คำแนะนำที่อาจช่วยให้ชีวิตดีขึ้น

ในห้อง 'บริการรับดูดวง' ตั้งกระทู้โดย ธรรมลิขิต, 17 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    มีคำกล่าวว่า " ยิ่งสูง ก็ ยิ่งหนาว " ที่หนาวก็เพราะเราจะโดดเดี่ยว และ ไม่มีใคร
    สิ่งที่คุณวาดฝันไว้ มันสูง และ มันก็ไม่มีจริง
    ที่สำคัญ เราเป็นคนธรรมดา คนที่ต้องเดินบนดิน
    วาสนานั้น มีทุกคน แต่คนที่จะมีวาสนากับชาวต่างชาติ ก็หมายถึง เคยมีบุญมีกรรมร่วมกันมา เคยบริจาค เคยเสียสละ กับ ชนชาตินั้น ๆ ในอดีตชาติ พอกลับมาเกิดอีกทีในชาตินี้ จึงได้รับผลตอบแทนจากคนในชาตินั้น ได้ไปอยู่ ได้ไปอาศัย ได้เงินเลี้ยงดู นี่คือ วาสนาเก่า บุญเก่า

    สำหรับคุณ ขอให้ระวัง เพราะดวงคุณ มีสิทธิที่จะโดนโกง โดนหลอกจากชาวต่างชาติ ที่มาตกเหยื่อ และคุณอาจกลายเป็นเหยื่อได้ หากคุณยังไม่ละทิ้งความคิดนี้

    สำหรับเรื่องงาน คงจะอีกนาน ที่ว่านาน เพราะ อย่างที่เกริ่นไปในช่วงแรก คุณวาดฝันไว้สูง และ ไม่ใช่ฝันที่เป็นจริงสำหรับคุณ มันห่างกับความเป็นตัวคุณมาก
    คุณฝันถึงคนที่อุปถัมภ์ ไม่เฉพาะคนต่างชาติ แต่ยังรวมถึงเจ้าของกิจการที่คุณไปทำงานด้วย ซึ่งใน 1 แสนคน จะมีสัก 1 คน ที่มีวาสนากันจริง ๆ ปิ๊งกันตั้งแต่วินาทีแรกที่พบ เหมือนในภาพยนตร์หลายเรือง เพราะสมัยนี้ จะให้เหมือนในเรื่อง ดอกรักสีทอง ก็คงจะยากแล้ว อีกอย่างหนึ่ง เวลาที่ผ่านไป ๆ และความรู้สึกที่ค่อนข้างจะห่อเหี่ยวของชีวิตคุณ ทำให้คุณเริ่มมีสีหน้าที่หม่นหมอง เครื่องสำอางค์ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ หากจิตใจของคุณยังคงวนอยู่กับความฝันเช่นนี้


    เป็นคนปกติเถิดครับ ทำงานที่ทำได้ เพื่อไม่ให้มีเวลาว่าง และ เวลาไม่กลืนกินวัยอันสดชื่นของคุณไปจนหมด หาไป เดินเข้าไปหา แม้จะนานอีกสักหน่อย
    ประมาณ มิถุนายน ปีนี้ จะมีโอกาสดี ๆ เข้ามา ไม่ถูกใจ แต่ถูกพอดีกับที่คุณจะทำได้

    โชคดีนะครับ
    ;k06
     
  2. snowqueen

    snowqueen Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +49
    ขอบคุณค่ะอาจารย์ถ้างั้นหนูลงชื่อไว้ที่นี่เลยค่ะ1ที่ค่ะ แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายต้องโอนไปให้ก่อนไหมค่ะหรือจ่ายที่หน้างานเลย ขอรายละเอียดด้วยค่ะแจ้งทางนี้หรือทางpm แล้วแต่อาจารย์จะสะดวกค่ะ ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ
     
  3. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ผมจะนำชื่อไปลงไว้ใน พลังจิต เว็บ พระพุทธศาสนา ธรรมะ พระไตรปิฎก ลึกลับ อภิญญา วิทยาศาสตร์ทางจิต Buddhism Buddhist นะครับ แล้วจะส่งรายละเอียดให้ หรือ คุณจะเข้าไปในเว็บนี้ ก้ได้นะครับ สมัครสมาชิกตามขั้นตอนของเว็บ

    อนุโมทนาบุญล่วงหน้านะครับ
     
  4. poonaa

    poonaa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +51
    ขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ จากคำถามที่ถามอาจสืบเนื่องจาก มีหลายคำทำนายจากหลายที่บอกไว้ และบังเอิญได้มาคุยกับชาวต่างชาติด้วย ก็ดีค่ะที่ยังมีคำเตือนสติให้อยู่ในโลกของความเป็นจริง

    แล้วช่วงนี้ก่อนมิถุนายน จะพอมีงานทำชั่วคราว พอได้เงินบ้างไม๊คะ วันนี้ก็สมัครงานเพิ่มค่ะ
    พอมีโอกาสได้สักที่ไม๊คะ ช่วงเมษา พฤษภา

