ทำไมผีต้องกลัวพระ พระแบบไหนที่ผีกลัว พระแบบไหนที่ไม่กลัวผี

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย bazcifer, 11 สิงหาคม 2013.

  1. bazcifer

    bazcifer Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +30
    ผมไม่เคยเจอผีจะๆ เลยยืนยันไม่ได้ว่ามีจริงหรือไม่
    แตแอบสงสัยมานานแล้วว่า สิ่งที่เรารู้มาตั้งแต่เด็กๆ ว่า "ผีกลัวพระ"

    เลยอยากรบกวนถาม ผู้รู้ว่าเรื่องจริงๆ มันมีสาเหตุที่ ผีกลัวพระมาจากอะไร ^^
    เพื่อจะได้มีแนวทางให้มนุษย์ปุถุชน คลายความกลัวผีได้บ้าง
     
  2. phusak

    phusak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +105
    น่าเสียดายที่คนไทยเรามักจะได้รับข้อมูลผิดๆเกี่ยวกับเรื่อง ผี อาจจะได้รับข้อมูลจากนิทาน นิยาย หรือไม่ก็ภาพยนต์ ที่เขาสร้างบุคลิคของผีให้มีลักษณะเป็นอย่างที่เราเข้าใจกัน เพื่อการค้าและความบันเทิง แต่สำหรับคนไทยที่ศึกษาข้อมูลทางศาสนาพุทธมาอย่างถูกต้อง เขาจะเข้าใจคำว่า ผี ต่างจากชาวบ้านทั่วๆไป ไม่มีหรอกครับที่ว่าผีกลัวพระ มีแต่พระ(ภิกษุ)ที่กลัวผี เพราะได้ข้อมูลมาแบบผิดๆ หรือที่เรียกว่ารู้ไม่จริง ก็เลยกลัวตามๆกันไป สิ่งที่เรานิยมเรียกกันว่าผี คือกลุ่มพลังงานข้อมูลชนิดหนึ่ง ทางพุทธเราเรียกว่าเป็นสัตว์ที่เกิดในเปตภูมิ โดยการเกิดแบบโอปาติกะกำเนิด แล้วคนเราก็เรียกปรากฎการที่ผีสามารถติดต่อกับภูมิมนุษย์ว่า ผีหลอก ทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้แสดงอาการแหกอก แลบลิ้นปลิ้นตาแบบที่เห็นในภาพยนต์ หากแต่เป็นความพยายามสื่อสารข้ามภพภูมิเพื่อส่งข่าว หรือขอความช่วยเหลือบางอย่าง แต่น่าเสียดายที่มนุษย์เหมาเอาว่าเป็นการถูกผีหลอก พากันกลัวไปหมด เพราะความไม่รู้จริงของมนุษย์นั่นแหละครับ
     
  3. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    ถ้าติงเป็นผี ติงคงไม่กลัวพระค่ะ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลัวเลย
     
  4. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    สมัยที่บวชอยู่ อาจารย์เคยเล่าให้ฟังว่า เคยมีโยมโดนผีเข้าญาติเขาก็พามาที่วัด ให้พระช่วย พระก็ท่องมนต์เพื่อจะไล่ผี บทไหนๆ ผีก็ท่องแซงไปทุกบท สุดท้ายจึงต้องเข้าสมาธิถึงช่วยเขาได้
     
  5. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    โดยส่วนมากแล้ว วิญญานหรือผีที่ปรากฏให้เห็นหรือแสดงอาการให้เรารับรู้ได้ด้ เช่น ขนลุก รวมหัว อาเจียน ก็มาจากเขาต้องการขิรับส่วนบุญจากเรา แต่เราไม่รู้เจตนาเขา ทางทีดีโอนบุญให่เขาทันทีแบ้วบอกให้เขารับบุญเราและหลีกทางให้เรา แค่นี้เขาก็ไปแล้ว ไม่เห็นจะยากตรงไหน โหวตรับ
    โมทนาสาธุ
    ขอให้มีเมตตาและเจริญในธรรม
    ข้าพเจ้าเกิดมาต้องตาย ชีวิตไม่เที่ยง ความตายเป็นของเทียง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
     
