ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. Lastquarter

    Lastquarter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +272
    เชิญไปโชว์เทพในกระทู้คุณเลยครับคนเก่งเค้าจะไม่ยกตัวเองเก่งที่สุดละถูกต้องที่สุด คนเก่งมักจะรับฟังคนอื่นถึงแม้อาจจะคลาดเคลื่อนจากความเข้าใจของตัวเองแต่ก็รับฟังละไม่โต้แย้งแต่อย่างใดเพราะจะเก็บไปตัดสินเอง อีกอย่างนี้ไม่ใช่ธรรมครับโปรดเข้าใจใหม่อีกที ละโปรดอ่านหัวกระทู้ใหม่อีกทีอย่างที่ผมกล่าวถ้ายังไม่เข้าใจก็พิจรณาตัวเองได้ละครับ

    หลังจากนี้ผมจะไม่โพสโต้ตอบแบบนี้อีกจะขอจบแค่โพสนี้
     
  2. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เอาเป็นว่า การพูดจาแบบนี้ ต้องมีอะไร ที่เจ๋ง ที่แน่ แล้ว ใช่หรือเปล่าครับ

    เพราะสิ่งที่นำมาเตือน ก่ ต้องดูก่อน ว่า ทำไมต้องเตือน

    กระทู้ผม รับขมากรรม น่ะครับ แต่ ต้องแสดงตัวเอง ด้วย

    ไม่รับทาง PM
     
  3. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    นี่ก่ รู้สึกว่า เป็นผู้ยิ่งใหญ่ ในขณะที่ตนเอง เพียงแค่ผู้อาศัย
    หากเป็นอะไรไป ก่ ไปหาผมที่ กระทู้ ไปแสดงตนเอง ให้ชัดเจน

    ไม่ไป ก่ จะปรากฎตามวาระที่กระทำ ไม่มีหาย
     
  4. threeam

    threeam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +1,364
    กด Like โพสท์ที่ 7426 ของคุณชยุต เขียน เพราะชอบ
    คนข้างๆหันมาถาม ทำไมถึง กด Like ให้ เป็นเพราะคุณชยุต เขียนตรงอย่างที่อยากรับรู้ใช่ไหม
    ก็ให้ได้คิด และ ยอมรับ ว่าจริง ตามนั้น
    แล้วเลยเถิดถามตัวเองต่อว่า เพราะเราเชื่อเช่นนั้นใช่ไหม
    คำตอบคือ ใช่
    แล้วจึงมีคำถามสุดท้ายผุดมาว่า
    ตกลงที่เราเชื่อ เป็น ความเชื่อ หรือ ความจริง
    ต้องลองหาคำตอบดูแล้วล่ะ
    ขอบคุณคุณชยุตนะคะ
     
  5. กะเหรี่ยง

    กะเหรี่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +111
    รออ่านข้อความดีๆจากคุณอยู่นะครับ...ชยุต
    คอยเป็นกำลังใจให้ทั้งทีม
     
  6. Lucky Leo

    Lucky Leo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +13
    เป็นกำลังใจด้วย รอด้วย
     
  7. อจิตตะ

    อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,840
    ข้อความสื่อสาร from Archangel Gabriel channeled from Sarah Varcas at Wales, UK
    23rd July 2013: Between Now and The Blue Moon… > Sarah Varcas
    Tuesday,23rd July 2013 : Between Now and The Blue Moon…

    แปล: อจิตตะ

    ตอนที่ ๑

    ก่อนที่จะถึงคืนพระจันทร์สีน้ำเงินเต็มดวง
    ในวันที่ ๒๐ และ ๒๑ สิงหาคม อีกครั้ง…
    เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้พวกเราได้ค้นหาตัวเองนี้
    หากพวกเราได้มีการเตรียมการรับมือไว้ก่อนในวันนี้
    เมื่อถึงเวลานั้น จะเป็นช่วงที่มีค่าและมาได้ถูกจังหวะพอดีที่สุด

    แต่ก็อาจจะมีบ้างที่พวกเราจะรู้สึกระเหี่ยใจ
    ที่ขาดความกระตือรือร้นกับโอกาสที่จะได้ค้นพบวิธีจัดการ
    กับประสิทธิภาพของพลังงานในชีวิตเราในเดือนหน้า
    เพราะบางเรื่องที่ต้องแก้ไขและโผล่มาลำดับแรก
    อาจจะเป็นเรื่องอันตรายมากกว่าการสร้างสรรชีวิตให้ดีขึ้น
    แต่เสน่ห์ของพลังงานที่แสดงออกมานี้..
    มันเป็นหนึ่งความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับมนุษย์เลยนะ
    ซึ่งจะเห็นได้ชัดสุด ก็เจ้าตัวตน(ego)นี่แหละ...
    ที่มันจะไม่รักและไม่ให้อาหารกับความคิดลบ ๆอีกต่อไป
    และยังจะปล่อยให้มันไปตามทางของมันซะด้วย...


    อย่างทุกวันนี้เราต่างก็เห็นแต่ละครน้ำเน่า
    เกมส์แย่งชิงตำแหน่ง แย่งชิงอำนาจกัน
    มีการฟ้องร้อง ฆ่ากันตายเพื่อแย่งสมบัติกัน
    ยังกับว่าเจ้าพวกegoนี่มันไปมีความสัมพันธ์กับมนุษย์ลวงโลกไปซะแล้ว

    ถ้างั้นความท้าทายก่อนหน้านั้น...
    มันได้ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปแล้วอย่างนั้นหรือ...
    เชอะ...อย่าได้ไปหวังว่าจะได้สมหวังไปซะทุกเรื่อง...
    “เพราะผู้คนจะไม่ทำตามเรา ตราบเท่าที่เราเองยังไม่ทำ”
    นี่เป็นเรื่องธรรมชาติ...

    ทุกครั้งที่เราผิดหวังในตัวคนอื่น
    ก็ต้องมีใครผิดหวังในตัวเรา...
    ทุกครั้งที่เรามีโอกาสเป็นผู้ให้
    ก็ต้องมีใครที่ให้เรามากกว่าที่เราให้เช่นกัน
    อย่างบางคนเขาก็เลือกที่จะเดินตามโอกาสที่เข้ามาตรงหน้า
    โดยไม่ต้องเตือน ... ก็เหมือนเขาได้เดินถึงยอดเขาทุกวัน
    ทั้งที่จริง ๆ มันก็แค่ “รู้ที่จะให้และรู้ที่จะรับ” เท่านั้นแหละ...
     
  8. อจิตตะ

    อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,840
    ข้อความสื่อสาร from Archangel Gabriel channeled from Sarah Varcas at Wales, UK
    23rd July 2013: Between Now and The Blue Moon… > Sarah Varcas
    Tuesday,23rd July 2013 : Between Now and The Blue Moon…

    แปล: อจิตตะ

    ตอนที่ ๒

    เจ้าego นี่ตัวสำคัญ
    หากพวกเรายังปล่อยให้มันมัวเล่นละครน้ำเน่าต่อไป...
    ความเพียรที่ได้อุตส่าห์ฝึกกันมาเป็นปี ๆ นี่
    มันจะเป็นหมันไปอย่างแน่นอน...

    ดังนั้น ยังมีเวลาหนึ่งเดือน
    เราจึงต้องเริ่มต้นทำวันนี้ให้แตกต่าง
    ด้วยการจัดการกับบางเรื่องที่ต้องการจะเก็บไว้
    และบางเรื่องที่ไร้สาระก็ต้องได้รับการขจัดมันออกไป
    (อย่าให้เหลือแม้ซากของเสียงกระซิบ=ผู้แปล)
    แต่ก็ทำเท่าที่จะทำได้ และดีที่สุดก็ละกันนะ
    แล้วอย่าลืมฝึกที่จะมีชีวิตอยู่โดยไม่มีมันซะด้วยล่ะ(สำคัญมาก=ผู้แปล)

    เพราะวิธีที่เจ้าตัวแสบ ego นี่จะเล่นงานเรา...
    คือการสร้างเรื่องเจ็บปวดให้เกิดขึ้นในชีวิตเรา
    และก็กระตุ้นให้เราไปดึงบริวารของมันออกมาจากตัวมัน
    เพื่อให้เราเล่นงานเจ้าego นายใหญ่ยากยิ่งขึ้น
    ยิ่งเมื่อเรารู้อยู่แก่ใจว่าฐานปฏิบัติการของเจ้า ego ทั้งหมดนี้
    ที่แท้มันเป็นใคร...(นี่ยากชนิดข้ามภพข้ามชาติกันเลย=ผู้แปล)

