ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..สมเด็จพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า ตรัสสอนเรื่อง "มรณานุติ"..

    สาธุ..สาธุ...สาธุ..

    ขออนุโมทนาบุญกับน้องตาลด้วยค่ะ เรื่องราวในอดีตบางเรืองกว่าจะเฉลยได้นั้น เป็นปีค่ะ

    พี่เคยเห็นภาพต่าง ๆ ตั้งแต่ยังทำงานประจำอยู่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ก่อนปี ๒๕๔๗ ขณะนั้นยังไม่ได้ฝึกมโนยิทธิ เริ่มปฏิบัติธรรมแล้ว เป็นนิมิตในขณะที่นั่งสมาธิบ้าง (ขณะนั้นฝึกสมาธิแบบพุท-โธ) และเป็นการหลับฝันบ้าง แต่เป็นฝันที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใดยังจำได้

    ครั้งแรกฝันเห็นภาพตนเองยืนเรียงแถว ในภาพนั้นปรากฏว่ากำลังรอรับใครก็ไม่ทราบ ทุกคนอยู่ด้วยความสงบ สักพักใหญ่ เห็นพระพุทธเจ้าเสด็จมากลางอากาศ ทุกคนที่นั้น ได้รับพระสงฆ์ทุกคน ยกเว้นตนเองเพียงผู้เดียว

    จึงนึกในใจว่า "ทุกคนได้ทำบุญกับพระภิกษุ เหลือเราเพียงคนเดียว จะทำอย่างไรดี เราไม่มีพระจะทำบุญ"


    ขณะที่คิดอยู่นั้น ปรากฏมีเสียงดังขึ้นว่า ให้มองไปที่ท้องฟ้า ปรากฏว่า..เห็นพระพุทธเจ้าทรงจีวรสีเหลืองทองประกายส้ม พุทธลักษณะสวยงามมาก เสด็จลงตรงหน้า ก้มลงกราบพระบาท รู้สึกว่า ตัวเองตัวเล็กนิดเดียว แต่พระบาทใหญ่โตมาก ได้ยินพระสุรเสียงอันดังว่า...



    "อย่าลืมมรณานุสตินะลูก"

    ตอนนี้ยังไม่ทราบว่า ท่านคือสมเด็จพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า

    X4999884-13.jpg X4999884-19.jpg

    ภาพผู้หญิงหันหลังเสื้อสูทสีม่วงคือ ดิฉัน และเด็กน้อยที่หลับอยู่กับคุณยายผมหยิก คือบุตรสาวของดิฉันค่ะ

    หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์เผาสถานทูตไทยในกัมพูชา เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๖

    ตอนนั้นมีบุตรแล้วอายุได้ ๕ เดือน เป็นเหตุการที่ระทึกขวัญพอสมควร

    ภาพนั้นยังจำได้ดี คล้ายหนังสงครามที่เราได้ดูกันแหละ เนื่องจากมีบุตรดิฉันจึงขอพักอยู่นอกสถานที่ที่บริษัทจัดให้ ได้เช่าบ้านส่วนตัวต่างหาก เป็นเหตุให้รถบริษัทฯไม่ได้กลับไปรับ


    โชคดีที่เพื่อนสนิทมีสามีเป็นชาวต่างชาติ ทำงานองค์กรของเยอรมัน นำรถไปรับ ระหว่างทาง ผ่านบริษัทพบว่า

    มีเอกสารต่าง ๆ เครื่องคอมพิวเตอร์ ถูกกองไว้หน้าบริษัท แล้วเผาเอกสารเหล่านั้น ผ่านบริษัทฯคนไทยก็โดนเผา และเห็นรถคนไทยโดนเผาอย่างไม่เหลือซาก


    เมื่อถึงสนามบินกองทัพอากาศกัมพูชา ได้นั่งเครื่องบินเที่ยวแรก เนื่องจากมีเด็กทารก และคนชรา เราจึงถูกส่งกลับประเทศเป็นพวกแรก และมีเพื่อนที่อยู่บริษัทเอกชนได้รับบาดเจ็บจากไฟครอกด้วย บรรดาเต็มไปด้วยความซึมเศร้า ไม่มีใครพูดจา

    ขณะที่อยู่บนเครื่องหัวหน้านายทหารถามว่า "เป็นอย่างไรบ้างครับ พวกผมรอคำสั่งนายอย่างเดียว ที่จะมาพวกคุณกลับบ้านด้วยใจจดใจจ่อ ตอนนี้คุณ และครอบครัวจะปลอดภัยแล้วนะครับ"


    ตอนนั้นจำได้ว่า รู้สึกจุกที่ลำคอ น้ำตาจะไหล ได้แต่ยกมือไหว้ ขอบคุณ เพราะเราไม่รู้ข่าวสารจากต่างประเทศเลย โทรศัพท์ในประเทศโดนตัด โชคดีที่ทำงานบริษัทสื่อสาร ทำให้เราใช้ระบบภายในสื่อสารกัน แต่ภายนอกเราติดต่อใครไม่ได้เลย

    วันนั้นเป็นนักข่าวหลายช่องมาแย่งกันสัมภาษณ์ เป็นข่าวอยู่หลายวันค่ะ แต่ตอนนั้นรู้สึกว่า เหมือนเราเพิ่งผ่านจากความตายมาได้ รู้สึกปลื้มใจที่ท่านเมตตา



    ครั้งนั้นได้นั่งเครื่องบิน C430 เป็นครั้งที่ ๒ ของชีวิต ครั้งแรกตอนเหตุการณ์จลาจลกลางกรุงพนมเปญ เมื่อปี ๑๙๙๗ (รายละเอียดไม่ขอเล่านะคะ เป็นเรื่องยาวพอสมควร)



    จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้รู้สึกว่า ความตายอยู่ใกล้เรานิดเดียว เป็นเหตุให้สนใจเรื่องการฝึกมรณานุสติแต่นั้นมา


    ***************************

    ต่อมานั่งสมาธิก็เห็นภาพวัดที่สร้างด้วยศิลาแลง มีพระพุทธรูปสร้างด้วยหินทรายขาวงดงามมาก ครั้งแรกฝันว่า เดินอยู่ในวัดมีความสุขมาก อยู่กับคนที่ไม่เคยรู้จักกัน ผู้คนแต่งกายแปลก ๆ

    ครั้งต่อมาก็เห็นภาพ เกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ วัดที่สร้างนั้นพักลงมา พระพุทธรูปใหญ่มาก สีขาวพระศอหักฃพังลงแช่น้ำ ตนเองคล้ายลอยอยู่กลางอากาศแล้วร้องไห้ รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมากกับภาพที่เห็น

    เคยกราบถามหลวงปู่สวัสดิ์ ปภาสโร วัดจันทร์ใน กรุงเทพฯ (ขณะนี้มรณภาพแล้ว อยู่ชั้นพรหมสุธาวาส) หลวงปู่ท่านนั่งนิ่ง และตอบว่า...



    "เป็นเรื่องอดีตของโยมนะ สมัยที่เห็นนางฟ้า เห็นวัดพังก็เลยร้องไห้ แต่แสดงให้เห็นถึงว่า ของทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา พระที่สร้างก็พังได้ ไม่มีอะไรแน่นอน ให้พิจารณาเป็นกฏไตรลักษณ์ไปนะ"

    เวลานั้นแม้ฟังหลวงปู่ท่านสอน แต่ก็ไม่เข้าใจเรื่องของกฏไตรลักษณ์เท่าใดนัก แต่จำได้ว่าท่านให้พิจารณาอย่างนั้น

    จากนั้น ต่อมาได้ฝึกมโนฯ ปี ๒๕๔๙ ก็ทราบว่า ในอดีตสมัยพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า เคยสร้างวัด และมีชื่อว่า นารทลดา และมีสามีชื่อ ท่านวิมุตติเศรษฐี ปัจจุบันท่านเข้าพระนิพพานไปแล้ว (ช่วงนี้ท่านได้มาสงเคราะห์เรื่องการปฏิบัติธรรม ทำให้ธรรมก้าวหน้าขี้นเร็วมาก) แต่ก็ยังทราบไม่ละเอียด

    และทุกอย่างถูกเปิด เมื่อได้จักรทั้ง ๖ ปรากฏขึ้นมา เรื่องราว ภาพที่เห็นเริ่มลำดับตามความเป็นจริงค่ะ

    สำหรับวัดพุทธธารามบพิตรนั้น ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวัดโพธิญาณรังสี อ.เมือง จ.สุรินทร์ หรือเมืองสาเกตในอดีตนั่นเอง เรียกว่า เป็นแคว้นมากกว่า รวมพื้นที่ภาคอีสานใต้เกือบทั้งหมด

    ส่วนเมืองธัมมปุรนครนั้น อยู่บริเวณวัดป่าชลิตานุสรณ์ อ.หัวหิน จ.เพชรบุรีค่ะ


    เรื่องราวการสร้างวัดนั้น ผู้ที่เกิดในชาตินี้มีหลายท่านที่ได้กลับมาสร้างวัดนี้อีกครั้ง โดยไม่ทราบสาเหตุ ทุกคนต่างก็พูดว่า เราคงเคยร่วมบุญกันมาก่อน ชาตินี้ก็ได้มาสร้างบุญด้วยกัน

    ขออนุโมทนาในธรรมทานของน้องตาลอีกครั้งค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2013
  2. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณ phuya ด้วยค่ะ สำหรับท่านที่ผ่านจากครั้งที่ ๑ ฝึกมโนมยิทธิแล้ว ขอเชิญไปฝึกขั้นที่ ๒ คือ ฝึกท่องเที่ยวค่ะ รวมทั้งที่เคยได้มโนมยิทธิแล้ว ก็เรียนเชิญเข้าฝึกขั้นที่ ๒ ก่อนค่ะ

    ส่วนท่านที่ไปครั้งแรก จะเข้าฝึกมโนมิทธิเบื้องต้นค่ะ และดิฉันจะร่วมฝึกกับท่านที่ฝึกครั้งแรก เพื่อสังเกตการณ์ และให้คำแนะนำ หลังจากการฝึกค่ะ

    สำหรับน้อง pizza4g พี่ขอเชิญอย่างเป็นทางการนะคะ เรายินดีต้อนรับน้องเสมอค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    Numsai
     
  3. world999

    world999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +1,992
    ขออนุโมทนาบุญกุศลจากการปฏิบัติดีและกุศลบุญจากธรรมทานกับทุกๆท่านที่ได้กระทำผ่านมาทั้งหมดทั้งมวลครับ ก่อนเข้าพรรษาก็ได้เดินทางไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่า และพึ่งกลับมาจากการปฏิบัติธรรมและบำเพ็ญสมาธิ 5วัน ที่ต่างจังหวัด ตั้งใจนำบุญมาสู่สมาชิกทุกท่าน ขอกุศลนี้ จงเป็นปัจจัยให้ผู้มีพระคุณทุกท่าน เจ้ากรรมนายเวร รวมทั้งทุกท่านและข้าพเจ้าจงเป็นผู้มีจิตอันเข้าถึงธรรมมีดวงตาเห็นธรรม ได้ทิพยจักษุญาณ ได้ปฏิสัมภิทาญาณและถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ จงทุกท่านเทอญ สาธุ ๆ ๆ
     
  4. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    สาธุ..สาธุ..สาธุ...

    ขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์ด้วยค่ะ ช่วงเข้าพรรษาเป็นช่วงที่เก็บเกี่ยวบุญกุศลได้ดีที่สุด หลายท่านปวาราณาในการรักษาศีล ๘ บางท่านปาวาราณาอาหาเรฯ คือการงดอาหารมื้อเย็นตลอดพรรษา บางท่านถือเนสัชชิก คือการไม่เอาหลังแตะพื้น ล้วนแล้วแต่เป็นการฝึกตนสร้างบารมีทั้งสิ้น

    ขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์และทุกท่านที่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติความดีทั้งหลายด้วยเถิด สาธุ

    Numsai
     
  5. หวงจื้อเซวียน

    หวงจื้อเซวียน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,296
    ค่าพลัง:
    +8,718
    ผมของจอง 1 ที่นั่งครับพี่
    รอบนี้บุญไม่หล่นทับแล้ว แต่ไปด้วยใจล้วนๆ ^_^
     
  6. Paktawadee

    Paktawadee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2012
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +2,570
    สาธุ หนูดีขออนุโมทนาในธรรมทานของพี่น้ำใส และอนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยค่ะ

    "อย่าลืมมรณานุสตินะลูก"จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้รู้สึกว่า ความตายอยู่ใกล้เรานิดเดียว

    ค่ะตั้งแต่วันที่19/7/56ที่ผ่านมามีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับหนูดีมากมาย ความตั้งใจที่ไปงานบุญบวชหลานชายก็ได้ไป
    ตามความตั้งใจแต่มีเหตุเงินที่จะนำไปช่วยงานถูกขโมย ประมาณ4000บาทไม่ใช้ไม่เสียดายนะค่ะ
    แต่ก็แปลกจิตกับไม่ตกนะวันนั้นพอจะหลับตานอนพักก็เห็นภาพพระพิฆเนศองค์สีทองลอยมา
    ส่วนเรื่องแปลกอีกเรื่องคือ เมื่อวันที่29/7/56 ที่ผ่านมาก่อนออกจากบ้านหนูดีจะต้องกราบพระก่อนเสมอ
    แต่วันนี้กราบพระเสร็จหนูดีก็บอกว่าขอให้ลูกเดินทางปลอดภัยจากอุบัติเหตุทุกกรณี ณ.ตอนเช้าก็ซ้อนรถมอเตอร์ไซค์
    เพื่อไปทำงานปกติแต่อยู่ๆก็มีมอเตอร์ไซค์วินมาชนขาหนูดี แรงพอสมควรก็ร้องเพราะเจ็บ แล้วก็ดูที่ขาไม่เห็นมีเลือดไม่มีแผล
    ก็เลยไม่เอาเรื่องมอเตอร์ไซค์วินคันนั้น พอเหตุการณ์ผ่านมาได้ก็งงว่าทำไมขาเราไม่เป็นไร ตอนเช้าถนนสายนี้รถเยอะมากๆ
    ค่ะถ้ารถล้มหรือตกลงไปกลางร่องถนนก็อาจเสียชีวิตหรือปาดเจ็บได้ค่ะ " ความตายอยู่ใกล้เรานิดเดียว"

    หนูดี
     
  7. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..คุณเจษฎามอบให้สำหรับท่านที่ร่วมบุญโครงการฝึกมโนฯค่ะ..

    20130709_162853.jpg 20130726_222844.jpg



    20130726_220151.jpg

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณเจษฎาด้วยค่ะ ขอให้สำเร็จในความปรารถนาค่ะ

    Numsai
     
  8. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    ทำไม... เราถึงอยากไปวัดป่าชลิตานุสรณ์ กันนักหนา
    ทำไม... เราถึงต้องไปวัดโพธิญาณรังษี


    เมื่อ...คราวที่นำผ้าป่ากองน้อยๆ ไปทอด ก็ไม่คิดว่าจะได้เงินถึง 139,999.- คิดกับพี่น้ำใสว่าได้เงินไปถวายวัด สี่ห้าหมื่นบาทก็ที่สุดแล้ว
    เมื่อ... เข้าไปในโบถส์ มีความรู้สึกอยากช่วยท่านสร้างโบถส์ให้เสร็จ
    เมื่อ... พี่น้ำใสฝึกมโนให้ สมเด็จพระพุทธกัสสปะ ท่านก็มาสงเคราะห์ด้วย
    เมื่อ... ฝึกสมาธิด้วยตนเอง ท่านก็มาสงเคราะห์ อีกหลายครั้งจนแปลกใจ

    เมื่อ...ถึงเวลานี้ ไม่มีคำถามแล้ว ว่า ทำไม ขอบคุณ นางฟ้าเจ้าระเบียบ ที่มีดวงจิตผูกพันธ์มาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันกับวัดพุทธธารามบพิตร
    และ....ในที่สุดเราก็กลับมาช่วยกันสร้าง วัดโพธิญาณรังสี กันให้สำเร็จอีกครั้งหนึ่ง

    อนุโมทนาบุญ...ในธรรมทานของพี่น้ำใสและน้องตาลนะคะ ไม่มีใครเกาะบุญใคร แต่เราจะร่วมสร้างบุญและเกาะไปด้วยกัน ทำคนเดียวมันเหงาจ้า
     
