็แต่วาฬหลังค่อม (humpback whale) ซึ่งทำสถิติเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยที่ท่องโลกไกลที่สุด โดยว่ายน้ำเพื่อไปแหล่งผสมพันธุ์ไกลถึง 8,000 กิโลเมตรฝนช่วงฤดูหนาว


นักวิ่งลมกรด ( Iakov Kalinin)
2.เจ้าลมกรด
เห็นท่าเดินช้าๆ เชื่องๆ แต่กวางแคริบูวิ่งได้เร็วถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อได้สัญญาณของผู้ล่ากวางแคริบูจะวิ่งเหยาะๆ ยกหัวสูงขนานกับพื้น และหางที่ปกติจะห้อยลงก็จะตั้งขึ้น เมื่อถูกไล่ล่าก็จะวิ่งควบอย่างว่องไว และด้วยพฤติกรรมดังกล่าวจึงมีประเพณีแข่งกวางเรนเดียร์ทางภาคเหนือของรัสเซีย

3.ทนหนาวด้วยขนแบบพิเศษ
กวางเหล่านี้อาศัยอยู่ในอลาสกา แคนาดา สแกนดิเนเวีย และรัสเซีย โดยเล็มกินหญ้าในที่ราบทุนดรา และแทนที่จะมีขนนุ่มๆ ปกคลุมตัว แต่กวางเรนเดียร์กลับมีขนที่เป็นโพรงดักอากาศ ซึ่งทำหน้าที่เป็นฉนวนป้องกันอุณหภูมิอันหนาวเหน็บจากภายนอก และระบบไหลเวียนเลือดของให้เลือดที่มีอุณหภูมิเย้นกว่าตามขาของเรนเดียร์ดึงความร้อนจากเลือดอุ่นๆ ของร่างกายส่วนอื่นๆ ได้


เป็นนักท่องโลก ( Eirikur Kristjansson|)

4.ส่งเสียงอยู่ในลำคอ
กวางเรนเดียร์นั้น ส่งเสียงค่อนข้างเบาอยู่ในลำคอ โดยตัวเมียจะเริ่มสื่อสารในช่วงเดือนแรกหลังการเกิดของลูกน้อยในฤดูร้อน ส่วนตัวผู้จะส่งเสียงเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงระหว่างฤดูผสมพันธุ์ ส่วนฤดูอื่นๆ นักวิทยาศาสตร์ พบว่า กวางตัวผู้จะใช้ถุงลมขนาดใหญ่ในลำคอส่งเสียงคำรามรัวๆ ซึ่งเสียงในลำคอนี้ช่วยกีดกันตัวผู้คู่แข่งระหว่างดึงดูดคู่ผสมพันธุ์ได้ ส่วนตัวเมียจะใช้ถุงอากาศคล้ายๆ กันเพื่อให้แม่สามารถสื่อสารกับลูกของตัวเองได้อย่างเจาะจง

5.กวางของซานต้า (น่าจะ) เป็นตัวเมียทั้งหมด
กวางตัวผู้จะผลัดเขาในช่วงสิ้นสุดฤดูผสมพันธุ์ซึ่งอยู่ในช่วงต้นเดือน ธ.ค.ส่วนตัวเมียจะเก็บเขาไว้ตลอดฤดูหนาว หากตำนานของซานตาครอสเป็นจริง กวางของซานต้าทุกตัวมีเขา ดังนั้น กวางของเขาน่าจะเป็นตัวเมียทั้งหมด นอกจากนี้ เมื่อถึงชวงคริสต์มาสเรนเดียร์ตัวผู้จะเหลือไขมันในร่างกายเพียง 5% เนื่องจากใช้ไปเยอะระหว่างฤดูผสมพันธุ์ ขณะที่ช่วงฤดูหนาวกวางเรนเดียร์ตัวเมียจะตุนไขมันไว้ในร่างกายประมาณ 50% ซึ่งเป็นชั้นไขมันที่หนาได้ถึง 2-3 นิ้วรอบสะโพก ซึ่งช่วยให้เรนเดียร์ทนหนาวได้ถึง -43 องศาเซลเซียส


ช่วงฤดูหนาวตัวเมียยังไม่ผลัดเขาและมีไขมันมากกว่าตัวผู้ ( Andreas Gradin)

ที่มาจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

 

ข่าวยามบ่าย

ฝนถล่มนราฯต่อเนื่องระดับน้ำสูงหลายพท.



ฝนถล่มนราฯ หนักต่อเนื่อง ทำระดับน้ำท่วมสูงหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.แว้ง อ่วมน้ำป่าเซาะถนนขาด ตชด.เร่งนำถุงพระราชทานแจกชาวบ้าน

รายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส ล่าสุดวันที่ 26 ธันวาคม ฝนก็ยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำท่วมขังบ้านเรือนของราษฎรในพื้นที่ 131 หมู่บ้าน 48 ตำบล มีปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากอิทธิพลของน้ำป่าบนเทือกเขาสันกลาคีรีที่ไหลทะลักลงมาสมทบกับปริมาณน้ำฝนในแม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย โดยเฉพาะที่บริเวณหมู่บ้านลีแยะ ม.1 และบ้านบาขุด ม.2 ต.โล๊ะจูด อ.แว้ง ซึ่งได้รับอิทธิพลของน้ำป่าโดยตรงไหลผ่าน ทำให้ถนนสายหลักที่ใช้วิ่งสัญจรไปมาระหว่าง 2 หมู่บ้านถูกตัดขาด โดยมีปริมาณน้ำท่วมสูง 2-3 เมตรยานพาหนะทุกชนิดไม่สามารถที่จะสัญจรไปมาได้
พ.ต.ท. วรากรณ์ ไชยเสือ ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 446 อ.แว้ง ได้นำกำลังพลและถุงพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ บรมราชินีนาถ ลงเรือยนต์นำไปแจกจ่ายให้กับผู้ได้รับผลกระทบทั้ง 2 หมู่บ้านซึ่งมีราษฎรอาศัยอยู่ 48 ครัวเรือน จำนวน 199 คนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมในครั้งนี้แล้ว จนสร้างความปลาบปลื้มยิ่งนักในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกรชาวไทยที่ประสบภัยทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ผลพวงจากสภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ ยังขยายผลทำให้โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาสเขต 3 จำนวน 2 โรง คือ โรงเรียนบ้านกอแนะเหนือ โรงเรียนบ้านแกแม อ.ระแงะหยุดการเรียนการสอนเพิ่มเติมจากวานนี้รวมเป็น 5 โรงเรียนแล้วและหากฝนไม่หยุดตกจะมีแนวโน้มว่าโรงเรียนอีกหลายแห่งจะทยอยปิดการเรียนการสอนต่อเนื่อง