    ยิ่งถ้าใครที่รู้ตัวว่าไม่สามารถปรับแต่งชีวิตตัวเอง
    ให้มันไม่เครียด ไม่หดหู่ ไม่ชืมเศร้า ได้
    ก็ยิ่งจำเป็นและด่วนที่สุด...
    ที่ต้องรีบลงมือทำอะไรที่แตกต่างออกไปได้แล้ว
    และก็ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ด้วยนะ....อย่าได้ช้า...เดี๋ยวไม่ทัน
    การ

    แต่ก็อย่างที่เขาว่ากัน “พูดง่ายแต่ทำยาก”..
    เพราะมนุษย์มีเงื่อนไขที่สลับซับซ้อนเหลือประมาณ
    ทั้งจิตก็ยังมีพลังเหนือกายซะอีก
    ดังนั้น บางคนอาจจะช้าไปบ้าง
    กับการขจัดเจ้าขบวนการความเจ็บปวด
    ที่มันเจ้าเล่ห์นักในการหาที่หลบซ่อน
    จึงทำให้ยากแก่การติดตามยิ่งนัก

    ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลง
    และทดสอบพลังของ cosmic
    ที่จะมาเร่งกระบวนการปลดปล่อย
    ในสิ่งที่เราได้ผูกมัดมันไว้นานแสนนานก็ตามที
    แต่ที่เราทำได้ และคงต้องทำอยู่บ้าง คือ เล่นตามบทที่มีอยู่ก่อนบ้าง…
    เมื่อใดที่จิตมันเริ่มบอกว่า
    “ลงมือจัดการ “เรื่อง เก่าๆเน่า ๆ”ได้แล้ว”
    ก็อย่ามัวเพลินเล่นละครน้ำเน่าอยู่อีกล่ะ
    จงหายใจลึก ๆ แล้วเดินหน้ายิ้มสู้เข้าไว้….
    เพราะการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นนี้
    มันจะไม่ใช้วิธีการเดิม ๆ นะจะบอกให้…

    และการที่พวกเราได้หยุดการจดจ่อกับบทเก่า ๆ เน่าๆนั้น
    ก็เท่ากับเราได้เริ่มเรียนรู้ที่จะเล่นกับบทบาทใหม่
    ซึ่งก็เหมือนกับการเตรียมตัวเป็นนักแสดงผู้ยิ่งใหญ่ใหม่อีกครั้ง
    ด้วยการใช้เวลาที่มีค่ายิ่งไปกับความมุ่งมั่นที่ถูกทิศถูกทาง
    อย่างภาคภูมิใจที่พวกเราไม่ได้ปล่อยให้ตัวเอง
    เป็นสำเนาใครบางคนที่เราไม่อยากเป็น…


    “รักนะ”
    Love to everyone.
    Sarah Varcas
     
  9. Water Lily

    Water Lily เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +738
    สาสน์จากฮิลาริออน
    21-28 ก.ค. 2013

    เธอ ที่รัก

    ในขณะที่เธอทำกิจกรรมประจำวันและหน้าที่บนโลกนี้ จงรู้ว่าในขณะเดียวกันนั้น ในระดับที่สูงกว่านั้นเธอกำลังทำหน้าที่ในฐานะผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงอันเป็นทิพย์ โดยความตั้งใจที่เป็นบวกอย่างสูงที่เธอได้กำหนดทุกวัน เธอได้สร้างต้นแบบให้โลกนี้ดำเนินตาม เมื่อเธอได้อ่านหรือได้ยินคำเหล่านี้ เธอได้ซึมซับพลังงานซึ่งซ่อนอยู่ในทุกคำและรวมเข้ากับระบบทั้งห้าของร่างกาย เวลาได้เรียกให้แต่ละบุคคลปรับเปลี่ยนและยืดหยุ่นไปตามเหตุการณ์ต่างๆที่เข้ามา ทั้งในชีวิตส่วนตัวและโลกอันยิ่งใหญ่รอบๆตัวพวกเขา และรักษาการเชื่อมโยงกับโลกอย่างสันติและสงบ


    เธอหลายคนกำลังค้นหาคำตอบของหลายคำถาม บางคนทำอย่างเงียบๆ โดยตามภูมิรู้ภายในของพวกเขา ในขณะที่หลายคนค้นหาจากภายนอกโดยแสดงออกถึงจุดยืนทางความคิดอย่างกล้าแข็ง ทุกสิ่งเหล่านี้คือการสะท้อนถึงการตื่นรู้ซึ่งเกิดขึ้นภายใน ทุกสิ่งเหล่านี้จำเป็นที่ต้องได้รับการสนับสนุนและดูแลในเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงโดยการสนับสนุนให้ก้าวข้ามการรับรู้ที่เคยเป็นมาเพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดในอดีต เธอทั้งหลายจำเป็นที่จะเข้าถึงศักยภาพที่สูงกว่าและไปให้ถึงดวงดาว ในขณะที่พวกเธอกำลังตั้งคำถามและค้นหาคำตอบของคำถามเหล่านั้น พวกเธอยังพบคำถามมากมายเพิ่มขึ้นอีก เช่นนั้นจึงเป็นหนทางในการขยายขอบเขตและการเติบโตภายในแต่ละบุคคล

    เธอได้ตั้งมาตรฐานของความเป็นเลิศโดยการสร้างวิสัยทัศน์ที่สูงกว่าของโลกอนาคตของเธอ และมันเป็นผลดีต่อเธอที่จะยังคงมุ่งตรงอยู่บนเส้นทางของเธอ จงรักษาการโฟกัสเมื่อเธอได้ปลดปล่อยส่วนเล็กน้อยที่ยังเหลืออยู่ของวิธิคิดในระนาบเก่า และการรับรู้จากเซลล์และระบบทั้ง 5 ของเธอ จงระลึกถึงภาพที่ชัดเจนของเธอในภาพกายทิพย์แห่งแสง ความรัก และพลัง จงมองเห็นตัวเธอภายในกายแห่งแสงของเธอ รู้สึกว่าตัวเธอคือกายแห่งแสงทุกๆวัน แม้เพียงชั่วขณะหนึ่งก็ได้ เมื่อเธอทำเช่นนี้ เธอจะเริ่มจำได้ว่าตัวเธอ แท้จริงแล้ว คือแสง และสิ่งนี้จะให้พลังและสนับสนุนเธอในหลายๆทางที่จะอวยพรให้เธอ คนที่เธอรัก และโลกที่ยิ่งใหญ่ รอบๆตัวเธอ


    รักษาความคิดที่ว่าร่างกายเธอคือโครงร่างของแสงที่มีชีวิตและเธอกำลังกลับไปสู่ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของจุดกำเนิดอันเป็นทิพย์ เธอคือฑูตที่อยู่บนโลกนี้เพื่อตัวเป็นตัวอย่าง เรารู้ว่าสิ่งนี้อาจดูเป็นการแบ่งแยก เมื่อการชำระล้างภายในตัวเธอดำเนินต่อไป ขณะที่เธอกำหนดความตั้งใจเพื่อวิสัยทัศน์ที่สูงกว่าและรูปแบบของตัวเธอ แต่เราได้ขอร้องเธอให้มุ่งมั่นพยายามต่อไป จงให้อภัยตัวเองกับภาวะอารมณ์ที่ระเบิดออกมาจากที่ใดไม่รู้ ซึ่งดูเหมือนว่าจะทำให้ความตั้งใจ ความเชื่อ และความพยายามกลายเป็นเทพนิยายที่โง่เง่า จงตระหนักว่ามันคือการทำงานของการตื่นรู้ซึ่งเกิดขึ้นและเป็นสภาพชั่วคราวและเป็นวัฎจักรตามธรรมชาติ


    เมื่อ DNA/RNA/LNA สายหลักของเธอได้ถูกกระตุ้นจึ้น เธอจะยังคงรู้สึกถึงผลกระทบข้างเคียงชั่วคราว ซึ่งจะเกิดขึ้นต่างกันไปแต่ละคน จงอดทน และรักตัวเอง และรักษาความสัมพันธ์กับผุ้อื่น บริหารการควบคุมร่างกายเมื่อเธอผ่านการเปลี่ยนแปลงและการเปลี่ยนรูปแบบเท่าที่จะทำได้ และเราทราบอย่างแท้จริงและเข้าใจว่า บางเวลา สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ ที่การเปลี่ยนแปลงรูปร่างเป็นกระบวนการที่สำคัญและต้องถูกอธิบายต่อไปตามเวลา จงพยายามที่จะกลับไปยังศูนย์กลางของเธอให้ทันทีเมื่อเธอได้ผ่านเรื่องราวและให้อภัยตัวเอง และการเปลี่ยนพฤติกรรมของเธอ และให้อภัยต่อตัวเธอ และพฤติกรรม และความเคลื่อนไหว มันเป็นเพียงการปลดปล่อยรูปแบบเดิมๆที่ยังทำงานอยู่ สิ่งนี้เป็นผลดีต่อเธอและโลกของเธอ

