ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. พรหมณี

    พรหมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,547
    ค่าพลัง:
    +12,867
    เคยเห็นพระกริ่งหนองแสของจริง วันที่หล่อพระกริ่งสมปรารถนาที่วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ มีคนนิมนต์มาเข้าพิธีด้วย สวยงามมากค่ะ เป็นบุญตาจริงๆค่ะ
     
  2. punthai

    punthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +320
    ขอบคุณมากครับ สำหรับประวัติศาสตร์ ที่น่าติดตาม ...
     
  3. เหลิมม

    เหลิมม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +313
    อ่านเรื่องพระกริ่งแล้วสงสัย อยากจะสอบถามพี่ modpong เรื่องพระชัยวัฒน์ครับ
    เหมือนว่าสมัยพระสังฆราชแพ จะเป็นต้นธรรมเนียม ที่ตกมาถึงปัจจุบันที่สร้างพระกริ่งก็มักจะมีพ่วงพระชัยวัฒน์และดูเหมือนจะเกี่ยวเนื่องตำราเดียวกัน

    โดยที่สมัยก่อนหน้านั้นขึ้นไป พระชัยวัฒน์คือพระรูปหล่อพระพุทธ และไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับพระกริ่งหรือเปล่าครับ
     
  4. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ............
    ...หวัดดี..และ..ยินดีต้อนรับครับ....
    ......เรื่อง..ตำนานพระกริ่ง..และ..พระชัยวัฒน์...นี่จริงๆแล้ว...มีการเล่า
    รายละเอียด..จาก...ผู้รู้โดยตรง...ที่ผมว่า..น่าเชื่อถือที่สุดแล้ว..ก็คือ..ท่านอาจารย์นิรันดร์ แดงวิจิตร..ซึ่งท่านสมัยยังบวชอยู่เป็นผู้มีส่วนร่วมใน..การสร้าง..และ..ตบแต่งพระกริ่ง..พระชัยวัฒน์..ทั้งที่สร้างสังฆราชแพยุคหลัง..และ..ของเจ้าคุณศรี..เกือบทั้งหมด...เรื่องนี้..มีลงอยู่ในหนังสืองานศพท่าน..และ..มีลงในหนังสือพระ..ต่อเนื่องกันด้วย..แต่ผมเอง..ก็อ่านแค่บางตอน..เพราะเป้นช่วงที่ผมเลิกเล่นพระ..แล้วก็เลย..ไม่ได้สนใจเท่าไหร่..ถ้าใครอยากทราบโดยละเอียดก็ไป..หาอ่านดูนะครับ...
    .........ความจริงแล้ว..ผมก็ลืมเล่าไปใน..ตอนพระกริ่ง..ด้วย..ว่านอกเหนือ..จาก..พระกริ่งที่..สร้างในสมัย..รัชกาลที่๕..ก็..ยังมี..พระชัยวัฒน์..ด้วย....
    .............ท่านเจ้ามา..นั้น..สร้างมาก่อน..สังฆราชแพ..ครับยืนยันได้..ด้วยท่านเอง..ได้รับ..การสืบทอดตำราและวิชา..การสร้างพระกริ่งพระชัยวัฒน์มาจาก..สมเด็จพระวันรัตน์แดง..ท่านอาจเล็งเห็นว่า..ตัวท่านเองอาจไม่เหมาะในการสร้างพระกริ่ง..(ความเห็นผมเองนะครับ)..เพราะท่านเองเป็นพระนักเลง..และดุ..(ใครเคยเห็นภาพท่าน..จะทราบเอง)..พลังจิตที่ใช้ในการปลุกเสก..น่าจะเหมาะกับแนวบู๊มากกว่า...
    ...ก็เลย..สร้างพระชัยวัฒน์เป็นหลัก..คุณเหลิมเอง..เพิ่งมาเป้นสมาชิก..ไม่ทราบว่า....อ่านเรื่องของผม..จบรึยัง..เพราะ..ผมเคยเล่าเรื่องที่มีคนทราบ..น้อยมากๆไป..ก็คือ...พระกริ่งของท่านเจ้ามา..มาแล้ว..ลองกลับไปหาอ่านดูครับ..ก็คือผมยืนยัน..ว่า..ท่านสร้างพระกริ่งด้วย(..อย่างว่าครับ..เมื่อเรียนมาแล้ว..และไม่สร้างก็คงไร้ค่า..จะเรียนไปทำไม..เหมือนที่..หลวงปู่โต๊ะท่านยังต้องสร้างพระกริ่ง..แบบนั้นละครับ..โดยเฉพาะพระกริ่ง..ที่เป็นวิชาชั้นสูง..)..แต่เท่าที่ทราบและ..ผมยืนยันได้..ก็คือ..ของเจ้ากรมเป๋อ ไวยาวัจกร วัดสามปลื้ม..ในสมัยท่าน..แต่ผมว่าน่า..จะมีซัก ๙-๑๐ องค์..นะครับแต่อยู่ในผู้ครอบครอง..ที่เหนียวแน่น..และไม่เคยเปิดเผยตัว...
    .....เท่าที่ทราบ...การสร้าง..ขั้นตอน..นั้น..จะมีหลายส่วนที่คล้าย..พระกริ่ง..แต่คาถาปลุกเสกคงมีแตกต่างกันไปบ้าง..เพราะ..อุปเท่ห์..การใช้ต่างกัน..เนื่องจาก..พระกริ่งเอาไว้บูชาที่บ้าน..และทำน้ำมนต์...ส่วนพระชัยวัฒน์นี่..เอาไว้ติดตัว..ไว้เพื่อให้มีชัยชนะ..จากสิ่งไม่ดี..ที่จะมามีผลกับตัว...
    ........ดังนั้น..พระคาถาที่ประกอบในการปลุกเสกจึงต้องมีความแตกต่างกัน...อย่างที่บอกมา...ส่วนเนื้อโลหะนั้น..แผ่นยันต์ที่ต้องลง..อาจมีบางส่วน..ที่เหมือนกัน..และอาจมีบางส่วน..เพิ่มเติมออกไป...ที่ผมบอกอย่างนี้เพราะ...มาจากวิเคราะห์..จาก...การที่สังฆราชแพ..ท่านต้องเททองหล่อพระชัยวัฒน์..จนหมดสิ้นก่อน..ก่อนจะเททองหล่อพระกริ่ง..และเป็นธรรมเนียมอย่างนี้..(อาจมาจากหลักการเอาฤกษ์..เอาชัยก่อน..ก็ไม่ทราบ)..ถ้าพระกริ่งรุนไหน..ท่านไม่ได้ทำพระชัยวัฒน์ด้วย..ท่านก็จะเททองหล่อ..พระพุทธรูปบูชา..ก่อนแทน(เหมือนเป็นตัวแทน..พระชัยวัฒน์)..ทุกครั้งไป...
    .........ดังนั้น..ผมจึงเชื่อได้ว่า..นั่นคือ..ส่วนของแผ่นยันต์..ที่แตกต่างกัน..ที่จะใส่ลงหลอมรวมใน..เนื้อโลหะหลัก..ก่อนจะเททองลงเบ้าครับ...(..เนื้อโลหะหลัก..ของ..
    พระกริ่ง..และ..พระชัยวัฒน์..นี้จะเป็นแบบเดียวกัน)
    .............ที่ถามว่า...พระชัยวัฒน์..คือ..พระพุทธรูปหล่อทั่วไป..จึง..ไม่ใข่..ครับ...มีขั้นตอน..เนื้อโลหะ..ส่วนผสม..ยันต์ที่ต้องใช้..แตกต่าง..เป็นเฉพาะของตัวเอง..ครับ...โดยเฉพาะ..วัตถุประสงค์..หรือ..อุปเท่ห์ในการใช้..ก็แตกต่างกัน................ท่านผู้อ่านลองดูครับ...ธงชัยเฉลิมพล..นั้น..คั้งแต่โบราณ..จาก..
    อยุธยามา..จนปัจจุบัน..ถูกกำหนดตามตำราว่า..บนยอดธง..ต้องติดตั้งพระชัยวัฒน์ด้วย
    ..เท่านั้น...จึงเห็นได้ชัดเจนว่า..พระชัยวัฒน์..ไม่ใช่เป็นแค่รูปพระพุทธ..เฉยๆ
    .............ให้สังเกตเลยว่า....ถ้าจะทำพระกริ่ง..ก็ต้องมีการทำพระชัยวัฒน์ด้วย..ถ้าไม่มี..ก็ต้องมีการหล่อพระพุทธรูปบูชา...นี่คือ..สายวัดสุทัศน์..จะไม่มีการหล่อ..แต่พระกริ่งอย่างเดียว..และ..พระชัยวัฒน์..ต้องเททองหล่อ..ก่อน..พระกริ่งเสมอ....
    .......ดังนั้น...ไม่ว่า...สมเด็จเจ้ามา..หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง..หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว...จึง..ทำพระชัยวัฒน์เดี่ยวๆได้..โดยไม่ต้องหล่อพระกริ่งด้วย...
    ....ต้อง..มีพระชัยวัฒน์(หรือ..พระบูชา)..นำก่อน..แล้วถึง..มีพระกริ่ง...
    ........แต่พระชัยวัฒน์..นั้น..เนื่องจากเป็นผู้นำเอง..จะมีผู้ตาม..หรือ..ไม่ตามก็คงไม่แปลก....
     
