จิตไม่อยากเกิดอีกผิดไหมครับ?

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย elizacobra, 3 มกราคม 2013.

  1. elizacobra

    elizacobra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +1,005
    ผมคิดว่าผมไม่ได้บ้าหรือผิดปรกตินะครับ ผมยังเต็มร้อย
    แต่ทั้งความคิดกับจิตของผมมันบอกว่าไม่อยากเกิดอีกแล้ว พอแล้ว อยากให้มันจบแล้ว ผมไปพูดให้พ่อแม่ฟัง เขาหาว่าผมบ้า:'( คือผมก็อายุเยอะแล้ว เกือบๆจะ20ปีแล้ว ยังไม่เคยมีแฟนหรือสาวคนไหน แล้วก็ไม่คิดจะมีด้วย ผมคิดแค่ว่า ผมเกิดมาคนเดียว ตายคนเดียว ทำไมจะต้องมีใครมาอยู่ด้วย จิตผมผิดปรกติไหมครับ?

    อีกคำถามผมสนใจธรรมมะ ทุกวันนี้ก็ได้แต่ใส่บาตร เพราะต้องรีบไปเีีรียน เลิกเรียนก็ต้องทำการบ้านไม่มีเวลาปฏิบัติ พอจะมีแนวทางที่จะให้ผมปฏิบัติแบบไม่ต้องเคร่งมากไหมครับ?

    ขอบคุณครับ ขอให้เจริญๆในธรรมครับทุกท่าน
     
  2. AYACOOSHA

    AYACOOSHA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ระลึกถึงพระพุทธเจ้าทุกลมหายใจเข้าออกครับ...ง่าย ๆ ทำได้ตลอดเวลา..ระลึกถึงในแง่ของการนำสัตว์ออกจากทุกข์ ...แค่นี้ง่าย ๆ ...ส่วนที่คุณมีความคิดอย่างนั้นมันไม่ผิดหรอก...แต่มันจะดูไม่เป็นปกติของคนที่ยังยึดอยู่ในโลกเท่าไหร่นัก...เพียงแต่วันเวลาผ่านไปความคิดนั้นของคุณจะคงอยู่หรือเปล่าแค่นั้นเองครับ...และผมขออนุโมทนากับการบุญของคุณด้วยนะครับ...ผมไม่ค่อยได้มีโอกาสตักบาตรสักเท่าไหร่..สวัสดีครับ
     
  3. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,499
    สาธุ... ขออนุโมทนาด้วยครับ
    เมื่อเห็นสัจธรรมความจริงแล้วว่า สิ่งทั้งหลายไม่เที่ยงแท้แน่นอน แม้แต่ตัวเราก็เช่นกัน
    ย่อมหนีไม่พ้นซึ่ง การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่เวียนว่ายอยู่ไม่รู้จบสิ้น สิ่งเหล่านี้ช่างเป็นทุกข์อย่างยิ่งแล้ว

    ส่วนเรื่องการปฏิบัติ ขอแนะนำ สติปัฏฐานสี่ เป็นดีที่สุดครับ ค่อย ๆ ศึกษาเรียนรู้และลองปฏิบัติดู นะครับ
     
  4. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เป็นเรื่องธรรมดาของจิตที่แก่แล้ว

    จิตที่แก่แล้ว คือ มีอายุหลายอสงไขยแล้ว และเริ่มเดินทางใกล้ถึงปลายทาง

    ถึงกายสังขารจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม แต่จิตนั้นเหมือนคนแก่ที่เห็นโลกมามาก เบื่อโลกไปเรียบร้อยแล้ว

    อาการนี้ต้องเจริญสติปัฏฐานต่อไปเรื่อยๆ ถ้าให้ค้างคาอยู่ในสภาวะนี้ จะยังเป็นด้านมิจฉาทิฎฐิอยู่
     
  5. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    อาจเป็นสัญญาเก่าที่ตนเคยสั่งสมมาในการเห็นทุกข์โทษของการเกิด นับเป็นเรื่องที่ดีมากทีเดียว ..เพราะผู้ที่เบื่อหน่ายในการเกิด ย่อมง่ายต่อการถอนละกิเลสเพื่อความหลุดพ้นได้ไม่ยาก..ขอให้ประคับประคองความคิดเช่นนี้ไว้

    ..แต่ไม่ใช่ไม่อยากเกิดเพราะโทสะอันมาจากปัญหานะครับ อันนั้นเป็นไปด้วยความหลง ไม่ใช่สิ่งดี ..

    เป็นความคิดที่น่าสรรเสริญ เป็นไปกับคำตรัสสอนของพระพุทธเจ้า...เป็นความคิดและจิตที่ดีเยี่ยม อนุโมทนายิ่งยวดเลยครับ..

    พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๒- หน้าที่ 411
    ว่าด้วยการแสวงหา ๒ อย่าง


    ....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การแสวงหามีสองอย่าง คือ การแสวงหาที่ไม่ประเสริฐอย่างหนึ่ง การแสวงหาที่ประเสริฐอย่างหนึ่ง.

    [๓๑๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การแสวงหาที่ไม่ประเสริฐเป็นไฉน. คนบางคนในโลกนี้ ตนเองเป็นผู้มีความเกิดเป็นธรรมดา ก็ยังแสวงหาสิ่งมีชาติ เป็นธรรมดาอยู่นั่นแหละ เป็นผู้มีชราความแก่เป็นธรรมดา ก็ยังแสวงหาสิ่งมีชราความแก่เป็นธรรมดาอยู่นั่นแหละ เป็นผู้มีพยาธิความเจ็บไข้เป็นธรรมดาก็ยังแสวงหาสิ่งนี้พยาธิความเจ็บไข้เป็นธรรมดาอยู่นั่นแหละ เป็นผู้มีมรณะความตายเป็นธรรมดา ยังแสวงหาสิ่งมีมรณะความตายเป็นธรรมดาอยู่นั่นแหละ เป็นผู้มีโศกเป็นธรรมดา ยังแสวงหาสิ่งมีโศกเศร้าเป็นธรรมดาอยู่นั่นแหละ เป็นผู้มีสังกิเลสความเศร้าหมองเป็นธรรมดา ยังแสวงหาสิ่งมีสังกิเลสความเศร้าหมอง เป็นธรรมดาอยู่นั่นแหละ. เธอบอกได้ไหมว่าอะไรคือสิ่งมีชาติเป็นธรรมดา. บุตร ภรรยา ทาสหญิง ทาสชาย แพะ แกะ ไก่ สุกร ช้างโค ม้า ลา ทอง เงิน เรียกว่าสิ่งนี้มีชาติเป็นธรรมดา. ...

    ว่าด้วยการแสวงหาสิ่งประเสริฐ
    [๓๑๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การแสวงหาที่ประเสริฐเป็นไฉน. คนบางคนในโลกนี้ ตนเองเป็นผู้มีชาติเป็นธรรมดา ทราบชัดโทษในสิ่งมีชาติเป็นธรรมดา ย่อมแสวงหาพระนิพพาน ที่ไม่เกิด หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้


    สมาทานประพฤติศีลทุกวันครับ นี่เป็นกุศลที่ทำได้ทุกเวลา สะดวกในทุกที่ครับ..
     
  6. bluehoney6

    bluehoney6 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +17
    สวดมนต์ นั่งสมาธิกำหนดลมหายใจเข้าออก เดินจงกรมเมื่อมีเวลาค่ะ
     
  7. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    อนุโมทนา กับท่านที่สนใจธรรมะ ด้วยนะครับ _/\_
    ก็ ทาน ศีล ภาวนา(สมาธิ) ตามปกตินะครับ
    1.ให้ทาน
    -ให้ทานด้วยทรัพย์สินเงินทอง
    -ให้ทานด้วยสายตาที่เมตตาปรานี
    -ให้ทานด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
    -ให้ทานด้วยวาจาที่ไพเราะน่าฟัง
    -ให้ทานด้วยแรงงานช่วยเหลือผู้อื่น
    -ให้ทานด้วยการอนุโมทนายินดีเมื่อผู้อื่นทำดี
    -ให้ทานด้วยการให้อาสนะ (ที่นั่ง)
    -ให้ทานด้วยการให้ที่พัก
    -ให้ทานด้วยการให้อภัย
    -ให้ทานด้วยการให้ธรรมะ
    2.รักษาศีล ตั้งใจรักษาศีล5 เสาร์อาทิตย์ก็อาจเพิ่มศีลอุโบสถได้ครับ
    3.เจริญเมตตาภาวนา ให้ฝึกทำสมาธิเพื่อให้ใจสงบ มีความสุขใจ

    สุดท้ายครับ
    สัมมาทิฏฐิ คือ ปัญญาเห็นชอบ หมายถึง การปฏิบัติอย่างเหมาะสมตามความเป็นจริงด้วยปัญญา
    สัมมาสังกัปปะ คือ ดำริชอบ หมายถึง การใช้สมองความคิดพิจารณาแต่ในทางกุศลหรือความดีงาม
    สัมมาวาจา คือ เจรจาชอบ หมายถึง การพูดต้องสุภาพ พูดในสิ่งที่สร้างสรรค์ดีงาม
    สัมมากัมมันตะ คือ การประพฤติดีงาม ทางกายหรือกิจกรรมทางกายทั้งปวง
    สัมมาอาชีวะ คือ การทำมาหากินอย่างสุจริตชน ไม่คดโกง เอาเปรียบผู้อื่น
    สัมมาวายามะ คือ ความอุตสาหะพยายาม ประกอบความเพียรในการกุศลกรรม
    สัมมาสติ คือ การไม่ปล่อยให้เกิดความพลั้งเผลอ จิตเลื่อนลอย ดำรงอยู่ด้วยความรู้ตัวอยู่เป็นปกติ
    สัมมาสมาธิ คือ การฝึกจิตให้ตั้งมั่น สงบ สงัด จากกิเลส นิวรณ์อยู่เป็นปกติ
     
  8. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ฉันก็เป็นเหมือนคุณจขคแต่หนักกว่าขั้นไม่อยากกินอะไร เพราะรู้สึกมันไปสกปรกอยู่ในร่างกาย เห็นอะไรก็รูสึกสกปรกไปหมด และไม่หิวด้วย ตอนนี้กินแต่สลัด เนื้สัตว์ก็รู้สึกมันยิ่งสกปรก มีพังผืดมีเอ็น ทอดออกมาก็ดำๆเหมือนอุจจาระ แต่ยังมีกิเลสเรื่องชอบของสวยงามอยู่ แต่ไม่ได้หมายถึงสิ่งมีชีวิตนะคะ แต่อย่างตุ๊กตาอะไรพวกนี้ หรือแก้ว
     
  9. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    บีลีฟ123
    จิตคุณคิด....ผิด
    ในอดีตอาจมีเณรอรหันต์ แต่คุณไม่ใช่.....วาสนาไม่ถึงอย่างนั้น
    ไปคิดเบื่อโลกสมมุติ คิดว่าเกิดคนเดียวตายคนเดียวฯเหล่านี้ เป็นมิจฉาทิษฐิทั้งสิ้นทั้งปวง
    คุณเกิดมาเพราะคุณพ่อแม่ ทำกรรมร่วมกันมา
    คุณอยู่ในวัยเยาว์ต้องศึกษาเล่าเรียน ทำงานและทดแทนพระคุณพ่อแม่...
    พระพุทธเจ้าก่อนหน้านั้นยังต้องมีภรรยาเลย....นับประสาอะไรกับเราๆท่านๆ
    และที่ว่า อาจจะเป็นอดีตชาติอะไรต่ออะไร หรือ เป็นนิมิตร หรือ เป็นบุญเก่าส่วนตนนั้น...เลิกคิดได้ เพราะไม่มีใครรู้จริง
    สิ่งที่จริงคือ สังคมมนุษย์ เป็นเด็กต้องเรียน จบแล้วทำงาน มีลูกเมีย เลี้ยงดูพ่อแม่ตอบแทน
    แต่ในช่วงต่างๆ เราอาจปฏิบัติตามฆาราวาสธรรมไปด้วย แต่อย่าไปหวังถึงขั้น"พ้นทุกข์"
    ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะคนธรรมดาๆอย่างเรา ต้องเพียรสั่งสมบารมีไปเรื่อยๆทีละนิด ทีละหน่อย....ทีละชาติ สองชาติ แต่อย่ามุ่งไปหลุดพ้น เดี๋ยวบ้า
     
