เรื่องเด่น มนุษย์ต่างดาวติดต่อเราหรือยัง-ควรบอกว่า เมื่อไหร่จะไป

แหย่ๆแล้วไม่สะดุ้งเลย คุณอิสรีลคนใหม่นี่อดทนดีจัง

ฟังนะ --ความรู้ใหม่
คำว่า เจ้ากรรรมนายเวร จริงๆแล้ว มี2คำรวมกันอยู่
คือ เจ้ากรรม เป็นผู้ที่โดนกรรม-การกระทำ---ที่ไม่หนักจากเรา สามารถยอมให้อภัยกันได้
นายเวร คือผู้ที่โดนการกระทำหนักๆจากเรา เช่นทรมานจนตาย พวกนี้จะไม่ยอมอโหสิกรรมง่ายๆ
---ผมคิดเองหรือ--- ก็ไม่ใช่ครับ ในโลกนี้มีใครจะสามารถรู้เรื่องแบบนี้ได้ เทพที่เป็นยักษ์ปกครองอยู่ขุมนรก ท่านมาเล่าให้ฟังครับ----ถ้าไม่มีผม ท่านผู้อ่านจะรู้ไหมเนี่ย ทวงบุญคุณซะเลย[/b]

 

การเชิญเทพมาประทับทรง ต้องตัวสั่นๆก่อนไหม
ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจว่ามีหลายแบบ 1. เชิญแบบเป็นทางการ ต้องมีร่างทรง มีพิธี ร่างทรงขององค์อื่น เทพที่มาใกหม่ต้องขออนุญาติ เจ้าของก่อน
2. ไม่เป็นทางการ แบบเรื่องด่วน หรือไม่มากพิธี อย่างพวกกุมาร ขยันวิ่งเข้าออกร่าง เข้าก็นาน จนร่างกายทรุดโทรม หัวใจทำงานหนัก
----การทรง ต่างกับผีเข้า คือ วิญญาณเทพจะนั่งบนไหล่ร่าง ส่วนผีเข้า จะเข้ามาแทรกวิญญาณเราทั้งตัว--- อาจตอบได้ไม่ดีนักอ่านะ เพราะตั้งแต่เกิดมา จขกท. ก็ไม่เคยตายจริงๆ หรือตายเล่นๆก็่ไม่เคย แถวบ้านผมก็ไม่นิยม จะตายทีก็แบบแก่ตายงี้ พวกตายแล้วฟื้นก็หายาก--(การตัวสั่น อาจเป็นเพราะจิตบางส่วน หรือร่างกายไม่ยอมรับ--ต่อต้านกัน)-- ส่วนใหญ่เวลาฟิ้นขึ้นมาก็ห่วงว่า3จีมีหรือยัง ไม่ได้ห่วงทางศาสตร์ลึกลับ โปรดจงเข้าใจ

 

เอาง่ายๆ เรื่องบายศรี มัใครเข้าใจไหมว่า แปลว่าอะไรหมายถึงอะไร
บายศรี เป็นคำไทยปนเขมร
บายศรีมินิ บายศรีปากชามก็มี
ในวงที่ทำบายศรี ต้องไม่มีผู้หญิงที่มีประจำเดือน เทพไม่ชอบ และถ้าเริ่มทำเมื่อไหร่ ต้องเสร็จในวันเดียวกันนั้นด้วย--ถ้าไม่เสณ็จ จะทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ถ้าคิดว่าจะไม่สำเร็จ รอคนมาพร้อมก่อน--ค่อยเริ่มทำเอา
----และประเภทตั้งวงเหล้าไป ทำบายศรีไปด้วยห้ามเด็ดขาด แม้การร่วมประเวณีก็มีก็ไม่ได้ คือต้องจับขังไว้ในห้องนั้น ผู้ชายล้วนยิ่งดีเลย
--เพราะอะไร ท่านบอกว่า เทพจะมาอยู่ตามทุกชั้น--ทุกกรวยของใบตองบายศรี อีกประการหนึ่งเหมือน การบูชา การยอมรับ ช่วยเหลือกันระหว่างเทพกับมนุษย ์ เทพก็ไม่ต้องลำบากมาเกิดใหม่ เพียงแต่ขอยืมร่าง จะได้สร้างกุศลร่วมกัน
----คิดว่าชัดแล้วนะครับ งงตรงไหนก็บอก

ไปซื้อกับข้าว น้ำมันรถไหลออกมา ข่างบอกซ่อมไม่ได้ พราะเย็นแล้ว ร้านอะไหล่ปิด เซ็งเลย
---Priority พริออริตี้--- การลำดับก่อนหลัง ก็สำคัญครับ ในชีวืตคนเรา อย่างติดจานดาวเทียมแล้วดูไม่ได้ ผมยังให้ความสำคัญน้อยกว่าการเขียนเรื่องธรรมมะครับ
--คิดจะหาทีวีอย่างแบน บาง มาใช้ กลัวติดครับ--- สนใจแต่หนัง ลืมการเผยแพร่ธรรมมะ จะผิดทางอุดมการณ์ที่ตั้งไว้ เรียกว่าเพลิดเพลินเก็นดอกไม้ แล้วลืมปลายทางที่จะไป ----โลกไม่สรรเสริญครับ

