ชมรมศินารา กำลังเปิดรับสมัคร เปิดบารมีวิชชาสาม รุ่นที่ 7 วันที่ 14 ก.ค. 56 คลิกหน้าสุดท้ย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ภราดรภาพ, 29 มีนาคม 2013.

  1. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    องค์ผม องค์พุทธะ อยากทราบว่า มีมั้ยครับ องค์แบบนี้

    เคยเจอมั้ยครับ
     
  2. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    มีครับ ผมเจอเยอะครับ
    สายพระผมถนัด
    ปู่โต ปู่ทวด ปู่มั่น ปู่เทพโลกอุดร
    พระปัจเจก
    พระสารีบุตร พระโมคลา พระสีวลี
    พระพุทธเจ้า 5 พระองค์
    พระเมตไตรยะ
    ทั้งสายพุทธมหายาน เถรวาท และตันตระยาน

    แถมให้ด้วย สายมะนาวต่างตุ๊ด (มนุษย์ต่างดาว) สื่อมาหมดแล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2013
  3. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    แล้วที่ผมถามว่า ผมมีองค์มั้ย แล้วถ้าฝึกวิชชา จะ สำเร็จวิชชาใดบ้าง
    ทำไมไม่ตอบล่ะครับ ผมไม่ได้มาลองดี แต่ผมมาถามดีดี

    เพราะถามดีดี เลยดูเหมือน ไม่ดี งั้นหรือครับ
     
  4. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เพราะผม ไม่ได้เสียเงิน ก็เลย ดูไม่ดี ไช่มั้ยครับ

    คุณตอบฟรีๆ ไม่ได้ ไช่มั้ยครับ ต้องมีค่าครู
     
  5. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    คณคิดมากไปหรือเปล่าครับ
    ตอนแรกตัวผมตอบเป็นกลางๆ ไม่ยินดียินร้าย

    ผมนะยินดีกับคุณมาก ที่ให้ความสนใจเป็นพิเศษ
    ไม่อย่างนั้น คุณคงไม่เสวนาร่วมด้วย ใช่ไหมครับ

    เอาละ หากตัวผมพลาดพลั้งวาจาไป จะเจตนาก็ดีหรือไม่ก็ดี
    ก็ขออโหสิกรรมด้วยนะครับ

    เรื่องเงินสำคัญไหม สำคัญ แต่ไม่สำคัญที่สุด
    สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความสัมพันธ์อันดี ที่ซื้อด้วยเงินไม่ได้ครับ

    ผมคิดเสมอว่า หากคนที่มาเรียน จริงใจ และจริงจัง
    ย่อมสำเร็จเสมอ ครับ และคุณก็เป็นคนหนึ่งที่ผมให้กำลังใจ

    ขอให้เจริญในธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2013
  6. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    แสดงว่า ถ้าผมไม่ไปเรียน คุณจะยังไม่ตอบ ไม่บอกผม หรือครับ

    ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณที่ไม่ตอบครับ
     
  7. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    คำตอบ ผมก้ตอบไปแล้ว
    1) หากเรียนด้วยจริงใจ และจริงจัง ย่อมสำเร็จ
    2) อยากรู้มีองค์เป็นใคร ก็มาเปิดหน้างาน (ผมไม่ชอบรับแสกนองค์ผ่านทางเว็บ)
    เพราะมันไม่ใช่วิถีของผมครับ ของแท้มาดูที่หน้างานครับ
    3) ผมไม่ชอบอวดตัว หรือ อวดเก่งเฉพาะในเว็บ ผมมีชื่อเสียงเรียงนาม
    มีตัวตน เบอร์โทร และสถานที่อยู่ก็ให้ไว้ และก็ไม่แคร์สื่อ
    4) หากไม่มีเงินบอกผม สงเคราะห์ให้ได้ครับ (จริงๆ เงินก็ไม่ได้มากมายนัก ผมคิดว่าคุณก็เป็นคนใจบุญอยู่แล้ว)
    5) ผมไม่ชอบเก่งคัด เก่งค้าน เก่งจะเอาชนะใคร และไม่เคยบอกว่ามีภูมิสูงหรือรู้ดี
    มีเพียงแต่ประสบการณ์ชี้แนะได้เท่านั้นครับ

    ว่าแต่คุณเถอะ เปิดใจที่จะยอมรับบ้างหรือเปล่า?
     
  8. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ไม่เป็นไร ขอบคุณมาก

    แค่นี้นะครับ ผม สนอยู่เมื่อกี้ แต่ ตอนนี้ไม่สนแล้ว ครับ
     
  9. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    สนก็คือไม่สน ไม่สนก็คือสน
    จะสนไม่สน ไม่เป็นไรครับ ยินดีครับ
     
  10. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    น๊านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

    ไม่เป็นไร เช่นกัน ไม่ยินดี
     
  11. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ท่านก็ลองไปเปิดบารมีที่งานก่อน ท่านจะได้รู้ว่า องค์ของท่านน่ะพุทธะ หรือองค์ผีองค์กุมาร และถ้าทำกรรมชั่วเยอะๆ ที่อาจารย์ภราดรท่านบอกคือ เจ้ากรรมนายเวรจะแฝงแล้วฟ้องมาว่าท่านเคยทำอะไรชั่วๆไว้บ้าง คนมีองค์ถ้าเปิดไปทำชั่วทำเลวไว้ องค์เทพจะถอย ให้ผีอยู่แทน ปล่อยให้ชดใช้กรรม ที่ศินารานั้น เปิดบารมีเพื่อให้ทราบองค์ครูบาอาจารย์ และหากใครไปทำกรรม และติดกรรมอยู่ก็จะได้รู้ทันที และทางอาจารย์ก็จะให้วิธีและคำแนะนำในการบรรเท่ากรรมต่อไป

    ถ้าท่านคิดว่าเป็นองค์พุทธะแน่ๆ เราขอชมบารมีหน่อย เราไปที่งานแน่นอน เราเองเป็นคนจัดคิวเมื่อคราวที่ผ่านมา คราวต่อไปก็คงจัดคิวอีก เชิญท่านได้ เราเองก็ได้คุยกับคนหนึ่งที่เวบบอดญาณทิพ องค์พุทธะเหมือนท่านเลย หลงตัวเองมาก น่าจะให้มาเปิดบารมี จะได้รู้กันไปเลย ว่าองค์พุทธะหรือองค์ผีองค์กุมาร

    ถ้าเกิดค่าใช้จ่ายไม่มี อาจารย์ภราดรท่านงดเว้นเฉพาะท่านได้ เป็นกรณีพิเศษ อาจารย์ภราดรท่านน่ะ ทำงานการบิน เงินเดือนเกือบแสน ท่านเก็บเงินไปก็เพื่อให้เป็นอุบายให้ผู้ที่ไปฝึกน่ะได้ร่วมสร้างบุญกุศล และเมื่อเรียนไปแล้ว มาเสริมบารมี ก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร นอกจากค่าครู แค่บาทเดียวเอง

    พวกที่หลงตัวเองมีเยอะ หลงองค์เยอะมาก เรานั้นร่วมงานเปิดบารมีมามาหลายครั้ง ไม่เคยเห็นใครมีองค์พุทธะ ขอเราชมบารมีพุทธะท่านหน่อยก็แล้วกัน แต่ถ้ามีกรรมชั่วใดๆเคยทำมา หรือเป็นองค์ผีล่ะก็ ทุกคนจะรู้ทันที่ว่าไปทำความชั่วอะไรมา บางรายลงไปชักดิ้นชักงอ บางรายก็โวยวายลั่น ตัวสั่นงันงก ท่านกล้าไปไหมล่ะ ที่ท่านจะไปนี้เป็นศูนย์รวมผู้มีองค์ของแท้มากมาย

    ถ้าท่านของจริงก็มาเถิด กลัวว่าจะไม่ใช่ วาจาคำพูดลักษณะเหมือนคนที่หลงตัวเองในห้องธรรมมะของบอดญาณทิพมากมาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2013
  12. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    "คน หลง ผี"

    "มีคนคนหนึ่ง ไม่ชอบปฎิบัติ ไม่ชอบรักษาศีล แต่ชอบอะไรที่ได้มาง่ายๆ ก็ไปตะเวนตามตำหนัก ร่างทรงองค์เทพต่างๆ แล้วก็ไปเข้าร่วมพิธี เพราะอยากจะสื่อสารกับครูบาอาจารย์ได้ วันหนึ่งหลังไปรับขันมา เขาได้พบพระพุทธองค์ในจิต พระพุทธองค์บอกให้เขาสร้างบุญสร้างกุศล ให้ถวายมหาทาน โดยการเอาเงินจำนวนมากไปถวาย และจะได้เข้าใกล้ถึงความหลุดพ้น ทั้งๆที่ตัวเขามีเงินเพียงน้อยนิด แต่เพราะความศรัทธาและเชื่อมั่นในพุทธองค์ ทำให้เขาได้ให้ทานด้วยทรัพที่ตัวเองมีน้อยนิดนั้นจนหมด และต้องเบียดเบียนตัวเอง อดข้าวอดน้ำทรมาน พระพุทธองค์มาหาบ่อยเข้า ก้ไปทำทานมากขึ้นเรื่อยๆ พอเงินเริ่มไม่พอทำตามที่พุทธองค์ว่า ก็เริ่มไปหยิบยืมคนอื่นมาทำ พอเขารู้สึกจะไม่ไหว พุทธองค์ก็บอกกับเขาว่า อนาคตภายหน้าเจ้าจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านะ ต้องสร้างเยอะๆ ด้วยความหน้ามืดตามัว ก็ดีใจ หลับหูหลับตาทำ สุดท้ายสิ่งที่เขาได้คือความว่างเปล่า"
    แท้ที่จริงแล้ว ขันที่เขาไปรับมานั้น มิใช่ขันเทพขันพระที่ไหน เป็นขันผีขันกุมารวิญญาณเด็ก ที่มันอยากจะได้กุศลผลบุญจากเรา มันก็จะบิดเบือนตัวเอง หลอกคนที่เชื่ออย่างงมงาย ให้สร้างกุศลมาให้ตัวเอง สุดท้ายพอตัวเองได้กุศลมากพอที่จะไปเกิดภพภูมิอื่น ก็จะเหลือผู้ที่เสียรู้ผี เป็นผู้โง่เขลาเบาปัญญาอยู่ผู้เดียว

    เรื่องราวอย่างนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในโลกของเรา ณ ปัจจุบันนี้ มีคนตกเป็นเหยื่อมากมาย บางตำหนัก ปล่อยผีไปแฝง แล้วดลใจให้มาทำบุญกับตำหนักนั้นตำหนักนี้ เมื่อเจ้าตัวไม่ยอม ก็มีวิธีการสารพัด เช่นทำให้ป่วยหรือเสียสติไปในที่สุด ทำลายตัวเองเพราะความลงผิดแท้ๆ บางคนสุดท้ายก็ต้องเอาชีวิตไปทิ้ง
    จึงให้ชื่อเรื่องนี้ว่า "คน หลง ผี"

    ขอเตือนผู้ใดก็ตาม ที่ไม่คิดจะปฎิบัติจิตที่ตัวเองก่อน คิดจะเข้ามาศึกษามาลองของ เกี่ยวกับองค์เทพ ครูบาอาจารย์รับขันตามตำหนักต่างๆ เพื่อหวังได้คุณวิเศษโดยที่ไม่ต้องพยามอะไร ระวังเจ้าปลอม จะกลายเป็นโดน "ผีหลอก" หลอกให้เสียทรัพ เสียสุขภาพ หลอกให้หลงตัวเิอง เริ่มทำตัวแปลกแยกไม่ปรกติ มีพฤติกรรมแปลกๆเช่น คุยกับตัวเองทั้งวัน บางรายก็ร้องไห้ไม่หยุด ไม่พูดไม่คุย

    การปฎิบัติธรรม ต้องไปตามขั้นตอน ไม่ควรเร่งรีบ เป็นไปได้ควรจะมีครูบาอาจารย์กำกับ มิฉะนั้นจะรับมือไม่ไหวเมื่อเกิดปัญหา กลายเป็นคนเสียสติไม่รู้สำนึกผิดชอบชั่วดีพูดจาเหลวไหลเพ้อเจ้ออุปาทานเอาได้ ไม่มีการปฎิบัติใดที่ได้มาง่ายๆโดยไม่ต้องพยายาม การจะบรรลุธรรมนั้น ขนาดพุทธองค์ยังเพียรพยายามตั้งเท่าไร ฉะนั้นอย่าเชื่อหรือคิดจะไปแสวงหาอะไรที่ได้มาง่ายๆเพราะมันจะไม่ใช่ของจริง






    ใครอยากรู้ว่า องค์ตัวเองเป็นเทพ เป็นพระ หรือเป็นผี ทางศินารา อาจารย์ภราดรภาพสามารถ สร้างโอกาสให้ท่านได้รู้ได้ด้วยตนเองเลยล่ะ คนที่ไม่เชื่อที่มาที่งาน เมื่อเปิดบารมีปุ๊บองค์ลงงงเป็นไก่ตาแตก ขยับไปเองบังคับตัวไม่ได้ ที่สงใสว่าเขาแกล้งทำถึงบางอ้อว่ามันมิใช่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2013
  13. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ประกาศ เปิดรับสมัคร เปิดบารมีวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556
    ในวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2556 ณ วัดผ่องพลอยฯ


    กำหนดการ
    09.00 น. เปิดบารมีวิขชาสาม (1)
    12.00 น. พักรับประทานอาหารกลาง
    13.00 น. เปิดบารมีวิขชาสาม (2)
    19.00 น. จบโปรแกรม

    ค่าใช้จ่าย : 299 บ. (เลือก 1 รายการ จากกิจกรรมเสริม)
    รายได้อันเป็นปัจจัยกุศลจะนำมาจัดซื้อจัดหาและติดตั้งแอร์ จำนวน 3 เครื่อง ให้แก่วัดผ่องพลอย
    อาหาร : จัดทำโดยทีมงานแม่ตุ๊กตา (แม่ผู้ใจบุญ)

    กิจกรรมเสริม :
    1) ทิพย์ญาณพยากรณ์ แห่งศินารา
    1) ตรวจโชคชะตาและกรรมบันดาล โดย อ. พงษ์ บัวสวรรค์
    2) ตรวจโชคชะตา ฮวงจุ้ย โหวงเฮ้ง โดย อ. คารม
    3) ตรวจตรวจโชคชะตาด้วยไพ่พรหมญาณ โดย อ. จิ๊ด
    4) ตรวจโชคชะตาและกรรมบันดาล โดย อ. หัสเนตร
    5) ตรวจโชคชะตาและกรรมบันดาล โดย อ. พีช
    6) ตรวจโชคชะตาและกรรมบันดาล โดย อ. เจีย
    7) ตรวจโชคชะตาและกรรมบันดาล โดย อ. เอ็กซ์
    8) ตรวจโชคชะตาและกรรมบันดาล โดย อ. อารยา

    2) ทิพย์ญาณหัตถเวชบำบัด แห่งศินารา
    1) หัตถเวชบำบัด พลังจักระ พลังเคลื่อนไหว พลังธาุตุทิพย์ โดย อ.ขาว
    2) หัตถเวชบำบัด พลังทิพย์ปรับธาตุ กัวซา ถ้วยดูดสูญญากาศ โดย อ.กาโต้
    3) หัตถเวชบำบัดโรคกรรมบันดาล ด้วยญาณหลวงปู่เทพโลกอุดร โดย อ.ดร.นงนุช หลวงปู่เทพโลกอุดร

    ข้อแนะนำในการเตรียมตัวก่อนปฏิบัติ
    1) แต่งกายสุภาพ : แนะนำชุดขาว
    2) ควรนั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ
    3) ก่อนนั่งสมาธิให้อาราธนาครูบาอาจารย์ทุกครั้ง
    4) มั่นรักษาศีลห้าตามปกติ

    ข้อแนะนำในระหว่างพิธีเปิดและสอบอารมณ์วิชชาสาม
    1) ลงทะเบียน เขียนชื่อตนเองบนแผ่นป้าย พร้อมติดที่หน้าอก
    2) สำรวมกาย วาจา ใจ โดยการคิดดี พูดดี ทำดี
    3) ให้เกียรติตนเอง ญาติธรรม เจ้าพิธี และสถานที่
    4) ไม่อวดอ้างและจงใจที่จะทดสอบบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์
    5) ให้ข้อมูลที่เป็นจริง คำตอบก็จะออกมาจริง

    แผ่นที่วัดผ่องพลอยวิริยราม
    http://www.yantip.com/viewthread.php?tid=716&extra=page=1

    ติดต่อสอบถาม 081 808 6695
    อ.ภราดรภาพ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2013
  14. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    สำหรับท่านที่อยากจะเปิดบารมีผ่านในครั้งแรกเลย
    ก็ขอเริ่มเลยนะครับ สำหรับผู้ที่เปิดไม่ผ่านนั้นถ้าหากไม่ติดเรื่องยังไม่ถึงวาระแล้ว
    ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องวิบากกรรมที่ตามมาอยู่นั่นเองไม่ว่าจะเป็นในปัจจุบันชาติหรือชาติก่อน
    ซึ่งถ้าเป็นชาติก่อนนั้นก็คงเป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกันที่จะรับรู้รับทราบได้และ
    ก็ต้องทนรับใช้วิบากกรรมนั้นต่อไปจนกว่าจะเจอผู้ที่มีบุญกรรมสัมพันธ์มาบอกกล่าว
    หากเป็นกรรมปัจจุบันแค่ลองนึกนิดเดียวก็อาจจะร้อง อ๋อ....แล้วก็เป็นได้ว่าเรื่องแค่นี้เป็นกรรมด้วยหรือ

    หากท่านที่มาอ่านเจอบทความนี้แล้วอยากที่จะเปิดบารมีผ่านโดยที่ไม่มีวิบากกรรมมาเป็นอุปสรรค
    ก็ขอให้ลองพิจารณาถึงสิ่งที่จะบอกกล่าวต่อไป หากท่านสามารถแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงได้
    ก่อนที่จะมาเปิดบารมี ก็จะเป็นเรื่องดีที่คุณอาจจะเปิดผ่านเลยในคราวแรกครับ
    ผมก็ขอเป็นกำลังใจในการเปิดบารมีของทุกท่านครับ

    ผมจะกล่าวถึงเฉพาะกรรมปัจจุบันเท่านั้นเพราะพิสูจน์ได้ กรรมบางอย่างที่มีผลในชีวิตประจำวันเลย
    อาจจะเป็นสิ่งที่พวกคุณนั้นคาดไม่ถึง และทำให้ชีวิตคนเหล่านั้นต้องติดขัดไปตลอดชีวิตเลย
    ซึ่งมีทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม

    โดยกรรมหนักที่มีมากันค่อนข้างมากนั่นก็คือ
    1.การทำแท้งทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา

    บางคนมาเปิดบารมีเพื่อหวังจะมาแก้กรรม หรือมาออกกรรมกัน และหวังว่าชีวิตนั้นจะดีขึ้น
    โดยหารู้ไม่ว่าหากท่านเคยไปทำแท้งมา หรือแท้งโดยไม่เจตนา หรือเคยมีส่วนร่วมในการทำแท้งนั้น
    แน่นอนว่าไม่มีทางเปิดได้แน่นอนครับ คุณจะต้องเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อยก่อน
    ด้วยการให้เด็กที่ถูกทำแท้งไปนั้น อโหสิกรรมให้แก่คุณก่อน

    ผมจะไม่ขอใช้คำพูดที่ว่าไปแก้กรรมทำแท้งก่อน เพราะเหตุว่ากรรมเกิดขึ้นแล้ว
    คุณไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ได้แล้วแต่คุณต้องทำให้ผู้ที่ถูกกระทำนั้นอโหสิกรรมให้เท่านั้น
    ส่วนจะทำโดยวิธีไหนนั้นขึ้นอยู่กับเด็กที่ถูกทำแท้งไปว่าต้องการอะไร
    โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดในการขออโหสิกรรมนั้นก็คือ การสำนึกว่าตัวเองได้ทำผิด
    หรือ เรียกสั้นๆว่า สำนึกผิด นั่นเอง

    หากคิดแต่เพียงว่าถ้าอาจารย์ท่านโน้นท่านนี้แนะนำให้ไปทำบุญที่นั่น ที่นี่ ทำมหาสังฆทานให้
    หรือสร้างพระให้ ถวายเครื่องบวช หรือจะทำบุญมากมายมหาศาลขนาดไหนแล้วก็ตาม
    หากท่านไม่เคยที่จะสำนึกผิดเลยก็อย่าหวังว่าเด็กจะให้อภัยคุณเลย

    ส่วนผู้ที่มีส่วนร่วมในการทำแท้งนั้น หมายถึง ผู้ใดกันบ้าง ลองดูสิว่าท่านเคยทำสิ่งต่างๆ
    เหล่านี้ไหม ถ้ามี...คุณถือว่ามีส่วนร่วมทันที
    1. เคยให้ยืมเงินหรือให้เงินไป (แม้แต่เงินเพียงบาทเดียวก็ถือว่าใช่) โดยรู้อยู่เต็มอกว่าเขาจะเอาไปทำแท้ง
    2. ชี้ทางหรือแนะนำวิธีทำแท้ง เช่น บอกกล่าวสถานที่ หรือยาที่ใช้ หรือ แนะนำหมอ เป็นต้น
    3. ให้ยืมยานพาหนะโดยรู้เจตนาของการยืมแล้ว
    4. ไปเป็นเพื่อนโดยไม่ห้ามปราม (หากห้ามปรามไปแล้ว เขาแอบไปทำ เราไม่ผิด)

    2. การล่วงเกินต่อผู้มีพระคุณ (อกตัญญู)

    บางคนอยากทราบว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดบ้าง องค์เทพใดบ้างคุ้มครอง แต่หารู้ไม่ว่า
    แม้แต่พระอรหันต์ในบ้านยังไม่เคยดูแล หรือกราบไหว้ รวมถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว
    ที่ทำให้เรามีอันจะกินในวันนี้ก็ยังไม่เคยไปกราบไหว้ ไม่ระลึกถึง บุคคลเหล่านี้ยากที่จะเปิดได้ครับ
    แถมยังมีวิบากกรรมในการประกอบอาชีพเสียอีก หากินไม่ขึ้น

    ถ้าหากท่านรู้ว่าท่านทำตัวอย่างนี้อยู่ก็ขอให้เปลี่ยนเสีย ขอให้รีบไปกราบเท้าขอขมา
    ขออโหสิกรรมพ่อแม่ และแสดงความกตัญญูเสียบ้าง เราไม่รู้ว่าใครจะตายก่อนกัน
    หากพวกท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นยังทำง่าย หากเสียไปแล้วต้องนั่งสมาธิขออโหสิกรรม
    ที่ล่วงเกินผู้มีพระคุณไว้ในสมัยที่ท่านทั้งหลายยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งไม่รู้ว่าพวกท่านจะรับได้หรือไม่
    หรือคุณจะส่งถึงหรือไม่ด้วย

    3.ปรามาสพระรัตนะตรัย

    พระรัตนตรัย หมายถึง แก้วอันประเสริฐ หรือแก้ว 3 ดวง ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
    ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของพระพุทธศาสนา

    1. พระพุทธ หมายถึง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นศาสดาของพระพุทธศาสนา
    เป็นผู้ทรงค้นพบสัจธรรมโดยการตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง แล้วนำคำสอนมาเผยแผ่ให้พุทธศาสนิกชนได้ปฏิบัติตาม

    2. พระธรรม หมายถึง หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา หรือความจริงที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ
    เป็นความจริงที่มีอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงค้นคิดเอง แต่พระองค์ทรงค้นพบโดยการตรัสรู้
    แล้วนำมาสั่งสอนแก่ชาวโลก

    3. พระสงฆ์ หมายถึง สาวกของพระพุทธเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระองค์
    แล้วนำหลักคำสอนนั้นมาเผยแผ่แก่มวลมนุษย์

    พวกท่านทั้งหลายเคยล่วงเกินแก้ว 3 ดวงนี้ไหมครับ หรือเพียง 1 ใน 3 ก็ถือว่าได้ทำแล้วครับ
    การล่วงเกิน หรือการกระทำที่ไม่เหมาะสม ถือเป็นการปรามาสทั้งสิ้น หากต้องการปฏิบัติธรรมให้ก้าวหน้า
    แต่เคยปรามาสพระรัตนะตรัยไว้แล้วไม่ได้ขอขมาและขออโหสิกรรม แน่นอนว่ายากแท้หนอที่จะเปิดได้ครับ

    บางทีกรรมนั้นก็อาจจะส่งผลให้กับคุณแล้วโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลยเช่น ทำไมเรานั่งสมาธิไม่ได้นาน
    ทำไมในใจเราถึงได้ด่าทอแต่พระสงฆ์ องค์เจ้า ทั้งๆที่เราไม่อยากจะทำแต่พอเผลอหละเป็นไม่ได้
    พวกท่านทั้งหลายเคยเป็นไหมครับ เป็นต้น

    ทีนี้คงสงสัยกันแล้วสินะว่า ดูกันอย่างไรว่าปรามาสเข้าให้แล้ว ผมขอยกตัวอย่างบางกรณีเท่านั้นนะครับ
    เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างจะละเอียดและซับซ้อน เพราะแรงกรรมจะหนักหรือเบานั้น
    ขึ้นอยู่กับเจตนาและความถี่ในการกระทำครับ

    การปรามาสพระพุทธ
    เช่น การว่ากล่าว พาดพิง พระองค์ท่านโดยบิดเบือนความจริง
    นำรูปเคารพหรือภาพแทนของพระองค์ท่านมากระทำไม่เหมาะสม วางไว้ในสถานที่ไม่เหมาะสม
    ดูพระแล้วพูดว่า พระจริง พระปลอม ซึ่งภาพที่ปรากฏอยู่ในเหรียญพระนั้นมีรูปพระพุทธองค์อยู่ เป็นต้น

    การปรามาสพระธรรม
    เช่น ไม่เก็บหนังสือธรรมะ หนังสือสวดมนต์ไว้ในที่อันควร ลบหลู่สัญลักษณ์ตัวแทนของพระธรรม หรือ ธรรมจักร เป็นต้น
    การปรามาสพระสงฆ์

    เช่น ว่ากล่าวพระสงฆ์ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง หรือใช้ท่านทำงาน ยิ่งหากเป็นพระอริยะสงฆ์แล้วยิ่งหนักเข้าไปอีกครับ
    คิดว่าพระสงฆ์ที่เดินบิณฑบาต อยู่นี้ จริงหรือปลอม เป็นต้น

    หากพวกท่านกำลังทำอยู่สิ่งต่างๆที่ได้บอกกล่าวไปแล้วอยู่ขอจงงดเสีย หากทำไปแล้วก็ต้องมาขอขมา
    และขออโหสิกรรมครับ การขอขมานั้นไม่ใช่ทำครั้งเดียวแล้วพอนะครับ หมั่นทำทุกวัน
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรทำก่อนเริ่มสวดมนต์ภาวนาและทำต่อหน้าพระพุทธรูป
    แต่ถ้าไม่มีพระพุทธรูปก็ไม่เป็นไร ให้เรากำหนดจิตคิดว่ามีพระพุทธองค์เสด็จมาอยู่เบื้องหน้าเราครับ

    4. ศีล 5 บกพร่องอย่างแรง

    ศีล 5 ข้อ มีอะไรบ้าง ผมขอทวนความจำกันสักเล็กน้อยนะครับ
    1.งดเว้นการฆ่าสัตว์
    2.งดเว้นการลักทรัพย์
    3.งดเว้นการละเมิดกาม
    4.งดเว้นการพูดเท็จ
    5.งดเว้นการดื่มสุราเมรัย

    ส่วนคำว่าบกพร่องอย่างรุนแรงในที่นี้ ผมขอบอกกล่าวตามความเห็นส่วนตัวนะครับ
    เพื่อให้เข้าใจกันง่ายๆ เพราะหากท่านผู้อ่านอยากจะลงลึกในรายละเอียด
    ก็ขอให้ไปหาข้อมูลกันเอาเองนะครับ คิดว่าไม่ยากเกินความสามารถของพวกท่านทั้งหลายหรอก

    ทีนี้เรามาดูกันว่าหากส่วนใหญ่ท่านได้กระทำการณ์ใดๆ ที่ตรงกับที่ผมลงไว้ด้านล่างนี้ก็ไม่น่าจะเปิดผ่านได้ครับ

    สำหรับข้อที่ 1 งดเว้นการฆ่าสัตว์
    - การทำแท้งหรือมีส่วนรู้เห็น เกี่ยวข้อง ในการทำแท้ง
    - ฆ่าสิ่งมีชีวิตอยู่เป็นนิจศีล ถึงแม้จะเป็นสัตว์เล็กๆ แต่ถ้าทำทุกวัน
    สัตว์ทั้งหลายก็จะอาจจะมาแสดงอาการให้ท่านเห็นในวันนั้นเลยก็เป็นได้
    หรือท่านอาจจะเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ และหาสาเหตุไม่ได้ ซึ่งรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันไม่หาย
    - ฆ่าสัตว์ใหญ่มา เพราะสัตว์ใหญ่มีแรงอาฆาตสูง (งูถือว่าเป็นสัตว์ที่มีแรงอาฆาตสูงมากๆ)
    - ฆ่าบิดา มารดา หรือผู้มีพระคุณ (แม้กระทั่งตบตี)

    สำหรับข้อที่ 2 งดเว้นการลักทรัพย์
    - นำของใช้จากที่ทำงานกลับมาใช้ส่วนตัว ยิ่งท่านทำงานในสถานที่ราชการ คุณจะมีกรรมต่อแผ่นดินทันที
    - ได้โกงทรัพย์สินของผู้อื่นมาเป็นของตน จนกระทั่งผู้ถูกกระทำหมดเนื้อหมดตัว

    สำหรับข้อที่ 3 งดเว้นการละเมิดกาม
    - ผู้ที่มีปัญหาเรื่องคบชู้สู่ชาย ก็ยากที่จะเปิดได้ครับ เพราะจิตใจของเขาเหล่านั้นจะหมกมุ่นแต่เรื่องกามคุณ
    - เคยยุยง ส่งเสริมให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยก เพื่อตัวเองรอรับผลประโยชน์

    สำหรับข้อที่ 4 งดเว้นการพูดเท็จ
    - เห็นใครได้ดีกว่าตัวเองไม่ได้ มีจิตใจริษยาจะต้องพูดจาใส่ร้ายป้ายสีให้ผู้อื่นเสียหาย
    - ไม่สำรวม พูดจากล่าวร้ายในธรรม

    สำหรับข้อที่ 5 งดเว้นการดื่มสุราเมรัย
    - หากท่านเป็นคนที่ดื่มสุราจัดเมื่อดื่มแล้วขาดสติก็จะเป็นเหตุให้ผิดศีลได้ทุกข้อเพราะความไร้สตินั่นเอง
    5. ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงเจ้าที่ที่บ้าน
    6. บนบานศาลกล่าวไว้แล้วลืมแก้

    เป็นต้น

    วิชชาสาม
    1) ในพระพุทธศาสนา
    ความรู้เบื้องสูงในพระพุทธศาสนา ตามเนื้อความในพระบาลี มีทั้งหมด ๘ ประการฯ
    หากกำหนดไว้เพียง ๓ ประการ เข้าใจได้ทันทีว่าเป็น วิชชา ๓ หมายถึง องค์ความรู้ประเสริฐ ๓ อย่าง
    ได้แก่ รู้ระลึกชาติได้ ๑ รู้วันเกิดตายของสัตว์ ๑ รู้ดับกิเลสให้สิ้นเชิง ๑

    2) ในศาสนาพราหมณ์
    ความรู้เบื้องในศาสนาพราหมณ์ เรียกว่า ไตรเพท เป็นเนื้อหาวิชาที่มีอยู่ในพระคัมภีร์พระเวท ๓ บรรพ์
    เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สามเวท มีการสวดคาถาบูชาเทวดา เป็นอาทิ ซึ่งไม่นับอาถรรพ์เวท (ไสยศาสตร์) ไว้ในความหมายนี้ ฯ

    ไตรเพทนี้มีกล่าวถึงไว้ในพระสูตรเหมือนกัน ในลักษณะว่าพระโพธิสัตว์และพระอรหันต์ฉฬภิญโญหลายรูป
    เคยศึกษาไตรเพทจนแตกฉาน (ถึงที่สุดแห่งเพท) ในอดีตชาติ แลมีโอกาสพบพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งมาก่อน
    จึงได้มาเกิดเป็นพระอรหันต์ ฯ

    3) ในปรัชญาจีน
    วิชาสามประการของเขา หมายอย่างหนึ่งถึง ไตรวิทยา คือ ความรู้ศักดิ์สิทธิ์สามสาขาวิชา
    ได้แก่ พุทธ ๑ เต๋า ๑ ขงจื้อ ๑ ฯ กล่าวกันว่า เต๋านั้นเป็นฝ่ายสันโดษไม่ข้องเกี่ยวกับทางโลก
    ปฏิบัติบำเพ็ญพรตตามแนวฤาษีจนสำเร็จฌานสมาบัติเป็นเซียน ไม่แก่ไม่ตาย (อมตะ)

    ส่วนขงจื้อนั้นสอนจารีตประเพณี การเป็นคนดีอยู่ในสังคม แลว่าพุทธนั้น อยู่ระหว่างกลาง
    ไม่สุดโต่งข้างใดข้างหนึ่ง (ทางสายกลาง) อนึ่งได้มีผู้เปรียบเทียบไว้ว่า ถ้าคนต้องการน้ำ พุทธนั้นเสมือนฝน
    เต๋าเสมือนน้ำตกบนยอดเขา ขงจื้อเสมือนแม่น้ำ ฯ

    1) ให้สวดนะโม 3 จบ ตามด้วยคำอธิฐานจิต (ก่อนนั่งสมาธิ)

    2) ให้กล่าวคำอธิษฐานจิต สำหรับวิชชาสาม
    ด้วยมนตราแห่ง โอม นะ โม พุท ธา ยะ (ก่อนนั่งสมาธิ) การใช้มนตราประกอบนี้
    ควรผ่านพิธีไหว้ครูเพื่อยกพระกรรมฐานวิชชาสามก่อน จึงจะได้ผลเต็มกำลัง

    ลูกขออาราธนาอัญเชิญอักขรมนตราแห่ง "โอม"
    ตัวแทนแห่งอนันตเอกภพ ขออัญเชิญเสด็จประทับเหนือเศียรเกล้า

    ลูกขออาราธนาอัญเชิญอักขรมนตราแห่ง "นะ"
    ตัวแทนแห่ง องค์ไวโรจนะพุทธเจ้า ขออัญเชิญเสด็จประทับ ณ.พระนลาฏ

    ลูกขออาราธนาอัญเชิญอักขรมนตราแห่ง "โม"
    ตัวแทนแห่ง องค์อักโษภยะพุทธะพุทธเจ้า ขออัญเชิญเสด็จประทับ ณ.พระอังสาเบื้องขวา

    ลูกขออาราธนาอัญเชิญอักขรมนตราแห่ง "พุท"
    ตัวแทนแห่ง องค์พระรัตนสัมภวะพุทธเจ้า ขออัญเชิญเสด็จประทับ ณ.อังสาเบื้องซ้าย

    ลูกขออาราธนาอัญเชิญอักขรมนตราแห่ง "ธา"
    ตัวแทนแห่ง องค์พระอมิตาภะพุทธเจ้า ขออัญเชิญเสด็จประทับ ณ.ฝ่าพระหัตถ์เบื้องขวา

    ลูกขออาราธนาอัญเชิญอักขรมนตราแห่ง "ยะ"
    ตัวแทนแห่ง องค์พระอโมฆสิทธิพุทธเจ้า ขออัญเชิญเสด็จมาประทับ ณ.ฝ่าพระหัตถ์เบื้องซ้าย

    ขออาราธนาอัญเชิญ "องค์พระประธานและครูบาอาจารย์ทุกพระองค์" ขออัญเชิญเสด็จประทับ ณ. พระหฤทัย
    ลูกขอเจริญพระกัมมัฏฐานแห่งวิชชาสาม ขอทุกพระองค์จงเมตตาให้ลูกเจริญก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมยิ่งๆ ด้วยเถิด
    (ขอขอบคุณ ผศ. สมศักดิ์ ที่กรุณาเรียบเรียงให้)

    3) ให้จับอารมณ์ฌานสมาบัติ ในระหว่างนั่งสมาธิ (สำหรับคนที่เข้าฌานได้แล้ว)

    3.1 ให้พิจารณาอากาศเป็นความว่าง = อากาสานัญจายตนะ (ณาน 5)
    3.2 ให้นำวิญญาณ (อารมณ์) ในทุกๆ วิญญาณใส่ในความว่าง = วิญญาณัญจายตนะ (ณาน 6)
    3.3 ให้พิจารณาวิญญาณทุกวิญญาณ ย่อมไม่มีแก่นสาร เมื่อกระทบกับความว่าง = อากิญจัญญายตนะ (ณาน 7)
    3.4 ให้พิจราณาทุกวิญญาณเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป แล้วให้ทวนกลับว่า (สิ่งที่เคยดับไป เคยตั้งอยู่ขึ้น เคยเกิดขึ้น)
    ทุกสรรพสิ่งย่อมเกิดดับเป็นธรรมดา = เนวสัญญานาสัญญายตนะ (ณาน 8)

