ถึงเวลาที่สยบข่าวภัยพิบัติ  ทางสายเอก

พุทธศาสนิกชนทุกคน มีหน้าที่ในการปกป้อง คุ้มครอง และดูแลรักษา พระพุทธศาสนา
ให้อยู่คู่เมืองไทย และอยู่คู่โลกสืบไป
ไม่นิ่งดูดาย ให้คนชั่ว แอบอ้างเอาพระพุทธศาสนาไปเป็นเครื่องมือในการทำมาหากินในทางมิชอบ ไม่อย่างนั้นอนาคตลูกๆหลานๆของเราคงเป็นชาวพุทธแบบมิจฉาทิฏฐิ

 

ห้างหุ้นส่วนจำกัด เฉลี่ยบาป พอถึงเวลา บรรดาสมาชิก จะได้รับส่วนแบ่งจากผลประกอบการธุรกิจ กันไปตามสัดส่วน

 

การรักษาพระพุทธศาสนาเป็นหน้าที่ของพุทธบริษัท  ๔ โคยตรง ถ้าเราไม่ช่วยกันแล้วอีกหน่อยก็จะพอมองเห็นภาพได้ครับ  แม้นหลายท่านเลือก ที่จะวางเฉยให้ปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม เพราะความที่ไม่อยากยุ่งนั่นหมายถึงขาดความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันที่ต้องมาตกทุกข์ได้ยากเพราะ  พระบนดอยและกลุ่มธุรกิจที่เราเรียกว่าผีปิรามิด มาหลอกหลอนชาวบ้านที่มีสติปัญญาอันน้อยนิดจนสิ้นเนื้อประดาตัว  อย่าว่าแต่ชาวบ้านเลยครับ
ขนาดระดับคนจบ ดร. มาแล้ว ยังถูกหลอกให้มานั่งสัมมนาเตือนภัยพิบัติด้วย เลยครับ
นี่แหละครับความรู้ระดับ  ดร. ที่ขาดสัมมาสติมาเป็นตัวควบคุมปัญญา ผลจึงออกมาเช่นนี้
บวกกับพวกที่แสวงบุญนอกเขตบวรพระพุทธศาสนา  ที่องค์สัมมาสัมพระพุทธเจ้าได้ทรงเตือนใว้แล้วครับ

 

ขอให้ทีวี สื่อ ฯลฯ มาทำข่าวพี่น้องชาวไทยที่หลงเชื่อดีไหม เผื่อคนที่สร้างข่าว จะด้วยเข้าใจผิด รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ห่าม เกรียน จะอะไรก็เถอะ รู้สำนึกว่าได้ทำอะไรลงไป บาปกรรมนี้จะทำให้ท่านห่างไกลมรรคผล มีมิจฉาทิฐิ เปนเบื้องหน้า เปนตัวอย่างให้หลายท่าน น้องๆรุ่นใหม่ พึงระวัง ไม่กระทำอีก
ส่วนที่จะเลิกโพสกันแล้วในกระทู้อื่นก็ขอยินดีด้วย ไม่ต้องน้อยใจ อันอื่นยังมี ไปอดเข้าเวปที่ถ้ำกระบอกก็ได้

 

people@thaipbs.or.th

สถานีประชาชน ไทยพีบีเอส มีทนายให้คำปรึกษาได้ ลองดู

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ โตมรธรรม
ที่บ้านผมก็เป็นเหยื่อเหมือนกันครับ คุณแม่ผมไปซื้อที่ดินที่ พอจ....จัดสรร หมดเงินค่าที่ค่าบ้านไปหลายแสนบาท คุณแม่ลาออกจากงานขายบ้านในกรุงเทพมาซื้อ ที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ แถมตกงาน
ตอนนี้นั่งดูเพื่อนร่วมชะตากรรมหลายๆคนเอาของที่ตุนไว้มาขายกันถูกๆ เพี่อหาค่ารถกลับบ้าน ของที่ขายไม่ได้ก็เอาไปถวายวัด บ้านที่ปลูกไว้ก็มาประกาศขายต่อกันถูกๆ
นี่แหละครับ ความกลัวตายทำให้ขาดสติ จึงตกเป็นเหยื่อได้ง่าย
ราคาบ้านตามสภาพความเป็นจริง ไม่สูง
แต่ถูกปั่นราคาให้สูงผิดปกติด้วยการสร้างกระแสให้คนหวาดกลัวเรื่องภัยพิบัติ