  9. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ กับความตั้งใจแบบไร้ขีดจำกัด...บ้านอยู่สุรินทร์ แต่มาฝึกมโนมยิทธิที่วัดท่าซุงอุทัยธานี...สุดยอด

    ขอให้ได้ทิพจักขุญาณ แจ่มใสแบบไร้ขีดจำกัดเช่นกันค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ (บอกตัวเองด้วย... อิอิ...อายจัง)


    สรุปรายชื่อ ที่แจ้งเข้ามาแล้วค่ะ

    1. คุณta2498
    2. คุณta2498 (คุณแม่)
    3. คุณหวงจื้อเซวียน

    (ตอนนี้เหลือ 9 ที่ค่ะ)

    อนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลด้วยค่ะ
     
  10. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติจักรทั้ง ๔ (สรรพญาณฯ-สิริวรินทรา-วาสิทธิจักร) ตอน ๙ สิริรัตนะเทพธิดาปรากฏ..

    IMAG1548.jpg IMAG1549.jpg

    ความเดิมหลังจากเจ้าชายสุทธิวงศ์ พระสวามีของเจ้าหญิงสุชาดาได้เล่าเรื่องราวในอดีตความเป็นมาของวัดพุทธธาราบพิตรแล้ว เจ้าหญิงปรารถนาที่จะพบกับเทพธิดาองค์นั้นอีกครั้ง จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานขอพบเทพธิดาที่เคยปรากฏให้ตนเห็นอีกครั้ง

    ________________________________________

    ครั้นเมื่อบรรทมหลับสนิท ไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น จนกระทั่งใกล้รุ่ง ได้ยินเสียงดนตรีอันไพเราะ คล้ายลอยลมมา ปรากฏแสงสว่างจ้ามาแต่ไกล จนทำให้เจ้าหญิงสุชาดาสะดุ้งตื่น มองดูพระสวามียังบรรทมหลับอย่างไม่รู้พระองค์

    จนกระทั่งแสงนั้นปรากฏข้างตั่งพระบรรทม เห็นเทพธิดาองค์เดิมลอยอยู่กลางอากาศ พร้อมทั้งเทพบุตรเทพธิดาอีกประมาณ ๑๐ กว่าองค์ ลอยต่ำกว่าเทพธิดาองค์นั้น พร้อมเครื่องดนตรีโบราณ เสียงเครื่องดนตรีหยุดไป เทพธิดาที่เห็นห้วหน้ากล่าวว่า..

    “เราคือ สิริรัตนะเทพธิดา จากสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ในอดีตเราคือ นารถลดา ภรรยาท่านวิมุตติเศรษฐี ท่านวิมุตติเศรษฐีนั้น ได้เข้าพระนิพพานไปแล้ว ส่วนท่านอัฒการนั้น ปัจจุบันอยู่ชั้นปรนิมมิตวสวัตตีเช่นเดียวกับเรา

    นี้คือบริวารของเราล้วนแต่ เป็นเคยสร้างวัดพุทธธารามบพิตรทั้งสิ้น นี้คือ เปธกาเทพธิดา หัวหน้าวิมานแห่งนี้ ส่วนนั้นคือ นรสีห์เทพบุตร เป็นหัวหน้าเทพบุตร

    ท่านเหล่านี้เวลานั้น ล้วนแต่มีทรัพย์น้อย แต่ตั้งใจรักษาศีล ประพฤติปฏิบัติธรรม จนเป็นผู้ทรงฌาน ๔ และใช้แรงงานในการสร้างวัดอย่างเต็มกำลัง อธิษฐานติดตามเราไปเกิดบนสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี เวลานี้พวกเราปิติเหลือเกินที่จะมีผู้จะมาทะนุบำรุงวัดแห่งนี้ให้สวยงามดังเดิม เราจึงนำเครื่องดนตรีมาร้องรำกันอย่างสุขใจ การนี้เราจะช่วยติดตามผู้ที่เคยสร้างวัดมาแต่กาลก่อน มาช่วยกันให้สำเร็จอีกครั้ง ขอเจ้าจงวางใจเถิด”


    ในนิมิตนั้น เจ้าหญิงสุชาดารู้สึกว่า ตนเองครึ่งหลับครึ่งตื่น จึงถามเทพธิดาไปว่า..

    “ข้าฯแต่ท่านผู้มีศักดิ์ใหญ่ ข้าฯจะเริ่มต้นอย่างไรจึงจะสำเร็จได้ง่าย”


    เทพธิดากล่าวว่า.. “มิอยากดอก ทำพิธีบวงสรวงแก่เทวดาทั้งหลาย พระอินทร์ท่านจักส่งเทพผู้มีอานุภาพสูงมาช่วยเหลือ ติดตามคนที่เกี่ยวเนื่องมาเอง

    แม้วัดนี้จะสร้างสำเร็จด้วยดี แต่ผู้ที่เสวยผลบุญกลับมิได้ไปสู่สุคติภูมิทุกคน บางพวกไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ บางพวกไปเกิดเป็นมนุษย์ บางพวกก็ไปเกิดในนาคพิภพ ด้วยเหตุขณะที่ทำบุญเจือด้วยความโลภหวังผลอยากให้ตนมีชื่อเสียง บางพวกไปเกิดเป็นมารก็มี

    การสร้างกุศลใด ขอให้ทำใจให้บริสุทธิ์ในการสร้างกุศลครั้งนั้น อย่าหวังเพียงชื่อเสียงหน้าตา แม้เราขึ้นชื่อว่า เป็นผู้นำบุญก็ตาม จงทำใจให้ปราศจากความลำเอียง ปราศจากความโกรธ ความโลภและความหลง แม้เพียงชั่วคราว

