ติดตามสถานะการณ์

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
เมื่อวานนี้ เวลา 16:17 น. ·
"ปู่อินทร์ตาทิพย์" เตือน!

ในแวดวงเตือนภัยของบ้านเราหลายที่ได้พูดถึงท่านผู้เฒ่าฆราวาส ผู้มีอภิญญาตาทิพย์ ผู้มีบารมีแก่กล้าแห่งเขาตำแย อ.ปักธงชัย เมืองโคราช ที่อายุเกินร้อยปี ท่านคือ "ปู่อินทร์ตาทิพย์" ได้เตือนเอาไว้ (น่าจะเตือนเมื่อปีก่อนๆโน้นนน...) ว่าอีก 2 - 4 ปี ภัยพิบัติใหญมาแน่ๆ (ประมาณ พ.ศ. 2555-2557)
ท่านยังได้เตือนเรื่องภัยเศรษฐกิจโลกจะแย่มาก และเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด อีก 5 ปี ที่ปู่เห็นคือ ภัยพิบัติจากธรรมชาติที่รุนแรงมาก!

.. และเวลานี้ก็คือ ปี 56 !! เราอยู่ในช่วงเวลาที่ท่านได้ทำนายไว้พอดี ติดตามสถานการณ์โดยรวมต่อไป ขอทุกท่านระวังภัยและเตือนๆกันไว้หน่อยก็ดีครับ.

 

ประกาศภาวะฉุกเฉินใน “ซานฟรานซิสโก” หลังไฟป่าเสี่ยงกระทบ “ไฟฟ้า-น้ำประปา”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 สิงหาคม 2556 10:19 น.

เจ้าหน้าที่จากหน่วย Cal Fire กำลังประเมินสถานการณ์ไฟป่า "ริมไฟร์" ที่กรูฟแลนด์ ในเขตเทศมณฑลทูอาเลอมี รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวานนี้(25)

เอเอฟพี - ระบบส่งน้ำประปาและไฟฟ้าของนครซานฟรานซิสโกเสี่ยงได้รับความเสียหายจากไฟป่า “ริมไฟร์” ซึ่งกำลังลุกลามอยู่ทางตอนเหนือของอุทยานแห่งชาติโยเซมิติ (Yosemite) รัฐแคลิฟอร์เนีย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานวานนี้(25)

เว็บไซต์ inciweb ซึ่งเป็นระบบแจ้งสถานการณ์ไฟป่าในภาคตะวันตกของสหรัฐฯ ระบุว่า ไฟป่า “ริมไฟร์” ได้เผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้วประมาณ 133,980 เอเคอร์ โดยแผ่ขยายวงกว้างเกือบ 8,400 เอเคอร์เมื่อค่ำคืนวันเสาร์(24)ที่ผ่านมา ขณะที่หน่วยผจญเพลิงยังสามารถควบคุมไฟไว้ได้ประมาณร้อยละ 7

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 2,800 นาย พร้อมเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินบรรทุกน้ำ ถูกส่งเข้าไปปฏิบัติการดับไฟป่าซึ่งปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

สถานการณ์ไฟป่าครั้งนี้ยังทวีความรุนแรงเนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งจัดในฤดูแล้ง บวกกับจุดที่เกิดไฟป่าเป็นพื้นที่ซึ่งเข้าถึงได้ยาก

เจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในนครซานฟรานซิสโกซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 320 กิโลเมตร เนื่องจากเมืองศูนย์กลางธุรกิจทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียแห่งนี้ต้องพึ่งพาพลังงานจากโรงไฟฟ้าซึ่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงไฟป่า

สำนักงานไฟฟ้าและการประปาของนครซานฟรานซิสโกยืนยันว่า ยังสามารถจ่ายน้ำและไฟฟ้าได้ตามปกติ แม้ไฟป่าจะลุกลามถึงโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2 แห่งจนได้รับความเสียหายไปพอสมควร

เจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแซมโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งที่เสียหาย ซึ่งการจ่ายไฟเสริมชั่วคราวจะต้องใช้งบเพิ่มเติมประมาณ 600,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ทั้งนี้ ทางโรงประปายังมีน้ำสำรองเก็บกักไว้ส่วนหนึ่ง ซึ่งจะสามารถนำออกมาให้บริการแก่ประชาชนได้ ในกรณีที่ไฟป่าส่งผลกระทบต่อระบบจ่ายน้ำประปาในเมือง

ไฟป่า “ริมไฟร์” เกิดปะทุขึ้นภายในเขตอุทยานแห่งชาติสตานิสเลาส์ (Stanislaus) ก่อนที่จะลุกลามมาถึงอุทยานแห่งชาติโยเซมิติ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติชื่อดังของรัฐแคลิฟอร์เนีย

ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นว่า หมอกควันจากไฟป่าริมไฟร์ถูกกระแสลมหอบข้ามไปถึงรัฐเนวาดา

 

“อังกฤษ” ชี้หลักฐานที่อัสซาดใช้ “อาวุธเคมี” อาจถูกทำลายไปหมดแล้ว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 สิงหาคม 2556 09:16 น.


วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ (แฟ้มภาพ)

เอเอฟพี - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษชี้ หลักฐานการใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือนในซีเรียอาจถูกทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว

วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ อ้างถึงกรณีข่าวลือว่ากองทัพซีเรียใช้อาวุธเคมีปราบปรามพลเรือนทางตะวันออกของกรุงดามัสกัสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่า “ความเป็นจริงก็คือ หลักฐานการใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนในครั้งนั้น อาจถูกทำลายไปเกือบหมดแล้ว”

“หลักฐานที่พอจะเหลือก็คงเสื่อมสภาพไปในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา และส่วนอื่นๆก็อาจจะถูกกลบเกลื่อนแล้วก็เป็นได้” เฮก แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวานนี้(25) ไม่นานหลังจากที่รัฐบาลซีเรียเปิดไฟเขียวให้คณะผู้ตรวจสอบจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้าไปสืบหาความจริงเรื่องอาวุธเคมี

ในวันนี้(26) คณะผู้เชี่ยวชาญยูเอ็นจะลงพื้นที่ซึ่งอ้างว่ามีชาวซีเรียเสียชีวิตเป็นจำนวนมากจากสารพิษทำลายระบบประสาท ขณะที่วอชิงตันชี้ว่าซีเรียอนุญาตให้เจ้าหน้าที่นานาชาติตรวจสอบช้าเกินไป

เฮก แสดงความกังวลว่า ผู้ตรวจสอบยูเอ็นถูกถ่วงเวลาไว้นานเกินไปจนอาจไม่ได้หลักฐานที่ชัดเจน และย้ำว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด จะต้องรับผิดชอบต่อเหตุสังหารหมู่ที่เกิดขึ้น

“รัฐบาลอังกฤษมั่นใจว่า ระบอบอัสซาดเป็นฝ่ายใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนอย่างกว้างขวาง” เขากล่าว โดยอ้างข้อมูลจาก “ผู้เห็นเหตุการณ์ และความเป็นจริงที่ว่าพื้นที่ดังกล่าวกำลังถูกฝ่ายรัฐบาลโจมตี ขณะที่มีการพบศพคนตายด้วยอาวุธเคมี”

“หากรัฐบาลอัสซาดเชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มอื่น ก็น่าจะปล่อยให้ยูเอ็นเข้าไปตรวจสอบตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว”

เฮกระบุว่า อังกฤษพร้อมร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อตอบสนองโศกนาฏกรรมในซีเรีย โดยเมื่อวันเสาร์ (24) นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ก็ได้พูดคุยกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ทางโทรศัพท์ และ “ผู้นำทั้งสองเห็นตรงกันว่า นานาชาติสมควรจะมีมาตรการตอบสนองที่รุนแรง”

เฮกไม่ได้ชี้แนะว่าแนวทางตอบสนองที่ว่าคืออะไร “ด้วยเหตุผลที่ก็ทราบกันอยู่แล้ว” แต่ยืนยันว่า การตอบโต้ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทุกชาติคือสิ่งจำเป็น

เหตุประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งปะทุขึ้นในซีเรียเมื่อกลางเดือนมีนาคม ปี 2011 นำมาสู่สงครามกลางเมืองที่คร่าชีวิตพลเมืองไปแล้วกว่า 100,000 คน ตามข้อมูลยูเอ็น

 

ศูนย์เตือนภัย พิบัติโลก
5 ชั่วโมงที่แล้ว
25 สิงหาคม 2013 มอสโก - รัสเซียออกคำเตือนผลกระทบจากการแทรกแซงของทหารสหรัฐและต่างชาติในซีเรียหลังจากที่ถูกกล่าวหาว่าโจมตีอาวุธเคมีใกล้ดามัสกัสสัปดาห์ที่ผ่านมา
MOSCOW — Russia issued a stark warning today against renewed calls for foreign military intervention in Syria after an alleged chemical weapons attack near Damascus last week.
In a pair of statements, Russia’s Foreign Ministry spokesman drew comparisons between the current situation in Syria and the U.S.-led invasion of Iraq and urged countries “not to repeat the mistakes of the past.” Responding directly to comments by Secretary of Defense Chuck Hagel about military contingency planning, Alexander Lukashevich said such remarks were “alarming.”
Lukashevich reiterated Russia’s position that evidence the Syrian military was responsible for the suspected chemical attack was pre-fabricated in order to frame the government.
He said statements by the United States, France, and Britain that blame government forces are “completely ignoring many facts pointing to the fact that this action as a provocation of the irreconcilable opposition.”

 

แค่เรื่องโรงงานไฟฟ้าปฏิกรณ์นิวเคลียร์ต้องเวลาแก้ถึง 30-40 ปี
แล้วยังจะมีแผ่นดินไหวเร็วๆนี้อีก 10 แมกนิจูด โอ้พระเจ้า!!!

 

“เทปโก้” โทษ “ยางยาแนวรอยต่อ” คาดเป็นสาเหตุ “การรั่วระดับ 3” ของน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสี

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 สิงหาคม 2556 18:39 น.

เอเจนซีส์ - การรั่วครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นถึงระดับ 3 ของถังชั่วคราว 5 ใบ ที่เก็บน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะหมายเลข 1 นั้น เกิดจากการเสื่อมสภาพของยางยาแนวรอยต่อ บริษัท โตเกียวอิเล็กทริคพาวเวอร์ จำกัด แถลง

เทปโก้แถลงในวันเสาร์ (24) ว่า ถังเก็บน้ำชั่วคราวที่ทำหน้าที่เก็บน้ำสำหรับหล่อเย็นแท่งปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้ง 5 ใบนั้น มีส่วนในการรั่วครั้งนี้ คาดว่าเพราะถังน้ำที่ถูกเชื่อมยางยาแนวจึงทำให้ไม่แข็งแรงเหมือนอย่างถังที่เชื่อมไฟฟ้า โดยทางโฆษกของเทปโก้ โนริยูกิ อิไมซูมิ เผยว่า ถังน้ำชั่วคราวที่เก็บนั้นผ่านมาตรฐานความปลอดภัยและการทดสอบต่างๆ หลังจากที่ตัวถังได้ประกอบขึ้นเสร็จแล้ว แต่การรั่วนั้นอาจจะเกิดขึ้นภายหลัง เหตุเพราะยางที่ยารอยต่อเริ่มเสื่อมสภาพหลังจากเก็บน้ำปนเปื้อนและเกิดรั่วขึ้นภายหลังที่ถังเริ่มเสียรูปทรง

อย่างไรก็ตาม เทปโก้ไม่ยอมชี้แจงถึงสาเหตุที่แท้จริงของการรั่ว แต่เทปโก้พยายามเน้นไปที่การเคลื่อนย้าย และการสร้างถังเก็บกักใหม่หลังจากการรั่วของน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีได้เพิ่มขึ้นถึงระดับ 3 ในการรั่วครั้งล่าสุด