เพิ่งรู้จากคุณโตมรธรรม เหมือนกันว่า เค้ารับคืนเพียงแค่สายเอวพีระมิด ที่อ้างว่าลดแรงโน้มถ่วงแรงกดทับ อย่างอื่นไม่รับ

อันที่จริงลองปรึกษาหาทนายความเก่งๆ แถวเชียงใหม่ เพราะเหตุเกิดที่นั่น
แล้วลองปรึกษาดูก่อนว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง น่าจะดี

มีกรณีพ่อปลาบู่เป็นแนวไว้ให้กระบวนการยุติธรรมบ้านเราแล้ว สำหรับผู้ร้องทุกข์
แต่กรณีนี้มีขายอุปกรณ์พีระมิดต่างๆ และบ้าน เสริมเข้ามาจากการปั่นกระแสภัยพิบัติด้วย

กรณีนี้ ส่วนตัวมั่นใจว่าบางทีอาจเรียกเงินค่าบ้านคืนได้ จำนวนเงินอาจไม่ร้อยเปอร์เซนต์เต็มที่ซื้อ
...แต่ก็อาจเยียวยาค่าความเสียหายของคุณแม่ของคุณโตมรธรรม และคนอื่นๆที่กำลังเป็นทุกข์กับเรื่องนี้ได้บ้าง ถ้าตั้งให้เป็นหน้าที่ของทนายความเข้ามาเดินเรื่องให้ เพราะเขารู้กฏหมายดี

และหากมีใครกลัวเรื่องที่สำนักนั้นขู่ดักคอเรื่องปรามาสไว้
ก็ขอแนะให้เขาปรึกษาผู้รู้จริงทางศาสนา หรือ อาจจะเป็นที่ มจร. หรือ เถรสมาคม
เพราะพระธรรมวินัยจริง ๆ เค้าก็ไม่ให้ออกมาทำอะไรแนว ๆ นี้

แต่ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ไม่ทำอะไรเลย กรณีบ้านที่เข้าไปสร้างในที่ดินบุกรุก ไม่มีเอกสาร ไม่มี สปก. ในวันข้างหน้าอาจเจอปัญหาได้ คือ คนที่เข้าไปซื้ออาจจะเจอสองเด้ง ดังที่ ท่าน Nirvana ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นไว้ในกรณีนี้ [หน้าที่ 4 ] คือ

ข้อความอ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Nirvana
เรื่องนี้คงจบไม่ง่ายหรอก ครับ

เพราะมีผู้เสียหายหลายสิบราย
กรณีนี้เข้าข่ายคล้ายกับ คดีให้ราษฏรบุกรุกที่เช่าราชพัสดุหมดอายุที่จังหวัดกระบี่ รายการนั้นเหมือนจราจลย่อมๆเลย

อีกกรณีหนึ่งก็คือ ที่ดินร้างอยู่ระหว่างดำเนินคดีที่รังสิต แต่ก่อนเป็นโรงงานทอผ้าขนาดใหญ่ ผู้ปลุกปั่นเก็บเงินคนละ 5 พันบาท บอกว่าให้มาสร้างบ้านอยู่แล้วจะได้กรรมสิทธิ เรื่องนีั้สิ้นสุดลงด้วยการเผาหมู่บ้านไล่ที่นะครับ

