ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย photocycling, 18 มกราคม 2013.

  1. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286
    มีหลายๆท่านโพสต์กันเรื่องบาปบุญ
    วันนี้เลยอยากจะถามและอยากแชร์ว่า....


    ใคร เคยพ้นความทุกข์ต่างๆด้วยวิธีบุญหรือสมหวังด้วยบุญ ทำอย่างไร วิธีไหน นานแค่ไหน ผลเป็นอย่างไร มีสิ่งผิดปกติอะไรเกิดขึ้นบ้าง?
    ปัจจุบันท่านเป็นอย่างไรบ้าง
    เพื่อเป็นกำลังใจและแนวทางให้เพื่อนๆและข้าพเจ้าได้ปฏิบัติ และพิสูจน์การทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว

    อยากให้รวมกันไว้ที่นี่เลย

    จากข้าพเจ้า ผู้ที่กำลังจะหมดศรัทธาในทุกๆเรื่อง อนุโมทนาค่ะ
     
  2. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    คุณโฟโต้ฯ
    นี่เริ่มมาก็มีมิจฉาทิษฐิเสียแล้ว...อย่างนี้จะสามารถดวงตาเห็นธรรมได้หรือเปล่านี่...
    จะพิสูจน์อะไรเรื่องของ"ผลของกรรมดีและกรรมชั่ว" หรือ กฏแห่งกรรม
    ขนาดอัจฉริยะของโลกคือไอน์สไตน์ยังยอมรับว่าพุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์ที่สุดแล้ว
    คนที่ไม่เชื่ออยากพิสูจน์คือพวกบัวในโคลนตรม ดังนั้นก็จงละเสียเถิด...
    ...ทำอกุศลกรรม(ทำบาป)มีตัวอย่างให้เห็นดาษดื่นว่า รับผลกรรมชั่วอย่างไรบ้าง
    ...ทำกุศลกรรม(ทำบุญ)มีตัวอย่างให้เห็นดาษดื่นว่า รับผลกรรมดีอย่างไร
    คนที่มองไม่เห็นกฏแห่งกรรมเช่นคุณหรือ คนอื่นๆก็ตาม.....เพราะขาดสติ เพราะใช้กิเลศต่างๆ ตัณหา อุปทาน...
    ...กฏแห่งกรรมนั้น...แค่คุณคิดผิด หลงผิดด้วยตนเอง นี่ก็เป็นอกุศลกรรมแล้ว...ก็จะไปเชื่อในสมมุติบัญญัติต่างๆ ถูกหลอก เสียตัว เสียทรัพย์ เสียใจ...นั่นแค่ เห็นผิด ก็รับกรรม(บาป)ปัจจุบันไปแล้ว....
    ...แต่ถ้า คิดถูก คิดเป็นด้านปรมัทถ์ นั่นก็เป็นกุศลกรรมแล้ว ทำให้ ไม่ถูกหลอกไม่เสียตัว ไม่เสียทรัพย์ ไม่เสียใจ นี่แค่ เห็นถูก ก็รับกรรม(บุญ)ไปแล้ว ลองพิจารณาดูแล้วจะเห็นจริง...
    มาพิจารณา
     
  3. AYACOOSHA

    AYACOOSHA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ผมเข้าใจคุณนะความรู้สึกอย่างนั้น...ผมก็ยังมีความรู้สึกอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน...แต่เราไม่อาจจะรู้ได้เลยว่ากฏแห่งกรรมดีและกรรมชั่วจะให้ผลยังไง ตอนไหน เมื่อไหร่...บางคนทำความดีมาเยอะแยะแต่ชีวิตก็ไม่มีอะไรดีขึ้น...บางคนมีครบทุกอย่างโดยที่บางครั้งไม่ต้องทำอะไรหรือไปเบียดเบียนคนอื่นมา.. มันเป็นเรื่องที่บางครั้งแล้วเรานึกถึงทำให้เราท้อแท้หมดกำลังใจในการที่จะทำความดีต่อไป ปัจจุบันนี้ผมคิดเพียงแต่ว่า เรามีบุญแค่ไหนแล้วที่ยังได้มีลมหายใจตื่นขึ้นมาเผชิญชีวิตอีกวันหนึ่ง เพราะอย่างน้อยก็ยังมีอีกวันหนึ่งที่เราจะได้ทำความดีต่อไป...อย่าพึ่งท้อครับ...มาสู้ร่วมกันก่อน อย่าละทิ้งทางสายนี้ที่คุณได้ทำมาอย่างดีแล้ว ถ้าทำความดีจนถึงที่สุดแล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้น...แม้จะทำไปจนตายก็ยอม เพราะเชื่อและเคารพในพระศาสดาเป็นอย่างยิ่ง...สวัสดี
     