    ดวงนี้จะต้องเป็นลูกจ้าง หรือมีดวงค้าขายทำเองได้หรือไม่คะ

    ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
     
  5. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380

    ชีวิตคนเรา เป็นของไม่เที่ยง เกิดมาแล้ว ก็เริ่มเสื่อมไป ๆ นับ 1 ตั้งแต่วินาทีแรกที่คลอดออกมา อยู่ในโลกนี้ ไป ๆ มา ๆ ไม่นานก็เริ่มเคลื่อนตัวช้าลง ๆ สุดท้ายก็ต้องลมตัวลงนอน จะด้วยโรคภัย หรือ สังขารที่เสื่อม ก็ตาม
    ทุกคนก็ต้องเดินทางไปในแนวทางนี้ทั้งนั้น

    เร็ว หรือ ช้า ไม่สำคัญ สำคัญที่ จากวันนี้ ถึง วันสุดท้าย เราทำอะไรบ้าง ที่พัฒนาจิต พัฒนาตน ให้เข้าสู่ทางที่ถูกต้อง ของ โอกาสที่ได้รับจากผลกรรมดีส่งมาให้ได้เกิดเป็นมนุษย์ เป็นจิตที่อยู่ในร่างกายที่สมบุรณ์ที่สุด ที่จะสามารถพัฒนาไปได้ถึงขึ้นนิพพาน
    อันองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว ว่า มนุษย์นั้นเป็นผู้ประเสริฐ และเป็นสิ่งเดียว ที่สามารถบรรลุธรรมได้ สามารถสร้างบุญกุศลได้ อย่าปล่อยให้เวลาต้องเสียไปกับเรื่องไร้สาระเลย

    อาการที่คุณเล่ามา นั้น รู้สึกได้ถึงความกลัวและกลัว กลัวที่จะมีใครหรืออะไรมาเรียกกลับไป เพราะคุณมีสัญญาเก่า ที่เคยตั้งจิตตั้งใจไว้ก่อนตายครั้งสุดท้ายวา จะขอทำต่อ และ ทำต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ ส่วนที่ว่าจะทำอะไรนั้น สัญญานั้นของคุณค้างตรงเรื่องที่คุณกำลังฝึก แต่ฝึกไม่สำเร็จ และ กายสังขารก็มามีอันต้องแตกดับไปเสียก่อน ในเวลาที่อายุยังไม่่ถึง 40 ปี

    คุณจึงเกิดมาพร้อมกับความทรงจำที่ลึก ๆ ว่า มีบางอย่างที่ต้องทำ ๆ ๆ และ อาการของจิตก็เป็นสภาวะที่ต่อเนื่องจากชาติที่แล้ว โดยคุณไม่ได้ฝึกอะไรมากนัก แต่มันมีฐาน เพียงแต่ ขาดการรับรู้ในชาติปัจจุบัน ภพเก่ากับภพใหม่ยังไม่ต่อกัน เกิดอุปาทานของจิตที่รู้สึกผิดหวัง กลััวว่าจะไม่ได้ทำ เลยพาลนึกถึงความตายที่เข้ามาใกล้ จิตเลยเตลิดออกไป สัมผัสกับสิงต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว


    ทางแก้ไขที่คุณพอจะทำได้เองนะครับ ทุกชีวิตต้องตาย เราก็ต้องตาย กายนี้ เริ่มเน่าเปื่อย ไปเรื่อย ๆ นึกไป ก็ สร้างรูปร่างของเรา พร้อมกับอาการต่าง ๆ ที่จะนึกได้ ให้จิตมอง และให้จิตยอมรับ ซ้ำ ไป ซ้ำ มา แล้วพอเริ่มสงบ ก็ขอให้คุณ สรุป ให้จิตคุณว่า สุดท้ายก็แค่นี้เอง แล้วให้จิตยิ้มรับนะครับ

    ช่วงนี้ทำไปแบบนี้ก่อน ผ่านไป 1 สัปดาห์ หลังจากคุณสวดมนตร์และทำอย่างทีว่าในเวลาก่อนนอน ( ควรอยู่ในชุดขาว ) กลับมาเล่าสู่กันฟังใหม่นะครับ
     
  6. poonaa

    poonaa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +51
    เพิ่มอีกนิดนะคะ ไม่ทราบว่าตอนนี้ตัวเองมีสิ่งลี้ลับอะไรอยู่ด้วยหรือไม่คะ มีจริง,จิตปรุงแต่งเอง,ไม่มี

    ....ตัวเองกับชีวิตทางธรรมจะไปด้วยกันได้หรือไม่ ที่เป็นอยู่เป็นอย่างไรบ้าง จริตที่เข้ากันได้กับตัวเองคือแบบไหน

    ขอบคุณค่ะ
     
  7. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ค้าขายได้ครับ แต่ต้องเป็นการค้าขายอาหารนะครับ และจะเริ่มดีขึ้นเมื่อถึงเดิอนมิถุนายนเป็นต้นไป ระหว่างนี้ ก็หาช่องทางอะไรต่างๆ ที่จะทำให้คุณไม่ฟุ้งซ่าน อะไรที่ผ่านเข้ามาหากคิดว่าพอทำได้ ก็ขอให้ทำ

    ชีวิตคนเรามันจะขยับ ก็ เมื่อเราเริมต้นขยับ นะครับ ไม่ใช่ การรออยู่นิ่ง ๆ
     
  8. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    หลายคนที่เดินทางมาถึงช่วงหนึ่งของชีวิต แล้ว มองหาทางไปไม่ได้ ทุกข์สุด ๆ ทุกข์จนบรรยายไม่ออก จะพูดกับใคร ก็รู้สึกว่า เขาไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรกั้บเรา เก็บทุกข์นั้นไว้ เศร้า ซึม ลงไปเรื่อย ๆ
    วันหนึ่ง แรงส่งของทุกข์ก้เริ่มอ่อนแรง จังหวะนี้แหละครับ
    หากคุณยังมีสติ คุณจะพบสภาวะหนึ่ง คือ การหันหน้าเข้าพึ่งธรรมะ เป็นที่พึ่งสุดท้าย

    นี่คือ การเห็นทุกข์ แล้ว เห็นธรรม

    ชีวิตมันไม่มีอะไรมากมายอย่างที่เราคิดว่าจะต้องมีต้องเป็นมากนักหรอก ต่อให้มีทรัพย์สินมากมายมหาศาล ใช้ไม่หมด แต่สุดท้าย ก็ต้องจากโลกนี้ไปตัวเปล่า ๆ เหมือนตอนมา

    ถ้าตอนนี้ มีพรวิเศษ 3 ข้อ ให้คุณ โดยขอให้คุณเรียงลำดับจาก มากที่สุด ไปน้อยที่สุด และให้คุณขอ คุณจะขออะไรครับ แต่มีข้อแม้ว่า สิ่งนั้นต้องมีความเป็นไปได้ด้วยนะครับ ไม่ใช่นิยายในฝัน
     
  9. poonaa

    poonaa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +51
    อาจารย์คะ เข้าเวบนี้มาแม้ไม่นาน แต่อาจาย์เป็นคนแรกค่ะ ที่ตอบให้แบบไม่ต้องรอเป็นอาทิตย์ หรือเป็นเดือน ซึ้งใจค่ะ

    .....จริงๆแล้วตัวเองเห็นแม่สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิแต่เด็ก ก็ทำเฉพาะสวดมนต์
    ที่ต้องทำเหมือนล้างหน้าแปรงฟัน ไม่ทันก็ไปสวดบนรถเมล์ ถึงแม้ใจไม่ค่อยจะมีให้ก็ตาม มาเข้าพรรษาปี 53 ก็เริ่มหัดนั่งสมาธิเองจนถึงทุกวันนี้ และมากินมังสวิรัติตอนมีนาคม 2554 จนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่ทำยังไม่ได้มาจากใจบริสุทธิ์ ก็เก็บเศษเสี้ยวบุญที่เกิดและที่เป็นบุญไว้ในธนาคารบุญ เช่นนั่งสมาธิ 1 ชั่วโมงอาจจะมีแค่เสี้ยววินาทีที่เป็นบุญอ่ะค่ะ นอกนั้นอกุศลจิตครอบงำ ประมาณว่าทำไปด่าไป เพราะชีวิตที่เจอมันทุกข์จริงๆ

    สืบเนื่องจากไปทำงานที่ไหน ก็ไม่ทน อยู่ไม่นาน เข้ากับใครก็ไม่ได้ มีปัญหาตลอดทั้งชีวิต ค่อนคนแล้วตอนนี้ แต่ตัวเองต้องกินต้องใช้ แล้วเงินจะมาจากไหน นั่นก็เป็นเหตุผลที่อยากมีคนอุปถัมภ์โดยไม่เค้าอาจจะพิการทางเพศ ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน ประมาณเนี้ย ทำให้เราสามารถ ไปทางธรรมได้บ้าง ชอบเห็นภาพตัวเองใส่ชุดขาวนั่งสมาธิอยู่บ้านไม้เก่าๆ และมีเพื่อนชายต่างชาติอุปถัมภ์(เค้าพิการทางเพศ) ไปๆมาๆ ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอด จนตัวเองอายุ 45 ปี ถึงจะเข้าทางธรรมเต็มตัว

    ความจริงช่วงนั่งสมาธิจะมีอาการแปลกๆเกิดขึ้น ณ ตอนนี้ ก็ได้อาจารย์เตือนสติ และต้องอยู่กับปัจจุบัน เอาว่าพอหาเลี้ยงตัวเองได้ก่อน

    อาจารย์ว่า ขายพิซซ่า ถาดเล็กๆ กับ น้ำแข็งใส หรือน้ำปั่นดีไหมคะ ทำอาหารคงไม่ถนัด เพราะกินมังสวิรัติอยู่

    พรที่ขอสามข้อ
    ..... มีอาชีพไม่ว่าจะเป็นลูกจ้าง หรือทำเอง ที่เลี้ยงตัวเองได้ ไม่อดอยาก ทำได้นานๆ เป็นสีทนได้ซะที แก่ตัวแล้วก็ไม่ต้องลำบากคนอื่นหรือไปอยู่วัด
    ...... สามารถนั่งสมาธิรวมจิต รวมใจนิ่ง จิดสงบ ไม่ปรุงแต่ง ไม่ฟุ้งซ่าน ทำได้ซะทีเถอะ
    ข้อสามนึกไม่ออก

    คนส่วนใหญ่หันหน้าเข้าธรรมด้วยใจเต็มร้อย จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทางโลกแล้ว ปูทาง เตรียมเสบียงไว้พร้อมสำหรับ หนทางธรรมที่จะเดิน

    แต่ตัวเองจะต้องกิน ต้องใช้ ยังต้องเขียม แล้วจะให้เอาใจที่ไหนไปทางธรรมได้เต็มร้อยคะ ปีที่แล้วไปบวชเนกขัมที่วัดอัมพวัน สิงห์บุรี 7 วัน ก็ต้องจ่ายค่ารถ ค่าเดินทาง นี่แหละค่ะคือปัญหาถ้าไม่มีเงินจะไปได้ไง

    ขอบพระคุณค่ะ
     
  10. stranger9

    stranger9 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +2
    อาจารย์กำลังจะหมายความว่าชีวิตในบั้นปลายของผมจะลำบากยากเข็ญใช่ไหมครับ ผมควรทำอย่างไรตอนนี้ครับ

    แล้วตอนนี้ที่หางานจะมีโอกาสได้ประมาณเมื่อไหร่ครับอาจารย์ ถ้างานที่เด่นผมควรไปทำด้านไหนคับ ที่บ้านเริ่มกดดันแล้วคับอาจารย์ ฮ่าๆ (หรือว่าไปเรียนต่อก่อนดีครับ)
     
  11. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380

    คุณอาจจะติดยึดรูปแบบของการปฏิบัติธรรม จน สรุปให้กับตัวเองว่า ถ้าจะปฏิบัติธรรมได้ ต้อง 1 2 3
    ความจริง การปฏิบัติธรรม นั้น คือ การทำให้ชีวิตปกติ มีธรรมะควบคู่กับการใช้ชีวิต หากทำได้มากกว่านั้น ซ่ึ่งก็ด้วยปัจจัย ที่เรียกว่า ทาน ทานด้วยวัตถุ ถ้าเรามีวัตถุเหลือพอ หรือ เหลือจากการที่เราแบ่งไว้ แล้วเราไม่เดือดร้อน เพื่อให้ทานนี้ ไปบำรุงพระพุทธศาสนา

    เงินเพียง 5 บาท / เช้าแต่ละวัน สามารถต่ออายุของพระพุทธศาสนาได้ และ ได้บุญมากกว่า คนที่ทำด้วยเงิน 100 บาท แต่บนบานศาลกล่าว ขอ ขอ ขอ

    คุณคิดว่า คนทำบุญ 5 บาท เขาจะขออะไรล่ะ คงไม่ขอหรอก เพราะ ขอเพียงเขาได้ทำบุญในวันนั้น ด้วยส่วนที่เขามีแล้วแบ่งบางส่วนออกไปทำบุญ
    นี่แหละ คือตัวบุญที่แท้จริง เพราะ บุญคือการให้ การสละออก สละในสิ่งที่มี

    คุณอยู่กับแวดวงธรรมะมานาน แต่ดูเหมือน ธรรมะจะไม่เข้าถึงหัวใจคุณนะครับ

    ทุกอย่างที่คุณทำ สามารถวกกลับมาเป็นความสุขให้ชีวิตคุณได้

    ชีวิตคนเรานั้น มี 1 ปาก มี 1 ท้อง ดังนั้น 1 อิ่มในแต่ละวัน ก็เพียงพอ อิ่มด้วยอาหารที่มีคุณค่า ไม่เกี่ยวกับราคา คุณค่า ก็คือ คุณค่าทางอาหาร หากไม่ได้ครบ วันต่อไป ก็หากินให้ครบ นี่คือ การกินด้วยปัญญา ไม่ใช่กินด้วยความอยาก
    อันไหนเป็นอาหารขยะ อาหารปรุงแต่ง ก็ไม่ต้องไปเสียเงินเพื่อซื้อมันมา แล้วให้คนอื่นเห้นว่า เราก็มีกินนะ หลอกกันไป หลอกกันมา สุดท้าย มีใครที่ได้อะไร ก็ได้อาหารเหมือนกัน แล้วร่างกายก็นำส่วนที่ใช้ได้ไปใช้ หากเกิน ก็จะเปลี่ยนเป็นไขมัน หรือ ขับออกมาจากร่างกาย
    ชีวิตแต่ละวัน ก็เพียงแค่นีั้ น่ี่คือชีวิตที่ธรรมชาติสร้างร่างกายนี้ มา เพื่อต้องการสิ่งที่จำเป็น

    ปิซซ่า ที่คุณพูดถึง ผมไม่แน่ใจว่ามีส่วนผสมของเน้้ื้อสัตว์หรือไม่ หรือว่าดัดแปลง แต่คิดว่า คุณเคยทานอาหารมังสวิรัติ คุณคงจะแยกแยะออกว่า อะไรที่เป็นผลผลิตจากเนื้อสัตว์

