เด็กฝึกหัด อยากรู้ความหมายของคำบางคำที่ใช้ใน พระพุทธศาสนา

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย รอดป่อง, 31 สิงหาคม 2013.

  1. รอดป่อง

    รอดป่อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2013
    โพสต์:
    292
    ค่าพลัง:
    +2,473
    กราบสวัสดีทุกๆท่าน ที่แวะเข้ามาครับ ผมเป็นคนไทยร้อยเปอร์เซนร์ และตั้งแต่จำความได้ผมก็นับถือศาสนาพุทธเรื่อยมา แต่ก็ยังสับสนกับภาษาบางภาษา และคำบางคำในคำสอนของพระสมณโคดม คือพูดง่ายๆว่าไม่เข้าใจในความหมายนะครับ ยกตัวอย่างเช่นคำว่า มรรค โลกุตตระ สมุทัย อะไรทำนองนี้ ขอความกรุณาทุกๆท่านช่วยชี้แจงแถลงไข ไห้ข้าพเจ้าได้รู้แจ้งจักเป็นบุญ และพระคุณอย่างสูงครับ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ ปล.เจอคำไหนไม่เข้าใจจะเข้ามาถามเรื่อยๆนะครับ
     
  2. เก้าช่อง

    เก้าช่อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    917
    ค่าพลัง:
    +3,058
    มรรค ทาง,หนทาง
    1.มรรคว่าโดยองค์ประกอบ คือ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ เรียกเต็มว่า อริยอัฎฐังคิกมรรค แปลว่า "ทางมีองค์ 8ประการอันประเสริฐ" เรียกสามัญว่า มรรคมีองค์ 8
    1.1สัมมาทิฎฐิ ความเห็นชอบ
    1.2 สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ
    1.3สัมมาวาจา เจรจาชอบ
    1.4สัมมากัมมันตะ ทำการชอบ
    1.5สัมมาอาชีวะ เลี้ยงชีพชอบ
    1.6สัมมาวายามะ เพียรชอบ
    1.7สัมมาสติ ระลึกชอบ
    1.8 สัมมาสมาธิ จิตตั้งมั่นชอบ
    2.มรรคว่าโดยระดับการให้สำเร็จกิจ คือทางอันให้ถึงความเป็นอริยะบุคคลแต่ละขั้น, ญานที่ทำให้ละสังโยชน์ให้ขาดเป็นชื่อแห่งโลกุตตรธรรมคู่กับผล มี 4 ขั้น โสดาปัตติมรรค 1, สกทาคามีมรรค 1, อนาคามีมรรค 1, อรหัตมรรค1; คู่กับผล

    พจนานุกรมพุทธศาตร์ ฉบับประมวลศัพท์
    พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กันยายน 2013
  3. Greenshade

    Greenshade เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +103
    โลกุตตระ (อ่านว่า โลกุดตะระ) มีความหมายว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางโลก
    มักใช้ คู่กับคำว่า โลกิยะ ซึ่งแปลว่า ยังเกี่ยวข้องกับโลก


    โลกุตรธรรม จึงหมายถึงธรรมะที่เป็นแนวทางเพื่อการหลุดพ้นจากโลก รวมถึงภพภูมิต่างๆ
    และเป็นธรรมะที่ทำให้เข้าถึงนิพพานโดยตรง

    โลกุตรธรรม มี 9 ประการได้แก่ อริยมรรค 4, อริยผล 4, นิพพาน 1 โดยมีรายละเอียดดังนี้

    - อริยมรรค 4 คือ โสดาปัตติมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามิมรรค อรหัตมรรค
    - อริยผล 4 คือ โสดาปัตติผล สกิทาคามิผล อนาคามิผล อรหัตผล


    อ้างอิง
    ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548
     
  4. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,613
    ขออนุโมทนาในการใฝ่หาความรู้ของท่านเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ คำศัพท์และความหมายทางพุทธศาสนาหรือคำในพระอภิธรรมต่าง ๆ สามารถค้นหาได้ในพจนานุกรมพุทธศาสน์ของท่านพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต) ได้ทุกคำค่ะ ในหน้าเว็บพลังจิตก็มีนะคะ มุมบนขวาของเว็บคลิกคำว่าพจนานุกรม ก็สามารถค้นหาคำต่าง ๆ ที่ต้องการทราบความหมายได้เลยค่ะ
     
  5. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,459
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ขอแนะนําอะไรน้อง lawee หน่อยครับ คือถ้าสมมุติน้องอยากรู้ความหมายของคําไหนในพระพุทธศาสนา เข้ามาใน www นี้ได้เลยครับ พี่ลองหาคําว่า มรรค ให้น้องดู ตามข้างล่างนี้ครับ คือถ้ามีคําไหนที่เราอยากจะรู้ความหมาย ยังไงก็ลองเข้าไป search ใน www นี้ได้ครับ ส่วนใหญ่จะมีดั่งตัวอย่างข้างล่างครับ พี่ก็ใช้วิธีนี้ประจําครับ อนุโมทนาครับ ขอให้โชคดีครับ


    มรรค

    คำแปล

    [มัก] (มค. มคฺค; สก. มารฺค) น. ทาง; ในพระพุทธศาสนาหมายถึง ธรรมอันฆ่าเสียซึ่งกิเลส, ธรรมอันยังกิเลสให้ตาย, เป็นชื่อแห่งโลกุตรธรรม คู่กับผล มี ๔ ชั้น คือ โสดาปัตติมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามิมรรค อรหัตมรรค, เป็นชื่อแห่งอริยสัจที่ ๔ เรียกว่ามรรคสัจ (เหมือน มรรค).