  4. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286


    ขอบคุณที่เตือนค่ะ จากใจเลย
    แต่ชีวิตทุกคนต้องก้าวเดินข้างหน้าเสมอ ถ้าจะมีใครนำเรื่องราวดีๆมาเล่าสู่กัน
    มันก็เป็นเสมือนกำลังใจ เป็นเชื้อไฟให้คนอื่นๆที่ยังไม่เจอแสงสว่างนะคะ

    เข้าใจเจตนาคุณนะคะ ^^
     
  5. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286

    ใช่เลยประโยคของคุณค่ะ
    ที่ไม่ชอบใจก็คือยังมีลมหายใจอยู่นี่ล่ะค่ะ ไม่ชอบเลยหลับฝันตื่นคิดมันห้ามไม่ได้เลย อาการที่รู้สึกตัวเมื่อไรใจต้องเต้นแรงทุกครั้ง สิ่งที่สุขที่สุดคือช่วงที่ไม่รู้สึกใดๆเลย

    ยังยึดมั่นในองค์พระศาสดาดูค่ะ พระองค์ทำให้อยากทำดีต่อ
     
  6. tanatep

    tanatep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +118
    ผมมีประสบการ์ณครับ
    ขอเล่าย้อนความหน่อยนะครับ
    เมื่อก่อนตอนเด็กเด็กๆ พ่อแม่ชอบพาผมเข้าวัดครับ
    ไปเป็นประจำ ไหว้พระ สวดมนต์ จนจำบทสวดได้ แต่ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ครับ

    ต่อมาพอโตหน่อยเป็นวัยรุ่น ม.2-3 ก็ติดเพื่อน ติดเกม แข่งรถ มีสารพัดความชั่วครับ
    ช่วงปลายๆ ม.3 เค้ามีจตุคามรามเทพกัน เราก็มีไปกับเค้า พระไม่ไหว้ครับ ไหว้แต่องค์จตุคาม จุดธูปเป็นร้อยๆดอก ขอให้รวย ขอให้สมหวัง มีแต่กิเลส ตัณหาครับ นี่ยังโง่อยู่

    พอ อีตอน ม.4- 6 นี่ไม่สนใจอะไรเลยครับ ย้ายมาเรียนต่างจังหวัด เรียนก็ไม่ไปเรียน เล่นแต่ดนตรี คนที่บ้านเตือนก็กลายเป็นทะเลาะกัน โกรธพ่อ งอลแม่ ว่าไม่เข้าใจ ไม่อยากเข้าบ้าน เที่ยกลางคืน กินเหล้า เฮฮา เอากับมันสิครับ ไอผมนี่มันชั่วจริงๆ จนถึงปลายๆ ม.6 ตอนนี้นี่เริ่มจะมีปัญญาขึ้นมาหน่อย เพราะเริ่มอยู่กับครอบครัวมากขึ้น ถอยห่างจากเพื่อน จากวงดนตรี เริ่มสวดมนต์ไหว้พระอีกครั้งนึง เริ่มไปทำบุญ หล่อพระ เริ่มหัดนั่งสมาธิ ภาวนา แต่ก็ หายใจเข้าพุธ หายใจออกโท แบบคลำไปครับ ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง ต่อมาก็มีคนมาทักว่ามีองค์เทพ ก็ไปกับเค้า ตอนแรกไม่เชื่อ พอไปถึงก้เชื่อเค้า แต่ซักพักก็ไม่อยากไป รู้สึกว่ามันไม่ใช่ ก็เลยไม่ไป เพราะว่าเค้าพูดไม่ตรงกับความเป็นจริง นี่มีปัญญานิดนึง แต่ถึงไม่ไป ก็ยังถือว่าตัวเองนี่มีเทพคุ้มครอง ผีที่ไหนไม่กล้ามาทำร้ายเรา เราดีกว่าคนอื่น นี่มิจฉาทิฐิ ชั่วมั้ยล่ะครับ