แล้วทีนี้กรณีที่ว่าไปปลูกบ้านบนที่ดินป่าสงวน เจ้าของบ้านมีสิทธิถูกจนท.รัฐฟ้องข้อหาบุกรุกที่ดินของรัฐตกเป็นจำเลยคดีอาญานะครับ ดังนั้นก็คงต้องไปไล่เบี้ยเอากับผู้ที่นำเสนอที่ดินตั้งแต่ต้น เอกสารหรือพยานชี้ไปถึงใคร คนนั้นก็ต้องมาขึ้นศาลกันล่ะครับ

สิ่งที่น่าแปลกใจในกรณีสุดท้ายก็คือ 2 กรณีแรก ผู้บุกรุกเป็นราษฏรระดับตาสียายมา จึงไม่แปลกใจที่จะถูกหลอก
แต่กรณีที่กล่าวถึงมีขรก.ระดับสูง ผู้มีความรู้ระดับปริญญาตรีหลายคน เป็นผู้มีความรู้และการศึกษา (ส่วนใหญ่เป็นสุภาพสตรี) เลยกลายเป็นเหยื่อได้ง่าย

รายการนนี้นอกจากเสียเงินฟรีแล้ว จะต้องตกเป็นจำเลยกับรัฐด้วยเท่ากับเจอแจ๊คพ๊อต 2 เด้ง....น่ะ สิครับ.....
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย rayo : วันนี้ เมื่อ 08:48 AM
ข้อความข้างบนนี้ยกมาจากกระทู้ ไม่มีเหตุแล้วในวันที่3มกราคม2556 จากพระอาจารย์รัตน์หน้าที่  ๗  ครับ

 

ขอบคุณครับคุณพนมกุเลนเยี่ยมตรงประเด็นเลยครับ  ส่วนผู้ที่หลงนิมิต หรือจิตปรุงแต่งก็อาการหนักพอกันกับอาการใกล้เคียงที่กล่าวมาข้างบน  ครับ
แต่ก็ยังพอมีโอกาสที่จะหายได้     โดยใช้สัมมาสติ ครับ
ข้อเสียได้ให้ผลกับคนข้างเคียงและศิษย์ทำให้สอนกันผิดฯ และหลงทาง
ทั้งครูและศิษย์ครับ

 

อย่างแรกๆ เลย เจ้าตัวต้องพิจารณาและยอมรับ ในสิ่งที่ตัวเองเป็นเสียก่อน แยกออกมาเป็นข้อๆ ว่ามีอาการอะไรบ้าง ตั้งแต่หนักสุดไปหาเบา

แล้วไปดูสาเหตุ ว่ามันเป็นอาการอย่างนี้เพราะอะไร เช่น เครียด กังวล วิตก หดหู่ ฯ กับเรื่องอะไร ส่วนใหญ่มันพอกพูนมากับอารมณ์ที่ก่อตัวขึ้นซ้ำๆ ซากๆ

ก็ตามสูตรพระพุทธเจ้านั่นแหละ ย้อนไปดูเหตุ แล้วแก้ที่ต้นของเหตุ ชะงัดกว่าแก้ที่ปลาย

 

คิดเหมือนหลายคนว่า สังคมในอินเตอร์เน็ตนี่ยังดี ยังไม่เน่าเกินไป ที่มีคนอย่างคุณคมสันต์ กล้าออกมาทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่คงไม่ถูกใจบางคน

ไม่รู้ว่า ถ้ามีใครที่สิ้นเนื้อประดาตัว แล้วมีปัญหาชีวิตขนาดหนัก ที่ไม่ใช่แค่ทะเลาะทุ่มเถียงกันในครอบครัว แต่อาจถึงขั้น คิดสั้นหนีหนี้ หนีปัญหา ไปโลกหน้า

อย่างนั้น จะทำให้คนบางคนที่ว่านั่น สำนึกได้ และเลิกพฤติกรรมรึเปล่า

 

อัพกระทู้ เพราะหล่นลงไปตรงกลางแระ ไม่กี่ชั่วโมงเอง

 

