ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    สาธุ สาธุ สาธุ

    ขออนุโมทนาบุญกับน้องขาลด้วยจ๊ะ เห็นภาพการจัดดอกไม้แล้ว สวยงาม เป็นที่น่าปลื้มใจจริง ๆ ค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับน้องขาลด้วยจ๊ะ

    Numsai
     
  2. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ทุกคนมีกรรมนำมาเกิด..ไม่มีใครล่วงพ้นกฏแห่งกรรมไม่ว่าดี หรือชั่วก็ตาม..

    ตามประวัติท่านไม่ได้เล่าละเอียด เนื่องจากจุดประสงค์ของการเล่าประวัตินั้น เพื่อให้เราทราบว่า ในอดีตเราเคยทำความดีอะไรมา เพื่อให้เรามีกำลังใจในการสร้างทานบารมี ไม่ท้อแท้แม้จะประสบทุกข์

    แต่ไม่ได้ให้เรายึดติดในอดีตว่า เราเคยเกิดเป็นกษัตริย์ หรือเป็นเศรษฐีมาก่อน พี่เองเคยระลึกได้ว่า เคยเกิดเป็นขอทานมาก่อน

    ก่อนจะเป็นขอทาน ก็เป็นลูกของคหบดีมาก่อน แล้วได้แต่งงานแยกเรือนจากบ้านเกิดตัวเองมา ต่อมาด้วยวิบากกรรมบางอย่าง สามีเกิดตายด้วยโรคปัจจุบันทันด่วน

    ขณะนั้นมีบุตร ๒ คน เป็นบุตรชายอายุได้ ๗ ขวบ และบุตรสาวอายุได้ ๓ ขวบ เมื่อสามีตาย ญาติของสามีหาเรื่องโกงทรัพย์ไปหมด และไล่ตนเองและลูกออกจากบ้าน เราต้องเดินทางระหกระเหิน แรก ๆ ก็มีเงินพอซื้อข้าวกิน

    ต่อมาเงินเริ่มหมด ไม่มีอะไรเลีึ้้้ยงลูก ไม่มีอาชีพ จึงได้ขอทานเขากิน บางทีคนสงสารก็ให้กินบ้าง บางทีก็ถูกเขาไล่ออกไปไม่สนใจ


    วันหนึ่งเกิดบุตรชายวัย ๗ ขวบด้วยความซน ลงเล่นน้ำเกิดจมน้ำเสียชีวิตไป ตัวเองอุ้มลูกสาวไปลากศพลูกชายไป ร้องไห้ เหมือนคนไม่มีสติ..ฉุกคิดได้ว่า ยังมีลูกสาวอีกคน

    จึงได้นำศพลูกชายไปฝัง และออกรับจ้างทำงานบ้าน วันหนึ่งบุญเก่าส่งผล เขาให้ไปดูแลคนชราในบ้าน จึงได้มีที่อยู่ที่กินอย่างไม่ลำบาก จากนั้นได้มีโอกาสทำบุญใส่บาตร สร้างกุศลใหม่อีกครั้ง


    _________________________________________________________

    อีกชาติหนึ่งคือ ชาติที่เกิดมาเป็นหญิงที่มีหน้าตาสวยมาก แต่งตัวคล้ายพวกแขกขาวในปัจจุบัน แต่ถูกหลอกไปขายบริการ เนื่องจากมีวิบากจากปรามาสพระโสดาบันว่า เป็นหญิงโสเภณี

    ทำให้หลายชาติถูกพ่อแม่ขายให้กับนายทุน เพื่อเป็นหญิงโสเภณี บุญเ่ก่าช่วยไว้ บางชาติมีคนช่วยเหลือให้รอดพ้น บางชาติแม้ถูกให้ไปเป็นนางบำเรอ แต่ชายผู้นั้นกลับรักจริง จึงไม่ต้องไปใช้วิบากแบบหญิงโสเภณีจริง ๆ

    นี้เป็นการระลึกชาติที่รู้สึกรันทดใจมาก มิใช่ว่า เราจะเกิดมาพบแต่ชาติที่เสวยสุขเสมอไป


    มาชาตินี้ จึงต้องเร่งสร้างบุญกุศล บางช่วงของชีวิตมีความคล่องตัวในทรัพย์ก็ทำตามกำลัง บางช่วงที่วิบากกรรมผิดศีลข้อ ๒ ส่งผลเงินไม่คล่องตัว พี่จะใช้แรงงานในการสร้างบุญ ที่ง่ายที่สุดคือ

    ๑.กวาดทำความสะอาดตามวัด

    ๒.ทำความสะอาดห้องน้ำตามวัด

    ๓.รักษาศีล หมั่นสวดมนต์ เจริญกรรมฐานให้ใจใสอยู่เสมอ


    เป็นสิ่งที่พี่ทำอยู่เป็นประจำ ก่อนที่จะอัญเชิญพระธาตุ เพื่อแจกจ่ายต่อผู้มีจิตศรัทธา จนกระทั่งปัจจุบันตั้งแต่ได้ดวงแก้วศุภมงคล -แก้วจงกลมณีกานต์มาบูชา ความคล่องตัวในทรัพย์เกิด ได้สร้างบุญใหญ่อย่างต่อเนื่อง ครอบครัวมีความสุข

    ดังนั้น ท่านใดที่ประสบทุกข์อยู่ อย่าได้ท้อแท้ต่อชีวิต การสร้างความดีนั้น ทำได้โดยไม่ต้องใช้ปัจจัย(เงิน) ใช้แรงกายของเราในการสร้างบุญ เราจะได้วิริยบารมี และขันติบารมีไปพร้อมกัน ทำอย่างเต็มกำลังด้วยใจใส ๆ


    ดุจท่านเทพบุตรเทพธิดาทั้งหลายทำมาแต่กาลก่อน ซึ่งก็คล้ายสมัยของเรา พระเถระทั้งหลายท่านได้สอนให้ทำทาน รักษาศีลให้บริสุทธิ์ และตั้งใจเจริญพระกรรมฐานเช่นเดียวกัน เมื่อละโลกแล้ว ท่านเหล่านั้นได้ไปเกิดในพรหมโลก หรือสวรรค์เป็นที่ไป

    ขออนุโมทนาบุญกับน้องหนูดี และทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2013
  3. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905

    ขออนุโมทนาบุญกับน้องตาลด้วยนะค่ะ

    พี่ก็เหมือนกันค่ะน้องตาล ตอนไปลองฝึกญาณ ๘ รอบแรก (พึ่งไปครั้งเดียวค่ะ) ก็จอดสนิทเหมือนกัน อิอิ... ตามครูฝึกไม่ทันเลยจ้า ท่านไปเร็วมากค่ะ
    พอตามไม่ทัน (เลยนั่งสับปะงกแทน อิอิ... )
    แต่รอบหน้า จะไปใหม่อีกรอบค่ะ สงสัย คงจอดสนิทอีกป่าวไม่รู้ (ใครมีเคล็ดลับดีๆ บอกกันด้วยนะค่ะ) สาธุ๊

    ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ
    จันทรกาล
     
  4. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905

    สาธุ สาธุ สาธุ๊ ขออนุโมทนาบุญในธรรมทานของพี่น้ำใสอย่างที่สุด
    ที่ให้ความรู้ในเรื่องทั้งทางโลกและทางธรรม เสมอมา ทำให้รู้สึกปิติ ปลื่มใจในเรื่องที่ดีๆ
    และ ทำให้ปลงสุดๆ และยอมรับ ในกรณีที่เจอเรื่องไม่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เป็นไปตามกฎแห่งกรรม
    กรรมในอดีตที่เราไม่รู้ได้ว่า เราเคยทำอะไรมาบ้าง แต่ ณ ปัจจุบัน ขอทำดี และทำต่อเนื่องต่อไปค่ะ


    ขออนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใส และกลัยาณมิตร ทุกๆท่านอีกครั้งค่ะ

    จันทรกาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 กรกฎาคม 2013
  5. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ตอบจดหมายของคุณส้มจุกค่ะ..

    คุณน้ำใสคะ

    ...........................................................................................
    ...........................................................................................

    จะเล่าเรื่องดวงแก้วที่พี่น้ำใสมอบให้จากการจับสลาก ได้นำไปถวายให้สถานปฏิบัติธรรมที่ไปเป็นประจำเมื่อวันอาสาฬหบูชาที่ผ่านมาค่ะ

    ปรากฏว่าคุณน้าที่สถานปฏิบัติธรรมนั้นถามว่าได้ลูกแก้วมาได้อย่างไรก็เลยเล่าว่าได้มาจากการจับสลากในเว็บที่ร่วมทำบุญ

    ท่านบอกว่าตอนท่านอธิษฐานท่านเห็นฤาษีผมยาวดูหนุ่มๆ พร้อมกับเห็นลูกศิษย์หนุ่ม และเห็นผู้หญิงชุดขาวผมยาวอายุประมาณ50 ปี เป็นผู้นำดวงแก้วมา ซึ่งเทวดาเป็นผู้นำมาให้ในวันเพ็ญ พี่เลยบอกว่าต้องมาถามพี่น้ำใสก่อน

    เลยต้องขอรบกวนพี่น้ำใสช่วยให้ความกระจ่างด้วยค่ะ ถ้าไม่รบกวนพี่น้ำใสเกินไปนะคะ

    ขออนุโมทนากับพี่และคณะทุกๆท่านด้วยค่ะ ขอให้สมปรารถนาในทุกสิ่งที่ตั้งใจนะคะ

    ส้มจุกค่ะ[/QUOTE]

    ____________________________________________________

    ก่อนอื่นต้องขออนุโมทนาบุญกับคุณพี่ส้มจุกที่นำดวงแก้วไปถวายเพื่อเป็นสมบัติของพระพุทธศาสนาต่อไปค่ะ และขออนุญาตนำข้อความบางส่วนของคุณพี่มาตอบ เพื่อเป็นธรรมทานค่ะ


    *****************************

    ความจริงปีนี้น้ำใสอายุ ๔๓ ปีค่ะ(ไม่ไ้ด้ใบ้หวยนะคะ..อิอิ..) ระบบคำนวณจากวันเดือนปีเกิดค่ะ ส่วนปี ๒๐๐๗ นั้นเป็นปีที่สมัครเป็นสมาชิกของเว็บพลังจิตค่ะ


    ครั้งแรกที่อ่านรู้สึกปลื้มปิติใจมากค่ะ ที่มีผู้ได้สัมผัสครูอาจารย์ของน้ำใสได้ โดยท่านผู้นั้นไม่เคยรู้เรื่องราวใด ๆ มาก่อน เป็นข้อพิสูจน์เรื่องราวที่น้ำใสได้พบมานั้น เป็นเรื่องจริง


    ขอเฉลยว่า พระฤาษีผมยาว ๆ คือ พระเกษรีฤาษีค่ะ และลูกศิษย์หนุ่ม ๆ นั้น ท่านก็คือ พระสัจจฤาษี ที่อยู่ในประวัติดวงแก้วสัตยาธิษฐาน-แก้วสุขุมาลย์มณีฤทธิ์ ซึ่งน้ำใสกำลังจะเล่าช่วงต่อไป จากยุคของพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า และช่วงก่อนพุทธกาลของสมเด็จพระพุทธสมณโคดมค่ะ


    ส่วนผู้หญิงชุดขาวผมยาวนั้น เราเรียกท่านว่า แม่เฒ่าพยากรณ์ ท่านมีอายุมานานมาก ไม่ทราบว่านานเท่าใด มีหน้าที่ในการพยากรณ์ต่าง ๆ แก่ชาวนาคพิภพ ท่านรักษาศีลประพฤติพรหมจรรย์ดุจเทพธิดาพยากรณ์ เป็นที่เคารพของชาวบาดาลทั้งหลาย บางครั้งจะแสดงตนเป็นหญิงสาวสวย บางครั้งจะแสดงเป็นหญิงชรา หลังงองุ้มใส่ชุดสีขาว ถือไม้เท้า

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณพี่ส้มจุกอีกครั้งค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2013
  6. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    สาธุกับธรรมทานของพี่น้ำใสจ้า
    อย่างงี้สิ แมนจริง ชาติใดที่เราตกต่ำก็ถ่ายทอดออกมาเพื่อเป็นวิทยาทาน
    ไม่ได้เล่าแต่เพียงชาติที่เป็นกษัตริย์ เป็นขัตติยะนารี ฯลฯ
    ทำให้หลาย ๆ คนไม่หลงยึดติดในชาติภพ ใครมาว่า จะได้พูดกับเขาได้เต็มปากว่า
    "คณะเราไม่ได้ยึดติดกับอดีตนะจ้ะ"...อิอิ
     
  7. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    เคล็ดลับคือ ทำใจให้สบายค่ะ ไม่ต้องไปคิดอะไร ทำสมองว่าง ๆ โล่ง ๆ
    นึกถึงตอนทำบุญ ใจมันจะเบา ๆ สบาย ๆ แบบนั้นแหละค่ะพี่เอ๋
    จับอารมณ์ตรงนั้นให้ได้นะคะ

    เวลาที่ได้คำตอบในสิ่งที่ถาม จะรู้สึกเหมือนคำตอบมันผุดขึ้นมาเอง
    เหมือนน้ำผุดขึ้นมาโดยที่เราไม่ได้คาดคิด
    แรก ๆ จะยากนิดนึงเพราะเราจะไม่เข้าใจการทรงอารมณ์ใจเบาสบายนั้น
    แต่ถ้าทำได้ซักครั้งจะไม่ลืมค่ะ ...


    หนูเองไปฝึกญาณ ๘ ที่บ้านสายลมหลายครั้ง
    แต่ขอบอกว่าตอบผิดหมดเลยค่ะ ไม่เคยได้ซักครั้งค่ะ
    ทั้งเหนื่อย ทั้งใจแป้ว...


    หลัง ๆ มีโอกาสไปฝึกที่ศูนย์พุทธศรัทธา
    ตอนนั้นอาจารย์ท่านสอนอดีตังสญาณคือการดูอดีต
    อาจารย์ท่านสอนช้า ๆ ไปแบบชัด ๆ มีการรอกันด้วย เพราะทั้งกลุ่มมีไม่เยอะ ไม่เกิน ๑๐ คน
    ตอนนั้นอาจารย์ให้ดูว่าอดีตศูนย์แห่งนี้ในสมัยสมเ็ด็จพระพุทธกัสสปะนั้นเคยเป็นอะไร?
    ตาลก็นั่งหลับตาสงบ ซักพักก็เห็น ภาพพระภิกษุพระองค์หนึ่งนั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นไม้
    เบื้องหลังพระภิกษุรูปนั้นเป็นภูเขาลูกใหญ่ มีน้ำตกใสสะอาดไหลตกลงมาจากยอด
    พอตอบอาจารย์ไป ก็ปรากฎว่าที่เห็นน่ะถูกต้อง นั่นเป็นครั้งแรกที่ถูกค่ะ
    หลังจากนั้นความมั่นใจมันก็มา ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนน่ะป๊อดและจับอารมณ์ไม่ถูก อิอิ


    กลับจากศูนย์ก็เริ่มฝึกทรงอารมณ์ใจตลอด แล้วก็ลองทายของจริงบ้าง
    ลองเล่นปั่นแปะเล่นกะหลานดู ทายหัวทายก้อย
    ปรากฎว่าถูกหมดเลย จนหลานมองหน้างง ๆ ...อิอิ
    เอาดวงแก้วจันทรกาลขนาด ๕ เซ็นต์มานั่งจับสุ่มแบบหลับตา (ตอนนั้นมีอยู่ ๑๓ สี)
    ปรากฎว่าหยิบมาสีไหน ก่อนลืมตาก็จะเห็นแสงสีนั้นแว่บ ๆ เข้ามาตรงหางตาค่ะ
    ทายถูกหมดเลย จนเริ่มเข้าใจว่ามโนมยิทธิต้องทรงอารมณ์ใจแบบไหน
    บางครั้งก็จะมาเป็นความรู้สึกแรก ซึ่งเราต้องเชื่อความรู้สึกนั้นโดยไม่ลังเลสงสัย


    เอาใจช่วยทุก ๆ ท่านที่จะไปฝึกกันนะคะ
    ถ้าอยู่ใกล้ ตาลก็ว่าจะไปเหมือนกัน ไปย้ำค่ะ อิอิ
    สถานที่ที่ฝึกมโนมยิทธิส่วนใหญ่จะมีเทวดาอารักขา
    บริเวณนั้นจะเป็นเขตพิเศษที่เหล่ามารทั้งหลายเข้าแทรกไม่ไ้ด้
    ซึ่งมันจะต่างจากการที่เราฝึกเองที่บ้าน หรือที่อื่น ๆ ค่ะ
    กระแสก็ดีด้วยนะคะ เข้าไปใจสงบเร้วเร็ว...


    ขอโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านล่วงหน้านะคะ

     
  8. widya

    widya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,095
    ค่าพลัง:
    +13,214
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณน้ำตาลด้วยนะครับ และขออนุโมทนาบุญธรรมทานกับคุณน้ำใสด้วยนะครับ


    อดีต ก็คืออดีต เกิดในฐานะที่สูง ต่ำ ดำ ขาว จน รวย โง่ ฉลาด ก็คืออดีตที่ผ่านมาแล้ว

    เพราะมีทั้งทำดีทำชั่ว ทำบุญทำบาป เป็นเหตุให้ดีใจเสียใจ สุขทุกข์

    เสวยกรรมดี เสวยกรรมอันเป็นผลของบาป ขึ้นสวรรค์ลงนรก

    เกิดแล้วก็ตาย ตายแล้วก็เกิด วนเวียนอยู่อย่างนี้ เหมือนกันทุกคน ไม่มีเว้นว่าเป็นผู้ใด

    ก็เป็นบทเรียน ที่เราเรียนมาแล้วทั้งหมด และก็ต้องเรียนซ้ำแล้ว ซ้ำอีก รอบแล้วรอบเล่า

    สอบผ่านบ้าง สอบไม่ผ่านบ้าง ก็ทนไป ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ต้องทน

    ในอนาคตก็เช่นกัน วนเวียนอยู่อย่างนี้ ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ต้องทน (พยายามทำใจไว้แล้ว ฮิฮิฮิ)

    ปัจจุบันเราจะพยายามทำดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ต้องทน จนกว่าจะถึงซึ่งพระนิพพาน


    มีพระอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านบอกว่าสรรพสัตว์ทั้งหลายในสามแดนโลกธาตุนี้

    คือพระอรหันต์ในอนาคตทุกคน ใครจะช้าและเร็วกว่ากันเท่านั้น

    ในที่สุดก็ถึงซึ่งพระนิพพานด้วยกันทุกคน

    ซึ่งพวกเราทั้งหลายก็เป็นหนึ่งในอนาคตนั้น

    (มั่นใจในตนเองมากๆ ฮิฮิฮิ แค่ หลายร้อยอสงขัยเท่านั้นเองสำหรับตนเอง)


    การขึ้นสวรรค์ ลงนรก หลวงตามหาบัว ท่านบอกว่า

    ก็เหมือนการขึ้นบันได ลงบันไดบ้านทุกวัน จนกว่าจะถึงซึ่งพระนิพพาน

    ถ้ายังไม่ถึงซึ่งพระนิพพาน ก็ขึ้นบันได ลงบันไดบ้านต่อไปเรื่อยๆ


    เมื่อหลายปีก่อน ไปร่วมสร้างเจดีย์วัดป่าชลิตานุสรณ์ จ.ประจวบฯ

    ข้าพเจ้ามักจะแวะไปทำบุญถวายสังฆทานกับหลวงปู่กูด ที่วัดใจทุกครั้งที่ไป

    ท่านบอกว่าการสร้างบารมีเพื่อพุทธภูมินั้นให้ "ทำไป ทนไป เพียรไป" ก็สำเร็จได้




    http://palungjit.org/threads/ร่วมบุญ-กองบุญแก้วบรมจักรพรรดิค่ะ.283863/page-108
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2013
  9. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,344
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,298
    สาธุในธรรมทาน กับพี่น้ำใส ด้วยนะครับ
    และขอบใจสำหรับคำแนะนำในการฝึกมโนยิทธิ ของ น้ำตาล ด้วยจ้า

    ผมเชื่อว่า พระรัตนตรัย เป็นที่พึ่งให้แก่สรรพสัตว์ในวัฎฎสงสาร
    บุญบารมีที่เราได้ทำก็จะเป็นสมบัติติดตัวไปใช้ในชาติต่อไป
    หรือเพื่อทำบุญเพื่อการปล่อยวาง และการหลุดพ้นในชาตินี้ สำหรับหลายคนนะครับ

    ทั้งนี้ ชีวิตมันก็มีขึ้น-ลง บันไดอย่างที่ ท่านวิทยา ได้นำธรรมะของหลวงตามหาบัวท่านมาโพสให้อ่านนะครับ
    ก็ขึ้น-ลงบันได จนกว่าจะรู้สึกเบื่อโลกนั่นแหละ จึงจะแสวงหาทางพ้นทุกข์ ทำดีเพื่อไปนิพพาน

    เท่าที่ได้เคยศึกษามา อธิษฐานบารมี สำคัญมากครับ
    จะเป็นอะไร หรือ อยากพ้นทุกข์ก็สำเร็จด้วยคำอธิษฐานทั้งนั้น

    หลวงปู่ดู่ ท่านเคยส่วนในเรื่องคำอธิษฐานไว้ดังนี้

    การที่หลวงปู่ให้จบก่อนนั้น มีความประสงค์ให้ตั้งเจตนาให้ดี บุญที่ได้รับจะมีผลมาก ญาติโยมจึงกราบเรียนหลวงปู่ว่า

    “ควรอธิษฐานอย่างไร”

    หลวงปู่ตอบว่า

    “อธิษฐานให้พ้นทุกข์หรือขอให้พบแต่ความดีตลอดไปจนพ้นทุกข์
    ถ้าเป็นบาลีก็ว่า สุทินนังวะตะเม ทานัง อาสวะขะยาวะหัง นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    คนเราจะพ้นทุกข์ได้ต้องพบกับความดีมีความสุขใช่ไหม ไม่ต้องอธิษฐานให้ยืดยาวหรอก”


    อีกอย่างก็คือครูบาอาจารย์ และผู้มีพระคุณที่ท่านตามมาสงเคราะห์เราในชาติปัจจุบัน
    ที่ทุกท่านได้สงเคราะห์ชี้นำแนวทางอันประเสริฐ เพื่อความก้าวหน้าทั้งทางโลก และทางธรรม


    ดังนั้น ตามประวัติของครูบาอาจารย์ที่สำคัญท่านต่างๆ เราก็จะพบเจอว่าท่านได้ประสบการณ์ดี
    เจอเคล็ดลับ มีความก้าวหน้าในการปฎิบัติธรรม ก็เนื่องจากผู้มีพระคุณทุกท่านเมตตานะครับ

    สุดท้ายขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยได้โปรดดลบันดาลให้ทุกท่าน
    มีความสุข ความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม ตลอดจนสมหวังในสิ่งที่อธิษฐานไว้ทุกประการครับ สาธุ สาธุ


    ขอถวายกุศลผลบุญแห่งธรรมทานในครั้งนี้ เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
    และถวายบูชาแด่บิดามารดา ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณทุกท่านมีหลวงปู่ปาน และหลวงพ่อเป็นที่สุด ด้วยเถิด สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2013
  10. วาสุเทพ

    วาสุเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +5,174
    ได้รับดวงแก้วนวสิทธิ์อมรเทพ-นวเกศศุภมงคล แล้วครับ

    อนุโมทนาบุญกับทุกท่านเช่นกันครับ
     
  11. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    สาธุ สาธุ สาธุ๊ ขอกราบอนุโมทนาบุญในธรรมทานของท่านวิทยา น้องตาล คุณธรรมวิวัฒน์ ด้วยค่ะ

    และขอขอบคุณสำหรับเคล็คลับดีๆ ด้วยค่ะ


    สาธุ สาธุ สาธุ๊

    จันทรกาล
     
  12. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    IMG_2013073120216 (152x202) (152x202).jpg

    อนุโมทนาบุญกับน้องขาลนะคะ...ปลื้มในบุญปราณีต เห็นถึงความตั้งใจ ที่แสดงออกมาได้อย่างสวยงาม
    ...พลอยให้พี่ได้อิ่มในบุญนี้ไปด้วย...ไม่ต้องกินข้าวไปหลายวัน อิอิ...


     
  13. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966

    อนุโมทนาบุญกับท่าน widya เจ้าค่ะ ที่มีธรรมะดีๆ มาบอกกล่าว "ทำไป ทนไป เพียรไป" ก็สำเร็จได้ ขอใช้เป็น คติประจำใจนะเจ้าคะ
     
  14. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    IMG_0992.JPG

    สรุปรายชื่อผู้ร่วมโครงการ...ฝึกมโนมยิทธิ ที่วัดท่าซุง ครั้งที่ 2...วันที่ 18/8/2013

    1. คุณ NamfonBaanfa
    2. คุณ prapaanpong
    3. คุณ prapaanpong
    4. คุณ ta2498
    5. คุณ ta2498
    6. คุณ หวงจื้อเซวียน
    7. คุณ kitphi
    8. ว่าง
    9. ว่าง
    10. ว่าง
    11. ว่าง

    สรุป ณ เวลานี้ เหลือที่นั่งอยู่อีก 4 ที่ ค่ะ รอบนี้จัดรถตู้สองคัน สำหรับคันแรกเต็มแล้ว 11 คน

    *** อนุโมทนาบุญค่ะ ***
     
  15. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2013
  16. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ตอนพิเศษ สมัยพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า..

    เดิมทีตั้งใจว่า จะต่อประวัติดวงแก้ววัชรพุทธางกูร –แก้วอภิบูรณ์อมรฤทธิ์ ดวงแก้วจุลจักรพรรดิ ๑๐ ดวง และดวงแก้วจุลจักร ๖ ดวงที่ขึ้นมาก่อนวันอาสาฬหบูชา ปรากฏว่า คุณ phuya ขอให้ลงประวัติการสร้างวัดพุทธธารามบพิตร ตลอดทั้งการบูรณวัดเพิ่มเติม เพื่อเป็นธรรมทานแก่ผู้ที่เกี่ยวเนื่องกัน ____________________________________________
    ขออนุญาตกล่าวถึงท่านวาสุทินพราหมณ์ (คุณ mooom) และพระเวณปัญญา(คุณ Half wave) เพื่อเป็นธรรมทานค่ะ

    ความจริงแล้ว ในสมัยพุทธกาลของพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า ท่านวาสุทินพราหมณ์ (คุณ mooom)เกิดในตระกูลของบริจาคเศรษฐี มีทรัพย์ประมาณ ๔๖๐ โกฏิ โดยเกิดเป็นบุตรชายเศรษฐีนามว่า มิณฑิกะมานพ

    มิณฑิกะมานพนั้น เป็นสหายของสัณชัยมานพ (คุณ half wave) บุตรของท่านสิทธิกะเศรษฐี มีทรัพย์ประมาณ ๘๐ โกฏิ เมื่อได้ยินข่าวการสร้างวัด ต่างก็นำทรัพย์ของตนมาเพื่อบริจาคเป็นจำนวนมาก แต่มิได้บอกบุญแก่ใคร เนื่องจากรู้สึกเกรงใจ และเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคย

    ก่อนการสร้างวัด ในวันงานพิธีลงเสาเอกครั้งแรก ทั้งสองได้พากันไปร่วมงานลงเสาเอก มิณฑิกะมานพเกิดความศรัทธาในวิสิทธิพราหมณ์ในการทำพิธีบวงสรวงเทวดา จึงตั้งจิตอธิษฐานขอให้ในชาติต่อไปตนได้ทำหน้าที่นี้ และขอให้เกิดเหตุอัศจรรย์เมื่อตนทำพิธี (เป็นเหตุให้ชาติต่อมา หลังพุทธกาล ๕๐๐ ปี)มิณฑิกะมานพไปเกิดเป็นท่านวาสุทินพราหมณ์

    การสร้างวัดในสมัยนั้นมีลักษณะคล้ายทัชมาฮาลในปัจจุบัน แต่สร้างด้วยมณีรัตนะ ๗ ประการ มีไพลิน มรกต บุษราคัม มุกดา เพทาย ไพฑูรณ์ และเพชร และมีทองคำ และเงิน เป็นสิ่งที่สร้างลวดลายวิจิตรรวมเป็นรัตนะ ๙ ประการ สวยงามตระการตา

    ซึ่งรัตนชาติเหล่านั้นนำมา ซึ่งได้จากการบริจาคและรวบรวมทรัพย์ของพระเจ้าปเสนทิศาทส่วนหนึ่ง ของปศันทราชส่วนหนึ่ง ของมหาเศรษฐีอีก ๘ ตระกูล ต่างก็นำทรัพย์ของตนมาร่วมบุญ

    ครั้นเมื่อสร้างวัดพุทธารามบพิตรสำเร็จแล้ว พระเจ้าปศันทราชได้อาราธนาพระพุทธกัสสปพุทธเจ้าโปรดชาวเมืองเป็นเวลา ๔๕ วัน

    การเสด็จของสมเด็จพระพุทธกัสสปพุทธเจ้าในครั้งแรกนั้น หลังจากที่สร้างวัดสำเร็จมีเหตุการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้นครั้งแรกคือ เกิดฝนประหลาดเป็นรัตนมณี ๗ สี มีไพลิน มรกต บุษราคัม มุกดา เพทาย ไพฑูรณ์ และเพชร หล่นจากฟ้าก่อนที่พระพุทธองค์ พร้อมพระสาวกอีก ๒๐๐๐๐ รูปจะเสด็จมาถึง

    ฝนประหลาดนี้ตกเป็นเวลา ๗ วัน ๗ คืน ชาวเมืองในยุคนั้น ต่างเก็บรัตนชาติทั้ง ๗ ได้ตามบุญบารมีของตน ทำให้ชาวเมืองจากฐานะที่ยากจนก็ร่ำรวยขึ้นทั้งเมือง

    วันที่ ๘ ก็ปรากฏพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาทางอากาศพร้อมพระสาวกทั้งหลาย พระเจ้าปศันทราช พร้อมมหาเศรษฐีของเมือง ๘ ตระกูล มีท่านบูรณเศรษฐี สิทธิกะเศรษฐี อมรติโยคเศรษฐี บริจาคเศรษฐี วิณฑกเศรษฐี นางอัจฉิมาเศรษฐี(มารดาของท่านอัฒกะภิกษุ) และท่านวิมุตติเศรษฐี ได้จัดเตรียมสถานที่ประทับของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้อย่างสวยงามประมาณค่ามิได้

    ในวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จสัณชัยมานพได้เห็นพระอรหันต์รูปหนึ่งมีลักษณะสำรวม เนื่องจากในชาตินั้นตนเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูล ไม่สามารถบวชได้ จึงอธิษฐานขอให้ชาติหน้าตนได้บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาของพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า

    ชาติต่อมาจึงได้เกิดในตระกูลเดิม แต่หลังพุทธกาล ๕๐๐ ปี ได้บวชสมความปรารถนาเป็นพระเวณปัญญาเถระ ได้ทิพยจักขุญาณ และญาณอี่น ๆ แต่ไม่ถึงกับได้อภิญญา ๕


    _____________________________________________________

    ในชาตินั้นมิณฑิกะมานพ ได้ขออนุญาตบิดาเรียนรู้เรื่องการบวงสรวงต่าง ๆ จากวิสิทธิพราหมณ์ (ท่านสัจจฤาษี)จึงทำให้มีความรู้ติดตัวเกี่ยวกับการบวงสรวงในชาตินั้นมา

    เมื่อถึงยุคก่อนพระพุทธสมณโคดม เมื่อวิสิทธิพราหมณ์จุติเป็นเจ้าชายสัจจธิราช มิณฑิกะมานพก็จุติเป็นเจ้าชายโมกขศักดิ์ ได้เป็นครูบาอาจารย์กันอีกครั้ง

    เหตุที่คุณ mooom ในชาตินี้จำอดีตไม่ได้ หรือแม้แต่วิชาบวงสรวง เกิดจากการผิดสัจจะในสมัยที่เป็นเจ้าชายโมกขศักดิ์ที่เคยให้สัจจแก่เจ้าชายสัจจธิราชในสมัยที่ยังไม่บวชว่า

    "จะไม่ใช้วิชาในทางที่ผิด"

    เมื่อตีเมืองสำเร็จแล้ว คิดจะใช้วิชาในการสร้างอาณาจักรใหม่ ด้วยเหตุนี้ทำให้วิชาเสื่อม แพ้สงครามทำให้สูญเสียเมืองอีกครั้ง แต่ด้วยบุญบารมีในอดีตส่งผลให้ได้ไปครองราชย์ต่อจากพระเจ้าสัตยาธิราช

    แต่ผลของการผิดสัจจะคราวนั้นส่งผลให้ชาติต้องเรียนรู้ใหม่หมดทุกวิชา เรื่องราวจึงเป็นเช่นนี้ค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทั้งสองท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2013
  17. Paktawadee

    Paktawadee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2012
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +2,570
    สาธุ สาธุ สาธุ หนูดีขออนุโมทนาบุญในธรรมทานของท่านWidya,ของพี่น้ำใสค่ะ
    ขอบคุณน้องตาลสำหรับเคล็ดลับดีๆ ขอบคุณคุณธรรมวิวัฒน์สำหรับคำอธิษฐานนะค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านอีกครั้งค่ะ

    หนูดี
     
  18. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุญาตจองพื้นที่ไว้ก่อนนะคะ

    Numsai
     
  19. mooom

    mooom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2010
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +9,291
    ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานทุกๆบทความที่พี่น้ำใสและทุกๆท่านได้ถ่ายทอดให้รู้ด้วยครับ เหตุการณ์ในอดีตสามารถนำมาให้เราเห็นข้อบกพร่องที่เราได้ทำมา เพื่อที่เราจะได้นำมาพิจารณาแก้ไขต่อไป
     
  20. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    วันนี้ ๑๙.๐๐ น. เปิดประมูลแก้วจุลจักรพรรดิ ชุดที่ ๖

    ขอเชิญประมูลแก้วจุลจักรพรรดิชุดที่ ๖ จำนวน ๕ ชุด อัญเชิญจากหลายถ้ำในเทือกเขาภูพาน ช่วงก่อนเข้าพรรษา ปี ๒๕๕๖ แต่ต่างสถานที่กันมีทั้งหมด ๑๐ ดวง เปิดประมูลเป็นคู่ ๆ ดังนี้

    IMAG1648.jpg

    คู่ที่ ๑ แก้วนวกรบุญฤทธิ์-แก้วจิตตมณีกานต์

    เปิดประมูลคู่ละ ๑๑๑๙ บาท


    IMAG1649.jpg IMAG1655.jpg

    คู่ที่ ๒ แก้วชลการมณีโชติ-แก้ววาสุโภชนจักร (มีตำหนิเป็นรอย)

    เปิดประมูลคู่ละ ๗๙๙ บาท


    IMAG1642.jpg


    คู่ที่ ๓ แก้วนิลสิทธิ์ยุคลธร-แก้วอมรวิปุญญา
    เปิดประมูลคู่ละ ๑๑๑๙ บาท



    IMAG1645.jpg

    คู่ที่ ๔ แก้วมหาธรณฤทธิ์ –แก้ววิจิตรบุญโชติ


    เปิดประมูลคู่ละ ๑๑๑๙ บาท



    IMAG1644.jpg

    คู่ที่ ๕ แก้วโมทยานนท์-แก้วมงคลจักรรินทร์
    เปิดประมูลคู่ละ ๑๑๑๙ บาท

    กติกาในการประมูล

    ๑. เริ่มวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ ภายใน ๑๙.๐๐ น. ตามมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับวันแรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะเส็ง

    ๒. รายการประมูลจะมอบแด่ท่านที่ประมูลราคาสูงสุดภายในเวลาที่กำหนด (ตามเวลาเว็บพลังจิต.org)

    ๓. หากที่มีผู้ประมูลราคาสูงสุด และเวลาเท่ากัน ๒ ท่าน จะตัดสินด้วยผู้ที่ทำการโพสต์ก่อนเป็นอันดับแรก

    ๔. หลังจากปิดการประมูล โอนปัจจัยภายใน ๒ วันหลังจากโอนปัจจัยแล้ว หากเลย ๒ วันจะมอบสิทธิ์แก่ผู้ที่ประมูลรายต่อไป

    ๕. หลังจากโอนปัจจัย กรุณาแจ้งชื่อ-ที่อยู่ใน PM-Numsai แล้วจะทำการส่งมอบดวงแก้วให้แก่ผู้เป็นเจ้าของต่อไปค่ะ


    กรุณาโอนปัจจัยไปที่......



    ชื่อบัญชี พุทธารา โรจนฤทธิกร
    เลขที่ 080-252647-2
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์
    สาขา ถนนศรีนครินทร์ (กรุงเทพ – กรีฑา)
    ประเภท ออมทรัพย์-แบบสะสมทรัพย์


    ปัจจัยส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายนำไปร่วมบุญดังนี้


    ๑. ๑๐% หลังหักค่าใช้จ่ายร่วมกฐินวัดพระพุทธบาทห้วยทรายขาว อ.เมือง จ.ลำพูน
    ๒. ๑๐ % หลังหักค่าใช้จ่ายเข้ากองบุญสมเด็จพระพุทธวิปัสสีโภคมหาบพิตร
    ๓. ๕% หลังหักค่าใช้จ่ายเพื่อร่วมโครงการฝึกมโนยิทธิ วัดท่าซุงค่ะ


    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
    Numsai


    หมายเหตุ กระทู้บุญกฐินวัดพระพุทธบาท ห้วยทรายขาว อ.เมือง จ.ลำพูนค่ะ

    http://palungjit.org/posts/6568188
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2013
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...