  5. เหลิมม

    เหลิมม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +313
    ผมติดตามตั้งแต่ต้นเลยครับ เรื่องเพื่อนของพี่ ที่เป็นทายาทร้านเ้จ้ากรมเป๋อ
    อ่านจนพี่เลิกเขียนอยู่พักนึง แล้วก็ยังอุตส่าห์ตามไปเจออีกเว็บ ก็ตามอ่านเว็บนั้นจนล่มไป และก็ได้เห็นกลับมาเขียนที่นี่อีก

    เพิ่งได้มีโอกาสสมัครสมาชิกก็ช่วงนี้ เพราะก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าจะโพสต์อะไร เลยยังไม่ได้สมัครกะเค้าซักที

    จึงได้สอบถามเรื่องพระชัยวัฒน์ เผื่อว่าจะมีเกร็ดที่พี่ไม่ได้เล่าเรื่องท่านเจ้ามาที่พี่เล่าตอนพูดถึงเพื่อน
    เผื่อจะมีเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยเสริมเข้ามาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2013
  6. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .................................................
    ..........
    ....อ้อ..นี่ก็นับเป็นแฟนพันธุ์แท้..ผมเหมือนกัน..ขอบคุณครับที่ติดตาม
    มา..ตั้งแต่ต้น...ก็สงสัยอะไร..ก็ถามมาได้...แต่ต้องเป็นเรื่องเก่าๆนะ..
    เรื่องใหม่ๆผมไม่รู้หรอก..อันไหนตอบได้..ก็จะตอบ..อันไหนผมไม่รู้ก็จนปัญญา..เพราะผมไม่ได้เก่ง..หรือ..รู้มากนัก..แค่พอรู้..ผมว่า..ถ้าคุณเข้าสนาม..เข้าวงการเก่าพอๆกับ..ผม..คุณอาจจะรู้มากกว่าผมอีก..เพราะจากที่ตามเรื่องผมมาตลอด..ก็บอกนิสัยได้เลยว่า..ไฝ่รู้จริง..และไม่ได้เล่นพระแบบงมงาย...ผมมันก็แค่..คนแก่..ที่บ้าเขียนไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น..
    ....ก็แก้ไข..นิดนึง...หลานเจ้ากรมเป๋อ..นี่..ไม่ใช่เพื่อนนะครับ..แกเป็น..พี่ที่ผม..เคารพมากครับ..อยู่ด้วยกันมานาน
     
