รวมพระเครื่องและวัตถุมงคล หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา

<TABLE class=tborder id=post793257 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>hero_ultra<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_793257", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 06:11 PM
วันที่สมัคร: Jul 2006
ข้อความ: 65 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 68 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 542 ครั้ง ใน 66 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 76


</TD><TD class=alt1 id=td_post_793257 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->นอกเรื่องนิดนึง ไปงานกฐินว้ดวันที่ 4 พย .ที่ผ่านมา เจอลูกศิษย์เก่าๆหลายคน บางคนก็ร่วงโรยไปตามสังขาร บางคนสมัยเมื่อก่อนก็ชอบทำวัตถุมงคลมาถวายครูบา คณะศรัทธาลูกศิษย์ใหม่ๆมาทำบุญกันเยอะ งานต่างๆของครูบาก็สำเร็จลุล่วงไปมาก แต่ก็ยังมีงานที่ค้างคาอีกหลายอย่าง

ขอให้ท่านที่มีจิตศรัทธาได้มีโอกาสทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์โลกะวิทู(โค๊ะพะโด๊ะ) ที่อำเภอ อมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่กัน ตามคำสั่งของครูบาท่าน

ตอนมีชีวิตอยู่ท่านเคยสั่งไว้ ลูกศิษย์ก็ไปหาตำแหน่งที่ท่านบอก เจอซากกองเจดีย์ เหมือนเนินดิน ตามที่ท่านบอก

ท่านมอบพระธาตุไว้กับหลวงพี่ ไม่ได้ถามครูบาว่าเป็นพระธาตุอะไร ท่านสั่งเอาไว้ถ้าสร้างเจดีย์ให้เอาบรรจุไว้ด้วย ตอนจะสร้างเจดีย์ขุดพบพระธาตุในเจดีย์เดิมด้วย เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปพระธาตุต่างๆเอาไว้ .....(ผมโพสรูปไม่เป็นด้วย)

ครูบาท่านว่าเจดีย์โลกะวิทูนี้ สร้างมาตั้งแต่ก่อนสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช

เป็นเจดีย์พ่อ เจดีย์แม่ แห่งเจดีย์ทั้งหลายในล้านนาเลยทีเดียว

เห็นลูกศิษย์หลายๆคนที่แก่ไปทุกทีก็ยิ่งทำให้พยายามเขียนเรื่องราวของท่านเอาไว้ วันหลังตายไปจะได้เป็นประโยชน์กับลูกศิษย์รุ่นหลังๆ
<!-- / message --><!-- edit note --></TD></TR></TBODY></TABLE>
...................................................................................

 

<TABLE class=tborder id=post795451 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>hero_ultra<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_795451", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 06:11 PM
วันที่สมัคร: Jul 2006
ข้อความ: 65 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 68 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 542 ครั้ง ใน 66 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 76


</TD><TD class=alt1 id=td_post_795451 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เรื่องพระมหากัสสปะ....

ได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรกตอนสมัยที่ไปทำธุระให้ครูบากับตุ๊กร ตั้งแต่วัดพระบาทดอยถ้ำ ยังไม่ได้สร้าง

ตุ๊กรท่านเล่าว่า ครูบาเคยบอกเรื่องพระศพของพระมหากัสสปะอยู่บนเขาแห่งหนึ่ง และรอให้พระศรีอาริยเมตไตรย์มาเผาพระศพของท่าน

แต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจ ตั้งใจจะมาถามครูบาแต่ภายหลังลืมเรื่องนี้ไป ได้มาเจออีกทีในบันทึกของคุณพี่แน่งน้อย

ซึ่งครูบาก็บอกเรื่องนี้ไว้ตรงกับที่ผมเคยได้ยินมาและผมก็บันทึกไว้เช่นกัน ขอนำเอาบางส่วนจากบันทึกของคุณพี่แน่งน้อยมา

จากบันทึกคุณแน่งน้อย ธีระชาติ..ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน วันที่22-31 มีนาคม พศ.2539

ความเป็นมา
พระเดชพระคุณหลวงพ่อครูบาชัยวงศ์ ได้เล่าให้ฟังว่าพระเขี้ยวแก้วขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน 4 องค์ นั้น

องค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ที่ดาวดึงส์เทวโลก องค์หนึ่งอยู่ที่บาดาลพิภพ
องค์หนึ่งอยู่ที่เมืองแคนดี้ประเทศลังกา
องค์หนึ่งอยู่ที่ประเทศจีน

สำหรับมนุษย์โลกมี 2 แห่ง ที่ศรีลังกา นั้น
เราได้ไปนมัสการมาแล้ว เมื่อปี พ.ศ.2536 และ พ.ศ.2537 เหลืออีกแห่งหนึ่งที่ประเทศจีน เราก็ควรจะต้องไป

นอกจากนี้หลวงพ่อยังได้เล่าเรื่องจีนฮ่อให้ฟัง และบอกว่าพระศพของพระมหากัสสปะ พระมหาสาวกผู้เป็นเลิศทางธุดงค์ ได้ประดิษฐานอยู่ ณ ภูเขาแห่งหนึ่งที่เมืองจีนฮ่อนี้ เพื่อรอให้สมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรย์ มาเผาพระศพของท่าน และอาณาบริเวณนี้เป็นเขตที่ท่านปกปักรักษาอยู่

ข้อมูลเหล่านี้ เมื่อฟังแล้ว ก็อดที่จะตื่นเต้นมิได้ ข้าพเจ้าคิดว่าถ้าไปเมืองจีนแล้ว ก็ควรจะต้องไปนมัสการพระมหากัสปะด้วย จึงเริ่มซักถามรายละเอียดจากหลวงพ่อได้ความว่า

ภูเขาลูกนี้ บนยอดเขาเป็นรูปเต่า มีหน้าผาตัดตรงผามีชง่อนหินยื่นออกมา

ณ ที่นั้นเป็นที่ประดิษฐานพระศพของท่าน และที่นี้ "ขึ้นไม่ได้ ลงไม่ได้"

ปัญหาของข้าพเจ้าก็คือ จะไปหาภูเขาลูกนี้ในดินแดนที่กว้างใหญ่ไพศาลของประเทศจีนได้อย่างไร มีผู้แนะนำว่าให้ไปถามที่หมู่บ้านจีนฮ่อที่ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย

วันที่23ตุลาคม พ.ศ.2538 คณะสำรวจของเรา4คน เดินทางไปหมู่บ้านสันติคีรี ที่ดอยแม่สลอง เมื่อไปถึงก็เป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว เราพักที่รีสอร์ทของนายพลต้วน คุ้มนายพล เราเริ่มออกเดินสำรวจ มองหาคนจีนที่สูงอายุสักหน่อย ในที่สุดก็เข้าไปถามชายผู้หนึ่งเรื่องเมืองจีนฮ่อ พร้อมกับเอาแผนที่ประเทศจีนให้เขาดู เผอิญเขาเป็นนายทหารเก่า ชำนาญการดูแผนที่ เขาชี้ให้ดูว่าอยู่ในมณฑลยูนนาน บริเวณเมืองคุนหมิง

ถามเรื่องภูเขาที่หลวงพ่อบอก เขาไม่แน่ใจว่ารู้จัก พอดีค่ำมากแล้ว เราจึงกลับที่พัก รุ่งขึ้นเช้าคณะเราออกเดินช้อปปิ้งตามร้านค้าต่างๆ ข้าพเจ้ามองๆ ดูเจ้าของร้านแต่ละร้าน ว่าคนไหนจะพอตอบคำถามของข้าพเจ้าได้บ้าง

ในที่สุดเข้าไปถามชายคนหนึ่งว่ามาจากเมืองจีนใช่ไหม เขาตอบว่าใช่ ก็เลยถามเรื่องเมืองจีนฮ่อ เขาพูดไทยไม่ได้มากนัก แต่เผอิญมีคนมาซื้อของพูดภาษาไทยได้ดี จึงเป็นล่ามให้

ข้าพเจ้ากางแผนที่ออกเช่นเคย ถามเรื่องภูเขาบรรยายลักษณะให้ฟัง มหัศจรรย์มาก! เขารู้จักทันทีบอกว่าอยู่ใกล้บ้านของเขาเอง

ที่เมืองต้าลี่ ภูเขาชื่อ จี้สูซาน แถมยังเล่าประวัติว่าในอดีตมีจิตรกรผู้หนึ่งปีนขึ้นไปเขียนโคลงกลอนบนหน้าผา พอถึงวรรคสุดท้ายก็พลัดตกลงมาพอดี

เราขอบคุณและอำลาเขาแล้ว ก็กลับมาเล่าให้หลวงพ่อฟังที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม หลวงพ่อก็บอกว่า ใช่แล้ว

จี้..หมายถึงพระมหากัสปะ และหลวงพ่อยังเล่าต่อว่า แผ่นหิน ที่จิตรกรคนนั้นขึ้นไปเขียนโคลงไว้ ได้ถูกลมพายุพัดลงทะเลไปแล้ว
...
...
ศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ.2539
รุ่งขึ้นเช้าข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่าจะหาหน้าผาที่หลวงพ่อบอกได้ที่ไหน ออกเดินสำรวจบริเวณ ที่แท้ใกล้บริเวณที่เราพักเป็นศูนย์กลางของวัดจู้เซิงซือ เดินผ่านซุ้มประตูเข้าไปจัดการตกแต่งบริเวณไว้สวยงามมีเก๋งจีน บ่อน้ำ เดินขึ้นบันไดไปเป็นลานไม่กว้างมานักมีวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูป

มองออกไปทางด้านขวา เห็นหน้าผาตัด และยอดเขาเป็นรูปเต่า! ใช่แล้วที่หลวงพ่อบอก ข้าพเจ้ารีบไปบอกเพื่อนฝูงด้วยความยินดี ถ้าเราไปค้างคืนบนที่พักที่จองไว้เดิมก็คงไม่พบสถานที่นี้ พวกเราช่วยกันหาโต๊ะมาวางหันหน้าไปทางหน้าผาตั้งเครื่องบูชา มีกล้วย อ้อย ดอกไม้ ธูปเทียน ผ้าไตรจีวร ตุงผ้า2ผืน

หลวงพี่โอ(วัดท่าซุง)กล่าวนำบวงสรวง แล้วเราสวดวันทาหลวง และสมาทานพระกรรมฐานตามแบบของหลวงพ่อครูบาวงศ์ นั่งสมาธิประมาณ15นาที เป็นเสร็จพิธี.....

พอดีมีลูกศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านโพสข้อมูลเรื่องนี้ไว้ตรงกัน

หลวงพ่อ หลวงปู่ ที่เป็นพระแท้ทั้งสองท่าน พูดไม่มีสิ่งใดผิดเพี้ยน พิสูจน์ได้ตรงตามที่ท่านว่าทุกประการ

ยังมีเรื่องอื่นๆในบันทึกของผมที่ครูบาท่านเคยพูดเคยสอนไว้หลายอย่าง พวกความรู้นอกตำรา ถ้าเวลาอำนวยจะมาเขียนเพิ่มเติมครับ...
<!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
...................................................................................

 

พี่มหาหินถ่ายเองหรอครับสวยจัง

 

วันอาทืตย์นี้ผมก็จะเข้าไปกราบครูบาเหมือนกันครับ

 

ขอร่วมแสดงวัตถุมงคลด้วยนะครับ
1.มีดหมอ ปี 2534
2.เหรียญรุ่นแรกที่ท่านเมตตาจารให้

 

ส่วนเหรียญนี้ห้อยคอ ติดตัวผมตลอดเวลาครับ บล็อคข้าวต้ม(b-deejai)

 

วัตถุมงคลของหลวงปู่ครับ(b-deejai)

รูปหล่อบูชา นั่งธรรมมาสครับ

 

รูปหล่อ กะไหล่ทอง องค์เล็ก บรรจุ พระธาตุครับ (b-deejai)

 

เหรียญรุ่น แรก บล็อคข้าวต้ม ครับ(b-deejai)

 

รูปหล่อออกปี 2539 รุ่นสร้างพระธาตุศรีเวียงชัยครับ (b-deejai)

 

เหรียญรุ่น แรก บล็อค ข้าวตม ครับ(b-deejai)

 

ปลาตะเพียนมหาลาภ (b-deejai)
-หลวงปู่ได้ออกแบบเองครับ
-ข้างในบรรจุจีวรใว้

 

พระผงสี่เหลี่ยมใหญ่รุ่นแรกครับ(b-deejai)

 

รูปไม่ขึ้นซะงั้น

 

พระผง 400 ชีวิต รุ่นแรกครับ(b-deejai)

 

พระรอดชานหมาก ฝังพระธาตุข้าว ครับ(b-deejai)

 

พระสี่เหลี่ยมรูปเหมือน เนื้อชานหมาก หลังติดเกษา ครับ(b-deejai)

 

มีดหมอรุ่นแรก ปี 2534 ครับ(b-deejai)

 

เต่าสำลี (b-deejai)
-ด้านข้างฝังพระธาตุข้าว
-ด้านในบรรจุเกษาครับ

 

แล้วก็ เต่าสำลี ครับ (b-deejai)