เพลิงไหม้รร.ดังกลางหาดป่าตองวอดยับ



เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องพักโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวรับอรุณ นักท่องเที่ยวหนีตายอลม่านโชคดีไร้เจ็บคาดเสียหายมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เบื้องต้นคาดไฟฟ้าลัดวงจร

เมื่อเวลาประมาณ05.00 น.วันที่ 26 ธันวาคม ร.ต.อ.จักรพงศ์ เหลืองอ่อน ร้อยเวรสภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้ที่บริเวณโรงแรมรอยัล ภาวดี วิลเลจ เลขที่ 3 ถ.สวัสดิ์รักษ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย จากนั้นได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อมประสานไปยังงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองป่าตอง และเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธ์ ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ รอง ผกก.ป.,พ.ต.ท.นิกร ชูทอง สวป., นายชัยรัตน์ สุขบาล และนายประสาน ยอดต่อ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองป่าตอง พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองป่าตอง จำนวน 10 คัน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว บริเวณอาคารด้านหน้าขนาด 3 ชั้น ก่อสร้างด้วยไม้ทั้งหลังลักษณะเป็นเรือนไทยประยุกต์ มีเพลิงกำลังลุกไหม้ บริเวณชั้น 2 และชั้น 3 ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างพากันวิ่งหนีตายอย่างอลม่าน โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งฉีดน้ำสกัดกั้นเพื่อไม่ให้ โหมไหม้โรงแรมที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเก็บอุปกรณ์ ระหว่างนั้นได้เกิดลมกรรโชกแรง ทำให้เพลิงลุกไหม้ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาประมาณ 30 นาที จนกระทั่งเวลา 07.30 น. ก็สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า มีห้องพักและห้องฟิตเนสเสียหาย รวมประมาณ 13 ห้อง แต่ที่เสียหายอย่างหนักประมาณ 6 ห้อง เบื้องต้นคาดว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่คงต้องรอการตรวจสอบที่ชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการอีกครั้ง
จากการสอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรมดังกล่าว ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังเข้าเวรอยู่นั้นเห็นประกายเพลิงเกิดขึ้นที่แผงควบคุมไฟฟ้าที่ชั้น 1 จึงได้นำถังโฟมมาดับ แต่ประกายไฟได้โหมไหม้อย่างหนัก และลุกลามขึ้นที่บริเวณท่อพีวีซี (PVC) และลุกลามขึ้นไปยังห้องพักบริเวณชั้นที่ 2 ของอาคาร จากนั้นตนก็พยายามนำโฟมมาฉีดอีก 5 ถัง แต่ไม่สามารถสกัดกั้นเพลิงได้ จึง ได้ร่วมกับพนักงานคนอื่นๆ ช่วยกันเคาะประตูเรียกนักท่องเที่ยวที่พักอยู่บริเวณชั้น 2- 3 ให้ออกมาจากห้องพัก จากนั้นได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประสานไปยังงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองป่าตอง
ด้านนายโครช์ เดอ คริสเซีย (CLAUDE DE CAISSEY) อายุ 60 ปี สัญชาติฝรั่งเศส เจ้าของโรงแรมดังกล่าว และเป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ประเทศฝรั่งเศส ประจำจังหวัดภูเก็ต เล่าว่า ขณะนอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านพัก ทางพนักงานของโรงแรมได้โทรศัพท์แจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้ที่โรงแรม จึงรีบเดินทางมาตรวจสอบ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า จุดต้นเพลิงอยู่ที่บริเวณแผงคุมไฟฟ้าด้านนอกที่เกิดประกายเพลิงแล้วเพลิงไหม้ที่ท่อพีวีซี และลุกลามไปยังชั้น 2 -3 รวมประมาณ 13 ห้อง นอกจากนี้ยังมีห้องฟิตเนส และห้องอาหารได้รับความเสียหายด้วย คาดว่าจะมีความเสียหายรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

ภูเก็ตจัดงานรำลึก8ปี'สึนามิ'



ภูเก็ตจัดงานรำลึก 8 ปี 'สึนามิ' ปชช.ร่วมประกอบพิธีทางศาสนา-วางช่อดอกไม้เพื่อไว้อาลัย ด้านศูนย์เตือนภัยพิบัติฯเเสดงความเสียใจ ระบุขอให้ปชช.เชื่อมั่นระบบทำงาน

26 ธ.ค.55 ที่บริเวณสุสานสึนามิไม้ขาว ซึ่งเคยเป็นสถานที่รวบรวมศพของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เพื่อรอการพิสูจน์สัญชาติ ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายอุดม ศิริพฤกษ์พงษ์ ปลัดอาวุโสอำเภอภลาง เป็นประธานงานรำลึกครบรอบ 8 ปี สึนามิ ประจำปี 2555 ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว (อบต.ไม้ขาว) ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดขึ้น โดยมีนายวิรัต มาแก้ว รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชย ตัวแทนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่และข้าราชการองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว ตัวแทนกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำจังหวัดภูเก็ต ประชาชน ตลอดจนญาติและเพื่อนของผู้เสียชีวิตและสูญหายเข้าร่วม
ทั้งนี้ได้มีการประกอบพิธีทำบุญตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 5 รูป เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ยังได้มีการประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม และศาสนาคริสต์ รวมทั้งยังได้มีการนำพวงมาลัยดอกไม้ไปวางไว้บริเวณกำแพงรำลึกสึนามิ ซึ่งมีการนำธงชาติของประเทศต่างๆ จำนวน 45 ประเทศ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เป็นต้น ที่มีผู้เสียชีวิตและสูญหายจากเหตุการณ์ไปติดไว้ เพื่อแสดงการไว้อาลัย
นายวิรัต มาแก้ว รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว กล่าวว่า การจัดงานรำลึกสึนามิได้มีการจัดกิจกรรมเป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ 8 ทางองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลไม้ขาวและใกล้เคียง เพื่อร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ภัยพิบัติครบรอบ 8 ปี สึนามิ เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมไว้อาลัย เป็นการเผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดีและแสดงถึงความมีน้ำใจของชาวไทย เพื่อเป็นการเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตทั้งชายไทยและต่างประเทศ รวมทั้งเป็นการฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตด้วย