  7. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ....หวัดดี..น้องณี..และ..Punthai..
    ..........................
    ..ต่อจากตอนที่แล้ว.....
    ...........................
    .....................................................................
    .....ไม่ว่า..พระผง...รูปแบบพระสมเด็จ(...เราว่ากันเป็นปกติ..แต่ต้องถือว่า..ผู้ให้กำเนิดรูปแบบ
    คือ สมเด็จอรหัง ของ สังฆราชสุก อาจารย์ท่าน)...และ..รูปแบบอื่น...ส่วนพระโลหะ..ก็ทั้ง
    ตะกั่ว..ทองเหลือง....เหรียญพระพุทธสำคัญต่างๆ..ที่นับถือ..กันมาก..เหรียญหลวงพ่อทั้งหลาย
    ...ค่อยๆทยอยออกมา..สังคมพระลง..มาในระดับกลางมากขึ้น...
    .................พอต่อมา...เมื่อ..หนังสือพิมพ์ที่เป็นแบบชาวบ้านอ่าน..เริ่มมีมากขึ้น...อย่าง พิมพ์ไทย
    ..หลักเมือง..สยามนิกร ฯลฯ ก็เริ่ม..มีเรื่องพระ..ไม่ว่า..พระพุทธรูปสำคัญ..ต่างๆลงบ้าง...
    ไม่ว่า..หลวงพ่อโสธร..หลวงพ่อวัดบ้านแหลม..เป็นต้น..ถนนเริ่มมี...สื่อสิ่งพิมพ์..ก็เลย..มีส่วน
    มากขึ้น...อย่างตอนที่ฉลองกรุงเทพ ๑๕๐ ปี(๒๔๗๕)...หนังสือพิมพ์..ก็ลงข่าวสารที่จะมีการให้เช่า..
    เหรียญพระแก้วมรกต...มีการระบุการทำพิธีปลุกเสก..อาจารย์ที่มาปลุกเสกเป็นใครบ้าง....
    ...ราคาเหรียญ..แต่ละเนื้อ...ด้วยเนื่องจากงานนี้เป็นงานระดับชาติ...จึงไม่แปลก..เป็นเหตุการณ์
    สำคัญ..ของบ้านเมือง...แต่ไม่ว่ายังไง..ก็ถือว่า..สื่อสิ่งพิมพ์..ก็เป็นส่วนสำคัญ..ให้คนทั่วไป..ได้
    สัมผัส.............
    ............ขณะเดียวกัน....หนังสือพิมพ์...ก็เริ่มมีการส่งกระจาย..ไปขายตามหัวเมือง..ต่างๆที่..รถไฟ
    ผ่าน..ข่าวสาร..ก็..กระจายไปมากขึ้น...ต่อมาหัวเมืองใหญ่..ต่างๆเอง..ก็มี..สื่อสิ่งพิมพ์..ของตัวเอง
    บ้าง...เพื่อให้ชาวบ้านถิ่นตัวเอง..ได้รับรู้เรื่องราว..ต่างๆ..ในภาคของตัวเอง...อย่าง..เชียงใหม่..ก็
    เหมา..เอาเรื่องราวต่างๆ..ในเขตภาคเหนือ..มารวมด้วย..นอกเหนือ..จากเรื่องในจังหวัดตัวเอง..
    ...และคราวนี้..เรื่องของหลวงพ่อดังๆ..ก็เริ่มมีปรากฎบ้างเป็นครั้งเป็นคราว....เป็นต้น...
    ................แต่ด้วย..คนในเชียงใหม่..กับ..กรุงเทพไปมาหาสู่กัน....เพื่อนฝูง...ใครมีโอกาศก้ไปเยี่ยมกัน
    ..ด้วยเป็นเพื่อนที่คอเดียวกัน...มาเจอกัน..ก็ได้แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องพระกันบ้าง...เมื่อทาง
    เชียงใหม่..ลงเรื่องพระมาบ้าง..ก็คงมีโอกาศที่เอาพวก..หนังสือพิมพ์..ที่เล่าเรื่องราว..มาฝากด้วย
    ...อย่างพระกรุลำพูน..อย่างนี้..ทางพวกกรุงเทพ..ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องมาก..ก็พลอยได้อาศัยอ่าน..ไปด้วย
    ......ก็ไม่ใช่มี..แต่เชียงใหม่อย่างเดียว..อย่างโคราช..ก็มี...เพียงแต่..ผมยกเป็นตัวอย่างเท่านั้น..
    ..........แล้วต่อมา..หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น..ก็ไม่ได้กระจุกอยู่แค่หัวเมืองใหญ่..อย่างเดียว...ตามหัว
    เมืองรอง..ต่างๆ..ก็เริ่มมีเช่นกัน....เอาแค่การสื่อสาร..แค่...คนต่างอำเภอกัน..ก็เริ่มมีโอกาศรู้จัก..
    เรื่องราวที่เกิดในแต่ละอำเภอมากขึ้น...เรื่องพระ..หรือ..หลวงพ่อ..ก็ไม่แคล้ว..ได้มีโอกาสลงไป
    ด้วย...การกระจายเรื่องราวความดัง..และความศักดิ์สิทธิ์..ของพระพุทธ..หรือ..หลวงพ่อ..ก็พลอย
    มีมากขึ้น..และกระจายกว้างขึ้น..แล้วคิดดูว่า..คนต่างจังหวัด..ก็เข้าไปทำงานในกรุง..ก็มาก..กลับ
    บ้านที...ก็ได้รับเรื่องราว..จากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น..กลับกรุงเทพ..ก็กลับเอาไปบอกเพื่อน...แล้ว
    พงกคอเดียวกัน..ก็อาจจะพกเอาหนังสือที่ลงเรื่องพระไปให้อานกันอีก.........
    ....การพุทธาภิเษกก็เริ่มมีมา..เรื่อยๆ..ตั้งแต่ ปี ๒๔๘๐ มา..ที่วัดราชบพิธ..แบบยิ่งใหญ่..ระดมหลวง
    พ่อดังๆทั่วประเทศ..มากมาย..ยิ่งใหญ่..นับจาก..คราวปี ๒๔๗๕..เป็นต้นมา...ทำให้คนกรุงได้
    พบ..หลวงพ่อที่มีชื่อเสียงอยู่ในต่างจังหวัด..ภาคต่างๆ..มากขึ้น...พอหลวงพ่อว่างไอ้พวกชอบ
    พระก็เข้าไปขอของดีหลวงพ่อกันให้มั่วไปหมด...แล้วคิดดูว่า..มี..การปลุกเสก กัน ถึง ๔ วาระ
    ...หลวงพ่อบางองค์..ต้องมาทั้ง ๔ ตคราวเลย....กว่าจะจบ..ก็ล่อ..ไปถึง ๒๔๘๑...เรียกว่า..
    กระแสเร้าต่อเนื่อง..คนกรุงชอบพระเลยสบาย..ได้รู้จัก..และ..มีของหลวงพ่อต่างๆกัน..แถม
    ก็พูดคุยสื่อสาร..กระจายกันออกไป..ในสังคมคนชอบพระ..ต่อเนื่องและทั่วถึง....
    .............สำหรับหนังสือในกรุงเริ่มมา..ลงเรื่องพระ..หลวงพ่อ..ความศักดิ์สิทธิ์..กันมากๆก็เพราะ
    สงครามอินโดจีน..นี่แหละ(..อย่าลืมนะครับ..สงครามอินโดจีนนี่..ไทยรบกับฝรั่งเศษ....ก่อนที่
    ญี่ปุ่น..จะบุกไทย)
    ........................................ต่อตอนหน้า....................
     