นอกจากนี้เทปโก้กล่าวต่อไปว่าทางบริษัทต้องแยกชิ้นส่วนของถังชั่วคราว 3 ใบที่เป็นปัญหานั้น และนำมันออกไป เพราะด้านใต้ของถังนั้นเริ่มจมน้ำปนเปื้อนที่รั่วออกมาแล้ว

ส่วนน้ำปนเปื้อนในถังเก็บชั่วคราวอีก 2 ใบได้ถูกย้ายไปเก็บในถังใหม่ในวันอาทิตย์(25) แล้ว ซึ่งก็เสี่ยงต่อการรั่วเหมือนกัน โดยทางสำนักงานควบคุมพลังงานนิวเคลียร์ญี่ปุ่นมีความเป็นห่วงอย่างมาก หลังพบการรั่วเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับเสี่ยง และทางสำนักงานต้องการให้เทปโก้เปลี่ยนการใช้การยาแนวด้วยยางเป็นการเชื่อมด้วยไฟฟ้าแทน ซึ่งทางเทปโก้อ้างว่าต้องใช้เวลาในการประกอบที่นานขึ้นและมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

จากวิกฤตในครั้งล่าสุดนี้ เทปโก้คาดว่าน้ำปนเปื้อนที่รั่วออกมานั้นได้ซึมผ่านลงชั้นใต้ดินและบางส่วนลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นที่น่าตระหนกว่ามีจำนวนถึง 1 ใน 3 ของถังเก็บน้ำปนเปื้อนในโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะนั้น เชื่อมด้วยการยาแนว ซึ่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานควบคุมพลังงานนิวเคลียร์ญี่ปุนที่ได้ลงไปตรวจโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะในวันศุกร์ (23) ถึงกับกล่าวว่า การเก็บรักษาน้ำปนเปื้อนของเทปโก้นั้น “ห่วยมาก”

มีเสียงเรียกร้องเพิ่มมากขึ้นจากชาวญี่ปุ่นให้รัฐบาลส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาแก้ปัญหาการจัดการรั่วของน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีแทนเทปโก้

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
8 ชั่วโมงที่แล้ว ·
น้ำพุร้อนจากภูเขาไฟใต้ดิน พุ่งเสียงดังสนั่นใกล้กับสนามบินกรุงโรม

Volcanic 'geyser' erupts close to Rome airport...
Volcanic 'geyser' erupts close to Rome airport... | RedFlagNews.com

ในรายงานเบื้องต้น ก๊าซมาจากการย่อยสลายสารอินทรีย์ที่ติดอยู่ใต้ดิน และ ผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวว่า "การระเบิดของภูเขาไฟมีแนวโน้มมากขึ้น"

เมื่อวาน น้ำพุร้อน "พุ่งที่ปาย"
https://www.facebook.com/photo.php?...05722.448042111925451&type=1&relevant_count=1

เกิดอะไรขึ้นที่ใต้ผืนโลก???

 

2 คน ถูกใจสิ่งนี้
Timeseasons Coffee Innovation Capital
https://www.youtube.com/watch?v=RtO273PMumE&feature=youtube_gdata_player
ความจริงของดาวหางไอซอน จะเกิด x-class ที่รุนแรงเมื่อมีบางสิ่งผ่านเข้าออก และชาวมายาบันทึกไว้นานมาแล้ว
UFOs, Solar Flares and Comet ISON (A Possible ELE?)
youtube.com

 

ปริศนา'อาวุธเคมีซีเรีย' ปลิดชีพ1,300ศพ
ปริศนา'อาวุธเคมีซีเรีย' ปลิดชีพ1,300ศพ : รายงาน
ทั่วโลกกำลังหวาดผวากับเหตุการณ์ฆ่าหมู่ด้วยอาวุธเคมีในสงครามกลางเมืองซีเรีย หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยว่า ช่วงตี 2 ของวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา มีการใช้ก๊าซพิษสังหารผู้คนในเขตกูตา ใกล้กรุงดามัสกัส ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีไม่ต่ำกว่า 1,300 คน

แม้สำนักข่าวซานาของรัฐบาลซีเรียออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง แต่สภาพศพของผู้คนจำนวนมากนอนเสียชีวิตโดยไม่มีบาดแผลนั้น ทำให้คณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นยืนยันเสียงแข็งให้ทุกฝ่ายเปิดทางสำหรับผู้เชี่ยวชาญเข้าไปพิสูจน์เรื่องนี้อย่างละเอียด ล่าสุดทั้งฝ่ายต่อต้านรัฐบาลและฝ่ายรัฐบาลต่างโยนความผิดให้ฝ่ายตรงข้าม

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า สารเคมีพิษร้ายพุ่งออกมาจากจรวดที่ยิงตกลงมาหลายลูก มีเด็กเล็กและผู้หญิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากเพราะหนีไม่ทัน โรงพยาบาลหลายแห่งแน่นขนัดไปด้วยผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน เนื่องจากอุปกรณ์ไม่เพียงพอทำให้หลายคนเสียชีวิตในโรงพยาบาล รัฐบาลฝรั่งเศสโกรธแค้นเรื่องนี้มากเป็นพิเศษเพราะส่งข่าวเตือนหลายครั้งแล้วว่า พบแหล่งผลิตอาวุธเคมีในซีเรียจำนวนมาก แต่ยูเอ็นเพิกเฉยที่จะเข้าไปตรวจสอบจนกระทั่งมีเหยื่อเสียชีวิตไปกว่าพันราย