    ทีนี้พอเข้าปี 1 เรียนมหาลัย ก็เริ่มนั่งสมาธิบ่อยขึ้น สวดมนต์ก็สวดสารพัด สวดเสียงดัง พอพี่มาว่ามาเตือนก็โกรธเค้า ว่าเราสวดมนต์ทำดี ทำไม่มาว่าเรา นี่เป็นความโง่ของผมนะครับ มันไม่รู้จักคำว่าพอดี ไม่มีปัญญา .... ตอนปี 1 นี่ ได้ฟังประวัติหลสงปู่มั่นครับ เกิดความเลื่อมใสมาก จนถือปฏิบัติสมาธิตามแนวทางท่าน ก็ ตอนนี้แหละครับ ทำบุญ ให้ทาน ตลอด มีอยู่ครั้งนึง ไปนั่งสมาธิที่วัดบนดอย ไปกันหลายคน แต่พี่ที่รู้จักกันเขาเป็นทนาย เขานั่งนาน ผมก็ไปนั่งกับเขา สักพัก มันก็ว่างครับ เหมือนว่าไม่มีร่างกาย แล้วก็สุข

    ตั้งแต่วันนั้นมาพอกลับมาบ้านก็พยายามนั่งครับ นั่งยังไงก็ไม่ได้เหมือนเดิม พอใจมันไม่นิ่งก็หงุดหงิด

    ตอนนี้ ผมเรียน ปี 2 ครับ ศึกษาธรรมะ มาพอประและ ก็คนในครอบครัวก็บอกว่า นิสัยดีขึ้น อันนี้เค้าพูดนะครับ

    ผมได้คติสอนในอย่างนึงจาก หลวงพ่อฤาษีท่าน ว่า ถ้าคิดว่าตัวเองดีเมื่อไหร่ ก็เลวเมื่อนั้น เพราะ เมื่อเวลาเราคิดว่าเราดีเนี่ย ไอตัวมิจฉาทิฐิมันเกิดขึ้นครับ มันเป็นของเลว ก็คนชั่วนี่มันไม่เห็นความเลวของตัวเองครับ ตอนนี้ผมไม่ต้องจุดธูปจุดเทียนก่อนจะนั่งสมาธิหรอกครับ บางวันก็นั่งดูลมหายใจทั้งวัน ไม่เคยขาดจากภาวนาเลยครับ

    เดี๋ยวนี้ เห็นอะไรมันก็เป็นทุกข์ไปหมด บางทีกลับบ้านมาเหนื่อยๆจากเรื่องเรียน เรื่องเพื่อนที่มหาลัย มาถึงก็วางกระเป๋า เข้าห้อง นอนดูลม แล้วก็พิจารณา สักพัก แล้วก็ ภาวนาต่อ มันจะหลับก็ปล่อยมันหลับไป พอตื่นมา ก็สดชื่นครับ ไอ่เรื่องเก่าๆที่ทำให้ไม่สสบายใจนี่ มันวางไปแล้ว นี่ถ้าพิจารณาจนเห็นว่ามันเป็นของธรรมดานี่ มันวางไปเลยครับ ปล่อยมัน เราก็ สบาย

    ออกจะนอกเรื่องไปหน่อยนะครับ แต่จะมาเชื่อมโยงให้เห็นตรงนี้ครับ

    ท่านเจ้าของกระทู้ถ้าได้อ่านข้อความข้านต้นที่ผมเล่ามา มันเป็นชีวิตของผม
    ซึ่งตอนนี้ ผมก็ไม่ได้เป็นผู้ใหญ่ อายุแค่ 20 ปี
    แต่เคยผ่านประสบการ์ณมาแล้วหลายครั้งหลายคราว
    ว่า หมดศรัทธาน่ะ มันมีอยู่จริง แต่ผมไม่เคยมีกับพระรัตนตรัย ศรัทธามาโดยตลอด
    แต่หมดกับ ร่างทรง องค์เจ้า ทั้งหลายที่ปลอมๆ ของจริงมีครับ ถามไรเค้าตอบตรงหมด แต่มีน้อย

    ทีนี้มาเข้าเรื่องกันว่า จากที่ผมอ่านหัวข้อ ตีความได้ว่า

    ท่านเจ้าของกระทู้ มีความทุกข์ ใช่หรือไม่
    ท่านทำบุญแล้ว อยากมีความสุขจากผลของบุญ แต่ก็ไม่ได้ ใช่หรือไม่

    ท่านก็เลยท้อ ใช่มั้ยครับ

    ถ้าใช่เอาอย่างนี้ครับ เรื่องบุญ บาป น่ะ มีตริง ให้ผลจริงคับ
    ลองคิดดูว่า ถ้าพี่(ขอเรียกว่าพี่นะครับ) มีนาอยู่ 2 ผืน ผืนแรก ปลูปก่อน (บาป) ผืนที่สอง ปลูกทีหลัง (บุญ) ผืนไหนจะออกรวงข้าวก่อนครับ ?

