" แล้วจะทำอย่างไรต่อ "

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ฝันนิมิต, 10 พฤษภาคม 2013.

  1. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    .........ทำความรู้จักธาตุ ขันธิ์ ให้รู้จักมันก่อนก็ได้ ว่า อันนี้ รู้กาย อันนั้เรียกว่ารู้ทันความคิด อันนี้เรียกว่ารู้ทันจิตสังขาร(โกรธ หลง ฟุ้ง) อันนี้นิวรณ์(วิจิกิจฉา ง่วงเหงาหาวนอน กามฉันทะ)...........ผมก็ไม่เก่งนั่งสมาธิ......เรียกว่าขอแสดงความเห็นหน่อย...........ในอารัมณูปนิชฌาน เพ่งอารมณ์กรรมฐาน นั้น มีองค์ธรรรมคือ วิตก วิจาร ถ้าใช้ อานาปานสติ วิตกวิจารคือ การเพ่ง ลมหายใจเข้าออก.(เข้าออก รู้)..ทำแค่นี้ให้ได้ก่อน เรื่องฟุ้งซ่านน่าจะหมดไป(ถ้ายังไปคิด ก็ พยายามกลับมาที่วิตก คือ เพ่งดูลมให้ได้)........................ส่วนลักขณูปนิชฌาน เป็น ลักษณะของการวิปัสนา รู้องค์ธรรมที่เกิดดับ ใน สมาธิ.........นั้นหมายถึงต้องมีผู้รู้เกิดขึ้นมา รู้ อารมณ์หรือองค์ธรรมที่เปลี่ยนแปลง เมื่อมีผู้รู้หรือจิตตั้งมั่นเป็นกลางแล้ว....อารมณ์หรือองค์ธรรมที่ แยกตัวให้เห็นก็ไม่มีปัญหาอะไรกับ ผู้รู้(เมื่อ แยก ธาตุ ขันธิ์ได้ ก็ไม่ใช่ ตัวบุคคล เรา เขา).............ก็รู้ไป .....จิตที่ตั้งมั่นเมื่อรู้ จะไม่ผูกติดกับอารมณ์( อาจจะยากหน่อย.)..........................ส่วนถ้ามีนิวรณ์ทำให้ ทำสมาธิยาก ก็ต้อง แก้ด้วยอุบาย จำพวก สถานที่ที่เหมาะสมแก่สัปปายะ (ไม่อึกทึกเกิน)ถ้าง่วงมากก็เอาน้ำเย็นลูบหน้า ถ้าดึก ถ้าเหนื่อยไป จะฝืนไปก็ไม่ได้ ก้ นอนดีกว่า ไว้วันหลัง :cool:ปล.............มีกระทู้ สมาธิของหลวงพ่อ วิริยังค์ แถวแถวนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤษภาคม 2013
  2. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    คนนี้เขาแนะนำดีนะ ลองทำตามเขา ง่ายนิดเดียว

    เขาใช้ครีมธรรมะ
    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@



    หลักการ จะใช้ครีมพระธรรม จะทำอย่างไร
    สาวๆ ที่อยากสวยใส แต่ต้อง ขนเงินไปซื้อ
    เครื่องสำอางราคาแพง เพื่อ มาประโลม ความงามนั้น
    มันก็ คือ (กิเลศ) อย่างหนึ่ง ครีมที่เราไม่ต้องซื้อ
    หาได้ใกล้ตัวที่สุด ก็คือ การสวดมนต์ ภาวนา
    การทำจิตใจ ให้พ่องใส สะอาด

    ทำอย่างไร
    การสวดมนต์นั้น เรา มีเวลา เสียสละ สัก 20 -30 นาที
    สวดมนต์ เพื่อ ล้างพิษ ที่สกปรกในใจออก กระจายความสว่างใส
    ออกมาสู่ผิวภายนอก

    ไม่มีเวลาทำอย่างไร

    การภาวนาจิต การอบรมจิต การคิดในสิ่งที่ดี
    ก้เป็นอีกวิธีคะ ที่ทำให้เรานั้น มีความสว่างใส
    จากในสู่นอกได้

    ลองสวดมนต์ภาวนา ติดต่อกัน จนติดเป็นนิสัย
    คุณจะเห็นความแตกต่าง ระหว่างคุณไม่ได้ทำอะไร
    ใช้ครีมราคาแพง กับใช้ครีมราคาถูก แต่ดีกว่าเยอะ
    ดีที่ว่าก็คือ ไม่ทุกข์ ให้จิตใจเศร้าหมอง เพราะ
    หมดเงินไปกับครีม ราคาสุดแพง ผลพลอยได้
    ในการใช้ครีมพระธรรม ทำให้หน้าใส จิตใจใส
    มีสมาธิ +มีสติ + มีปัญญา+มีความสุขในการ
    ดำเนินชีวิต เห็นมั้ยคะ ว่า ครีมพระธรรม ที่ใครๆ มองไม่เห็นค่า
    ครบทุกอย่างเลย
    ลองไปทำดูนะคะ

    " ป.ล. ต้องทำ ทุกวัน และ อย่าขาด
    เหมือนเราไม่เคยลืม
    ทาครีมทุกวันคะ "
     
  3. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    อันนี้แถม

    อ่านดู ดูการแนะนำเพื่อนร่วมทุกข์
    ของท่านผู้นี้ ที่มีเส้น เขาแนะนำดีนะ

    นี่นะ หากท่านผู้นี้ มีความมั่นคง อย่างต่อเนื่อง
    เหมือนอย่างที่แนะนำคนอื่น
    จะเป็นยังไงน๊อ คงจะเป็นกรรมใครกรรมมัน

    หากเขาสร้างกรรมเหตุที่ดี
    สร้าง มรรคตกแต่งอย่างต่อเนื่อง
    มรรคญานที่เป็นผล
    จะเกิดอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
    ส่งเป็นจัยจัยให้ผลญาณจะตามมาเป็นลำดับลำดา

    แต่จะเสียดายหรือเปล่าไหมว๊า ว่าม๊ะ


    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    " รู้เห็น เป็นใจ "
    สวัสดีคะ เรื่องราวนี้ เป็นเรื่องราวของพี่มอ นามสมมุติ
    พี่สาวอีกคนที่มีใจ ที่เป็นกุศล สงบ เยือกเย็น
    แต่ด้วยเหตุการณ์ ที่ต้อง ไปร่วมรู้เห็นเป็นใจในการทำแท้ง ของตัวพี่สาว
    จึงทำให้ตนนั้น โดน ไปด้วย

    เรื่องราวนี้ เกิดขึ้นไม่นานที่มะขิ่น นามสมมุติไปที่วัดเช่นเคย
    ด้วยเป็นคนที่ช่างสังเกต
    เห็นพี่ท่านทุกข์ใจมาก
    จึงได้ถามข่าวอย่างเป็นห่วง
    และได้รับทำตอบมาว่า
    คุณพ่อพี่เค้า ป่วยหนัก
    และพี่เค้าก็สงสารพ่อท่านมาก
    ที่ทำงานก็มีแต่คนแกล้ง โดนย้ายที่ทำงาน
    มะขิ่น นามสมมุติ จึงถามไถ่ ได้คำตอบ มาว่า
    พี่ท่าน เคยพาพี่สาวไปทำแท้ง
    โดยไปเป็นเพื่อน และ พี่สาวได้ทำแท้ง
    มาทั้งหมด ๕ ครั้ง
    ครั้งที่ ๕ พี่เค้าได้เป็นคนพาพี่สาวไปเอง
    เหตุการณ์นี้ จึงทำให้ มะขิ่น นามสมมุติ เห็น ว่า
    พี่เค้าได้รับผลข้างเคียง แต่ด้วย
    พี่มอ (นามสมมุติ) เองเป็นคนที่ใจบุญ
    จึงไม่เกิดที่ลูกๆ
    แต่มาเกิดภายในพี่น้องของตนเองแทน
    จากพี่ชาย และสามีเก่าได้เสียชีวิตกระทันหัน
    คุณพ่อ ล่มป่วย น้องสาวคนเล็ก ต้องถ่ายเลือดบ่อย จนกลายเป็นคนที่นิสัยรุนแรง
    พี่มอ(นามสมมุมติ)เล่าให้มะขิ่น(นามสมมุติ)ฟังว่า

    " ช่วงหลายอาทิตย์มานี้
    พี่จะทุกข์ใจมาก พี่โดนย้ายงาน
    มีคนแกล้ง สาระพัด แต่พี่เองก็ไม่ติดใจอะไร
    ใครแกล้งพี่พี่ก็แผ่เมตตาให้เสมอ
    และพยามคิดว่า เราคงเคยทำเค้ามาก่อน
    ไม่โกรธ ไม่แค้นเค้ากลับคืน "

    พอคุยเสร็จ มณีได้ถามถึงพี่สาวที่พี่เค้าได้พาไปทำแท้ง พี่มอ(นามสมมุติ)
    เลยตอบมะขิ่น(นามสมมุติ)มาว่า

