เรื่องขัดแย้งของ อ. อาชวินและฝ่ายตรงข้าม และจุดยืนของนู๋

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ฟิล์มนรกภูมิ, 16 ตุลาคม 2007.

  1. ฟิล์มนรกภูมิ

    ฟิล์มนรกภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +669
    ขอขมากรรมทุกท่านที่ทำไป และขออโหสิกรรมแก่ทุกท่าน
    ทั้งฝ่ายของอาจารย์อาชวิน และฝ่ายตรงข้าม


    ชาตินี้ขอไม่พก "อาฆาตกรรมไปแล้ว"
    ขอตัดสิ้นหมด อโหสิกรรมทั้งหมดค่ะ
    เรื่องนี้ นู๋ขอถอนตัวไม่ยุ่งแล้ว ขอเชิญ
    ท่านตามอัธยาสัยค่ะ



    ขอโทษทุกท่านค่ะ ขอโทษ ขอให้ยกโทษแก่ทุกสิ่งที่นู๋พลั้งผิดไปด้วยค่ะ



    ขอขอบคุณล่วงหน้าที่ให้อภัยนู๋นะคะ
    น้องฟิล์มนรกภูมิ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2007
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** หันหน้ากลับเข้าไป ****

    เราทุกคน...เกิดเป็นคน
    เกิดเป็นมนุษย์...มีนิสัยสันดานติดตัวมาตั้งแต่เกิด

    เราทุกคน....หวังที่จะหลุดพ้นจากความทุกข์
    เราควรที่จะ...หันหน้ากลับเข้าไปมองค้นหานิสัยในตัวเอง
    พิจารณาตัวเอง...พิจารณานิสัยตัวเอง
    พิจารณาการกระทำของตัวเอง
    พยายาม หยุด ลด เลิก นิสัยไม่ดี...วันละอย่าง ในแต่ละวัน

    "สัจจะธรรม" ...จะนำพาให้เราหลุดพ้นได้จริง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  3. ศิวิไลซ์

    ศิวิไลซ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +737
    ใครรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ต้องออกมาโพสต์ตั้งกระทู้ใหม่เพื่อบอกความรู้สึกตัวเองทุกคนเลยเหรอ รู้สึกว่าเคยโพสต์ข้อความนี้ในกระทู้
    http://palungjit.org/showthread.php?t=93203&page=5
    แล้ว จะมาโพสต์ซ้ำอีกทำไม ไม่ใช่อะไรหรอกมันรกบอร์ดน่ะ

    คุยประเด็นเดียวกันก็ไปโพสต์ในกระทู้เดียวกันซิ นี่โพสต์แล้วเอามาโพสต์ซ้ำขึ้นกระทู้ใหม่ ถ้าทุกคนต่างเอาเรื่องนี้มาขึ้นกระทู้ใหม่ทุกคน ไม่รกห้องตายเหรอ คิดมั่งซิคิดๆๆ
     
  4. ฟิล์มนรกภูมิ

    ฟิล์มนรกภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +669
    นู่แค่อยากขอขมากรรมค่ะพี่ศิวิไลซ์
    กรรมใดที่นู๋ก่อกับพี่ นู๋ขอขมาในกระทู้นี้นะคะ



    จำเป็นต้องตั้งกระทู้ใหม่ เพราะจะไม่ไปโพสในกระทู้ที่เกี่ยวกับทั้งสองฝ่ายอีกแล้ว

    นู๋กราบขอโทษพี่ศิวิไลซ์ด้วยนะคะ ที่นู๋ทำผิดกับพี่ไป ขอโทษค่ะ
     
  5. ศิวิไลซ์

    ศิวิไลซ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +737
    อูยๆ พี่ไม่ได้จะอาฆาตอะไรแบบนั้น
    เพียงแค่สงสัย เพราะเห็นข้อความนี้โพสต์ในกระทู้นั้นแล้ว
    เลยสงสัยว่าจะโพสต์ข้อความที่ซ้ำกันขึ้นกระทู้ใหม่ทำไมน่ะครับ

    หากน้องตัดได้จริงพี่ก็ขอดีใจด้วยที่จะได้ไม่ต้องผูกเวรผูกกรรมกับใครในกระทู้แล้ว เคารพในความคิดเห็นของกันและกันนะครับ