หลายฝ่ายกำลังเป็นห่วงว่าการใช้อาวุธเคมีในสงครามการเมืองครั้งนื้ ถือเป็นกลยุทธ์การสู้รบอย่างโหดเหี้ยม ที่ผ่านมาส่วนใหญ่อาวุธเคมีถูกใช้ในสงครามทำลายล้างระหว่างประเทศ หรือผู้ก่อการร้ายข้ามชาติมากกว่าที่จะนำมาใช้เข่นฆ่าเพื่อนร่วมแผ่นดินเดียวกันแบบนี้ และถ้ามีพฤติกรรมเลียนแบบการใช้อาวุธเคมี สงครามกลางเมืองในหลายประเทศอาจกลายเป็นสงครามล้างเผ่าพันธุ์ที่ร้ายแรงไปโดยปริยาย

ม.จ.เฉลิมศึก ยุคล ที่ปรึกษากรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเคมีชีวภาพ แสดงความเห็นว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าสารเคมีที่ใช้เป็นอาวุธครั้งนี้มีส่วนประกอบอะไรบ้าง ต้องรอฝ่ายนิติเวชเข้าไปผ่าพิสูจน์ศพอย่างละเอียด แต่สภาพของผู้เสียชีวิตหมู่มากที่ตายพร้อมกันทันทีด้วยระบบหายใจล้มเหลว ไม่มีบาดแผล คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธเคมีที่มีสภาพเป็นแก๊สพิษหรือไอพิษ เมื่อ 25 ปีที่แล้วประเทศอิรักสมัย "ซัดดัม ฮุสเซน" เคยใช้ก๊าซพิษโจมตีชาวเคิร์ดที่ต่อต้านรัฐบาล เป็นการสังหารหมู่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 2-3 พันคน ที่เมืองฮาลับจา ในรัฐเคอร์ดิสสถาน

ม.จ.เฉลิมศึก อธิบายเพิ่มว่า อาวุธเคมีจำนวนมากไม่ใช่สิ่งที่จะสร้างหรือประกอบขึ้นมาได้ง่ายๆ เพราะต้องใช้ห้องแล็บทันสมัยและนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ถ้าเป็นอาวุธเคมีของกลุ่มกบฏหรือผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่ผลิตได้จำนวนน้อย การนำมาใช้ไม่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในครั้งเดียวแบบนี้ ดังนั้นอาวุธเคมีที่ใช้ในสงครามกลางเมืองซีเรียคราวนี้อาจมีต้นตอมาจาก 3 ทางคือ 1.รัฐบาลเป็นผู้แอบผลิตและนำมาใช้ทำลายฝ่ายต่อต้าน 2.ฝ่ายกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาลแอบขโมยหรือยึดมาได้จากกองทัพของรัฐบาลเอง 3.มีการต่อสู้ใกล้กับแหล่งหรือคลังที่ใช้เก็บสารเคมีทำให้เกิดระเบิดเป็นอาวุธเคมีขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ

“ยังไม่มีใครรู้ว่าเป็นอาวุธเคมีอะไรกันแน่ แม้แต่กระแสข่าวที่ออกมาว่าเป็นแก๊สพิษซารินก็ยังไม่ได้รับการยืนยัน อาจมีสารเคมีหลายอย่างผสมกันได้ ที่น่าสนใจคือวิธีการใช้สังหาร เพราะสมัยซัดดัมใช้ผสมลงไปในลูกกระสุนปืนใหญ่แล้วยิงออกไประยะไกล ทำให้ผู้ยิงปลอดภัยจากสารพิษ หรือบางครั้งอาจมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ใช้เครื่องบินพ่นละอองอาวุธเคมีให้ตกลงสู่พื้นดิน หรือประกอบเป็นวัตถุระเบิด ฯลฯ กรณีที่เกิดขึ้นในซีเรียมีคนตายเยอะเป็นหลักพันคน แสดงว่าการใช้สารเคมีพิษต้องกินพื้นที่วงกว้าง รายงานยังไม่ระบุชัดเจนว่าถูกโจมตีอย่างไร” ม.จ.เฉลิมศึกกล่าว

ด้านเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญการต่อต้านก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ วิเคราะห์ให้ฟังว่า เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ หน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐอเมริกา ประเมินว่ากลุ่มอัล-ไกดามีการพัฒนาอาวุธเคมีชีวภาพและอาวุธนิวเคลียร์เพื่อใช้โจมตีอเมริกา แต่ยังไม่รู้ว่าขีดความสามารถของอาวุธเหล่านี้ทำลายล้างได้มากขนาดไหน แต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อิรักสามารถจับกุมสมาชิกกลุ่มอัล-ไกดาได้พร้อมเปิดโปงแผนการลักลอบขนถ่ายอาวุธเคมีไปยังยุโรปและอเมริกาเหนือ

“กรณีของซีเรีย หลายคนเชื่อว่าเป็นแก๊สซาริน เพราะผลิตง่ายและใช้ง่าย สำหรับประเทศไทยยังไม่มีรายงานข่าวเรื่องการแอบผลิตอาวุธเคมีหรือการลักลอบนำอาวุธเคมีเข้ามา แต่อดเป็นห่วงไม่ได้เพราะเทรนด์หรือกระแสการใช้อาวุธเคมีอาจกลายเป็นที่นิยมของผู้ก่อการร้ายสมัยปัจจุบัน เราคงต้องหาวิธีป้องกันและติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด” ผู้เชี่ยวชาญข้างต้นกล่าวทิ้งท้าย

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2556 กระทรวงกลาโหมอิรัก แถลงข่าวจับกุมเครือข่ายอัล-ไกดาได้ 5 คน ระหว่างการลับลอบขนอาวุธเคมีจากอิรักไปยุโรปและอเมริกาเหนือ

สายลับเฝ้าติดตามกลุ่มนี้นานกว่า 3 เดือน ก่อนจะเข้ายึดของกลางได้จำนวนมาก เป็น แก๊สซาริน แก๊สมัสตาร์ด และเครื่องมือที่ใช้ในห้องแล็บสำหรับผลิตอาวุธเคมี รวมถึงเครื่องบินบังคับวิทยุที่สามารถใช้ปล่อยแก๊สพิษได้ในระยะไกลเกือบ 2 กิโลเมตร

