ดวงเมือง ชะตาที่แก้ไม่ได้

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 18 มิถุนายน 2007.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    ดวงเมือง ชะตาที่แก้ไม่ได้

    ตวงศักดิ์ ชื่นสินธุ



    [​IMG]

    เกิดมีข่าว พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จะเดินทางไปหา นายวารินทร์ บัววิเลิศรัตน์ โหรชื่อดังทางเหนือ เจ้าสำนักสุขิโต จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีองค์เทพของปู่ฤๅษีเทวารัณจากเทือกเขาหิมาลัยเป็นองค์ประทับ

    เป้าหมายของการเดินทางไป...เพราะต้องการแก้ดวงเมือง

    จะเท็จจริงแค่ไหน อย่างไร ตัว พล.อ.สนธิได้ออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้ว

    ถึงกระนั้นก็ตาม ยังเป็นเรื่องที่คาใจว่า เรื่องของ "ดวงเมือง" นั้น เป็นอย่างไร และแก้กันได้ด้วยหรือ ยิ่งสภาวะเช่นนี้ หากแก้ดวงเมืองได้ ทุกสิ่งจะดีขึ้นจริง?

    ประเทศไทย คนไทย กับความเชื่อศรัทธาในเรื่องที่วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ยังคงอยู่คู่กันเสมอ ดังนั้น เมื่อมีความทุกข์ วิตกกังวล หรือเกิดภัย เคราะห์หามยามร้าย สิ่งไหนที่จะช่วยบรรเทา ช่วยประทังเหตุร้ายให้ลดน้อยลง คนไทยประเทศไทยพร้อมปฏิบัติเสมอ

    อย่างเช่นรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้จัดพิธีทำบุญประเทศครั้งใหญ่ที่ท้องสนามหลวง เพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข ร่มเย็น

    มาวันนี้ มีเรื่องการเปลี่ยนดวงเมือง จะทำให้บ้านเมืองดีขึ้นหรือไม่นั้น คนธรรมดาอย่างเราๆ คงตอบได้ยาก เพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของบรรดาโหราจารย์ หมอดู เจ้าพิธี ทั้งหลายที่จะทำหน้าที่อธิบาย

    คนแรก เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิตผู้สามารถ บอกว่า การเปลี่ยนดวงเมืองนั้นทำไม่ได้ เปลี่ยนไม่ได้ ทำได้เพียงแค่เสริมดวงเมือง หรือการแก้เคล็ดเท่านั้น และคนทำจะต้องเป็นเจ้าของประเทศ คือพระมหากษัตริย์เท่านั้น

    ประเทศไทยมีการแก้เคล็ดมาแล้ว 2 ครั้ง หนึ่ง คือในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช และในสมัยรัชกาลที่ 4

    โดยครั้งแรกนั้น ราชบัณฑิต เสฐียรพงษ์เล่าว่า ก่อนจะตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ สมัยพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อครั้งเกิดสงครามเก้าทัพ อะแซหวุ่นกี้ แม่ทัพพม่า ซึ่งยกทัพมารบกับสยามประเทศ พระเจ้าตากได้ให้เจ้าพระยาจักรี (รัชกาลที่ 1) เป็นแม่ทัพออกไปสู้รบ

    ยกแรก อะแซหวุ่นกี้ต้องถอยทัพ จึงขอดูตัวแม่ทัพของสยาม เพื่อสร้างสงครามจิตวิทยาบอกว่าเจ้าพระยาจักรีจะเป็นใหญ่เป็นโตในวันข้างหน้า คำพูดของอะแซหวุ่นกี้ฝังใจแม่ทัพสยามตลอด ความดังกล่าวรู้ถึงพระเจ้าตาก จึงแต่งตั้งให้พระยาจักรี เป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เพื่อแก้เคล็ด

    ราชบัณฑิตบอกเล่าเกร็ดประวัติศาสตร์ตอนนี้ว่า พระเจ้าตากสินให้แต่งตั้งพระยาจักรีเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกนั้น ให้เป็นแต่ในนามเพื่อเป็นการแก้เคล็ด แต่ภายหลังการแก้เคล็ดนั้นไม่สำเร็จจึงถูกเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกยึดอำนาจ--นี่เป็นตัวอย่างของการแก้เคล็ดไม่สำเร็จ