----ดูทีวี ช่ิองนึง รายการดัง---โฆษก และโฆษกี พร่ำรำพัน แต่ว่า คนใช้สินค้าหลุยส์-ติ๊งต๊ิอง เป็นคนดี ประเสริษฐสุดในสามโลก แต่คนไืทยอีก75ล้านคนต่ำต้อยติดดินกินหญ้า(เป็งหมาหรือไง) ผมแค้นมากครับ ทำไมคนเราถึงสนใจแต่เรื่องหยาบๆ กระเป๋าหลุยส์ปลอม มีขายทั่วไป มีตัง 70บาทก็หามาใช้ได้ มันสำคัญกว่าความเป็นคนตรงไหน คิดอย่างนี้ เอาแต่ขนเงินไปให้ฝรั่งแบบนี้ ชาติล่มจมแน่ครับผม(ภรรยาบอกดูๆไปหมั่นใส้ ขอเปลี่ยนช่ิองหนีก่อนทุบทีวีทิ้ง)
---รถก็แค่เศษเหล็กที่มันวิ่งได้ จะเบ๊นซ์หรือโตโย ก็ใช้งานได้เหมือนกัน คนเราคิดแบ่งแยกกันไปเอง
----นี่แค่ปลายแถวของอุปาทาน แต่เรายังตัดกันไม่ได้ เป็นโรคยกย่องคนรวยโดยไม่คำนึงถึงที่มา
เป็นเพราะการศึกษาของเราบังคับให้เชื่อ ให้กลัวผู้ใหญ่ไง --หาที่จะสอนให้คิดเองมีน้อยมาก สังคมก็เลย กลัวคนมีอิทธิพล ขอให้ยิ่งใหญ่ และมีเงิน ทำอะำไรก๋ได้ ใครขัดใจ ออกมาต่ิอต้าน ต้องตายอย่างเดียวครับ
--คงไม่ใช่การเมืองน่ะ อย่าไปคืิด ทุกคนต้องรับกรรมที่ตั้งใจก่อไว้ การฆ่าคนโดยสำคัญตัวผิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ บาปที่สุด ---เพราะมนุษย์คือสัตว์ที่มีธาตุพุทธะมากที่สุด คุณฆ่าเค้าตอนนี้ได้ ----แต่ถ้าไม่ฆ่า อีก 2-3ชาติ เขาจะบรรลุอรหันต์ก็ได้ --แต่กลับให้เค้าต้องเกิดวงจรการจองเวรที่ไม่มีสิ้นสุด--เอ๊ะ....เขียนเรื่องเครียดไปหรือเปล่า--- อย่าไปคิดมากครับ สะกิดกันเฉยๆ นี่คือความล้มเหลวของการศึกษา หรือการที่เราจะหาศีลธรรม---- คุณธรรมในวงการการเมืองไม่ได้ไง เอาแค่ศีล 5 หรือว่าไม่โกหก ทำกันได้ไหมล่ะ นักการเมืองที่ไม่โกหกปลิ้นปล้อน----มีไหมผู้ใหญ่ที่ไม่กะล่ิอน มีแต่หมู่คนที่รณรงค์ให้เป็นไปตามความคิดของตน---ทำไมไม่รณรงค์ให้บริหารบ้านเมืองตามหลักธรรมมะ--อ้างโน่นอ้างนี่ บางคนบอกว่า เมืองไทยมีโครงสร้าง แต่เป็นโครงสร้างหลวม หรือคลอนแคลน
--ความคลอนแคลน มีดีคือการสามารถปรับเปลี่ยนได้ง่าย อย่าง ยามที่การเมืองตัน จะให้ทหารขึ้นปกครอง พวกเขาสามารถทำได้นะ เมืองไทยสมัยโบราณก็เคยมีมา
-----พวกเขามีหน่วยที่ศึกษาด้านการปกครอง และมีความพร้อมที่จะเข้ามาแทนการปกครองทุกระดับ แม้แต่ระับบการทำสงครามในเน็ต--- พวกสงครามไซเบ้อร์์ พวกเขาก็รู้นะ อย่าคิดว่าทหารมีแต่ขี้เมา- เมาๆก็ยังสามารถเขียนโปรแกรมได้เยอะแยะ แม้แต่ถ้าบิล เกตต์ ไม่ยอมขายไปรแกรมไมโครซอฟท์วินโดวส์--- กองทัพไทยก็มีระบบปฏิบัติการอื่นๆ อย่างลินุกซ์ของไทย สามารถใช้งานแทนกันได้ทันที

 

มหาเศรษฐีจะสร้างจูราสสิคปาร์คของจริง
จากรายงานของ Sunshine Coast Daily อ้างว่ามหาเศรษฐีชาวออสเตรเลียที่ชื่อว่า Clive Palmer คนเดียวกับผู้ที่อยากจะสร้างเรือไททานิกขึ้นมาอีกครั้ง กลับมาคราวนี้มีข่าวลืออีกครั้งว่าเค้ากำลังหาวิธีโคลนนิ่งไดโนเสาร์จาก DNA เพื่อที่จะสร้างพื้นที่แบบเดียวกับจูราสสิคปาร์คใน Coolum รีสอร์ตแห่งใหม่ของเค้าในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย โดย Palmer กำลังปรึกษาเรื่องนี้ในเชิงลึกกับทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการโคลนนิ่งแกะดอลลี่เพื่อทำให้ความคิดของเขาเป็นจริงขึ้นมา

นอกจากนี้ในรีสอร์ตแห่งนี้จะมีจูราสสิคปาร์คแล้ว ยังจะมีชิงช้าสวรรค์ขนาดความสูง 20 ชั้นแบบเดียวกับ London Eye ทาง Palmer วางแผนที่จะดึงลูกค้าจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางเป็นเป้าหมายหลัก และอาจจะรับสมัครพนักงานที่นั่นมาด้วย

 

รวมคลิปขำ
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=_J7UdXQP8kw]รวมคลิปแกล้งคน ตอนที่ 1 - YouTube[/ame]

 