พิษร้าย.. ซาริน

แก๊ส (Sarin Gas) เป็นสารทำลายประสาท ลักษณะเป็นของเหลว ไร้สี ไร้กลิ่นสามารถเข้าสู่ร่างกายด้วยวิธีการดูดซึมทางลมหายใจหรือผิวหนัง ความเร็วในการออกฤทธิ์รวดเร็วและรุนแรง หากสูดดมเข้าไปโดยตรง เพียงแค่ 70 มก.ทำให้เสียชีวิตได้ หากเหยื่อบางคนได้รับเข้าไปไม่มากอาจจะรอดชีวิตแต่จะกลายเป็นอัมพาต

อาการเบื้องต้นเมื่อร่างกายรับสารพิษซารินเข้าไป จะมีอาการน้ำมูกไหล ม่านตาหด แน่นหน้าอก คลื่นไส้ อาเจียน ชักกระตุก ระบบควบคุมของร่างกายใช้การไม่ได้ ระบบหายใจล้มเหลว

ประเทศไทยให้สัตยาบันต่อ "อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี" ตั้งแต่วันที่10 ธันวาคม 2545 ในฐานะรัฐภาคี ไทยจะต้องดำเนินการปฏิบัติให้เป็นไปตามพันธกรณี และข้อกำหนดต่างๆ ที่ระบุไว้ในอนุสัญญาฯ เช่นมีหน้าที่รวบรวม เฝ้าตรวจและติดตามการนำเข้าสารเคมีที่กำหนดในบัญชี และควบคุมดูแล แผนการทำลายอาวุธเคมีต่างๆ

ประเทศซีเรียไม่เข้าร่วมเป็นภาคีในอนุสัญญาฯ มีข่าวลืออ้างว่ารัฐบาลซีเรียมีหัวเชื้อแก๊สพิษซาริน แก๊สพิษมัสตาร์ดไว้ในครอบครองเป็นจำนวนมาก
..............................

 

ศูนย์เตือนภัย พิบัติโลก ได้แชร์ลิงก์
13 ชั่วโมงที่แล้ว
23\8\2013 แผนที่เส้นทางฝุ่นละอองจากดาวตกเลียบินส

<iframe src="//player.vimeo.com/video/72999869" width="400" height="300" frameborder="0" webkitallowfullscreen mozallowfullscreen allowfullscreen></iframe>

 

ไฟป่าแคลิฟอร์เนียลามใกล้อ่างเก็บน้ำที่หล่อเลี้ยง “ซานฟรานซิสโก”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 สิงหาคม 2556 10:06 น.



ภาพถ่ายจากดาวเทียมเทอร์ราขององค์การนาซา เผยให้เห็นแนวไฟป่า "ริมไฟร์" ที่กำลังคุโชนอยู่บริเวณอุทยานแห่งชาติโยเซมิติ รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(25)

รอยเตอร์ – สถานการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งล่วงเข้าสู่วันที่ 10 ยังคงน่าเป็นห่วง โดยล่าสุดไฟได้เผาผลาญพื้นที่ป่าทั้งในและรอบๆอุทยานแห่งชาติโยเซมิติ (Yosemite) และกำลังลามเข้าถึงอ่างเก็บน้ำที่ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคของชาวนครซานฟรานซิสโก

ไฟป่า “ริมไฟร์” อยู่ห่างจากอ่างเก็บน้ำเฮ็ตช์เฮ็ตชี (Hetch Hetchy) ที่กั้นแม่น้ำทูอาเลอมีในรัศมีไม่เกิน 1 ไมล์เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้(26) ทำให้หลายฝ่ายวิตกว่าจะมีเถ้าถ่านตกลงไปในทะเลสาบฝีมือมนุษย์ซึ่งเป็นที่มาของน้ำประปาร้อยละ 85 ที่ชาวซานฟรานซิสโก 2.6 ล้านคนและในอีก 3 เทศมณฑลใกล้เคียง ใช้ซักล้างดื่มกินอยู่ทุกวันนี้

เมื่อวันเสาร์(24) แนวของไฟป่ายังอยู่ห่างจากอ่างเก็บน้ำไปมากกว่า 4 ไมล์

ซูซานน์ โกเทียร์ โฆษกหญิงจากคณะกรรมาธิการสาธารณูปโภคแห่งซานฟรานซิสโก ระบุว่า แต่ละวันน้ำจากอ่างเก็บน้ำเฮ็ตช์เฮ็ตชีประมาณ 300 ล้านแกลลอนจะถูกส่งผ่านท่อไปยังบริเวณอ่าวซานฟรานซิสโก ซึ่งจากการตรวจสอบคุณภาพน้ำตลอด 10 วันที่เกิดไฟป่าขึ้นพบว่ายังไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์

“เรายังไม่พบสิ่งที่บ่งชี้ว่าคุณภาพน้ำเปลี่ยนแปลงไป และยังสามารถแจกจ่ายน้ำประปาให้แก่ประชาชนได้ตามปกติ” โกเทียร์ เผย

เธอชี้แจงด้วยว่า หากพบว่ามีเถ้าถ่านจากไฟป่าตกลงไปในอ่างเก็บน้ำเฮ็ตช์เฮ็ตชี น้ำก็จะถูกผันไปยังอ่างเก็บน้ำขนาดย่อมบริเวณ เบย์ เอเรีย เพื่อผ่านโรงกรองน้ำในท้องถิ่น ก่อนจะจ่ายออกไปให้ประชาชนใช้อุปโภคบริโภค