    พบกันสัปดาห์หน้า
    เราคือ ฮิลาริออน

    Until next week…
    I AM Hilarion
    ©2013 Marlene Swetlishoff/Tsu-tana (Soo-tam-ah) Keeper of the Symphonies of Grace
    Permission is given to share this message as long as the message is posted in its entirety and nothing has been changed, or altered in any way and Scribe's credit, copyright and website is included.   WELCOME! - The Rainbow Scribe
    Thank you for including the above website link when posting this message.
     ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
    ขอให้ความรักจงอยู่กับคุณ
    catt15
     
  10. yaya12

    yaya12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +182
    สุดยอด นี่แหละคือสิ่งที่เราค้นหา
     
  11. อจิตตะ

    อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,840
    ข้อความสื่อสาร from Archangel Gabriel channeled from selacia
    http://spiritlibrary.com/selacia/when-the-past-becomes-the-present
    Saturday,20rd July 2013 : When the Past Becomes the Present

    แปล: อจิตตะ
    ตอนที่ ๑

    การจัดการกับหลากมิติ และ เวลา

    คุณเคยมีประสบการณ์กับเรื่องราวในอดีต
    ไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติไหน ๆ มาเล่นงานคุณในปัจจุบันไม๊?
    ความสัมพันธ์ของเวลาชนิดนี้มันเกิดขึ้นได้เสมอ
    ยิ่งตอนที่อยู่ในยุคของพลังงาน quantum ด้วยแล้ว
    การขยายตัวในความตระหนักรู้ของพวกคุณ
    มันก็เริ่มต้นให้ได้เห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้วละนะ


    การได้พบกับผู้คนที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง

    ตัวอย่าง….วันนี้คุณสามารถสัมผัสได้ถึงการเชื่อมต่อกับอดีตที่ผ่านมา
    กับการได้พบปะผู้คนในที่ประชุมเป็นครั้งแรก
    ซึ่งดูเหมือนเป็นกันเองซะเหลือเกิน
    คนที่คุณได้พบดูเหมือนเป็นคนใหม่มากสำหรับเส้นทางของคุณ
    แต่คุณก็รู้สึกได้ถึงความเป็นกันเองและอบอุ่นเมื่อได้เห็นเขาเป็นครั้งแรก
    ซึ่งนั่นก็เป็นข้อมูลมาจากอาณาจักรของ quantum

    คุณไม่รู้ว่าจะแน่นอนใจได้สักแค่ไหนกับความรู้สึกนี้
    แต่คุณก็รู้สึกได้ว่า คุณและคนนั้นได้คุ้นเคยกันมาช้านาน
    และได้ข้ามกาลเวลามาพบกัน
    บางอย่างที่เกี่ยวกับเขาดูเหมือนมีแต่ความอบอุ่นและเป็นกันเอง
    อาจเป็นที่ดวงตา ท่าทาง การสัมผัส
    หรือวิธีการพูดคุยของเขา
    และในขณะที่คุณกำลังสื่อสาร, ทำความเข้าใจ
    และตั้งคำถามกับตัวรู้ภายในอยู่นั้น
    คุณอาจได้รับสัญญาณไฟกระพริบ
    เพื่อให้คุณได้เชื่อมโยงกับอดีตที่ผ่านมา
    ซึ่งการเชื่อมต่อของสะพานแห่งกาลเวลานี้
    เป็นไปได้ที่คุณจะได้พบคำตอบจากประสบการณ์ของตนเอง
    หรือได้รับคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญภายในตัวคุณ
    กับความรู้สึกที่มันอาจเกิดขึ้นได้กับ “คนใหม่”
    ที่คุณไม่ได้เคยคาดหวังว่าจะได้พบกันอีกครั้ง

    ความหลากหลายของ กาลเวลา และมิติ

    ชีวิตคุณตั้งอยู่กับความเป็นจริงของ quantum
    ที่มี อดีต ปัจจุบัน และ อนาคตอยู่ในนั้น
    และพลังของเส้นขนานเหล่านั้น
    ก็สามารถส่งผลกระทบต่อปัจจุบันของคุณได้
    อย่างเช่น…เมื่อถึงเวลาที่จิตวิญญาณของคุณต้องมีการเลื่อนระดับ
    คุณก็จะเร่ิมค้นหาวิธีที่จะเข้าใจและตอบสนองกับสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นนี้
    อันดับแรกคือ”การตั้งสติ”และ “ทำความเข้าใจ”
    กับชีวิตที่ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวของคุณ
    ซึ่งหมายรวมถึงการปรากฏตัวของ“คนใหม่”
    ที่ไม่ได้ตรงกับที่คุณได้คาดหวังไว้
    สมองของคุณจะแปลความหมายในสิ่งที่คุณเห็นทั้งหมด
    และถ้าคุณมองมันโดยใช้สติในระดับที่ผิวเผิน
    เหล่าหลากมิติทั้งหลายก็จะพากันหลบซ่อนตัวไปเรียบ
    และคุณก็จะอยู่คู่โลกนับจากนี้ไปด้วยสติระดับเท่านี้แหละ..

     
  12. อจิตตะ

    อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,840
    ข้อความสื่อสาร from Archangel Gabriel channeled from selacia
    http://spiritlibrary.com/selacia/when-the-past-becomes-the-present
    Saturday,20rd July 2013 : When the Past Becomes the Present

    แปล: อจิตตะ
    ตอนที่ ๒

    ความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น

    ความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นกับบางคนที่รู้สึกดีและไม่ดีกับ”คนใหม่”ที่ได้พบ
    และนี่คือตัวอย่างที่คุณอาจจะพูดกับตัวเองในช่วงเวลานั้น
    ๑. ฉันต้องเจอเนื้อคู่ซิน่ะ
    ๒. ฉันไม่ชอบคนนี้…เขาดูเหมือนมีเจตนามิชอบแอบแฝง
    ๓. ฉันชอบคนนี้เหลือเกิน…
    เราสองคนน่าจะไปด้วยกันได้ดีในเรื่องของความรัก(หนุ่มสาว)นะนี่…
    ๔. ฉันไม่ต้องการคบคนนี้ เพราะเขาก็แค่ผู้ร่วมงานในโครงการหนึ่งเท่านั้น
    ฉันให้ความไว้วางใจเขาไม่ได้หรอก
    และหากพบว่าคุณตอบสนอง”คนใหม่” ด้วยความคิดเช่นนี้
    คุณคงต้องขยายมุมมองซึ่งรวมไปถึงข้อมูลของ quantum ด้วยแล้วละนะ
    ตัวอย่าง

    ๑. ความรู้สึกที่จะต้องเจอเนื้อคู่นี่
    -คุณต้องสอบถามภายในตัวคุณว่า “ทำไมจึงรู้สึกเช่นนี้”
    -และนั่นคือผลจากอดีตหรือปัจจัยภายนอกอื่นๆ
    ที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกนี้ใช่หรือไม่ ?

    ๒.ตั้งคำถามตัวเองว่า ทำไมถึงไม่ชอบ”คนใหม่” ที่เพิ่งเจอกันนี่
    -ทำไมมันจึงเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเช่นนั้น ?
    -เกิดจากการตอบสนองของสิ่งที่ได้เห็น
    ประกอบกับการปรากฏของสัญญาณเตือนภัย
    จากประสบการณ์ของอดีตต่อ”คนใหม่” ที่พบ
    ว่าผู้นั้นน่าจะมีอะไรแอบแฝงใช่หรือไม่?

    ๓. เมื่อคุณรู้สึกสนใจกับ “คนใหม่”
    นี่ต้องให้เวลามากหน่อยกับการตั้งคำถามว่า
    -อะไรที่เป็นต้นตอของความรู้สึกติดอกติดใจนี้ ?
    - แล้วไม่ว่ามันจะดูไปกันได้ดี แต่ก็ไม่มีอะไรรับรองได้ว่า
    จะประสบความสำเร็จในความรักนี้ไม่ใช่หรือ?
    -ต้องค้นหาสาเหตุให้เจอว่า
    -ณ. ตอนนี้(now) เราชอบเขาที่ตรงไหน ?
    -เรามีจุดมุ่งหมายอะไรในตัวเขาหรือเปล่า?
    แล้วจงร้องขอให้สติปัญญาระดับสูงของคุณ
    ช่วยนำเสนอวิธีการปฏิบัิตตัวให้เหมาะสมกับ”คนใหม่”นี้ด้วย...

    ๔. มันก็เป็นเรื่องธรรมดานะ ที่คุณจะหลีกเลี่ยงกับการให้”คนใหม่”
    ที่คุณไม่ไว้ใจมาทำงานร่วมกัน
    แต่ลองพิจารณาดู ก่อนที่จะทำตามความรู้สึกนั้น
    -ว่าที่มาของความรู้สึกนั้นมันมากจากไหนหรือ?
    -ถ้ามันคือบาดแผลในอดีตที่ส่งผลมาสู่ปัจจุบัน
    และคุณกำลังอยู่ในสภาวะตื่นตัวกับการเลื่อนระดับของ DNA อยู่
    ทุกสิ่งที่คุณคิดอยู่(ความไม่ชอบใจ=ผู้แปล)มันจะหายวับไปกับตา
    ด้วยแสงสว่างแห่งปัญญานั้น
    จากนั้นเส้นทาง“อิสระภาพ”ในการเลือกสิ่งใหม่ ๆในชีวิตก็จะปรากฏขึ้นกับคุณทันที
    (ป.ล นี่เทียบได้กับการหลุดจากคราบของอดีตด้วยปัญญาธรรม=ผู้แปล)


    เมื่อมิตรภาพกลับกลายเป็นเรื่องหินหิน

    ตัวอย่างนี้จะใช้ได้กับความรู้สึกของความเป็นเพื่อนที่เคยหวานแหว๋ว
    แล้วจู่จู่ก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเปรี้ยวจี๊ดไปซะนี่...
    ซึ่งบางทีคุณก็ไม่รู้ว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
    ต่อเมื่อเวลาผ่านไป คุณจึงเริ่มรู้สึกว่า
    คุณห่างเหินจากเพื่อนและรู้สึกโดดเดี่ยว
    และความชอบใจไม่ชอบใจมันก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
    อย่างบางวันก็ชอบพวกเขา บางวันก็เกลียด
    ที่เป็นเช่นนี้ เพราะคุณไม่เข้าใจในความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

    ในมุมมองของสติปัญญาระดับสูงและข้อมูลในquantum
    หากคุณฉลาดพอที่จะหาสาเหตุเข้าไปในเชิงลึกได้จนถึงอดีต
    และเมื่อคุณมองสิ่งที่มีอยู่-เป็นอยู่ตามความเป็นจริง
    โดยไม่คาดเดาหรือตัดสิน
    เรื่องราวของอดีตมันจะตัดกับระดับ DNA ของปัจจุบันทันที
    และ “มิตรภาพ”ที่กลับกลายเป็นเรื่องหินหิน ก็จะได้รับการเยียวยาใน “ปัจจุบัน”
    มิตรภาพก็จะกลับแน้นแฟ้นและนำความพึงพอใจมาสู่คุณยิ่งขึ้น
    ที่สำคัญ...กระบวนการเลื่อนระดับของจิตวิญญาณคุณจะได้รับอานิสงฆ์นี้ด้วย


    การอยู่กับ “ปัจจุบัน”

    โลกของ quantum กับ เรื่องของหลากหลายกาลเวลานี่มันไขว้กันอยู่
    สิ่งสำคัญคือ ทำอย่างไรคุณจึงจะอยู่กับโลกของ “ปัจจุบัน” ได้
    และในขณะที่คุณยังอยู่กับชีวิตที่ยังเหลืออยู่นี้
    เพียงแค่คุณบริหารจัดการกับ “ปัจจุบัน” ตามความสามารถ
    พลังแห่งการสร้างสรรค์ก็จะตอบสนองวัตถุประสงค์ของคุณ
    ดุจดั่งพระเป็นเจ้าได้เปลี่ยนบทบาทชีิวิตคุณให้เป็นต้นแบบของสรรพสิ่งทั้งมวล

    ดังนั้น…จงอยู่ด้วย สติสัมปชัญญะ และ “ปัจจุบันขณะ”
    ซึ่งเป็นทั้งความรักและความเมตตาเท่าที่คุณจะทำได้…

    selacia…
     
  13. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    [​IMG]



    SaLuSa in Love and Light

    มีหลายสิ่งที่ถูกเร่งขึ้นในความเป็นจริงของคุณ
    ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หนึ่งของสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของคุณให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความตระหนักรู้อย่างเต็มรูปแบบกำลังดำเนินไปตามแผน
    เราอยู่ที่นี่เพื่อเตือนคุณถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และอื่นๆที่เกิดขึ้น จนกว่าคุณจะสามารถเข้าถึงการเชื่อมต่อกับตัวตนที่สูงขึ้นไปของคุณและทั้งหมดที่คุณมี
    เราจะช่วยให้คุณจดจำวิธีการใช้งาน และสามารถเปิดใช้งานได้ทั้งหมด
    ขณะนี้ข้อมูลความรู้เหล่านี้ได้ไหลผ่านไปยังคุณเพื่อที่จะพูดถึงกันในส่วนย่อย
    แต่เมื่อคุณมาถึงระดับที่จำเป็นของความตระหนักรู้ คุณจะต้องเชื่อมต่ออย่างเต็มที่กับแหล่งที่มาของความรู้ทั้งหมดที่มีอยู่ กับความตระหนักรู้อันถาวร
    กระบวนการเลื่อนระดับขึ้นนี้จะดำเนินต่อไปจนกว่าคุณจะกลับคืนสู่ต้นกำเนิด ด้วยการปรับความเร็วเทียบกับการเลื่อนระดับของพระแม่ธรณีกับคุณ
    ในอาณาจักรที่สูงขึ้นไปนั้น "เวลา"ไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญไปกว่าวิธีการหรือหนทางที่คุณจะใช้มัน
    "บทเรียน"ต่างหากที่มีความสำคัญยิ่งใหญ่ที่สุดที่คุณจะเรียนรู้ จนกว่าคุณจะเข้าใจมัน มิเช่นนั้นแล้วคุณไม่จะไม่สามารถเคลื่อนต่อไปได้

    สำหรับบางท่านในวันนี้อาจจะเกิดความเครียดและไม่สบายกาย เพราะการเพิ่มปริมาณมากขึ้นของแสงสว่างและความรักที่ถูกส่งมาที่โลก
    แม้แต่ปัญหาในใจเก่าแก่ที่ซ่อนอยู่ในความสนใจของคุณ ดังที่เรากล่าวไว้ก่อนแล้วว่า ให้ดูแลรักษาพวกเขาด้วยความรักและความเห็นอกเห็นใจ
    เพราะพวกเขายังคงอยู่ และคุณเองก็ได้เลือกที่จะทำความสะอาดพวกเขาในช่วงชีวิตนี้ เพื่อที่จะเดินหน้าต่อไป
    ไม่มีอะไรมากไปที่เขาจะยืนอยู่ในกระบวนการของคุณ อย่าลืมรักตัวเอง
    และใช้เวลาตลอดทั้งวันอย่างน้อยก็ช่วงพักสั้นๆเพื่อเข้าสู่โลกภายในของคุณ ซึ่งเราไม่สามารถเน้นได้มากพอจนกว่าคุณจะพบด้วยตัวคุณเอง
    ว่าช่วงเวลาเหล่านี้จะช่วยคุณได้มากที่สุดในกระบวนการของการเปลี่ยนแปลง มันมีความสำคัญที่จะอยู่ในสถานะแห่งความสงบของจิตใจ
    เพราะคุณสามารถจะได้ยินคำแนะนำอย่างชัดเจนจากตัวของคุณเองโดยปราศจากการแทรกแซงใดๆ
    เสียงนั้นจะดังชัดเจนเข้าไปในใจของคุณอย่างปราศจากข้อสงสัย ไม่ว่าคุณจะกระวนกระวายและเหนื่อยเพียงใด
    เหล่านี้เป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบ ที่คุณสามารถชาร์ทพลังงานใหม่ที่สดใสได้
    และจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการเกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์จากมุมมองของคุณ

    พวกเราเห็นแล้วว่า คุณหลายๆคนก็มีความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ใช้ไปกับช่วงเวลาที่ฝ่านมา
    พวกคุณถูกปล่อยให้ตกเป็นเชลยของภาพลวงตานี้มายาวนานพอแล้ว
    เร็วๆนี้ คุณจะรู้สึก และได้มองดูการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ในชีวิต
    คุณทั้งหมดจะถูกปลดปล่อยออกจากภาพลวงตาในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า และมันจะเกิดขึ้น เมื่อพวกเขาพร้อม ไม่เร็ว-ไม่ช้า
    เราจะคอยเตือนคุณถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงของคุณอย่างเป็นอิสระ
    ดังนั้น คุณแต่ละคนจะเคลื่อนย้ายไปตามทางเลือกของคุณเอง
    แม่พระธรณีเลือกที่จะ "รอ" สำหรับทุกลูกๆคนของเธอ ที่มีความเต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลง
    ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าทุกคนจะได้รับการดูแล สำหรับผู้ที่มีความสอดคล้องกับการสั่นสะเทือนที่สูงขึ้น ที่พร้อมจะก้าวเข้าสู่ดินแดนที่สูงขึ้น
    และดำเนินการต่อไปสำหรับการเรียนรู้ของพวกเขา กับการตัดสินใจที่จะก้าวไปข้างหน้า
    พวกเขาจะนำดินแดนที่สูงกว่ามาให้คุณได้ใกล้ชิดทั้งหมด ตราบเท่าที่คุณจะสามารถที่จะเชื่อมต่อกับ "ประสบการณ์ใหม่" เหล่านี้ได้

    เราอยู่ที่นี่เพื่อช่วยให้คุณเข้าถึงสภาวะของความตระหนักรู้ และตอนนี้หากหลายสิ่งเริ่มต้นที่จะเคลื่อนย้ายได้เร็วมากขึ้นเท่าไหร่
    เรายังคงมีการปรับเปลี่ยนความเร็วของการทำงานของเรา ที่จะต้องให้สอดคล้องกับความต้องการของการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับการร้องขอเช่นกัน

    ผม SaLuSa จากซิริอุส และผมมีความสุขมากที่พวกคุณหลายคนยังได้รับข้อความของเรา
    เรายินดีที่ได้แบ่งปันความสุขของคุณเมื่อพบว่าคุณสามารถได้ยินคำแนะนำของคุณเอง ใครก็ตามที่ทำได้
    เพราะนี้จะช่วยให้คุณมั่นใจว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว
    และในไม่ช้าคุณจะรู้สึกถึงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับทั้งหมด
    และหากคุณไม่ได้รู้สึกถึงมันล่ะก็ ขอจงอยู่ในความสงบ และความรู้สึกรักอันยิ่งใหญ่จะถูกส่งไปถึงยังทุกท่าน

    แปลโดย : Mead
    ที่มา : http://www.ascensionearth2012.org/2013/07/salusa-via-madad_30.html
     
  14. lighter

    lighter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +100

    ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ.(แต่ผมสนใจภาพในน้ำมากกว่า.แปลกดีนะฮะ)
     
  15. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ชอบต้นไม้ในภาพนี้เหมือนกันครับ
    ถึงจะเป็นต้นไม้ที่โดดเดี่ยวอยู่กลางน้ำ แต่ก็ยังดูโดดเด่นงดงามและสงบนิ่ง
    เหมือนจะบอกเป็นนัยว่าทุกสิ่งทุกอย่างในธรรมชาตินั้นดำรงอยู่ได้เสมอในทุกๆสถานการณ์น่ะครับ

    ถึงเค้าจะเป็นต้นไม้ ก็แสดงให้เราเห็นความจริงข้อนี้
    ดังนั้น ถึงแม้เราจะเหาะไม่ได้ เราก็ยังวิ่งได้ (นี่นา)
    ถึงแม้เราจะวิ่งไม่ได้ เราก็ยังเดินได้.....
    ถึงแม้เราจะเดินไม่ได้ เราก็คลานได้.....
    ถึงแม้เราจะคลานไม่ได้ เราก็ยังขยับตัวได้......

    เราทุกคนมีทางเลือกมากมายจริงๆครับ.....
    แม้เราปราศจากลมหายใจแล้ว
    เราก็ยังคงดำรงอยู่ในรูปแบบของพลังงานที่หดขยายตัวได้
    ไม่มีข้อจำกัดอะไรเลย ในความจริงข้อนี้นะครับ


    ปล...คิดถึง SALUSA น่ะครับ คุณปู่ไมค์ยังไม่กลับมาเลย
    ดีว่ายังสื่อผ่านท่านอื่นๆมาให้เราได้อ่านกันบ้าง ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2013
  16. philosophi

    philosophi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +1,896
    เข้ามาดันให้นะคะ.(เกือบจะตกขอบแหล่ะ)
     
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ตอนนี้ผมกำลังว่าจะแปลข้อความล่าสุดของท่านมิคาเอล
    ที่สื่อสารผ่านทางนาง Ronna Herman อยู่หนะครับ
    แต่เห็นข้อความของท่าน Hilarion ก็น่าสนใจมาก
    ก็เลยอยากจะฝากให้ท่านใดก็ได้ ช่วยแปลข้อความของท่าน hilarion ให้หน่อย

    ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

    ........................................
     
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ช่วงสิบกว่าวันที่ผ่านมานี้ ผมได้ไปปฏิบัติสมาธิ-วิปัสสนามา
    ตามแนวทางการสอนของท่านอูบาขิ่น โดยท่านโกเอ็นก้าหนะครับ
    และผมก็เลือกที่จะไปที่ศูนย์วิปัสสนาที่ จ.ปราจีนบุรี เพราะว่าใกล้ดี
    และก็สะดวกในการเดินทางด้วยหนะครับ

    และพอดีว่า ในตอนที่สมัครไปอบรมนั้น
    ทางศูนย์กำลังขาดธรรมบริกรอยู่ 1 คนพอดี
    เขาก็เลยขอให้ผมช่วยเป็นให้หน่อย ผมก็เลยตอบตกลง

    ดังนั้น ก็สรุปว่า รอบนี้นอกจากจะได้ไปปฏิบัติแล้ว
    ก็ยังได้มีโอกาสช่วยเหลือ อำนายความสะดวกในด้านต่างๆ
    ให้กับผู้เข้าร่วมปฏิบัติด้วย โดยเฉพาะชาวต่างประเทศ
    ซึ่งมีอยู่ 9 คน (เฉพาะชาย) และมีผู้หญิงอีก 3 คนหรือไงนี่แหละ

    ธรรมบริการ หรือ Dhamma Server ในที่นี้หมายถึงผู้รับใช้ธรรมะ
    หรือก็คือคนรับใช้ หรือ ผู้ให้บริการ หรืออำนวยความสะดวกให้กับคนอื่นนั่นเอง
    เช่น เตรียมจัดโต๊ะอาหาร, จัดเตรียมสถานที่, ดูแลเรื่องความสะอาดของสถานที่
    พาผู้ปฏิบัติเข้าพบอาจารย์ผู้สอน, ตื่นขึ้นเป็นคนแรกเพื่อไปเปิดไฟ-เปิดห้องปฏิบัติ,
    รับฝากของ-โทรศัพท์ และอะไรแบบนี้เป็นต้น

    สรุปว่าก็เป็นประสบการณ์ที่ดีครับ ได้ช่วยเหลือคนอื่นด้วย
    และก็ได้ปฏิบัติไปด้วย แม้ว่าจะค่อนข้างมีงานมากกว่าผู้ปฏิบัติทั่วไปก็ตาม
    แต่ก็ไม่รู้สึกเบื่อ หรือ เหนื่อยเลย มีแต่รู้สึกยินดีที่ได้ให้บริการคนอื่น

    ในระหว่าง 10 วันที่ปฏิบัติอยู่นี้ เขามีกฎห้ามพูดคุยกันเลย
    ยกเว้นมีอะไรจำเป็นจริงๆเท่านั้น ดังนั้น ผมเลยรู้สึก
    รอบนี้ มันมีความก้าวหน้า และความเข้าใจเพิ่มมากขึ้นอีกระดับหนึ่งแล้ว

    และผมก็สังเกตเห็นความเชื่อมโยงหลายอย่าง
    ระหว่างคำสอนของพุทธเรา กับของข้อความจากต่างมิติทั้งหลาย
    จน ณ.วันนี้ทำให้ผมรู้สึกว่า แก่นแท้คำสอนของพุทธเรานี่แหละ
    คือภาคปฏิบัติ ส่วนข้อความจากต่างมิติทั้งหลาย คือภาคทฤษฎี
    ที่จะพูดถึงครอบคลุมไปแทบทุกด้าน ในขอบเขตที่กว้างกว่าของพุทธมาก

    ผมรู้ว่าจะมีหลายท่านแย้งข้อความที่ผมเพิ่งพิมพ์ไปข้างบนนี้
    แต่ผมก็อยากจะย้ำอีกครั้งว่า นั่นเป็นความรู้และความเข้าใจของผม
    เพียงคนเดียวเท่านั้นนะครับ และเป็นความเข้าใจ ณ.ช่วงเวลานี้เท่านั้นด้วย
    อนาคตก็อาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงได้อีก เพราะว่า ทุกอย่างล้วนเป็น
    "อนิจจัง"