แม้จะได้เทียวเที่ยวไปถึงไหนๆ แต่เราก้อต้องกลับมาที่นี่อยู่ดีแหละค่ะ
คุณเจษก็พูดชมเกินไป เราไม่ได้มีความรู้อะไรมากมายนักหรอก
สิ่งที่เรารู้เนี่ยะมันน้อยมากๆค่ะ แต่สิ่งที่รู้สึกมันมากกว่าหลายเท่านัก
ถ้าเราเอาสิ่งที่เรารู้เป็นตัวตั้ง โลกของเราคงจะแคบกว่ากะลาเสียอีก
เราก็แค่ปล่อยให้ธรรมชาติดั้งเดิมปรากฏตัวออกมา แล้วก็เอาสิ่งที่เรา
เรียกกันว่า "ฉันรู้" พับเก็บไว้ก่อน "ฉันรู้" มันเล็กแค่แก้วน้ำ มันเก็บเอา
น้ำตกทั้งสายไว้ไม่ได้ กระหายน้ำเมื่อไรก็เอาแก้วนั้นตวงเอาจากน้ำตก
อืม...ตอนที่พิมพ์น่ะ มันรู้สึกว่าอยากจะบอกคุณอย่างนี้แหละ

เมื่อวันเสาร์อยู่ดีๆก็รู้สึกทุรนทุรายอยู่ไม่ติดบ้าน แบบว่าเหมือนไม่ให้อยู่
เลยตัดสินใจไปเดินเล่นที่ตลาดนัดจตุจักร ตั้งใจว่าจะไปหาถุงใส่ไพ่
เพราะถุงเดิมที่มากับชุดไพ่ไม่ถูกใจเราเอาซะเลย เดินทั่วตลาดขาลากเลย
ในที่สุดก็ได้มาเป็นถุงผ้าโปร่งสีเงินๆอย่างที่ชอบ(และแน่นอนว่าไพ่
ต้องเลือกเอาไว้แล้วหละไม่ใช่เราเลือกหรอก) พอเปลี่ยนถุงไพ่เสร็จก็ยัง
ไม่ได้เก็บลงกล่อง เอาไว้ข้างๆหัวนอนนั่นแหละ

คืนนั้นฝันอย่างชัดเจนมากๆว่ามีผู้ชายคนหนึ่งเป็นครูบาอาจารย์
ท่านเป็นต้นบรรพบุรุษของเรา ท่านกำลังตรวจงานอะไรสักอย่าง
ท่านเดินมาหาชี้มาที่เราแล้วบอกว่า
"คนอย่างเจ้าน่ะ ถ้าคิดจะทำอะไร ใครก็สู้เจ้าไม่ได้หรอก"
"ตัดสินใจเอาเองก็แล้วกัน"
2 ประโยคนี้ก้องอยู่ในหัวจนเราตื่น มันได้ตอกย้ำว่าคำตอบทั้งหมด
ทั้งมวลล้วนอยู่ภายในเรานี่เอง โดยที่ "ตัวเรา" อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ

หนทางที่คุณก้าวเดินนั้นทั้งเฉพาะตัว แต่ก็เรียบง่ายชนิดที่ว่า
แฝงอยู่ในชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้ค่ะ
การใช้ชีวิตอยู่ระหว่างทั้ง2ขั้วนั้นน่ะ มันไม่ง่ายนัก ทั้งคำถามที่คนอื่น
มีและคำถามที่เรามีต่อตัวเอง ต่อสิ่งที่เราเป็นนั้นน่ะ มันถาโถม
ใส่เราอยู่ทุกๆวัน คนทั่วๆไปอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณเป็น
แต่ธรรมชาติของคุณนั้นแหละจะเป็นเครื่องนำทางให้คุณเองค่ะ

 

ไม่รู้ว่าเพื่อนๆท่านอื่นเป็นเหมือนกันไหมนะ
เดี๋ยวนี้เราทานอาหารน้อยลงมากๆเลย
กาแฟดำ1แก้ว มื้อเช้า +น้ำเต้าหู้1แก้ว มื้อเย็น
แค่นี้ก็อิ่มแล้วอ่ะ ทานเยอะกว่านี้เหมือนกับว่า
ร่างกายมันไม่รับ ท้องอืดท้องเฟ้อเป็นว่าเล่นเลย
เนื้อสัตว์นานๆจะกินนิดนึง พวกแปรรูปมาแล้ว
อย่างลูกชิ้น หมูยอ เนื้อชิ้นๆไม่กินเลยกินแล้ว
หนักๆตัวยังไงไม่รู้

 

555+ คุณเจษพูดเหมือนตาเห็นเลยนะคะ
แฟนเราเริ่มเกริ่นๆแล้วว่าอยากแต่งงาน
อยากเริ่มต้นชีวิตครอบครัวเสียที
เรารู้มานานแล้วว่าแฟนเราคนปัจจุบันนี้
ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรามาหลายภพชาติแล้ว
ออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาโดยตลอด
ทำให้ผูกพันกันเสียยิ่งกว่าความเป็นสามีภรรยา
อย่างที่คนทั่วๆไปเรียกกัน
เราก็ไม่ได้ปฏิเสธนะคะ แต่ใจมัน "เฉยๆ" อ่ะ
มีเมื่อไหร่ก้อเมื่อนั้นตามความเหมาะสม
ตามแต่จังหวะมันจะพาไปแหละค่ะ ^^

 