    การแก้เคล็ดครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นการแก้เคล็ดที่ประสบผลสำเร็จ กล่าวคือเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เมื่อครั้งทรงลาสิกขาออกมาเพื่อขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ทรงนำดวงของบุคคลต่างๆ มาตรวจดู ทรงเห็นดวงของสมเด็จพระอนุชาธิราช (พระปิ่นเกล้า) ตำแหน่งตอนนั้นเป็นเจ้าฟ้าจุฑามณี ดวงจะได้เป็นถึงเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน

    รัชกาลที่ 4 ทรงคิดว่าในเมื่อทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินอยู่แล้ว จะมีพระเจ้าแผ่นดินองค์ที่ 2 ได้อย่างไร? ในที่สุดต้องแก้เคล็ดด้วยการสถาปนาให้สมเด็จพระอนุชาธิราชขึ้นเป็น สมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระเจ้าแผ่นดินอีกพระองค์ แต่ไม่ได้มอบอำนาจอะไรให้-ให้เฉพาะตำแหน่งเป็นการแก้เคล็ดเท่านั้น <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    "เพราะฉะนั้นการแก้เคล็ด คนทำพิธีต้องมีระดับความรู้ถึงขนาด การแก้เคล็ดบางทีก็ได้ บางทีก็ไม่ได้ และคนทำต้องเป็นเจ้าของประเทศ" อาจารย์เสฐียรพงษ์กล่าว

    สำหรับ "ดวงเมือง" หรือดวงประเทศไทยนั้น ถือเอาวันเกิดของกรุงรัตนโกสินทร์เป็นดวงเมือง คือวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2325 โดยมีพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยมหาสมณะชีพราหมณ์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของชนชาติไทย ได้เข้าร่วมทำพิธีเป็นเวลา 4 วัน 4 คืน

    เป็นการทำพิธีสร้างเมืองสำหรับท้าวพระยามหากษัตริย์

    เมื่อครั้งนั้นเล่ากันว่า ระหว่างที่ทำพิธีจะฝังเสาหลักเมือง ขุดหลุมเอาผ้าปูก้นหลุมพร้อมด้วยสรรพเวทย์มหายันต์รองไว้เรียบร้อยแล้ว เห็นกันอยู่ทุกคนว่าไม่มีอะไรในหลุม แต่เมื่อเอาเสาหลักเมืองที่ทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์หย่อนลงไปนั้น ก็ปรากฏว่างูเล็ก 4 ตัว ลงไปนอนอยู่ จะทำอะไรก็ไม่ได้จึงต้องฝังงูทั้งเป็นลงไปด้วย

    สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ และสมณะมหาชีพราหมณ์ผู้รู้ในสมัยนั้น รู้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เป็นอาถรรพ์ที่บอกว่าจะต้องมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นกับบ้านเมืองแน่นอน

    หลังจากนั้นอีกไม่กี่วันเกิดฟ้าผ่าลงที่ยอดปราสาทพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยขึ้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงทำนายว่า บ้านเมืองในระยะนั้นจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นร้ายแรง แต่อีก 150 ปีข้างหน้ากรุงเทพฯ ตามดวงชะตาเมืองจะเกิดการเปลี่ยนแปลง

    รัชกาลที่ 1 ทรงวางดวงเมืองกรุงรัตนโกสินทร์ไว้แค่ พ.ศ.2475

    พระองค์ทรงรับสั่งว่า "จะถาวรลำดับกษัตริย์ไปอีก 150" ซึ่งต่อมาเมื่อถึงวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ก็มีการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย

    อันที่จริงหลังรัชกาลที่ 1 เป็นต้นมา "ดวงเมือง" กรุงรัตนโกสินทร์ ได้รับการ แก้เคล็ด อีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 4 เพราะพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงศึกษาด้านโหราศาสตร์นั้นทรงเห็นว่า ดวงเมืองที่มีอายุแค่ พ.ศ.2475 นั้น สั้นไปน้อยไป จึงได้ทำพิธีแก้เคล็ด โดยการสร้างเสาหลักเมืองใหม่ขึ้นแทนอันเก่า ทำให้ดวงเมืองของประเทศไทยไม่สิ้นสุดแค่ พ.ศ.2475