    คนทำอาหารขาย ไม่ต้องซื้ออาหารกิน นี่คือ ความจริง

    ทุกวันนี้ คนหันมาหาอาหารสุขภาพกันมาก เพราะเกิดปัญญา รู้ความจริงของชีวิตว่า ต้องการอะไร แค่ไหน
    ยิ่งคนทำอาหาร ก็ทานอาหารสุขภาพด้วย
    มันเป็นบุญซ้อนบุญ และ บุญก็จะเลี้ยงตัวบุญให้บุญนั้นคงอยู่้ เพื่ออุ้มชูโลกใบนี้ด้วยบุญ
    ลองทบทวนใหม่นะครับ อาชีพอาหาร อาชีพบริสุทธิ์ อาหารบริสุทธิ์ คนกิน ได้กินของบริสุทธิ์ ทั้งวัสดุ และ ทั้งจิตวิญญาณ
    คนทำ และ ทำด้วยใจ จะไม่ได้บุญหรือ และ ไม่เรียกสิ่งนี้ว่าการปฏิบัติธรรมหรือ
    การปฏิบัติธรรม มันทำง่ายกว่า การไม่ปฏิบัติธรรมอีก เพราะใจเราไม่ต้องฝืน เราทำในสิ่งที่ดี เราทำด้วยความสุข คนที่ได้รับจากเราเขาก็สุข แล้วบุญจะไปไหน
    ตอ่ให้คุณใส่ชุ่ดขาวตลอดชีวิต ก็ยังไม่มีใครอนุโมทนาบุญให้คุณ เท่ากับคุณทำอาหารที่บริสุทธิ์ให้เขาทาน เพราะเขาทุกข์ ทุกข์ ๆ ที่ไม่สามารถหาอาหารบริสุทธิ์ทานได้ แต่คุณเสียสละตัวเอง แบกความทุกข์ของพวกเขาไว้

    ลองปฏิบัติธรรมด้วยชีวิตจริง ๆ ดูนะครับ ขายอาหารมังสวิรัติ ในชีวิตที่เหลือ และ ถ้าจะให้ดี คนที่คุณเรียกว่า เพื่อนชายคนนั้น เขาก็กำลังเสวยกรรมอยู่ ในภภพปัจจุบัน หากคุณทำ แล้วเขาเห็น แล้วเขาอนุโมทนาบุญกับคุณ เขาหันมาทานอาหารที่ทำให้เขาไม่ต้องสร้างกรรมต่อ คุณกับเขาก็จะหมดหนี้สิน หนี้กรรม กัน ในภพนี้ ช่าตินี้ และตลอดไป ได้เดินไปสู่พระนิพพานด้วยกัน

    คุณสะพานบุญ

    สาธุ
     
  12. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ทุกอย่างมันอยู่ที่กำลังใจของคุณ หากคุณคิดว่า ต้องตกงาน เดินไปสมัครงานก็นึกในใจว่า ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้แน่ ๆ คุณก็จะ ได้ตามที่พูด

    ลองเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ พูดว่า ต้องได้ ให้มันรู้ไปสิ ว่า เราก็ทำได้เหมือนกัน

    แล้วทบทวนดู ดูตัวเองในกระจก ทดลองตอบคำถามของกรรมการสัมภาษณ์ ปรับบุคลิก อย่าให้เวอร์ แววตาเชื่อมั่น คำพูด มีจังหวะ และ มีปฏิภาณไหวพริบ ซ้อมให้มาก และ หัดสงบสติอารมณ์ นั่งสมาธิบ้าง

    ชีวิตมันจะได้เริ่มต้นเสียที นะครับ
     
  13. stranger9

    stranger9 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +2
    ครับ ขอบคุณครับอาจารย์
     
  14. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    รบกวนคุณ snowqueen ช่วยไปสมัครสมาชิกที่เว็บ พลังจิต เว็บ พระพุทธศาสนา ธรรมะ พระไตรปิฎก ลึกลับ อภิญญา วิทยาศาสตร์ทางจิต Buddhism Buddhist และ เข้าไปในห้อง ทริปกรรมฐาน เพื่อยืนยันตัวตนอีกครั้งนะครับ เนื่องจากผู้ดูแลการเดินทาง จะต้องแจ้งเรื่องที่พัก เรื่องรถที่จะเดินทาง อย่างไรก็มีข้อมูลคร่าว ๆ ดังนี้

    มีการพัก 2 แบบ คือ นอนโรงแรม ห้องละ 1200 บาท แต่หากอยู่ร่วมกับสตรอีกคนหนึ่งได้ ก็จะช่วยลดรายจ่ายลงไปครึ่งหนึ่ง
    นอนเต็นท์ ถ้าเช่าเต็นท์ของค่ายทหาร ก็คิด 300 บาท
    หรือจะนำเต็นท์ไปนอนเองก็ได้
    กลางคืนมีเวรยามจากทหารในค่ายสวนสนดูแล

    การเดินทาง หากเดินทางไปโดยรถส่วนตัว ก็เลียวเข้าสวนสน แล้วรออยู่ที่ร้านอาหารของโรงแรม ( เข้าไปโรงแรมอยู่ซ้าย ร้านอาหารอยู่ขวา)
    หากเดินทางโดยรถตู้ ไป-กลับ ค่าใช้จ่้าย 500 บาท จุดขึ้นรถ ประมาณโลตัส พระรามสอง (ยังไม่แน่นอน ต้องติดตามข้อมูลก่อน)

    ทุกข้อมูลหากตัดสินใจแน่นอน มีบัญชีของผู้ดูแลแจ้งอยู่ในกระทู้ ทริปกรรมฐานในเว็บนิพพานโรด ซึ่งต้องโอนก่อนเดินทาง เพื่อความสะดวกในยอดผู้ไปและการจองห้องของโรงแรม


    ยินดีนะครับ หวังว่าคงได้ร่วมบุญกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2013
  15. ลึกสุดใจ

    ลึกสุดใจ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +6

    จากคำแนะนำของอาจารย์ เพิ่งได้อ่านเมื่อเช้า
    ก่อนอื่นต้องขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงค่ะ เหตุผลที่ดิฉันสมัครเข้ามาในเวปไซต์ก็เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้
    แต่ทว่าตั้งแต่ตั้งคำถามทิ้งไว้เมื่อวานกลับบ้านไป อาการไม่ดีอย่างมากค่ะ เมื่อเช้านั่งรถมาทำงานจนกระทั่งถึงตอนนี้เหมือนน้ำตาจะไหล ไม่มีแรงอยากทำอะไร ล่องลอยไร้ความรู้สึก ดิฉันทำงานอยู่แทบคุมสติไม่อยู่ ไม่มีสมาธิเลยค่ะ วูบวาบตัวทั้งอยากเต้นและร้องไห้ในคราวเดียวกัน แบบนี้เป็นอาการทางจิตหรือไม่ค่ะ ดิฉันจะบ้ารึเปล่า

    ขอเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการที่ดิฉันเป็นมาตั้งแต่จำความได้ เนื่องจากมีเหตุการณ์กิดขึ้นมากมายขอเล่าโดยสรุปนะคะ
    1.มักจะฝันถึงสถานที่ที่มีคนแต่งกายชุดโบราณ บ้านแบบไทยๆที่จัดงานรื่นเริง แต่ในบางครั้งก็เป็นภาพร้างคนนอนล้มตายเกลื่อนกลาด
    2.บางครั้งเห็นคนที่คนอื่นไม่เห็น ที่บ่อยคือเห็นพระมายืนหน้าบ้าน ได้ยินเสียงคนเรียก
    3.เวลาไปร่วมพิธีกรรมต่างๆ เช่น งานไหว้ครู ไหว้เจ้า อะไรทำนองนี้ มักจะร้องไห้รู้ตัวแต่ควบคุมไม่ได้ น้ำตาไหลออกมาเองโดยไม่ทราบสาเหตุ ปีที่ผ่านมานี้เป็นหลายครั้งค่ะอยู่บ้านเฉยๆก็เป็นทั้งร้องไห้หัวเราะ มือไม้ไปเองอย่างควบคุมไม่ได้ แต่มีสติรับรู้ทุกอย่าง แต่ที่แปลกคือคนรอบข้างบอกว่าเสียงเปลี่ยนไป เคยไปอาบน้ำมนต์ที่วัด ก็หัวเราะคิกคัก ล่าสุดคือไปร่วมพิธีไหว้ครูช่วงพระสวดอยู่นั้น รู้สึกหนักและชาไปทั้งตัว เป็นอยู่นานและหายไปเอง

    ขณะเรียนอยู่ชั้น ม.5 ช่าวงปิดเทอม นอนทั้งวันทั้งคืน ตื่นมากินข้าวแล้วร่างกายก็ต้องการนอนต่อ หลับแล้วฝันว่ามีคนพาไปที่ต่างๆ วัหนึ่งขณะนอนอยู่ก็ร้องแม่ว่าทนไม่ไหว อยากไปวัด อยากไปหาพระ พ่อแม่จึงพาไปวัดทันที หลวงพ่อ(ขณะนี้ท่านมรณะภาพแล้ว)ท่านบอกให้แม่เตรียมของไปในวันรุ่งขึ้น ตอนนั้นไม่ทราบเหมือนกันว่าจะทำอะไรแต่พอไปแล้วท่านบอกว่ายังไม่ต้องทำในเวลานี้ ให้แม่ไปจุดธุป 16 ดอก กลางแจ้ง จากนั้นก็หายเป็นปรกติค่ะ

    จากที่เล่ามาอยากรบกวนถามอาจารย์ว่าเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกันหรือไม่คะ แล้วมีสาเหตุมาจากคำสัญญาที่จะทำสิ่งหนึ่งในชาติก่อนดังที่อาจารย์บอกหรือเปล่า ที่สำคัญคือขณะที่นั่งพิมพ์อยู่นี้รู้สึกว่าต้องทำเดี๋ยวนี้ค่ะ รอไม่ได้อีกแล้ว พยายามตั้งสติสู้กับอารมณ์นี้แต่เหมือนจะต้านไม่ไหว ดิฉันไม่เข้าใจตัวเองจะช่วยเหลือคนอื่นได้อย่างไร จะช่วยอะไร อาจารย์เข้าใจในสิ่งที่ดิฉันรู้สึกใช่มั้ยคะ

    หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคำตอบของอาจารย์จะช่วยปลดสิ่งที่บดบังดวงตาให้มองเห็น
    ขอบพระคุณอาจาย์นะคะ
    ด้วยความเคารพค่ะ
     