    ผืนแรกใช่มั้ยครับ เพราะมันปลูกก่อน
    ก็เหมือนกับบุญ กรรม นั่นแหละครับ ตอนนี้พี่ทำบุญก็จริง แต่ ความชั่วในอดีตมันกำลังให้ผลอยู่ คือ ข้าวนาผืนแรกมันออกรวงนั่นเองครับ ไม่ช้าไม่นาน ถ้าข้าวมันหมด แล้วข้าวนาผืนที่สอง ออกรวงมา เราก็ได้กินข้าวบุญละครับ อย่าท้อใจเลยนะครับ

    ทีนี้ ตอนนี้พี่มีความทุกข์ จะทำยังไงให้พ้นจากทุกข์
    เราต้องมี สัมมาทิฐิครับ คือ เห็นตามความเป็นจริงว่า มันทุกข์นะ ยอมรับว่าตอนนี้น่ะมันทุกข์
    พี่ทุกข์ใช่มั้ยครับ ทุกข์เพราะไม่ได้ดั่งใจ ทุกข์เพราะอยากได้ ทุกข์เพราะอยากสุข
    พอยอมรับได้แล้วว่าพี่ทุกข์ ทีนี้พี่ลองนึกตามผมนะครับ ถ้าพี่บอกว่าพี่ทุก ทุกข์ โอ๊ย มันทุกข์อะไรอย่างนี้ อยากสุข อยากสุข เมื่อไหร่จะสุข พี่ลองดูใจตัวเองนะครับ ว่ามันว้าวุ่นมั้ย

    ถ้าพี่ไม่วางทุกข์ แล้วพี่จะสุข ได้ยังไงครับ

    ยอมรับว่ามันทุกข์ แล้ว ปล่อยมันไป คิดว่าช่างมัน มันเป็นเรื่องธรรมดา ทุกข์ก็ทุกข์ไปสิ ให้มันทุกข์แค่กาย พอใจเรายอมรับได้ มันก็ สบาย ครับ

    ทีนี้เรื่องผลของบุญ กรรม ให้ผลแน่นอนครับ จากตัวผมเอง ผมอยากจะบอกอย่างนี้
    1.ทาน นี่มันให้ผมจริงๆ คือ ผมก็ยังเรียนอยู่ครับ แต่ก็ทำงานกับพี่ชายไปด้วย เดี๋ยวนี้ไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ใช้ ก็ แบ่งเบาภาระท่านได้ แล้ว เวลาไม่มีตัง มันก็ไม่อด มันจะมีทางมาให้เราเอง มันจะไม่อดครับ ไม่มีตังยังไงก็มีข้าวกิน มีอาหารกิน เดวตังก็มา นี่อานิสงฆ์ของทาน ครับ
    2.ศีล นี่ให้เราระวังกาย วาจา ไม่ให้คิดไม่ดี ทำไม่ดี ไม่ให้ไปเบียดเบียนคนอื่น เราก็มีมิตรเยอะ
    3.ภาวนา นี่ทำให้เราสงบ ใจเย็น มีสติ แล้วก็มีปัญญา ครับ

    ค่อยๆสะสมไปครับ ถ้าเรารีบ จะเอาให้ได้ๆ เดวมันก็ทุกข์อีก ทุกข์เพราะมันไม่ได้ ก็ช่างมันไป

    ทีนี้อยากจะบอกอย่างนี้ครับ ท่านเปรียบว่า พระศาสนาเปรียบดั่ง ต้นไม้
    ยังไงนะ ต้นไม้นี่มันมีเป็นชั้นๆใช้ไม้ครับ ชั้นแรกก็ เปลือก ชั้นต่อมาก็กระพี้ ต่อมาก็แก่นครับ ถ้าเราเป็น นก เป็น แมลง เราอยากจะเข้าไปหาแก่เราต้องผ่าน เปลือก กับ กระพี้ใช่มั้ยครับ