    "พี่นึกเสียใจ ที่พี่ พาพี่สาวไปทำแท้ง
    มันไม่ดีเลย พี่กลัว เพราะกรรมการฆ่าคนมันสุดยอดของบาปแล้ว
    ก่อนหน้านี้ หลายอาทิตย์ พี่โทรหาพี่สาวที่
    อยู่ต่างประเทศเช่นกัน บอกให้เค้า
    มั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิบ้าง
    พี่สาวพี่ก็บอกทำไม่ได้ สวดมนต์ทีไรปวดหัว
    นั่งสมาธิไม่ได้ ปวดหลัง พี่ก็พยามให้เค้า
    อ่านหนังสือธรรมมะ พี่ส่งไปเสมอๆ
    โทรทุกวัน เสียตังแพงแค่ไหนก็โทร
    เพื่อให้เค้าได้ แก้ไขในสิ่งที่เค้าทำผิดมาด้วยความหวังดีของเรา "

    มะขิ่น(นามสมมุติ)ฟังจบ
    เลยตอบพี่เค้า อยากให้กำลังใจ
    และ บอกไปว่า

    " กรรมใคร กรรมมัน "
    เราเองเป็นเพียงผู้บอก ส่วนเจ้าตัวเค้านั้น
    ต้องเป็นคนที่จะต้องแก้ไขเอง
    เหมือนกับเราทำอาหาร ให้เค้า
    เค้าเองจะต้องเป็นคนตักเข้าปากและเคี้ยวกลืนเอง
    เราจะไปเคี้ยวและกลืนแทนเค้าก็ไม่ได้
    พี่มอ(นามสมมุติ)ได้เล่าให้มะขิ่น(นามสมมุติ)ฟังอีกว่า

    " หลังจากที่เค้าทำแท้งมา
    ชีวิตเค้าได้ตกต่ำมาก ป่วยมาตลอด
    และโดน ทำร้าย จิตใจมาตลอด
    เค้าไม่เคยมีความสุขในชีวิตเลย
    มีหนี้สินมากมาย มีแต่เรื่องเศร้า
    พี่สงสารมาก พี่อยากช้วย
    แต่เค้านั้นไม่ค่อยที่จะทำ
    เหมือนไม่ค่อยเชื่อเท่าไร"

    มะขิ่น(นามสมมุติ)เลยบอกตามคำเดิมว่า
    "กรรมใคร กรรมมัน "
    มะขิ่น(นามสมมุติ)เลยบอกพี่มอ(นามสมมุติ)ให้ทำตนเองให้ดีที่สุดในตอนนี้
    คือ ต้องแข็มแข็ง เพราะเรามีลูก มีครอบครัว
    หากเราไปทุ่มเทกับคนอื่นโดยที่ไม่ทุ่มเทที่ลูกเราอาจ
    จะล่มไปทั้งหมด จึงแนะนำให้พี่มัย
    สร้าง ทานบารมี เมตตาบารมีให้ได้มากที่สุด
    และสิ่งต่างๆ จะ คอยช้วยเหลือพี่มอ(นามสมมุติ)เอง
    พี่มอ(นามสมมุติ)ได้ถามมะขิ่น(นามสมมุติ)ถึงคุณพ่อที่ป่วย
    และเล่าอาการที่ป่วยของคุณพ่อให้ฟังว่า

    " พ่อพี่ท่านป่วยหนักมาก
    เมื่อครั้งเข้าไอซียู
    ท่านปวดหนักร้องเหมือน ควาย
    ที่ถูกทุบตี เมื่อครั้งสมัยท่านยัง สบายดี
    ท่านเคยทุบตี ควาย ที่ไถ่นา
    โดยมัดปากไม่ให้มันกินหญ้า
    และทุบตีมัน ทรมานมัน
    พอพี่มาเห็นท่านตอนนี้
    เลยนึกถึงสิ่งที่ท่านได้ก่อไว้
    น่ากลัวจริงๆ"

    มะขิ่น(นามสมมุติ)เลยแนะนำให้คุณพ่อพี่มอ(นามสมมุติ)ทำกุศล
    และขออโหสิกรรมบ่อยๆ
    และพี่มัยเอง หากทำกุศล
    ก็ โทรบอกคุณพ่อที่ไทย
    ให้ร่วมอนุโมทนาด้วยทุกครั้งไป การ ให้ทาน
    เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้ว
    หลังจากนั้น พี่มัยก็ได้ตั้งกองกฐิน ใหญ่โต
    น่าอนุโมทนาสาธุ มากๆ
    ด้วยใจที่เป็นมหากุศล
    ส่งผลให้พี่เค้าได้ช้วยให้คนในครอบครัว
    และ พี่น้อง พ่อแม่ ได้รับกุศล ตามๆกันไป

    ขออนุโมทนาสาธุด้วยคะ


    ////////////////////////////////////////////////
     
  4. ฝันนิมิต

    ฝันนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +547
    :'(....รับทราบคะป๋า....คงถอยลงคลองนานไปหน่อย :':)'(
     

แชร์หน้านี้

Loading...