    4) คำอาราธนาแผ่เมตตาจิต (หลังจากเสร็จสิ้นการเจริญสมาธิ)

    ลูกขอแผ่เมตตาจิตให้แก่สรรพสิ่งทั้งหลาย
    ไม่ว่าจะเป็น เจ้ากรรมกำหนด เจ้าเวรกำหนด เจ้ากรรมนายเวร
    บิดา มารดา ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน ตลอดจนผู้มีพระคุณทุกๆ ท่าน
    ขอโปรดจงรับ และอนุโมทนาด้วยเทอญฯ
    ทั้งนี้ ขอให้ผู้รับมีจิตอันเป็นกุศล

    จบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2013
  15. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ประกาศ รายชื่อผู้สมัครเปิดบารมีวิชชาสาม
    วันอาทิตย์ที่ 5 พ.ค. 2556 ณ วัดผ่องพลอยวิริยาราม


    1) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    2) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    3) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    4) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    5) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    6) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    7) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    8) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    9) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    10) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    11) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    12) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    13) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    14) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    15) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    16) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    17) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    18) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    19) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    20) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    21) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    22) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    23) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    24) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    25) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56

    หมายเหตุ
    1) รายชื่อทั้ง 25 คน สำรองพิเศษให้ หากมีความประสงค์จะเปิดในวันที่ 5 พ.ค. 56 นี้
    2) ผู้เรียนที่ยังไม่เคยเปิด จะมาเปิดในวันที่ 5 ก็ได้ แต่มีค่าใช้จ่าย 299 บ.
    เพื่อการกุศลจัดซื้อจัดหาและติดตั้งแอร์ จำนวน 3 เครื่อง ให้แก่วัดผ่องพลอย
    และสามารถเลือกรายการพิเศษ เช่น ดูพยากรณ์ หรือ หัตถเวชบำบัด อย่างใดอย่างหนึ่งได้ครับ
    3) ผู้เรียนที่ยังไม่เคยเปิด จะเปิดในวันที่ 12 อันนี้ ไม่มีค่าใช้จ่าย เปิดให้อยู่แล้วครับ

    26) คุณพิธยาธร จากตรัง (1)
    27) คุณพิธยาธร จากตรัง (2)
    28) คุณพิธยาธร จากตรัง (3)
    29) คุณพิธยาธร จากตรัง (4)
    30) คุณพิธยาธร จากตรัง (5)
    31) คุณพิธยาธร จากตรัง (6)
    31) คุณพิธยาธร จากตรัง (7)


    รับจำนวน 70 คน
    จำนวนผู้สมัคร 31 คน
    คงเหลือ 39 คน


    ติดต่อสอบถาม
    อ.ภราดรภาพ : 081 808 6695

    โปรดชำระเงินภายในวันที่ 30 เมษายน 2556
    โดยการโอนชำระผ่านบัญชี
    คุณทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
    ธ.กรุงไทย สาขาศูนย์สิิริกิตต์
    เลขที่ 009 117 1393
    ประเภท ออมทรัพย์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2013
  16. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ประกาศ รายชื่อผู้สมัครเปิดบารมีวิชชาสาม
    วันอาทิตย์ที่ 5 พ.ค. 2556 ณ วัดผ่องพลอยวิริยาราม


    1) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    2) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    3) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    4) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    5) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    6) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    7) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    8) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    9) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    10) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    11) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    12) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    13) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    14) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    15) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    16) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    17) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    18) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    19) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    20) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    21) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    22) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    23) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    24) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56
    25) ผู้เข้าอบรม เรียนวิชชาสาม รุ่นที่ 3-2556 ที่จะเรียนวันอาทิตย์ ที่ 12 พ.ค. 56

    หมายเหตุ
    1) รายชื่อทั้ง 25 คน สำรองพิเศษให้ หากมีความประสงค์จะเปิดในวันที่ 5 พ.ค. 56 นี้
    2) ผู้เรียนที่ยังไม่เคยเปิด จะมาเปิดในวันที่ 5 ก็ได้ แต่มีค่าใช้จ่าย 299 บ.
    เพื่อการกุศลจัดซื้อจัดหาและติดตั้งแอร์ จำนวน 3 เครื่อง ให้แก่วัดผ่องพลอย
    และสามารถเลือกรายการพิเศษ เช่น ดูพยากรณ์ หรือ หัตถเวชบำบัด อย่างใดอย่างหนึ่งได้ครับ
    3) ผู้เรียนที่ยังไม่เคยเปิด จะเปิดในวันที่ 12 อันนี้ ไม่มีค่าใช้จ่าย เปิดให้อยู่แล้วครับ


    26) คุณพิธยาธร จากตรัง (1)
    27) คุณพิธยาธร จากตรัง (2)
    28) คุณพิธยาธร จากตรัง (3)
    29) คุณพิธยาธร จากตรัง (4)
    30) คุณพิธยาธร จากตรัง (5)
    31) คุณพิธยาธร จากตรัง (6)
    31) คุณพิธยาธร จากตรัง (7)
    32) คุณ sunbeam 1
    33) คุณ sunbeam 2
    34) คุณ baimon22 (1)
    35) คุณ baimon22 (2)


    รับจำนวน 70 คน
    จำนวนผู้สมัคร 35 คน
    คงเหลือ 35 คน


    ติดต่อสอบถาม
    อ.ภราดรภาพ : 081 808 6695

    โปรดชำระเงินภายในวันที่ 30 เมษายน 2556
    โดยการโอนชำระผ่านบัญชี
    คุณทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ
    ธ.กรุงไทย สาขาศูนย์สิิริกิตต์
    เลขที่ 009 117 1393
    ประเภท ออมทรัพย์
     
  17. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ผม ก็ พูดอยู่พิมพ์อยู่ ใช้ สมมุติที่เป็นผม พูดคุยอยู่ ทำไม พวกคุณที่คิดว่า ตนเอง มีทิพย์ มีองค์ จะดูผมตอนนี้ไมได้ล่ะครับ ผม เข้ามานี่ ไม่ได้มาลองดี
    แต่สิ่งที่ ผมรับรู้ ว่า พวกคุณคิดอะไรทำอะไร นั้น ผมไม่พูด ผมรับรู้คนเดียวพอ
    เวลาทำอย่างอื่น ลับหลังยังทำได้ แล้วทำไม ดูตอนนี้ ไม่ต้องดูต่อหน้าไม่ได้หรือครับ นี่ผม ไม่ถือนะ ผม ไม่ โกรธ