  8. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ....................
    ...................ควันสงครามเริ่มเมื่อต้นปี..๒๔๘๓...(ตอนนั้น..พ่อผมกำลังรับราชการอยู่ที่พิษณุโลก)
    ...เริ่มมีการเรียกร้องดินแดนคืนจากฝรั่งเศษที่มันปล้นเอาไป..เมื่อรัฐบาล..ก็สนับสนุนทุกภาคส่วน
    คนไทยพร้อมใจกัน...หนังสือพิมพ์รายวัน..จึงมีบทบาทมาก..ทั้งที่อยู่ในกรุง..และ..ที่อยู่ตามต่าง
    จังหวัด...รายงานความเคลื่อนไหว..และ..ปลุกใจกันทุกวัน..เมื่อฝรั่งเศษปฎิเสธ..ไทยก็ประกาศ
    สงคราม..ระดมพล...ขณะเดียวกัน...ทางฝ่ายพระ..ก็ไม่น้อยหน้า..เพราะบรรดาเกจิทั้งหลาย....
    ..เริ่มปลุกเสก..ของขลังนานาชนิด..เน้นเหนียว..และ..อุตม์..เป็นหลัก...ก็..จะมีข่าวหนังสือพิมพ์
    ตามหัวเมือง..เหนือ..ใต้..ออก..ตก..อีสาน..ลงข่าวกัน...ทำให้หลายหลวงพ่อที่เก่งๆ..เริ่มมีชื่อออก
    สื่อกัน..จากเดิม..รู้จักแค่ในจังหวัด..ตอนนี้..ก็ออกไปจังหวัดใกล้เคียง..คนรุ่นเก่าบอกว่า....หนังสือ
    พิมพ์ในช่วง..สงครามขายดีมาก..พิมพ์ไปเท่าไหร่..ก็หมด..เพราะเรื่องข่าวคราว..จะรู้..หรือ..ทราบ
    กันได้..ก็จาก..วิทยุAM คลื่นสั้น(Short Wave)...และก็..หนังสือพิมพ์..เท่านั้น..ทีวียังไม่เกิดครับ
    ......แม้แต่หนังสือพิมพ์..ในกรุง..ก็พลอยลงเรื่อง..พระ..หรือ..หลวงพ่อเก่งๆที่ทำของขลังออกมา
    แจกด้วย.....อย่างเดิมที่ว่า..คนต่างจังวัดเข้ากรุง...คนกรุงออกต่างจังหวัดเมื่อเป็นคอเดียวกัน...
    ..ก็หิ้วหนังสือพิมพ์เอา..ข้อมูลพระ..หรือ..หลวงพ่อมาแลกเปลี่ยนกัน...
    .................ยิ่งพอเกิด..การปะทะ...แล้วทหารไทยวิ่งเอาหน้าอก..ชนกระสุนกันเป็นว่าเล่น..เพราะ
    เจ็บแค่...เหมือนโนหนังสติ๊กยิง...ข่าวทุกสื่อ..ทุกฉบับ..ก็ออกมาให้รายละเอียดกัน...
    ...ทำให้ชื่อ...จาด..จง..คง..จันทร์...ได้ติดอยู่ในสมอง..ของ..สังคมคนนิยมพระเครื่องกันหมด...
    ....ทหารก็รบกันไป...คนเล่นพระ..ก็วิ่งกันไปหา..พระเครื่อง..เครื่องราง..เสื้อยันต์..ตะกรุด..ลูกอม
    ..เชือกคาด..ฯลฯ...ของหลวงพ่อเหล่านี้(..ไม่ใช่แค่ ๔ องค์..องค์อื่นด้วย )..กันใหญ่...ด้วยอีกอย่าง
    หลายคน..ก็ไม่แน่ใจ..ว่าสงครามจะลุกลาม..ขนาดไหน..เพราะตอนนั้นข่าวก็บอกให้ทราบแล้ว
    ว่า..เกิด..สงครามโลกครั้งที่๒ขึ้นด้วยในยุโรป..
    ...........พอยี่ปุ่นเข้ามาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย...แล้วทหารไทย..กลับบ้าน..ประสพการณ์พระเครื่อง
    ..เครื่องราง..ของหลวงพ่อต่างๆ...ก็ได้กระจายออกไปมากกว่าเดิมอีก..เริ่มจากปากของตัวทหาร
    ...ให้กับ..ญาติ..มิตรสหาย..และ..ให้..สัมภาษณ์..กับ..หนังสือพิมพ์..ทั้งท้องถิ่น..และในกรุง..
    ..หลวงพ่ออีกหลายท่าน..ก็ได้ปรากฎ..ชื่อขึ้นเพิ่มเติม.......
    .......คนไทย..ได้พักแป็บเดียว..ปลายปี ๒๔๘๔...ญี่ปุ่น..บุกไทย...แล้วก็บังคับไทย..ให้ยอมเป็นพวก
    ...ไทยเอง..ก็ต้อง..ประกาศสงครามกับ..พันธมิตร...เรียกว่า..ตอนนี้..งานเข้าหนักกว่า..เดิม....
    ....หลวงพ่อเก่งๆทั่วไทย..ก็เลยงานเข้าด้วย...ไม่ว่า..จะสำนักเขาอ้อ..ก็ระดมศิษย์..สร้างพระกัน..
    .....แล้วยังถิ่นใครถิ่นมัน..ก็ออกพระเครื่องเครื่องราง..กันยกใหญ่..ไม่เว้นแม้แต่..หลวงอาของผม
    (พระครูสมุห์ทองดี..วัดบางด้วนนอก)..ตอนนั้นท่านยังไม่เคยสร้างพระเลย..หลังจากเรียนจบ..
    จากสำนักหลวงพ่อปาน...ท่านก็ยังต้อง..ทำผ้ายันต์(ยันต์ทอ)..แจกลูกหลาน..ที่ต้องไปรบ....
    ...หลวงปู่เผือก..ที่ท่านเป็นพระนักบู๊อยู่แล้ว..ก็ระดมวัสดุ..ทำพระ..ออกมาหลายแบบ..ทั้งเนื้อผง
    ..โลหะ..เรียกว่า..ท่านเทหมดหน้าตักเลย..(..เราเรียกกันว่า..รุ่นอินโดจีน..ของ..หลวงปู่เผือก)...
    ........พุทธสมาคม..กับ..วัดสุทัศน์..ร่วมกับ..วัดพระพุทธชินราช..ก็จัดการปลุกเสก..ครั้งยิ่งใหญ่
    ขึ้น..ที่วัดสุทัศน์..ระดมหลวงพ่อ..ทั่วประเทศอีกครั้ง...เรียกว่า..หลังพิธีปลุกเสกที่วัดราชบพิธมา
    ...ก็..พิธีนี้แหละครับที่ยิ่งใหญ่สุด..ส่วนหนึ่ง..ก็..องค์เดิมๆ..จากคราวงานวัดราชบพิธ..แล้วก็มี..
    เพิ่มเติมมาใหม่..ด้วย..งานนี้..มีการประชาสัมพันธ์กัน..ทั่วประเทศ..เพื่อให้มาเช่าหากัน..เรียกว่า
    การกระจายสื่อ..ออกไปยิ่งใหญ่...(หลังจากนี้..งานระดับใหญ่กว่านี้..ก็มีแต่..ปลุกเสกงาน ๒๕
    พุทธศตวรรษ..เท่านั้น..)...และ..งานนี้..ก็เรื่องปรากฎ..ในหนังสือพิมพ์..ต่างๆด้วย..เรียกว่า..ช่วย
    กัน..ประชาสัมพันธ์
    .......................ต่อตอนหน้า................
     