    นั่นแหละครับ ถ้าอ่านจากเรื่องเล่าของผมข้างบน พี่จะเห็นว่า ผม ค่อยๆ ผ่านมาทีละน้อยทีละน้อย แต่ตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหนของต้นไม้ครับ


    ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ ทำความดี ขอให้มี ความเพียรครับ

    ปล.ที่ตอบมานี้ ไม่ใช่ว่าตัวเองดีนะครับ ตัวผมนี่ยังเลวอยู่มาก เอาดีไม่ได้ครับ ตอบเพราะมีประสบการ์ณมาบ้างครับ

    ขอบคุณครับ


    ถ้าใครมี Skype ก็แอดมาคุยกันได้ครับ ผมไม่ค่อยมีเพื่อนคุยเรื่องธรรมซักเท่าไหร่ครับ

    Skype Nmae : panuwich.inwang
     
  7. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286
    ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะคุณ tanatep

    แต่ก่อนตั้งแต่เล็กจนโตก็ทำบุญโดยไมเคยหวังผล ทำอะไรบอกว่าให้คนอื่นหมดให้ใครก็ได้ที่ทุกข์ให้คนทั้งโลกเลย แต่4ปีที่ผ่านมาเรื่องราวต่างๆที่ทำให้ทุกข์ทำให้ดิฉันรู้จักการให้มากขึ้น เย็นขึ้น เปลี่ยนแปลงตัวเอง มีความสุขกับการทำบุญ ศีล5ก็พยายามยึดถือให้มากที่สุด ช่วงปีที่แล้ว ใจใฝ่ดีมากกว่าเดิม ขนาดนิ่งไม่แม้กระทั่งบอกใครนะว่าทำดี ไม่เอาความดีมาอ้างเพื่อนยืนยันตัวเอง เจออะไรก็เงียบ เก็บ วาง แล้วคิดว่าเรื่องร้ายๆจะผ่าน ปิดหูปิดตาเสีย แต่ปรากฏว่า การที่ยิ่งทำแบบนั้น ยิ่งยอม ยิ่งให้ ยิ่งดี มันเหมือนกลับมาทำร้าย จนถึงกระทั่งว่ามีคนมาพูดว่า "เห็ยมั้ยบอกแล้วคนดีอยู่ไม่ได้ คนชั่วต่างหากจะชนะทุกอย่าง" ได้ยินได้ฟังหลายครั้งมากๆ ก็พยายามไม่ฟังคำเหล่านั้น ไม่เชื่อ คิดว่าความดีนี่ล่ะชนะทุกสิ่ง
    และกระทั่ง "โลกไม่ยุติธรรม ไม่มีอะไรยุติธรรมหรอก คุณอย่าไปเอาอะไรความถูกต้อง จะมาร้องจขอทำไม" บุคคลที่พูดคำนี้ กลับสมประสงค์ ดีวันดีคืน กลายเป็นการพิสูจน์คำพูดของเขาต่อตัวเรา โลกนี้ต้องแก่งแย่งทำเพื่อตัวเองจริงหรือ และยังโดนปัญหาใหม่ๆ ทั้งๆที่ปัญหาเก่าๆ พยายามจะลืม ไม่ขุดไม่ขุ้ย มันก็เหมือนเป็นกองอะไรให้คนเขาทับทมสมน้ำหน้า ยิ่งเงียบก็กลายเป็นดูไร้ค่าในสายตาคนอื่น สิ่งที่เกิดเมื่อออกมาเผชิญทำให้ใจแป๊ว ตลอดเวลาที่ทำดีมาตลอดอย่างสดชื่นรู้สึกเหมือนหลอกตัวเอง ระหว่างที่เราไปทำดีเรื่องใครๆ คนกลับใช้เวลาเหล่านั้นทำร้ายโดยที่ตัวเราไม่มีเวลาได้แม้แต่จะวางแผนป้องกัน กลับคิดไปว่าป่านนี้ถ้าลุกขึ้นสู้บ้าง เราก็ชนะนานแล้วจริงๆ แล้วต้องชนะจริงๆด้วย แต่ก็จะกลายเป็นเรื่องไปผูกกรรมในทางศาสนาอีก กลัวบาป ไม่อยากทำบาป จนถึงมีคนมาขอร้องให้โกหกเล็กน้อยเพื่อความจำเป็นก็เลือกที่จะเดินหนีทรมานตัวเองออกจากบ้านเสียเพื่อไปต้องโกหก
     