ใช่ครับ จะรู้หรือไ่รู้ ถ้าไม่ทานเนื้อสัตว์ กายจะเบาใจจะเบา เหมาะแก่การนั่งสมาธิหรือไม่
---ถ้าคิดว่ากินเจแล้วจะวิเศษกว่าคนอื่น แล้วก่็อย่าไปกินเลย เพราะเพิ่มอัตตา
ในที่สุดคุณก็ได้พบกับสิ่งที่คนทั่วไปเรียบกว่า เทพ เทวดาหรือครูบาอาจารย์โยคี คือเครื่องแบบไม่สำคัญครับ เขาอาจเป็นชาวต่างดาวก็ได้
---มีหลายครั้งที่ผมฝันถึงคนแต่งตัวแปลกๆ แบบอินเดีย(บริวารท่านไสบาบา) แต่จริงๆแล้ว เทพไม่ยอมให้ผมเห็น ต่างกับภรรยาที่เห็นด้วยตาก็มี ยืนด่ากันเฉย โดยที่ไม่รู้นึกว่าด่ากับคนธรรมดา
--มีำไรจะเล่านิดนึงดูหนังเรื่องนึงตอนนี้ เป็นตอนที่อังกฤษยึดครองอินเดีย เขาพยายามแบ่งแยกแล้วปกครอง ดยใช้กิเลส ของคนอินเดียนั่นแหละ
---แม้แต่ตอนที่ครูใหญ่ปฐมนิเทศน์ เขาก็ว่าผมก้จะพยยามยามสอนพวกคุณให้เป็นคน พวกนักเรียนคงถามตัวเองกันใหญ่ว่าเราเป็นหมาหรือเปล่า
พระัเอกลุกขึ้นโต้ว่า ท่านครับ เสื้อผ้าไม่ได้สร้างคน ให้เป็นคนดี คนต่างหากสร้างเสื้อผ่้า นักปราชญ์องกฤษพูดอย่างนี้

อจ.เริ่มด่าว่า ประเทศของคุณ สกปรก ยากจนมีแต่ฝุ่น แมลงวัน และกลิ่นเหม็นๆ
---พระเอกว่า ถ้าประเทศของผมน่าเกลียดขนาดนั้นทำไมพวกคุณถึงอยากได้ และไปยึดครองอยู้ตั้ง 140 ปี ทีรหลังอย่ามาพูดถึงประัเทศแม่ผมแบบนี้อีก--(มหาภารตะ Maha Baratta)
----คุณอิสรีล เริ่มฝันอีกแล้วละ ทีหลังเอาแบบแขกๆ เจอะพระแม่สวยๆนะ ชอบอ่านที่คุณอิสรีลบรรยาย เห็นสีสันชัดเจนดีครับ
----มีช่วงนึงผมนอนบนห้องดาดฟ้า เตียงใหญ่คนเดียว ภรรยาจะคอยบอกข่าว ช่วงนี้ พระราหูมานอนกับพี่ด้วยนะ อะไรแบบนี้
--ท่านหน้าตาเป้นยังไง ก็เหมือนเทพทั่วไป แต่ท่านผิวดำ เครื่องทรงเป็นสีดำทั้งหมด
---มีครั้งนึงผมมานอนเล่น แต่นอนขวางเตียงแล้วหลับไป
--เทพตะโกนเรียก ผมตอบว่า พ่อโว้ยผมขยับตัวไม่ได้ จริงๆ รู้ตัวแล้ว แต่ขยับได้แค่นิ้วมือ
---เทพในร่างภรรยาผมก็ขึ้นมาดู โอ้โห พ่อใหญ่ไปนอนทับไ้อ้ชายทำไมน่ะ ตัวยังกะภูเขา
เดี๋ยวก็ตายกันพอดี
----แต่ตอนที่กายทิพย์ของพระศิวะทับร่างของผมนะ มีความสุขมาก เย็นในอกในใจจริงๆ
สัมผัสแรกที่ตื่น เราก็หลับตา แต่เหมือนมีแสงไฟนีออนที่เป็นตาสี่เหลี่ยมมันสว่างวิ่งไกลออกไป จนสว่างทั่วฟ้า ความรู้สึกที่แปลก และความสุขมีเต็มหัวใจ
----สัมผัสของเทพเป็นอย่างนี้ เหมือนว่าเราได้เป็นเทพชั่วขณะหนึ่งเลยหละ

 

จริงๆก็ฝันเยอะนะคะ แล้วหลังๆมานี่จะรู้สึกตัวในความฝันด้วย
ทำให้เห็นรายละเอียดได้ชัดเจนมากๆเลยละค่ะ
สำหรับเราแล้วการได้ฝัน มันเหมือนกับการที่เราดำรงอยู่
ในหลายๆมิติพร้อมๆกันในขณะเดียวกัน โลกที่เราอยู่นี้
ก็เป็นเพียงแค่มิตินึงที่เรารับรู้ผ่านอายตนะ5
แต่มิติอื่นๆนั้นอาศัยการรับรู้ที่ละเอียดกว่ามาก
แล้วจะหมั่นมาเล่าฝันให้ฟังบ่อยๆนะคะ
เผื่อจะสะกิดต่อมเอ๊ะอะไรบางอย่างให้เพื่อนๆได้บ้างค่ะ

:z13

 

--บางครั้งเราฝันแปลกๆ แต่เชื่อไหมว่า ในโลกวัตถุนี้ กับ สิ่งที่เราฝันเห็น ในฝันยังมี"ความจริง"มากกว่าสิ่งเรามองเห็น ถ้าผมพูดเอง หรือ พระท่าน----หรือนักปรัชญาพูดก็ไม่แปลก
แต่เรื่องฝันเป็นจริงกว่านี้ นักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่ระดับปรมาจารย์เป็นคนพูด
----จริงแล้วนักฟิสิกส์ควรยึดมั่นกับอะตอมหรืออนุภาค แต่การที่รู้จักมันดีมาก ทำให้ความเชื่อมั่นในตัวมัน กลับน้อยลงๆ และเช่นกันกับทัศนคติต่อสรรพสิ่งในโลกวัตถุ กาแลก๊ซี่----ดวงดาว แม่น้ำ--ภูเขาทุกอย่างล้วนประกอบขึ้นด้วยอะตอม เมื่อมองเห็นอนิจจตา---ความไม่เที่ยงในอะตอม ก็ย่อมเห็นสิ่งนี้ในสรรพสิ่งและในชีวิต
Everything is Impermanent
---หมูนี้อาจเป็นเพราะอากาศร้อน ผมทานข้าวไม่ค่อยลง ต้องเอาทิ้งประจำ เมื่อไม่กินก็หิว แต่ไม่มาก และผอมลง
---การที่เราำสมาธิปฎิบัติธรรมมากๆ--- มันจะกลายเหมือนคนไร้ใจ มันเฉยๆ ได้สิ่งที่น่าใจก็งั้นๆไม่ดีใจ เรื่องควรเสียใจก็ปลงได้ ไม่ค่อยเสียดาย เก็บเงินหาซื้อใหม่ รำคาญตัวเองเหมือนกัน

คนเฉยๆแบบนี้ คนเหนือว่า จืน หรือตะกั่ว เอาไฟลน ก็ไม่ค่อยร้อน หรือทางภาคกลางว่า ทองไม่รู้ร้อน แบบนั้น
--หนังเกาหลี เวลาดู มันเหมือนจริง แบบว่าผกก.สั่งให้เอาหัวโขกฝาตาย ก็คงทำกันได้ ดาราสวยๆ เค้ากล้าไม่กลัวเปลืองตัวเลย--ในฐานะผู้ชายก็ชอบนะอิอิ

--เรื่องคู่ครอง บางคนดีนะ ที่ไม่มีองค์ใน เพราะองค์ใน หรือครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์มักแกล้งทำให้เรามีนิสัยแปลกๆ ต่อให้แต่งงานไปก็ไม่มีใครทนเราไหว--ผมเองก็เป็นนะ รู้ตัวดี

--พี่สาวว่าชาติก่อนๆ เขาคงเป็นผู้ชาย ไปที่เปลี่ยวคนเดียวก็ไม่กลัวอะไร แถมมีครูบาอาจารย์มาคอยปัดเป่าคู่ครองไปหมด ซึ่งเธอชอบมาก แม้แต่ในบ้านก็ไม่ชอบให้มีสมบัติหรือเฟอร์นิเจอร์อะไรเลย---เซ็นเข้าเส้นเลืิอดละมั้ง

 

วานนี้ ( 21 ส.ค.) นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม แถลงความคืบหน้าการนำเครื่องมือควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (กำไลไฮเทค) มาใช้ในงานคุมประพฤติ โดยจะนำร่องใช้กับเด็กและเยาวชนของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน 200 คน ที่กระทำผิด พ.ร.บ.จราจร ว่า จะใช้วิธีเช่าใช้ โดยอุปกรณ์ชิ้นนี้จะมีน้ำหนักไม่เกิน 300 กรัม สามารถส่งข้อมูลแบบ จีพีอาร์เอส หรือ จีพีเอส และสามารถใช้งานบนเทคโนโลยี จีพีเอส ได้ในกรณีที่อับสัญญาณ ทั้งยังมีระบบการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์เมื่อเกิดเหตุกับอุปกรณ์ เช่น แบตเตอรี่เหลือน้อยหรือใกล้หมดเมื่อออกจากพื้นที่ที่กำหนด พื้นที่ควบคุม พื้นที่ห้ามเข้าหรือห้ามออก หรือถูกถอดออกโดยพลการ คาดว่ากลางเดือน พ.ย.นี้ จะได้ของมาใช้จริง เพราะในวันที่ 23 ส.ค.นี้ จะมีการเคาะราคาและทำสัญญากับบริษัทภายใน 7 วัน

น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า ล่าสุดมี 2 บริษัทที่ผ่านการคัดเลือกคุณสมบัติตามร่างทีโออาร์ โดยตามขั้นตอนกรมพินิจฯ จะเป็นผู้เสนอรายงานว่าเด็กหรือเยาวชนแต่ละรายมีความเสี่ยงระดับใด หากเห็นว่าอยู่ในระดับปานกลางหรือน้อยสมควรควบคุมนอกสถานพินิจฯ จะระบุความเห็นเสนอศาล เพื่อประกอบการพิจารณา โดยมีขั้นตอนเริ่มจากทำหนังสือถึงศาลเยาวชนและครอบครัวกลางว่าในกรณีที่ศาลจะสั่งให้ใช้อุปกรณ์นั้นกรมคุมประพฤติจะมีอุปกรณ์พร้อมรองรับหากศาลมีคำสั่ง อย่างไรก็ตามการเสนอความเห็นว่าเด็กหรือเยาวชนรายใดสมควรใช้อุปกรณ์จะพิจารณาเป็นรายบุคคลไม่ใช่เด็กที่กระทำผิดในคดีเดียวกันจะได้รับการพิจารณาจากศาลให้ใช้อุปกรณ์ทุกราย ทั้งนี้การจะใช้อุปกรณ์หรือไม่นั้นนอกจากคำสั่งศาลแล้วต้องได้รับการยินยอมจากผู้ใช้ด้วย เพราะหากมีการทำลายอุปกรณ์ผู้ใช้ต้องเป็นผู้จ่ายค่าเสียหายเองด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีแนวโน้มว่าผู้ต้องขังจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจทำให้เกิดปัญหาผู้ต้องขังล้นคุก จึงมีแนวคิดจะนำเครื่องมือมาใช้ควบคุมแทน หลังจากกรมคุมประพฤติและกรมพินิจฯ ได้ทำการทดลองใช้กับเด็กและเยาวชนเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว โดยทางกรมฯ จะขยายผลเพื่อนำมาใช้กับผู้ต้องขัง 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. ผู้ต้องขังจำคุกที่จะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าจะต้องจำคุก กรณีผู้ป่วยเอดส์ระยะสุดท้าย ไตวายเรื้อรัง มะเร็งระยะสุดท้าย 2.ผู้ต้องขังจำคุกจำเป็นต้องเลี้ยงบิดามารดา สามี ภรรยา บุตร ที่พึ่งพาตัวเองไม่ได้และขาดผู้อุปการะ 3. ผู้ต้องขังเจ็บป่วยเรื้อรังที่ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องและต้องออกไปรับการรักษาภายนอก เช่น ฟอกไต หรือฉายรังสีและผู้ต้องขังจำคุกที่มีเหตุอันควรได้รับการทุเลาการบังคับ เช่น วิกลจริต เพิ่งคลอดบุตรหรือตั้งครรภ์ เบื้องต้นคาดว่าจะนำร่องประมาณ 1,000 เครื่อง

พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์มีข้าราชการประมาณ 11,000 คน และมีจำนวนผู้ต้องขังมากถึง 270,000 คน ดังนั้นผู้คุม 1 คนต้องดูแลผู้ต้องขัง 50 คน ทั้งที่ตามมาตรฐานสากลสัดส่วนการดูแลผู้ต้องขังจะอยู่ที่ 1:5 คนเท่านั้น ดังนั้นการใช้เครื่องมือควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิคส์มาใช้จึงเป็นทางเลือกหนึ่ง หลังจากกรมคุมประพฤติและกรมพินิจฯ ได้ทำการลดลองใช้กับเด็กและเยาวชนเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว กรมราชทัณฑ์จะขยายผลเพื่อนำมาใช้กับผู้ต้องขัง 4 กลุ่ม ประกอบด้วย ผู้ต้องขังจำคุกที่จะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าจะต้องจำคุก กรณีผู้ป่วยเอดส์ระยะสุดท้าย ไตวายเรื้อรัง มะเร็งระยะสุดท้าย ผู้ต้องขังจำคุกจำเป็นต้องเลี้ยงบิดามารดา สามี ภรรยา บุตร ที่พึ่งพาตัวเองไม่ได้ และขาดผู้อุปการะ ผู้ต้องขังเจ็บป่วยเรื้อรัง ที่ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และต้องออกไปรับการรักษาภายนอก เช่น ฟอกไต หรือฉายรังสีทุกสัปดาห์ และผู้ต้องขังจำคุกที่มีเหตุอันควรได้รับการทุเลาการบังคับ เช่น วิกลจริต เพิ่งคลอดบุตรหรือตั้งครรภ์

พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวถึงมาตรการดูแลรักษาพยาบาลผู้ต้องขังว่า แม้ทางกรมราชทัณฑ์จะมีโรงพยาบาลเพื่อรักษาผู้ต้องขัง โดยเฉพาะทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ซึ่งสามารถเปิดรับรักษาผู้ต้องขังได้ถึง 500 เตียง และเปิดจริงได้เพียง 250 เตียง เพราะมีแพทย์ประจำเพียง 16 คนจากความต้องการแพทย์ประจำทั้งหมด 50 คน จึงทำให้การดูแลผู้ต้องขังที่เจ็บป่วยไม่ทั่วถึง สำหรับเรือนจำจังหวัดทั่วประเทศนั้นสามารถส่งผู้ต้องขังเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดและโรงพยาบาลอำเภอได้ แต่เนื่องจากโรงพยาบาลดังกล่าวไม่มีห้องพักพิเศษที่ควบคุมผู้ต้องขังเฉพาะจึงเกรงจะมีปัญหาเรื่องผู้ต้องขังหลบหนี.

 

บริษัทดีใจได้ขายของ ลูกหลานไทย สบายใจได้ตายเยี่ยงสัตว์----เคยทำประชาพิจารณ์กันเป็นไหม ให้เขาไปนั่งสมาธิจนตายดีกว่ามมั้ง เกิดเป็นคนไทย วันดีคืนดีมีสิทธิตายแบบไร้สาเหตุ เป็นสิ่งหายาก ไม่รู้ว่าู้ผู้ใหย่แบบมีตา มีใจมีไหมในเมืองนี้-เค้าไม่ยอมบอกว่ามีข้อเสีบยยอะไร บางแบบสามารถปล่อยไฟแรงสูงมาช็อตคนตาย--แต่เว้นไว้ไม่พูด
หรือว่าเรามีสิทธิประหารใครๆดยศาลไม่ได้สั่ง อันนร้ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ไม่ใข่คิดเองทำเอง โปรดนำไปแจกคนแถวบ้านท่านใช้กันเองเถอะครับ--ถ้าเป็นเฃโรคทางจิตดปรดปลดปล่อยไว้ใรครอบครัว-- จงอย่าแสดงออกมา คนไทยทุกคนก็มีสมอง ที่พอจะคิดได้เองครับ

 

ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน คำว่า “นาโนเทคโนโลยี” ยังถือเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับคนไทย

สารพัดคำถามกับความเล็กขนาดนาโนเมตร หรือ 1 ในพันล้านส่วนของเมตร จนต้องนำไปเปรียบเทียบกับขนาดของเส้นผมว่า เล็กเพียงแค่ 1 ในห้าหมื่นส่วนของเส้นผมเท่านั้น

10 ปี ต่อมา วันนี้ “นาโน” กลายเป็นที่รู้จักผ่านสินค้าและบริการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนาโนจริงหรือปลอม แต่ก็ได้จุดกระแสความตื่นตัวด้านเทคโนโลยี ที่เคยคาดกันว่าจะเป็นคลื่นลูกใหม่ของทุกภาคอุตสาหกรรม

และถือได้ว่าเป็นความสำเร็จส่วนหนึ่งของศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือนาโนเทค ที่ก่อตั้งตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อ 13 สิงหาคม 2546 หรือเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา

“ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล” ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทค สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) บอกว่า 10 ปีที่ผ่านมา การดำเนินงานของนาโนเทค ถือว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน มีการจัดทำแผนแม่บทนาโนเทคโนโลยีของประเทศ มีการสร้างเครือข่ายวิจัยที่เข้มแข็งโดยมีศูนย์วิจัยแห่งความเป็นเลิศ 8 แห่งทั่วประเทศ และมีการผลักดันให้เกิดการนำนาโนเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์

...ปัจจุบันไทยมีนักวิจัยด้านนาโนเทคโนโลยีประมาณ 700 คน และมีผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์มากกว่า 1,000 เรื่อง...

ส่วน 10 ปีต่อจากนี้ไป ผอ.นาโนเทค บอกว่า จะเป็นการเข้าสู่ยุคใหม่ มีการนำเทคโนโลยีไปใช้กับภาคอุตสาหกรรมอย่างเต็มรูปแบบ และมีการทำวิจัยแบบพุ่งเป้า เพื่อเข้าสู่ยุคของการจัดเรียงโมเลกุล ที่อนาคตเราจะเห็นคอมพิวเตอร์ที่เล็กลงเรื่อย ๆ แต่ความสามารถในการประมวลผลและการประหยัดพลังงานดีขึ้นเป็นพันเท่า

และใน 10 ปีนี้นาโนเทคจะเน้นการทำวิจัยแบบพุ่งเป้า หรือ Flagship Programs เพื่อช่วยแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศไทย โดยครอบคลุมใน 4 ด้านหลักคือ ภาคการเกษตร สุขภาพ อุตสาหกรรม พลังงานและสิ่งแวดล้อม

ล่าสุด ...นาโนเทคได้เปิดตัว 10 โครงงานวิจัยแบบมุ่งเป้า อาทิ โครงการพัฒนาปุ๋ยนาโน ที่ร่วมมือกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย พัฒนาขึ้น โดยเป็นปุ๋ยสูตรผสม NPK เคลือบด้วยวัสดุนาโนพอลิเมอร์จากธรรมชาติที่มีรูพรุน สามารถควบคุมการปลดปล่อยธาตุอาหารสำคัญได้ตามต้องการของชนิดพืช เช่น 3 เดือน หรือ 6 เดือน เพื่อลดปริมาณการใช้ปุ๋ยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาต่อยอดและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตไปยังเกษตรกรทั่วประเทศ

ส่วนโครงการวัสดุปรุงแต่งดินจากการแปรรูปผักตบชวา เป็นการนำผักตบชวาที่สร้างปัญหาให้กับการคมนาคมทางน้ำ มาแปรรูปด้วยกระบวนการไฮโดรเทอร์มอลคาร์บอไนเซชั่น ซึ่งใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง ก็ได้สารปรับปรุงดินที่มีคุณสมบัติเหมาะกับการปลูกพืชเหมือนกับดินที่ผ่านกระบวนการหมักหมมตามธรรมชาติมานานหลายร้อยปี

งานวิจัยอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตจากระดับห้องปฏิบัติการไปสู่ภาคสนามและสร้างเป็นโรงงานในภาคอุตสาหกรรมต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีโครงการวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งปากมดลูก การควบคุมป้องกันและกำจัดยุง การเพิ่มมูลค่าสิ่งทอพื้นเมืองด้วยนาโนเทคโนโลยี อย่างเช่น การเคลือบนาโนให้กับผ้าไหม เพื่อเพิ่มคุณสมบัติด้านการกันน้ำ หรือมีกลิ่นหอม การใช้นาโนเทคโนโลยีพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

การพัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวล การพัฒนาวัสดุดูดซับที่ช่วยทำให้อากาศบริสุทธิ์ การพัฒนาเครื่องผลิตน้ำดื่มพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยเทคโนโลยีไส้กรองนาโน และโครงการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้านาโนเทคโนโลยี

ศ.นพ.สิริฤกษ์ บอกว่า งานวิจัยแบบมุ่งเป้านี้ มีจุดเด่นที่การรวมความเชี่ยวชาญจากนักวิจัยสาขาต่าง ๆ ทั้งในศูนย์นาโนเทค และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ กว่า 20 คนต่อ 1โครงงานวิจัย

เบื้องต้นมีระยะเวลาดำเนินการแล้วเสร็จใน 3 ปี

แต่ที่สำคัญก็คือ ต้องทำให้เห็นผลได้ภายใน 1 ปี ส่วนจะสามารถขยายผลเชิงพาณิชย์ได้อย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ.

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเซาแธมป์ตัน รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ว่า ตำรวจเมืองเซาแธมป์ตัน เปิดเผยว่า เจนนิเฟอร์ โลเปซ ดารานักร้องสาวชาวอเมริกันวัย 44 ปี ได้ร้องขอให้ตำรวจช่วยคุ้มครองจากนายจอห์น ดูบิส วัย 49 ปี จากรัฐโรด ไอแลนด์ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยในรายละเอียดว่า เหตุใดจึงมีคำสั่งคุ้มครอง

แต่รายงานข่าวของสื่อท้องถิ่นระบุว่า มีคนงานไปพบนายดูบิส อยู่ในบ้านพักของดาราสาว เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ พบว่า เขาเข้าไปอยู่ในบ้านพักของดาราสาวที่เมืองเซาแธมป์ตันนาน 1 สัปดาห์ จึงถูกจับกุมแจ้งข้อหาบุกรุก ลักทรัพย์ และอื่นๆ ศาลนัดไต่สวนในวันที่ 28 ส.ค.นี้ แต่ให้คุมตัวไว้ก่อน โดยวางหลักทรัพย์ประกันตัวไว้ที่เงินสด 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ

สื่อท้องถิ่นรายงานอีกว่า ตัวแทนของดาราสาวยังไม่ได้แสดงความเห็นใดๆในเรื่องนี้ และ ยังไม่ทราบเช่นกันว่า นายดูบิสมีทนายความไว้แก้ต่างคดีแล้วหรือยัง

 

เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ห้องประชุมคลองไผ่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ร.ท.ชุมพล เทียมชัย รองประธานมูลนิธิ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กองทัพเรือ ในพระราชินูปถัมภ์ ได้ร่วมกับ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ มอบทุนการศึกษาแก่บุตรข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ พนักงานสถานพยาบาล ลูกจ้างชั่วคราว และบุตรของบุคคภายนอกที่เรียนอยู่ในโรงเรียนชุมชนใกล้เคียงกับโรงพยาบาล ที่มีความประพฤติดี เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อเป็นการช่วยเหลือ ส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีโอกาสรับทุนการศึกษา

พล.ร.ต.คณิน ชุมวรฐายี ผอ.รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ กล่าวว่า สำหรับทุนการศึกษา จำนวน 61 ทุน เป็นทุนการศึกษาแก่บุตรของข้าราชการ และกลุ่มลูกจ้างฯ ของโรงพยาบาล จำนวน 50 ทุน ของนักเรียนในชุมชนใกล้เคียงโรงพยาบาล จำนวน 10 ทุน และทุนของ พันตรีประจวบ และคุณยายสุภัทรา บุญประสิทธิ์ จำนวน 1 ทุน เป็นเงินทั้งสิ้น 214,000 บาท ประกอบด้วย ทุนระดับประถมศึกษา จำนวน 38 ทุน ๆ 3,000 บาท ทุนระดับมัธยมศึกษา จำนวน 19 ทุน ๆ 4,000 บาท และทุนระดับอุดมศึกษา จำนวน 4 ทุน ๆ ละ 6,000 บาท

 

เมื่อวันสารทจีนเราก็ไปไหว้ที่บ้านป้า แม่เราก็มาด้วย
ระหว่างที่กำลังคุยกันเพลินๆนั้น จู่ๆเราก็ถามเค้าว่า
ช่วงนี้ได้ไปวัดไหนที่มีนกยูงมาหรือเปล่า
แม่เราก็งงๆว่าเรารู้ได้ไงว่าเค้าพึ่งไปมา
แบบว่าไม่ได้ตั้งใจไป หลงทางเข้าไปเจอวัดนี้พอดี
เราก็บอกแม่ไปคราวหน้าให้ไปไหว้พระประธานในโบสถ์ด้วย
คือตอนที่พูดเรารู้สึกตัวเป็นปกตินะคะ แต่มันเกิดรู้อย่างนี้
ขึ้นมาเองแล้วเค้าก็ให้พูดแบบนี้
แล้วสารทจีนปีนี้ตรงกับวันพระด้วย
เราก็เลยบอกที่บ้านว่าเราของดพวกเนื้อๆทั้งหลาย
ซึ่งปกติเวลาไปไหว้เราก็พยายามเลี่ยงไม่กินอยู่แล้ว
กินแต่เต้าหู้ทอด(ของโปรด)เราอย่างเดียว
ก็เล่าสู่กันฟังค่ะ ^^

 

มีญาณขนาดจิ๋ว เหมือนกันเลย เป็นไปตาม*ในฝันที่มีท่านมาบอกว่า-- อย่าขี้เกียจ

 

BGT นาทีประทับใจ
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=qAD6EChup0s]Britain's Got Talent - Emotional Moments - YouTube[/ame]

 

ไม่ว่าจะเป๊นชาวต่างดาวหรอว่าพระเจ้าที่ได้ให้ร่างกายกับจิตวิญญาณ เรามาก็ตาม มันเป็นสิ่งแสนมหัศจรรย์ อย่างเช่น เราเดินทางโดยปั่นจักรยา 1วันใช้พลังงานคือข้าวแกงหนึ่งจาน ในขณะที่ ซิ้อน้ำมันที่ให้ระยะทางเท่ากัน หมดหลายร้อยบาท แถมของเสียที่ออกมา ไม่ทำให้อากาศเป็นพิษ แต่เป็นปุ๋ยที่ดีของต้นไม้อะไรต่างๆ
--ไม่รู้จะทดลองยังไงก็ทอลองกะตัวเอง อิอิ มีครั้งนึง รถปิคอัพของบริษัทตกหล่มอยู่หน้า บริษัทนะเอง หลายคนไปช่วยดัน แต่ไม่สำเร็จ ผมไปลองผลักเบาๆ ด้วยมือเดียว รถก็หลุดออกจากหล่มมาได้---ท่านผู้อ่านคงคิดว่าผมตัวใหญ่อย่างควาย ผิดครับ-- อิอิ เป็นหนุ่มรูปหล่อ รูปร่างผอมบาง กินอาหารคือก๋วยเตี๋ยวซาเล้ง วันละหนึ่งถ้วยเล็กๆ
--ในกรณีที่กินอาหารน้อย แบบโยคะโยคี ร่างกาย--จิตใจ หรือกายทิพย์ของเราจะำไปหาพลังมาใช้เอง เหมือน เครื่องกลชนิดหนึ่งที่โปรแกรมไว้ไม่ให้ตัวเองตาย จิตวิญญาณ จึงออกไปหาพลังอิสระคือ ชี่ หรือลมปราณมาทดแทน บางทีก็อาจได้จากสายลมแสงแดด หรือไปหาจากจักรดาราไกลโพ้น นำมาใช้เป็นแรง กำลัง --- อะไรก็ได้ตามที่ร่างกายต้องการ--อันนี้ก็สุดจะหาทฤษฎีมาอธิบายเช่นกัน
---จะว่าเป็นกุณฑาลิณี ศักติ ก็คงจะไม่ใช่ ---แต่ว่าถ้าอาหารเล็กน้อย แปรเป็น พลังกุณฑาลิณี ที่มหาศาลมากๆ ก็เรียกว่า สุดคุ้ม นะครับ และอาจใช้พลังนี้ไปนิพพานได้อีก เรียกว่าคุ้มสองต่อ--เนื่องด้วยไม่ใช่แนวคิดทางพุทธ กรณีเด็กอายุต่ำกว่า40--- ผู้ปกครองควรพิจารณาด้วยครับ