  6. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    มันก็ไม่ใช่จะคุยกันดีๆได้ ทุกรายไปหรอกครับ บางรายก็มาแนว ฮาร์ดคอลล์ก็มี เคยเห็นมากับตาเลย เข้าผู้หญิงแก่ร้องห่มร้องไห้จะเดินไปหาลูก โห บ้านลูกอยู่อีกตำบลโน่น ชาวบ้านเขาก็ช่วยกันจับเอาไว้ แต่รายนี้น้ำมนต์ขันเดียวจบเลย
     
  7. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    คุณครูที่โรงเรียนเสียชีวิต
    เมื่อวันเสาร์ ขนหัวลุกอยู่ค่อนวันค่ะ
    เป็นเพราะเหตุนี้หรือคะ
     
  8. bazcifer

    bazcifer Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +30
    เท่าที่เพื่อนๆสมาชิกให้ความเห็นก็คือ ชัดว่าผีไม่กลัวพระครับ

    แต่ผมว่าการเจอผีถือเป็นภัยธรรมชาติของมนุษย์ธรรมดาเดินดิน
    เพราะฉะนั้นหากเราอยากเดินไปนั่งเล่นในป่าคนเดียว
    แบบไม่ต้องมาหวั่นเรื่องนี้ ก็คงจะดี

    มีใครเคยเจอผีแล้วไม่กลัวผี พอจะบอกได้อีกมั้ยครับว่าทำไมไม่กลัว
    หรือทำยังไงถึงปลอดภัยจากผีชัวๆ
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ขอตั้งสมมุติฐานว่า ผีในที่นี้ ระดับสัมพะเวสี.หรือวิญญานที่ยังไม่ถึงวาระที่จะต้อง
    ไปตามบุญตามกรรมคือมีเหตุให้วิญญานก่อนที่ร่างกายจริงๆจะเสื่อมสลายไปตาม

    หลักของธรรมชาติ.. ก่อนนะครับเพื่อจำกัดขอบเขตการสนทนาจะได้เอาทีละประเด็น..
    ถ้าเป็นระดับนี้ ไม่กลัวพระสงฆ์หรือคนที่พอมีบุญที่จะอุทิศส่วนกุศลได้ครับ..
    มีแต่จะไปหาครับ.แต่ก็ต้องลุ้นคล้ายๆเราซื้อล๊อตเตอร์รี่หละครับ.
    .ว่าบุคคล(รวมทั้งพระสงฆ์ทังฆารวาส)จะเข้าใจวัตถุประสงค์ของเค้าไหม.

    จะคิดว่าเค้ามาหลอก หรือ คิดว่าเค้ามาขอให้ทำบุญให้..
    .แต่การสื่อสารเพื่อให้บุคคลนั้นทราบไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ
    จะไม่เหมือนกับระดับเทวดาขึ้นไปที่สามารถปรากฏให้เราเห็นด้วยตาเปล่าได้

    และสามารถพูดให้เราได้ยินได้โดยที่เราอยู่ในสภาวะปกติทั่วๆไป..
    และการสื่อสารของเค้าจะแปรผันตามกำลังจิตของดวงวิญญานนั้นๆด้วย.
    .ถ้าตายมานานจนเริ่มพอมีกำลังจิตถึงจะปรากฏให้เห็นด้วยตาเปล่าแต่ก็ต้อง

    อาศัยช่วงที่จิตของบุคคลนั้นมี
    ความเป็นทิพย์หรือความบริสุทธิ์ร่วมด้วย
    จะทั้งแบบตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม
    (ช่วงคล้ายๆครึ่งหลับครึ่งตื่น)
    และจะปรากฏในชุดสุดท้ายที่เค้าส่วมใส่
    ถ้าในระดับที่พูดจะมาเป็นเสียงทางหูด้านซ้ายแต่เสียงก็ขาดๆเกินๆเหมือนคนไม่มีเเรง

    หรือเสียงเรียกแบบแยกข้างได้...หรือเสียงมาแบบรวมๆอย่างมากก็ได้แค่ชื่อเล่นหรือ
    ชื่อที่รู้เฉพาะว่าแทนตัวเรา..ไม่ก็กลิ่นเหม็นแตะจมูก..ขนลุกทางด้านแขนด้านซ้าย
    ด้านเดียว..ไปเข้าฝันส่วนมากก็จะแสดงให้เห็นในสภาพสุดท้ายที่เค้าเสียชีวิต



    ประเด็นต่อมาทำอย่างไรจะไม่กลัว..ตอนนี้ถ้ายังไม่ชัวว่าสิ่งที่เห็นแว๊ปแวมๆ.จะเป็น
    อุปทานหรือเปล่าก็ให้หาที่ยึดเหนี่ยวทางใจไว้ ไม่ว่าจะเป็นพระเครื่อง หรือการสวด
    คาถาสัพเพ.เพื่อแผ่เมตตาไว้ก่อน.และเราสามารถพูดในใจก็ได้ว่าเรากลัวยังไม่พร้อม

    เจอทุกสถานการณ์.รับรองเค้าจะไม่มาปรากฏให้เห็นแน่นนอนพวกกลุ่มนี้พอตายไปแล้ว
    จะพูดง่ายและรู้เรื่องกว่าคนเยอะบอกอย่างไรก็อย่างนั้น....
    แต่เราจะเสียเรื่องทานบารมีตรงจุดนี้ไป.ซึ่งสำหรับนักปฏิบัติ
    เป็นเรื่องที่ถือว่าน่าเสียดายมาก.เพราะทานบารมีอย่างนี้จะเป็น
    ฐานสำคัญของการเกิดปัญญาบารมีในการที่จะเข้าใจสภาวะธรรม
    ที่เราอ่านหรือไม่ก็สภาวะธรรมจากทางภพภูมิที่มาสอนเราในสมาธิ
    ตลอดความเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ในสัมผัสต่างๆไม่ว่าทางจิตหรือทางกาย
    เนื่องจากเหตุเราไปตัดขาดการสร้างพันธ์มิตรในทางภพภูมิ.
    ที่นอกจากจะช่วยเราทางธรรมได้.ยังช่วงส่งเสริมเรื่องฤิทธิ์ และป้องกันภัย
    ต่างๆในอนาคตที่จะเกิดกับเราด้วย


    ลำดับต่อมาก็คือการฝึกสร้างกำลังจิตให้เข็มแข็งด้วยการฝึกสมาธิและต้อง
    ฝืนความกลัวให้ผ่านไปให้ได้อย่างน้อย ครั้งๆ
    หากได้ยินเสียงก๊อกๆแก๊ก ทำให้ตกใจ ต่อไปจะชินและผ่านไปได้เอง.
    .
    หรือฝึกแยกรูปแยกนามให้ได้..แล้วดึงให้จิตอยู่ในสภาวะที่เป็นกลาง.เพราะการแยกรูป
    แยกนามได้.จะไม่มีความคิดที่เกิดจากสัญญาเดิมในอดีต

    (ได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็นได้อ่านหรือเล่าสืบต่อกันมาขึ้นมาให้นึกได้)

    หรือ.มีใจเมตตาเป็นทุน.คิดว่าวันหนึ่งตัวเราเองก็ต้องตายเป็นผีได้เหมือนกัน.แล้วทำบุญ
    อุทิศส่วนกุศลบ่อยๆ.จนจิตเกิดความเคยชิน.จะได้ทานบารมีที่ต่อไปในอนาคตจะเป็นตัว
    เสริมปัญญาบารมีของเราให้เข้าใจในทางธรรมได้ง่ายขึ้น...

    หรือ ฝึกสร้างกำลังจิตให้ถึงขั้นใช้งานได้.คือพอให้จิตมีฤิทธิ์.จิตจะเกิดตบะ หรือที่เราใช้
    คำว่ารู้จักการวางอารมย์ให้นิ่ง.จะทำให้เคยชินและทนต่อสัมผัสต่างได้หมด ที่จะเกิดจะเกิดจากอายตนะทั้ง ตัวใดก็ตาม...


    หรือ คิดว่าเรามีเมตตาเป็นทุน เป็นคนมีศีล ไม่เคยคิดร้ายกับใคร.ถ้าเจอผีเราก็จะไม่กลัว
    เพราะเมื่อเราไม่ได้คิดทำร้ายใคร ผีก็จะไม่ทำร้ายเราทำให้เรานึกย้อนเรื่องอุทิศส่วนกุศลได้

    หรือต่อไปพัฒนาจนถึงขั้นเดินปัญญาจะพอมีปัญญาที่จะทราบได้ว่า.
    .เรื่องผีเป็นเรื่องธรรมดาเป็นธรรมดาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว.
    ตั้งแต่ก่อนเราจะเกิด..เราก็จะมองเห็นเป็นเรื่องปกติธรรมดาได้

    และควรที่จะรู้ว่าจะต้องทำอะไร...หากเรามีปัญญาบารมีที่เพียงพอแต่ปัญญา
    บารมีตัวที่จะบอกให้เราทราบว่าเราจะทำอะไร.จะต้องมาควบคู่กับทานบารมีอย่าง
    ที่จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ครับ...

    ปล. ที่พูดมาตั้งสมมุติฐานระดับสัมพะเวสีนะครับ.
    ส่วนชอบวิธีไหนถนัดแบบไหนสุดแล้วแต่พิจารณาครับ...
     
  10. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    ตอบตามความรู้อันน้้อยนิดนะคะ

    - ทำไมผีต้องกลัวพระ...พระเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า
    - พระแบบไหนที่ผีกลัวและไม่กลัวผี...พระที่ปฎิบัติถูกต้องตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
    - พระแบบไหนที่ผีไม่กลัว(เพิ่มคำถามให้พิเศษ)...พระที่กำลังเป็นข่าวดังๆ อยู่ตอนนี้ เอ..รู้สึกว่าตอนนี้สึกแล้วหรือยังนะ ไม่แน่ใจ
     
  11. SP6580

    SP6580 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +1,550
    คน ผีก็กลัวน่ะครับคนที่ศีลค่อนข้างครบ สวดมนต์บ่อยๆ ผีจะชอบและเกรงใจ พร้อมที่จะรักษา
     
  12. bazcifer

    bazcifer Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +30
    ผู้ที่ต้องการค้นคว้าเพิ่มเติม
    เจอ link นี้มาครับ คิดว่าเป็นประโยช์นในการรับมือความกลัวที่เกิดขึ้นได้นะครับ

    เมื่อเกิดความกลัว(ผี) ควรรับมืออย่างไร?

    ตั้งใจจะพยายามเลิกกลัว(ไม่ได้กลัวมากมาย แต่บางทีมันก็เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตจริงๆสินะ)
     
  13. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    ผีคงกลัวพระอริยะ และ พลังจิต

    ในสมัยพุทธกาล เมืองไพศาลี เกิดทุพภิกขภัยใหญ่ และมีโรคระบาด ผู้คนล้มตายเป็นอันมาก พวกอมนุษย์พากันเข้าเมืองเกิดอหิวาตกโรคตามมาพระพุทธเจ้าเสด็จถึงประตูเมืองไพศาลี ในเวลาเย็นได้ตรัสให้พระอานนท์เรียนรัตนสูตร เพื่อเดินจาริกทำพระปริตไปในระหว่างกำแพงสามชั้น (ตรีบูร) ในเมืองไพศาลีกับกุมารลิจฉวี เมื่อพระอานนท์เรียนรัตนสูตรจากพระพุทธเจ้าแล้ว ก็เอาบาตรของพระพุทธเจ้าใส่น้ำถือไปยืนที่ประตูเมือง พลางรำลึกถึงพระพุทธคุณ แล้วเข้าไปในพระนคร เดินทำพระปริตไปในระหว่างกำแพงเมืองสามชั้น ทำให้พวกอมนุษย์ที่ยังหลงเหลืออยู่บ้าง พากันหนีออกจากเมือง
    คาถา (ฉันท์) ต่ออีกสามคาถา

    คำแปล รัตนสูตร ย่อ..

    1. ขอให้ภูติทั้งหลาย ทั้งที่อยู่บนพื้นดินและในอากาศที่มาชุมนุมกันอยู่ในที่นี้ จงเป็นผู้มีน้ำใจดี และขอเชิญฟังคำที่ตถาคตกล่าวต่อไปนี้ โดยเคารพเถิด

    2. เพราะฉะนั้น ขอภูติทั้งหลายทั้งปวงจงฟัง ขอให้ท่านทั้งหลายจงสร้างความเป็นมิตร กับบรรดามนุษย์ทั้งหลาย ขอท่านทั้งหลายจงคุ้มครองรักษาพวกมนุษย์ ที่นำเครื่องพลีกรรมมาบวงสรวงพวกท่านทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน เถิด อย่าได้ประมาทเลย

    ที่มา..เกร็ดความรู้ "รัตนสูตร"จากสารานุกรมไทย
     
  14. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ไม่ชำนาญเรื่องผีเอาเสียเลย รู้เเค่ว่าหลังจากหมดลมหายใจไปเเล้ว
    ตัวเองก็ต้องไปเป็นผีกับเขาบ้างเหมือนกัน เเต่จะไม่หลอกใคร?!?
    ให้เป็นบาปเป็นกรรม!!!
     
  15. uit

    uit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +351
    ผีหรือวิญญาณกลัว

    พลังงานที่สูงกว่าผี เช่น พลังงาน พุทธคุณ เทพ พรหม เทวดา กายสิทธิ์ เจ้าพ่อ เจ้าแม่ พญามาร พลังงานสายปราบที่ประจุอยู่ในวัตถุมงคล ทุกรูปแบบ ฯลฯ ว่าง่ายๆ อย่างท่านด้านบนว่า พลังจิตใครสูงกว่าย่อมเป็นที่เกรงขาม กว่าผู้มีพลังจิตน้อยกว่า โลกวิญญาณมีแต่พลังงานของจิตที่มีอยู่ จึงมิแปลกที่บุคคลควรพึงฝึกจิตให้ดีก่อนละสังขาร เพื่อประโยชน์ในภพภูมิลำดับต่อไป
     
  16. TIPOLEE

    TIPOLEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +197
    แต่ก่อนก็มีการสวดมนต์ภาวนาแต่ไม่เคยนั่งสมาธิ ไม่เคยแม้จะมีสัมผัสที่6เกี่ยวกับภูติผีปีศาจ แต่พอหันมาสวดสนต์ภาวนาและนั่งสมาธิอย่างจริงจัง ปรากฏว่าสามารถสัมผัสกับ
    วิญญานได้ มีผีทั้งที่เป็นเจ้ากรรมนายเวร ผีเร่ร่อน หรือตามสถานที่ต่างๆที่เราไปพักก็จะมาปรากฏ จะไม่เห็นด้วยตาเนื้อ จะมาแตะเนื้อตัวของเรา เคยเจอเจ้ากรรมนายเวร มาบีบคอก็มี มาจับหน้าเราและยังบอกด้วยว่าหน้าเปลี่ยนไปนะแบบนี้ก็มี และเคยไปพักบ้านพี่ชายที่พิษณุโลก กำลังจะเคลิ้มหลับจะได้ยินเสียงรบกวนทำให้ไม่สามารถหลับลงได้ ต้องลุกจากที่นอน ออกไปนอนบนโซฟาแต่มีตามไปดึงแขนดิฉันให้ลุกขึ้นมา เราแทบจะเสียสติ เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะช่วงนี้แค่เริ่มๆนั่งสมาธิเองยังไม่มีที่ปรึกษา และจะรู้สัมผัสได้กับเรื่องผีๆและเรื่องเร้นลับอื่นๆ ไม่รู้จะไปเล่าให้ใครฟังเดี๋ยวเขาจะหาว่าบ้า เลยมีเข้าศึกษาที่เวปพลังจิต จึงได้ความรู้เพิ่มเติม และได้มีที่ปรึกษาอีกคนคือพี่ผู้ชายอีกแผนกในที่ทำงานแกนั่งสมาธิมาเป็นสิบปี มีอะไรเกิดขึ้นก็จะปรึกษาพี่แกตลอดแกก็จะให้คำแนะนำต่างๆ แต่เรื่องผีนี่เยอะเหลือเกิน เพราะพี่เขาบอกว่าถ้าเรามีบุญกุศลพอที่จะอุทิศให้เขาได้เขาจะมองเห็นความสว่างของเรา และก็จะมาขอ ตอนแรกไม่รู้จะทำยังไง แต่เจอบ่อยๆเข้าชักชำนาญ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ทำเต็มที่เท่าไหร่ค่ะ ขอแนะนำท่านที่จะนั่งสมาธิหรือปฏิบัติกรรมฐานถ้าจะให้ดีก็ควรจะมีที่ปรึกษา เพราะดิฉันเองไปรับกรรมฐานมา และนำมาปฏิบัติที่บ้าน ทำให้ห่างไกลครูบาอาจารย์ที่จะให้คำปรึกษา และพอเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร
     

แชร์หน้านี้

Loading...