ครับผมตอนนี้ผีปิรามิดเริ่มออกอาการแล้วครับ  โดยเริ่มส่งสมุนผีปิรามิด
มาคอยติดตามที่กระทู้เรา และรีบไปแก้ใขลบข้อมูลออก แต่ก็อาจจะหารัปทาน
ฝืดเคืองหน่อย และก็ต้องหาสินค้าผีตัวใหม่มาหลอกชาวบ้านอีก
ยังไม่เข็ดหลาบ ไม่วายจะหารัปทานอยู่บนความหวาดกลัวของคน โดยใช้
วิธีเดิมสร้างข่าวกระแสให้คนกลัว แล้วก็อ้างศาสนาคำสอนครูบาอาจารย์
ให้คนหลงเชื่อ สูตรเดิมพร้อมกับมีหน้าม้าทำเป็นสั่งสินค้ามากมายครับ
นี่แหละ พวกเปรตพวกผีหากินอยู่ไม่ไกลวัดหรอกครับ  เราจึงเรียกว่าผีปิรามิด

 

สูตรสำเร็จจ้าวลัทธิ มันต้องล้างสมอง โดยเอาเรื่องปกติทั่วๆ ไป อย่างเช่น การเกิด แก่ เจ็บ ตาย รึความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง ที่มันมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ของมันเป็นปกติธรรมชาติ มาเสริมเติมแต่งให้เวอร์ๆ

http://palungjit.org/threads/มีคนเคยทักว่าพวกท่านบ้ากันบ้างหรือเปล่า.428182/page-2

วิธีล้างสมอง

 

มาใหม่อีกแล้ว เออ มันส์ดีเหมือนกันเนอะ ไม่คิดเลยว่าจะสนุกขนาดนี้ ^_^
อัพๆๆ

 

ชอบนิยามคำนี้จริงๆ....

"ผีปิระมิด".....55555555 (one-eye)

ผีปิระมิด....นายนี่แน่จริง...ยังไม่ตายก็ยังหลอกผู้คนได้...ต้มตุ๋นซะเปื่อย..เรย นิ

 

ผีปิรามิดติดตามมาน่าสั่งสอน
ฝากบทกลอนปิรามิดผิดป่าช้า
หลอกชาวบ้านคลานแน่ผีแก่มา
เก็บเงินตรากับความทุกข์มุขหลอกลวง

อ้างอาจารย์ว่ารู้ดี ผีมันบ้า 
ผิดป่าช้าแอบมาเพื่อขายของ
ภัยพิบัติของใครผีให้จอง
รีบซื้อของรีบสั่งจองส่งของไป

ทั้งสี่เหลี่ยมหกเหลี่ยมเตรียมใว้ติด
ปิรามิดช่วยได้รีบขายของ
มีขนาดใหญ่แปดเหลี่ยมใว้ใช้สำรอง
ปั้มเป็นกองเท่าภูเขาเช่าบนดอย

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อีกแล้ว
กลุ้มใจคะพี่น้องไปซื้อลูกแก้วผสมสีเหมือนแก้วในตู้ปลาเลย หมดเงินไปหลายพัน
เค้าบอกว่าเป็นแก้วพญานาค จะแก้ไงดีคะ เค้าว่าน้องโง่ เลยเถียงกันใหญ่ ใครโง่กันแน่คะ

ไม่ต้องไปกลุ้มใจครับ ยังมีแก้วสามประการที่คุณไม่ต้องไปเสียเงินซื้อ
แม้นแต่เพียงสตางค์เดียวครับ นั่นคือพระรัตนตรัย หรือแก้วสามประการ
ประกอบไปด้วย พระพุทธ พระธรรม เเละ พระสงฆ์ น้อมเข้ามาปฏิบัติ
ได้ไม่จำกัดกาลเวลา ครับ

 