    ขณะที่ ภิญโญ พงษ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ เป็นอีกคนที่เล่าถึงเรื่องของดวงเมืองว่า เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2325 สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ทรงวางพระฤกษ์ตั้งเสาหลักเมืองกรุงรัตนโกสินทร์ ดวงนี้ได้วิวัฒนาการมาจนถึงขณะนี้ อายุเมืองมาสู่ปีที่ 226 ดวงเมืองมีอายุมาก

    ระยะที่ผ่านมาจะมีเหตุการณ์เข้ามาในดวงเมืองแต่ละช่วง ทั้งดีและร้าย ถ้าเป็นเรื่องร้ายก็จะมีการแก้เคล็ดดวงเมือง หรือการเสริมดวงเมือง การจะไปเปลี่ยนดวงเมือง ทำไม่ได้

    "ในคราวที่บ้านเมืองมีเคราะห์ จะมาเปลี่ยนดวงเมืองเลยไม่ได้ ถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องสร้างเมืองใหม่ ต้องเปลี่ยนอะไรใหม่หมด ทั้งกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ผู้ปกครอง"

    ดังนั้น สิ่งที่จะทำได้นั้นเป็นการเสริมชะตาเมือง หรือการแก้ไขชะตาเมืองให้ดีขึ้น ให้รอดพ้นจากภยันตรายเช่นที่รัชกาลที่ 4 ทรงทำมาแล้ว

    โหรภิญโญ ขยายความเรื่องการแก้ไขดวงเมืองให้ดีขึ้นในรัชกาลที่ 4 ว่าสมัยนั้นประเทศสยามถูกภัยคุกคามจากประเทศมหาอำนาจตะวันตก อังกฤษกับฝรั่งเศส บ้านเมืองก็อยู่ในห้วงหัวเลี้ยวหัวต่อ จะเสียเอกราชหรือไม่ เพราะประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า จีน อินเดีย และเวียดนาม ตกเป็นเมืองขึ้นไปหมดแล้ว

    รัชกาลที่ 4 ทรงมีพระบรมราชโองการให้สร้าง "หลักเมืองใหม่" โดยให้เหตุผลว่าหลักเมืองเก่าอยู่มานานแล้ว จากนั้นทรงวางพระฤกษ์ใหม่ เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2325 เวลารุ่งเช้า และเก้าบ่าย คือ 6 นาฬิกา 54 นาที ที่เส้นแวงที่ 195 องศาตะวันออก ที่บางกอก

    ดังนั้น ดวงเมืองกรุงรัตนโกสินทร์จึงเปลี่ยนจากวันที่ 6 เมษายน มาเป็นวันที่ 21 เมษายน ถือเป็น "ดวงเมืองใหม่" ตั้งแต่นั้นมา

    "เสาหลักเมืองเก่าก็อยู่ที่เดียวกับเสาหลักเมืองใหม่ ถ้าใครไปศาลหลักเมืองจะสังเกตเห็นว่าเสาหลักเมืองมีอยู่ 2 เสา เสาหลักที่ใหญ่กว่าคือหลักเมืองเก่า และอีกหลักคือที่สร้างขึ้นมาใหม่"

    โหรชื่อดังว่าต่อว่า เมื่อรัชกาลที่ 4 ทรงสร้างเสาหลักเมืองใหม่ขึ้นมา ถือเป็นการเสริมชะตาให้ดวงเมือง เป็นวิธีแก้ดวงเมืองอย่างหนึ่ง

    "ผู้ปกครองจะมาพูดเรื่องโหราศาสตร์มันลำบาก คือถ้ามองว่าตนเองนี้ไปใช้โหราศาสตร์มาแก้ปัญหาทางการเมือง คนมักจะมองแปลกๆ คือไม่เห็นเป็นรูปธรรม ค่อนข้างจะนามธรรมมากเลย เพราะฉะนั้นนักการเมืองชุดปัจจุบันก็ดี หรือในอดีตก็ดี ท่านมักจะไม่พูดเรื่องโหราศาสตร์ จะอ้างเรื่องวิทยาศาสตร์ เช่น อ้างว่าหลักเมืองชำรุดบ้าง มีอายุยืนยาวมากแล้วก็ควรจะสร้างหลักเมืองใหม่เสริมหลักเมืองเก่า เพื่อให้เป็นสง่าราศีแก่บ้านเมือง..

    ...แต่ตามความเป็นจริงแล้ว หลักเมืองเก่าก็ยังคงอยู่มาจนถึงขณะนี้ โดยนัยจริงๆ แล้ว คือการวางพระฤกษ์หนึ่งเพื่อที่จะเสริมหลักเมือง หลักเมืองเก่าเหมือนมีตัวช่วย คอยผดุงชาติบ้านเมืองให้รอดพ้นจากภยันตราย"

    โหรภิญโญกล่าวว่า เหตุการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันยังไม่ถึงเหตุการณ์เหมือนในรัชกาลที่ 4 และเป็นคนละยุค หากมองตรงนี้ความรุนแรงเป็นคนละยุค-ยุคนั้นเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ คนยังน้อย สังคมก็แตกต่างกัน

    "ยุคนี้ปัญหามันเกิดมากขึ้น อย่างภาคใต้ก็จะมีการแบ่งแยกดินแดน เศรษฐกิจ สังคม การเมืองตกต่ำ แปรเปลี่ยน เสื่อมทราม หรือจะใช้ศัพท์อะไรก็แล้วแต่ มันวุ่นวายสับสนจึงมีการเสนอให้ทำบุญประเทศ การทำบุญประเทศก็มีส่วนทำให้คนเกิดความสำนึก ว่าในห้วงเวลานี้ประเทศกำลังประสบกับปัญหาในหลายๆ ด้าน และทุกคนควรจะมาร่วมมือกันประสานสามัคคีกัน สร้างสมานฉันท์กัน"

    เพราะฉะนั้น การทำบุญประเทศ โหรภิญโญถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่มองเห็นทำให้คนมีความสามัคคี เป็นเอกภาพ และจิตก็ดี เจตนาที่แสดงออกมาคือมุ่งที่จะให้สังคมประเทศชาติร่มเย็นเป็นสุขอยู่รอดปลอดภัย แต่สิ่งที่มนุษย์ไม่เห็นเป็นสิ่งที่เกินความคาดหมาย

    "เราหวั่นด้วยซ้ำไปว่าการทำบุญประเทศครั้งที่แล้วกลัวจะช้าไป กลัวมันจะเกิดเรื่องเสียก่อน...แต่พอทำบุญประเทศจริงๆ มันก็แปลก ฤดูฝนเมื่อก่อนกว่าจะมาอีกตั้งสองเดือน พอหลังจากทำบุญประเทศ ไม่กี่วันฝนมา ลมนั้นลมนี้มา เพราะฉะนั้นการชุมนุมซึ่งคาดว่าจะรุนแรง ตอนช่วงฝนตกหนัก มีมรสุมต่างๆ เข้ามา ก็ทำให้ผ่านจุดตรงนี้ไปได้ ที่คาดว่าจะเกิดเหตุรุนแรงก็ผ่านไปได้"

    การทำให้ประเทศชาติสงบสุข ผ่านพ้นเรื่องร้ายๆ ทั้งหลาย นอกเหนือจากการแก้เคล็ด การเสริมดวงแล้ว ก็เป็นเรื่องของการทำบุญประเทศนี่แหละ

    "การทำบุญประเทศก็สามารถช่วยได้ ซึ่งผมคิดว่าควรจะทำทั้ง 4 ทิศ ทิศเหนือสุด, ทิศตะวันออก, ทิศตะวันตก และทิศใต้ ตามหลักโหราศาสตร์เขามี 9 ทิศ ทั้งภูมิกลาง คือเราควรจะทำจุดใหญ่ๆ แล้วภูมิกลางตรงเลข 9 นั้นอาจจะเป็นสนามหลวง วัดพระแก้ว หรือที่เมืองหลวง ทางตะวันตก อาจจะไปแถว จ.กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ต้องทำไปตามทิศ

    "มนุษย์เราพอเจอปัญหาก็อยากให้ผ่านเคราะห์กรรมตรงนั้นไป แต่การแก้ทางโหราศาสตร์มันแก้ที่ดวงดาวไม่ได้ คุณจะไปบังคับให้พระจันทร์โคจรเร็วๆ หน่อย มันเป็นไปไม่ได้ ก็ต้องเป็นวิถีของมัน เพราะฉะนั้นมนุษย์แก้ดวงดาวไม่ได้ ต้องมาแก้ที่มนุษย์เอง การแก้ที่มนุษย์เองเป็นการเปลี่ยนเงื่อนไข เปลี่ยนปัจจัยที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้น ตรงนี้แก้ได้...

    ...คุณลองให้ คมช.เปลี่ยน อันไหนที่ไม่ดีอันไหนที่ยังบกพร่องอยู่ ให้ คมช.ปรับแก้ที่ตัว คมช.เอง โดยใช้หลักการทางโหราศาสตร์ คณะรัฐมนตรีด้วย ถ้า คมช. รัฐบาล สามารถทำตรงนี้ได้ เหตุการณ์มันจะคลี่คลาย แต่ถ้ามองว่าเป็นการแก้ดวงก็ได้ เพราะที่จริงการแก้ดวงคือการเปลี่ยนเงื่อนไขนั่นเอง"

    ส่วนเรื่องใครจะเป็นคนทำหรือคนแก้ดวงเมือง โหรชื่อดังมีคำตอบ ว่ารัฐพิธีต้องมีอย่างเดียว ต้องเป็นพระมหากษัตริย์ หรือตัวแทนของรัฐ

    "แต่ว่าใครจะทำอย่างรัชกาลที่ 4 ทำ ใครจะไปบังอาจ คือหนึ่งต้องมีความรู้ขนาดไหน สองต้องมีบุญญาธิการพอสมควร กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปทำบุญประเทศที่วัดพระแก้วยังมีปัญหาเลย เพราะฉะนั้น หนึ่งคนที่ทำต้องมีความรู้ ต้องเป็นผู้ที่พร้อม พิธีการจึงจะขลัง ติดต่อกับเทพเทวดาที่รักษาเมืองได้ ลองทำพร้อมกัน 16 จังหวัดทั่วประเทศ แล้วความสำเร็จมันจะเกิด อย่ามุบมิบทำ"

    เสร็จการอธิบายแก้เคล็ดเสริมชะตาแล้ว โหรชื่อดังทำนายต่อถึงเหตุการณ์บ้านเมือง ว่าต่อไปข้างหน้านี้ยิ่งแรงขึ้น

    "ดาวอังคารขณะนี้จรอยู่ราศีมีน ยังอยู่ตรงที่ 26 องศา กับ 23 ลิปดา แล้วดาวพระเกตุ อยู่ที่ 25 องศา 28 ลิปดา จะเห็นว่าดาวอังคารกับดาวพระเกตุสวนกันตรงราหู อยู่ที่ 24 องศาพอดี ราหูนั้นคือราหูในดวงเมือง ราหูสีน้ำเงิน แต่อังคารกับพระเกตุเป็นอังคารจรเข้ามา และอีกไม่กี่วันดาวอังคารจะยกออก เพราะฉะนั้นเริ่มใช้ความรุนแรง...

    "เพราะฉะนั้น ถ้าถามเหตุการณ์ข้างหน้า ต่อไปจะรุนแรงขึ้น เพราะอังคารยกเข้าราศีเมษ ไปทับพระอาทิตย์ อังคารยกวันที่ 17 มิถุนายน ก็แสดงว่าวันที่ 17 มิถุนายน ต้องระวัง ตามปฏิทินดาราศาสตร์วันที่ 16-17 มิถุนายน ต้องระวัง..."