    แต่ ถ้า ผม จะทำบ้าง ก็ทำได้

    ไม่ต้องมา บอกให้ผมไปหรอก แค่ที่คุยกันอยู่นี่ ผมก็รับรู้แล้ว ว่า พวกคุณทำอะไรอยู่
     
  18. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    อยากชมบารมีผม ไม่ต้องมาขอ ก็เชิญชมเลย ไม่ห้าม ไม่ปิด เพราะไม่เคยปิด

    แต่ ชมแล้วไม่เห็นอะไร ก็ ให้ สำนึกในตนเองว่า ที่ไม่เห็น เพราะ ตนเอง ตาบอด
    แล้วถ้าเห็นอะไร นั้น สิ่งที่เห็นเพราะ ตนเองอยากเห็น หรือ เห็นในสิ่งที่ตนเองคิดอยู่

    ตนเองตาบอดสี ล่ะไม่ว่า

    สิ่งใดที่ กระทำกับผม ผมไม่เอาความ แต่ คงรู้นะว่า กฏแห่งกรรม ไม่เคย ยกเว้นใคร
     
  19. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    คุณมีดีอยู่แล้ว เรายินดีด้วยครับ
    คุณสื่อสารได้ มีญาณดีอยู่แล้ว เรายินดีด้วยครับ
    คุณมีญาณพุทธะบารมี ดีอยู่แล้ว เรายินดีด้วยครับ
    ทุกอักขระของคุณที่สื่อมาทุกขณะ ไม่ว่าผ่านทางจิต หรือผ่านคำพูดทุกวลี เรายินดีครับ
    เราเคารพสิทธิและเคารพบูชาครูบาอาจารย์ุทุกๆ พระองค์ เรายินดีครับ
     
  20. beerbonk7

    beerbonk7 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +86
    อาจารย์ครับ อยากจะขอคำปรึกษาหน่อยครับ
    คือเรื่องนี้ถ้าจะอธิบายเป็นคำพูดมันก็ยากจะเข้าใจอ่ะครับ
    คือว่าผมนั้นสามารถสื่อกับสิ่งที่มองไม่เห็นครับ(ถ้าผมนั้นไม่ได้คิดไปเอง)
    คือลักษณะการสื่อของผมนั้นอย่างเช่นแขนผมนั้นสามาถขยับเองได้โดยที่ผมนั้นไม่ได้สั่ง คือว่าเมื่อก่อนนั้นผมไม่เคยคิดหรือสนใจจะสวดมนต์เลยครับ
    แต่พอหลังๆมานี้อยู่ๆผมก็เริ่มอยากสวดมนต์ นั่งสมาธื
    จนผมอยากเลี้ยงรักยม ผมก็เลยซื้อมาครับ ตอนแรกก็ไม่ค่อยมีอ่ะไร แต่พอหลังๆ เหมือนผมจะสื่อกับลูกๆได้
    คือ ผมนั่งสมาธิแล้วกำขวดไว้ แล้วนึกอยู่ในใจว่าถ้าลูกมีอยุ่จริงก็ เขย่ามือพ่อหน่อย สักพักมีผมก็ขยับเอง
    จนผมเชื่อว่าลูกผมมาอยู่กับผมแล้ว เวลาผมจะคุยกับลูกเหมือนคำตอบมันมาอยู่ในใจแล้วอ่ะครับ หรือเวลาผมคิดในใจว่าถ้าลูกรักมาอยู่กับพ่อให้แบมือขวา มือผมก็แบเองครับ
    หรือเวลาผมไปซื้อของผมบอกว่า ลูกๆอยากได้อ่ะไรก็ให้หยิบเลย มือผมก็เลื่อนไปหยิบเองครับโดยที่ผมไม่ได้ออกแรงขยับเลย
    แล้วหลังจากนั้น ผมก็สามารถสื่อกับแม่นางตะเคียนที่บ้านผมได้ในลักษณะเดียวกัน จนมี่อยู่วันหนึ่งผมนั่งสมาธิอยู่มือผมก็ขยับไปเองลักษณะท่าทางเหมือนเทพทางพราหมณ์หรือฮินดู ซึ่งผมก็ถามท่านว่าท่านคือใคร(ในใจผมคิดว่าเราคิดไปเองหรือจิตปรุงแต่งไปเองเพราะผมนั้นไม่เคยสนใจหรือเทพทางนี้เลย คือไหว้พระอย่างเดียวครับ)ท่านบอกผมว่ายังไม่ถือเวลาที่ผมจะรู้ท่านบอกให้ผมปฎิบัติแบบนี้ต่อไป ซึ่งตอนนี้ที่ผมสงสัยตัวเองนะครับคือ ที่ผมแขนขยับไปเองต่างๆนาๆนั้น เป็นเพราะผมอยากจะสื่อกับลูก รัก ยมของผมจนผมนั้นคิดไปเองหรือจิตใต้สำนึกสั่งการไปเองครับ ผมสงสัยสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวผมมากเลยครับ (อีกอย่างผมก็กลัวว่าไม่ใช่เทพแต่เป็นอย่างอื่นแทนอ่ะครับ)
    จริงๆผมก็อยากไปร่วมเปิดบารมีวิชชาสาม กับทางศินารา แต่คือว่าผมยังเด็กอยู่ครับ 19เอง และไกล ส่วนในครอบครัวผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้มากนักครับ
    ผมอยากจะทราบว่าในกรณีผมอาจารย์พอจะแนะนำอะไรผมได้บ้างครับ
    ขอความกรุณาตอบด้วยครับ
    (คือผมเคยให้องค์เทพท่านประทับร่างก็คือเวลาท่านประทับร่างผม ผมไม่มีอาการสั่นหรือกระตุกแบบร่างทรงนะครับคือแขนผมจะขยับไปในท่าทางต่างๆโดยที่ผมไม่ได้ออกแรงนั้นไวขึ้นเร็วขึ้นกว่าปกติครับคือผมยังมีสติอยู่ครับ)อันนี้ผมก็ไม่รู้ว่าผมคืดไปเองอีกรึป่าวอ่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...