ใครมีประสบการณ์เพระธาตุเพิ่มจำนวนไหมครับ

ปรกติทุกคืนผมจะสวดบูชาพระบรมสารีริกธาตุและสวด "ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก" ถ้าเป็นวันพระก็จะสวด"ธรรมจักรกัปปวัฒนสูตร" แต่ทุกครั้งอัญเชิญเทวดาก่อน และส่งกลับ ก็สังเกตุว่าขนาดของพระบรมสารีริกธาตุ มีขนาดใหญ่ขึ้นครับ..ไม่คิดว่าเพิ่มขึ้นเท่าไร

 

ขออนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ทุกๆท่านที่บอกกล่าว จึงทำให้อยากได้ด้วย จะพยายามปฎิบัติตามคำแนะนำครับ

 

เคยได้รับพระธาตุมา แต่ของดิฉันยังไมเพิ่มจำนวน แต่คุณแม่ของดิฉันท่านมีพระธาตุอยู่หลายองค์หลายแบบ แต่ของคุณแม่เพิ่มจำนวนคะ และมีขนาดขยายขึ้นด้วย

 

ของผมที่บ้านยังไม่เคยมีเพิ่มเลยครับ ชุดใหม่ที่ได้รับมาก็ไม่เคยได้เปิดดูอีกเลย ส่วนที่บ้านลุงผมเพิ่มจนจะเต็มผอบจนต้องแจกหรือถวายวัดไปหลายส่วน แต่ลุงกับป้าไม่เคยเห็นเลยว่าท่านเสด็จมาอย่างไร

ส่วนของผมเคยประสบกับเหตุการณ์ที่พระบรมสารีริกธาตุเสด็จอีกแบบ คือเป็นแบบที่ผู้คนสมัยก่อนทางภาคเหนือเขาเล่ากัน หรือที่เรียกว่า "พระธาตุเสด็จไปหากัน" ก็ขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ วัดพระพุทธบาทตากผ้า จังหวัดลำพูน ตรงที่ศาลาพระพุทธบาท ตอนนั้นผมบวชเป็นพระนวกะอยู่ในช่วงเข้าพรรษา วันหนึ่งประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆผมกับพระนวกะรูปอื่นกำลังเดินไปภาวนาที่วิหารแต่แยกกันมาไม่ได้มาพร้อมกัน พอดียังไม่ถึงเวลาผมจึงเดินไปที่ลานหินศิลาแลงค์บริเวณหน้าศาลาพระพุทธบาท ก็พบว่าหลวงพี่ตุ๊ (ปัจจุบันลาสิกขากันหมดแล้ว) รีบเดินเข้ามาหาผมด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ ว่าเขาเจอเรื่องประหลาด พร้อมกับบอกว่าเจอแสงอะไรไม่รู้ลักษณะเหมือนดาวบนฟ้าแต่สว่างจ้ากว่ามากลอยออกมาจากบริเวณรอยจีวรไปที่ศาลาพระพุทธบาท ผ่านหน้าผมไป ก่อนท่านมาพักนึง (ความจริงที่ว่าผ่านหน้านี่แกหมายถึงเห็นแบบจะจะ ซึ่งระยะห่างเกือบร้อยเมตร) ผมก็ตอบแกว่าพระธาตุเสด็จหรือเปล่า แกก็ว่าไม่รู้ แกว่าแกตะโกนเรียกเณรแต่เณรที่เดินผ่านทางนั้นไม่สนใจจะหันมาหา แสงก็เลยหายไป ..สักพักก็ดูดาวบนฟ้ากันก็พบว่ามีพระธาตุเป็นแสงไฟที่ความสว่างน้อยลงกว่าเดิมลอยอยู่บริเวณนั้นใกล้ๆกับศาลาพระพุทธบาท แต่แกก็ชี้บอกผมซึ่งส่งเสียงดังมากพอสมควร แสงก็หายไปทันที ผมก็เลยต่อว่าท่านว่าอย่าส่งเสียงดังสิท่าน อย่างนี้ท่านก็เห็นคนเดียวสิ.. แกก็ยกมือไหว้ขอขมาท่าน สักพักตาผมเริ่มชินกับความมืดแล้วมองดูก็พบว่ามีพระธาตุลอยสวนกันไปมาบนนั้นนับได้ 2-3 องค์ แต่ความสว่างไสวเป็นดวงโตๆไม่มีแล้ว จะสว่างแบบดวงดาวบนฟ้า เคลื่อนที่วนไปมาสวนกันบนฟ้าแถวๆบริเวณศาลาพระพุทธบาท ซึงองค์พระธาตุท่านจะค่อยๆลอยสวนกัน พอสวนกันทีก็ดูเหมือนจะค่อยๆลอยสูงขึ้นไปอีก แล้วก็ลอยมาสวนกันไปเรื่อยๆ สูงขึ้นไปเรื่อยๆจนมองไม่เห็น (หวังว่าคงจะพอนึกภาพตามได้) วันต่อมาผมลองสอบถามกับหลวงพ่อหลวงน้าในวัด ท่านก็ว่าอยู่มาตั้งแต่สมัยครูบาพรหมจักร ยังไม่เคยมีใครเห็นแบบนี้เลย ตกลงว่าในกลางพรรษานั้นตกลงว่ามีแค่ผมกับหลวงพี่ตุ๊เท่านั้นที่ได้เห็น แต่หลวงพี่ตุ๊แกว่าองค์แรกที่แกเห็น ลอยอยู่ต่ำประมาณหน้าจั่วศาลาวิหารพระพุทธบาทและสว่างจ้ามาก ประมาณดวงเท่ากำปั้น แต่พอแกตกใจส่งเสียงดังเท่านั้นก็หายไปเลย