อืม ยังไม่เลิกแฮะ สงสัยเสพติด การโพส ไหนบอกว่าจะปิด งั้นเราต้องอัพไปเรื่อยๆ

กรรมการสอนผิดจากพุทธพจน์ ก็จะทำให้ตนห่างไกลจากสัมมาทิฐินะ
วิปัสสนาญาณ 9 ท่านสอนให้พิจารณาทีละข้อให้หมอบ เริ่มจากอุทยัพพยานุปัสสนาญาณ มองเห็นความเกิดดับ ให้ชัดเจน เวลามันเป็นญาณก็จะไม่มีอาการกลับไปกลับมามีแต่อารมณ์คิด พิจารณา อาการรอบข้าง กลับมาที่ตัวเรา จับให้ได้ก่อนก้าวไปข้ออื่น จนครบ 9 ข้อ ถ้าทำสุขเอาเผากิน มันจะกลายเป็นวิปัสสนึก เซียนตำรา ไป

 

ตอนนี้มีผีอวตาลตัวใหม่ กำลังพยามขยันปล่อยข่าวภัยพิบัติทั่วโลกสร้างภาพให้คนหวาดระแวงว่าภัยกำลังจะเกิด ซึ่งจริงๆ ภัยมันก็เกิดของมันเป็นธรรมชาติปกติอยู่แล้ว ส่วนความเปลี่ยนแปลงของโลกมันก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยจากความโง่และเห็นแก่ตัวของมนุษย์ที่ไปทำลายธรรมชาติมากเกินไปนั่นเอง

 

เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะถ้ามั่นคงในพระรัตนตรัย จะไม่หลงงมงายไปกับเรื่องเหลวไหลไร้สาระ เลอะเทอะ เละเทะ ทั้งหลายแหล่

 

ขอนำธรรมะหลวงพ่อฤาษีฯ มาโพสที่กระทู้ที่เป็นประโยชน์นี้

"กรรมนักเรี่ยไรจอมปลอม"
(โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง)

ต่อไปสัตว์นรกที่ถูกนายนิรยาบาลทำโทษด้วยอาวุธเพลิงแล้วก็ตกไปในกองถ่านเพลิงจมอยู่ในกองถ่านเพลิงนั้นแค่เอว แล้วนายนิรยบาลก็เอากระเช้าเหล็กใหญ่ตักถ่านเพลิงโปรยลงไปบนหัวสัตว์นรกทั้งหลายเหล่านั้น

ท่านกล่าวถึงกรรมสัตว์พวกนี้ว่า เมื่อเป็นมนุษย์เที่ยวเรี่ยไรทรัพย์ชาวบ้านบอกว่าจะเอาไปสร้างปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุวัดวาอาราม สถานที่อยฺู่ที่สาธารณะ แต่เอาทรัพย์ทั้งหลายเหล่านั้นมาใช้ส่วนตัว และไม่แสดงรายรับรายจ่ายให้บรรดาประชาชนทราบ จึงได้รับกรรมเช่นนี้

นี่นักเรี่ยไรทั้งหลาย อ่านแล้วจำไว้ด้วยนะ เวลานี้เยอะลูกหลานที่รัก แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความถึงคนที่เขาบอกบุญในขอบเขตของเขานะ ก็เป็นอันว่าพวกเรี่ยไรต่าง ๆ ทายกทายิกา สมภารวัดต่าง ๆพระต่าง ๆ นี่ตกนรกเรื่องนี้เยอะ

ลูกหลานที่รักหลวงปู่บอกแล้ว เวลานั้นนะพระตกนรกกันไม่น้อยหรอก ถ้าบวชแล้วก็ไม่อยากเป็นพระ อยากเป็นเศรษฐีบ้าง อยากเป็นขุนนางบ้าง อยากอะไรก็ตามเถอะ ปล่อย

ที่มา::คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง ๓๗ หน้า ๘๐

http://palungjit.org/threads/กรรมนักเรี่ยไรจอมปลอม-โดยหลวงพ่อฤๅษี-วัดท่าซุง.435380/

เครดิตคุณ peerakul