    นอกจากนี้ ในเดือนสิงหาคม กันยายน โหรภิญโญบอกว่าช่วงนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแน่นอน

    "เดือนสิงหาคมกับกันยายนมันเกิดคราสใหญ่ขึ้น 3 ครั้ง สิงหาคม กันยายน น่ากลัวกว่า 16-17 มิถุนายน คราสที่เกิดมีวันที่ 13 สิงหาคม มีสุริยุปราคาบางส่วน วันที่ 28 สิงหาคม เกิดจันทรุปราคาเต็มดวง และวันที่ 11 กันยายน ฉะนั้นการเบี่ยงเบนทางการเมืองครั้งสำคัญน่าจะเกิดขึ้นในช่วงสิงหาคม กันยายน และการเกิดคราสครั้งนี้ จุดสำคัญคือจะพาดผ่านดาวอาทิตย์ในดวงนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ท่านอยู่ราศีสิงห์ การเลือกตั้งอยู่ที่ดาวพฤหัสยกกลับมา ซึ่งดาวพฤหัสจะยกในปลายปี ยกจากมรณะเข้าไปสู่เรือนสุขขะ คือความดีความสงบ ก็น่าจะได้รัฐธรรมนูญใหม่ฉบับไหนก็แล้วแต่ และจะมีการเลือกตั้งต่อมา"

    สาธยายมาทั้งหมดก็เพื่อจะบอกว่า การแก้ดวงประเทศนั้นเป็นเรื่องเหนืออำนาจของคนธรรมดาที่จะทำ แต่ถ้าหากจำเป็นจะต้องแก้ ก็ควรแก้ไขที่ตัวเอง


    -------------------
    ที่มา: มติชน
    http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01pra01180650&day=2007/06/18&sectionid=0131
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,514
    ค่าพลัง:
    +27,181
    นู๋ตาหายป่วยแล้วเร้อ
     
  3. jeds22

    jeds22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +498
    อะแฮ่ม ๆ
     
  4. นพสร

    นพสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    548
    ค่าพลัง:
    +1,176
    ((( มาวิเคราะห์ ดวงเมืองกันนะคะ )))

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++


    The Art of Thai Astrology ::
    วันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2325 6:54 น. กรุงเทพ
    ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล จ.ศ.1144 ค.ศ.1782
    ดาว สถิตย์ราศี องศา ลิปดา ตรียางค์ นวางค์ ฤกษ์ นาที นักษัตร สถิตย์ฤกษ์
    ลั. ลัคนา 0. เมษ 23 11 3 : 5 7 : 6 2 45 ภรณี 2. มหัทโน
    1. อาทิตย์ 0. เมษ 10 42 2 : 1 4 : 2 1 49 อัศวินี 1. ทลิทโท
    2. จันทร์ 3. กรกฏ 16 17 2 : 3 5 : 3 8 59 ปุษย 8. ราชา
    3. อังคาร 1. พฤษภ 20 22 พ 3 : 7 7 : 2 4 47 โรหิณี 4. ภูมิปาโล
    4. พุธ 11. มีน 20 01 3 : 3 7 : 7 27 15 เรวดี 9. สมโณ
    5. พฤหัส 8. ธนู 10 35 2 : 3 4 : 2 19 48 มูล 1. ทลิทโท
    6. ศุกร์ 11. มีน 9 25 พ 1 : 5 นาค 3 : 4 26 28 อุตตรภัทท 8. ราชา
    7. เสาร์ 8. ธนู 8 24 1 : 5 นาค 3 : 4 19 38 มูล 1. ทลิทโท
    8. ราหู 11. มีน 24 39 3 : 3 8 : 7 27 36 เรวดี 9. สมโณ
    9. เกตุ 1. พฤษภ 3 47 1 : 6 2 : 7 3 32 กฤติกา 3. โจโร
    0. มฤตยู 2. เมถุน 5 42 1 : 4 2 : 3 5 57 มฤคศิร 5. เทศาตรี