    แต่พี่มันกิเลสเยอะ คงต้องวนเวียนในกระทู้นั้นอีกนานจนกว่าจะรู้ความจริงเช่นกัน เพราะความอยากรู้ของคนเรามันไม่สิ้นสุดจริงๆ

    ขอให้โชคดีนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2007
  6. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +9,766
    ผุฏฐัสสะโลกะธัมเมหิจิตตัยัสสะนะกัมปะติ<O:p</O:p
    อะโสกังวิระชังเขมังเอตัมมังคะละมุตตะมัง<O:p</O:p

    จิตของบุคคลที่ถูกโลกธรรมมากระทบแล้ว <O:p</O:p
    ไม่หวั่นไหว ไม่เศร้าโศก ไม่ขุ่นมัว เบิกบานอยู่
    นี้เป็นมงคลอันสูงสุด<O:p</O:p
     
  7. Chaiyaboon

    Chaiyaboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +1,803
    ผมไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกับอาชวิน ผมต้องการเพียงให้อาชวินพิสูจน์ตัว

    เองแต่อาชวินบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด

    เฮ้อออ
     
  8. ฟิล์มนรกภูมิ

    ฟิล์มนรกภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +669
    แนะนำอาจารย์ที่เป็น "ฆราวาส" อีกท่านนะคะ

    อาจารย์ สนอง วรอุไร

    ชื่อจริง: สนอง วรอุไร
    [​IMG]
    ประวัติการศึกษา:


    ดร.สนอง วรอุไร
    ภูมิลำเนาของท่านอยู่ที่ ตำบลคลองหลวงแพ่ง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา มีพี่น้องทั้งหมด 8 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 6 บิดามารดาของท่านมีอาชีพทำสวน ทำไร่ นอกจากนี้บิดายังเป็นกำนันของตำบบคลองหลวงแพงและเป็นมัคนายกของวัดในละแวกบ้านด้วย ในวัยเด็ก ท่านมีหน้าที่ใส่บาตรตอนเช้าทุกวัน และนำอาหารที่มารดาจัดเตรียมไปถวายพระในวันสำคัญและวันพระตามประสาชัวิตในชนบทยุคนั้น

    ท่านได้รับการศึกษาเบื้องต้นจากโรงเรียนสุวรรณศิลป์ใกล้บ้าน เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสงบลง ท่านและพี่ๆ น้องๆ ได้ย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ อยู่บ้านที่บิดามารดาซื้อไว้ให้พี่น้องทุกคนอยู่ร่วมกันย่านประตูน้ำ โดยบิดามารดามิได้ย้ายมาด้วย ท่านศึกษาในโรงเรียนวัฒนศิลป์วิทยาลัยจนจบชั้นมัยมศึกษาปีที่ 8 ชีวิตท่านต้องรับผิดชอบงานส่วนตัว เช่น ซักรีดผ้าเอง และแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบงานในบ้านร่วมกับพี่ๆ น้องๆ ท่านเป็นอยู่อย่างมัธยัสถ์ อดออม และมีระเบียบ เมื่อถึงช่วงปิดเทอมก็พากันกลับไปเยี่ยมบิดามารดาเพื่อช่วยงานด้านเกษตรกรรม เช่น เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู เป็นดังนี้ตลอดมา

    ดร.สนอง วรอุไร สนใจฝึกสมาธิครั้งแรกในขณะเรียนชั้นมัธยมศึกษา โดยสนทนากันระหว่างพี่ๆ น้องๆ แล้วนำมาฝึกหัดปฏิบัติเองเมื่อมีโอกาส จนถึงระดับอุดมศึกษา ท่านเลือกศึกษาในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จบปริญญาตรีสายาโรคพืช เมื่อ พ.ศ. 2505 แล้วไปทำงานเป็นนักวิชาการเกษตร เผยแพร่ความรู้ด้านการปลูกข้าว ปลูกเห็ด แก่ประชาชนในภาคอีสานอยู่ประมาณ 2 ปี ในระหว่างนี้ ท่านแต่งงานมีครอบครัวและได้โอนย้ายจากรมวิชาการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สังกัดคณะวิทยาศาสตร์ เป็นอาจารย์รุ่นบุกเบิกมหาวิทยาลัยและบุกเบิกบัณฑิตวิทยาลัยด้วย

    จากนั้นปี พ.ศ. 2514 ท่านก็ได้เรียนจบปริญญาโทเกษตรศาสตร์มาหาบัณฑิต จากมหาวิยาลบัยเกษตรศาสตร์ สาขาเชื้อรา ปีเดียวกันนั้นเอง ท่านได้รับทุนโคบัมโบไปศึกษาปริญญาเอก สาขาไวรัสวิทยา มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ นาน 4 ปี ในระหว่างการศึกษา ท่านมิได้เดินทางกลับมาเมืองไทยเลย เพราะเรียนหนักมากท่านใช้เวลาว่างพักทำจิตนิ่งทุกวัน ซึ่งมีผลให้ท่านจดจำได้เร็ว เรียนเข้าใจง่าย และจบ 4 ปีตามกำหนด



    ประวัติการทำงาน / ผลงาน:

    เมื่อกลับเมืองไทยในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2518 และมีเวลาว่างช่วงก่อนเปิดเทอมไปสอนนักศึกษา ท่านตัดสินใจอุปสม่บทเพื่อพิสูจน์สัจธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ วัดปรินายก แล้วมาฝึกวิปัสสนากรรมฐานกับพระเทพสิทธิมุนี (โชดก ปธ. 9) ที่คณะห้า วันมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ ท่าพระจันทร์ ในช่วระยะเวลา 30 วัน ที่ท่านปฏิบัติตามคำสอนของครูบาอาจารย์อย่างมอบกายถวายชีวิตเป็นพุทธบูชา ท่านได้รับประสบการณ์ทางจิตและความก้าวหน้าในญาณอภิญญาต่างๆ มากมาย โดยหลังจากปฏิบัติได้เพียง 10 วัน ท่านสามารถแยกกายกับจิตได้ และได้รับนิมนต์ไปแสดงธรรมเป็นครั้งแรกในชีวิต ณ ลานอโศก วัดหมาธาตุฯ นั่นเอง

    เมื่อลาสิกขาบทแล้ว วิถีชีวิตของท่านเปลี่ยนแปลงไปมากด้วยความคิด ด้วยคำพูด และการกระทำซึ่งถูกหล่อหลอมจากภาวนามยปัญญา ที่ได้รับจากการพัฒนาจิตวิญญาณในครั้งนั้น ท่านได้รับเชิญเป็นองค์บรรยายด้านหลักธรรม คุณธรรม จริยธรรม ตามหน่วยงานต่างๆ องค์กรต่างๆ มากมาย และหลังจากเกษียณอายุราชการมี่มหาวิทยาลัยเชยงใหม่ ท่านยังเป็นอาจารย์พิเศษถวายความรู้แกพระนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา ด้วย

    ปัจจุบันท่านเป็นครูบาอาจารญสั่งสอนธรรม โดยได้นำประสบการณ์ตรงของท่านเองมาเป็นแบบอย่าง สร้างจุดเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับชีวิตของคนจำนวนมาก มีกลุ่มคณะศิษย์ก่อตั้งเป็นชมรมกัลยาณธรรมช่วยกันเผยแพร่ผลงานของท่านโดยทำเป็นหนังสือหลายเล่ม เช่นทางสายนอก, ตามรอยพ่อ, การใช้ชีวิตที่คุ้มค่า, มาดสดใสด้วยใจเกินร้อย, อริยมรรค นอกจากนี้ยังมีตลับเทป ซีดี และ MP3 อีกเป็นจำนวนมาก

    ผลงานเรื่อง "ทางสายเอก" ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษโดยอาจารย์ทวีศักดิ์ คุรุจิตธรรม เพื่อให้ชาวต่างชาติได้มีโอกาสศึกษาถึงประสบการณ์การปฏิบัติธรรมการพัฒนาจิตวิญญาณของท่าน เพื่อเสริมสร้างความศรัทธาในวิชาวิปัสสนากรรมฐาน สุดยอดวิชาเอกของโลก


    ผลงานที่ผ่านมา:
    <TABLE style="PADDING-TOP: 15px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><!-- row --><!-- book --><TBODY><TR style="PADDING-BOTTOM: 10px"><TD vAlign=top width=90>[​IMG]
    </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 5px; PADDING-LEFT: 5px" vAlign=top width=160>ทางสายเอก
    [​IMG]
    [​IMG]

    </TD><TD vAlign=top width=90>[​IMG]
    </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 5px; PADDING-LEFT: 5px" vAlign=top width=160>ยิ่งกว่าสุข เมื่อจิตเป็นอิสระ
    [​IMG]
    [​IMG]

    </TD></TR><TR style="PADDING-BOTTOM: 10px"><TD vAlign=top width=90>[​IMG]
    </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 5px; PADDING-LEFT: 5px" vAlign=top width=160>ทำชีวิตให้ได้ดีและมีสุข
    [​IMG]
    [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2007
  9. ฟิล์มนรกภูมิ

    ฟิล์มนรกภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +669

    สำหรับ "โพธิสัตว์ภาคปราบ" โดยเฉพาะนะคะ

    โลกเป็นที่กลางๆ ไม่ใช่ของเทวดาชั้นไหนเฉพาะ ไม่ใช่เฉพาะของพระพุทธเจ้า
    หรือพระอรหันต์ อัน มาร หรือ เดรัจฉาน หรือ เปรต จะมาอาศัยในโลก็ย่อมได้
    ดังนั้น เราไม่สามารถเอากฏสวรรค์ชั้นใดๆ มาใช้เฉพาะกับโลกได้ เราจำต้อง
    ผสานทุกส่วน ประหนึ่งย่อจักรวาลลงมาเป็นโลกมนุษย์ เพื่อรองรับทุกดวงจิต
    จากทุกภพให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข


    เราไม่ควรลบหลู่อาจารย์อาชวิน
    และอาจารย์อาชวินก็ไม่ควร "สกัดดาวรุ่ง"
    ที่เขากำลังจะดังในเว็บหน้าวิทยาศาสตร์ทางจิต
    ไม่ว่าจะเป็น โนวา อนาลัย หรือ ริชชี่ หรือคนอื่นๆ


    เราควรอยู่กันได้ทั้งหมด


    ตลาดมันกว้าง "สาวก" มีมากมายหลายแบบ เราย่อมแบ่งส่วนตลาดกันได้
    ฉันใดก็ฉันนั้น เราไม่ควรก่อกรรม "สกัดดาวรุ่ง" และไม่ทำร้ายใคร เราต้อง
    อยู่กันในส่วนแบ่งการตลาดที่ถูกต้อง


    ยังจำได้ไหม คำพูดของ อ. สัญชัย ท่านบอกว่า


    "คนโง่กับคนฉลาด คนแบบไหนมากกว่ากัน?
    ใครมีปัญญา ก็ไปหาพระโคดม คนโง่ก็มาหา อ. สัญชัย"


    นู่ยังนับถืออาจารย์อยู่เหมือนเดิม เพราะอาจารย์เคยเมตตาสอนนู๋
    ตอนที่นู่ยัง "โง่" อยู่ และนู๋ก็เชื่อว่าอาจารย์ยังช่วยคนได้อีกเหมือน
    ช่วยนู๋ค่ะ ขอเพียงเราทำหน้าที่ใน "ขอบเขตในกรอบ" ก็พอนะคะ
     
  10. ฟิล์มนรกภูมิ

    ฟิล์มนรกภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +669
    ท่านสุภัททะ ได้ทูลถามพระพุทธเจ้าก่อนละสังขารว่า (ย่อๆ )
    "เจ้าลัทธิทั้งหก ต่างก็อ้างว่าเก่งกาจ พระพุทธองค์จะให้จัดการอย่างไร?"
    พระพุทธเจ้า สั่งเสียย่อๆ ว่า "หากลัทธิใด ศาสนาใด มีมรรคมีองค์ 8
    ท่านก็อนุญาติได้"


    แปลว่า "พระโพธิสัตว์ก็ดี, พระอรหันต์ก็ดี" ที่มากด้วยปัญญาและอภิญญา
    กว่าเจ้าลัทธิเหล่านั้น ไม่ควรไปใช้อภิญญาหรือปัญญา ล้มเขานะคะ ปล่อย
    ให้เขามีอาชีพ เป็น "สัมมาอาชีวะ" ตามหลัก "มรรค 8" ก็ปล่อยเขาไปนะคะ


    แต่เราต้องใช้ "ปัญญา" และ "ให้ปัญญา" แก่คนทั่วไปค่ะ
    สุดท้ายแล้วแล้วแต่มนุษย์แต่ละคนมีปัญญาก็เลือกเอาเองค่ะ
    เราเป็นพุทธะ จะบังคับให้คนอื่นมาเป็นแบบเราไม่ได้


    "คนโง่ไปหา อ. สัญชัย คนฉลาดไปหาพระโคดม" ดีไหมคะ?
     
