ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ได้รับปัจจัยโอนจากคุณวาสุเทพแล้วค่ะ จำนวน 5500 บาท ขอส่งจักรวันที่ 24 กค.56 ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญอีกครั้งค่ะ
Numsai

 

เหลืออีกนิดนึงหนูจะกลิ้งกลับบ้านแล้วค่ะพี่น้ำใส
อุดมสมบูรณ์พูนสุขมั่กมากค่ะ...
ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงนะเจ้าคะ พี่นัยด้วยนะคะ
สำหรับที่ซุกหัวนอนชั้นเยี่ยม แอปเปิ้ลเลิศรสและกีวีหวานอมเปรี้ยว
ขอบคุณท่านเจ้าที่บ้านพี่ที่ช่วยดูแลเด็กตัวไม่น้อย ตาดำ ๆ
ขอบคุณพี่เอ๋และพี่หม่อน สำหรับความสะดวกสบายทุกอย่างค่ะ
และยังคิดถึงข้าวไข่ต้มมิรู้วาย อิอิ...
ปล.รอชมรูปจากพี่นัยและพี่หม่อนอยู่นะคะ


วันนี้ก่อนกลับไปแวะกราบพระแก้วมรกตที่วัดพระแก้ว
ไปกราบพระที่วัดโพธิ์และวัดสุทัศน์กับพี่เอ๋ คนสวยใจดีมาค่ะ
เอาบุญมาฝากชาวเมืองกันนะคะ

และขอโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านทุกประการค่ะ

 

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีและอนุโมทนาบุญ กับคุณ sun2555, คุณวาสุเทพ, และคุณmoom ด้วยค่ะ จักรทั้ง 3 สวยมากๆเลยค่ะ

 

ขอแสดงความยินดีและขออนุโมทนาบุญกับคุณ sun2555 คุณวาสุเทพ และคุณ mooom ด้วยนะครับ

 

ถวายเทียนพรรษาวัดป่าชลิตานุสรณ์ และ วัดห้วยแร่
วันที่ 19 กรกฏาคม 2556​

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปถวายเทียนพรรษาที่วัดป่าชลิตานุสรณ์ และ วัดห้วยแร่ จังหวัดเพรชบุรี ซึ่งทริปนี้ มีท่านwidya เป็นผู้นำบุญค่ะ มีผู้ร่วมคณะในครั้งนี้ได้แก่ พี่น้ำใส, น้องตาล, คุณจันทกาล, คุณVetechayana, phuya,คุณยาย, น้องแพร, น้องนัฐ และคุณศักดิ์ดา ซึ่งทริปนี้ได้น้องชายท่าน widya เป็นผู้นำทางค่ะ

ความรู้สึกแรกที่รถเลี้ยวเข้าถนนดินแดง ซึ่งสองข้างทางเป็นป่าและเนินเขาที่ชาวบ้านทำไร่สับปะรด สลับกับสวนยาง ดูเหมือนการเดินทางจะเข้าป่าอย่างเดียวเลยค่ะ ไม่เห็นเสาไฟฟ้าเลยสักต้น ชาวบ้านอยู่กับธรรมชาติมาก...เมื่อเข้าสู่อาณาบริเวณของวัด กระแสของความสงบ ร่มรื่น และร่มเย็นเข้ามาทันที สะอาด สะอ้าน สวยงามบนความเรียบง่าย

​

เหมือนภาพในฝันไหมคะ แต่นี่คือภาพจริงๆของวัดป่าชลิตานุสรณ์ค่ะ​

วัดนี้ตั้งอยู่เชิงเขา ซึ่งมี " พระมหาเจดีย์ อนันตพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า " ประดิษฐานอยู่บนยอดเขา ซึ่งภายในจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุจำนวนมาก ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่พระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาเองค่ะ