ศูนย์เตือนภัยพิบัติฯกล่าวเเสดงความเสียใจ

ศูนย์เตือนภัยพิบัติเเห่งชาติแจ้งว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 8 ปี การเกิดภัยสึนามิเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2547 ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติขอน้อมรำลึกและแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อผู้สูญเสียในครั้งนั้น ปัจจุบันศูนย์เตือนภัยฯ ได้มีการพัฒนาระบบการเตือนภัยและเฝ้าระวัง พร้อมทั้งตรวจสอบการทำงานของระบบตลอดเวลา ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบการทำงานของศูนย์เตือนภัยฯ และติดตามข้อมูลข่าวสารจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติต่อไป ด้วยความปราถนาดีจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

ที่มาจาก คม ชัด ลึก

ปภ.สรุปสถานการณ์น้ำท่วม,ภัยหนาว-แล้ง



ปภ. สรุปสถานการณ์สาธารณภัย ภาคใต้น้ำท่วม 3 จังหวัด คาด อีก 2 วันปกติ เหนือ ประสบภัยหนาว 4 จังหวัด และภัยแล้งอีก 23 จังหวัด

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์สาธารณภัย ประจำวันที่ 26 ธ.ค. 2555 ว่า สถานการณ์
อุทกภัย จ.นครศรีธรรมราช เกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งขังในบางพื้นที่ และได้รับผลกระทบ 2 อำเภอ คือ อ.สิชล และ อ.ปากพนัง จ.สุราษฎร์ธานี เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ที่ อ.กาญจนดิษฐ์ วัดปริมาณฝนได้สูงสุด 130.0 ม.ม. ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ 3 ตำบล หากไม่มีฝนตกเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติใน 2 วัน และ จ.นราธิวาส ฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ 11 อำเภอ หากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดจะเข้าสู่ภาวะปกติใน 2 วัน เช่นกัน
ส่วนภัยหนาว จังหวัดที่มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ภัยหนาว 4 จังหวัด 37 อำเภอ ได้แก่
จ.เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอน และ เชียงราย

ด้านภัยแล้ง จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ และมีการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินฝนทิ้งช่วง/ภัยแล้ง
23 จังหวัด 245 อำเภอ ได้แก่ จ.กาฬสินธุ์ สกลนคร อุดรธานี บึงกาฬ มุกดาหาร หนองคาย หนองบัวลำภู
มหาสารคาม ยโสธร อำนาจเจริญ นครพนม ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ ศรีสะเกษ ขอนแก่น บุรีรัมย์ นครราชสีมา สุโขทัย
พิษณุโลก อุบลราชธานี นครสวรรค์ สุรินทร์ และ เชียงใหม่

อากาศหนาวในอินเดียคร่าชีวิตผู้คนไป25ราย



อากาศหนาวในอินเดีย ทวีความรุนแรงเพิ่ม หมอกหนาแน่น-การโดยสารหยุดชะงัก ซึ่งขณะนี้ คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 25 ราย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า โฆษกวิทยุของอินเดีย กล่าวถึงอากาศหนาวเย็นทางภาคเหนือของประเทศอินเดีย ในขณะนี้ โจมตีอุณหภูมิภายในประเทศ ให้ต่ำลงถึง 7 องศาฯ จนทำให้มีผู้เคราะห์ร้ายทนความหนาวเย็นไม่ได้ เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 25 ราย
เขายังรายงานต่อว่า สภาพของผู้เสียชีวิตน่าสลดใจมาก ส่วนใหญ่เป็นคนจรจัดไม่มีที่อยู่อาศัยและอีกส่วนหนึ่งเป็นผู้สูงอายุที่ไร้วี่แววการดูแลจากครอบครัว นอกจากอากาศที่หนาวเย็นจนเป็นปัญหาให้กับประเทศแล้ว ยังมีสภาพอากาศหมอกหนาจัดปกคลุมทั่วพื้นที่ในประเทศ ทำให้การโดยสารทุกเที่ยวบินของประเทศหยุดชะงัก และงดการใช้บริการการเดินทาง โดยรถไฟจากกรุงนิวเดลี ไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย

กรมอุตุนิยมวิทยาของประเทศ ยังเปิดเผยว่า สภาพอากาศของอินเดีย ยังคงหนาวขึ้นเรื่อยๆ ต่อวัน และก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะหยุดที่อยู่ 25 รายหรือไม่

พายุทอร์นาโดกระหน่ำภาคใต้สหรัฐฯ



พายุทอร์นาโด ซัดกระหน่ำภาคใต้ของสหรัฐฯ วันคริสต์มาส กลายเป็นเทศกาลสีขาว หิมะปกคลุมทั่วประเทศ

สื่อต่างประเทศ รายงานว่า เมื่อวานที่ผ่านมา เกิดเหตุพายุทอร์นาโด โจมตีทางภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางการเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญวันคริสต์มาสของประชาชนนับ 200,000 คน ซึ่งรายงานเบื้องต้นความเสียหายยังไม่ส่งผลกระทบให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต แต่มีต้นไม้โค่มล้ม กระแสไฟขัดข้อง ตึกและอาคารบางโครงสร้างได้รับผลกระทบ ในบางพื้นที่

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น พายุได้พัดพาหิมะเข้ามาในประเทศอย่างหนาแน่นกว่าเดิม จากวันคริสต์มาสซึ่งเป็นวันที่โลกสว่างไสว ด้วยไฟที่ประชาชนตกแต่งอาคารบ้านเรือน กลับกลายเป็นวันคริสต์มาสสีขาวโพน ซึ่งมีหิมะปกคลุมความหนาถึง 30.5 เซนติเมตร

ที่มาจาก INN

น้ำท่วมพัทลุงคลี่คลาย-ดินถล่มขยายวงกว้าง เฝ้าระวัง 24 ชม.