  10. wondam

    wondam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +488
    จิตเบื่อหน่ายแล้ว ก็ขอให้เดินทางสายกลาง ตามหลัก มรรค องค์ 8 ประการ ............
     
  11. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    อันนี้ยังติด สีลพตปรามาสนะครับ
     
  12. elizacobra

    elizacobra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +1,005


    อย่างน้อยก็ยังรู้ว่าตนเองมีจุดมุ่งหมายอะไรให้กับตนเองครับ ผมไม่คิดว่าจะพ้นได้ในชาตินี้หรอกครับ แต่อย่างน้อยหลายๆคำตอบก็ทำให้ผมมีกำลังใจในการตั้งมั่นในการทำเริ่มทำให้บรรลุตามเป้าหมายของตนครับ:cool: ที่ผมถามแค่ต้องการทราบว่าผมยังปกติหรือไม่ เพราะเมื่อก่อนก็มีคนตอบผมว่าเป็นของเก่าของผมสะสมมา ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรคือของเก่า
     
  13. bank5811

    bank5811 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +236

    ผมคิดว่านะ อายุเรายังน้อยอนาคตยังไม่แน่ไม่นอน เหมือนกับผม ผมก็ยังไม่เคยมีแฟนเลย เอาน่าเวลาเป็นตัวชี้นำทาง ตอนนี้อาจจะยัง อนาคตอาจจะอีกแบบ ใครจะไปรู้อย่าเพิ่งด่วนสรุปสิ (แต่ว่าความคิดนั้นมันเพิ่งเข้ามาในหัวชั่วครู่ หรือมีมานานแล้ว) ถ้าตั้งใจจิงๆก็ขออนุโมทนาบุญด้วย:cool:
     
  14. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    การไม่อยากเกิด เป็นนิมิตที่ดี
    แต่ต้องถามจิตตนว่าแล้วทำไมถึงไม่อยากเกิด หากยังไม่มีคำตอบก็ไม่เป็นไร
    แล้วควรถามจิตว่า หากไม่อยากเกิดแล้ว จิตเรามันอยากอะไร ที่ต้องถามแบบนี้เพื่อจะได้รู้ว่า จิตมันชอบแบบไหน มันยังติดอะไรอยู่หรือเปล่า หรือแค่ไม่อยากเกิด อีก แต่จิตมันยังติดอยู่ในรูปมโนวิญญาณ อันเป็นกามจรเทพ รูปาวัจระเทพ พรหม อรูปาวัจระเทพ มหาพรหม เพราะบางท่านนี้เคยเป็นพรหม มาหลายภพชาติ ตอนจะต้องมาเกิด ก็ไม่ชอบไม่อยากมาเกิดเอามากๆ แต่ยังอยากอยู่เป็นพรหมแบบนี้ ก็คือติดในความเป็น พระพรหมนั่นเอง

    หรือสุดท้ายคือไม่อยากเกิดเป็นอะไรเลย ไม่อยากเป็นอะไรเลย ไม่อยากได้อะไรเลย ต้องถามจิตตามดูจิตตน แล้วหากมีคำตอบที่แท้จริงให้กับตนเอง ตอนนั้นย่อมรู้ว่าควรจะเดินทางต่ออย่างไร ควรจะปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้สำเร็จตามที่ตนปราถนาคือไม่ต้องมาเกิดอีก ถึงตอนนั้นเราจะตอบท่านได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนครับ สาธุ สาธุ สาธุครับ
     
  15. elizacobra

    elizacobra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +1,005
    ไม่ใช่ชั่วครู่ครับ มักจะขึ้นมาในหัวของผมอยู่บ่อยๆ นานเป็นปีแล้วครับ เพื่อนผมมันมักจะเอารูปสาวๆมาโพสลงในfacebookหรือเอามาอวดกันในมหาลัย มันให้ผมดู ผมก็เฉยๆ ผมก็แค่อืมๆไปตามสถานการณ์ แ่ต่ในควา่มคิดของผมมันบอกว่า ถ้าเรามี มันก็จะหน่วงเรา เราก็จะวนอยู่อย่างนี้ มนุษย์สมัยนี้ใช้ชีวิตกันอย่างไม่มีจุดหมาย แค่ทำตามหน้า่ที่ไป เช่น ฉันเป็นผู้ชาย เป็นผู้ชายตามร่างกายและหน้าที่ จริงๆแล้วเราไม่ได้เป็นอะไรเลย เราเป็นแค่จิต ประมาณเนี้ย แต่ผมไม่เคยพูดให้ใครฟังหรอกครับ:cool:
     
  16. elizacobra

    elizacobra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +1,005

    จิตผมไม่ได้อยากเป็นเทวดา ไม่อยากขึ้นสวรรค์เพราะรู้ว่าขึ้นไปสุดท้ายก็ต้องลงมาเป็นสัตว์อีก ติดวนอยู่ที่เก่า ลงนรกก็ไม่อยากไป เกิดเป็นมนุษย์หรือสัตว์โลกก็ไม่เอา ต้องการสิ่งที่ไม่ต้องเกิด หยุดนิ่ง ครับ
     
  17. jaruwit2509

    jaruwit2509 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +205
    วิธีฝึกจิตให้ไปนิพพานอย่างง่ายๆ




    วิธีฝึกจิตให้ไปนิพพานอย่างง่ายๆ
    ธรรมโอวาท หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

    ให้ฝึกอย่างนี้
    ในเมื่อจิตนึกถึง ความตายได้
    นึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ได้
    ทรงศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ได้
    ก็ให้ตั้งใจไว้โดยเฉพาะว่าตายแล้วจะไป พระนิพพาน

    โดยทำความเข้าใจ ตามความเป็นจริงว่า
    ร่างกายของเรามีสภาพไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์
    เป็นอนัตตา สลายตัวไปในที่สุด
    ให้ถือว่าร่างกายนี้ มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
    เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา
    ร่างกายเป็นเรือนร่างที่อาศัยชั่วคราว ไม่ช้ามันก็ตาย
    ขึ้นชื่อว่าร่างกายเลวๆอย่างนี้ เราไม่ต้องการมันอีก
    เราต้องการนิพพาน จุดเดียว คือไม่ต้องการเกิดเป็น มนุษย์ เทวดา พรหม
    ไปพระนิพพานจุดเดียวเท่านั้น

    ให้คิด ให้นึกอย่างนี้ทุกวัน นึกไว้ทุกลมหายใจเข้าออก
    ยิ่งดีหนักเข้าไปอีก เผลอไปช่างมัน มีสตินึกได้ ก็นึกไว้
    เวลาป่วยหนักใกล้จะตาย อารมณ์ทั้งหมด
    ที่คิดที่นึกวันละเล็กวันละน้อย
    มันจะรวมตัวเพื่อนิพพานโดยตรง
    อารมณ์ของจิต จะสงบวางเฉยทั้งหมด
    การที่จะไปนิพพานได้จริงๆ อารมณ์จิตมันจะวางเฉย
    ในทรัพย์สินทั้งหมด ขณะที่เราป่วย ไร่นาสาโท
    บ้านช่องทรัพย์สินต่างๆ มันก็เฉยเมยไม่สนใจ
    จิตมันเฉย ทำอารมณ์ให้ทรงตัว
    เกาะรูปพระพุทธเจ้าไว้โดยเฉพาะ
    หรือพระธรรม หรือพระสงฆ์ ด้วยก็ได้ตามใจชอบ
    ไม่ต้องไปสนใจในทรัพย์สิน ไม่ต้องสนใจในร่างกาย
    ถือว่าร่างกายมันจะตายก็เชิญตาย เราจะไปนิพพานเท่านั้น
    เพียงเท่านี้ฝึกไว้ทุกวัน ถึงเวลาใกล้ตายเมื่อไร ไปนิพพานเมื่อนั้น