ไฟป่าริมไฟร์ซึ่งได้ชื่อตามจุดชมวิว “ริมออฟเดอะเวิลด์” ในอุทยานแห่งชาติสตานิสเลาส์ (Stanislaus) ที่เป็นต้นเพลิง สร้างความเสียหายต่อโรงไฟฟ้าพลังน้ำไปแล้ว 2 แห่งจากทั้งหมด 3 แห่งที่เชื่อมโยงกับอ่างเก็บน้ำเฮ็ตช์เฮ็ตชี โดยโรงไฟฟ้าทั้งสามนี้มีหน้าที่ผลิตพลังงานและจ่ายไปไฟยังหน่วยงานสาธารณะทุกแห่งในนครซานฟรานซิสโก เช่น โรงเรียน และสำนักงานดับเพลิง เป็นต้น

โกเทียร์ ระบุว่า ระหว่างนี้ทางการเมืองซานฟรานซิสโกใช้วิธีจ่ายไฟสำรองที่เก็บไว้ใช้สำหรับกรณีฉุกเฉิน และซื้อไฟฟ้าเสริมจากภายนอกเพื่อทดแทนพลังงานส่วนที่ขาดหายไป

สถานการณ์ไฟป่าครั้งนี้ยังทวีความรุนแรง เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งจัดในฤดูแล้ง บวกกับจุดที่เกิดไฟป่าเป็นพื้นที่ซึ่งเข้าถึงได้ยาก

เมื่อช่วงเช้าวานนี้(26) พนักงานดับเพลิงได้ใช้เครื่องมือทั่วไปร่วมกับรถตักดินและเฮลิคอปเตอร์บรรทุกน้ำ ทำแนวกันไฟได้แล้วประมาณร้อยละ 15 เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันอาทิตย์(25) ประมาณเท่าตัว ทว่าไฟก็ยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

 

สื่อญี่ปุ่นแฉ “เกาหลีเหนือ” เคยส่งออก “หน้ากากกันแก๊สพิษ” ให้รัฐบาลซีเรีย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 สิงหาคม 2556 14:04 น.

เอเอฟพี – เกาหลีเหนือเคยพยายามส่งออกหน้ากากกันแก๊สพิษไปยังซีเรีย แต่ถูกตรวจจับได้เสียก่อนที่ตุรกีพร้อมกับอาวุธและกระสุนปืนอีกเป็นจำนวนมาก หนังสือพิมพ์ซันเกอิชิมบุนในญี่ปุ่น รายงานวันนี้(27) ขณะเดียวกันกับที่สหรัฐฯขู่จะส่งทหารเข้าตอบโต้การใช้อาวุธเคมีสังหารพลเมืองในซีเรีย

ซันเกอิชิมบุนอ้างข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งระบุว่า เรือ อัล เอ็น ติ ซาร์ สัญชาติลิเบีย นำสินค้าเดินทางออกจากเกาหลีเหนือเพื่อไปยังซีเรียเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

กองทัพสหรัฐฯซึ่งทราบข่าวกรองล่วงหน้าได้ร่วมมือกับประเทศพันธมิตรติดตามเส้นทางของเรือลำนี้ และพบว่าเรือแล่นผ่านช่องแคบดาร์ดะเนลส์ของตุรกี เมื่อวันที่ 3 เมษายน

เจ้าหน้าที่ตุรกีซึ่งได้รับแจ้งข้อมูลจากสหรัฐฯได้เข้าตรวจค้นภายในเรือ พบปืนไรเฟิลและปืนสั้นจำนวน 1,400 กระบอก กระสุนอีกราว 30,000 นัด รวมไปถึงหน้ากากกันแก๊สพิษซึ่งใช้เพื่อป้องกันสารเคมีโดยเฉพาะ สื่อญี่ปุ่นเผย

สหรัฐฯเชื่อว่าเรือลำนี้น่าจะมีเจตนาขนถ่ายสินค้าลงที่ตุรกี ก่อนจะขนไปต่อทางบกจนกระทั่งถึงมือรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด

ซันเกอิ ชิมบุน รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตุรกีได้จับกุมและตั้งข้อหาต่อกัปตันเรือ หลังสอบเค้นจนยอมรับว่านำเรือออกจากเกาหลีเหนือเพื่อจัดส่งอาวุธไปยังซีเรีย

เกาหลีเหนือเองก็ถูกองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ห้ามนำเข้าและส่งออกอาวุธโดยเด็ดขาด หลังเปียงยางยังดึงดันทดลองระเบิดนิวเคลียร์และยิงจรวดพิสัยไกล ซึ่งหากข่าวนี้ได้รับการยืนยัน รัฐบาลโสมแดงอาจจะเผชิญบทลงโทษที่หนักหนาสาหัสกว่าเก่า

เกาหลีเหนือและซีเรียมีสายสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกันมานานหลายปี รวมถึงในช่วงที่เกิดกระแสปฏิวัติประชาธิปไตยในโลกตะวันออกกลาง 2 -3 ปีมานี้ โดยมีข่าวว่าเกาหลีเหนือช่วยซีเรียซ่อมแซมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ถูกอิสราเอลทิ้งระเบิดจนเสียหายเมื่อปี 2007

กระแสต่อต้านซีเรียปะทุรุนแรงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีข่าวว่าพลเรือนชานกรุงดามัสกัสถูกอาวุธเคมีสังหารกว่า 1,300 คน เมื่อวันพุธที่แล้ว(21) ซึ่งทั้งกบฏและชาติตะวันตกพร้อมใจกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของทหารอัสซาด

ซันเกอิชิมบุนเป็นหนังสือพิมพ์ 1 ใน 5 ฉบับที่มีผู้อ่านมากที่สุดในญี่ปุ่น และลงบทความพิเศษเกี่ยวกับเกาหลีเหนืออยู่เป็นประจำ แม้ถ้อยคำที่ใช้จะรุนแรงแข็งกร้าว แต่ข้อมูลที่สื่อฉบับนี้นำเสนอก็ค่อนข้างเป็นที่เชื่อถือ

 

The Event ได้แชร์ลิงก์ผ่าน Tribulation Now
5 ชั่วโมงที่แล้ว


การโจมตี ซีเรียจะเริ่มต้นในอีก 48 ชั่วโมง

Attack on Syria may start within the next 48 hours
Publication time: 26 August 2013, 20:33

The editor of one of most well-known newspapers in the Arab world; Al-Quds al-Arabi, Bari Atwan wrote on his Facebook page, that the next 48 hours will be crucial in modern history of the Middle East and the world.

At the moment, Obama holds a meeting with representatives of American military and political establishment, discussing the Syrian crisis after the use of chemical weapons by Assad in eastern Ghuta.

Atwan said that a probability of the use of force by Americans - without waiting for the results of the international independent investigation commission - is "very high".

The American debates virtually coincide with a meeting between the military leadership of America, France, Britain, Saudi Arabia and Qatar on August 26 in Amman. According to The Sunday Times, a possible target of attack on the Syrian coast by the American navy as well as the no-fly zone for Assad have been agreed upon between Americans and Britons.

The next 48 hours will be decisive if Obama comes to a conclusion that Syria has "crossed the red line" and gives green light to bomb Syrian airports and military bases. This, in turn, could cause a chain reaction that will lead to the beginning of World War III, as Syria's allies - Russia, Iran and China - will probably not sit idly by.

Meanwhile, Russia has already said it is not going to wage a war with anyone because of Syria. This statement was made on August 26 at a press conference by the criminal leader of Putin's foreign ministry Lavrov.

"We're not going to wage a war with anyone", he said, answering a question what Russia undertakes if Western countries begin military strikes against Syria. According to him, the new act of intimidation, similar to that which took place in Iraq a decade ago, is aimed against Syria, but it is not yet possible to predict the developments of the situation.

"Making predictions is a thankless task. The intimidation campaign has already begun, the events in Iraq ten years ago and in Libya more recently began the same way", Lavrov said, responding to a question if, in his opinion, there'll be soon a strike on Syria.

In this case, the whole story about the use of chemical weapons in Syria is aimed at disrupting "the Geneva-2", the Putin's thug Lavrov claimed.

In turn, Bari Atwan writes that if the Syrian regime gets a guilty verdict, it will not stop before using its chemical weapons on a much larger scale against its opponents.

The Arab journalist said that the case could end up an all-out war in the third world, and all parties, and, above all, Russia and America need to start urgently the Geneva conference to find a political solution and solve the issue as quickly as possible.

For the Syrian regime, on the other hand, it is time to realize that it can not win a military victory, whatever it does, whatever weapons it uses, and how weak and fragmented the opposition is.

The situation was out of control before the use of chemical weapons, and the prospect of an American military intervention becomes more realistic, says the editor of Al-Quds al-Arabi.

Department of Monitoring
Kavkaz Center

 

Earthquake Alarm ได้แชร์ รูปภาพ ของ The Weather Channel
8 ชั่วโมงที่แล้ว

การลุกไหม้ของไฟป่าที่อุทยานแห่งชาติโยเซมิ นับได้ว่าเป็นการเกิดเพลิงไหม้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ท่านจะดูสิ่งที่อาจเกิดขึ้นต่อไปได้ที่ : Yosemite Wildfire Update: San Francisco's Water Source Under Threat - weather.com Yosemite Burns!

A wildfire burning at Yosemite National Park is already one of the biggest fires in California's history. See what could happen next: Yosemite Wildfire Update: San Francisco's Water Source Under Threat - weather.com Yosemite Burns!

 

Earthquake Alarm
8 ชั่วโมงที่แล้ว (8 hours ago)

 

การเกิด และการตายเป็นเรื่องธรรมดาของโลก

 

ยามมนุษย์อยู่ในฐานะลำบาก เราก็รอดูใจเพื่อนมนุษย์ต่างดาว ว่าจะดูดาย
หรือมาสงเคราะห์สัตว์โลกตาดำดำ
มนุษย์บนโลกได้เเต่นั่งตาปริบๆ
เพราะด้วยกันต่างก็ตกอยู่ในสถานะเดียวกัน!?!!!

 

http://palungjit.org/attachments/a.2829876/


Piyacheep S.Vatcharobol
Siripol Pong ได้โพสต์ไปยังสถานีถ่ายทอดสัญญานภาค โพลชิพ

Mystery 'meteor' flashes over Canary Islands - The Local

อ่านที่โป้งโพสมา ตรวจสอบข้อมูลอวกาศ พบเป็นอุกาบาต
ตกที่ชายฝั่งอาฬฟิริกาใต้มอร๊อคโค ที่เป็นหมู่เกาะของสเปญ

คงมีตกหลายที่ ที่ไม่มีคนเห็น หรือ มีคนเห้นเช่นนี้
แต่มาแบบแว๊ปเดียว เพราะเป็นลูกเล็ก ระเบิดสว่างไปทั่ว
หากเป็นลูกใหญ่ไม่ระเบิด แต่เป็นหางยาวแบบที่รัสเซีย
แล้วตกลงดิน ก้คือ นิวเครียย่อมๆตามขนาดของอุกาบาต
หากตกลงน้ำก็เบาหน่อย เป็นแค่สึนามิ หรือ ทิดาเวฟ

ที่ต้องการสื่อวันนี้คือ มันเริ่มเกิดขึ้นเรื่อยๆแล้วใช่ไหม?
เตรียมแผนการรองรับ เป้ฉุกเฉินกันไว้หรือยัง?

นอกจากภัยธรรมชาติแล้ว ภัยของสงครามตะวันออกกลาง
ที่ต้องลุกลามเป็นสงครามโลกแน่นอน
เราเตรียมรับสภาพกันหรือยัง? น้ำมันแพง แก๊สแพง
อาหารการกินหายาก และหากจีนประกาศสงครามกับสหรัฐ
สยามประเทศจะเป้นเป้าหมายการโจมตีด้วย
ทั้งจากจีน และ จากประเทสมุสลิม
ทั้งรบในแบบ และสถานการณ์ก่อการร้าย

ลองถามผู้สูงอายุ ๘๐ ปี ขึ้นไปว่า สงครามโลกครั้งที่ ๒
ชาวสยามลำบากแสนสาหัสกันขนาดไหน?
สงครามโลกครั้งที่ ๓ หนักกว่าเป็นพันเท่า
ด้วยอนุภาพของอาวุธ และความโหดเหี้ยมของจิตใจมนุษย์

ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ต่อ ๒๕๕๗ และอาจต่อไปอีก หลายปี
เราจะต้องผจญกับความลำบากยากแค้นแสนสาหัส
วิถีคนเมืองต้องปรับสู่เกษตรกรรม
ท่านพร้อมทำการเกษตร กินอาหารเจหรือมังสวิรัสกันแล้วหรือยัง?

วางแผนปรับสภาพจิตใจ
วางแผนปรับสภาพแวดล้อมกันแต่วันนี้นะครับ

เดือนกันยายนนี้ ดวงอาทิตย์เข้าสู่ระยะสุดท้ายของการสลับขั้วสนามแม่เหล็กจากเหนือไปใต้ จากใต้ไปเหนือ

เดือนกันยายนนี้ โลกก็เข้าสู่ระยะสุดท้ายของการสลับขั้วสนามแม่เหล็กโลกจากขั้วโลกใต้ไปขั้วโลกเหนือ จากขั้วโลกเหนือไปขั้วโลกใต้ ระยะเวลาที่ขั้วสนามแม่เหล็กเคลื่อนย้ายจริงจังนั้น โลกจะแทบไม่มีสนามแม่เหล็กคอบปกป้องคุมครองโลกจากพลังงานภายนอกเลย นักวิทยาศาสตร์คาดว่ามันจะเลวร้ายมาก
แต่เลวร้ายแค่ไหนก็ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้แบบเห็นภาพ
เพราะประวัติศาสตร์ที่บันทึกได้ไม่ปรากฏรายละเอียด
นอกจากภาพวาดตามถ้ำต่างๆ เมืองโบราณในหุบเขาต่างๆ
และเมืองโบราณลึกลงไปใต้ดินในทวีปต่างๆ

จิตอาสาทุกกลุ่มต้องศึกษาความเป็นไปของโลกให้ดีให้มากๆ
ภัยพิบัติคงไม่สนุกเหมือนการออกช่วยเพื่อนมนุษย์ แมว หมา
ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ และ พ.ศ. ๒๕๕๔
ความรุนแรงมากกว่ากันมากมาย และที่สำคัญ
โอกาสแผ่นดินไหว ในขณะที่น้ำกำลังท่วมขังในกรุงเทพมหานครในช่วงเดือนกันยายนถึง ธันวาคมนี้มีสูงมาก

ดูเมฆ ดูแดง ดูดาวกันให้ดีนะครับ จดบันทึก ถ่ายภาพวันต่อวัน อาทิตย์ต่ออาทิตย์ แล้วลองสรุกด้วยตัวท่านเองซิว่า

พลังงานไฟฟ้าในอากาศ พลังงานสนามแม่เหล็กในอากาศ
การปะทุกันของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าในอากาศมีมากขึ้นไหม?

เพื่อหาคำตอบให้กับตัวท่านเองนะครับ

Mystery 'meteor' flashes over Canary Islands
Published: 26 Aug 2013 17:29 GMT+02:00 | Print version
Updated: 26 Aug 2013 17:29 GMT+02:00

Share on reddit More Sharing Services
Social media was set ablaze after witnesses reported a light as bright "as if it was daytime" at 10.35pm local time on Sunday over the north of the Canary Islands.

'Spain to Space' balloon ride nears lift off (08 Jul 13)

A green light "brighter than the day" and lasting three seconds was reported by pilots and witnesses on the ground.

The official Twitter account of Spain's Air Traffic Control (@controladores) was the first to break the news, according to The Huffington Post.

"Various aircraft over the north of the Canary Islands just reported a bright light, lasting 3 seconds, as if it was daytime," it tweeted.

It then added: "From the descriptions given by pilots it was probably a meteorite. Even so, protocols oblige that the military be informed"

Witnesses described the phenomenon as "a white light coming down, with a long tail, falling."

Javier Licandro, of the Canaries Institute of Astrophysics (IAC), told the press that it was most likely a meteoroid of the kind that broke up in the atmosphere, rather than a meteorite which survives contact with the ground.

Nevertheless, he did not discount the possibility that it was the remains of an old satellite.

Licandro said that he would check the data recorded by the observatories on La Palma and Tenerife to see if they had registered the phenomenon.

Twitter was soon full of people describing what they had seen.

@German_Herrera1 wrote: "I saw it from my house in La Laguna, a green light lasting three seconds. Impressive!"

There has so far been no official explanation given.

Steve Tallantyre (news@thelocal.es)

 

Newsmania

ภาพพายุทรายในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา วานนี้ (26 สิงหาคม 2556)
รูปภาพบนไทม์ไลน์ · 2 ชั่วโมงที่แล้ว ·
ดูภาพขนาดเต็ม · ส่งเป็นข้อความ · รายงานรูปภาพ

 

RadChick Radiation Research & Mitigation
40 นาทีที่แล้ว ·

น้ำใต้ดิน @ ฟูกูชิม่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว, ขาดเพียง. 10 เซนติเมตรจากผิว
Groundwater @ Fuku rising fast, now just 10 inches from surface

ระดับน้ำใต้ดินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่วันที่. 20 สิงหาคม 2556 โดยสาเหตุไม่เกี่ยวกับฝนตกในกรณีนี้ ในเวลานี้ระดับน้ำใต้ดินได้เพิ่มขึ้นขาดอีก 25 เซนติเมตรก็จะถึงผิวหน้าพื้นดิน
Tepco Handouts (Fukushima Diary: “Groundwater level at one of the borings has been jumping up since 8/20/2013 for some reason. There was no rainfall in this term according to Tepco. This time, the groundwater level came up to 25cm to the surface of the ground"

http://www.tepco.co.jp/en/nu/fukushima-np/handouts/2013/images/handouts_130823_04-e.pdf