ตรวจกรรมทะลุมิติ กับ"อ.เอญ่า " ตรวจกรรมทะลุมิติ พร้อมไขปัญหาชีวิต (ทางโทรศัพท์)

“อ.เอญ่า”


เรามารู้จัก อ.เอญ่า คนนี้กันดีกว่า ผมบอกได้เลยว่าเรื่องราวของเธอ น่าสนใจอย่างยิ่ง

หากมทองดูภายนอกแล้ว หลายคนอาจสรุปว่าเธอคนนี้จะเป็นคนถือตัว ไฮโซ หยิ่งๆ แต่หากใครได้รู้จักพูดคุยกับเธอ จะรู้ว่าไม่ใช่เลย
อ.เอญ่า เป็นน่ารัก สดใส จริงใจ และมีความเป็นครูบาอาจารย์ที่ช่วยชี้แนะทางสว่างของชีวิตให้กับคนมีทุกข์ได้แน่นอน
เพราะเธอถูกกำหนดให้มาทางนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะอยู่อักเส้นทางหนึ่งก็ตาม

อ.เอญ่า ในชีวิตทางโลกเป็นนางแบบ เป็นพิธีกร เป็นนักธุรกิจทางแฟชั่น แต่เธอมีญาณหยั่งรู้มาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ
และเธอก็สนใจธรรมะ และปฏิบัติธรรมมาตลอด

หญิงวัย 33 ปี ที่ยังครองความเป็นโสด ยังไม่มีครอบครัว นามว่า อ.เอญ่า คนนี้ ได้ใช้ญาณทิพย์ที่มี ช่วยคนในวงการบันเทิงมามากมาย
แต่ได้แต่ช่วยแบบวงแคบๆ

แต่เมื่อไม่นานนี้ เธอรู้ตัวเองว่า ถึงกำหนดวาระที่เธอต้องผันตัวเองมาสู่วงการญาณทิพย์อย่างเต็มตัวด้วยการใช้ญาณ
ที่เธอสั่งสมมาจากอดีดชาติเพื่อมาชี้แนะผู้คน ขาสองข้างทีเดินสองทาง กลับต้องมาย่ำบนทางสายเดียว

และเธอมักจะไปปฏิบัติธรรมตามวัดต่างๆเสมอ และหลายครั้งที่เธอตั้งใจไปปฏิบัติธรรม แต่เมื่อเห็นคนมีทุกข์มาที่วัด เธอก็เผลอไปบอกกรรมคนนั้น
จนได้เรื่อง คือ คนที่ดูนั้น ทึ่งในความแม่นยำ จนไปบอกผู้คนที่มาปฏิบัติธรรม จนแห่กันมาให้เธอดูให้ จนเธอถูกรุมเร้าหาความสงบไม่ได้

เช่น อ.เอญ่า ไปปฏิบัติธรรมที่วัด และเห็นป้าคนนึงกำลังตามหาคนใช้ที่มาด้วยกัน หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
อ.เอญ่าเห็นป้าคนนี้มาถามหาคนใช้ อ.รู้ด้วยญาณว่าคนใช้นี้ได้หนีจากป้าไปแล้ว แต่ป้าไม่เชื่อ เพราะคนใช้นี้ติดตามป้ามาตลอดไม่หนีไปง่ายๆ

อ.เอญ่า บอกรูปพรรณสัณฐานคนใช้คนนี้ คือ ตัวดำ รูปร่างเตี้ย หน้าคม ทำให้ป้าตกใจมากที่ทักมาได้ตรง
อ.บอกว่า คนใช้คนนี้ ถูกป้าคนนี้ดุด่าเป็นประจำและเก็บกดมาตลอด และคิดจะหนีไปนานแล้ว แต่ด้วยที่ยังสำนึกในบุญคุณ
จึงยอมทนอยู่เรื่อยมา พอมาวันนี้ เมื่อมาที่วัด คนใช้ได้พลัดหลงกับป้าคนนี้เพราในวัดคนเยอะมาก คนใช้คิดว่าไม่อยากตามหาป้า
และถือโอกาสตัดใจหนีจากป้าไป ป้าคนนี้ฟัง อ.แล้วถึงกลับสะเทือนใจมาก
และยอมรับว่าแกได้ดุด่าคนใช้เป็นประจำ ไม่นึกว่าเขาจะเจ็บปวดใจจนต้องหนีไป