​

ทางเข้าวัดและภาพบรรยากาศสวยๆ ที่ถ่ายบนภูเขา​

>>>

ถวายเทียนพรรษา, ชุดสังฆทาน พร้อมปัจจัยถวายพระ และชำระหนี้สงฆ์ จำนวน 4,740 บาท​

การขึ้นไปกราบพระบรมสารีริกธาตุ ต้องเดินขึ้นภูเขาสูง ถึงแม้ว่าทางขึ้นจะเป็นบันไดที่ถูกสร้างมาอย่างดี แต่เป็นทางชันมากๆ ค่ะต้องใช้กำลังขาบวกกับกำลังใจซึ่งในระหว่างเดินขึ้นเขา ทุกคนจะเงียบมาก ไม่ใช่ทำสมาธินะคะ แต่เหนื่อยจนพูดไม่ออก (อิอิ) แต่ที่น่าประทับใจก็คือตามขั้นบันไดจะมีมอสเกาะเต็มไปหมด เราสามคนจึงถอดลองเท้าเดินกัน (phuya,น้องตาล,จันทกาล) ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนเดินบนพรมกำมะหยี่ ด้านบนก็เป็นดินนุ่มๆ ปนกับพื้นหญ้า มีความสุขจริงๆ ค่ะ *** แต่ที่ประทับใจสุดๆ ก็คุณยาย (คุณแม่พี่น้ำใสค่ะ) เดินขึ้นจนถึงยอดเขา คนอายุขนาดนี้ทำได้ยังงัยมาด้วยกำลังบุญอย่างแท้จริง อนุโมทนาบุญกับคุณยายนะคะ

วันนี้ขอจบเรื่องราวที่น่าประทับใจไว้ที่วัดเดียวก่อนนะคะ ยังมีวัดที่สองและสามรออยู่ค่ะ จบภาระกิจแล้วจะกลับมาเล่าต่อนะคะ (ขอบคุณภาพสวยๆ จากพี่ Vetechayana)

 

ยินดีช่วยแบ่งเบาครับผม...

และขอแสดงความยินดีและมหาอนุโมทนาบุญกับ
คุณ sun2555 คุณวาสุเทพ และคุณ mooom ด้วยนะครับ

 

วันนี้22กค56 เวลา 06.12บาท ผมโอนเงินจำนวน5400บาทเพื่อบูชาจักรสีเหลืองเรียบร้อยแล้วครับ ต้องขอแสดงความยินดีและอนุโมทนาบุญกับคุณsun2555และคุณวาสุเทพด้วยนะครับ และต้องขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับคุณธรรมวิวัฒน์และคุณsylvenusที่ช่วยสรุปผล ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมไปถวายเทียนพรรษาด้วยครับ

 

คนที่ทำบาปกรรมอย่างเดียวกัน ทำไมจึงรับวิบากกรรมต่างกัน ​

ภิกษุทั้งหลาย ! ผู้ใดกล่าวว่า คนทำกรรมอย่างใดๆ ย่อมเสวยกรรมนั้นอย่างนั้นๆ ดังนี้ เมื่อเป็นอย่างนั้น การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ก็มีไม่ได้ ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบก็ไม่ปรากฏ

ส่วนผู้ใดกล่าวว่าคนทำกรรมอันจะพึงให้ผลอย่างใดๆ ย่อมเสวยผลของกรรมนั้น อย่างนั้นๆ ดังนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีได้ ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบก็ย่อมปรากฏ

ภิกษุทั้งหลาย ! บาปกรรมแม้ประมาณน้อยที่บุคคลบางคนทำแล้ว บาปกรรมนั้นย่อมนำเขาไปนรกได้ บาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น บางคนทำแล้วกรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม (ให้ผลในภพปัจจุบัน) ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย

บาปกรรมแม้ประมาณน้อย บุคคลชนิดใดทำแล้ว บาปกรรมนั้นจึงนำเขาไปนรกได้ ?

บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีกายมิได้อบรม มีศีลมิได้อบรม มีจิตมิได้อบรม มีปัญญามิได้อบรม มีคุณความดีน้อย เป็นอัปปาตุมะ (ผู้มีใจคับแคบ ใจหยาบ ใจต่ำทราม) เป็นอัปปทุกขวิหารี (มีปกติอยู่เป็นทุกข์ด้วยเหตุเล็กน้อย คือเป็นคนเจ้าทุกข์) บาปกรรมแม้ประมาณน้อย บุคคลชนิดนี้ทำแล้ว บาปกรรมนั้นย่อมนำเขาไปนรกได้

บาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันที่บุคคลชนิดใดทำแล้ว กรรมนั้นจึงเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย ?

บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีกายได้อบรมแล้ว มีศีลได้อบรมแล้ว มีจิตได้อบรมแล้ว มีปัญญาได้อบรมแล้ว มีคุณความดีมาก เป็นมหาตมะ (ผู้มีใจกว้างขวาง ใจบุญ ใจสูง) เป็นอัปปมาณวิหารี (มีปกติอยู่ด้วยธรรมอันหาประมาณมิได้ คือเป็นคนไม่มีหรือไม่แสดงกิเลส ซึ่งจะเป็นเหตุให้เขาประมาณได้ว่าเป็นคนดีแค่ไหน) บาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น บุคคลชนิดนี้ทำแล้วกรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย

ภิกษุทั้งหลาย ! เมื่อคนใส่เกลือลงไปในถ้วยน้ำเล็กๆ หนึ่งก้อน ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนี้ว่ากระไร...น้ำอันน้อยในถ้วยน้ำนั้นจะกลายเป็นน้ำเค็ม ไม่น่าดื่มไปเพราะเกลือก้อนนั้นหรือ ?

“เป็นเช่นนั้น พระพุทธเจ้าข้า !”

เพราะเหตุไร ? เพราะเหตุว่าน้ำในถ้วยน้ำนั้นมีน้อย มันจึงเค็มได้... คนใส่เกลือก้อนขนาดเดียวกันลงไปในแม่น้ำคงคา ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนี้ว่ากระไร...น้ำในแม่น้ำคงคานั้นจะกลายเป็นน้ำเค็ม ดื่มไม่ได้เพราะเกลือก้อนนั้นหรือ ?

“หามิได้ พระพุทธเจ้าข้า !”

เพราะเหตุไร ? เพราะเหตุว่าน้ำในแม่น้ำคงคามีมาก น้ำนั้นจึงไม่เค็ม... ฉันนั้นนั่นแล.

ภิกษุทั้งหลาย ! บาปกรรมแม้ประมาณน้อย บุคคลบางคนทำแล้ว บาปกรรมนั้นย่อมนำเขาไปนรกได้ ส่วนบาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น บางคนทำแล้ว กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย

ภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลบางคนย่อมผูกพันเพราะทรัพย์ แม้เพียงกึ่งกหาปณะ... แม้ ๑ กหาปณะ... แม้ ๑๐๐ กหาปณะ ส่วนบางคนไม่ผูกพันเพราะทรัพย์เพียงเท่านั้น

บุคคลเช่นไร จึงผูกพันเพราะทรัพย์แม้เพียงกึ่งกหาปณะ ฯลฯ ?

บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นคนจน มีสมบัติน้อย มีโภคะน้อย คนอย่างนี้ย่อมผูกพันเพราะทรัพย์แม้เพียงกึ่งกหาปณะ ฯลฯ

บุคคลเช่นไร จึงไม่ผูกพันเพราะทรัพย์เพียงเท่านั้น ?

บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก คนอย่างนี้ย่อมไม่ผูกพันเพราะทรัพย์เพียงเท่านั้น ฉันนั้นนั่นแล

ภิกษุทั้งหลาย ! บาปกรรมแม้ประมาณน้อย บุคคลบางคนทำแล้ว บาปกรรมนั้นย่อมนำเขาไปนรกได้ ส่วนบาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น บุคคลบางคนทำแล้ว กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย

ภิกษุทั้งหลาย ! พรานแกะหรือคนฆ่าแกะบางคนอาจฆ่า มัด ย่างหรือทำตามประสงค์ซึ่งแกะที่ขโมยเขามาได้ บางคนไม่อาจกระทำอย่างนั้น

พรานแกะหรือคนฆ่าแกะเช่นไร จึงอาจฆ่า มัด ย่าง หรือทำตามประสงค์ซึ่งแกะที่ขโมยเขามาได้ ?

บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นคนยากจน มีสมบัติน้อย มีโภคะน้อย พรานแกะหรือคนฆ่าแกะเช่นนี้ อาจฆ่า ฯลฯ ซึ่งแกะที่ขโมยเขามาได้.

พรานแกะหรือคนฆ่าแกะเช่นไร ไม่อาจทำอย่างนั้น ?

บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก เป็นพระราชาหรือราชมหาอำมาตย์ พรานแกะหรือคนฆ่าแกะเช่นนี้ไม่อาจทำอย่างนั้น มีแต่ว่าคนอื่นจะประณมมือขอกะเขาว่าท่านผู้นิรทุกข์ ขอท่านโปรดให้แกะหรือทรัพย์ค่าซื้อแกะแก่ข้าพเจ้าบ้าง ฉันนั้นนั่นแล

ภิกษุทั้งหลาย ! บาปกรรมแม้ประมาณน้อย บุคคลบางคนทำแล้ว บาปกรรมนั้นนำเขาไปนรกได้ ส่วนบาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น บางคนทำแล้วกรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมากต่อไปเลย

ภิกษุทั้งหลาย ! ผู้ใดกล่าวว่า คนทำกรรมอย่างใดๆ ย่อมเสวยกรรมนั้นอย่างนั้นๆ ดังนี้ เมื่อเป็นอย่างนั้นๆ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีไม่ได้ ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบก็ไม่ปรากฏ

ส่วนผู้ใดกล่าวว่า คนทำกรรมอันจะพึงให้ผลอย่างใด ๆ ย่อมเสวยผลของกรรมนั้นอย่างนั้น ๆ ดังนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีได้ ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบก็ย่อมปรากฏ

พุทธวจน ธรรมวินัยจากพุทธโอษฐ์ (ติก. อํ. ๒๐/๓๒๐/๕๔๐)

 

ขอแสดงความยินดีและขออนุโมทนาบุญกับคุณ sun2555, คุณวาสุเทพ, และคุณmoom ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

จันทรกาล

 

ดีใจนะค่ะ ที่น้องตาลกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว อิอิ
และอนุโมทนาบุญกับน้องตาลด้วยนะค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ไม่รู้ว่าเราพอจะมีโอกาสได้ชมคลังสมบัติ ของท่านๆ ทั้งหลายบ้างป่าวหน๋อ ว่าป่าวจ๊ะน้องตาล อิอิ

จันทรกาล

 

วันที่ 22 ก.ค.56

ผมไปร่วมทำบุญหล่อหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดท่าซุง มาครับ

และได้ร่วมทำบุญวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน และชำระหนี้สงฆ์ ที่วัดท่าซุง

ขอเชิญทุกท่านอนุโมทนาบุญ และขอให้ได้รับผลบุญเช่นเดียวกันครับ สาธุ สาธุ

ขอบคุณที่มา จากเฟสบุ๊ค หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ครับ

 

ต่อจากนั้น ได้แวะไปไหว้หลวงพ่อนะ

วัดปทุมธาราม (หนองบัว) จ.ชัยนาท มาครับ

ได้ร่วมทำบุญวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน

ขอเชิญทุกท่านอนุโมทนาบุญ และขอให้ได้รับผลบุญเช่นเดียวกันครับ สาธุ สาธุ

 

ขอเชิญร่วม...อนุโมทนาบุญถวายเทียนพรรษา วัดที่สอง...วัดห้วยแร่​

หลังจากจบภาระกิจที่วัดป่าชลิตานุสรณ์ จึงเดินทางต่อไปถวายเทียนพรรษาที่ วัดห้วยแร่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่แห่งนี้ แต่เป็นเวลาเกือบห้าโมงเย็นแล้ว พระท่านจะติดภาระกิจหรือเปล่าหนอ (คิดเองในใจ) ... สภาพแวดล้อมของวัดห้วยแร่ ยังคงความสมบูรณ์ของป่าไม้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ที่ประทับใจ ก็คือบริเวณโดยรอบของวัดสะอาดมาก ท่าน widya บอกว่า พระป่าจะมีกิจของสงฆ์อยู่อย่างคือ เวลาบ่ายสามโมงของทุกวัน จะต้องดูแลกวาดลานวัด เมื่อคณะของเราไปถึง ท่านเจ้าอาวาสต้อนรับเป็นอย่างดี แต่ต้องรอพระองค์อื่นๆ ก่อนเพราะไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ท่านเพิ่งจะกวาดลานวัดกันเสร็จ

ถวายเทียนพรรษา, ชุดสังฆทาน พร้อมปัจจัยถวายพระ และชำระหนี้สงฆ์ จำนวน 4,840 บาท

​

ศาสนะสถาน อันเป็นสถานที่ปฏิบัติภาระกิจของสงฆ์ เป็นไปอย่างเรียบง่าย เป็นที่ทีมีสัปปายะดีเหมาะกับการฝึกวิปัสนา กรรมฐาน
(คิดกับพี่น้ำใส เล่นๆ ว่าวันดีคืนดี จะเชิญท่าน widya เป็นผู้นำฝึกปฏิบัติ ณ สถานที่แห่งนี้ ใครสนใจยกมือขึ้น ต้องหาผู้ร่วมอุดมการณ์ค่ะ
เป็นกลุ่มเป็นก้อน ดูจะมีแรงบรรดาลใจมากกว่า ทำคนเดียว อิอิ)​

​

หลังจากที่ถวายของเสร็จ...ท่านเจ้าอาวาสพาไปกราบ เจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บนภูเขา ไต่บรรไดกันอีกแล้วค่ะ ซึ่ง ท่านกับท่าน widya เดินเร็วมาก พวกเราเลยต้องลากสังขาร ตามไป (เป็นพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากวัดป่าชลิตานุสรณ์) งานนี้ต้องยกนิ้วให้คุณยายอีกเหมือนเดิม แข็งแรง อดทน และใจสู้สุดๆ ถ้าเราถอยละก็ อายคุณยายแย่เลย *** รอบหน้าถ้ามีปีนเขา เชิญคุณยายอีกนะคะ เอาไว้เป็นแรงบรรดาลใจ อิอิ

และแล้ว...เราก็เดินทางกลับกันแบบ อิ่มบุญและอิ่มใจ
กราบขอบพระคุณท่าน widya เป็นอย่างสูง ที่ได้เปิดโลกทัศน์ ของพวกเราให้กว้างขึ้น เป็นความประทับใจ ให้ได้ระลึกถึงบุญที่ทำอย่างมีความสุข เจ้าค่ะ

 

ขอเชิญร่วม...อนุโมทนาบุญถวายเทียนพรรษา วัดที่สาม...วัดเขาวงษ์ ถ้ำนารายณ์
วันที่ 22 กรกฏาคม 2556

​

เราไปถึงวัดกันเวลาประมาณ 10.00 น ซึ่งวันนี้เป็นวันพระใหญ่จึงมี ผู้คนเข้ามาทำบุญกันอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ซึ่งในวันนี้ ได้คุณ hafe wave และคุณ kitphi มาร่วมถวายเทียนพรรษาด้วย (พี่น้ำใสไม่ได้มาร่วมทริป เนื่องจากไปเยี่ยมพ่อที่ผ่าตัดอยู่โรงพยาบาลที่ ร้อยเอ็ดค่ะ แต่โทรมาอนุโมทนาบุญล่วงหน้า ในระหว่างเดินทาง)

​

นอกจากเทียนพรรษาแล้ว > ยังมีผ้าไตรชุดใหญ่ที่เป็นชุดสังฆทานของทางวัดพร้อมพระพุทธรูป > ผ้าห่มผืนใหญ่ >ไฟฉาย > พร้อมปัจจัยถวายพระ และชำระหนี้สงฆ์ จำนวน 7,620 บาท​

หลังจากที่หลวงตารับเทียนพรรษาไปแล้ว หลวงตาขออนุญาติว่า ถ้ามีคนนำเทียนมาถวายมากจนที่วัดใช้ไม่หมด จะนำไปให้กับวัดอื่นๆที่ขาดแคลน พวกเธอก็จะได้อานิสงค์เพิ่มขึ้น สาธุ สาธุ สาธุ ยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งเจ้าค่ะ

อานิสงส์ของการถวายเทียนพรรษา

การถวายเทียน พรรษานี้เป็นโบราณประเพณีที่ทำสืบ ๆ มาเป็นเวลาช้านานเมื่อถึงฤดูเข้าพรรษา ภิกษุทั้งปวงต้องจำพรรษาในอาวาสของตน 3 เดือน พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย จึงได้จัดทำให้เป็นกุศลพิธีขึ้นเมื่อได้นำเทียนไปถวายพระสงฆ์แล้ว ท่านก็จะได้จุดบูชาต่อหน้าพระประธานในพระอุโบสถ ผู้ถวายย่อมได้รับอานิสงค์ คือ

1.ทำให้เกิดปัญญา ทั้งชาตินี้และชาติหน้า เปรียบเหมือนแสงสว่างแห่งเทียน
2.ทำให้สว่างไสวรุ่งเรือง ผู้ถวายย่อมทำให้มีความรุ่งเรืองด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญ
3.ทำให้คลี่คลายเรื่องราวต่างๆ ที่มีปัญหาให้ร้ายกลายเป็นดี
4. เจริญไปด้วยมิตรบริวาร
5.ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์ และเทวดาทั้งหลาย
6.เมื่อจากโลกนี้ไปย่อมมีกายทิพย์อันสว่างไสว
7.เมื่อลาลับโลกนี้ไปย่อมไปสู่สุคติสวรรค์
8.หากบารมีมากพอ ย่อมทำให้เกิดดวงตาจักษุ คือปัญญารู้แจ้งเข้าสู่พระนิพพาน

ปัจจัยที่ถวายให้กับวัดนี้มากกว่าสองวัดที่ผ่านมา...อนุโมทนาบุญกับท่านwidya พี่โม-พี่เดือน รวมถึงคุณนพและน้องกฤษ ที่ร่วมบุญเพิ่มค่ะ

สรุปยอดเงินที่ใช้งานบุญถวายเทียนพรรษาพร้อมเครื่องไทยธรรม รวมทั้งสิ้น 33,164 บาท

--- ปัจจัยถวายพระและชำระหนี้สงฆ์ 17,200 บาท
--- เทียนพรรษาและเครื่องไทยธรรม 15,964 บาท

อนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลกับทุก ท่านที่ร่วมบุญมาในครั้งนี้ เงินทุกบาท ทุกสตางค์ ตั้งใจใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่หักค่าใช้จ่าย ใดๆทั้งสิ้น

ขอให้อานิสงส์ของการถวายเทียนพรรษา จงบังเกิดกับผู้ร่วมบุญแบบฉับพลันทั้งแปดข้อ ในทุกพบทุกชาติด้วยเทอญ สาธุ

 

​

 

คุณยายแข็งแรงจริง ๆ ค่ะ คอนเฟิร์ม อิอิ อายุท่าน ๖๖ ขวบปีแล้วค่ะ
ก่อนกลับได้ถามคุณยายว่าหลังจากเดินขึ้นเขาชัน ๆ แล้วมีอาการเมื่อยขาบ้างไหมคะคุณยาย?
คุณยายบอกว่าไม่มีจ้า สบายดีจ้า...โอ๊ย ไม่อยากจะบอกว่าหนูเมื่อยขาจังค่ะ แอบอายเล็กน้อย อิอิ


คุณยายแอบบอกเคล็ดลับการเดินขึ้นเขาแล้วไม่เหนื่อยมาว่า
จดจ่ออยู่กับคำภาวนา สำหรับคุณยายคือ ซ้ายขวา ซ้ายขวา เป็นจังหวะ ไม่หยุด
จับลมหายใจด้วยจะช่วยได้มากค่ะ (ดู ๆ ไปก็เหมือนกับการทรงสมาธิอย่างหนึ่งนะคะ)
แล้วจะเดินขึ้นเขาไม่เหนื่อยเลยค่ะ
คุณยายบอกอีกว่าทริปนี้เป็นทริปที่คุณยายมีฟามสุขมั่กมากค่ะ อิอิ


แอบเม้าท์นิดนึง คุณยายสวดมนต์เก่งมากค่ะ
พอดีคุณยายมานอนเป็นเพื่อนในห้องพระบ้านพี่น้ำใส
ก่อนนอนก็เห็นสวด ตื่นเช้าก็สวด ท่านสวดมนต์คล่องปร๋อ แถมนั่งสมาธินานด้วยค่ะ
ตาลล่ะอ๊ายอาย เพราะเอาแต่นอน อิอิ โมทนาสาธุบุญกับคุณยายด้วยนะคะ

 

วันนี้เงียบเชียบพิกล มาเล่าเรื่องอานิสงค์การถวายดวงแก้วมณีให้ฟังเพลิน ๆ นะคะ
อ่านแล้วไม่ต้องไปซีเรียสมาก สำหรับท่านที่ไม่เชื่อถือว่าอ่านเป็นนิทานไปก็ได้ค่ะ...


อานิสงค์ของการถวายดวงแก้วมณีในพระพุทธศาสนา
นอกจากจะทำให้ทิพจักขุญาณแจ่มใสแล้ว
ยังมีเรื่องหนึ่งที่ตาลเองก็เพิ่งค้นพบด้วยตัวเองเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ


จริง ๆ ก็เป็นเรื่องที่พี่น้ำใสเคยบอกไว้อยู่แล้ว
แต่ในเมื่อมันยังไม่เกิดกับตัวเองก็เลยเฉย ๆ ยังไม่ทราบว่าจริงไหม


วันหนึ่งตาลนอนหลับไปตามปกติค่ะ
ปกติตอนนอน กายทิพย์ก็ออกมาลั่นล้าตามสภาพ
จิตดีก็มีสติ จิตไม่ดีก็ควบคุมกายทิพย์ไม่ค่อยจะได้
วันนั้นอาจจะนั่งสมาธิก่อนนอน เลยออกมาแบบมีสติเกือบเต็มร้อย
เห็นตัวเองออกมาจากกายหยาบได้ก็มองไปรอบห้อง
ห้องนั้นมืดทึบค่ะ มองไม่เห็นอะไร
เลยตั้งใจขอให้มีแสงจากกายทิพย์ออกมาจากตัวจะได้มองเห็นรอบ ๆ ห้อง
ปรากฎว่าเห็นกายทิพย์ของตนเองมีแสงสว่างส่องออกมา
มีรัศมีเป็นวงกลมคล้ายดวงแก้ว แต่สว่างกว่ามาก เหมือนส่องไฟฉายสักร้อยดวง
รัศมีประมาณสองเมตรจากตัวได้ค่ะ แถมสั่งให้หดเข้าก็ได้ สว่างออกก็ได้
แปลกดี ... แต่ก็ยักไหล่ สักพักก็ออกไปข้างนอก หาเรื่องแกล้งคนตามปกติ


ที่เล่าให้ฟังนี้ไม่ได้ตั้งใจโอ้อวดอะไรนะคะ
เพียงแต่อยากเป็นกำลังใจให้ทุก ๆ ท่านที่กำลังปฏิบัติอยู่ และเพื่อยืนยันว่า...
อานิสงค์ของการถวายดวงแก้วมณีในพระพุทธศาสนา ทำให้รัศมีกายสว่างไสวจริง ๆ ค่ะ

 

สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานของน้องตาล และอนุโมทนาบุญกับท่านกลัยณมิตรทุกๆท่านด้วยนะค่ะ

จันทรกาล

 

ย้อนรอยประวัติดวงแก้วจักรพรรดิ

สาธุ ขอโมทนาบุญสำหรับภาพสวย ๆ งาม ๆ ของท่าน Vatechayana ด้วยนะคะ
ในภาพนี้จะมีพระประธานองค์ใหญ่สีเหลืองทองอร่ามงามจับตา
พี่น้ำใสเล่าให้ฟังว่า ที่หน้าลานพระประธานแห่งนี้นี่เอง
ท่านปู่เกษรีฤาษีได้อุปฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๑,๐๐๐ องค์ค่ะ
(จำไม่ได้ว่าอยู่ในประวัติดวงแก้วดวงไหน) ยังกะเดินรำลึกถึงอดีตเลยนะคะ


เมื่อเราเดินไป ก็จ๊ะเอ๋กับฝูงชะนีป่านักห้อยโหน...มากันจริงไม่มีสแตนอิน
แถมเต๊ะท่าถ่ายรูปเป็นเสียด้วย (ขออภัยไม่มีรูปประกอบนะคะ)
มองชะนีเพลินจริง ๆ ค่ะ เด็ก ๆ กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่
เด็กโข่งก็แอบกรี๊ดด้วย นาน ๆ เห็นทีนี่นา...^^


เมื่อลงมาที่วัดด้านล่าง ทางขวามือ จะพบกับต้นไม้ใหญ่ตระหง่านตระการตาหนึ่งต้น (ใกล้กับห้องน้ำหญิง)
อายุน่าจะหลายร้อยปี พี่น้ำใสเล่าว่า (ฟังเขาเล่ามาอีกทีน่ะค่ะ แหะ ๆ)
ตรงนี้แหละที่เคยเป็นเมืองมาก่อน เป็นในส่วนที่พี่เอ๋ได้ฝันถึง
ตอนนี้ก็กลายเป็นลานและมีสิ่งปลูกสร้างเล็กน้อย
เห็นแล้ว...พลอยถอนหายใจ เมื่อก่อนเคยเป็นเมืองอันรุ่งเรืองแท้ ๆ
แต่ตอนนี้แม้เศษซากก็ไม่แลเห็น เป็นดั่งเช่นกฎไตรลักษณ์อันทรนง...
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และสูญสลายไป จริง ๆ ค่ะ

 

ปกติอ่านพุทธพจน์ไม่ค่อยออก เห็นแล้วตาลายคล้ายจะเป็นลม ต้องดมยา (หม่อง) ก่อนอ่าน
แต่ที่พี่น้ำฝนลงให้อ่านนี้ อ่านแล้วเข้าใจ (บ้าง) ค่ะ
เข้าใจว่า...สิ่งที่ทำนั้นดีแล้วค่ะ คือเกาะบุญพี่หม่อน พี่น้ำใส ท่านวิทยา ฯลฯ และพี่น้องชาวกระทู้
ทำบุญหนีบาปไปเรื่อย ๆ ทำโดยไม่ขาดสาย
เหมือนคอยหาน้ำมาเติมใส่เกลือเม็ดใหญ่เพื่อเจือจางไม่ให้ความเค็มมันเกาะกินเราได้
จะได้ไม่เป็นสนิมเนาะ อิอิ ...