  8. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286
    มันเป็นความรู้สึกตามลำดับว่าเราเจอเรื่องร้ายๆเพื่อให้เราผ่านและปฏิบัติธรรมเคยรู้สึกยินดีและพอใจที่จะเป็นคนดี ขอบคุรเรื่องร้ายๆที่เจอด้วยซ้ำ และบอกคนอื่นให้เชื่อในความดี

    พอเรายึดมั่นในธรรมแล้วกลับคิดว่าเราอาจจะคิดผิดหรือเปล่าที่จะเป็นคนดีและดีขึ้นเรื่อยๆ
    เพราะที่บอกคนอื่นไปก็ไม่เคยเป้นประจักษ์พยานใดๆเลย ทุกอย่างเหมือนกลับด้านรู้สึกเหมือนว่าพออยากดีกลับทำไม่ได้ ต้องมีเรื่องให้หมดศรัทธาเสียแบบนั้น
     
  9. kantrakorn

    kantrakorn สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +23
    ในส่วนของเรื่องบุญบาปนั้นมีจริงนะครับแต่ว่าแต่ละคนนั้นจะเจอไม่เหมือนกันครับ ตัวอย่างของผมเวลามีปัญหาอะไรที่หนักหนา เช่น เรื่องเงินมีอยู่ครั้งนึงต้องใช้เงินก้อนเกือบ 3 หมื่นภายใน 7 วัน ไม่รู้ว่าจะไปหาที่ไหนนะครับ ได้นั่งสมาธิอธิฐานจิตว่าขอผลบุญที่ได้ทำในอดีตและปัจจุบัน ที่เคยช่วยเหลือเกื้อหนุนใคร ๆ ไว้ ขอผลบุญนั้นขอให้ข้าพเจ้าได้รับการเกื้อหนุนนั้นเช่นกันครับ เชื่อไหมครับ ว่าัวันรุ่งขึ้นนั้นคนที่ผมติดต่อขอความช่วยเหลือเขาในตอนแรกเขาบอกไม่มี แต่เขาก็กลับมาช่วยเหลือเราให้เรายืมเงิน 1 หมื่นบาท และเจ้าหนี้ที่เคยบอกว่าต้องใช้คืนภายใน 7 วันกลับผ่อนผัันให้ผมไปอีก 2 เดือน ทำให้ผมมีเวลาที่จะหาเงินมาคืนเพิ่มได้ นั่นคือผลบุญที่เราได้ทำไว้ส่งผลต่อเรา แต่ไม่ใช่ว่าจะลบล้างกันได้หมดเพราะกรรมคือหนี้สินของเราไม่มีใครจะยกหนี้ของเราให้ฟรี ๆ ได้ หรือแม้กระทั่งเรื่องงาน โดนลูกค้าร้องเรียนเรื่องงานมีปัญหาซึ่งสร้างปัญหาให้ผม 3-4 วันติดเลยช่วงนั้นนอนไม่ค่อยหลับเครียดมาก แต่เมื่อได้สวดมนต์ทำสมาธิแผ่บุญกุศลไปให้กลับพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกลับคลี่คลายลงภายใน 3 วัน ลูกค้าโอนอ่อนต่อเราและเข้าใจเหตุผลของเราและยอมรับการแก้ปัญหาที่เรานำเสนอให้ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาไม่ฟังข้อเสนอของเราเลย ทั้งทางผู้ใหญ่เองก็ไม่ฟังข้อเสนอของเราเลย คอยจะให้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เราเคยรู้สึกว่าบุญและกรรมนะไม่สามารถลบล้างกันไ้ด้เพียงแต่ทำให้เบาบางลงได้แต่ก็ต้องใช้ระยะเวลาของมัน เหมือนกับเวลาเราปลูกอะไรเราก็ต้องรอวันที่ผลผลิตมันออกดอกออกผล ทุกสิ่งทุกอย่างต้องใช้เวลาของมันจะให้เร็วทันใจของเรามันไม่ได้หมดทุกอย่างนะครับ เป็นกำลังใจให้อย่างเพิ่งท้อแท้นะครับ จงทำดีต่อไปเพื่อตัวของคุณเองนะครับ สู้สู้ครับ
     