แล้วยังมีเรื่องราวของ อ.เอญ่าอีกมากมาย ที่จะชี้ทางให้ทุกท่านได้

ตรวจกรรมสุดทึ่ง กับ "อ.เอญ่า" นางแบบญาณทิพย์ - ห้องญาณทิพย์ - หน้าแรก ญาณทิพย์ - Powered by Discuz!

 

เปลี่ยนช่องทางการติดต่ออ.เอญ่า ได้ที่ LINE ID: aeya_thailand1645
โทร.090-5515654 / 090-5515655

 

อ.เอญ่ากลับมาแล้วววว

 

สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้ อ.ญ่าเหนื่อย ทุกคนก็ทราบดี เหมือนเวลาเราบอกเหนื่อยๆ คนอื่นรู้ว่าเหนื่อย แต่จิงๆ เค้าเหล่านั้นไม่รู้หรอกว่าเราเหนื่อยแค่ไหน เพราะเค้าไม่ได้สัมผัสและไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เราเป็น
ทุกๆคนต่างก็มีปัญหาของตัวเอง มากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป
ซึ่งเราต่างก็พยายามจะหาทางแก้ปัญหานั้น...
แต่ละคนก็มีวิธีการระบายและแสดงออกแตกต่างกันไป
อาจจะ ดูหนังบ้าง ฟังเพลงบ้าง หรือเพิกเฉยกับปัญหาทุกสิ่งอย่าง ฯลฯ

บางคนเสาะแสวงหา คนที่จะมาช่วยชี้ชะตาหรือไขชะตาไขปัญหาชีวิตของตัวเอง
พอเค้าเหล่านั้นได้รู้..หากเค้านำไปปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้ดีขึ้นมันก็โอเค ถ้าจะพยายามทำกรรมดีให้มาก ละเว้นกรรมชั่วให้เยอะๆ
เค้าเหล่านั้นก็ไม่ต้องเสาะแสวงหาคนมีญาณหรือผู้รู้อีกต่อไป

ทุกวันนี้อ.ญ่าช่วยคนมาเยอะ และทุกครั้งอ.จะพร่ำสอนเสมอว่าอ.แก้กรรมไม่ได้
แต่อ.สามารถช่วยชี้แนะทำให้มันบรรเทาเบาบางลงได้
ดังนั้นการตรวจกรรมอย่าหวังว่าจะเป็นการแก้กรรม แต่เป็นการรู้ถึงอดีตที่ผิดพลาดที่เราจะไม่ทำมันอีก


สุดท้ายนี้ขอบคุณอ.เอญ่ามากๆ สำหรับการที่ทำให้เราได้เกิดเป็นคนใหม่ คนที่เข้าใจอะไรได้ลึกซึ้งขึ้น
คนที่สามารถสวดมนต์ได้นานๆ คนที่หันมาสนใจอ่านหนังสือธรรมะ สนใจศาสตร์ตัวเลข และพลังจักรวาล

เรากล้ายืนยันได้เลยว่านี่คือตัวจริง...ที่ทุกคนรอคอย

(เดิมเราไม่ชอบดูดวงเลย..เราไม่ชอบตอบคำถามหมอดูที่ชอบถาม และชอบทายตัดอนาคต.. เราเลิกดูดวงมา 8 ปี จนกระทั่งเบอร์มือถือเราที่มี เลข 77 ได้พาเรามาเจอกับบุคคลที่แสนพิเศษคนนี้ ^^)



...เราไม่ได้มาโปรโมทหรือมาเป็นหน้าม้าแต่อย่างใด เพียงแต่อยากให้ทุกคนได้รู้จักกับอ.เอญ่า อย่างที่เราได้รู้จัก จิงๆนะ...