  11. ฟิล์มนรกภูมิ

    ฟิล์มนรกภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +669
    ทำไม "สวรรค์ปรนิมมิตวสวัตตี" สูงกว่าที่ประทับของพระโพธิสัตว์?


    จักรวาลได้สร้างให้ "คนพิเศษ" ได้สูงส่งกว่าพระโพธิสัตว์ ได้อยู่
    สวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี เพราะอะไร? เพราะบุคคลเหล่านี้ก็มีความ
    สามารถพิเศษเหนือมนุษย์ จึงได้อยู่สูงกว่าใครๆ (สูงกว่าพระอินทร์ด้วย)


    ดังนั้น


    1. พระโพธิสัตว์ไม่ควรลบหลู่หรือทำร้ายคนที่มาจาก "ปรนิมมิตวสวัตตี"
    2. พระโพธิสัตว์ควรให้การ "ยกย่องต่อหน้า" บุคคลเหล่านั้น แต่หากลับหลัง
    พระโพธิสัตว์ก็ควรเป็นตัวของตัวเอง สอนแบบตัวเอง อย่าไปชื่นชมเขาค่ะ
    3. พระโพธิสัตว์ย่อมต้องใช้ "การเจรจา" จึงอยู่อย่างสงบสุขได้ กับชาว
    สวรรค์ชั้นปรนิมมิตตวสวัตตี เฉกเช่น พุทธประเพณีอันดีงามที่ทำต่อเนื่องกันมา
    4. อ. สัญชัย ไม่ได้บรรลุธรรม พระพุทธเจ้ายังทรงตรัสสั่งเสียท่าน "สุภัททะ"
    ไว้ว่า "ตราบใดลัทธิเหล่านั้นยังมีอยู่ใน มรรคมี องค์ 8 ท่านก็ให้ละเว้นเสีย"
    อย่าเอาปัญญาและอภิญญาของเราที่เหนือกว่าไปทำลายเขา ดุจดั่งจักรวาล
    อนุญาติให้มี นรก, สวรรค์ปรนิมมิตวสวัตตี อยู่ได้ จักรวาลไมได้มีแต่สุขาวดี
    ทุกท่านมาอยู่บนโลกจากหลากหลายภพแตกต่างกัน จะบังคับให้ทำแบบอรหันต์
    ถูกต้องตามคำสอนพระพุทธเจ้า ก็หาได้ไม่ พุทธะ ยังเป็น "แค่ส่วนหนึ่งของ
    สรรพสิ่ง" พุทธะ เป็น "ธรรมย่อย" ประกอบในธรรมใหญ่ อันธรรมใหญ่ก็ย่อม
    ต้องประกอบทั้ง ธรรมะ และ อธรรม เราจะทำลาย อธรรม ก็หาได้ไม่


    พระโพธิสัตว์จำต้อง "เพลามือ" และเข้าใจในจุดนี้ด้วย...
    <!-- / message -->
     
  12. zester999

    zester999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +412
    จาบจ้วงพุทธศาสนาอีกแล้วนะครับ
    ไหนว่าจะหยุดไงครับ

    คุณชัยบุนครับ อย่าสนใจกระทู้นี้เลย
    เป็นความพยายามเบนกระแส
    ไม่ให้กระทู้อื่นๆ โดนลบ
    มาขออโหสิกรรม แล้วตั้งกระทู้ใหม่
    เอาข้อความเดิมๆ มาโพสอีก

    พอเห็นภาพไหมครับ
     
  13. ฟิล์มนรกภูมิ

    ฟิล์มนรกภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +669

    นู๋อธิบายเพื่อให้พี่ที่เขามาอ่านเข้าใจค่ะ
    "สมานฉันท์" คือ วัตถุปรีสงค์ของนู๋นะคะ
    ไม่ต้องการทำร้ายใครเลย จึงไม่กล่าวร้ายใคร

    ได้แต่ขอร้องทั้งสองฝ่ายค่ะ
    การขออโหสิกรรมของนู๋
    เพื่อหนูจะไม่ทำร้ายใคร
    ขอให้เขาไม่ทำร้ายนู๋ด้วย
    และขอให้เขาทั้งสองไม่ทำร้ายกัน
    จึงได้อธิบายมากขึ้น


    "โปรดระวังมือที่สามยุยงให้แตกแยก"

    นะคะ (ระวังคนที่ชอบแอบเข้ามายุให้ตีกัน)
     
  14. ขออนุโมทนา

    ขออนุโมทนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2007
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +681
    ทำร้ายพระศาสนา โกห ก หาว่าพระโพธิสัตว์ต่ำกว่าเทวดา เว็บมาสเตอร์ช่วยลบกระทู้นี้ด้วยนะครับ เพราะว่าเบี่ยงเบนคำสอนของพระพุทธะเจ้า ขัดกับพระไตรปิฏก จะเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้มาชมเว็บผิดพลาดไปนะคับ ขอให้เว็บมาสเตอร์ช่วยด้วยนะคับ ขอบคุณล่วงหน้าคับ
     
  15. ฟิล์มนรกภูมิ

    ฟิล์มนรกภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +669
    สำหรับนู๋แล้ว มาร หรือ อธรรม ไม่มีจริง
    ทุกสิ่งเป็น "พุทธะ" ที่ทำหน้าที่ต่างกันเท่านั้น


    เราต้องเข้าใจในบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันเท่านั้นเองค่ะ
     
  16. ขออนุโมทนา

    ขออนุโมทนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2007
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +681
    จาบจ้วงพระศาสนาก็คงจะได้ลงนรกสมชื่อแหล่ะคับ ยินดีด้วยนะคับ
     
  17. ขออนุโมทนา

    ขออนุโมทนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2007
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +681
    คุณยังไม่รุเลยว่าพุทธะแปลว่าอะไร พุทธะแปลว่าผ้รู้หมายถึงพระพุทธะเจ้าคับ คุณไม่รุแล้วจะเชื่อได้ยังไง
     
  18. ฟิล์มนรกภูมิ

    ฟิล์มนรกภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +669

    ตามไตรปิฏกนะคะ

    พระโพธิสัตว์ประทับสวรรค์ชั้น "ดุสิต"
    ส่วนชั้นที่สูงกว่าดุสิตมี 2 ชั้น
    คือ นิมานรดี และ ปรนิมมิตวสวัตตี ค่ะ


    ดังนั้น พระโพธิสัตว์ ประทับต่ำกว่าเทวดาทั้งสองชั้นนั้นนะคะ
     
  19. ฟิล์มนรกภูมิ

    ฟิล์มนรกภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +669

    พุทธะ ในนัยยะหนึ่ง คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เป็นนัยยะเชิงอุดมคติ
    ในนัยยะเชิงประจักษ์ (ความจริง) คือ "จิต" นั่นเอง เพราะอะไรทราบไหมคะ?


    เพราะจิตเดิมแท้ประภัสสร ไม่มีกิเลสเป็นของมัน ไม่ใช่อัตตาของตน
    กิเลสมาจรดุจดั่งเมฆลอยมาหลอกหลอนไปมา กิเลสจึงไม่ใช่ของจิต


    จิตเดิมแท้ประภัสสรกันทุกคนค่ะ ทุกคนมีจิต จะเรียกว่า "พระจิต" ก็ได้
    มีความบริสุทธิ์อยู่ภายในทุกคน คือ พุทธะทุกคนทั้งหมดทั้งสิ้น ทุกคน
    คือ ผู้บริสุทธิ์ ผู้รู้ได้ตามกำลังญาณของตนค่ะ


    หากกำลังญาณสูงมาก ถึง สัพพัญญุญาณ ก็เรียกว่า "พระพุทธะเจ้า"
    อันหมายถึง เจ้าแห่งพุทธะทั้งหลาย ส่วนพระอรหันตสาวก ญาณไม่
    มีกำลังถึง "พระพุทธเจ้า" ดังนั้น จึงเป็นพุทธะธรรมดา ไม่ใช่พุทธเจ้า


    โอเคไหมคะ กับคำตอบของนู๋?
    (พี่เป็นชาวพุทธจริงไหมเนี่ย ถึงไม่รู้ว่าดุสิตต่ำกว่าสวรรค์อีก 2 ชั้น?)
     
  20. zester999

    zester999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +412
    ระวังหนูจะเป็นเสียเองนะครับ
    ปล่อยเขาคุยกันไปเถอะ
    อย่ามาดึงประเด็นเลย
    แล้วดึงด้วยข้อความแบบนี้ ระวังกรรมด้วยนะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...