  10. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286

    ขอบคุณนะคะ ^^ นี่ก็เป็นตัวอย่างของการสวดมนต์นั่งสมาธิ
    จริงๆก็ไม่ได้เร่งให้อะไรทันใจนะคะ เพียงแต่เราอยากเห็นผลบ้างว่าทุกอย่างจะทำให้เราผ่านไปได้ด้วยดีเพียงเราอดทน และระหว่างที่เราทำดี ความดีจะคุ้มครองเราไม่ให้คนอื่นหาจังหวะกลั่นแกล้ง

    จะรอแค่ไหนไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าขอให้มีอยู่จริงเพราะว่าความรับผิดชอบต่างๆมากมายจะยึดมั่นอะไรต่อไปแล้วไม่เห็นดูเสี่ยงเหลือเกิน

    ตอนนี้เริ่มหันมานั่งสมาธิมากขึ้น และคุณก็เป็นหนึ่งกำลังใจเรื่องนี้ได้ดี ขอบคุณค่ะ
     
  11. พุธทสิณ

    พุธทสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +404
    ทําดีหรือทําบุญแล้วย่อมได้ผลแห่งบุญนั้นอยู่แล้วแต่ก้ออย่าลืมว่า,ต้องเป็นไปตามกฏแห่งกรรม และเวลาจะที่ส่งผลให้ด้วย...แต่ถ้า ทำดี ทำบุญ แล้วหวังผลแล้วไช้รอาจจะไม่ได้ดั่งที่ใจเราหวังไว้...ก้อจะทําให้เกิดทุกข์...แล้วจะพาลมาว่าหมดศรัทธาในการทําความดี...เราเกิดมาเป็นมนุษย์นี้ได้ก้อเพราะบุญที่ทํามานั่นเองอย่าได้เสียเวลาคิดกับเรื่องที่จะพิสูจน์การทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วอยู่เลย...จงตั้งหน้าทําความดีต่อไปอย่าท้อถอย...แล้วชักวันหนื่งบุญให้ผลแล้วเราจะรู้เอง...ขอเป็นกําลังใจให้ทําความดีต่อไปนะครับ:love:
     
  12. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286
    ขอบคุณกำลังใจค่ะ นี่คงเป็นช่วงเวลาของการค้นหากระมังคะ
    ถึงยังวิ่งวนแบบนี้
     
  13. toseal

    toseal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +618
    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ครับ
    ผมไม่เก่งเลยครับ ผมพยามยามนึกเรื่องที่เป็นทุกข์ให้เข้าตามกฎนี่หมดเลยครับ
    มันก็จะสบายใจครับ
     
  14. ABT

    ABT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +1,524
    คุณต้องการอะไรจากการทำความดี คุณต้องการให้ความดีตอบสนองคุณอย่างทันตาเห็น คุณได้แล้ว แต่โทสะมันบังตาคุณ อะ โทสะคืออะไร โทสะคือความไม่พอใจ คุณไม่พอใจที่ความดีไม่เห็นมาตอบแทนคุณบ้างเลย ทำไมคนอื่น ไม่เห็นจะทำอะไรเลยกลับมีควาสุข ทำไมเรามีแต่ปัญหา หลับตาปัญหาก็มารุมเร้า เผาตัวเราอยู่ร่ำไป จิตคุณได้ไปติดอยู่กับบ่วงโทสะ คุณชอบฟังเพลงไม๊ คุณชอบฟังธรรมะของหลวงพ่อองค์ใด อะไรก็ได้ที่ทำให้คุณรู้สึกดี ผมแนะนำให้ทำ ให้ออกจากปัญหาที่รุมเร้า (มันออกไม่ได้หรอก) ให้ใจคุณออกจากปัญหา พักใจด้วยอุเบกขา ละความโมหะ คือความพอใจ ละโทสะ คือความไม่พอใจ ละโลภะ คือความหลง ให้ใจเป็นอุเบกขา แล้วจะรู้ว่า ความดีที่คุณได้ทำมานั้นเขามารอตอบแทนคุณแล้ว แต่คุณไม่เปิดใจรับ คุณรับแต่โทสะเข้ามาในใจ ลองดูนะครับ หากทำได้ ท่านจะเป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้ก้าวข้ามทะเลแห่งทุกข์ ท่านจะเข้าใจคำสอนขององค์พระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง ไม่ใช่เข้าใจเพราะเขาว่าต่อกันมา ท่านจะพบว่าไม่เคยมีอะำไรเลยที่ เกิดมา แล้ว ไม่สลาย ไป เกิดมา คงอยู่ และดับไป วางทุกข์อย่างลง ทำใจสบายสบาย แล้วใคร่ครวญ ด้วยจิตที่เป็นอุเบกขา ขออาราธนา บารมีแห่ง พระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ เทพเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทุกพระองค์ โดยมีหลวงปู่ดู่ ท่านเป็นที่สุด แผ่บารมี ปรับภพภูมิ ครอบวิมานให้ ท่าน จกท. จงสาารถรับกระแสบุญบารมีนี้ได้ขอหลวงปู่น้อมนำให้ อนุโมทนาและให้ มีความสุข ความเจริญ พ้นบ่วงทุกข์ ภัย ทั้งสิ้นเทอญ พุทธังอนันตัง ธรรมจักวาลัง สังฆะนิพพานัง นะปัจโยโหตุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มกราคม 2013
  15. happyness