 

จากข่าวครึกโครมตามหน้าหนังสือพิมพ์ ทำให้เกิดบทสนทนาระหว่างอ.เอญ่ากับลูกศิษย์ท่านนึงคับ ดังนั้นเพื่อเป็นวิทยาทาน กระผมจึงได้ขออนุญาตจากทั้งสองท่านเพื่อนำมาเผยแพร่ให้เพื่อนๆทุกคนได้รับรู้คับ เชิญอ่านและทำความเข้าใจไปด้วยกันนะค้าบ

 

ความหมายของพรหมวิหาร 4พรหมวิหาร แปลว่า ธรรมของพรหมหรือของท่านผู้เป็นใหญ่ พรหมวิหารเป็นหลักธรรมสำหรับทุกคน เป็นหลักธรรมประจำใจที่จะช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างประเสริฐและบริสุทธิ์ หลักธรรมนี้ได้แก่
1. เมตตา ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข
2. กรุณา ความปราถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
3. มุทิตา ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี
4. อุเบกขา การรู้จักวางเฉย

 

คำอธิบายพรหมวิหาร 4

1. เมตตา : ความปราถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข ความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ความสุขเกิดขึ้นได้ทั้งกายและใจ เช่น ความสุขเกิดการมีทรัพย์ ความสุขเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์เพื่อการบริโภค ความสุขเกิดจากการไม่เป็นหนี้ และความสุขเกิดจากการทำงานที่ปราศจากโทษ เป็นต้น

2. กรุณา : ความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ความทุกข์ คือ สิ่งที่เข้ามาเบียดเบียนให้เกิดความไม่สบายกายไม่สบายใจ และเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายประการด้วยกัน พระพุทธองค์ทรงสรุปไว้ว่าความทุกข์มี 2 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้
- ทุกข์โดยสภาวะ หรือเกิดจากเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของร่างกาย เช่น การเกิด การเจ็บไข้ ความแก่และความตายสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่เกิดมาในโลกจะต้องประสบกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งรวมเรียกว่า กายิกทุกข์
- ทุกข์จรหรือทุกข์ทางใจ อันเป็นความทุกข์ที่เกิดจากสาเหตุที่อยู่นอกตัวเรา เช่น เมื่อปรารถนาแล้วไม่สมหวังก็เป็นทุกข์ การประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ รวมเรียกว่า เจตสิกทุกข์

3. มุทิตา : ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี คำว่า "ดี" ในที่นี้ หมายถึง การมีความสุขหรือมีความเจริญก้าวหน้า ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดีจึงหมายถึง ความปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้น ไม่มีจิตใจริษยา ความริษยา คือ ความไม่สบายใจ ความโกรธ ความฟุ้งซ่านซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดีกว่าตน เช่น เห็นเพื่อนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วครูชมเชยก็เกิดความริษยาจึงแกล้งเอาเศษชอล์ก โคลน หรือหมึกไปป้ายตามเสื้อกางเกงของเพื่อนนักเรียนคนนั้นให้สกปรกเลอะเทอะ เราต้องหมั่นฝึกหัดตนให้เป็นคนที่มีมุทิตา เพราะจะสร้างไมตรีและผูกมิตรกับผู้อื่นได้ง่ายและลึกซึ้ง

4. อุเบกขา : การรู้จักวางเฉย หมายถึง การวางใจเป็นกลางเพราะพิจารณาเห็นว่า ใครทำดีย่อมได้ดี ใครทำชั่วย่อมได้ชั่ว ตามกฎแห่งกรรม คือ ใครทำสิ่งใดไว้สิ่งนั้นย่อมตอบสนองคืนบุคคลผู้กระทำ เมื่อเราเห็นใครได้รับผลกรรมในทางที่เป็นโทษเราก็ไม่ควรดีใจหรือคิดซ้ำเติมเขาในเรื่องที่เกิดขึ้น เราควรมีความปรารถนาดี คือพยายามช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นจากความทุกข์ในลักษณะที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม