ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ทิพยจักขุญาณอย่างอ่อน จะมาในรูปภวังค์ค่ะ..

    เป็นเรื่องในอดีตชาติ สถานที่คือ หุบเขาชะนีที่กำลังจะเดินทางไปค่ะ หากย้อนดูประวัติของพระเกษรีฤาษีนั้น


    ย้อนไปก่อนสมัยพุทธกาลของสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า สถานที่นี้ คือ สถานที่พระเกษรีฤาษีเคยอุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้า ๕๐๐ พระองค์ โดยมีพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า เป็นหัวหน้า


    ย้อนไปนานกว่านั้น นานกว่าสองอสงไขย สถานที่นี้ เป็นสถานที่พระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง เมื่อระลึกได้ว่า ปรารถนาพุทธภูมิ เกิดความเบื่อหน่ายในการบำเพ็ญพระสัมมาสัมโพธิญาณ จึงลาพุทธภูมิ อธิษฐานขอบำเพ็ญบารมีเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า

    และท่านผู้นั้น ได้สำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ก่อนสมัยพุทธกาลของสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า มีพระนามว่า พระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า


    การอธิษฐานลาพุทธภูมินั้น สั่นสะเทือนจนถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ นางฟ้าคู่บารมีมาร่ำไห้ จากนั้นได้ตั้งความปรารถนาเป็นพุทธภูมิเสียเอง กาลนั้นมีช่างแกะสลัก ผู้หนึ่งได้เห็นเหตุการณ์เกิดความศรัทธาในเทพธิดาองค์นั้น จึงได้แกะสลักไม้เป็นรูปแกะสลักเทพธิดานั้น เป็นเครื่องระลึกถึง นางฟ้าองค์นี้จึงให้พรแก่ช่างแกะสลักให้มีบุญวาสนา ก่อนที่นางจะกลับสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อบำเพ็ญเป็นพุทธภูมิต่อไป


    กาลต่อมาเจ้าเมือง ๆ นั้นสวรรคตไม่มีพระโอรสสืบบัลลังก์ มีแต่พระราชธิดา ส่งราชรถออกตามหาผู้มีบุญญาธิการ ม้าราชรถได้มาหยุดที่บ้านของช่างไม้ผู้นี้ ต่อมาช่างไม้ผู้นี้ได้อภิเษกสมรสกับพระธิดา ครองเมืองอย่างมีความสุข

    เจ้าเมืองใหม่ หรืออดีตช่างไม้ เห็นคุณของนางฟ้าผู้นี้ ทำที่ประดิษฐานรูปปั้นของนางไว้ให้ผู้คนกราบไหว้ขอพร เมื่อสิ้นอายุขัย เสด็จสวรรคตไปอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์มีวิมานใกล้กันกับเทพธิดาที่ให้พร



    ยุคต่อมาผ่านไปหลายพันปี ผู้คนล้มตาย เมืองนั้นล่มสลาย กลายเป็นป่า....

    ภาพที่เห็นเป็นผู้ชายขุด ตรงนั้นจะสร้างเป็นเมืองใหม่ แล้วพบรูปแกะสลักดังกล่าว...


    คุณเอ๋ -จันทรกาล เกิดเป็นพระธิดาของเจ้าเมืองนี้ค่ะ ท่านเจ้าเมืองมีพระมเหสีหลายพระองค์ และมีพระสนมมากมาย คล้ายสมเด็จรัชกาลที่ ๕ ของเราในยุคนี้ค่ะ

    อ้อ..ลืมไปค่ะ คุณ phuya และพี่ Numsai เกิดเป็นลูกพ่อเดียวกัน แต่คนละแม่ค่ะ

    อีกเรื่องหนึ่ง กลุ่มควันที่เห็นนั้น เรื่องของเทพสังหรณ์ คือ แม่ในอดีตมาโมทนาบุญกับคุณจันทรกาล ซึ่งคุณเอ๋ เคยเกิดในบริเวณนั้นมาหลายชาติค่ะ

    ตอนที่คุณฝึกให้ไปกราบท่านพ่อ ท่านแม่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น ท่านเหล่านั้นก็มา แต่เราจำท่านไม่ได้

    วันนี้ก่อนเดินทาง ขอให้คุณเอ๋ ตั้งจิตอธิษฐานรวมบุญ น้อมถวายบุญแก่พ่อแม่ในอดีต จนถึงปัจจุบันให้ท่านมาโมทนาบุญถวายเทียนพรรษา ๓ วัดนี้

    ซึ่งทั้ง ๓ วัดนั้น มีเทวดาบอกว่า ล้วนแต่เป็นวัดที่มีพระอริยเจ้าจำพรรษาอยู่ทั้งนั้น


    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2013
  2. ส้มจุก

    ส้มจุก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +1,054
    ได้โอนเข้าบ/ช 500บาทขอร่วมบุญถวายเทียนพรรษาด้วยค่ะ
    ขออุทิศผลบุญกุศลถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา อาจาริยบูชา บิดามารดา ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย เทพ พรหมทั้งหลาย ท่านผู้มีอุปการคุณทั้งหลาย ตลอดจน สรรพสัตว์ที่เกิดร่วมโลกทั้งหลาย ขอท่านทั้งหลายได้โปรดมาอนุโมทนาด้วยกันทุกท่านเทอญ

    ขออนุโมทนากับทุกท่านโดยเฉพาะคุณน้ำใสและคุณphuyaด้วยนะคะ

    (ไม่ค่อยมีโอกาสไปร่วมบุญด้วยเลย เพราะติดภาระที่บ้าน หวังว่าสักวันจะมีโอกาสได้ไปซักครั้งค่ะ)
     
  3. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    จันทรกาล ร่วมทำบุญถวายเทียนพรรษา และเครื่องบริวาร ถวาย 3 วัด เพิ่มอีก 300 บาท

    ขออุทิศผลบุญให้กับท่านพ่อ ท่านแม่ ตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบัน ทุกๆท่าน ขอให้ท่านจงมาร่วมโมทนาบุญนี้ ด้วยเถอะ และขอฝากบุญนี้กับท่านพยายมราช ถ้าหากได้พบ ท่านพ่อ ท่านแม่ ขอท่านช่วยบอกท่านพ่อ ท่านแม่ให้โมทนาบุญนี้ด้วยเถอะ สาธุ สาธุ สธุ

    จันทรกาล
     
  4. kit_por

    kit_por เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +1,341
    วันที่ 18 ก.ค. 56 เวลา 15.46 น. โอนเงินเข้าบัญชี 036-7-152345 ร่วมทำบุญถวายเทียนพรรษา และเครื่องบริวาร ถวาย 3 วัด จำนวน 100 บาทค่ะ
     
  5. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    กราบอนุโมทนาบุญ...พี่น้ำใสที่บอกเล่าเรื่องราวเป็นธรรมทาน ก่อนการเดินทาง เหมือนย้อนเวลาหาอดีตเลยค่ะ​

    " อดีตเป็นเรื่องราวที่ผ่านไปแล้ว เอาไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่าที่ผ่านมาทำอะไรที่ไม่ดีเอาไว้บ้าง จะได้ซ่อมแซมได้อย่างถูกต้อง ในชาตินี้ค่ะ "​


    เชิญร่วมกันอนุโมทนาบุญกับยอดเงิน ร่วมบุญถวายเทียนพรรษา ๓ วัด พร้อมชุดไทยธรรมค่ะ ...
    รวมทั้งสิ้น ๒๖,๔๗๓.๓๘ บาท


    [​IMG]

    มีค่าใช้จ่ายบางรายการที่ยังจัดหาได้ไม่ครบ หลังจากสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดเหลือเงินเท่าไหร่จะแบ่งเป็น ๓ กอง เพื่อชำระหนี้สงค์ให้กับแต่ละวัดค่ะ อนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวล....คิดหวังสิ่งใดขอให้สำเร็จโดยเร็วพลัน สาธุ
     
  6. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    แสดงรายการโอนเงินในบัญชีธนาคารค่ะ

    [​IMG]
     
  7. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    สาธุ สาธุ สาธุ

    ไม่น่าเชื่อว่า เพียง ๓ วันจะมีผู้ร่วมบุญถึง ๒๖,๔๗๓.๓๘ บาท

    ขอความคล่องตัว และความเจริญในธรรมจงบังเกิดแก่ทุก ๆ ท่านค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  8. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ก่อนเดินทางขอนำประวัติดวงแก้วสัตยาธิษฐาน-แก้วสุขุมาลย์มณีฤทธิ์..ต่อค่ะ..

    ความเดิมเจ้าชายสัจจธิราชได้เดินทางออกแสวงหาครูบาอาจารย์ได้ไม่นาน ปรากฏมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายในเมืองสุขะปุระ โดยพระเจ้าอทิตตราช กษัตริย์ต่างแคว้นกำลังจะยกทัพมาตีเมือง

    พระเจ้าสัตยาธิราชนั้น ได้ตัดสินพระทัยยกเจ้าหญิงวิสุทธารา และทรัพย์สมบัติ ๑ ใน ๓ ให้แก่พระเจ้าอทิตตราช เพื่อเป็นการผูกมิตรไมตรี และไม่ต้องเสียเลือดเนื้อทหารในการสู้รบ พระเจ้าอทิตตราชนั้น พึงพอใจพระทัย เนื่องจากพระองค์ประสงค์จะมีพระโอรส-ธิดา ทั้งที่มีพระมเหสีถึง ๒ พระองค์ ก็ไม่มีรัชทายาทมาสืบบัลลังก์

    การมีพระมเหสีองค์ที่ ๓ เป็นความหวังใหม่ของพระองค์ และพระองค์ไม่ผิดหวัง หลังอภิเษกสมรสได้ไม่นาน พระนางวิสุทธาราก็ประสูติพระโอรส-ธิดา คู่แฝดแก่พระเจ้าอทิตตราช หลังจากพระโอรส-ธิดาแฝดประสูติมา พราหมณ์ทั้ง ๘ ทราบเหตุล่วงหน้า จึงได้ลาออกจากราชการพร้อมกัน ต่อมาพระนางวสุนทรีย์ได้พาชาย ๘ คนที่พอมีความรู้ทางโหราศาสตร์มาบ้าง เข้ามาสวมรอยเป็นพราหมณ์ทั้ง ๘ ทันที

    ต่อมาพระเจ้าอทิตตราทรงปฏิบัติต่อพระนางวิสุทธาราอย่างดี เป็นเหตุให้พระนางวสุนทรีย์ - พระมเหสีองค์ที่ ๒ ของพระเจ้าอทิตตราชไม่พอพระทัย หาทางใส่ร้ายกลั่นแกล้งพระนางวิสุทธารา และพระโอรส-ธิดา ตลอดเวลา หลังจากพระโอรสธิดา จนกระทั่งอกุศลกรรมได้ช่อง พระเจ้าอทิตตราชทรงนิมิตอย่างหนึ่ง พระนางวสุนทรีย์จึงใส่ร้ายผ่านการทำนายดวงชะตา พระนางวิสุทธารา จะเป็นผู้นำความรุ่งเรืองมาให้ แต่ต้องบูชายัญสัตว์ ๕ ชนิดคือ วัว ควาย แพะ แกะ และไก่อย่างละ ๕๐๐ ตัว

    ระหว่างการฆ่าเพื่อบูชายัญนั้น พระนางวิสุทธาราทรงเศร้าพระทัยยิ่งนัก จึงอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เกิดฟ้าผ่าขึ้นมา ชายทั้ง ๘ ในร่างพราหมณ์เกิดกลัว จึงหนีออกจากพิธี ความจึงแตก พระนางวสุนทรีย์เกรงอาญาฐานหลอกลวงพระราชา จึงหนีทางน้ำ ด้วยผลกรรมส่งผลให้พระนางเรือร่ม จมน้ำตาย ลงนรกในยมโลกทันที พระเจ้าอทิตตราชทรงสำนึกผิดได้ตั้งตนรักษาศีล ๕ แต่นั้นมา

    ต่อมาพระองค์ได้เดินทางไปเมืองสุขะปุระพร้อมพระนางวิสุทธารา และพระเจ้าสัตยาธิราชได้รับพระองค์ และพระนางสุชาดา พระมเหสีองค์ที่ ๑ เป็นบุตรบุญธรรม บ้านเมืองจึงสงบสุขเรื่อยมา

    ตอนต่อไปจะได้กล่าวถึงเจ้าชายสัจจธิราช ซึ่งไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเมืองของตนเลย ทรงเพียงการแสวงหาครูบาอาจารย์ตลอดเวลา จิตใจมิปรารถนาจะครองราชย์ต่อไป...
    ____________________________________________

    ประวัติดวงแก้วสัตยาธิษฐาน-แก้วสุขุมาลย์มณีฤทธิ์ ตอน ๑๗ พระเกษรีฤาษี –ผู้เลิศด้วยอภิญญา ๕

    เมื่อเจ้าชายสัจจธิราชได้เดินทาง พร้อมทหารคนสนิทมีนามว่า “สิริจันทะ –อัครราช” จนกระทั่งพบถ้ำในนิมิตที่เห็นในนิมิต ทราบว่า ปากทางเข้าถ้ำถูกปิด โดยผู้มีฤทธิ์ทั้งหลาย จึงได้ตั้งสัจจอธิษฐานว่า...

    “ในชาตินี้ หากลูกมีบุญวาสนาที่จะมีพระอาจารย์สอนวิชาต่าง ๆ ให้ ขอให้ปากทางเข้าถ้ำจงเปิด”

    ขณะนั้นได้ปรากฏมีพระฤาษีตนหนึ่ง มีผมขาว หนวดเคราขาว แต่รูปร่างหน้าตายังหนุ่ม เหาะมาจากนภากาศมาลงต่อหน้าเจ้าชายสัจจธิราช และกล่าวว่า...

    “สัจจธิราชเอ๋ย เจ้ายังไม่มีบุญจะเข้าไปดินแดนนี้ได้หรอก เพราะเจ้ายังไม่ได้อยู่ในเพศนักบวช หากเจ้ายอมสละราชสมบัติต่าง ๆ เพื่อออกบวช และต้องบำเพ็ญเพียรจนถึงขั้นหนึ่ง จึงจะเข้าไปแดนนั้นได้”

    เจ้าชายสัจจธิราชรู้สึกศรัทธาพระฤาษีตนนี้ ตั้งแต่แรกพบ คิดว่า ผู้ที่ทราบนามเราได้ คงเป็นพระอาจารย์ปู่เป็นแน่ จึงได้พากันก้มกราบลงตรงพื้นดิน และตรัสว่า...

    “พระอาจารย์ปู่ใช่มั๊ยขอรับ ทราบจึงทราบนามกระผม”

    พระฤาษีจึงได้แย้มเล็กน้อย และตรัสว่า ...

    “เราคือ เกษรีฤาษี ผู้เป็นพระอาจารย์ของอัสดงฤาษี รอคอยการเกิดของเจ้ามานานแล้วนะ เจ้าเกิดมาชาตินี้ เพื่อศึกษาวิชาการทรงอิทธิบาท หากเจ้าจะเรียนวิชานี้ได้ต้องออกบวชเท่านั้น

    เจ้าชายสัจจธิราชเองก็มีความรู้สึกเช่นนั้นตั้งแต่ยังเป็นพระกุมาร แต่มิกล่าเอ่ยปากแก่พระบิดา จึงเก็บซ่อนความในใจไว้ ทรงคิดอุบายออกเดินทางแสวงหาครูบาอาจารย์ เพื่อให้พระบิดาทรงอนุญาต จากนั้นก็จะทรงออกผนวช

    เมื่อได้ฟังดังนั้น ก็ทรงปิติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง ก้มกราบพระเกษรีฤาษี และตรัสว่า ..

    “ข้าฯแต่พระอาจารย์ปู่ ลูกจะออกบวช และตั้งใจศึกษาวิชาขอได้โปรดรับลูกเป็นศิษย์ด้วยเถิด”

    พระเกษรีฤาษีได้ฟังดังนั้น จึงกล่าวว่า..

    “ช้าก่อน เจ้ามีบิดามารดา การบวชจะต้องขออนุญาตบิดามารดาของเจ้าก่อน เจ้าทั้งหมดจงจูงม้า และหลับตา หากอาจารย์ปู่ไม่อนุญาตให้ลืมตา ห้ามลืมตาโดยเด็ดขาด ห้ามถาม ห้ามพูด ทำใจนิ่ง ๆ อย่างเดียว เมื่อบอกให้ลืมตาแล้ว ค่อยทำเข้าใจมั๊ย”


    เจ้าชาย และทหารคนสนิทต่างรับปากเป็นอย่างดี ครั้นแล้วพระเกษรีฤาษีทรงร่ายมนต์ใช้อภิญญาพาบุคคลทั้ง ๓ พร้อมม้า มาปรากฏยังอุทยานของพระเจ้าสัตยาธิราชในทันที...
     
  9. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วสัตยาธิษฐาน-แก้วสุขุมาลย์ฯ ตอน ๑๘ เจ้าชายสัจจธิราชประสงค์ออกผนวช..

    ครั้นบุคคลทั้ง ๔ อันมีพระเกษรีฤาษี ปรากฏยังอุทยานของพระเจ้าสัตยาธิราช มีเสียงคล้ายแผ่นดินไหวสั่นสะเทือนไปทั่ว เสียงนี้รับรู้ไปถึงพระราชวังของพระเจ้าสัตยาธิราช พระองค์จึงรีบเสด็จมายังอุทยานของพระองค์ทันที


    ครั้นมาถึงก็รู้สึกประหลาดพระทัยที่พบพระโอรส และทหารคนสนิททั้งสอง พร้อมพระฤาษีอีกหนึ่งตน ลักษณะของพระฤาษีนั้น พระเจ้าสัตยาธิราชทรงรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด คล้ายเคยพบที่ไหนมาก่อนแต่นึกไม่ออก ท่านจึงสั่งให้ทหารจัดที่พำนัก พร้อมหาผลไม้ น้ำฉัน น้ำดื่มมาถวายแด่พระฤาษี เมื่อถวายเรียบร้อยแล้ว จึงได้สนทนากัน


    ฝ่ายพระเกษรีฤาษีนั้น ได้รู้วารจิตของพระเจ้าสัตยาธิราช จึงกล่าวว่า..

    “มหาบพิตร พระองค์ดำริว่า พระองค์เคยพบเรามาก่อนใช่หรือไม่”

    พระเจ้าสัตยาธิษฐานตรัสตอบว่า “ขอรับพระคุณเจ้า”

    พระเกษรีฤาษีตรัสตอบว่า.. “พระองค์เคยเป็นศิษย์ของเรามาแต่กาลก่อนมานาน ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า”


    พระเจ้าสัตยาธิราชนั้น มิความปิติใจระคนประหลาดใจว่า “เหตุใด พระฤาษีจึงมีชีวิตยืนยาว”


    พระเกษรีฤาษีทราบความในใจ จึงกล่าวว่า..


    “เพราะเราเรียนรู้ทรงอิทธิบาท ๔ จึงสามารถทรงขันธ์มาถึงปัจจุบันนี้ วันนี้เราจะมาคุยเรื่องพระโอรสของพระองค์”


    พระเจ้าสัตยาธิราชทรงรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง พระเกษรีฤาษีกล่าวต่อไปว่า ...


    “พระโอรสของพระองค์เกิดมาในชาตินี้ มิได้เกิดมาเพื่อสืบทอดบัลลังก์ของพระองค์ แต่จะเกิดมาเพื่อออกผนวชเป็นพระฤาษีดังเช่นเรานี้ ขอทรงประทานอนุญาตให้พระโอรสออกผนวชเถิด”


    พระเจ้าสัตยาธิราชรู้สึกเหมือนสายฟ้าฟาดกลางพระหฤทัย การที่ปรารถนาจะมีพระโอรสนั้นก็เพื่อสืบบังลังก์ หากต่อไปพระองค์ปรารถนาสละราชบัลลังก์ผู้ใดจะมาสืบทอดต่อไป


    ขณะทรงดำรินั้น พระฤาษีได้ทราบวารจิต จึงกล่าวว่า..


    “เรื่องผู้สืบทอดบัลลังก์นั้นไม่ต้องกล้ว ต่อไปจะมีเจ้าชายพลัดถิ่น มาเป็นผู้ปกครองเมืองนี้เอง ต่อไปอีก ๗ เดือน ท่านจงทำพิธีปล่อยราชรถไป โดยใช้ม้า ๗ ตัวพร้อมราชรถ ราชรถนั้นจะไปยังผู้ที่มีบุญญาธิการ วันนั้นจะทรงทราบว่าเป็นใคร ท่านจะรักบุคคลผู้นี้ดุจพระโอรสของพระองค์เอง”


    พระเจ้าสัตยาธิราชนั้นทรงรู้สึกเศร้าพระทัย พระเกษรีฤาษีตรัสต่อไปว่า....

    “มหาบพิตรพระองค์ไม่ฉงนพระทัยหรือว่า เหตุใดจึงไม่ทรงมีพระโอรส-ธิดามาหลายปี ด้วยเหตุแห่งกรรมเคย เป็นกษัตริย์ ไปตีเมืองต่าง ๆ ทำให้ครอบครัวพรากจากกัน บุคคลเหล่านั้นได้สาปแช่งพระองค์ มาชาตินี้ทำให้ไม่มีโอรส-ธิดา ถึงมีก็ต้องพลัดพรากจากกันในที่สุด

    แต่พระองค์ทรงเคยทำบุญกับเด็กกำพร้า โดยตั้งเป็นสถานที่สงเคราะห์เด็กเหล่านั้นที่พ่อแม่เสียชีวิตจากสงคราม ทำให้เด็กเหล่านั้นมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น บุญนี้ส่งผลให้มีบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พระโอรส-ธิดามาดูแลพระองค์ยามแก่ชรา

    หากพระองค์อยากจะพ้นจากกรรมนี้ ในชาติต่อ ๆ ไป พระองค์จะต้องบวชติดต่อกัน ๕๐๐ ชาติ เพื่ออุทิศบุยแก่คนเหล่านั้น และวิบากกรรมนี้จะหมดสิ้นไป ”

    เมื่อพระเจ้าสัตยาธิราชได้ฟังดังนั้น จึงคิดปลงพระทัย จึงตรัสว่า..

    “ข้าฯแต่พระอาจารย์ หากเป็นเช่นนั้น ข้าฯไม่ขัดข้อง ยินดีให้สัจจฯออกผนวชตามดำริของพระอาจารย์ขอรับ”

    พระเกษรีฤาษีกล่าวว่า .. “เจริญพรมหาบพิตร ท่านมิต้องห่วงเราจะดูแลพระโอรสของพระองค์เป็นอย่างดี”

    เจ้าชายสัจจธิราชนั้นดีใจมาก ก้มลงกราบพระบาทของพระเจ้าสัตยาธิราช พระองค์ทรงลูบพระเศียรเจ้าชาย และตรัสว่า..


    “ลูกเอ๋ย พ่อกับเจ้าคงมีบุญวาสนาต่อกันเพียงนี้ ขอเจ้าจงอยู่บำรุงพ่อ และแม่ของเจ้าสัก ๓ เดือนเถิด และเพื่อพ่อกับแม่ได้ทำบุญกับพระอาจารย์ด้วย”


    เจ้าชายสัจจธิราชหันไปทางพระฤาษี ท่านได้พยักหน้า เจ้าชายจึงกล่าวว่า... “ได้พะยะคะ..เสด็จพ่อ”


    จากนั้นพระเจ้าสัตยาธิราช ทรงอาราธนาให้พระฤาษีอยู่ต่ออีก ๓ เดือน พระเกษรีฤาษีทรงรับอาราธนานั้น พระองค์จึงได้ส่งสาส์นไปยังพระนางวิสุทธารา เพื่อให้พาพระนัดดาทั้ง ๒ มาถวายทานแก่พระฤาษีต่อไป
     
  10. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วสัตยาธิษฐาน-แก้วสุขุมาลย์ฯ ตอน ๑๙ พระเจ้าอทิตตราชสวรรคต ..

    เมื่อสาส์นจากพระเจ้าสัตยาธิราชไปถึง พระนางวิสุทธาราได้ขออนุญาตพระเจ้าอทิตตราช กลับเมืองของตนพร้อมกับพระโอรส-ธิดา เพื่อมาเยี่ยมพระบิดา พระมารดา และพระเชษฐา ถือโอกาสได้กราบครูบาอาจารย์

    แต่คราวนั้น พระเจ้าอทิตตราชติดภารกิจบางอย่าง จึงไม่ได้มาด้วย ได้ส่งนางสาระวารี และเศรษฐบุตรให้เป็นผู้ดูแลการเดินทางกลับเมืองสุขะปุระในครั้งนั้น โดยอนุญาตให้อยู่เมืองสุขะปุระ จนกว่าเจ้าชายสัจจธิราชจะออกผนวช และพระองค์จะตามมาภายหลัง โดยมิทราบว่า ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่พระองค์จะได้พบพระมเหสีและพระโอรส-ธิดา

    หนทางระหว่างเมืองสุขะปุระ และแคว้นกุสิกาละนั้นห่างไกลกันประมาณ ๑๐ โยชน์ ใช้เวลาเดือนทาง ๑๕ วัน ขบวนช้างม้าของพระนางวิสุทธารานั้นมีจำนวนมาก จึงใช้เวลาเดินทางเกือบ ๑ เดือน จึงถึงเมืองสุขะปุระ

    เมื่อไปถึงพระนางได้พาพระโอรส-ธิดา ซึ่งอายุได้ ๗ ขวบไปกราบพระเกษรีฤาษี พระนางวิสุทธารานั้น รู้สึกคุ้นเคยกับพระฤาษี ประกอบกับนางได้เคยนิมิตไปว่า ได้ฝึกวิชากับพระฤาษีมาก่อน ในนิมิตนางมิได้เป็นมนุษย์กลับเป็นนางนาคมาณวิกา แต่ไม่มีโอกาสได้สนทนากับพระฤาษี


    มีข่าวมาจากแคว้นกุสิกาละว่า เมื่อพระนางเสด็จออกมาจากแคว้นได้เพียง ๗ วัน มีข้าศึกเข้าโจมตีแคว้น พระเจ้าอทิตตราชทรงถูกข้าศึกแทงจนสวรรคต ส่วนพระนางสุชาดานั้น ทรงหนีทางน้ำ และเรีอล่มจมน้ำสวรรคตเช่นกัน พระนางวิสุทธารานั้นได้ยินข่าวถึงกับล้มลงไปสิ้นสติทันที
     
  11. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วสัตยาธิษฐาน-แก้วสุขุมาลย์ฯ ตอน ๒๐ พระเกษรีฤาษีสอนเรื่องทุกข์..

    เมื่อฟื้นคืนสติแล้ว ทรงร่ำไห้อย่างน่าเวทนา และทรงดำริได้ว่า "เราร้องไห้จากการพลัดพรากจากคนที่เป็นที่รักมานับชาติไม่ถ้วน ชาตินี้แม้การครองเรือนครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความรัก

    หากแต่เกิดจากความผูกพันธ์ ทำให้เราเกิดทุกข์ ทุกข์เช่นนี้หากเราต้องเวียนตายเกิด คงต้องประสบทุกข์ไม่รู้จบ พระอาจารย์ปู่เท่านั้นจะเป็นที่พึ่งแก่เราได้ เราจะไปถามถึงหนทางดับทุกข์นี้จากพระอาจารย์ปู่"


    เมื่อได้สติแล้วพระนางได้นำผลไม้ น้ำผึ้ง และน้ำอบดอกไม้ แล้วเสด็จไปยังอาศรมแห่งพระเกษรีฤาษี ทรงรอสักพัก พระฤาษีได้ออกมาจากอาศรม ไถ่ถามว่า..
    “มหารานี มีทุกข์ใดหรือฯ”

    ความจริงท่านทราบมาโดยตลอด แต่ถามเพื่อให้พระนางได้ระบายร้อนพระทัย
    พระนางวิสุทธารา ตรัสว่า..

    “ข้าฯแต่พระอาจารย์ปู่ พระสวามี และพระพี่นางของหม่อมฉัน ได้ทรงเสด็จสวรรคตไปแล้ว หม่อมฉันรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยว รู้สึกเป็นทุกข์เหลือเกินเพคะ”พระเกษรีฤาษีตรัสว่า..

    “มหารานี ในอดีตกาลนานมาแล้ว พระองค์ก็ทรงเป็นทุกข์ เพราะพลัดพรากจากคนรักมานับชาติไม่ถ้วน เทียบกับมหานทีสีทันดรนั้น น้ำพระเนตรหลั่งมายังมากกว่านี้นับประมาณมิได้

    มหารานี แท้จริงคนที่เกิดมาในโลกนี้ ไม่ว่าเกิดในตระกูลใด กษัตริย์ พราหมณ์ หรือผู้ยากไร้ ล้วนเป็นทุกข์ทั้งสิ้น หากพระองค์เป็นทุกข์ จงมองมหานทีนั้น จะช่วยให้พระทัยผ่อนคลายลงได้

    จงทอดพระเนตรสายน้ำที่ไหลไปจากที่สูงมายังที่ต่ำ เปรียบเสมือนชีวิตมนุษย์ล่วงไปแล้ว ไม่มีวันหวนกลับ เป็นเช่นนี้มาแต่อดีต และจะเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่มีใครเกิดมาแล้ว ไม่พลัดพรากจากสิ่งที่ตนรัก ไม่จากเป็นก็ต้องจากตาย ล้วนเป็นธรรมดา พระองค์เองก็ผ่านความทุกข์มาแล้วนับครั้งมิถ้วน เพียงแต่เป็นความทุกข์ที่ยังทนได้ จึงมองไม่เห็นทุกข์นั้น ขอทรงพิจารณาดูเถิด...”


    พระนางวิสุทธารานั้น พิจารณาว่า เป็นความจริงดังพระเกษรีฤาษีกล่าวไว้ทุกประการ จึงตรัสถามต่อไปว่า..

    “ข้าฯแต่พระอาจารย์ปู่ หากเป็นเช่นนั้นแล้ว หม่อมฉันควรจะพิจารณาอย่างไร จึงจะเห็นทุกข์ตามความเป็นจริงเพคะ”

    พระเกษรีฤาษี กล่าวว่า..

    “เรื่องนี้หากใช้กำลังความคิดจะพิจารณาได้ยาก พระองค์จงดูลมหายใจเข้าออกให้เป็นปกติ หายใจเข้าก็รู้ หายใจออกก็รู้ วันหนึ่งจะรู้ถึงความสุขที่แท้จริง”

    เมื่อพระเกษรีฤาษีกล่าวจบ พระนางวิสุทธารารู้สึกคลายความเศร้าโศกเสียใจลงบ้าง จึงพยายามดูลมหายใจเข้าออกตามที่พระฤาษีสอน ท่านจึงกล่าวต่อไปว่า...

    “มหารานี หากรู้สึกไม่ผ่อนคลาย ให้ทรงพิจารณาดูสายน้ำที่ไหลไปเรื่อย ๆ จนจะสงบเย็นเป็นสุข สลับกับการดูลมหายใจเข้าออก จะช่วยให้รู้เห็นตามความจริงของชีวิต”

    เมื่อรับคำสอนดังนั้น พระนางวิสุทธารารู้สึกผ่อนคลาย มีความสุขมากขึ้น แม้ทุกข์แห่งการสูญเสียพระสวามียังไม่จางหายไป จึงได้ปรึกษาพระเจ้าสัตยาธิราช เรื่องการนำพระศพมาทำพิธีให้ถูกต้อง

    ส่วนพระเกษรีฤาษีนั้นทราบว่า บัดนี้ศัตรูของพระเจ้าอทิตตราชได้ครองเมืองเสียแล้ว และพระศพถูกนำประจานกลางเมือง พร้อมกับพระนางสุชาดา นี้ล้วนเกิดแต่กรรมแต่กาลก่อน

    จึงกล่าวกับพระเจ้าสัตยาธิราชว่า..

    “มหาบพิตร การนำพระศพมาทำพิธีตามปกตินั้น ทำมิได้ศัตรูของพระเจ้าอทิตตราชนั้น นำพระศพตั้งกลางเมืองเป็นที่เวทนายิ่งนัก สิ่งที่เราจะทำได้ขณะนี้ คือใช้เตโชพระชุมเพลิงพระศพเท่านั้น หากพระองค์อนุญาต เราจะจัดการเรื่องนี้ให้”

    พระเจ้าสัตยาธิราชนั้น ทรงอยู่ในช่วงเศร้าพระทัย จึงตรัสว่า..

    “แล้วแต่พระอาจารย์เถิดขอรับ”

    เมี่อทรงอนุญาต พระเกษรีฤาษีได้หายตัวไปจากที่นั้นทันที
     
  12. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วสัตยาธิษฐาน-แก้วสุขุมาลย์ฯ ตอน ๒๑ สร้างเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุ..

    ต่อมาพระเกษรีฤาษีได้ปรากฏกายที่แคว้นกุสิกาละ หน้าบริเวณที่ตั้งพระศพของพระเจ้าอทิตตราช และพระนางสุชาดา ขณะนั้นเป็นเวลากลางคืนสักสองยามได้ พระฤาษีได้เข้าเตโชกสินใช้ไฟสลายร่างของทั้งสองพระองค์ จากนั้นท่านได้อธิษฐานให้อัฐธาตุของทั้งสองพระองค์ไป ปรากฏที่ถ้ำในพระอุทยานของพระเจ้าสัตยาธิราชทันที

    ครั้นรุ่งสาง มีผู้ไปกราบทูลพระเจ้าอุตตรวงศ์ กษัตริย์ผู้ยกทัพมาตีเมือง พอรุ่งเช้าไม่ปรากฏพระศพของพระเจ้าอทิตตราช และพระนางสุชาดา จึงตื่นตะหนก คิดว่าเกิดเหตุอาเพศใดแน่ ๆ จึงได้ถอยทัพกลับไปทันทีไม่กลับมายังแคว้นกุสิกาละอีกเลย

    ฝ่ายพระเกษรีฤาษีได้ให้พระนางวิสุทธาราได้สร้างเจดีย์ เพื่อบรรจุอัฐิธาตุของพระเจ้าอทิตตราช และพระนางสุชาดาบนที่สูง คล้ายภูเขาลูกย่อม ๆ เพื่อให้พระโอรส-ธิดาได้กราบไหว้ระลึกถึงคุณความดีของพระบิดา

    จากนั้นได้มีการไว้ทุกข์ ๗ วัน พระเกษรีฤาษีได้พาพระฤาษีอีก ๕๘ รูป ซึ่งเป็นพระสหายของท่าน มารับภัตตาหารที่พระเจ้าอทิตตราช พระนางสุขุมาลย์เทวี เจ้าชายสัจจธิราช และพระนางวิสุทธาราได้ถวายอุทิศส่วนกุศลให้แก่พระเจ้าอทิตตราช พระนางสุชาดา และพระนางวสุนทรีย์


    บุญกุศลครั้งนั้นส่งผลให้พระนางวสุนทรีย์หลุดพ้นจากการทรมานในนรกขุมย่อยในยมโลกไปจุติบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ทันที พระเกษรีฤาษีสอนให้พระนางวิสุทธารานั้น ตั้งจิตอธิษฐานอโหสิกรรมต่าง ๆ ให้พระนางวสุนทรีย์ เพื่อยกระดับจิตให้สูงขึ้น

    ฝ่ายเสนาอำมาตย์แห่งแคว้นกุสิกาละนั้น ได้ส่งสาส์นมายังพระเจ้าสัตยาธิราช ทูลเชิญให้ไปครองแคว้นกุสิกาละ เมื่อพระองค์ทรงทราบ ทรงปฏิเสธ เนื่องจากคิดว่า พระองค์ชราภาพแล้ว

    จึงได้แต่งตั้งอำมาตย์ชั้นผู้ใหญ่นามว่า “หัสดินทร์เสนา” ครองเมืองชั่วคราว จนกว่าเจ้าชายวิสุทธิปราชญ์จะมีพระชนมายุ ๑๖ ชันษา ซึ่งเหลือเวลาอีกหลายปี


    กาลต่อมาพระนางสุขุมาลย์เทวีได้สวรรคตด้วยโรคชรา ไปจุติบนสวรรค์ชั้นดุสิต เจ้าชายสัจจธิราชได้ออกผนวชก่อนเวลา ๓ เดือน เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่พระมารดา จากนั้นได้ติดตามพระเกษรีฤาษีออกไปฝึกบำเพ็ญตนในป่าต่อไป

    เวลาต่อมา พระเจ้าสัตยาธิราชเห็นสัจจธรรม เกิดความเบื่อหน่ายในการครองราชย์ จึงได้ทำตามวิธีที่พระเกษรีฤาษีบอกไว้ คือ ส่งราชรถออกตามหาผู้มีบุญญาธิการ ราชรถนั้น ไปปรากฏต่อเจ้าชายโมกขศักดิ์อย่างอัศจรรย์
     
  13. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วสัตยาธิษฐาน-แก้วสุขุมาลย์ฯ ตอน ๒๒ พระราชาองค์ใหม่..

    ขอกล่าวย้อนถึงเจ้าชายโมกขศักดิ์ หลังจากที่แยกทางจากเจ้าชายสัจจธิราชแล้ว ทรงหาทางจะชิงเมืองกลับ แต่ก็กลับพ่ายแพ้กลับมา จึงคิดว่า พระองค์ไม่มีบุญวาสนาได้ครองเมืองต่อไปแล้ว

    พระองค์ทรงนึกถึงเจ้าชายสัจจธิราชผู้เป็นอาจารย์ จึงออกติดตามหาเจ้าชายสัจจธิราช เพื่อขอพึ่งบารมี ทรงพาไพร่พลจำนวนกว่า ๑๐๐๐๐ คนที่อพยพติดตามพระองค์มา เพื่อขอพึ่งใบบุญจากเจ้าชายสัจจธิราช ระหว่างทางได้หยุดพักผ่อนเวลากลางวัน ก็ปรากฏราชรถที่พระเจ้าสัตยาธิราชส่งมา หยุดยังหน้าพระพักต์ของพระองค์

    ไพร่พลที่ติดตามพระองค์มาเห็นดังนั้น ทราบว่า เป็นราชรถจากเมืองใดเมืองหนึ่งหาผู้ครองนครองค์ใหม่เป็นแน่ ต่างแซ่ซ้องสรรเสริญเจ้าชายโมกขศักดิ์ว่า เป็นผู้มีบุญญาธิการ สมกับที่พวกตนติดตามมา ต่างก็มีความหวังที่จะไม่ต้องเร่ร่อนอีกต่อไป

    ครั้นเสนาอำมาตย์ผู้ติดตามราชรถได้มาถึง หัวหน้าอำมาตย์นั้นกล่าวว่า..

    “ข้าฯแต่ท่านผู้มีบุญญาธิการ ราชรถนี้เป็นของพระเจ้าสัตยาธิราช เนื่องจากเจ้าชายสัจจธิราช ผู้เป็นรัชทายาท ทรงสละบัลลังก์ออกผนวช พระเจ้าสัตยาธิราชทรงชราภาพแล้ว ปรารถนาจะหยุดพัก จึงส่งราชรถนี้มาเพื่อหาผู้มีบุญญาธิการ ขอท่านได้โปรดทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าสัตยาธิราชด้วยเถิด

    เจ้าชายโมกขศักดิ์นั้นได้ยินชื่อเจ้าชายสัจจธิราชก็ยินดียิ่งนัก ถามอำมาตย์นั้นซ้ำ ๆ ว่า..

    “ท่านว่ากระไร เจ้าชายสัจจธิราชออกผนวชหรือ รู้มั๊ยเจ้าชายสัจจธิราชคือพระอาจารย์ของเรา ท่านออกผนวชหรอกหรือ”

    อำมาตย์กล่าวว่า “พะยะค่ะ”

    เจ้าชายโมกขศักดิ์นั้น รู้สึกยินดี พร้อมเศร้าพระทัยระคนกัน ตรัสเบา ๆ ว่า “หากพระองค์ออกผนวช เราจะได้พระองค์หรือไม่ เราปรารถนาจะพบพระอาจารย์อีกครั้ง ทำอย่างไรดี”

    รำพึงเพียงเท่านั้น ทรงเสด็จขึ้นบนราชรถนั้น ประชาชนต่างโห่ร้อง พร้อมติดตามกันไปเฝ้าพระเจ้าสัตยาธิราชทันที

    เมื่อไปถึงทรงเล่าเหตุการณ์เรื่องราวต่าง ๆ แก่พระเจ้าสัตยาธิราช ตรัสว่า..

    “ข้าฯแต่พระเจ้าปู่ หม่อมฉันมิปรารถนาจะมาครองเมืองของพระองค์หรอก เพียงแต่จะขอที่อยู่อาศัยแก่ชาวเมืองของหม่อมฉัน มิต้องเร่ร่อนกันต่อไปเพียงเท่านั้น พระเจ้าปู่โปรดพิจารณาเรื่องนี้ใหม่ด้วยพะยะค่ะ”


    พระเจ้าสัตยาธิราชนั้น ได้ทรงพิจารณาว่า ไพร่พลที่ติดตามเจ้าชายโมกขศักดิ์มา ทรงยกอุทยานทางทิศเหนือให้ทั้งหมด เพื่อให้สร้างบ้านเรือนใหม่ และประกาศให้เจ้าชายโมกขศักดิ์ครองเมืองต่อไป และยกสมบัติที่เป็นส่วนของเจ้าชายสัจจธิราชให้แก่พระเจ้าโมกขศักดิ์ต่อไป

    ส่วนที่เหลือเป็นส่วนของพระองค์และพระนางวิสุทธารา และพระนัดดา ส่วนพระองค์ทรงรักษาอุโบสถศีล คอยให้ข้อธรรมแก่ชาวเมืองทุกวันขึ้นและแรม ๑๕ ค่ำ จนสิ้นอายุขัย เมื่อสวรรคตแล้ว ทรงจุติบนสวรรค์ชั้นดุสิตวิมานเดียวกันกับพระนางสุขุมาลย์เทวี

    ฝ่ายเจ้าชายโมกขศักดิ์นั้น เมื่อพระชนมายุได้ ๒๐ ชันษา ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงศศิมาเทวี มีพระโอรสพระนามว่า “ศักดิราช” และพระองค์ทรงดูแลพระนางวิสุทธารา ดุจพระมารดา และดูแลพระโอรส-ธิดาเป็นอย่างดี

    เมื่อเจ้าชายวิสุทธิปราชญ์ และเจ้าหญิงอมิตตาเติบใหญ่ทรงหาพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมาอบรมสั่งสอน จนกระทั่งเจ้าชายวิสุทธิปราชญ์มีพระชนมายุได้ ๑๖ ชันษา จึงส่งให้ไปปกครองแคว้นกุสิกาละต่อไป

    ฝ่ายพระนางวิสุทธารานั้นได้ถืออุโบสถศีลในถ้ำบริเวณอุทยานของเมือง โดยมีเจ้าหญิงอมิตตาเทวีเป็นผู้ดูแล กาลต่อมาพระนางวิสุทธาราได้สิ้นพระชนม์ไปจุติบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อรอจุติในยุคพระสมณโดคมต่อไป

    พระเจ้าโมกขศักดิ์นั้นได้สร้างเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุของพระเจ้าสัตยาธิษฐาน และพระนางสุขุมาลย์เทวี ส่วนอัฐิธาตุของพระนางวิสุทธารา ได้นำบรรจุยังที่เดียวกันกับของพระเจ้าอทิตตราช ทุก ๆ ปีจะมีทำบุญอุทิศส่วนกุศลโดยพราหมณ์ผู้รู้ เพื่อระลึกถึงความดีของบุพกษัตริย์แต่กาลก่อน


    กาลต่อมามีพระราชาต่างแคว้นได้มาสู่ขอเจ้าหญิงอมิตตาเทวี เพื่ออภิเษกสมรสเป็นพระมเหสี ครองรักกันอย่างมีความสุข

    ส่วนเจ้าชายวิสุทธิปราชญ์นั้น ทรงเห็นแก่คุณของหัสดินทร์เสนาที่มีความซื่อสัตย์ดูแลแคว้นให้พระองค์เป็นอย่างดี ทรงอภิเษกกับนางบุรมินทร์ ธิดาคนโต ของหัสดินทร์ ซึ่งมีอายุมากกว่าพระองค์ถึง ๑๐ ชันษา เพื่อตอบแทนบุญคุณของหัสดินทร์เสนา จนมีพระโอรส-ธิดา ฝาแฝดพระนามว่า เจ้าชายวิสุทธิวาทย์ และเจ้าหญิงบุรมิตรา แต่งตั้งให้หัสดินทร์เสนาเป็นที่ปรึกษาของพระองค์ ปกครองเมืองด้วยความสุขจนสิ้นอายุขัย
     
  14. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วสัตยาธิษฐาน-แก้วสุขุมาลย์ฯ ตอนจบ กำเนิดดวงแก้วสัตยาธิษฐาน ..



    กล่าวถึงพระสัจจฤาษี หลังจากออกผนวชทรงติดตามพระเกษรีฤาษีไปบำเพ็ญเพียรหลายแห่ง พระเกษรีฤาษีจึงได้สอนวิชาการทรงอิทธิบาท ๔ ให้แก่พระสัจจฤาษี ก่อนจะเรียนจะต้องมีการพิสูจน์บุญบารมีก่อนว่าจะสำเร็จหรือไม่

    พระเกษรีฤาษีจึงให้เข้าสมาบัติ เป็นเวลา ๓ ปี เพื่อพิสูจน์กำลังใจ ครั้นครบเวลา ๓ ปี พระสัจจฤาษีจึงอธิษฐานดวงแก้วขึ้นมา ๑ ดวง โดยมีนามว่า..

    “ดวงแก้วสัตยาธิษฐาน”


    เป็นการพิสูจน์สัจจอธิษฐานของตน จากนั้นพระเกษรีฤาษีจึงได้พาเข้าถ้ำบริเวณปากทางเข้าเมืองสัตตรัตนนคร เพื่อบำเพ็ญเพียรต่อไป

    เรื่องราวต่อไป จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับดวงแก้วจุลจักรพรรดิทั้ง ๑๐ ดวง เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับนาคพิภพ และพญาครุฑ จะนำเสนอต่อไปค่ะ

    ประวัตินี้จะมีความเกี่ยวเนื่องกับประวัติพระขรรค์ ๙ สี ภาค ๑ และภาค ๒ ซึ่งเคยนำเสนอมาแล้ว

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ติดตามเรื่องราวในกระทุ้นี้ค่ะ

    Numsai
     
  15. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    บุคคลที่เกี่ยวเนื่องในประวัติเรื่องนี้..

    พระเกษรีฤาษี - เข้าสมาบัติ ทรงขันธ์อยู่ในปัจจุบัน

    พระสัจจฤาษี - เข้าสมาบัติ ทรงขันธ์อยู่ในปัจจุบัน


    พระเจ้าสัตยาธิราช – ท่าน widya

    พระนางสุขุมาลย์เทวี –ขณะนี้อยู่สวรรค์ชั้นดุสิต



    พระเจ้าอทิตตราช - เกิดเป็นมนุษย์อยู่ประเทศอเมริกา

    พระนางสุชาดา - เกิดเป็นมนุษย์อยู่ประเทศอเมริกา


    พระนางวิสุทธารา - Numsai

    พระเจ้าโมกขศักดิ์ -คุณ mooom

    หัสดินทร์เสนาบดี - คุณ manasdome

    เจ้าชายวิสุทธิวาทย์ – คุณ suwat.su

    ____________________________________________________

    ภพชาติไม่เคยมีใครไม่เคยเกี่ยวเนื่องเป็นพ่อแม่พี่น้อง ภรรยาหรือบุตรนั้นไม่มี บุคคลล้วนแต่เวียนว่ายตายเกิดจากบุพกรรมของตน

    กรรมใดที่ท่านทั้งหลายเคยล่วงเกินข้าพเจ้ามา ข้าพเจ้าอโหสิกรรมทุกประการ ขอน้อมถวายเป็นอภัยทานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถวายเป็นพุทธบูชา


    และกรรมใดที่ข้าพเจ้าเคยล่วงเกินต่อท่านทั้งหลาย ต่อหน้าและลับหลังก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าเถิด..สาธุ..

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2013
  16. ขาล

    ขาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +4,466
    ความเกี่ยวข้องคราวนี้ จะมีน้องขาลเป็นพญาครุฑรึเปล่าหนอ
     
  17. half wave

    half wave เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +4,260
    ภพชาติไม่เคยมีใครไม่เคยเกี่ยวเนื่องเป็นพ่อแม่พี่น้อง ภรรยาหรือบุตรนั้นไม่มี บุคคลล้วนแต่เวียนว่ายตายเกิดจากบุพกรรมของตน

    กรรมใดที่ท่านทั้งหลายเคยล่วงเกินข้าพเจ้ามา ข้าพเจ้าอโหสิกรรมทุกประการ ขอน้อมถวายเป็นอภัยทานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถวายเป็นพุทธบูชา


    และกรรมใดที่ข้าพเจ้าเคยล่วงเกินต่อท่านทั้งหลาย ต่อหน้าและลับหลังก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าเถิด..สาธุ..

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai[/COLOR][/COLOR][/QUOTE]


    กรรมใดที่ข้าพเจ้าเคยล่วงเกินต่อพี่น้ำใสและท่านทั้งหลาย ทั้งต่อหน้าและลับหลังก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าตั้งแต่บัดนี้ไปด้วยเถิด...สาธุ..สาธุ..สาธุ...
    และกรรมใดที่ท่านทั้งหลายเคยล่วงเกินข้าพเจ้ามาตั้งแต่อดีต ข้าพเจ้าอโหสิกรรมให้ทุกประการ
     
  18. half wave

    half wave เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +4,260
     
  19. เจษฎา เยี่ยมคำน

    เจษฎา เยี่ยมคำน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,332
    ค่าพลัง:
    +5,413
    ร่วมบุญเทียนพรรษา 300 บาท โอนพรุ่งนี้ยังทันไหมครับคุณน้ำใส
     
  20. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ตอนนี้คุณ phuya ปิดรับแล้วค่ะ แต่น้ำใสจะ advance (สำรองจ่าย) ไปก่อนได้ค่ะ จะร่วมบุญวัดละ ๑๐๐ บาทนะคะ

    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    Numsai
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...