  9. bearkery

    bearkery เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,668
    ค่าพลัง:
    +6,383
    คุณลุงครับ แบบนี้ไม่รู้ว่าเราจะมีสิทธิ์ได้เห็นพิธีใหญ่ๆ แบบครั้ง 25 ศตวรรษ อีกมั้ยครับ
    ผมตามมาที่หลังเกิดไม่ทันจริงๆ ณ พศ นั้น.......

    ขอแวะเรื่องพระ 25 ศตวรรษ หน่อยนะครับ (คุ้นๆ เหมือนคุณลุงเคยเขียนมาบ้าง)
    ผมขอสอบถามหน่อยครับ.....เคยมีคนบอกผมว่า ที่พุทธมณฑล ตอนนี้ก็ยังมีพระรุ่นนี้ให้บูชาอยู่ (เป็นเหรียญอีกพิมพ์หนึ่ง และเนื้อดินเผาหรือผงก็มี ..... ผมไม่ชัวร์นะครับ ได้ยินมาสักพักนึงแล้ว)
    คำถามคือ คุณลุงมีความเห็นอย่างไรบ้างครับ คิดว่าแท้ทันยุคนั้นมั้ย (หรือว่าเป็นของเสริม)

    ถ้าคำถามเป็นการไม่สมควรอย่างไรแล้ว ต้องขอโทษด้วยนะครับ
     
  10. MasterTest

    MasterTest เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +1,031
    ที่วัดศรีสุดาราม (บางขุนนนท์ ฝั่งธน กทม) ก็น่าจะยังมีอยู่นะครับ ผมไปเช่ามาเมื่อไม่กี่ปีนี่เอง ทั้งเนื้อดินเผา เนื้อชิน และแบบเสมา (เนื้อชินเป็นแบบมีเข็มด้วย) ส่วนตัวคิดว่าปัจจุบันนี้ยังไม่น่าจะมีของเสริมนะครับ เพราะจำนวนการสร้างเยอะมากกกกก.... ที่วัดก็ยังมีอยู่ ค่าบูชาก็ไม่ได้แพง แถมคนยังไม่ค่อยจะเช่ากันอีกด้วย ก็ไม่น่ามีเหตุจูงใจให้คนทำเสริม (แค่เนื้อชินอย่างเดียวก็สร้างตั้ง 2 ล้านกว่าแล้ว แถมเป็นสมัยเมื่อ 56 ปีที่แล้วด้วย จำนวนประชากรยังน้อยอยู่) ถ้าจะมีก็น่าจะเป็นของเลียนแบบไปเลยหรือไม่ก็ออกที่วัดอื่นแต่ล้อพิมพ์กันมาครับ ^__^

    ผมว่าถ้าในงานนั้นมีพระกริ่งด้วย แต่ออกสัก 3-4 พันองค์ ตอนนี้เหรียญทุกอย่าง,วัตถุมงคลทุกอย่างคงจะหมดไปเรียบร้อยแล้วครับ (พระกริ่งจะโดนปั่นไปก่อน พอแพงแล้วคนก็จะแห่มาเก็บ+เก็งอย่างอื่นแทน -__-')
     