น้ำท่วมพัทลุงคลี่คลาย-ดินถล่มขยายวงกว้างระวัง24ชม. (ไอเอ็นเอ็น)

พื้นที่น้ำท่วม จ.พัทลุง เริ่มคลี่คลาย หลังฝนหยุดตก ขณะดินถล่มริมป่าเทือกเขาบรรทัด ขยายวงกว้าง จนท.เฝ้าระวัง24 ชั่วโมง ขณะนราธิวาส จมบาดาล 2 อำเภอต้องอพยพประชาชน คาด ใช้เวลา 5 วัน จะเข้าสู่ภาวะปกติ

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พัทลุง เริ่มคลี่คลาย หลังจากที่ฝนได้หยุดตก ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเทือกเขาบรรทัด เริ่มลดลง แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ราบลุ่มริมทะเลสาบใน 2 อำเภอ 7 ตำบล ระดับน้ำยังคงท่วมสูง 1 เมตร ถนนในหมู่บ้าน รถยังใช้การไม่ได้ ชาวบ้านยังต้องใช้เรือในการเดินทาง

ในขณะที่ เจ้าหน้าที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 434 พัทลุง ผู้นำท้องถิ่น และอาสาสมัครเฝ้าระวังป้องกันภัยหมู่บ้าน ยังคงเฝ้าระวังตรวจสอบ น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม หลังจากพบว่าบริเวณริมป่าเทือกเขาบรรทัด ที่บ้านโคกไทร ท้องที่ 1 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา มีรอยแยก และการสไลด์ของผิวดินเพิ่มและขยายเป็นวงกว้าง ในพื้นที่ 5 ไร่ เป็นทางยาวกว่า 300 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด ยังคงมีฝนตก พร้อมกับแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ให้ตื่นตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

นราธิวาส จมบาดาล ทั้งจังหวัด

นายสามารถ วราดิศัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยกับ ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำฝนลดน้อยลง ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ส่วนพื้นที่ ที่ประสบภัยน้ำท่วมนั้น ทุกอำเภอประสบภัยน้ำท่วมขัง แต่มี 2 อำเภอ ต้องอพยพประชาชน โดยเฉพาะ ประชาชนในเขตเทศบาลสุไหงโก-ลก ที่อาศัยอยู่ติดริมตลิ่งแม่น้ำสุไหงโกลก ประมาณ 40-50 ครอบครัว ที่ต้องอพยพมาอยู่ที่ ที่ปลอดภัย โดยภาพรวมถือว่า ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทั้งนี้ หากไม่มีฝนตกลงมา คงใช้เวลาไม่เกิน 5 วัน จะเข้าสู่ภาวะปกติ

แม่น้ำปัตตานี ทะลักท่วม 3 ตำบล

จากกรณีที่ได้เกิดสภาวะฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในพื้นที่จังหวัดยะลา ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำปัตตานี เริ่มสูงขึ้น บางจุดเริ่มไหลทะลักเข้าท่วมในสวนยางพาราบ้างแล้ว โดยทาง จังหวัดยะลา ได้เปิดศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจังหวัดยะลา เพื่อเตรียมความพร้อมในส่วนของเครื่องมือและยานพาหนะในการช่วยเหลือประชาชน และเมื่อเช้าวันนี้ ได้รับรายงานแล้วว่า พื้นที่ ตำบลกายูบอเกาะ ต.เกะรอ และ ต.ตะโล๊ะหะรอ อ.รามัน จ.ยะลา ส่งผลให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนแล้ว 150 คน 35 ครัวเรือน ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัด ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจข้อมูลความเสียหาย พร้อมให้ความช่วยเหลือแล้ว


รัสเซียหนาวจัด! ติดลบ 30-60 องศา 10 วัน เสียชีวิต 123 คน



รัสเซียหนาวจัด ทำคนตาย 123 คน เพียง10วัน (ไอเอ็นเอ็น)

หน่วยงานทางการแพทย์รัสเซีย เผย สภาพอากาศหนาวจัด ติดลบ 30-60 องศา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 123 คน ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา

วันนี้ (26 ธันวาคม) สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ รายงานว่า นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูหนาวในรัสเซีย มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 123 ราย เพราะอากาศหนาวเย็น จากอาการของโรคความเย็นจัดและภาวะตัวเย็นเกิน และในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้ถูกนำส่งโรงพยาบาล 201 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 14 คน โดยมีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะอากาศหนาวเย็น 1,745 คน และนอนโรงพยาบาล 800 คน โดยแคว้นมอสโก อุณหภูมิติดลบ 30 องศาเซลเซียส ขณะที่เขตไซบีเรียตะวันออก อุณหภูมิติดลบถึง 60 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิขณะนี้ต่ำกว่าอุณหภูมิปกติในช่วงฤดูหนาวของรัสเซียอยู่ 12 องศาเซลเซียส และส่วนใหญ่แล้วอากาศในรัสเซียจะหนาวเย็นที่สุดในเดือนมกราคม หรือ กุมภาพันธ์

สำนักงานอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่า พื้นที่ของรัสเซียในฝั่งยุโรป อุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็วในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่า กรุงมอสโก จะมีอุณหภูมิลดลงเหลือ 0 องศาเซลเซียส

ที่มาจาก

 

สวัสดีครับ
-ห่างหายไปภาระกิจเสียหลายวัน มาเฝ้าติดตามการสั่นไหวของแผ่นดินกันต่อครับ

​

 

-เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาแผ่นดินไหวที่พม่า ขนาด 4.8 ริกเตอร์

​

 

ข่าวบางข่าว เขียน over ไปมาก เช่น

พายุทอร์นาโด ซัดกระหน่ำภาคใต้ของสหรัฐฯ วันคริสต์มาส กลายเป็นเทศกาลสีขาว หิมะปกคลุมทั่วประเทศ

มันจะมีหิมะทั่วประเทศได้ไง เมืองๆเดียว
อเมริกา มีตั้ง 50 รัฐ ที่อื่น ยังร้อนอยู่ก็หลายๆที่
เมืองไทย เสพ ข่าว แต่งข่าว ให้คนตื่นเต้นกันหรือไง ?

 

-วันนี้จุดเดียวกันของประเทศพม่าแผ่นดินสั่นไหวขนาด 4.8 , 4.9 ริกเตอร์ บ่อยมากๆ ครับ

​

 

-มาแบบไม่หยุดที่ อินโดนีเซีย ขนาด4.7 ริกเตอร์

​

 

ปภ.เตือนระวังเมืองไทยอากาศวิปริต
วันพุธที่ 26 ธันวาคม 2555 เวลา 12:03 น.