    --------------------------------------------------------------------------------
    อาทิตย์(1) เป็นตนุเศษ
    ดาว 2 ได้ตำแหน่งเกษตรในราศีกรกฏ(3) ภพพันธุ(4)
    ดาว 5 ได้ตำแหน่งเกษตรในราศีธนู(8) ภพศุภะ(9)
    ดาว 3 ตกในตำแหน่งประในราศีพฤษภ(1) ภพกดุมพะ(2)
    ดาว 4 ตกในตำแหน่งประในราศีมีน(11) ภพวินาศน์(12)
    ดาว 1 ได้ตำแหน่งอุจจ์ในราศีเมษ(0) ภพตนุ(1)
    ดาว 6 ได้ตำแหน่งอุจจ์ในราศีมีน(11) ภพวินาศน์(12)
    ดาว 4 ตกในตำแหน่งนิจในราศีมีน(11) ภพวินาศน์(12)
    ดาว 3 ได้ตำแหน่งราชาโชคในราศีพฤษภ(1) ภพกดุมพะ(2)



    สนธิกาลเจ้าชะตา วันอาทิตย์
    ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล จ.ศ.1144
    วันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2325
    เวลา 6:54 น. ลัคนาสถิตย์ราศีเมษ
    ประกอบด้วย มหัทโน ฤกษ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2007
  5. นพสร

    นพสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    548
    ค่าพลัง:
    +1,176
    [​IMG]

    กำลังจะบอกว่า ดิฉันลองดูดวงเมืองมาได้ 2 วันแล้ว

    บอกได้เลยว่า ไมได้เลวร้ายอะไรขนาดน้านหรอกคะ

    เรื่องการ นองเลือด ไม่มีนะคะ ปลายปี เป็นจังหว่ะที่ดีด้วยซ้ำไป

    ก็ไม่ใช่ โหรใหญ่อะไรนะคะ ไม่ขอฟันธง แต่ดูแล้ว มีเสื่ยงๆ แค่บางเดือนเท่าน้านเองนะคะ
     
  6. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    โห......ทั้งห้อย ทั้ง โหน กระโจน พยากรณ์กันใหญ่ เข้าป่าเข้าพง

    ไม่ลองมาตั้ง "สติ" และสร้าง "สัมปชัญญะ" ให้กับตัวเองไม่ดีกว่าหรือ

    เอามาตริตรอง ดูจิต ดูใจ ดูอุปนิสัย ดูความคิด ดูการกระทำ ของตนเองดีกว่า

    อันคนเลวไปอยู่ ไปปกครองบ้านไหน เมืองไหน บ้านนั้นเมืองนั้นคงจะดีไปไม่ได้หรอกครับ ไม่ต้องไปแก้ดวงให้เสียเวลา

    อันคนดีไปอยู่ที่ไหน บ้านนั้น เมืองนั้นก็เจริญรุ่งเรืองได้โดยไม่ต้องไปทำอะไรกับดวงเมือง

    หันมาพิจารณาเหตุ-ปัจจัยในปัจจุบัน ก็พอจะบอกอนาคตของบ้านเมืองได้อยู่แล้ว ไม่ต้องไปพึ่งโหราศาสตร์แต่ประการใด
     
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    ต้องแก้ด้วย "สัจจะ" ของประชาชน !!!!!!!
     
  8. CharnK

    CharnK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,453
    ดวงไม่น่าจะเอาชนะกรรมได้
     
  9. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,514
    ค่าพลัง:
    +27,181
    ดวงคือสถิติของกรรมคับน้า
    ไม่ได้รบกันหรอก
    แป่วจิงเลย
     
  10. cheterk

    cheterk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    512
    ค่าพลัง:
    +1,568
    ดวงชีวิต
     
  11. fujiayu

    fujiayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,001
    การแก้ที่คนมันยาก ยิ่งมากคนก็ยิ่งเรื่องมาก สู้ไปแก้
    ที่ดวง.... ดีกว่า เช่นเป็นการเสริม หรือ สนับสนุน
    ก็แล้วแต่จะเรียก
    ถ้าแก้ที่คนได้ รับรองโหรานี่หมดยุดทันที
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** พึ่งโลกุตตระ สัจจะธรรม ****

    *** เริ่มยั่วยุ ****
    <O:p</O:p

    ศาสนา คือ สิ่งยึดเหนี่ยวของคนในชาติ สอนให้คนเป็นคนดี<O:p</O:p
    ต่างชาติมหาอำนาจต่างๆ ที่ต้องการดินแดน ต้องการผลประโยชน์ เขาจะพยายามทำลายศาสนา <O:p</O:p
    แต่เขาทำลายตรงๆ ไม่ได้ ต้องส่งเงินจ้างยั่วยุให้คนที่ศรัทธาศาสนาเกิดอารมณ์ขุ่นมัว คือ โกรธ โมโห แล้วจ้างด้านการเมือง จ้างม็อบปลุกปั่นอารมณ์ชาวบ้านให้ออกมาประท้วง ตะโกนด่ากัน<O:p</O:p
    เมื่อมีภาพไม่เหมาะสม ภาพความรุนแรงในประเทศ เขาจะออกประโคมข่าวทั่วโลก ว่าดูเป็นประเทศล่าหลัง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หากประชาชนลุกต่อสู้กันมาก เขาจะจ้างคนที่ทรยศชาติบ้านเมือง ว่าจ้างให้คนไม่ดีไปทำการก่อการไปทั่วบ้านทั่วเมือง <O:p</O:p
    เป้าหมายของต่างชาติมหาอำนาจ คือ จะพยายามล้มล้างสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงต้องสร้างให้เป็นสงครามกลางเมือง พยายามให้ทหารตำรวจออกมาถืออาวุธ แล้วคนที่เขาจ้างมาก็จะออกมาปราศรัยปลุกระดมให้ชาวบ้าน เดินขบวน <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ส่วนพวกคนที่รับจ้างทรยศชาติอีกฝ่ายจะเอาอาวุธอันตรายยิงใส่ชาวบ้านให้นองเลือด บ้านเมืองจะบั่นป่วนทันที ชาวบ้านจะหนีหัวซุกหัวซุนเข้าหาที่ปลอดภัย ผลักดันให้คนหนีไปรวมตัวพึ่งสถาบันกษัตริย์ จึงทำให้ง่ายต่อการลอบทำร้ายคนสำคัญต่างๆ ของชาติในช่วงสถานการณ์เลวร้าย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หากเขาทำสำเร็จ กลุ่มคนทรยศชาติที่เขาวางตัวไว้ ก็จะขึ้นมารับตำแหน่งต่างๆ ได้ง่าย ประเทศเขาจะคอยครอบงำ จ้างให้เปลี่ยนแปลงกฎหมาย เพื่อให้สมารถกอบโกยทรัพย์สินต่างๆในประเทศได้ง่าย จนสุดท้ายก็แทบไม่เหลืออะไร เหมือนโดนโจรปล้นบ้าน เหมือนกับหลายๆ ประเทศหลังสงครามสงบ แต่ถูกกดดันสร้างสถานการณ์ไม่เจริญ ย่ำแย่ ต้องพึ่งต่างชาติตลอด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ปัจจุบัน ทรัพยากรของไทยและเพื่อนบ้านมีมาก <O:p</O:p
    มหาอำนาจต่างๆ จึงพยายามเข้ามาครอบครอง เขาจะส่งเงินสนับสนุนเงินและอาวุธ ให้กับคนโลภมากในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างสถานการณ์ยึดดินแดน ทวงดินแดนของประเทศเรา จะสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินไปมาก จนบ้านเมืองอ่อ่นแอ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    สถานการณ์ของพม่า ไทย เขมร ลาว มาเลเซีย อินโดนีเซีย <O:p</O:p
    จึงค่อยๆ วุ่นวาย เพราะความโลภในเงินและอำนาจ ของคนในชาติไม่กี่คนที่ทรยศชาติบ้านเมืองตนเอง รับเงินเขามาทำลายชาติ ญาติพี่น้องชาติเดียวกัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ทั้งหมดนี้ เกิดจากคนไทยขาด "สัจจะ" เพียงสิ่งเดียว พูดแล้วไม่ทำจริง คือโกง เคยถวายสัตย์ปฏิญาณ แล้วทำในสิ่งตรงข้าม คือ ทรยศ <O:p</O:p
    นี่คือ กรรม ที่กำลังปรากฏกับประเทศเพื่อนบ้านและไทย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คนไทยทุกคนควรที่จะมี ... "สัจจะทำความดี วันละข้อ" <O:p</O:p
    เพื่อเป็นบารมีติดตัวไป เป็นบารมีของชาติต่อไป<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<O:p</O:p
     

แชร์หน้านี้

Loading...