  11. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .........
    .....ความจริงแล้ว...ถ้าจะเอาพิธ๊ใหญ่..อย่างเดียว..ก็มีสิทธิ..แต่ถามว่า..ถ้าใหญ่แต่..คุณภาพด้อย..มันจะมีความหมายอะไร..มันมีค่าแค่การบันทึกว่า..พิธียิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา....ก็แค่นั้น...
    .........มันต้องขึ้นกับคุณภาพเป็นหลัก...นิมนต์มา..๑๐๘..รูป..เป็นเกรด..D...๕๐ รูป...เกรด C ๔๕ รูป...เกรด B ๑๐ รูป...เกรดA
    ๓ รูป........
    .......เปรียบเทียบกับ...นิมนต์มา ๑๐๘ รูป..เท่ากัน..เป็น..เกรด C ๓๐ รูป..เกรด B ๔๐ รูป..เกรด A ๓๘ รูป.....
    ......เราลองคิดดูง่ายๆ...อันไหนดีกว่ากัน...คุณภาพ..ของพระอาจารย์ปัจจุบัน..และ..ต่อไปในอนาคต..มีแต่ลดลง..เปรียบเทียบไม่ได้เลย..
    ..กับ..คณาจารย์รุ่นก่อน ๒๕ พุทธศตวรรษ...ต้องอาศัยแรงเชียร์..
    สร้างนิยาย..ปั้นเรื่อง..ลงทั้งสื่อสิ่งพิมพ์..แล้วก็เอามาลงตามเว็บบอร์ด
    ..ตามเน็ต...พอดัง..คราวนี้..เวลาเขามีพิธีปลุกเสกก็ได้นิมนต์ไปด้วย..
    ........ผมสรุปให้ว่า..ไม่ต้องคิดเลย...เรื่องคุณภาพจะเทียบเท่า..ถ้าเรื่องใหญ่เท่า..อาจมี.....
    .......................................
    ..........พระ ๒๕ พ.ศ. เล่นยาก..มาตั้งแต่..๓๐ กว่าปีก่อนแล้ว..เริ่มตั้งแต่..พระปรับราคาขึ้นเป็น ๘๐ - ๑๐๐ บาท..ปลอมเพียบ..แถมเมื่อ..พระราคาขยับ..คุณภาพการปลอม..ก็ขยับตาม..ทั้งเนื้อดิน..และ..โลหะ..
    ....แถมมีข่าว..เรื่องทำเกิน..ก้ไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า..เพราะ..ทั้ง ๒ พิมพ์..ทำออกมา..ในคราวนั้น..รวมกัน..ประมาณ ๔ ล้าน องค์...ดังนั้น..
    ............ถ้าที่พุทธสมาคม..ยังมีอยู่..ก็อาจเป็นไปได้..แต่(ย้ำ)..ว่า..
    .....ถ้าขี้เหร่..คือ..บิ่น..ร้าว..แหว่ง..พอมีสิทธิเป็นไปได้..เพราะ..เหลือจากเขาเลือกกันไป..เป็นร้อยรอบ..แล้ว...
    ....แต่ถ้า..มีสภาพเป็น..ปกติ..เป็นไปไม่ได้..เพราะราคาที่ตั้งไว้เดิม..ถูก..ต่อให้ปรับ..ราคาขึ้นมาก็ยัง..ถูก..ห้าสิบกว่าปี..ไม่มีทางเหลือ..แน่นอน..ต่อให้เป็น..หลายล้านก็เหอะ...
    .......ให้ข้อสังเกตดังนี้
    ๑. พระเนื้อดิน(ผง)..ผสมว่านร้อยแปดนั้น..ถ้าไม่ใช่..สีอมชมพู..อย่าเช่าเด็ดขาด..ป้องกันความเสี่ยง..
    ๒. ถ้าพระ..ถูกใส่อยู่ในกรอบอลูมิเนียมชุบทองเดิม..ไม่ได้..หมายความว่า..เป็นของแท้..เพราะเวลา..พวกไปเหมาพระ..ตามบ้าน..จะพบ..เป็นจำนวนมาก..ที่เจ้าของเดิม..เอาพระไปเลี่ยมใหม่..และ..ถอดกรอบเดิม..
    ทิ้งไว้..พวกนี้..จะเหมาไปด้วย..แล้วก็เอาไปใส่..พระปลอมสร้างความเชื่อถือ..โดนมาแล้ว..มากราย
    ...๓. ไม่เคยเห็นของจริง..อย่าริไปเช่าเอง..ถ้าไม่แน่ใจพาคนที่รู้ไปด้วย..
    .......................
    ....และที่..สำคัญ..อย่าลืม...เล่นพระ..ต้องใช้..เหตุ..และ..ผล..
    ความน่าจะเป็น..มาประกอบการตัดสินใจ..
    ..........................
    ....ขอมา..ตอบไป....
    ............................
     
  12. เขมทัต

    เขมทัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2007
    โพสต์:
    623
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ไม่ทราบว่า คุณอากลับเข้ามาเขียนต่อ เกือบพลาดแล้วไหมล่ะ

    มารอติดตามอ่านแล้วครับ
     
  13. bearkery

    bearkery เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,668
    ค่าพลัง:
    +6,383
    ขอบคุณครับคุณลุง สำหรับช่วงขอมา-ตอบไป ^^
    งานนี้ผมบายดีกว่า ...... เพราะไม่เคยเห็นของจริง (มาเทียบแบบตัวต่อตัว)
     
  14. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    ขออนุโมทนากับผู้ที่ถามและผู้ที่ตอบด้วยนะครับ..^_^
     
  15. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    ตามติด ๆ แบบห่วงครับอ้าย
    ห่วงว่าอ้ายจะเมื่อยแล้วหยุดเขียนอีกอะครับ
    เรื่อย ๆ ตามสถานการณ์ครับผม อาจไม่ค่อยได้โพสเพราะมัวแต่อ่านก็หมดเวลาครับอ้า้ย รักษาสุขภาพนำเด้อครับอ้าย ห่วงครับผม อยา่กให้เขียนไปนาน ๆ ครับผม
     
  16. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ......
    ....หวัดดี..เขมทัต..ไม่ได้ข่าวมาซะนาน..ขอบคุณที่ยังไม่ลืม..
    ...หวัดดี..หลานเฉียวฟง...Bearkery..และ..พลศิริน้องรัก..
    ...........................................
    ......ต่อจากตอนที่แล้ว.....
    ...................................
    .........................................................
    ........ความจริง...ตั้งแต่ก่อนสงครามอินโดจีน..นั้น...กลุ่มคนนิยมพระเครื่อง..ก็เริ่มคุ้นกับพระ
    กรุต่างๆแล้ว...โดยเฉพาะพวกข้าราชการ...และลงลึกลงไปก็คือ..ทหาร..และ..ตำรวจ..ที่ชีวิต
    มีโอกาศเสี่ยงสูง...ก็จะเสาะแสวงหา..มาครอบครองกัน......
    ..........อย่างตอนนึงที่..ผมเคยเล่าไป..เมื่อนานมาแล้วในบทความนี้..แต่เพื่อ..ความสมบูรณ์เนื้อ
    หา..ก็จะมาเล่าเคร่าๆอีกที(..รายละเอียด..ต้องเข้าไปหาเอาเองอยู่ตอนไหนไม่ทราบ..ผมลืมแล้ว
    .....)...ก็เมื่อ..พ่อผมเป็นนายทหารรับราชการอยู่ที่..พิษณุโลก..เมื่อต้นปี ๒๔๘๓...ผู้พันของพ่อผม
    ..แกเป็นท่านขุน...ได้พระนางพญา..มาจากไหน..ไม่ทราบ..เรียกว่า..ไม่ทำงานเลยทั้งวัน...เอาพระ
    มาโชว์..ลูกน้องทีละคน..พร้อมทั้งอารมณ์ดีหัวเราะตลอด..(ยิ้มทั้งวัน)...จนพ่อผมแปลกใจ...
    เพราะตอนนั้น..พ่อก็ยังไม่ได้สนใจพระเครื่อง...พ่อแปลกใจว่า..ได้พระมา ๑ องค์..ทำไมต้องดีใจ
    ขนาดนี้..(คือไม่เข้าใจความรู้สึกของคนชอบพระ..นั่นเอง)..
    .......หลังจากสงครามโลกครั้งที่ ๒ ใหม่ๆหนังสือพิมพ์...ทั้งในกรุง..และ..ต่างจังหวัดก็ได้..มี
    โอกาศ..ลงเรื่องประสพการณ์..พระ..หลวงพ่อที่ดัง..ในยุคญี่ปุ่นบุก..กันอีกเยอะ..เพราะประชาชน
    ก็ชอบ..สนุกดี...ตอนนี้..พระเครื่อง..เฟื่องฟูขึ้น..ทั้ง..พระกรุ..พระหลวงพ่อ..เครื่องราง..ตัวหลวง
    พ่อเอง..จากแทบทุกๆที่..คนก็รู้จักมากขึ้น...แต่เรื่องจากในกรุงเป็นศุนย์กลาง..ขาพระ..ทั้งหลาย
    ต่างภูมิภาค..อยากรู้จักหลวงพ่ออื่นๆ..ก็อาศัย..การเดินทางติดต่อตามปกติ..แต่แถมคือ..ได้สืบเสาะ
    ..หาความรู้เรื่องพระ..เรื่องหลวงพ่อต่างจากในกรุงด้วย..กลับไป..ก็เอาข้อมูลไปเผื่อ..พรรคพวกที่
    ไม่ได้มีโอกาศเข้ากรุง...แถมบางทีก็ได้มีโอกาศเช่าพระที่น่าสนใจ..ไปด้วย...ซึ่งหลังสงครามเริ่มมี
    หลักแหล่ง..ในฝั่งพระนครกัน..ก็คือ..ร้านขายกาแฟหน้าศาลอาญาและบริเวณใกล้เคียง..พวกกลุ่ม
    ย่อยๆ..ก็..จะอยู่แถวๆร้านขายข้าวขายกาแฟ..ตรงข้าม..โรงหนังเฉลิมกรุงบ้าง...ร้านออนล็อกหยุ่น
    ..ข้างๆโรงหนังเฉลิมกรุงเป็นต้น...ฝั่งธนฯก็..ร้านขายกาแฟ..ในตลาดวงเวียนใหญ่..และ..แถว..
    ตลาดพลู..เป็นต้น....เมืองนนท์..ก็ท่าน้ำนนท์...ท่าน้ำปากเกร็ด...เป็นต้น....ปากน้ำ..ก็..ร้านขายกาแฟ
    เช่นกัน...พระปลอมก็เริ่มระบาดมากขึ้นด้วย..บรรดาผู้มีความรู้ศึกษามานาน..ในกรุง..โดยเฉพาะ
    ฝั่งพระนคร..และ..ฝั่งธนฯ..ซึ่งไปมาหาสู่กันประจำนั้น..ก็ต้องเคลื่อนไหวเริ่มวางกฎเกณฑ์ในการ
    พิจารณาพระ..ที่ดังๆกัน..ในแต่ละองค์..เพื่อสร้างบรรทัดฐาน..สู้กับพระปลอมกัน.....
    ...........สำหรับ..พวกต่างจังหวัด..เวลาเข้ากรุงมา..ก็มาหามาปรึกษา..update..ข้อมูลในเมืองอยู่แล้ว
    ..ก็เริ่มได้ทิศทาง..กลับ..ไปแนะนำ..พรรคพวกที่ไม่มีโอหาศเข้ากรุงได้ทราบ...แหล่งชุมนุม..ก็
    คล้ายกัน..ก็..คือ..ร้านขายกาแฟ..ในตัวจังหวัด..
    .....เหล่าผู้ทรงความรู้ก็เช่นกัน..ก็ได้ประโยชน์..จากผู้รู้ท้องถิ่น..ที่เวียนกันเข้ามา..โดยที่..พวกนี้คุ้น
    กับ..พระในถิ่นตัวเอง(สมัยนั้น..ก็คือ..พระกรุ)..เขาเริ่มจำแนกแยกแยะพิมพ์กัน..มีรายละเอียด..
    จุดที่สังเกต..ของตัวเอง..ได้มากกว่า..คนนอกพื้นที่...
    ...........ด้วยเหตุดังกล่าว..ผู้ทรงความรู้ในกรุง...จึงเป็นศูนย์กลางแหล่งความรู้..ของทุกภาค..ให้แต่ละ
    ภาค..ได้มาเรียนรู้..ของภาคอื่นๆที่นอกเหนือถิ่นตัวด้วย.....
    ........ตอนนั้น..พระอาจารย์..จากภาคกลาง...ลุ่มท่าจีน..ลุ่มแม่กลอง..ก็เริ่ม..เป็นที่รู้กัน..มากขึ้นด้วย
    ...อันเป็นผลพวง..จาก..สงคราม...และ..วงการพระ..ที่เริ่มมี..ระบบ..ไม่ใช่ตัวใครตัวมัน...
    .....เพียงแต่..คนกลุ่มนี้..มันยังไม่ใหญ่มาก...เหมือนหลังเกิด..สนามพระวัดมหาธาตุ..และใหญ่
    ขึ้นอีก..เมื่อ..หลังปี ๒๕๑๑(สงครามเวียตนาม).....
    ....แล้วรูปแบบ..ก็ดำเนินแบบนี้ไปได้เรื่อยๆ..แม้ในปัจจุบัน...ยิ่งมีสงคราม..วงการพระก็จะฮือฮา..
    ขึ้นเรื่อยๆ....อย่างสงครามเกาหลี...ทหารไทยไปรบ...ก็สร้างชื่อเสียงอีกหลายหลวงพ่อ..คล้ายกับ
    ตอนอินโดจีน...กลายเป็น..ทหารผีภาค ๒...หนังสือพิมพ์..ทั้งในกรุง..ต่างจังหวัด..ก็ประโคมข่าว
    กัน..สนุกสนาน...คนก็หันมาสะสมกันมากขึ้นอีกเพราะ..สื่อหนังสือพิมพ์ช่วย..กระจาย...
    .......................ต่อตอนหน้า.........................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2013
  17. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .....
    ...เออ..มาเขียน..ตอนไหน...ไม่ทันสังเกต..พึ่งเห็นนี่แหละ..
     
  18. magino10

    magino10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +116
    พระวัดลิงขบปลอม

    มีปลอมกันมากแล้วครับ
     
  19. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ....ผมอ่านทีแรกก็งง..ว่าอะไร..ต้องย้อนกลับไปหาต้นตอ...อ๋อ...มันนานมากแล้วนี่เอง..ผมก็จำไม่ได้แล้ว..ขอบคุณครับ..ที่postมา...คุณmagino
     
  20. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..........
    ...ต่อจากตอนที่แล้ว......
    .................................
    .....................................................................
    .....ในสมัยก่อน..หรือ..แม้ในปัจจุบัน...ก็...คล้ายกัน..คือ...
    .....การดัง..จากบนลงล่าง...จะแรง..และ..เร็วกว่า..และ..กระจายออกไปมากกว่า..จากล่างขึ้นบน...
    .....นอกเหนือจาก ๒ องค์ที่กล่าวไปแล้ว...คือ..สมเด็จโต..และ..หลวงพ่อแช่ม..
    .....ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด..ก็มีอีก....
    ...อย่าง..เจ้าคุณเฒ่า..วัดหนัง...กับ..ร.๕.....ออกแนวคล้ายๆกับ..หลวงปู่โต๊ะ..กับ ในหลวง ร.๙
    .....เพียงแต่..ยุคก่อน..ยังมีคนรู้จัก..หลวงพ่อต่างๆไม่มากเท่ายุคนี้....
    .....ดังนั้น...เจ้าคุณเฒ่า(หลวงปู่เอี่ยม)..จึงโดดเด่นมาก...ร. ๕ ท่านจะสนิทมาก..และ..ถูกนิมนต์
    เข้าไปในวัง..บ่อยครั้ง....ชื่อเสียงท่านเดิม..ก็ดังอยู่แล้ว...แต่ก็ไม่ถึงขนาด..หลังจากที่รู้ว่า..ท่าน
    เป็นพระอาจารย์..ของ ร.๕..........
    .........หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า...กับ...กรมหลวงชุมพรฯ...
    .........หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย...กับ..สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุ์วงวรเดช( วังบูรพา )..
    ....เป็นต้น.........
    .........ที่รองๆหน่อย..ในยุคหลังก็...
    ...ครูบาวัง วัดบ้านเด่น กับ จอมพลถนอม กิติขจร....กรณีนี้...หลายคนในยุคหลัง..อายุน้อยกว่า..
    ๕๐ ปี..จะไม่ค่อยทราบ...
    ..........ทั้งหมดอย่างนี้..ไม่ต้องใช้สื่อสิ่งพิมพ์..มาช่วยกระจายความดังครับ...แค่..ปาก..ต่อ..ปาก
    ก็เหลือเฟือแล้ว.....
    .......ส่วนอีกแบบ..ที่สถานะการณ์..สร้างวีรบุรุษ....นอกจากหลวงพ่อแช่ม..แล้ว....
    ...ยังมีแบบที่ว่า..ดัง..เพราะมีเหตุ..และกล่าวถึง..ทางสื่อ....สำหรับ..ยุคก่อน..๒๕ พุทธศตวรรษ..ก็
    ..นอกเหนือ..จากที่เกี่ยวข้องกับ..สงครามแล้ว...ก็มีเรื่องโจร..กับ..ตำรวจ..นี่แหละ...
    ........พล.ต.ต. ประชา บูรณธนิต...ทำให้..นักเลงพระ..ต้องหันมามอง..พระท่ากระดาน...
    ........พล.ต.ต. ขุนพันธุ์รักษราชเดช..ทำให้..คนภาคอื่น..รู้จักสำนักเขาอ้อ...
    .......เสือผาด ทับสายทอง...ทำให้...พระที่ถือว่าค่อนข้างหนุ่ม(ในยุคนั้น)..ชื่อ..หลวงพ่อเงิน
    วัดดอนยายหอม..โด่งดังไปทั่ว........
    ......................เป็นต้น...........................
    ...เมื่อเรื่องที่เกี่ยวกับ..ความขลังแบบนี้....ลงในสื่อสิ่งพิมพ์รายวัน..และ..ได้ลงบ่อยๆ..ไม่ใช่..ทีเดียว
    ..หาย...ก็ยิ่งตอกย้ำ..ให้มันกระจายไปไกล...แม้เกือบทั้งหมด..จะลงในหนังพิมพ์ที่ออกใน..กรุง..
    แต่..ต่างจังหวัด...ก็รับไปขายด้วย...อาจารย์หลายท่าน..หรือ..พระกรุ..ก็จึงได้...เรียกว่า..ดังระดับ
    อินเตอร์ได้............
    .........เมื่อหลังยุคสงครามโลกครั้งที่ ๒ แล้ว...การสื่อสารด้านไปรษณีย์..ก็ดีขึ้นมาก..ถึงแม้จะนาน
    หน่อย..แต่ก็ยังยังดี...ผู้คนก็ได้อาศัย..คุยทางไกล..กับ..เพื่อนฝูง..หรือ..ยิติสนิท..มิตรสหายที่คิดถึง
    ..และอยู่ต่างที่กันได้..(..โทรศัพท์นั้น..ไม่ต้องพูดถึง..มีน้อยมาก..มีแต่ส่วนราชการเป็นหลัก)..
    ....คนคอ(ชอบพระ)เดียวกัน..ที่สนิทกัน..ในแต่ละจังหวัด..ที่นานๆถึงจะได้มาเจอตัวกันเป็นๆ..
    ...เขาก็..อาศัยสื่อนี้แหละ..เล่าเรื่องความเป็นไป..ความเคลื่อนไหว..กรุไหนแตก..พระรูปร่างเป้น
    ยังไง..บางคนก็วาดรูปเอาเองประกอบ...หลวงพ่อไหนดังมั่ง...ของแต่ละถิ่น..ของตัวเอง..แลก
    เปลี่ยนกัน.....ทำให้คนเหล่านี้...ไม่ล้าหลัง...แถมแต่ละคน..เมื่อเข้ากรุง..ไปพบสมาคม..กับ..สังคม
    พระ..ในกรุง..ก็ยังupdateเขียนไปเล่าให้เพื่อนฟังได้อีก...คนนี้เข้ากรุง..เมื่อมกรา..เพื่อนที่เขียนจด
    หมายคุยกัน..เข้าเมื่อ..มีนา...ต่างฝ่าย..ก็แลกเปลี่ยนข้อมูลที่..ได้รับมาจากในกรุง..ให้กันและกัน..
    ....คนเหล่านี้..จึงไม่เชย...พอเจอกันตัวเป็นๆ..ก็คุยกันรู้เรื่อง..แถมคุยกับ..นักเลงพระในกรุงได้..
    อย่างสบาย.....
    ..................................ต่อตอนหน้า...................
     

แชร์หน้านี้

Loading...