ปภ.เผย ประเทศไทยอากาศแปรปรวน เหนือหนาว ใต้ฝนตก อีสานแล้ง

วันนี้ (26 ธ.ค.) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป ส่วนบริเวณภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามยอดดอยในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นในระยะนี้ และมีการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยหนาว) 4 จังหวัด 37 อำเภอ 212 ตำบล 2,819 หมู่บ้าน 615,270 ครัวเรือน 1,596,244 คน ได้แก่ เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอน และเชียงราย

นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยยังมีกำลังแรง ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จ.สุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งระยะนี้ไว้ด้วย

ส่วนสถานการณ์ภัยแล้ง นั้น มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ฝนทิ้งช่วง/ภัยแล้ง) 23 จังหวัด 245 อำเภอ 1,794 ตำบล 18,830 หมู่บ้าน ได้แก่ จ.กาฬสินธุ์ สกลนคร อุดรธานี บึงกาฬ มุกดาหาร หนองคาย หนองบัวลำภู มหาสารคาม ยโสธร อำนาจเจริญ นครพนม ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ ศรีสะเกษ ขอนแก่น บุรีรัมย์ นครราชสีมา สุโขทัย พิษณุโลก อุบลราชธานี นครสวรรค์ สุรินทร์ และจ.เชียงใหม่

ปภ.เตือนระวังเมืองไทยอากาศวิปริต | เดลินิวส์

 

สวัสดีครับ
-เช้านี้ที่อินโดนีเซีย ครับ

​

 

ข่าวเช้านี้


ญี่ปุ่น – ฮอกไกโด ซัปโปโร พายุหิมะถล่ม ความเร็วลมเกือบ 90 กม./ชม. อุณหภูมิลงต่ำเกือบ -30°C

06:40 พายุหวู่คง ล่าสุดอยู่ในทะเลจีนใต้ ลดกำลังลงเป็นดีเปรสชัน ความเร็วลรอบศูนย์กลางเหลือเพียง 25 น็อต มีโอกาสสลายตัวใน 24 ชม นี้




ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

ทั่วไทยอุ่นขึ้น1-2องศา ยกเว้นเหนือหนาวต่อเนื่อง


ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้ทุกภาคอุ่นขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส เว้นแต่ภาคเหนือเย็นลงต่อเนื่อง บริเวณภูเขาสูงหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งตามยอดดอย

วันนี้ (27 ธ.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันว่า ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04.00 น. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศอุ่นขึ้น โดยอุณหภูมิ จะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส เว้นแต่ในภาคเหนือมีลมตะวันตกเฉียงเหนือในระดับบนพัดปกคลุม ทำให้มีอุณหภูมิเย็นลงอย่างต่อเนื่อง บริเวณภูเขาสูงยังคงมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามยอดดอย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างยังมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไประมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย

อนึ่ง พายุโซนร้อน “หวู่คง” บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางในวันนี้ จากนั้นจะสลายตัวใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามในวันที่ 29 ธ.ค. พายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ (28 ธ.ค.)

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสงขลาปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพร ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

มะกันอ่วมหนัก “ทอร์นาโด-พายุหิมะ” ถล่มดับแล้ว 7 ศพ


พายุหิมะและทอร์นาโดพัดถล่มหลายพื้นที่ของสหรัฐ คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 7 ศพ

วันนี้ ( 27 ธ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า อิทธิพลของพายุหิมะที่รุนแรงต่อเนื่อง และพายุทอร์นาโด คร่าชีวิตประชาชนไล่ตั้งแต่ชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก ไปจนถึงเกรทเลกส์แล้วอย่างน้อย 7 ศพ ก่อนจะเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปถล่มพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเป็นเป้าหมายต่อไป


รายงานพยากรณ์อากาศโดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งสหรัฐเมื่อวันพุธ ระบุว่า พื้นที่ตั้งแต่รัฐนิวยอร์กจนถึงรัฐเมนอาจมีหิมะตกสูงถึง 46 เซนติเมตร ขณะที่ประชาชนในรัฐนอร์ทแคโรไลนา และเซาท์แคโรไลนา อาจต้องเผชิญกับฝนหิมะ รวมถึงพายุฟ้าคะนองในระยะ 1-2 วันนี้


ก่อนหน้านี้เพียง 1 วัน มีรายงานพายุทอร์นาโด 34 ลูกพัดถล่มรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐ ได้แก่เทกซัส ลุยเซียนา แอละบามา และมิสซิสซิปปี สร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่บ้านเรือนประชาชน และอาคารพาณิชย์จำนวนมาก ส่งผลให้ผู้ว่าการรัฐแอละบามา และมิสซิสซิปปีต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทันที เนื่องจากประชาชนรวมแล้วกว่า 200,000 คน ประสบภาวะขาดแคลนกระแสไฟฟ้า


ด้านทางการรัฐอาร์คันซอรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์คันหนึ่งเสียหลักพลิกคว่ำเนื่องจากถนนลื่น มีเด็กเสียชีวิต 2 ศพ ขณะที่ผู้เป็นมารดาซึ่งเป็นคนขับรถได้รับบาดเจ็บ และพบผู้เสียชีวิตในพื้นที่อีก 1 ศพ คาดว่าเสียชีวิตจากสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ


ส่วนที่รัฐโอกลาโฮมามีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 10 ราย จากอุบัติเหตุรถยนต์ชนท้ายต่อเนื่อง 21 คัน และยังมีรายานพบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 2 ศพ จากอุบัติเหตุบนทางหลวงสายหลักของรัฐ


นอกจากนี้ยังมีรายงานต้นไม้หักโค่นทับบ้านหลังหนึ่งในรัฐลุยเซียนา ส่งผลให้ชายที่อยู่ในบ้านเสียชีวิต และพบผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันอีก 1 ศพในรัฐเทกซัส


ขณะที่ระบบขนส่งมวลชนทางอากาศยังได้รับผลกระทบอย่างหนัก เที่ยวบินกว่า 1,500 เที่ยวจำเป็นต้องระงับให้บริการชั่วคราว สาเหตุจากสภาพทัศนะวิสัยที่ย่ำแย่ และรันเวย์ที่ยังคงมีน้ำแข็งจับเต็มพื้นผิว

ทีมาจาก เดลินิวส์

ยะลา น้ำท่วม 5 ตำบล - เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง


2 แม่น้ำ ยะลา ล้นตลิ่งท่วม 5 ตำบล เดือดร้อนกว่า 50 ครัวเรือน ด้านผู้ว่าฯ สั่งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงทั้ง 8 อำเภอ

บรรยากาศทั่วไปในพื้นที่ จ.ยะลา เช้านี้ สภาพอากาศเริ่มดีขึ้น เริ่มมีแสงแดดและฝนหยุดตกแล้ว ทำให้สถานการณ์การเกิดสภาวะน้ำท่วมเบาบางลง สำหรับสภาพน้ำท่วม คือ ในพื้นที่ 5 ตำบลของ อ.รามัน จ.ยะลา และประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี ซึ่งเป็นที่ราบลุ่ม ส่งผลให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 50 ครัวเรือน โดยทาง จ.ยะลา ได้เปิดศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และดินถล่ม เพื่อเตรียมความพร้อมในส่วนของเครื่องมือ และยานพาหนะ ที่จะได้เข้าช่วยเหลือได้ทันที่หากประชาชนร้องขอ
นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ทำหนังสือสั่งการแจ้งเตือนยังพื้นที่ต่างๆ ทั้ง 8 อำเภอ ให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัย ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนสะสมในพื้นที่ต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะ อ.รามัน มีปริมาณน้ำฝนสะสม 3 วัน สูงสุด ที่ 310.30 ม.ม. รองลงมาที่ อ.บันนังสตา อ. เมืองยะลา อ.ยะหา และ อ. กรงปินัง ตามลำดับ

อินเดียอุณหภูมิดิ่งเหลือ 3 องศาตายแล้ว25


สภาพอากาศที่หนาวลงอย่างรวดเร็วที่ อินเดีย จนเหลือ 3 องศา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว อย่างต่ำ 25 ราย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว อย่างน้อย 25 ราย จากสภาพอากาศหนาวเหน็บ ที่ปกคลุมทั่วภาคเหนือของอินเดีย โดยบางรัฐ อุณหภูมิดำดิ่งเหลือแค่ 3 องศาเซลเซียส เท่านั้น

สถานีวิทยุท้องถิ่นแห่งหนึ่งของอินเดีย รายงานว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่นั้นเป็นประชาชนในรัฐราชสถาน รัฐอุตตรประเทศ รัฐปัญจาบ และรัฐหรยาณา อันเป็นเหล่ารัฐทางภาคเหนือ ซึ่งได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศเลวร้ายหนักหน่วงที่สุด รายงานข่าว ระบุด้วยว่า ผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดเป็นคนเร่ร่อนและคนชรา

แบกแดดเผชิญฝนตกหนักมากสุดรอบ30ปี


กรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก เจอฝนตกหนักที่สุด ในรอบ 30 ปี ส่งผลให้ประชาชนประสบปัญหาในการเดินทาง

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า กรุงแบกของอิรัก เผชิญฝนตกหนักมากที่สุดในรอบ 30 ปี โดยมีรายงานว่า คนไข้ที่ป่วยจากพายุฝนประสบปัญหาการเดินทางที่ต้องใช้เวลานาน และยากลำบากกว่าจะไปถึงโรงพยาบาล ส่วนลูกค้าที่ต้องการจับจ่ายใช้สอยเครื่องอุปโภคบริโภค ก็คร่ำครวญว่า ธุรกิจห้างร้านต่าง ๆ แทบไม่เปิดบริการ

ขณะที่ ถนนหลายสายก็จมอยู่ใต้น้ำ โดยในบางจุดระดับน้ำสูงถึงเอว โดยในเขตซาดร์ ซิตี้ ย่านชุมนุมชาวชีอะห์ พื้นที่โดยรอบโรงพยาบาลฟาติมา อัล ซอห์ร่า จมน้ำ โดยคนไข้บอกว่า จากเดิมที่ใช้เวลาเดินทางแค่ 15 นาที แต่สถานการณ์เช่นนี้ต้องใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมง

ที่มาจาก INN

โกดังพลุระเบิด ที่ไนจีเรีย ตาย 1 เจ็บกว่า 30 ราย



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศไนจีเรีย เกิดเหตุระเบิดคลังเก็บพลุในเขต Jankara ของเกาะลากอส เพลิงได้เผาผลาญชุมชนและเกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่ ขณะที่แรงระเบิดยังสะเทือนไกลไปอีกหลายร้อยไมล์ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการทำงานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัย

ทั้งนี้ชาวบ้านบางคนตัดสินใจกระโดดออกจากหน้าต่างเพื่อเอาชีวิตรอด ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างหอบของหนีจ้าละหวั่น รายงานระบุว่าเพลิงได้ลุกลามไปยังอาคารที่อยู่ติดกันราว 9 หลัง ทั้งยังมีโรงเรียนที่อยู่ตรงข้ามคลังพลุต้นเพลิงได้รับความเสียหายด้วย

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ของศูนย์จัดการเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ บอกว่าพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อยๆ 1 คน ซึ่งถูกเผาไหม้จนไม่สามารถระบุเอกลักษณ์บุคคลได้ และยังมีผู้บาดเจ็บอีกราว 30 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว สำหรับสาเหตุที่แท้จริงของการระเบิดในครั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ




ที่มาจาก M-THAI

 

ข่าวช่วงบ่ายนี้


10:00 JTWC ออก Final Warning กับพายุหวู่คง หรือ หงอคง แล้ว หมายถึงพายุนี้กำลังจะสลายตัว

13:00 JTWC ประกาศการสลายตัวของพายุดีเปรสชันหวู่คงแล้ว (RMNTS) ขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังปานกลางลูกใหม่ก่อตัวขึ้น



ลืออาถรรพ์! คลื่นซัดรูปปั้นนางยักษ์เกาะเสม็ดกลืนลงทะเล



รูปปั้นนางยักษ์ในวรรณคดีของท่านสุนทรภู่กวีเอกที่เคยตั้งตระหง่านโชว์แผ่นหลังหันหน้าเข้าท่าเรือ เกาะเสม็ด ทนแรงกระแสคลื่นและแรงลมไม่ไหว หลังเพิ่งทำพิธีเปิดไปวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า รูปปั้นดังกล่าวพังครืนลงทะเล จนเหลือเพียงเศษปูนและแท่งเหล็ก โผล่ให้ดูต่างหน้า

เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบว่า การก่อสร้างเป็นเพียงการนำเอาโครงรูปปั้นที่สร้างด้วยไฟเบอร์มาครอบบนแท่งเหล็ก และวางอยู่บนฐานปูนเมื่อเจอกับคลื่นลมที่ซัดเข้าไปปะทะอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ไม่สามารถต้านแรงไหวแตกกระจายเป็นเสี่ยงจนเหลือแต่ภาพของแท่งเหล็กและฐานปูนให้เห็นต่างหน้า

ชาวบ้านต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา โดยก็คิดว่าเป็นอาเพศ และเกิดจากสิ่งศักดิ์ของท่าเรือเก่าที่ไม่มีการบวงสรวงก่อนการรื้อ จึงทำให้เกิดอุปสรรคและปัญหาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการที่อุทยานฯ ระะงับการก่อสร้าง และพออนุญาตจนสร้างเสร็จมีพิธีเปิดไปเพียง 4 วัน รูปปั้นนางยักษ์ก็มาพังลงอีก ทั้งๆ ที่งบประมาณในการก่อสร้างท่าเทียบเรือ สูงถึง 170 ล้านบาท

ข่าวจาก

ชาวสกล แตกตื่น!! UFO โผล่กลางกีฬาสี



สำนักข่าว TNN รายงานว่า วานนี้(26 ธ.ค.55) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่านักเรียนที่โรงเรียนสว่างแดนดิน อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร ถ่ายภาพติดยานลึกลับหรือจานบิน ซึ่งถ่ายติดช่วงที่เพื่อนกำลังเชียร์กีฬาบนอัฐจันทร์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ทราบว่าผู้ถ่ายภาพจานบิน หรือ ยูเอฟโอลึกลับดังกล่าวคือ เด็กหญิงธิดารัตน์ หรือน้องเพชร บุญลี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงพบว่าทางโรงเรียนสว่างแดนดิน กำลังอยู่ในระหว่างการจัดกิจกรรมกีฬาภายใน “ฟ้าขาวเกมส์” ครั้งที่ 18 ประจำปี 2555 ซึ่งมีทั้งการเชียร์และเล่นกีฬาเต็มสนามฟุตบอลของทางโรงเรียน

เด็กหญิงธิดารัตน์ บุญลี หรือน้องเพชร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ชั้นปีที่ 2 โรงเรียนสว่างแดนดิน อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.55 เวลาประมาณ 14.00 น.ตนกับเพื่อน ๆ อีกหลายคน นั่งอยู่คนละฟากสนามกับอัฐจันทร์เชียร์ที่เพื่อนกำลังร้องเพลงเชียร์อย่างสนุกสนาน ตนจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อจะถ่ายภาพเล่นๆ แต่พอเปิดภาพที่ถ่ายไว้ออกดูปรากฏว่ามีวัตถุลึกลับคล้ายจานบินหรือยูเอฟโอ ปรากฏอยู่เหนืออัฐจันทร์ อยู่ใกล้ยอดมะพร้าว พอตนเห็นดังกล่าวก็รู้สึกตกใจกับภาพที่ตนถ่ายก็เลยเปิดให้เพื่อนๆ ดู เมื่อใช้กล้องถ่ายที่เดิมก็ไม่มีวัตถุลึกลับปรากฎให้เห็นอีก



ทางด้าน นายวีรยศ ยุตรินทร์ อาจารย์สอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนสว่างแดนดิน กล่าวว่า ตนพึ่งทราบจากผู้สื่อข่าวว่าเด็กนักเรียนของตนถ่ายภาพที่คล้ายยูเอฟโอที่เห็นตามข่าวในต่างประเทศ ซึ่งเด็กหญิงธิดารัตน์ เป็นเด็กดีมีความประพฤติดีมาตลอด ตนเคยได้ยินอาจารย์ในโรงเรียนหลายคนมาเล่าให้ฟังว่าพบวัตถุลึกลับนี้ในวันเดียวกัน ตนก็ไม่เชื่อเพราะไม่หลักฐานยืนยัน ทำให้เชื่อว่าอาจเป็นจานบินจริง

ส่วนด้านหลังออกไปก็จะเป็นตึกแถวที่ตั้งอยู่ริมถนนซึ่งมีความสูงไม่เกิน 3 ชั้น ถ้ามองจากโรงเรียนออกไปจะถูกส่วนยอดของปลายไม้บังอยู่แล้ว ถ้าเป็นร่มบินหรือพารามอเตอร์ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะรูปร่างเมื่อบินบนฟ้าจะไม่ใช่แบบนี้ แต่ก็อยากให้ผู้เชี่ยวชาญเดินทางมาตรวจสอบเพื่อความกระจ่างในเรื่องนี้ด้วย

หลุมยุบอีก! กลางถนนในจีนลึกกว่า 8 เมตร กว้าง 15 เมตร



MThai News: สำนักข่าวของจีนรายงานว่า ช่วงเย็นวานนี้ (26 ธ.ค.) เกิดหลุมขนาดใหญ่กลางสี่แยกถนนปิงโจวและถนนปิงโจวตะวันอก เมืองไท่หยวน มณฑลซานซีของจีน ซึ่งการยุบตัวนี้ทำให้เกิดหลุมยักษ์ 2 หลุม กว้างกว่า 15 เมตร ลึกราว 7-8 เมตร

ทั้งนี้การยุบตัวของถนนนี้ทำให้ท่อแก๊สและท่อน้ำประปาที่อยู่ใต้ดินแตก แต่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานแก๊สและสำนักการประปารุดมาปิดท่อนำส่งก๊าซและน้ำประปาได้ทัน

อย่างไรก็ตาม ทางการได้เร่งซ่อมถนนในช่วงค่ำ เพื่อการสัญจรของประชาชน ไม่มีรายงายผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายอื่นๆแต่อย่างใด







นิการากัวเร่งอพยพประชาชนหลังภูเขาไฟ “ซาน คริสโตบัล” ปะทุ


นิการากัวเร่งอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่รอบภูเขาไฟซาน คริสโตบัล ที่กำลังปะทุต่อเนื่อง แม้ประชาชนบางส่วนยืนยันจะไม่ย้ายออก