    เวลาทำทานให้ทรงอารมณ์อยู่ในกำลังฌานอยู่เสมอ อย่าให้มีนิวรณ์ ๕ เข้ามากวน จะทำให้บุญนั้นไม่บริสุทธิ์ ส่งผลให้เกิดในที่ต่าง ๆ กัน นี้ใกล้รุ่งแล้ว เราจะกลับก่อน

    หากจะพบเรา จงนำดอกมะลิหอมมาบูชาเรา เอ่ยนามของเรา เราจะมาพบ ขอให้จงไปหาพระโมคคียานะ เจ้าอาวาสวัดองค์ปัจจุบัน แล้วขอเรียนการฝึกสมาธิจากท่าน ท่านจะสอนทุกอย่าง
    เราไปละ”


    จากนั้นแสงสว่างก็จางหายไป เจ้าหญิงสุชาดาได้ตื่นจากบรรทม ก็พบว่า ทุกอย่างอยู่ในสภาพปกติ พระสวามียังคงหลับสบายพระทัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2013
  11. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติจักรทั้ง ๔ (สรรพญาณฯ-สิริวรินทรา-วาสิทธิจักร) ตอน ๑๐ พระอัศดงฤาษีปรากฏ

    ครั้นรุ่งเช้า เมื่อพระสวามีตื่นบรรทม ทรงเล่าเหตุการณ์ให้ฟังทุกประการ เจ้าชายสุทธิวงศ์จึงนำเรื่องการบวงสรวงเทวดาไปเล่าให้แก่พระเจ้าทิสวงศา พระเจ้าทิสวงศาพิจารณาแล้วว่า ควรให้พราหมณ์ตั้งพิธีบวงสรวงเทวดา โดยมีวาสุทินพราหมณ์เป็นเจ้าพิธี

    เมื่อตั้งพิธีบวงสรวงตามแบบโบราณกาลแล้ว ปรากฏว่า มีพระฤาษีตนหนึ่งเหาะลงจากท้องฟ้ามายังปะรำพิธี กล่าวแก่วาสุทินพราหมณ์ว่า..

    “วาสุทินพราหมณ์เอ๋ย เราคือ อัสดงฤาษี ผู้เป็นอาจารย์ของท่านมาแต่อดีต นี้คือ จักรสีเหลืองทั้ง ๒ นี้มีนามว่า


    “จักรศุภโชติบวรฤทธิ์ –จักรอภิสิทธิ์ปุญญราช”

    องค์หนึ่ง(อภิสทธิ์ปุญญราช)สำหรับท่านเป็นสิ่งช่วยในการทำพิธีต่าง ๆ ให้สำเร็จ จักรนี้จะดลบันดาลความสำเร็จต่าง ๆ ส่วนจักรสีเหลืองอีกองค์หนึ่ง(จักรศุภโชติบวรฤทธิ์) เราฝากจะไว้ วันหนึ่งผู้เป็นเจ้าของจะมารับด้วยตนเอง"

    พระเจ้าทิสวงศา เห็นความมหัศจรรย์แห่งผู้มีฤทธิ์นั้น จึงได้กราบอาราธนาพระฤาษี เป็นเวลา ๗ วัน เพื่อให้ตนได้อุปัฏฐาก เพื่อปรึกษาการบูรณปฏิสังขรณ์วัดพุทธธารามบพิตรต่อไป

    พระอัศดงฤาษีกล่าวว่า “มหาบพิตร เรานี้มีงานรออยู่มิอาจจะรับนิมนต์ของท่านได้ เรื่องการบวงสรวงครั้งนี้มีผลมาก มหาบพิตรมิต้องห่วง เหล่าเทวดาทั้งหลายรับรู้ เราจึงได้นำธาตุกายสิทธิ์มามอบให้วาสุทินพราหมณ์ เพื่อเป็นสื่อกับทางเบื้องบน

    อีก ๗ วันจะมีกษัตริย์ผู้เป็นสหายของพระองค์จะได้ให้ราชทูตนำธาตุกายสิทธิ์มามอบแด่พระองค์เช่นกัน ขอให้มาเพื่อช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการบูรณะวัดมากขึ้น เราต้องขอตัว ”

    เมื่อกล่าวจบ ท่านก็หายวับไปทันที พระเจ้าทิสวงศานั้น หาทราบไม่ว่า พระอัศดงฤาษีมิได้มาด้วยตนเอง เพียงให้มโนมัยกาย(มโนมยิทธิ) มาปรากฏ เพียงเพื่อนำจักรนาคราชมามอบให้เท่านั้น

    พระเจ้าทิสวงศานั้นรู้สึกตื่นเต้นที่เห็นการแสดงอิทธิฤทธิ์ จึงได้นำความนี้มาเล่าให้พระโมคคียานะ ท่านฟังแล้ว ก็ได้แต่โมทนาสาธุการ จากนั้นทรงให้เจ้าชายสุทธิวงศ์ และเจ้าหญิงสุชาดาปรึกษาแผนงานการบูรณะวัดตามลำดับ

    ครั้นวันที่ ๗ จากวันที่บวงสรวง ปรากฏว่า คณะราชทูตจากเมืองธัมมะปุระได้นำจักรสีขาว และจักรสีชมพูมาถวายแด่พระเจ้าทิสวงศาตามที่พระอัศดงฤาษีบอกไว้ทุกประการ



    ยังมีต่อ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2013
  12. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..จักรทั้ง ๖ (สรรพญาณฯ-สิริวรินทรา-วาสิทธิจักร) ตอนจบ บูรณะวัดเก่าและสร้างวัดใหม่

    พระเจ้าทิสวงศาได้รับสาส์นจากพระเจ้าสุธรรมราชาว่า...

    “ทิสวงศาสหายรัก อีก ๑ เดือนข้างหน้า ขบวนการเสด็จของเรา พร้อมพระญาติจะมาถึงเมืองสาเกตนคร เพื่อนำทรัพย์ส่วนพระองค์ และทรัพย์จากการบริจาคมาร่วมบุญในการบูรณะวัดครั้งนี้

    อีกประการ เราปรารถนาที่จะสร้างวัดในเมืองของเรา จะนิมนต์พระเถระจากเมืองของท่าน มาเพื่อจำพรรษาด้วย ขอให้ท่านช่วยโปรดชี้แนะด้วยเถิด

    ที่เมืองของเรามีเรื่องประหลาด เมื่อเราทำการบวงสรวงเทพยดา อยู่ ๆ ก็มีพระฤาษีปรากฏ พร้อมนำธาตุกายสิทธิ์มามอบให้เรา และฝากมาถึงท่านด้วย เราได้ส่งมาพร้อมกับเครื่องบรรณาการณ์แล้ว”


    เมื่อรับจักรทั้ง ๒ พร้อมเครื่องบรรณาการแล้ว ท่านให้ราชทูตพักอยู่อย่างสบาย และส่งไปให้ศึกษาเรื่องการสร้างวัดใหม่กับพระโมคคียานะ เจ้าอาวาสวัดพุทธธารามในขณะนั้น รวมทั้งศึกษาการสร้างวัดจากช่างฝีมือดีของสาเกตนคร

    ส่วนพระเจ้าทิสวงศานั้น ได้ประกาศบอกบุญแก่บรรดาเศรษฐีทั้งหลาย ทั้งได้นำเรื่องราวที่เจ้าหญิงสุชาดาทรงทราบมาจากนิมิต ประกาศให้ชาวนครได้รับทราบ ชาวนครนั้นต่างมีความปลื้มปิติที่จะได้สร้างบุญใหญ่อีกครั้ง ตามสมัยโบราณกาลในอดีตได้ทำมาแล้ว ปรากฏว่า มีผู้บริจาคทรัพย์มากมายมหาศาล ส่วนหนึ่งด้วยเทวานุภาพได้เคลื่อนทรัพย์ที่ไม่มีเจ้าของมาให้พระเจ้าทิสวงศา

    ครั้นถึงเวลา ๑ เดือน พระเจ้าสุธรรมราชา พร้อมพระมเหสี พระธิดาอีก ๒ พระองค์ ต่างเดินทางมาถึง สาเกตนคร ได้นำทรัพย์นับกว่า ๑๐๐ โกฏิมามอบให้พระเจ้าทิสวงศา

    เมื่อมอบทรัพย์ให้แล้ว พระองค์ทรงพักอยู่สาเกตนคร ๑๕ วัน จากนั้นพระเจ้าสุธรรมราชาก็เดินทางกลับเมือง พระเจ้าทิสวงศาเห็นว่า ทางธัมมปุระจะสร้างวัด จึงได้มอบทรัพย์ส่วนพระองค์ให้แก่พระเจ้าสุธรรมราชาจำนวนกว่า ๒๐๐ โกฏิสร้างความปิติยินดีแก่พระเจ้าสุธรรมราชายิ่งนัก



    การบูรณะวัดนั้นใช้เวลา ๘ เดือนจึงบูรณะเสร็จ พร้อมได้สร้างเจดีย์อีก ๑ องค์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จากนั้นมีการเฉลิมฉลองกันอีก ๗ วัน

    ต่อมาอีก ๗ เดือนเมืองธัมมปุระได้สร้างวัดสำเร็จ พระโมคคียานะเถระได้มอบหมายให้พระภัณฑุเถระ พร้อมพระเถระอีก ๙๐ รูป เพื่อเดินทางไปจำพรรษา ณ.ที่สร้างใหม่ ๑ ในจำนวนนั้น มีพระเวณปัญญาเถระ เดินทางไปด้วย และให้ชื่อวัดนี้ว่า...วัดธารสุธรรมบพิตร

    เนื่องจากบริเวณหน้าวัด มีน้ำตกสวยงามมาก กาลนั้นพระเจ้าทิสวงศาได้เดินทางไปพร้อมพระญาติ เพื่อร่วมฉลองการสร้างวัดใหม่เช่นกัน

    ต่อมาไม่นานพระเจ้าทิสวงศา และพระมเหสีได้สวรรคต จุติบนสวรรค์ชั้นดุสิต

    เจ้าชายสุทธวงศ์ไดครองราชย์ต่อจากพระบิดา ต่อมาพระนางสุชาดาได้ประสูติมีพระโอรส ๑ พระองค์นามว่า เจ้าชายสุทธโสณะ และได้บำรุงพระศาสนาจนสิ้นอายุขัย

    ส่วนเจ้าชายสุทธาวาสได้ออกผนวช จนเป็นพระเถระผู้โด่งดังในเรื่องการเทศนา และได้เป็นเจ้าอาวาสวัดพุทธธารามในภายหลัง

    กล่าวถึงพระเจ้าสุธรรมราชานั้น เมื่อพระมเหสีปรงสวรรคคต ได้ยกราชสมบัติให้แก่สุวรรณราชา ผู้เป็นพระอนุชา จากนั้นก็ทรงออกผนวช สำเร็จอภิญญา ๕ ภายหลังได้สวรรคตไปจุติบนสวรรค์ชั้น ๕

    เจ้าหญิงสุมิตรา และเจ้าหญิงสุวัจนาในชาตินั้น ภายหลังไ้ด้อุปสมบทเป็นพระภิกษุณี แต่บรรลุเพียงฌาณโลกีย์


    ประวัติจักรทั้ง ๖ ขอจบเพียงเท่านี้ค่ะ ต่อไปจะเป็นเรื่องที่เนื่องกับพระเกษรีฤาษี พระอัศดงฤาษี พระอัสรินทร์ฤาษี และพระสัจจฤาษีค่ะ


    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ติดตามด้วยดีตลอดมาค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2013
  13. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ผู้ที่เกี่ยวเนื่องในประวัติตอนนี้..

    สมัยพุทธกาลพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า


    พระเจ้าปเสนทิศาท- ท่าน widya

    พระเจ้าปศันทราช –ท่านสิทธิสัตตะ ชั้นดุสิต

    พระนางจันทริมา - น้องน้ำตาล

    สิริรัตนเทพธิดา/นารทลดา- Numsai


    _______________________________________

    ยุคหลังสมัยพุทธกาลพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า

    พระเจ้าสุธรรมราชา –ท่านวาสิทธิจักรเทวบุตร-สวรรค์ชั้น ๕

    พระนางสุนันทาเทวี –พระสิริปุญญรัตนะเทพธิดา-สวรรค์ชั้น ๕

    เจ้าหญิงสุชาดา - คุณ phuya

    เจ้าหญิงสุมิตรา - คุณจันทรกาล

    เจ้าหญิงสุวัจนา - น้องน้ำตาล

    พระเจ้าทิสวงศา - คุณ sun2555

    เจ้าชายสุทธิวงศ์/– ท่านสิทธิธรรมราชา ชั้นดุสิต

    เจ้าชายสุทธาวาส/โอรสที่ ๒ พระเจ้าทิสวงศา –คุณวาสุเทพ

    วาสุทินพราหมณ์ – คุณ mooom

    พระเวณปัญญา- คุณ Half wave


    _______________________________________________________

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  14. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    สาธุ สาธุ สาธุ๊ ขอกราบขออนุโมทนาบุญกับท่าน
    พระเจ้าปเสนทิศาท- ท่าน widya
    พระเจ้าปศันทราช –ท่านสิทธิสัตตะ ชั้นดุสิต
    พระนางจันทริมา - น้องน้ำตาล
    สิริรัตนเทพธิดา/นารทลดา- Numsai
    พระเจ้าสุธรรมราชา –ท่านวาสิทธิจักรเทวบุตร-สวรรค์ชั้น ๕
    พระนางสุนันทาเทวี –พระสิริปุญญรัตนะเทพธิดา-สวรรค์ชั้น ๕
    เจ้าหญิงสุชาดา - คุณ phuya
    เจ้าหญิงสุมิตรา - คุณจันทรกาล
    เจ้าหญิงสุวัจนา - น้องน้ำตาล
    พระเจ้าทิสวงศา - คุณ sun2555
    เจ้าชายสุทธิวงศ์/– ท่านสิทธิธรรมราชา ชั้นดุสิต
    เจ้าชายสุทธาวาส/โอรสที่ ๒ พระเจ้าทิสวงศา –คุณวาสุเทพ
    วาสุทินพราหมณ์ – คุณ mooom
    พระเวณปัญญา- คุณ Half wave

    ขอกราบอนุโมทนาบุญในธรรมทานของพี่น้ำใส
    ที่ได้เล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาแล้วนานๆ แสน นาน นานจนจำไม่ได้ อิอิ
    ในการที่เราได้ไปทำบุญแต่ละที่ ว่าเคยมีความเกี่ยวเนื่องกับเราอย่างไรบ้าง
    เกี่ยวกับใครบ้าง ส่วน ยศ ฐา บรรรดาศักดิ์ ในแต่ละยุค นั้น ก็เปลี่ยน แปลง กันไปตาม กำลังบุญบารมีที่ได้ทำไว้
    แต่ที่รู้สึกว่าไม่ค่อยเปลี่ยนไปสักเท่าใด นั้น คือ " นิสัย ของดวงจิตนั้นๆ " ช่างคล้ายกับปัจจุบันจังค่ะ (คิดเองนะค่ะ)

    และขออนุโมทนาบุญกับกลัยาณมิตรทุกๆท่านด้วยค่ะ

    จันทรกาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 กรกฎาคม 2013
  15. ขาล

    ขาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +4,466
    วันนี้ได้ถวายภัตตาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ของวัด พานธูปเทียนแพ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ดวงแก้วจุลจักรพรรดิ์ พวงมาลัย แด่พระทองอยู่ อายุ 90 ปี เจ้าอาวาสวัดหนองหมุก ขอผลบุญนี้จงถึงแก่เจ้ากรรมนายเวร เทวดาประจำตัว ญาติและไม่ใช่ญาติ ขอให้ข้าพเจ้าเข้าสู่พระนิพพานได้ในปัจจุบันด้วยเทอญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. Paktawadee

    Paktawadee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2012
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +2,570
    สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานค่ะ

    หนูดีอ่านธรรมทานของพี่น้ำใสแล้วปลื้มใจจังค่ะ ดีใจที่มีส่วนในการสร้างวัด "ท่านเหล่านี้เวลานั้น ล้วนแต่มีทรัพย์น้อย
    แต่ตั้งใจรักษาศีล ประพฤติปฏิบัติธรรม จนเป็นผู้ทรงฌาน ๔ และใช้แรงงานในการสร้างวัดอย่างเต็มกำลัง"


    หนูดี:)
     
  17. Paktawadee

    Paktawadee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2012
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +2,570
    ...รอบนี้พี่เดือนไปด้วยค่ะขอจอง1ที่นั่งค่ะ
    หนูดี
     
  18. kit_por

    kit_por เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +1,341

    จอง 1 ที่ค่ะ
     
  19. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ในสมัยพุทธกาลก็มีเรื่องเล่าเหมือนกัน เป็นเรื่องของพระสารีบุตร พอผ่านคูน้ำเล็ก ๆ ทีไร ท่านมักจะกระโดดข้ามคูน้ำบ่อย ๆ จนพระภิกษุปุถุชนนำไปนินทาท่านว่า

    "เป็นถึงพระอัครสาวกฝ่ายขวา เหตุใดไม่รู้จักสำรวม"

    พระพุทธองค์เคยเล่าบุพกรรมของพระสารีบุตรที่อดีตชาติเคยเกิดเป็นลิงหลายชาติ และทรงสรุปว่า การบรรลุธรรมนั้นเป็นเรื่องของการชำระกิเลสในจิตใจให้บริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวกับวาสนา(หรือนิสัยที่ติดตัวมา)

    แม้รูปร่างหน้าตาในแต่ละชาติ จะเปลี่ยนไปตามบุญกรรมของแต่ละบุคคล แต่วาสนา(นิสัยที่ติดตัวมา)ไม่สามารถแก้ได้ แม้แต่การเป็นพระอริยเจ้าก็ตาม


    บางคนไม่เข้าใจไปตำหนิติเตียนพระอรหันต์ หรือพระอริยเจ้าเข้า เลยเกิดเป็นกรรมปรามาสพระรัตนตรัยเข้าโดยไม่รู้ตัว ทำให้รับผลกรรมในชาติต่อ ๆ มา

    ดังเช่น นางขุชชุตตรา ในพระนางสามาวดี พระมเหสีพระเจ้าอุเทน เจ้าเมืองโกสัมพี ผู้มีปัญญามากเคยล้อเลียนพระปัจเจกพุทธเจ้าที่หลังค่อม และเคยใช้พระอรหันต์ที่เคยเป็นเพื่อนกัน แต่นางไม่ทราบว่า ท่านบรรลุพระอรหันต์แล้ว

    ทำให้นางจึงเกิดเป็นหญิงรับใช้ และีมีหลังค่อมดังกล่าว แต่ด้วยผลบุญที่เคยถวายทานแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าในอดีต ทำให้ชาตินี้ นางเกิดมาเป็นผู้มีปัญญาสูง ฟังธรรมครั้งเดียวบรรลุธรรม และยังเป็นกัลยาณมิตรให้แก่พระนางสามาวดีอีกต่างหาก


    เราจะเห็นได้ว่า กฏแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ ใครทำดีย่อมได้ดี แต่เหตุที่ยังไม่ได้ดี เพราะเราไม่ทราบว่า ในอดีตเราเคยทำกรรมหนักใดมาบ้าง จึงไม่เข้าใจเรื่องกฏแห่งกรรม

    ผู้ที่จะเข้าใจเรื่องกรรมได้นั้น จะต้องเป็นผู้บรรลุพระโสดาบันเป็นอย่างน้อย หากเป็นท่านผู้ปรารถนาพุทธภูมิจะต้องเป็นผู้ที่ทรงอารมณ์ของพระอริยเจ้าได้ จึงจะเข้าใจและไม่ตีโพยตีพาย เมื่อตนเองประสบทุกข์

    ท่านที่เข้าใจว่า ปรารถนาพุทธภูมิแล้ว ไม่ต้องเรียนรู้เรื่องทุกข์ หรือเรื่องพระนิพพานนั้น เป็นเรื่องเข้าใจผิด พระโพธิสัตว์จำเป็นต้องเรียนรู้วิปัสสนาญาณ ตั้งแต่เข้าบำเพ็ญปรมัตถบารมี

    และต้องโดนบทดสอบเรื่องของทุกข์ นับชาติไม่ถ้วน เรียนรู้จนช่ำชอง เพียงแต่ยังเข้าพระนิพพานไม่ได้ ด้วยมีกิจที่ต้องกระทำเท่านั้นเอง หลายท่านทนไม่ไหว ถึงกับลาพุทธภูมิไปเลยก็มี

    ส่วนท่านที่กำลังใจเข้มแข็งยังคงเดินทางต่อไป

    ขออนุโมทนาบุญกับน้องจันทรกาล และทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2013
  20. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ขอโมทนาบุญล่วงหน้ากับทุก ๆ ท่านที่จะไปฝึกมโนมยิทธิแบบท่องเที่ยวที่วัดท่าซุงนะคะ
    ตอนตาลฝึกน่ะ สนุกมากเลย (หลวงพี่อาจินต์เป็นคนสอนที่บ้านสายลม)
    แต่พอเจอญาณ ๘ บ้านสายลมเข้าไปนี่จอดดับเครื่องสนิท อิอิ
    เจอไปครั้งเดียวนี่ถึงกับต้องเผ่นหนีขึ้นไปขอฝึกห้องสำหรับคนมาใหม่อีกหลายรอบ
    สุดท้ายลงมาเครื่องก็ดับสนิทอีก แหะ ๆ
    ท่านอื่น ๆ อาจไม่เป็นอยางตาลก็ได้ค่ะ เอาใจช่วยนะคะ...
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...