  16. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380

    ครับ จะสรุปให้อีกครั้งก็แล้วกัน

    สภาวะของคุณเป็นการระลึกชาติ แต่เป็นการระลึกที่มีกรรมแทรกเข้ามาด้วย ปกติ คนที่ระลึกชาติโดยทั่วไป จะไม่มีสภาวะกรรม เพียงแค่การระลึก เป็นแค่ความทรงจำที่ชัดเจน ทุกรายละเอียด ทุกคนที่เคยรู้จั้ก ทุกสถานที่ที่เคยไป แต่ทุกสิ่งนั้น เป็นอดีต และ ไม่มีอะไรแทรกอยู่ จบไปในอดีตแล้ว จึงเหมือนกับการนำภาพมาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งส่วนมาก ร้อยละ 90 คนพวกนี้ จะเป็นคนประพฤติดี ปฏิบัติธรรมโดยนิสัยสันดานแต่อดีต และ ก็ทำต่อในปัจจุบัน

    ส่วนของคุณ ภพในอดีตซ้อนขึ้นมา และ เจ้ากรรมนายเวรก็ซ้อนขึ้นมา
    2 ชาติ มาซ้อนในเวลาเดียวกัน

    ชาติแรก คุณเกิดในสมัยอยุธยาตอนปลายก่อนที่กรุงจะแตก เป็นแม่ทัพกองชื่อสิงหนาท ได้รับคำสั่งให้ไปสำรวจค่ายของทหารพม่าที่ลอบเข้ามาอยู่ในหมู่้บ้านแห่งหนึ่งในบริเวณอำเภอสวรรคโลก(พื้นที่ในสมัยนั้น )
    เมื่อคุณไปถึง สิ่งที่พบก็คือ ชาวบ้านที่อยู่กัน ทำไร่ทำนา ไม่มีอะไรบ่งบอกว่า จะมีพม่า คุณเฝ้าสังเกตอยู่ 2 วัน คิดในใจว่า คงต้องกลับไปมือเปล่า แล้วรายงานต่อ เจ้าพระยาที่เป็นอำมาตย์ในขณะนั้น ว่า ไม่มี
    แต่ใจก็คิดถึงผลงาน เพราะแม่ทัพคนอื่น ออกทัพ ออกกองทีไร ก็จะมีผลงาน เป็นสิงของ เป็นชิ้นส่วนของข้าศึก กลับไป เพื่อยืนยันความสามารถ
    จิตที่เป็นอกุศลมีกำลังมาก กว่าจิตที่จะใฝ่ดี
    คุณจึง บอกแก่ ทหารที่ติดตามไป จำนวน 1 กองว่า ขณะนี้ หน่วยแทรกซึมของพม่า ได้ปลอมตัวเป็นชาวบ้าน และ กำลังเตรียมจะขยายไปยังหมู่บ้านอื่น หมู่บ้านนี้ทั้งหมู่บ้านเป็นพม่าทั้งหมด ดังนั้น เราจะปล่อยให้พวกมันรุกคืบไปมากกว่านี้ไม่ได้ ดังนั้น ให้ทุกคนในคืนนี้ ฆ่าให้หมด ไม่ให้มีเหลือ ไม่ว่า เด็ก คนแก่ ผู้หญิง ผู้ชาย ฆ่าให้หมด
    และคืนนั้น โสกนาถกรรมก็ได้เกิดขึ้น หมู่บ้านหนองสาแหรก(ชื่อในขณะนั้น)

    ส่วนที่เป็นกรรมดีที่คุณได้เคยปฏิบัติมา สมัยหนึ่งในยุคที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว คุณได้มีโอกาสเกิดเป็นหญิงในเมืองกุสินารา มีพระสงฆ์เดินบิณฑบาตรในตอนเช้า คุณเห็นแล้วเกิดจิตศรัทธา เลื่อมใส นึกอยากบวช จึงรีบเดินลงไปจากบ้าน และวิ่งตามพระรูปนั้น
    ท่านหยุดยืน และไม่ได้เหลียวหลังมา คุณจึงนั่งลง และ ก้มลงกราบ กล่าวในขณะที่ท่านห่ันหลังว่า ข้าแด่ท่านผู้เจริญ ข้าศรัทธา และ ประสงค์จะออกบวช เพื่อกระทำการพลีกรรม กระทำการให้ข้าพเจ้าบริสุทธิ์ ขอท่านได้โปรดนำข้าไปบวชด้วยเถิด
    ภิกษุนั้น ไม่ตอบ แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
    พักใหญ่ นางเห็นว่า คงจะไม่ได้แล้ว จึงได้กล่าวกับพระองค์นั้นว่า
    ข้าขอตั้งสัจจะ หากข้าได้เกิดมาอีกแล้วไซร้ ขอให้ข้าได้พบพระพุทธศาสนาทุกคร้ง และ ได้มีโอกาสบวช ได้มีโอกาสปฏิบัติธรรม ด้วยเถิด

    ด้วยจิตที่ตั้งสัจวาจาในครั้งนั้น พระรูปนั้น คือ พระอัสสชิ ที่อยู่ในวัยชรา

    กุศลนั้น ก่อเป็นลิขิตชีวิต และ เป็นตัวดึงให้ทุกครั้งที่เกิดมาเป็นคน เป็นชายบ้าง หญิงบ้าง ล้วนแต่อยากจะทำความดี ที่สุด คือ อยากบวช


    สรุป

    คุณควรจะออกบวชด้วยชุดขาว และ โกนศีรษะ ประมาณ 1 เดือน เพื่อสร้างกุศล และ เพื่อ อุทิศกุุศลให้กับชีวิตที่ต้องตายไปในอดีต
    นี่คือสิ่งสูงสุดที่อยากให้ทำ
    ส่วนสิ่งรอง ที่พอทำได้ คือ
    สวมชุดขาวตลอด 1 ปี พยายามให้มีขาวเป็นหลัก
    สวดมนตร์ ทำสมาธิ และ นอนในชุดขาว
    ร่วมสร้างองค์พระประธานที่ใดก็ได้ แต่ถ้าให้ดีที่สุด ไปทำที่อำเภอสวรรคโลก
    ทานอาหารมังสวิรัติ ตลอด 1 ปี
     
  17. nuae

    nuae สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +5
    รบกวนด้วยค่ะ มีเรื่องที่อยากจะถามดังนี้ค่ะ
    1. หนูจะมีเงินเรียนจนสำเร็จไหม และจะเรียนสำเร็จตามความประสงค์หรือไม่
    2. หนูจะช่วยแม่ได้หรือไม่ และจะไปได้ตลอดลอดฝั่งหรือไม่
    3. ชีวิตหนูจะดีขึ้นเมื่อไหร่ ปัญหาติดขัดเรื่องเงินจะคลี่คลายเมื่อไหล่
    4. อีก 2 ปี ลูกจบ ป.6 หนูจะได้ย้ายไปอยู่บ้านที่ซื้อไว้หรือไม่
    5. ตอนนี้พ่อหนูได้รับผลบุญกรรมอย่างไรบ้าง หนูจะช่วยพ่อได้อย่างไร พ่อไปเกิดหรือยัง
    6. สามีหนูยังซื่อสัตย์กับหนูอยู่หรือเปล่า และหนูจะได้ใช้ชีวิตด้วยกันตลอดไปหรือไม่
    หนูรบกวนอาจารย์ช่วยกรุณาตอบด้วยค่ะ และขออนุโมทนาบุญกุศลที่อาจารย์ช่วยชี้ทางที่ถูกที่ควรแก่หนูในครั้งนี้ด้วย
     
  18. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    1 ถามว่าจบไหม จบแน่ครับ แต่กว่าจะจบนี่น่ะซิ คนหาเงิน ยิ่งกว่าตัวเป็นเกลียวเสียอีก แถมหัวยังต้องเป็นน็อตด้วย เพื่อให้คุณได้เรียนจนจบ

    2. ลำพังตัวคุณยังเอาตัวไม่รอด และ แทนที่คุณจะเป็นฝ่ายช่วยแม่ แต่แม่จะต้องวน ต้องพยายาม แบกสังขารมาพยุงชีวิตคุณอีก มันก็คงจะเป็นข้อคิด ข้อเตือนใจของคุณสำหรับสิ่งที่ผ่าน ๆ มา เลยต้องมาเป็นแบบนี้ วันนี้ และหลายคนต้องลำบากแบบนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต

    3. ภาระเรื่องการเงิน มันไปโยงเกี่ยวกับคู่ชีวิตของคุณนะครับ ไม่ใช่คุณคนเดียว มันเป็นเรื่องของคนสองคน ดังนัั้น ถ้าคนหนึ่งจบ แล้ว อีกคนหนึ่งยังไม่จบ มันก็ต้องไม่จบทั้งคู่

    4. อีก 2 ปี จะเป็นเวลาของการทำงาน เป็นเวลาของโอกาสเกี่ยวกับงาน เรื่องการย้ายไปบ้าน นั้น คงต้องรอไปก่อน จับงานที่ได้มา และมุ่งทำให้สำเร็จ

    5. กราบระลึกถึงท่าน และ อย่าขอให้ท่านช่วยอะไร คุณ ทำตัวของคุณ อย่าให้ท่านต้องเป็นห่วงมากกว่านี้ และนอนตายตาหลับให้ได้ นี่คือสิ่งที่ท่านอยากเห็นในชีวิตของคุณ

    6. หัวใจคน ห้ามไม่ได้ หยุดไม่ได้ และ ถ้าคุณมีความไม่ไว้วางใจในคนที่เป็นพ่อของลูกคุณแม้แต่เล็กแต่น้อย นี่คือ ช่องว่างที่คุณสร้างขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว สร้างขึ้นมาแล้ว ผู้ที่จะได้รับกรรมก็คือเด็กน้อย
    เมื่อเริ่มที่จะยอมรับคน ๆ หนึ่งให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแล้ว คุณก็ต้องยอมรับในความเป็นตัวเขาด้วย รัก ก็ต้อง รักไปตลอด ถ้าเบื่อ เขาก็จะเบื่อตาม ถ้าไม่เบื่อ ผู้ชายเขาก็จะไม่เบื่อ และ ทำหน้าที่ของแต่ละคน ดังนั้น อย่ามีคำถามแบบนี้ กับ คนในครอบครัว
    หน้าที่ของคุณคื่อ แม่บ้าน ทำให้สมบูรณ์ อยาบกพร่อง
    เขาก็จะได้ทำหน้าที่ของเขาไป
    เสาเรือนบ้านคุณจะไม่พัง ถ้าคนในบ้าน ไม่ถอนเสาเรือนหนี
     
  19. kook5921

    kook5921 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +13
    pmไปแล้วค่ะ
     
  20. ธรรมลิขิต

    ธรรมลิขิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,329
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ตอบให้แล้วนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...