วันนี้ ( 27 ธ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองชินันเดกา ประเทศนิการากัวว่า ทางการนิการากัวประกาศเร่งอพยพประชาชนจำนวนมากที่อาศัยอยู่รอบภูเขาไฟซาน คริสโตบัล เมื่อวันพุธ เนื่องจากพบการปะทุของเถ้าถ่าน มวลก๊าซ และกลุ่มควันจำนวนมหาศาล แม้ประชาชนราว 1,500 คนยืนยันที่จะไม่ย้ายออกชั่วคราวตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่


นางมาเรีย เปอเรรา ชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่ในชุมชน “เกรเซีย 4” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตีนภูเขาไฟ และมีพลเมืองอาศัยอยู่ราว 600 คน ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของทางการ โดยให้เหตุผลว่า เธอและเพื่อนบ้านอีกหลายคนไม่อยากละทิ้งบ้านเรือน แม้ภูเขาไฟจะยังคงปะทุเถ้าถ่าน และกลุ่มควันออกมาไม่หยุดก็ตาม


รัฐบาลนิการากัวประกาศเตือนภัยภูเขาไฟระเบิดในระดับสีเหลือง โดยให้เหตุผลว่าสถานการณ์อยู่ในระดับไม่น่าไว้วางใจ พร้อมกับออกคำสั่งให้มีการอพยพประชาชนกว่า 300 ครัวเรือน ที่อาศัยอยู่โดยรอบภูเขาไฟซาน คริสโตบัลเป็นการด่วน แต่หลังจากมีรายงานว่าประชาชนส่วนหนึ่ง “ขัดขืน” คำสั่งของภาครัฐ ทางการจึงต้องระดมกำลังทหารกว่า 140 นาย ลงพื้นที่เพื่อกระตุ้น และให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่อยู่ในรายชื่อเขตอันตราย


ภูเขาไฟซาน คริสโตบัล เป็น 1 ใน 7 ภูเขาไฟที่ยังมีพลังอยู่ของนิการากัว ทั้งนี้ ภูเขาไฟลูกดังกล่าวปะทุครั้งแรกเมื่อปี 2228

ข่าวจาก เดลินิวส์

เที่ยวบินในสหรัฐฯ ยกเลิกบริการ-เหุตพายุหิมะ



จำนวนหลายร้อยเที่ยวบิน ต้องยกเลิกการบริการ เหตุภัยฤดูหนาวซัดกระหน่ำ ทั้งลมแรง-พายุหิมะ ในประเทศสหรัฐอเมริกา
สื่อต่างประเทศ รายงาน เกิดเหตุพายุฤดูหนาวโจมตีทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดหิมะตกหนัก พร้อมทั้งยังมีลมแรงสูงกระหน่ำ ส่งผลให้เที่ยวบินในประเทศ ยกเลิกการให้บริการถึง 200 เที่ยว ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดพิเศษของโลก

ศูนย์บริการอากาศแห่งชาติ ออกมาประกาศขณะนี้มีหิมะหนาแน่นสูง 12-18 นิ้ว บวกกับ ลมแรงกระโชก 48 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนทางด้านหุบเขาแม่น้ำโอไฮโอ (Ohio) ในตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับผลกระทบจากภัยฤดูหนาวด้วยเช่นกัน มีการเตือนภัยจากพายุหิมะที่กำลังเคลื่อนตัวมาใกล้ขึ้น อาจจะทำให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้ ทั้งยังส่งผลให้เกิดปัญหากับการบริการโดยสารทุกวิธีของประเทศ อีกด้วย

นราฯยังอ่วมน้ำเชี่ยวกราดซัดกุฎิวัดพังยับ



นราธิวาสยังอ่วมกระแสน้ำเชี่ยวกราดพัดกุฎิวัดทรายขาวที่รือเสาะพังยับ ขณะที่ทหารออกแจกอาหารและน้ำดื่มหลังชาวบ้านเริ่มขาดแคลน

วันนี้(27ธ.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ จ.นราธิวาส ว่า บรรยากาศโดยทั่วไปยังคงมีเฆมฝนมืดครึ้มปกคลุมพื้นที่ส่งผลทำให้สภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลากว่า 1สัปดาห์ เริ่มเบาบางลง แต่สภาวะน้ำท่วมขังพื้นที่ราบลุ่มพื้นที่ทางเกษตรและบ้านเรือนของราษฏรในพื้นที่ 176 หมู่บ้าน 57 ตำบล ทั้ง 13 อำเภอยังคงมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ยจากวานนี้อย่างต่อเนื่องซึ่งอยู่ในระดับ 30-60 ซม. โดยเฉพาะพื้นที่ 6 ชุมชนคือชุมชนท่าบือเร็ง ชุมชนท่าชมพู่ ชุมชนท่าประปา ชุมชนท่าเจ๊ะกาเซ็ง ชุมชนท่าโรงเลื่อยและชุมชนหัวสะพาน เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก มีระดับน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 80-120 ซ.ม.

นอกจากนี้ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักติดต่อกัน ยังส่งผลทำให้แม่น้ำสายบุรี ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักอีก 1 สาย ซึ่งอยู่ทางด้าน อ.รือเสาะ มีระดับน้ำล้นตลิ่งและมีกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ได้กัดเซาะริมตลิ่งของวัดทรายทอง ซึ่งตั้งอยู่บ้านบากง ม.6 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จนทำให้กุฎิร้างซึ่งปลูกสร้างอยู่ริมตลิ่งถูกกระแสน้ำพัดจนได้รับความเสียหาย 1 หลัง และบ้านของชาวบ้านอีก 1 หลัง ซึ่งสร้างอยู่ข้างเมรุ ได้รับความเสียหายไปด้วยซึ่งผลพวงจากสภาวะน้ำท่วมขังเป็นเวลานานกว่า 1 สัปดาห์ ส่งผลทำให้ราษฏรที่อาศัยอยู่ 6 ชุมชนของเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกเริ่มขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม

ด้านพ.อ.นพดล สุขทับศรี ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41 สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา บ้านเจาะวา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาสได้นำกำลังพลลงเรือท้องแบน นำอาหารแห้งและน้ำดื่มแตระเวนแจกจ่ายให้กับราษฏรเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว