วิธีดับกรรม ตัดทุกข์ เพื่อทางนิพพาน

วิธีดับกรรม ตัดทุกข์ เพื่อทางนิพพาน
ชาวพุทธที่แท้จริงหวังผลนิพพานกันทั้งนั้น ทั้งศึกษาจากครูบาอาจารย์และจากพระไตรปิฎก ก็ยังไปกันไม่ได้ มีทั้งโพสข้อความตั้งกระทู้เพื่อให้ผู้รู้มาตอบให้ เมื่อมีผู้มาตอบให้ก็ยังไม่เข้าใจไม่ถูกจริตกับตนก็ไม่ยอมรับ ต่างจิตต่างใจบางทีก็ยังยึดติดกับคำสอนของอาจารย์ที่นับถือ บางทีก็ยึดติดกับตำรามากเกิน ไม่รู้จะเชื่อใครดี
ผมได้รวบรวมธรรมบางบทบางตอน และประสบการณ์เล็กๆน้อยของผม ทำเป็นบล็อกธรรมขึ้นมาชื่อ นิพพานอยู่ไหน เผื่อบทความที่เขียนจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านได้บ้างไม่มากก็น้อย อาจจะนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวัน หรือกำลังมีทุกข์กับปัญหาต่างๆหรือแม้แต่นำไปปฏิบัติ ลองเข้าไปอ่านดูนะครับ สงสัยก็ถามในกระทู้นี้ก็ได้ ผมจะพยายามตอบเท่าที่จะตอบได้ถ้าไม่เกินวิสัยนะครับ บางคำถามก็อาจจะมีคำตอบอยู่แล้วในบทความหรือปัญหาที่เกิด ผมอาจจะแนะนำให้ไปอ่านบทนั้นบทนี้เพื่อความเข้าใจ และอธิบายเพิ่มเติม ขอให้ผู้ที่เข้ามาในกระทู้นี้มีความเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะครับ
นิพพานอยู่ไหน: บทที่ ๒๐ นิพพานด้วยปัญญา (๔) วิธีดับกรรม

 

แจกพระสมเด็จฯวัดระฆัง ๕ องค์
เพื่อมอบความเป็นศิริมงคลในช่วงปีใหม่
โดยมีเงื่อนไขและกติกาดังนี้
ตอบโจทย์ที่ผมจะถามคือ
ปัจจุบันประชากรผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเพราะอะไร ๑......๒......
ส่งคำตอบผ่านทาง PM เพื่อป้องกันการลอกคำตอบกันนะครับ
มีระยะเวลาส่งคำตอบถึงวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๖ ถ้ามีผู้ตอบถูกใจผมครบ ๕ คนก่อนกำหนด
จะมีการแจ้งให้ทราบ และเฉลยคำตอบด้วย พระสมเด็จที่จะแจกอาจจะไม่เหมือนในรูปทั้งหมด
อ่านข้อมูลความเป็นมาเป็นไปของพระสมเด็จวัดระฆังหลังดอกพิกุลได้ตามลิงก์ข้างล่าง
พระสมเด็จวัดระฆัง-สำนักกฎหมาย : หลังลายดอกพิกุล

 

ขออนุญาตเจ้าของคำถามนี้ ผมเอาข้อความของคุณมาลงในกระทู้เผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานเป็นกรณีศึกษาที่สมาชิกท่านอื่นบางคนอาจประสบอยู่แล้วยังหาคำตอบไม่ได้ คำตอบอยู่ด้านล่าง #4
สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณอาริยะธรรม เป็นอย่างสูงเลยนะคะ ที่โพสต์ข้อความนี้ขึ้นมา แล้วทำให้ดิฉันกดลิงค์ไปเจอธรรมมะเกี่ยวกับการนอกใจ ดิฉันอ่านแล้วรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง คือตอนนี้ดิฉันกำลังอกหักพอดีค่ะ แฟนที่ตกลงว่าจะแต่งงานด้วยปีหน้ามีผู้หญิงคนไหม่ ดิฉันรู้สึกได้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว ๆ เพราะเขาเปลี่ยนไป แต่มาจับได้จริง ๆ เมื่อต้นเดือนนี้ค่ะ ช่วงสองสัปดาห์ที่ล่วงมาดิฉันทุกข์ร้อน ทุรนทุราย ร้องไห้ เป็นบ้าเป็นหลัง โทรศัพท์ไปอ้อนวอนขอร้องเขาให้นึกถึงความหลังที่ผ่านมา ให้นึกถึงหน้าตา ศักดิ์ศรีของดิฉัน ให้นึกถึงญาติพี่น้องดิฉันว่าจะอับอายเพียงใด ถ้าดิฉันเป้นม่ายขันหมาก แต่เขาไม่แคร์เลยค่ะ ซ้ำยังร่วมมือกับผู้หญิงคนใหม่หลอกว่าเลิกกันแล้วและจะมาแต่งงานกับดิฉันตามสัญญา ดิฉันสัมผัสถึงความไม่ชอบมาพากล และประกอบกับเป็นคนใจร้อน เลยค้นเบอร์ผู้หญิงคนใหม่จนได้ แล้วโทรไปคุยกัน ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าเขาบอกว่ารักผู้หญิงคนใหม่มาก แต่เนื่องจากคบกับดิฉันมาก่อน (ลืมบอกไปว่าเราคบกันฉันสามีภรรยา มีการสู่ขอทาบทามกันแล้ว )เขาบอกว่าจะมาแต่งงานกับดิฉันตามสัญญาแล้วจะเลิก ดิฉันฟังแล้วแทบจะกรีดร้องออกมา หากไม่กลัวญาติพี่น้องรู้ ผู้หญิงคนใหม่ก็กลัวว่าเขาจะกลับมาหาดิฉันคือผู้หญิงสองคนต่างไม่มั้นใจในตัวผู้ชายที่เรารัก ฟังดูตลกไหมคะ ตอนนี้เขาบอกกับดิฉันว่าเขาจะเลิกกันกับผู้หญิงคนนั้น แล้วหนีมาอยู่กับดิฉัน ลืมบอกไปค่ะว่าเขารับราชการทหารอยู่ภาคใต้ ดิฉันอยู่ภาคอีสาน ระยะทางห่างไกลกันมาก เขาบอกว่าเขานอกใจเพราะความห่างไกลเลยเผลอใจไป คิดว่าจะเล่น ๆ พอย้ายจากใต้ก็จะหนีมาเลย ดิฉันถามว่าถ้าเขาไปหลอกผู้หญิงคนนั้นแล้วเขาเสียใจคุณจะรู้สึกอย่างไร เขาตอบไม่ได้ไม่มีคำตอบ ค่ะ
ตอนนี้ตัวดิฉันเองก็สับสนมากค่ะ ใจนึงก็คิดว่าเขาหลอกดิฉัน ก็คงเหมือนคนนั้นที่กลัวเขาหลอกเหมือนกัน สงสารตัวเอง สงสารผู้หญิงคนนั้น ใจมันอิหลักอิเหลื่อว่าจะเสียสละสามีให้คนอื่นจะดีหรือไม่ เพราะตอนนี้ดิฉันยอมรับว่ารักเขามาก แต่ความเชื่อใจ ความศัทธาไม่เหลือเลยค่ะ แล้วต่อไปภายหน้าจะอยู่กันอย่างไร จะมีความสุขได้อย่างไร บนความทุกข์ของคนอื่น
วันนี้เขาโทรมาบอกว่าไปนอนกับผู้หญิงคนนั้น เพราะจะจากมาง่าย ๆ เลยก็คงไม่ได้ ต้องค่อยเป็นค่อยไป คุณคะ ทำไมผู้ชายเห็นแก่ตัวแบบนี้ค่ะ
เขาไม่คิดว่าดิฉันจะรู้สึกอย่างไร
ดิฉันก็ทราบนะคะว่าผู้ชายได้ใหม่แล้วลืมเก่า เพราะดิฉันเคยผ่านการอกหักมาเป็นครั้งที่สี่แล้ว แต่ทุกครั้งก็ทรมานเหลือเกินค่ะ ที่ผ่านมาดิฉันจะออกมาจากเขาเหล่านั้น ครั้งนี้ก็จะเป็นอย่างนั้นเหรอคะ
ดิฉันยอมรับว่าอยากมีชีวิตอยู่กับเขา เพราะการมีคู่ มีเพื่อน มีใครสักคน ก็ทำให้ชีวิตเรามีความสุขเหมือนกัน แต่ไม่นึกว่าจะจบลงแบบนี้อีก
เป็นผู้แพ้มาตลอด จนบางครั้งถามตัวเองว่าทนได้อย่างไร ทำไมเราไม่เป็นบ้า หรือตายไปเลย
คุณอริยาธรรม ช่วยแนะนำดิฉันหน่อยค่ะว่าดิฉันต้องทำอย่างไรถึงจะผ่านความทุกขืนี้ไปได้ สับสนไปหมด ถ้าปล่อยเขาไปก็สงสารตัวเอง ถ้าดึงกลับมาก็สงสารคนใหม่ ทุกข์ไปหมด เจ็บก็เจ็บ อายก็อายที่ต้องเป็นม่ายขันหมาก คนในที่ทำงานในหมุ่บ้านต้องนินทาไปเป็นปีเป็นชาติแน่

 

วิธีคิดและปฏิบัติเมื่อคนรักนอกใจ

ธรรมชาติของมนุษย์ที่เป็นปุถุชนไม่ว่าหญิงหรือชายย่อมเชื่อใจไม่ได้ นอกจากพระอริยะ บางคนหาคู่บอกว่าคนๆดีๆนั้นมีมั้ย มีแต่เขามีคู่ไปหมดแล้ว เมื่อไหร่เราจะเจอสักที... คนดีๆยังหายากพระอริยะยิ่งหายากกว่า (พระอริยะชั้นโสดาบันและสกิทาคามี ยังมีการครองเรือนมีคู่สามีภรรยาได้ เพราะยังตัดสังโยชน์ตัวกามฉันทะยังไม่ได้)
ไม่ว่าเราจะสมบูรณ์แบบมากกว่าบุคคลที่ ๓ อย่างหน้าตา ฐานะ การศึกษา ฯลฯ คู่ครองของเราก็ยังไปรักไปชอบเขาได้... นาตาลี เกลโบวา อดีตนางงามจักรวาล ยังหย่าร้างได้....พระโพธิสัตว์ในขณะนั้นเป็นราชโอรสที่มีโอกาสได้ครองบัลลังก์แทนเสด็จพ่อ พระชายาของพระโพธิสัตว์ยังไปมีชู้กับนักโทษที่ถูกเขาตัดแขนตัดขาเป็นคนพิการ(บทที่ ๘ ศีลกาเมสุมิจฉาจาร ตอนที่ ๓)
ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีอะไรมาประกันได้ว่าความสุขที่มีอยู่ขณะนั้นจะสมหวังตลอดไป(มันไม่เที่ยง) คู่รักที่หมั้นกันแล้วก็ยังเลิกกันได้ ขณะที่เป็นคู่หมั้นกันอยู่ ถ้าฝ่ายชายขอร่วมหลับนอนก่อน ฝ่ายหญิงจะเสียเปรียบ( ผิดศีลด้วย) ต่อมาฝ่ายหญิงจะเป็นคนตามใจผู้ชายเพราะเสียตัวให้เขาแล้ว และผู้ชายจะบอกยกเลิกการแต่งก็ง่าย(เหตุผล ๑๐๘)
ผู้ชายส่วนใหญ่ที่เห็นแก่ตัว เขาจะมีข้ออ้างมากมายเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากความผิด แม้มีคนบอกว่าการกระทำอย่างนั้นผิดศีลธรรม เขาจะพูดว่าใครๆเขาก็ทำกันไม่เห็นเป็นอะไรเลย
คุณบอกว่าอกหักมาแล้ว ๔ ครั้ง และคุณเป็นคนออกมาจากจุดนั้นเอง เมื่อคุณเคยทำได้มาก่อนครั้งนี้ก็ทำได้อีก
คนเราเกิดมานับชาติไม่ถ้วน.. พระพุทธเจ้าตรัสกับนางปฏาจาราว่า น้ำตาของเธอมากว่าน้ำในมหาสมุทร คุณย่อมสร้างเวรก่อกรรมไว้มากมาย ปัจจุบันคุณจึงต้องมารับกรรมนั้น ตรงนี้คุณต้องยอมรับสภาพกรรมความเป็นจริงให้ได้ แต่คุณไม่ต้องไปกังวลกับมัน ไม่ต้องไปคิดหรือหาคำตอบว่าชาติที่แล้วคุณได้ทำกรรมอะไรไว้บ้าง เพราะมันไม่มีประโยชน์ถ้าคิดมากถึงเรื่องกรรมเก่าก็จะทำให้จิตเศร้าหมอง มาดูที่ปัจจุบันดีกว่า ที่คุณโชคดียังไม่ได้แต่งงานกับผู้ชายอย่างนั้น ถ้าคุณแต่งงานไปคุณอาจจะทุกข์และเสียน้ำตามากกว่านี้ คนเราถ้าเคยทำผิดแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งที่ ๒ และ ๓ ก็ย่อมทำได้
คุณทำบุญให้มาก พยามยามรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ศีลจะรักษาและป้องกันคุณจากผู้ชายไม่ดี ผู้ชายไม่ดีเขาจะแพ้ภัยตัวเองเขามาแปบเดียวแล้วก็จากไป เพราะคุณมีกำแพงบุญและศีลรักษา คนไม่ดีเข้าใกล้จะร้อนทนอยู่ไม่ได้แล้วก็ไป สิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับคุณเป็นบททดสอบความอดทน และการมองเห็นธรรมว่าคุณเข้าใจพอที่จะก้าวไปสู่ธรรมที่ละเอียดขึ้น ยอมรับสภาพความเป็นจริงได้หรือไม่ ถ้าคุณยอมรับมันได้และรู้เท่าทันมัน ต่อไปไม่ว่าเรื่องอะไรมากระทบคุณก็จะตัดมันได้ด้วยปัญญา และวางอุเบกขาได้ เพราะสภาพความเป็นจริงมันก็เป็นอย่างนี้มานานแล้ว เราไม่รู้เราจึงอยู่ในวัฏสังสารไม่มีที่สิ้นสุด
ธรรมชาติได้ให้สิ่งดีๆกับคุณ จงพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส คนจำนวนมากที่ยังหลงยึดติดกับความสุขที่มันไม่เที่ยงเลยไม่มีโอกาสเข้าใจคำว่าทุกข์ คุณได้รู้จักความทุกข์ว่า การไม่ได้สิ่งที่รักที่พอใจเป็นทุกข์ คือความไม่สมหวังกับความรักของคุณ
ทุกข์นี้เกิดขึ้นเพราะคุณไม่สมหวังในความรัก ทำไมถึงไม่สมหวัง เพราะมันไม่เที่ยง ที่ว่าไม่เที่ยงเพราะคนรักนอกใจไปมีหญิงอื่น ที่คนรักไปมีหญิงอื่นเพราะคุณไม่สามารถไปบังคับให้คนรักให้เขาซื่อสัตย์รักคุณคนเดียวได้ เมื่อคนรักไปมีหญิงอื่นคุณก็ทุกข์กับมัน เพราะมันไม่เที่ยง เพราะมันบังคับตามใจเราไม่ได้ มันก็จะวนเวียนอยู่อย่างนี้ตลอดไป
เมื่อคุณสามารถยอมรับสภาพกรรมความเป็นจริงตรงนี้ได้ คุณก็พิจารณาต่อไปว่า แล้วทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร มันเกิดขึ้นอย่างนี้มานานแล้วนับชาติไม่ถ้วน และเราทำไมถึงมาเกิดเป็นผู้หญิงที่ต้องรับสภาพกรรมอย่างนี้ เพราะร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา จิตเราเพียงมาอาศัยร่างนี้ชั่วคราว สักวันเราต้องจากร่างนี้ไป ร่างที่จะค่อยๆเหี่ยวย่น ย่อนยาน หนังหุ้มกระดูก ธาตุลมดับไม่หายใจ ธาตุไฟดับไม่มีพลังงานในร่างกาย ธาตุน้ำเริ่มสูญสลาย น้ำเลือด น้ำหนอง พุออกมา ที่สุดก็เหือดแห้งไป เหลือแต่ธาตุดินที่เป็นกระดูก ฟัน เล็บ แล้วก็ย่อยสลายเป็นผุยผง ไม่มีอะไรที่จะให้เราอาลัยอาวรณ์อีกต่อไป ร่างกายนี้หนอมันไม่ใช่ของเราจริงๆ ถ้าพิจารณาถึงขั้นจิตยอมรับได้ สังขารนี้ไม่เที่ยง สังขารนี้เป็นทุกข์ สังขารนี้บังคับไม่ได้ ใครหนอคิดได้ พระพุทธเจ้าทรงค้นพบสัทธรรมนี้ โอ พระพุทธองค์ทรงมีพระเมตตาอันยิ่งใหญ่จะหาใดเหมือน พระองค์ได้ทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์ให้พ้นทุกข์ เราไม่สงสัยในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์แล้ว
ถ้าพิจารณาได้ดังนี้ สังโยชน์ที่ ๑ สักกายทิฐิ... สังโยชน์ที่ ๒ วิจิกิจฉา..ก็จะตัดได้ สังโยชน์ทั้ง ๒ จะตัดได้ในเวลาใกล้และต่อกันและในขณะกำลังพิจารณาธรรมนั้นอยู่ ส่วนสังโยชน์ที่ ๓ จะรู้ต่อเมื่อได้เห็นธรรมอันใดอันหนึ่งว่าไม่ใช่ของจริง เป็นเพียงรูปแบบ ประเพณี ความเชื่อที่มีมานาน
หลักการพิจารณาและปฏิบัติ คุณprintข้อความไว้อ่านไว้สอนตัวคุณเอง โดยเปลี่ยนคำว่าคุณเป็นเราให้หมด ตัวเราพิจารณาเอง และอ่านบทความเรื่องศีลข้อกาเม เรื่องนางอุพพรี ตรงไหนที่หลังข้อความมีวงเล็บที่แสดงว่ามาจากพระไตรปิฎกบทนั้นๆ ให้อ่านช้าๆทำความเข้าใจให้มากเสมือนหนึ่งพระพุทธองค์กำลังแสดงธรรมอยู่ต่อหน้าเรา พระสุรเสียงอ่อนโยนมีเมตตา ฟังแล้วปิติจิต คือเอาจิตไปอ่านตรงนั้นอย่างพิจารณาและมีความสุขกับข้อความนั้นที่พระพุทธองค์ทรงเมตตาสั่งสอน แม้ข้อความที่พิมพ์ไปอ่านถ้าทำได้เหมือนกันจะดีมากเลย