    ตามมุมมองและความเข้าใจของท่านโกเอ็นก้าแล้ว ดูเหมือนว่า
    เท่าที่ท่านปฏิบัติมานาน และมีประสบการณ์โดยตรงด้วยตัวเอง
    เกี่ยวกับ "วิปัสสนา" ตามแนวทางที่แท้จริงที่พระพุทธเจ้าสอนไว้นี้
    และรวมถึง จากข้อมูลที่ท่านได้ทำการค้นคว้าวิจัยมา เกี่ยวกับวิปัสสนา
    ผ่านทาง Vipassana Research Institute ของท่านนั้นแล้ว
    ดูเหมือนว่า ท่านจะบอกว่า ณ.ตอนนี้ คำสอนของพระพุทธเจ้า
    ได้ถูกเจือปน ได้ถูกบิดเบือน ได้ถูกตัดทิ้งไปบางส่วน มากมายเหลือเกินแล้ว
    ด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม จนแทบจะหาคำสอนที่แท้จริง ที่บริสุทธิ์จริงๆ ไม่เจอแล้ว

    ดังนั้น เมื่อท่านได้พบวิธีการวิปัสสนาที่ถูกถ่ายทอด และถูกสงวนรักษาไว้เป็นอย่างดี
    ในประเทศพม่านี้แล้ว ท่านจึงมีปณิธานที่แน่วแน่ และกล้าแข็งมาก
    ที่จะรักษาแนวทางอันบริสุทธิ์ที่แท้จริงนี้เอาไว้ ให้ถึงที่สุด

    ดังนั้น ในวิถีการปฏิบัติของท่าน ที่ท่านสอน จึงห้ามโดยเด็ดขาด
    ที่จะนำเอาวิธีการปฏิบัติแบบอื่นๆเข้ามาผสมผสาน หรือ เข้ามาปะปนด้วย
    ไม่ว่าวิธีการนั้นจะถูกต้อง ดีงาม หรือเลิศเลอแค่ไหนก็ตาม
    เพราะว่าวัตถุประสงค์หลักของท่านก็คือ

    การธำรงค์รักษาไว้ ซึ่งความบริสุทธิ์
    ของวิธีการปฏิบัติวิปัสสนา
    ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า วิธีการนี้


    ในธรรมบรรยายของท่านหลายตอน ได้สื่อให้เห็นว่า สาเหตุหลักที่ทำให้
    วิปัสสนาหายสาบสูญไปจากอินเดีย ภายหลังจากพระพุทธเจ้า
    เสด็จดับขันธปรินิพพานเพียงแค่ 500 ปีเท่านั้นก็คือ
    การถูกเจือปน การถูกบิดเบือน ด้วยวิธีการอื่นๆนั่นเอง
    จนทำให้ นานวันเข้า วิธีการอื่นๆเหล่านั้น
    กลายไปเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากยิ่งกว่าวิปัสสนาไปเสียสิ้น
    แล้ว..วิปัสสนาที่แท้จริง ก็ได้หายสาบสูญไปจากอินเดียในสมัยนั้น

    ศาสนาพุทธของเรา ในประเทศไทยเราตอนนี้ก็เหมือนกัน
    ดูเอาเองเถอะนะครับ ว่ามันยังหลงเหลือความเป็นพุทธอยู่จริงๆกี่ % กันแน่
    เพราะผมก็เห็นมีแต่ พราหมณ์ เทพ ฮินดู และอื่นๆ ปนเปและแทรกซึมอยู่เต็มไปหมด
    เห็นมีแต่พิธีกรรมนั้น พิธีกรรมนี้ อยู่เต็มไปหมด
    เห็นมีแต่ลัทธินั้น ลัทธินี้ นิกายนั้น นิกายนี้ ผุดขึ้นมาอยู่เต็มไปหมด

    ท่านโกเอ็นก้าได้พูดถึงข้อเท็จจริงบางอย่าง ในสมัยพุทธกาล
    แทรกเอาไว้ในธรรมบรรยายของท่านหลายตอน ซึ่งน่าคิดมาก..

    ว่า..ในสมัยพุทธกาลนั้น ผู้คนก็เต็มไปด้วยความเชื่อที่งมงาย
    มากมาย และเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด แบบนี้เหมือนกัน
    แต่ก็หาใช่แนวทางที่จะทำให้ผู้คนพ้นทุกข์ได้อย่างแท้จริงเลย
    เพราะว่าแนวความคิด ปรัชญา หรือความเชื่อเหล่านั้น
    ก็เป็นแค่แนวความคิด หรือ ความบันเทิงทางเชาว์ปัญญาเท่านั้นเอง

    จนกระทั่งเมื่อพระองค์ได้ตรัสรู้แล้ว จึงได้คิดค้นแนวทางการปฏิบัติ
    เพื่อการพ้นทุกข์ที่แท้จริงให้แก่ชาวโลกขึ้นมา
    ซึ่งวิธีการที่ว่านั้นก็คือ "วิปัสสนา" นั่นเอง

    แต่วิปัสสนาที่ว่านี้ ก็คือการเฝ้าสังเกตดูเวทนาทางกายของตัวเอง
    อย่างที่มันเป็นอยู่ในขณะนั้นจริงๆเท่านั้น
    โดยไม่ไปตอบโต้ หรือปรุงแต่งอะไรเพิ่มเติมให้กับมันเลย
    และจะต้องวางอุเบกขาให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบซะด้วย
    และนั่นแหละคือสาเหตุของการหลุดพ้น หรือ พ้นทุกข์หละครับ

    มันมีคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ ซึ่งท่านบอกว่า
    ในสายโซ่ของปฏิจจสมุปบาทนี้ ถ้าเราอยากจะหยุด หรือตัดวงจรนี้ของมัน
    เราจะต้องไปตัดที่เวทนาเท่านั้น เพราะเวทนาเป็นปัจจัยให้เกิดตัณหา
    และถ้าเมื่อใดที่เราสามารถวางอุเบกขากับเวทนาใดๆได้แล้ว
    "สังขาร" ที่เกี่ยวข้องกับเวทนานั้นๆ ก็จะอ่อนกำลังลง แล้วก็จะหลุดลอยไป
    มันจะหลุดลอกออกไปชั้นแล้ว ชั้นเล่า

    ส่วนสังขารเก่าๆทั้งหลาย ที่ถูกเก็บสะสมไว้มาหลายภพชาติแล้วนั้น
    มันก็จะทะยอยโผล่ขึ้นมาสู่ระดับพื้นผิวด้วย และเมื่อมันมาปรากฎอาการ
    เป็นเวทนาต่างๆบนร่างกายของเราแล้ว มันก็จะถูกกำจัดออกไป
    ชั้นแล้ว ชั้นเล่า ด้วยเหมือนกัน

    ท่านบอกว่า เปรียบเสมือนร่างกายเนื้อของเราที่ต้องการอาหารอยู่ตลอดเวลา
    และถ้าเมื่อใดเราไม่ได้ให้อาหารมันอีกเลย มันก็จะต้องไปดึงเอาสารอาหาร
    ที่ถูกเก็บสะสมอยู่ในส่วนต่างๆของร่างกายออกมาใช้เพื่อให้มันอยู่รอดต่อไป
    จนกว่าจะหมด และการทำงานของจิตใจของเราก็เช่นเดียวกัน
    มันประกอบด้วยหลายส่วน เช่น เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ

    ซึ่งเจ้า "วิญญาณ" หรือ consciousness นี่แหละตัวการสำคัญ
    ที่มันจะเกิดดับอยู่ตลอดเวลา มันขาดไม่ได้แม้แต่เสี้ยววินาที
    ดังนั้น เมื่อใดที่เราวางอุเบกขาได้แล้ว เจ้าจิตนี้มันก็ไม่มีอาหาร
    มันก็เลยต้องไปดึงเอาสังขารเก่าๆ ที่ถูกเก็บสะสมอยู่ในส่วนที่ลึกลงไปอีก ออกมาใช้งาน
    ดังนั้น มันจึงลอยขึ้นมาสู่ระดับพื้นผิวโดยอัตโนมัติ
    และถ้าเรายังรักษาการวางอุเบกขา ไม่ชี้ถูกชี้ผิด ไม่มีชัง-ไม่มีชอบอยู่อีก
    มันก็จะอ่อนกำลังลงไป และหลุดลอกออกไปชั้นแล้ว ชั้นเล่า จนหมดไปในที่สุด

    สรุปว่า หัวใจสำคัญของวิปัสสนาก็คือ
    การมีสติรับรู้ และ การวางอุเบกขา
    ส่วนสิ่งที่จะใช้ชี้วัดความก้าวหน้าของวิปัสสนานั้น
    ท่านบอกว่า มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น
    ซึ่งนั่นก็คือ "ความสามารถในการวางอุเบกขาของเรา"
    หาใช่ความสามารถในการรับรู้เวทนาในระดับลึก
    และละเอียดอ่อนของเราแต่อย่างใดไม่


    และในสมัยพุทธกาลนั้น เพราะความที่มันมีปรัชญาต่างๆอยู่มากมายอยู่แล้ว
    ท่านบอกว่า พระพุทธองค์จึงหลีกเลี่ยงที่จะสอนเรื่องนอกตัวพวกนี้
    เพราะว่าเป้าหมายหลักของพระองค์ คือสอนให้คนพ้นทุกข์
    ดังนั้น พระองค์จึงเน้นสอนเฉพาะ ศีล สมาธิ และปัญญา เพียงเท่านั้น

    ซึ่งปัญญาที่ว่านี้ ก็คือ ภาวนามยยปัญญา
    คือปัญญาที่เกิดจากการมีประสบการณ์ตรงด้วยตัวเอง
    อันได้จากการทำวิปัสสนา ว่าอนิจจังเป็นอย่างไร เป็นต้น

    ดังนั้น ผมเลยนึกขึ้นได้ว่า เออ..ท่าจะจริงแฮะ เพราะว่าเรื่องหลายเรื่อง
    เช่น อจินตัย 4 เป็นต้น พระองค์ก็ไม่ทรงสอนเลย
    ดังนั้น เรื่องความเป็นไปเกี่ยวกับจักรวาลและโลก รวมถึงพระเจ้าด้วย
    จึงมีปรากฎอยู่ในพระไตรปิฎกน้อยมาก และไอ้เจ้าที่มีอยู่นั่นหนะ
    ผมอ่านแล้ว ผมก็รู้สึกว่า มันเป็นข้อมูลที่ไม่เห็นจะตรงกับข้อเท็จจริง
    ที่เรารู้กันอยู่แต่อย่างใดเลย เช่น เรื่องขนาดของจักวาลเป็นต้น
    ที่บอกว่ากว้างเท่านั้นเท่านี้โยชน์ ที่บอกว่าดวงอาทิตย์และดวงจันทร์โคจรรอบโลก
    และที่บอกนัยๆประมาณว่า โลกแบน หรือ จักรวลาแบน และมีลักษณะเป็นชั้นๆหนะ

    ผมไม่ได้บอกว่าพระไตรปิฎกบอกว่าโลกหรือจักวาลแบนนะครับ
    แต่ผมเคยพูดให้คิดตามอยู่บ่อยๆว่า อย่างน้อยก็ไม่มีข้อความไหนเลย
    ในพระไตรปิฎกที่บอกว่าโลกกลม หรือ เกือบจะกลม อะไรแบบนั้น
    ไม่เชื่อท่านลองค้นหาด้วยตัวเองสิครับ

    ประเด็นที่ผมกำลังจะบอกอยู่นี้ก็คือว่า
    บางทีท่านพุทธทาสภิกขุท่านอาจจะพูดถูกก็ได้
    ที่ว่าเนื้อหาในพระไตรปิฎกของเราในปัจจุบันนี้นั้น
    มีส่วนที่เป็นเนื้อหาสาระสำคัญอยู่แค่ 30% เท่านั้นเอง
    ที่เหลือคือส่วนที่ท่านเรียกว่า "เฝือ" หรือน่าจะหมายถึงส่วนที่ถูกตบแต่ง
    หรือถูกต่อเติม หรือถูกแทรกเข้ามา อะไรแบบนั้นหรือเปล่า?

    และถ้าเรานำเอาข้อมูลจากข้อความจากต่างมิติทั้งหลาย
    มาเทียบเคียงกับสิ่งที่ท่านโกเอ็นก้าได้พูดไว้
    เราก็จะมองเห็นความเชื่อมโยงอะไรบางอย่างอยู่
    และอาจจะเลยไปถึง ทำให้มองเห็นเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังอะไรบางอย่างอีกด้วย

    ในการทำวิปัสสนานั้น มันก็จะมีอาการทางกายแปลกๆเกิดขึ้นร่วมด้วยหลายอย่าง
    ซึ่งแต่ละคนก้จะมีอาการแตกต่างกันไป เช่น บางคนโรคเก่าก็กำเริบ
    บางคนก็เป็นหวัด บางคนก็ปวดตรงโน้นปวดตรงนี้
    และส่วนใหญ่ที่จะเป็นเหมือนๆกันหมดก็คือ อาการเหนื่อยมากๆ

    คุ้นๆไหมครับ? เพราะว่าทั้งหมดนี้หนะ มันเป็นอาการที่ต่างมิติเรียกว่า
    "อาการแห่งการเลื่อนระดับขึ้น" หรือ Ascension Symptom นั่นเอง

    ผมถึง ตอนนี้ กำลังพยายามหาความเชื่อมโยงของมันอยู่
    ทั้งในแบบของคำอธิบายของท่านโกเอ็นก้า และแบบของต่างมิติ
    เดี๋ยวถ้าได้ความว่าอย่างไร อนาคต ผมอาจจะเอามาเล่าให้ฟังนะครับ

    ตอนที่ทำวิปัสสนาอยู่นั้น ผมมีความคิดผุดขึ้นมาว่า
    ในสมัยนั้น เพราะความที่ผู้คนยังมีความคิด และความรู้ไม่เท่าปัจจุบันนี้
    เช่น พวกเขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับควอนตั้ม ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับไฟฟ้า
    ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อย่างที่พวกเรารู้กันอยู่ในตอนนี้
    ดังนั้น พระพุทธองค์ จึงยังไม่บอกหรือสอนเรื่องที่พวกเขาไม่อาจเข้าใจได้ในขณะนั้น
    ดังนั้น พระองค์จึงเน้นสอนแต่เรื่องที่สำคัญเร่งด่วนมากที่สุดไปก่อน
    ซึ่งนั่นก็คือ วิปัสสนา นั่นเอง

    และวิธีการสอนของพระองค์ ก็เลยเป็นไปในแบบที่
    ที่จะทำให้ผู้คนในยุคนั้น ในสมัยนั้น สามารถเข้าใจได้ด้วย
    ไม่ลงลึกจนเกินไปนัก หรือถ้าจะพูดแบบรูปธรรมชีวิตต่างมิติทั้งหลายพูดหละก็
    ก็อาจจะพูดได้ว่า พระองค์จึงเลือกใช้วิธีการสอนแบบเป็นเส้นตรง
    แบบที่มนุษย์ที่อยู่ในโลกสามมิตินี้จะเข้าใจได้เท่านั้น

    แต่ผมเชื่อว่า พระองค์รู้หมดทุกสิ่งทุกอย่างนั่นแหละ
    เพียงแต่มันยังไม่ถึงเวลาที่พระองค์จะทรงสอนเรื่องพวกนั้นได้เท่านั้นเอง
    เพราะว่าผู้คนจะยังไม่เข้าใจนั่นเอง

    ดังนั้น ผมจึงเชื่อว่า ทุกสิ่งที่มีอยู่ในพระไตรปิฏก
    หมายถึงเฉพาะส่วนที่เป็นคำสอน
    ของพระพุทธองค์จริงๆหนะนะครับ
    มันจึงไม่ได้หมายถึง คือทั้งหมด ของสัจธรรม
    ที่มีอยู่ในจักรวาล แต่อย่างใดเลย
    เพราะว่ามันเป็นแค่เศษเสี้ยวหนึ่ง
    ของความเป็นจริง หรือของสัจธรรม
    ที่มีอยู่ในจักรวาลเท่านั้นเอง
    อย่างที่พระองค์เองก็ทรงตรัสเอาไว้แล้วว่า
    ทั้งหมดที่พระองค์สอน
    ก็เปรียบเสมือ แค่ใบไม้ในกำมือหนึ่งเท่านั้นเอง


    เพราะว่า ถ้าเป็นอย่างที่ใครบางคน ซึ่งหมายรวมถึงท่านโกเอ็นก้าด้วย
    ที่ชอบพูดว่า ธรรมะ คือสิ่งที่เป็นเรื่องง่ายๆ ต้องตรงไปตรงมา
    และต้องเข้าใจง่ายๆด้วย เพราะว่าธรรมะ มีไว้ให้คนธรรมดาปฏิบัติ นั้น
    ถ้าเป็นแบบนั้น..แล้วพระพุทธองค์จะต้องใช้เวลาถึง 7 วัน 7 คืน หลังจากตรัสรู้แล้ว
    เพื่อคิดใคร่ครวญทำไมกัน ว่าพระองค์จะทรงสอนสัตว์โลกนี้อย่างไรกันหนอ?
    จนกระทั่งท่านท้าวสหัมบดีพรหมต้องลงมาอารธนาให้พระองค์ทรงออกไปแสดงธรรมโปรดสัตว์หนะ

    ถ้าในความเป็นจริงระดับจักรวาลแล้ว สัจธรรม มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆ
    ตรงไปตรงมา สามารถเอามาพูดให้ใครฟัง หรือ สอนใครให้ปฏิบัติตามก็ได้แบบนั้นแล้ว
    ด้วยสติและปัญญาระดับพระพุทธเจ้าแล้ว ยังมีเรื่องอะไรที่จะต้องขบคิดใคร่ครวญอีกหละครับ
    ผมเลยคิดว่า มันจะต้องมีอะไรที่เป็นเหตุผลอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอนเลยทีเดียว

    สมมุติเฉยๆนะครับว่า ถ้าข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมิติต่างๆ
    มันเป็นอย่างที่ข้อความจากต่างมิติทั้งหลายพูดเอาไว้จริงๆหละ
    ถ้าท่านเป็นผู้ที่จะต้องไปสั่งสอนคนในยุคนั้นแล้วหละก็
    ท่านจะเอาสัจธรรมนี้ มาบอกมาสอนคนในสมัยนั้นอย่างไร?
    และถ้าในมิติที่อยู่สูงขึ้นไปอีก มันไร้กาลเวลาจริงๆหละ ท่านจะสอนคนในสมัยนั้นว่าอย่างไร?
    และถ้ามนุษย์แต่ละคน ล้วนเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติ และอยู่อย่างไม่แยกขาดจากกันและกัน
    และไม่แยกขาดจากทุกสรรพสิ่งจริงๆหละ ท่านจะสอนคนในสมัยนั้นว่าอย่างไร?

    แต่ว่า..ในยุคสมัยนี้มันต่างไปจากเดิมแล้ว
    เพราะว่าผู้คนพร้อมแล้ว ที่จะรู้อะไรลึกซึ้งขึ้น ละเอียดอ่อนขึ้น
    อย่างที่ครายออนพูดไว้เสมอว่า


    "ถ้ามันยังไม่ถึงเวลา พวกเขาก็คงจะยังไม่มา"

    ดังนั้น นี่แหละคือสาเหตุที่ตอนนี้ มีข้อความจากต่างมิติ
    ผุดขึ้นมาจากทั่วทุกมุมโลก ยังกะดอกเห็ด
    อย่างที่เห็นกันอยู่นี้หละครับ


    ............................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2013
  19. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    ทำสมาธิแบบวิคคา
    “ทุ่งธรรมชาติ”
    (ใช้เวลา ๕ – ๑๐ นาที)

    ๑. นั่งท่าสบาย ๆ ในห้องเงียบ ๆ ปลดปล่อยความกังวล ตึงเครียดของวันให้หลุดลอยออกไป ผ่อนคลายทั้งกายใจ

    ๒. หายใจลึก ๆ ช้า ๆ สำรวจร่างกายว่ามีส่วนใดที่ยังตึงเกร็งอยู่ ให้ผ่อนคลายลง เมื่อลมหายใจลึกสม่ำเสมอแล้ว ให้เพ่งสมาธิไว้ที่ลมหายใจ หลับตา

    ๓. ปล่อยจิตใจให้ผ่อนคลาย จดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้า – ออกลึก ๆ ช้า ๆ นั้นไว้ จนกว่าจะรู้สึกสงบ

    ๔. จินตนาการถึงกำแพงห้องที่ล้อมตัวคุณไว้ค่อย ๆ จางหายไปอย่างช้า ๆ นึกภาพว่าตัวคุณกำลังนั่งอยู่กลางทุ่งหญ้ากว้างใต้แสงอาทิตย์สดใส ใบหญ้าสีเขียวชูยอดอยู่รอบกาย พื้นดินที่แสนอบอุ่นอยู่ใต้ฝ่าเท้าลงไป

    ๕. แสงอาทิตย์สาดส่องอยู่เหนือตัวคุณ ให้ความอบอุ่นของแสงสีทองฉายอาบไปทั่วกาย สายลมอ่อน ๆ พัดลูบไล้ล้อผิวและใบหน้าอยู่จาง ๆ ไม่ไกลนัก ให้คุณจินตนาการถึงเสียงของสายน้ำที่ไหลรินผ่านลำธารเล็ก ๆ ส่งเสียงราวกระดิ่งแก้วนับสิบ

    ๖. บัดนี้รอบกายถูกรายล้อมไปด้วยธาตุทั้งสี่ คือ ลม (สายลม) ไฟ (แสงอาทิตย์) น้ำ (ลำธาร) และดิน (ทุ่งหญ้ากว้าง) สัมผัสถึงพลังอันอ่อนโยน และอบอุ่นนานเท่าที่คุณต้องการ

    ๗. กลับมาจดจ่อที่ลมหายใจของคุณอีกครั้ง คราวนี้การหายใจเข้าแต่ละครั้ง คุณรับรู้ถึงพลังชีวิตที่ส่งผ่านทางลมหายใจแต่ละช่วง

    ๘. รับรู้ทุกลมหายใจ ไม่ใช่เป็นเพียงอากาศที่สูดเข้าในปอดเท่านั้น ทว่าเป็นพลังงาน เป็นชีวิตที่คุณรับเข้ามาเติมเต็มในกาย ไหลผ่านไปสู่ส่วนต่าง ๆ

    ๙. สัมผัสถึงตัวคุณ กำลังเป็นส่วนหนึ่งของพลังงาน รับรู้ถึงพลังของโลกที่ไหลผ่าน วิ่งวน และอาบไล้ตัวคุณ รับรู้ถึงจังหวะของพลังงานให้สัมพันธ์กับลมหายใจ และชีพจรของคุณเอง หลอมรวมพลังงานนี้กับตัวคุณ คุณคือพลังงานนั้น คุณคือโลก และโลกก็คือคุณ

    ๑๐. รักษาจินตนาการนี้ไว้สักหนึ่งถึงสองนาที แล้วจึงปล่อยให้พลังงานนั้นค่อย ๆ จางลงไปอย่างช้า ๆ ในตัวคุณ อาจตั้งศูนย์กลางอยู่ที่หน้าอก ลิ้นปี่ หว่างคิ้ว หรือแม้กระทั่งทั้งตัวของคุณเอง

    ๑๑. นั่งพักสักครู่ ลืมตาขึ้นช้า ๆ และลุกขึ้นเมื่อพร้อม

    ๑๒. พึงระลึกไว้ว่า ขั้นตอนทุกอย่างให้ทำอย่างช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไป อย่ารีบร้อน

    ๑๓. จดบันทึกประสบการณ์ และความเห็นลงสมุดบันทึก ส่วนที่ทำได้ยาก ส่วนที่ชอบ รู้สึกดี จุดที่ติดขัด


    http://www.dek-d.com/board/view/2276862/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 สิงหาคม 2013
  20. yaya12

    yaya12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +182
    คุณชยุตมาแล้ว..หลังจากปล่อยให้เราแวะซ้ายแวะขวาอยู่หลายวันและแล้วก็กลับมา รอท่านชยุตแปลให้เราได้อ่านในสิ่งที่เราชอบ..เราก็จะกลับมาสู่ถนนของเรา .. ขอบคุณค่ะ..!!! ...จริงๆที่เรามาอ่านที่ตรงนี้ได้เพราะข้อความที่ต่างมิติสื่อมา ..เหมือนหรือคล้ายกับที่ครูบาอาจาร์ยเราสอนมาเลย.... แนวทางที่เราสามารถนำไปต่อยอดจากที่ครูฯเราสอนได้ และก็ง่ายด้วย ..เราเชื่อเรื่องต่างดาวเพราะในสังขารเราก็มีต่างดาวอยู่..แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่พูดไม่ได้กับทุกๆคน...เหมือนคุณภูดิสพูดว่าเรามีต่างดาวอยู่จริงๆเราก็รู้อยู่แต่คุณภูดิส..เค้ารู้ได้อย่างไรเราก็ไม่ทราบ...สรุปว่าเราชอบข้อความต่างมิติ รีบๆแปลน่ะค่ะ รออ่านค่ะ เพราะเราไม่เก่งอังกฤษค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 สิงหาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...