    happyness เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +163
    อยากรู้จัง คุณ NARKA คือใคร
    เพราะสังเกตุหลายต่อครั้ง แล้วพูดเหมือนคนรู้แจ้ง คุณเธอต้องขอเข้าไปแจมเกือบทุกกระทู้
    และคำตอบส่วนใหญ่ จะเป็นการทำลายความตั้งใจ หรือสกัดความคิดเห็นของคนอื่นๆอยู่เรื่อย
    ซึ่งฟังจากคำพูดที่คุณ NARKA พูดดูเหมือนคนรู้มาก เหนือกว่าคนอื่นๆ แต่ไม่เลย คนอืนๆว่ามะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2013
  16. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286

    วันนี้ ณ.ตอนนี้จะนึกถึงท่านขอบารมีท่าน(หลวงปู่ดู่) อนุโมทนาค่ะ
    ขอค้นหาข้อมูลแลพภาพสักนิดนึง
     
  17. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286
    นานนาจิตตังค่ะ แต่ว่าทั้งหลายทั้งปวงคงมาจากความปรารถนาดีทั้งนั้น

    บางท่านก้จะมีลีลาการโพสต์ต่างๆกันไป

    เมื่อตั้งกระทู้แล้วก็จะรับทุกคำแนะนำค่ะ

    ซึ่งเจ้าของกระทู้เองก็ยังไม่สามารถทำให้ท่านผู้มาเยี่ยมเยียนเข้าใจเจตนาของการตั้งกระทู้ได้อย่างชัดแจ้งเลย Y Y..เพราะการอธิบายไม่เก่งและสำนวนห้วนๆ แต่ก็รู้สึกขอบคุณมากที่หลายๆท่านได้เข้ามาแชร์และเข้ามาด้วยจิตช่วยเหลือ
     
  18. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154


    ถ้าเหนื่อยก็หยุดพักก่อนก็ดีครับ

    หายเหนื่อยมีแรงค่อยเริ่มใหม่


    เรื่องกรรมที่ส่งผลยากที่เราจะรู้

    ต้องมีญาณหยั่งรู้ที่ระลึกชาติได้

    อย่างพระพุทธองค์หรือเหล่าพระสาวกบางองค์

    เช่นเรื่องของสามเณรบัณฑิตท่านเป็นพระอรหันต์

    ตั้งแต่๗ขวบ (กรรมที่สงผลในทางที่ดี)

    และพระมหาอัครสาวกเบื้องซ้าย

    พระโมคคัลลานะ(ท้ายสุดท่านแสดงให้เห็นในส่วนกรรมที่ไม่ดี)

    ทั้งสองเรื่องนี้ลองหาอ่านดูเอาครับ

    อีก รายการเรื่อง"กรรมลิขิต"ดูเพื่อเป็นมุมมองได้ครับ

    ท้ายนี้ถ้าคุณยังเชื่อคำที่ว่า "ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมไม่ให้ตกไปสู่ที่ชั่ว"

    ก็ขออนุโมทนาด้วยครับ.
     
  19. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286
    ขอบคุณค่ะคุณอภิมาร จะข่มใจไม่ให้ไหลไปกับมารอีกนิด
    ถ้าสำเร็จจะมาบอกต่อแน่นอนค่ะ
     
  20. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ท่าน NARKA ก็มีส่วนที่ดีเยอะอยู่ แต่ทิฏฐิบางเรื่อง ฝังแน่นเกินไป ทำให้คลาดจากแก่นแท้ของธรรมะไปครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...