 

วันโกนให้ละวันพระให้เว้น

วันโกนให้ละวันพระให้เว้น
ชาวพุทธส่วนใหญ่เคยได้ยินได้ฟังมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะเข้าใจแค่ไหน เพราะบางทีไม่มีอธิบายรายละเอียด
ในวันโกนวันพระจะมีการถือศีล ๕ หรือ ศีล ๘ แล้วแต่สะดวก ถือศีล ๕ ไม่ต้องอยู่วัดก็ได้
ถือศีล ๘ ส่วนใหญ่จะอยู่วัดหรือที่เรียกว่าอุโบสถศีล ศีล ๘ ในข้อ ๓ ให้ถือพรหมจรรย์ คือห้ามสัมผัสเพศตรงข้าม
ซึ่งต่างจากศีล ๕ ที่ สัมผัสเพศตรงข้ามได้

ในวันพระใหญ่อย่าง วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา และวันอาสาฬหบูชา มักจะมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน
หรือหยุดวันเดียว ถ้ามีวันหยุดติดต่อกันหลายวันมักจะไปทำบุญต่างจัวหวัดและถือโอกาสเที่ยวด้วย
ไปกันเป็นครอบครัว ไปกันเป็นคู่หนุ่มสาวคนรัก และก็มีหลายคู่ที่มีการประกอบกามกิจกันหลังจากทำบุญและไปเที่ยว

ถ้าหญิงชายที่เป็นสามีภรรยา หรือคนรักหนุ่มสาว มีเพศสัมพันธ์กันในวันพระจะผิดหรือไม่อย่างไร
สำหรับคู่รักหนุ่มสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน ที่ญาติผู้ใหญ่ยังไม่ได้รับรู้ ข้อนี้ผิดศีลข้อกาเมแน่นอน
ถ้าเป็นคู่สามีภรรยาจะบอกว่าไม่ผิดศีลก็น่าจะได้ แต่ก็มีกรรมที่ไม่รู้จักละจักเว้น
เช่นเดียวกับเทวดาที่มัวแต่หลงประกอบกามกิจทั้งวันทั้งคืน จนไม่สนใจบริโภคอาหาร(อาหารทิพย์)
ต้องพ้นสภาพความเป็นเทวดาก่อนหมดอายุขัย ตกจากสวรรค์มาเป็นสัตว์เดรัจฉานที่ชอบสมสู่ไม่เลือกที่วันและเวลาอย่างสุนัข
มนุษย์โดยเฉพาะชาวพุทธต่างจากสัตว์เดรัจฉานตรงนี้ด้วย
ยังมีวันพระอีกวันที่มักจะมีการสมสู่กันมากคือวันลอยกระทง
คนที่ถือศีล ๕ ในวันพระถูกเนื้อต้องตัวฝ่ายเพศตรงข้ามได้แต่ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์