ต้องบอกว่าผมนั้นบวชแล้วไม่ใช่พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอะไร ก็สำรวมในพระวินัยตามปกติและตามกำลังและเข้ากรรมฐานตามกิจและเวลาของทางวัด แต่หลายครั้งดูจะเคร่งเครียดกับพระวินัยจนเกือบจะเป็นบ้า ช่วงระยะเวลา 10 เดือนของการบวช มี 1 เดือนที่กำลังใจถดถอยทำชั่วไปบ้าง เรื่องพระบรมสารีริกธาตุจึงคิดว่าเป็นเรื่องอจินไตยที่ไม่อาจจะคิดหาคำตอบเอาเองได้เพราะคงเป็นเรื่องพุทธวิสัย ท่านจะแสดงอะไรก็คงเป็นวิสัยของท่าน เป็นเรื่องของท่าน แต่อย่างไรก็ขอให้ตั้งใจปฏิบัติดี ตั้งอยู่ใน ศีล สมาธิ ปัญญากันก็พอครับ

 

พระธาตุเสด็จมาที่รอบองค์มักรีผลครูบาย่ามดำครับ

 

ไม่ได้นับองค์พระธาตุน่ะค่ะ เลยไม่ทราบว่า
ท่านเพิ่มขึ้นหรือไม่ (ยิ่งไปนับท่านเราเองก็กลัวจะ
เป็นการปราสมาสพระด้วย) แต่พระธาตุขยายขนาด
ขึ้นแน่นอน ลักษณะเป็นปูดๆ ค่อยๆงอกออกตามมุม

คาถาที่สวดเพิ่มพิเศษก็มี "บทนมัสการและรวบรวม
พลังพระธาตุทั่วอนันตจักรวาล" ลพ.เกษม เขมโก
ขณะสวดก็ระลึกถึงบุญที่เราเคยทำตุงลอยฟ้า
ไหว้พระธาตุทั้งสามโลกน่ะค่ะ

 

ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ แปลว่า พระธรรมอันผู้บรรลุจะพึงรู้เฉพาะตัว
บูชาสิ่งที่ควรบูชา ผลที่ตามมาก็คือความสำเร็จทางใจ " จิตแลนั้นใสสะอาด จิตนั้นแลคือจิตที่หลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง "

 

เห็นด้วยนะครับ..เรื่องพระธาตุเสด็จ เป็นเรื่องอจินไตยครับผม

โดยส่วนตัว ได้รับพระบรมสารีริกธาตุครั้งแรกจากวัดสังฆทาน หลังจากนั้นเป็นต้นมา ก็มีเหตุให้ได้รับพระธาตุมาจากหลายแห่ง และได้แจกไปให้แก่ญาตธรรมไปหลายท่าน
แต่พบว่า พระธาตุท่านไม่ได้พร่องลงไป...ก็ยังฉงนใจอยุ่เหมือนกัน เพราะไม่เคยนับจำนวน

นอกจากนั้น ยังเคยพบว่า อัฐิฐาตุ และผงอังคารธาตุของพระเถระ เมื่อบุชาไปได้ปีกว่า ก็พบว่า ภายในผงอังคารธาตุนั้น มีวัตถุเป็นก้อนแข็ง เหมือนก้อนหินปรากฎอยู่่ คิดว่าน่าจะเป็นพระธาตุของพระเถระ

ครั้งที่จำไม่ลืมก็เมื่อไปกราบพระบรมสารีริกธาตุ และได้อฐิษฐานว่า เรานับถือพระรัตนตรัย เป็นสรณะ และเชื่อในพระบรมสารีริกธาตุ แต่ยังไม่เคยเห็นว่าพระธาตุเสด็จอย่างไร ขอได้โปรดมีพระเมตตาเสด็จมาอยู่ต่อเบื้องหน้าด้วยเถิด..พร้อมสวดพระคาถามหาจักรพรรดิถวาย..

หลังจากนั้น ไม่ถึง 10 นาที ก็มีพี่ที่มาด้วยกันเห็นพระธาตุเสด็จมาอยู่ข้างซ้าย และขวาของตัวเรา (ที่มั่นใจว่าเสด็จเพราะว่านั่งอยุ่บนพรมที่ไม่มีสิ่งใดตกอยุ่) แต่ก็มอบให้พี่ๆ อัญเชิญไป เพราะไม่ได้อฐิษฐาน..หลังจากนั้นไม่นานเกิน 5 นาที ปรากฏว่ามีสิ่งหนึ่งพุ่งกระทบใส่ฝ่ามือ.ประหนึ่งว่ามีคนขว้างของจากด้านบน ซึ่งแรงขนาดที่ว่า กระแทกใส่ฝ่ามือและกระเด้นใส่ในกระเป๋า..เมื่อค้น ก็พบว่า เป็นพระธาตุสีเหลืองใสครับ..

โมทนาบุญครับ...

 

อนุโมทนาสาธุกับทุกๆท่านด้วยครับ

ขอร่วมแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องของพระธาตุเสด็จมาด้วยคนนะครับ สำหรับผู้ที่สนใจใฝ่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ประการใด โดยใช้วิจารณญาณของแต่ละบุคคลเอง

สำหรับตัวกระผมเองนั้น ในจิตลึกๆไม่เคยสงสัยเกี่ยวกับเรื่องต่างๆทางด้านพุทธศาสนา รู้อย่างเดียวว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" ส่วนเรื่องของพระธาตุนั้นก็ไม่เคยมีความคิดสงสัยว่าเสด็จมาหรือได้กันมาอย่างไร แต่ก็รู้ว่าเป็นเรื่องจริงทั้งหมดเหมือนกับที่ทุกๆท่านในที่นี้กล่าวไว้ จนกระทั่งได้มาอ่านในกระทู้ของเว็บพลังจิตนี่แหละ ก็ทำให้เกิดความสงสัย(ความสงสัยเกี่ยวกับพุทธศาสนานี่ไม่ดีเลย) ใจนึงก็อยากพิสูจน์ อีกใจนึงกลัวได้มาแล้วบูชาไม่ดีก็เป็นบาปกับเราอีก จนกระทั่งวันหนึ่ง ก็ได้ข่าวจากเพื่อนว่า "พระธรรม" ได้ฝากของสิ่งหนึ่งเอาไว้ให้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร บอกแต่เพียงว่าเป็นก้อนเล็กๆสีเหลืองออกส้ม สวยดี เราก็คิดว่าเป็นพระธาตุนี่แหละ แต่ไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นแบบไหนก็เลยให้เพื่อนถ่ายรูปส่งมาให้ดู พอเห็นรูปก็ต้องยกมืิอขึ้นไหว้โดยทันที สิ่งนั้นก็คือพระธาตุนั่นเอง และเมื่อได้คุยกับพระธรรมก็เลยถามว่าสิ่งนั้นคืออะไร
พระธรรม "ก็ที่อยากได้ไม่ใช่หรือ"
ข้าพเจ้า "ตอนแรกก็อยากได้ แต่คิดไปคิดมากลัวบูชาไม่ดีเป็นบาปต่อตัวเองเลยไม่อยากได้"
พระธรรมก็เลยบอกต่อว่า "จะได้หายสงสัย"
ข้าพเจ้า "แล้วเอามาจากไหน"
พระธรรม "เอามาจากหลวงปู่ เลยเก็บเอามาให้"
ข้าพเจ้า "ไม่ได้หยิบมา โดยไม่บอกกล่าวนะ บาป"
พระธรรม "ขอหลวงปู่แล้ว หลวงปู่ให้"
ข้าพเจ้า "แล้วพระธาตุนี้ คืออะไร"
พระธรรม "เหงื่อของหลวงปู่"
ข้าพเจ้า "แล้วพระธาตุนี้มีเยอะหรือเปล่า"
พระธรรม "เยอะแยะ เหงื่อของหลวงปู่ไหลเป็นพระธาตุทั้งนั้น"
ข้าพเจ้า "หลวงปู่ก็มีเหงื่อได้ด้วย แปลกดี"
ข้าพเจ้า "แล้วสำหรับพระธาตุต่างๆที่เค้าได้กัน เค้าทำอย่างไรเค้าถึงมีได้"
พระธรรม "ก็ให้ตั้งจิตอธิษฐานเพื่อขอ เดี๋ยวพระธาตุก็เสด็จมาเอง"
ข้าพเจ้า "อ้อ เป็นแบบนี้นี่เอง"

*พระธรรม คือ ผู้ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องพระธรรม
*หลวงปู่ คือ หลวงปู่ทวด

สำหรับตัวผมเอง พอสรุปได้ว่า พระธาตุมี 2 ประเภทเหมือนกับที่คุณ tjs กล่าวคือพระอรหันต์ธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ การเสด็จมาของพระธาตุถ้าเป็นพระอรหันต์ธาตุจะมีผู้นำมาให้ เช่น เทวดา นางฟ้า เป็นต้น ส่วนพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาเอง เนื่องจากเป็นอจินไตทางด้านอิทธิฤทธิ์ พระธาตุที่แต่ละบุคคลจะได้รับผู้ที่ได้รับจะรู้ดีว่าเป็นพระธาตุขององค์ท่านใด เรียกง่ายๆว่า ใครนับถือองค์ใดก็องค์นั้นแหละ จะหนึ่งองค์หรือมากกว่า

สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ โดยที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้าด้วยเทอญ หากสิ่งใดที่เป็นบุญกุศลเป็นทาน ข้าพเจ้าขอมอบให้กับเจ้ากรรมนายเวรของผู้ที่สนใจในธรรมมะทุกๆท่าน ขอให้ครอบครัว ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร ครู อาจารย์ทั้งทางโลกและทางธรรม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง ๓ ภพภูมิ รวมทั้งผู้ที่ตกอยู่ในวิบากกรรมทั้ง ๓ ภพภูมิ เจ้ากรรมนายเวรของผู่ที่ตกอยู่ในวิบากกรรมต่างๆทั้ง ๓ ภพภูมิ พ้นจากวิบากกรรมต่างๆได้ไปสู่ยังภพภูมิที่ดียิ่งๆขึ้นไป และได้พบหนทางแห่งการปรินิพพานด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

ขออนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านะด้วยนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

คิดว่าความสงสัยที่น้อมไปในทางที่เป็นสัมมาทิฏฐิหรือเป็นความสงสัยที่จะน้อมให้เกิดปัญญา เป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ แต่ความสงสัยใดที่น้อมไปในทางมิจฉาทิฏฐิหรือเป็นความสงสัยที่น้อมให้เกิดอคติ เกิดโมหะ เป็นสิ่งที่ไม่ดีมีโทษมหันต์ครับ