    BuddhaSattha | Facebook

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่
    เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่านเพื่อเป็นธรรมทาน
     
  18. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ดิฉันไม่ได้บำเพ็ญทุกกิริยานะคะ มันเป็นสิ่งที่มาจากจิตใต้สำนึก รู้สึกขึ้นมาเองหลงจากผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ เห็นคนที่เรารักมากๆตาย จิตมันก็ไม่มีอะไรให้สร้างเป็นกิเลสอีกแล้วเพราะมันจบไปกับความตายที่ได้เห็น แต่แม่ดิฉันก็พูดเหมือนคุณ Narka นะแหละว่า เราพ้นทุกข์ไม่ได้หรอกชาตินี้เพราะพระพุทธเจ้าท่านยังต้องบำเพ็ญเพียรมาตั้งหลายแสนชาติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2013
  19. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    =====

    แล้วท่านทราบหรือยังว่า การที่จะไม่มาเกิดอีกนั้น ท่านจะต้องทำอย่างไร
    อะไรเป็นเหตุปัจจัยแห่งการเวียนว่ายตายเกิด
    อะไร คือการดับเหตุแห่งการเวียนว่ายตายเกิด วิธีแห่งการดับเหตุ ทำอย่างไร
    หนทางมีกี่ทาง ควรเลือกทางไหนที่เหมาะกับเรา ผู้บอกทางเราเราค้นพบหรือยัง หรือนอกจากเราจะอาศัยพระธรรม พระไตรปิฏกเป็นเครื่องแสวงหาคำตอบและความรู้ทั้งหลาย
    อนึ่งเราควรเสาะหาบุคคลผู้ที่จะสามารถสอบเทียบทวนสอบการปฏิบัติของเราหรือไม่อย่างไร
    สุดท้าย เมื่อเราปราถนาเช่นนี้ เราควรวางแผนการดำเนินชีวิตของเราอย่างไร


    ความเป็นผู้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด จัดได้ว่าเป็นอัจฉริยะบุคคลประการหนึ่ง จัดเป็นอริยะบุคคลที่บุคคลทั่วไปไม่สามารถก้าวไปถึงได้
    แน่นอน หากท่านปราถนาเช่นนี้วิถีชีวิต การดำเนินชีวิตของท่านจึงย่อมแตกต่างจากบุคคลทั่วไปเกือบสิ้นเชิง และคิดต่างกัน มีจิตใจที่สูงต่างกัน เช่นเดียวกับเรา แต่หากท่านมองดู ความคิด การประพฤติ ปฏิบัติ จิตใจของท่านยังเหมือนกับคนทั่วๆไป ย่อมแสดงว่า ท่านยังไม่ได้ทำความปราถนาของท่านให้เกิดขึ้นจริง บัดนี้ท่านได้เข้าใจและเข้าถึงสิ่งที่เรากล่าวนี้บ้างหรือยังครับ สาธุครับ
     
  20. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ชอบความสงบ ระวังติดพรหมครับ...

    ถ้าอยากพ้นจริงๆ ต้องไม่เอาอะไรเลย อยากก็ไม่มี ไม่อยากก็ไม่มี กระทั่งสภาวะของความสงบก็ไม่มี

    ส่วนจะทำอย่างที่ว่าได้อย่างไร ต้องปฏิบัติวิปัสสนาครับ จึงจะเริ่มเห็นทาง
     

แชร์หน้านี้

Loading...