ทุกวันนี้สังคมเสื่อมถอยลงมาก ท้องก่อนแต่งและมีข่าวลูกข่มขืนแม่ก็มีให้เห็นแล้วเพราะอะไร
คนเราถ้าไมรู้จักละจากเว้นก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉาน
ดูข้อมูลเพิ่มในบล็อกที่ผมเขียน ศีลข้อกาเม มี ๓ ตอน ตามลิงก็ข้างล่างนี้
นิพพานอยู่ไหน: บทที่ ๖ ศีลข้อกาเมสุมิฉาจาร

 

เหตุที่ปัจจุบันนี้มีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเพราะ
1.ผู้ชายไปตกนรกกันมาก(ผิดศีลข้อ 5 และข้อ 3 มากกว่าทำผิดศีลข้ออื่น)
2.ผู้ชายอีกส่วนที่เหลืออยู่ก็สับสนทางเพศ (กรรมจากการผิดศีลข้อ 3 ในอดีต)
ขยายความ ผู้ชายที่มักทำผิดศีลข้อกาเมฯ ส่วนใหญ่ไม่ยอมรับความผิดที่ตนเองทำ อย่างการนอกใจภรรยาไปมีเมียน้อยเมียเก็บ
โดยจะมีข้ออ้างว่าใครๆเขาก็ทำกัน หรือจะผิดตรงไหนในเมื่อฉันเป็นคนหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว หรือผู้หญิงมาหาเอง ฯลฯ
ผู้ชายกลุ่มนี้เมื่อตายไปแล้ว กรรมหนักก็ไปตกนรก กรรมลองลงมาก็ไปเกิดเป็นผู้หญิงและต้องมารับกรรมที่เคยนอกใจภรรยา ถูกผู้ผู้ชายทำให้อกหัก ได้แล้วทิ้ง
คนที่พอมีบุญอยู่บ้างก็ไปเกิดบนสวรรค์แต่ถ้ายังมักมากในกามคุณ โดยหมกมุ่นอยู่แต่เรื่องกามไม่สนใจเรื่องอื่นแม้แต่จะทานอาหาร(อาหารทิพย์)ของตัวเอง
ทำให้ต้องตกสวรรค์ก่อนเสวยบุญจนครบอายุสวรรค์ เมื่อเทวดาตกสวรรค์เพราะหมกมุ่นในเรื่องกาม ก็มาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานอย่างสุนัข เป็นต้น
และจากสถิติของกระทรวงสาธารณสุขจะบอกว่าทารกเพศชายจะเกิดมากกว่าเพศหญิงก็ตาม
พอทารกเพศชายโตขึ้นมักจะเสียชีวิตในช่วงอายุ 5-14 และเสียชีวิตมากที่สุดในช่วงอายุ 15-29 สาเหตุหลักอยู่ที่ติดสุรา
รองลงมาคืออุบัติเหตุทางถนน การสูบบุหรี่ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเอดส์และมะเร็งตับตามลำดับ
ส่วนในประชากรหญิงพบว่ามีสาเหตุหลักมาจากภาวะน้ำหนักเกิน อ้วน การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ระดับความดันโลหิตสูง คอเลตเตอรอลในเลือดสูง และไม่ออกกำลังกาย
และผู้ชายเสียชีวิตมากกว่าผู้หญิงถึง 3 เท่า พอจะสรุปได้อีกข้อหนึ่งว่า ผู้ชายไทยส่วนใหญ่ตายเพราะผิดศีลข้อ 5 แต่ในการผิดศีลข้อ 5 มักจะมีการทำผิดศีลข้ออื่นๆด้วย
อย่างเช่นเมาแล้วไปปลุกปล้ำหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตัวเอง ด่าทอแย่งชิงทำร้ายผู้อื่นเพื่ออนาจารหญิง ฯลฯ

 

ขอบพระคุณมากนะคะ อนุโมทนาสาธุคะ ที่ท่านเลือกข้าพเจ้า