 

กระทู้นี้เรากล่าวกันเรื่องการบูชา พระบรมธาตุ กล่าวกันเรื่องพระธาตุเสด็จ ทีนี้เมื่อเรามีไว้บูชา สักการะแล้วควร มีปัญญาอันชาญฉลาดในการสักการะบูชาคือ พระบรมธาตุเป็นของสูง เป็นองค์แทนแห่งพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอรหันต์ พระอริยะสาวก การจัดวางเพื่อการบูชาก็ต้องจัดวางไว้่ที่สูง การบูชาด้วยดอกไม้ธุปเทียน ทุกวันพระ และที่สำคัญที่สุดคือการ ปฏิบัติบูชา

เวลาเจริญสมาธิให้นำเอามาสร้างเป็นกรรมฐาน ให้เอาจิตเราไปเกาะอยู่กับภาพของพระบรมธาตุ ทำให้เกิดเป็นอุคหนิมิต และปฏิภาคนิมิต จนที่สุดจะบังเกิดหรือเห็นและรับรู้ได้ในพลังแห่งพุทธคุณอันวิเศษ

ให้ฝึกต่อไปด้วยวิปัสสนาญาณ นำสติและจิตตามดูตามรู้กายสังขารของคน จากกายเนื้อที่เป็นปัจจุบัน จนแก่ชรา มรณา ธาตุที่4ดับลงเสื่อมสลาย ซากศพของเราเป็นอย่างไร ไปจนถึงที่สุดเหลือเฉพาะกระดูก หรืออัฐฐิธาตุ มันเป็นอย่างไร

ให้ฝึกฝนตรงนี้ให้ชำนาญจนเกิดปัญญาในธรรมขั้นสูงได้ครับ ผลดีจะเกิดแก่จิตของเราเอง เพื่อการชำระจิตของเราให้มีปัญญาเพื่อความขาวสะอาดบริสุทธิ์ของจิตของตนครับ สาธุ

 

ผมได้พระธาตุมาจากอาจารย์ที่เคารพท่านหนึ่งและพี่ที่ปฏิบัติธรรมสองท่าน
ตอนนี้แบ่งให้น้องที่รู้จักไปไปห้าองค์ ผมเลยมาสังเกตที่องค์พระธาตุที่มีสีขาวมีลักษณะคล้ายดินกึ่งหิน
ซึ่งตอนได้มามีลักษณะกลมๆ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปคือ มีตุ่มๆ งอกจากวงกลมอออกมาสองสามด้าน แปลกจริงๆ งอกได้ด้วย

 

ไว้ว่างแล้วจะมาเล่าประสบการณ์ที่ได้รับด้วยตนเอง และลงรูปพระธาตุที่เสด็จมาที่รูปเคารพบูชาให้ชมกันครับ

 

ตรามรูป ของผมไม่แน่ใจใ ช่พระธาตุหรือเปล่า เสด็จมาเอง

ส่วนที่มีอยู่จะเปลี่ยนรูปร่างสัณฐาน ใสขึ้น แต่ไม่เพิ่ม

 

ใช่ครับ แต่ภาพไม่ชัดเลย อิอิ

 

ของผม มีพระบรมธาตุของพระสารีบุตร คือจะขาวกลมเหมือนไข่ ของพระโมคัลลานะสีน้ำตาลดำ ส่วนของพระสีวลี จะเป็นเหมือนก้อนกรวยไตกลมๆมีรอยหยักรอบๆเป็นผลึกสีขาวมีประกายสวยมากครับ กลับไปนครสวรรค์เมื่อไหร่จะถ่ายรูปมาให้ชมครับ

 

ภาพแรก พระบรมสารีริกธาตุสมเด็จพระกกุกสันโธพุทธเจ้า เดิมเสด็จมา ๑ องค์ ตอนนี้เท่าที่เห็น (ตอนไปถ่ายรูป) น่าจะเสด็จเพิ่มมาอีก ๕ - ๖ องค์
ภาพสอง เป็นพระธาตุที่ขอแบ่งจากท่านอื่นมา ตอนรับมามี ๙ องค์ ตอนนี้น่าจะเพิ่มมาพอสมควร มีขนาดเล็กมากครับ
ภาพสาม พระศรีอาริยะเมตไตรย วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) สังเกตเห็นสีขาว ๆ บริเวณเครื่องประดับท่าน เมื่อประมาณปลายเดือนมิถุนายน ๕๖
ภาพสี่ พระนางจามเทวี บูชามาจาก อนุสาวรีย์ แม่จามเทวี ลำพูน หลังจากบูชามาครบหนึ่งปี ก็มีพระธาตุเสด็จมาตามองค์ท่านทีละจุดจนมีหลายจุดในปัจจุบัน และมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ องค์ที่หลุดออกมา นำบรรจุตลับไว้ ก็องค์ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

 

แต่ก่อนผมได้มาเยอะเลยครับ..ตอนนั้นพี่ชายผมบวช...แล้วท่านบอกผมว่าได้พระธาตุมาเยอะเลย..ก็เลยนำมาให้ผม ผมก็รับไว้..แต่ตอนนั้นยอมรับว่าไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เลย..ศิล5 รักษาได้ 2 ข้อ นี่ก็สุดยอดแหละ..... ผมเก็บพระธาตุไว้ ก็ไม่ได้รักษา หรือสนใจดูแล...เพราะไม่ได้ใส่ใจตรงนี้เลย มาทุกวันนี้ ยังเสียดายไม่หาย ที่ได้ของดีแล้วไม่รู้จักรักษา เพราะท่านเสด็จหายไปไหนไม่รู้...ไม่น่าเชื่อว่าจะเสด็จหายไปหมดเลย ไม่มีสักเม็ด........

 

เคยเจอพระธาตุเสด็จไปครับ เป็นพระธาตุข้าว จากวัดพระบาทห้วยต้ม ครูบาชัยวงศาฯ
ผมได้มาตอนไปทำบุญและได้แบ่งไว้ที่ทำงานด้วย วันหนึ่งแบ่งให้น้องที่ชอบทำบุญ ให้เขาเปิดแล้วหยิบเอาได้ตามใจชอบ ผมนั่งดู วางบนโต๊ะทำงาน ขณะน้องเขากำลังหยิบใส่ห่อกระดาษ มีเม็ดหนึ่งหลุดมือเขาหยิบจากผอบแก้วที่สูประมาณ ๒ นิ้ววางบนโต๊ะตรงกลางโต๊ะ และพระธาตุที่หลุดมือตกลงบนโต๊ะแล้วเด้งขึ้นแล้วจะตกลงอีกแต่คราวนี้ก่อนถึงพื้นโต๊ะทำงานหายไปกับตาเฉยเลย ไม่มีเสียงกระทบกับพื้นโต๊ะและหายแวปเร็วมาก ทั้งที่ทุกอย่างเกิดขึ้นที่กลางโต๊ะทำงาน..พระธาตุก็ขนาดประมาณเม็ดถั่วเขียว ถือว่าขนาดพอได้ ผมนั่งดูเหตุการณ์ทุกขั้นตอนเลยจึงเห็นกับตา น้องเขาเองก็งง บอกว่าเป็นไปไม่ได้ต้องตกกระทบกับโต๊ะอีกครั้ง(คือเด้งขึ้นลงจนกว่าแรงตกกระทบจะค่อยๆเบาและหมดไปแล้วต้องอยู่บนโต๊ะ) ไม่รู้จะว่ายังไงครับเห็นกับตา ไม่ได้กระพริบตาเลย หาทั้งหอ้งใต้โต๊ะ บนโต๊ะ ไม่มีเลย ...สงสัยเทวดาท่านขอนิมนต์..ไว้สักการะบูชา

 

สมาชิกใหม่

ขอบคุณมาก เป็นนักเรียนใหม่ขอคำแนะนำด้วยความรู้น้อยมากค่ะ