    ที่มา : http://guru.sanook.com/search/knowledge_search.php?qID=&wi=&hnl=&ob=&asc=&q=%C1%C3%C3%A4+&select=1
     
  6. รอดป่อง

    รอดป่อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2013
    โพสต์:
    292
    ค่าพลัง:
    +2,473
    ขอขอบพระคุณพี่ buakwun มากๆเลยครับ ที่แนะนำครับ ผมเพิ่งสมัครสมาชิค palungjit ได้ไม่นานเท่าไร ยังใช้งานไม่คล่อง เลยไม่รู้ ขอบคุณที่บอกช่องทางไห้ครับ อนุโมทนาบุญครับ
     
  7. รอดป่อง

    รอดป่อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2013
    โพสต์:
    292
    ค่าพลัง:
    +2,473
    ขอบพระคุณทุกๆท่านนะครับ ที่ช่วยตอบและแนะนำ ขอบุญกุศลในการไห้ความรู้นี้ จงดลไห้ทุกท่าน สุขภาพดี สติปัญญาดี เจริญดี ทั้งทางโลกและทางธรรม อนุโมทนาครับ
     
  8. นาย หวังดี

    นาย หวังดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2013
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +1,272
    มีศิล สมาธิ ปัญญา ลงตัวในมรรค จะได้ไม่งง สมุทัย สาเหุตของความทุกข์ เรียก สมุทัย โลกุตตระ ใช้เรียกตั้งแต่ พระโสดาบัน ขึ้นไป
     
  9. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    มรรค คือทางสายเดียวเพื่อความพ้นทุกข์ เป็นทางสายเอกสายเดียวที่จะนำไปสู่ความพ้นทุกข์ เมื่อเดินอยู่ในทางสายเอก ก็ไปถึงธรรมที่เป็นเอก ธรรมที่เป็นหนึ่ง (คือพระนิพพาน) มรรคมีองค์ ๘ แจกเป็นสัจจะละ ๓ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา แจกเป็นสัจจะละ ๒* คือ สมถะและวิปัสสนา

    สมุทัย คือการละ มีความอยากทีไรก็มีความทุกข์ขึ้นมาทุกที ตัณหาเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ แจกเป็นสัจจะละ ๓ คือ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน แจกเป็นสัจจะละ ๒* คือ อวิชชา ภวตัณหา

    โลกุตตระ คือความพ้นจากโลก เหนือโลก พ้นวิสัยของโลก ไม่เนื่องในภพทั้ง ๓


    *จากพระสุตตันตปิฏก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ สฬายตนวิภังคสูตรที่ ๗
     
  10. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493

    มรรค ได้แก่ ข้อปฏิบัติ วิธีปฏิบัติ ทาง

    สมุทัย ได้แก่ ตัณหา

    เมื่อปฏิบัติไปๆจนกระทั่งๆ กำจัดตัณหา ซึ่งเป็นต้นเหตุของทุกข์ได้สิ้น = นิโรธ (= นิพพาน) จิตใจจึงอยู่เหนือโลกธรรม ไม่หวั่นต่อโลกธรรม 8 ประการ = โลกุตระ ก็จึงอยู่ในโลกมนุษย์นี้ด้วยจิตใจที่โปร่งโล่งเป็นอิสระ ไม่่ต้องดิ้นรไปโลกไหนๆดอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2013
  11. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    พระวจนะ" ภิกษุทั้งหลาย พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ใดใด ได้ตรัสรู้ตามเป็นจริงไปแล้ว ในกาลยืดยาวนานฝ่ายอดีต ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ได้ตรัสรู้ตามที่เป้นจริง ซึ่งความจริงอันประเสริฐสี่อย่าง ภิกษุทั้งหลาย พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ใดใด จักได้ตรัสรู้ตามเป็นจริง ต่อกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ก็จักได้ตรัสรู้ตามที่เป้นจริง ซึ่งความจริงอันประเสริฐสี่อย่าง ภิกษุทั้งหลาย แม้พระอรหันตสัมมาสัมพุทธะ ผู้ตรัสรู้ตามที่เป็นจริงอยู่ ในกาลเป้นปัจจุบันนี้ ก็ได้ตรัสรู้อยู่ ซึ่งความจริงอันประเสริฐสี่อย่าง ความจริงอันประเสริฐสี่อย่างนั้น เหล่าใหนเล่า สี่อย่างคือ ความจริงอันประเสริฐคือทุกข์ (ทุกข์อริยสัจจ์) ความจริงอันประเสริฐคือเหตุให้เกิดทุกข์ (ทุกขสมุทัยอริยสัจจ์) ความจริงอันประเสริฐคือความดับไม่เหลือของทุกข์ (ทุกขนิโรธอริยสัจจ์) และความจริงอันประเสริฐคือทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์ (ทุกขนิโรธคามินีปฎิปทาอริยะสัจจ์) ..................ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้น ในกรณีนี้ พวกเธอพึงทำความเพียรเพื่อให้รู้ตามเป็นจริงว่า นี้เป็นทุกข์ นี้เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ นี้เป้นความดับไม่เหลือของทุกข์ และนี้เป้นทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์ ดังนี้เถิด--มหาวาร.สํ.19/543/1704..
     
  12. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    โลกุตรธรรม 9 พออธิบายให้ละเอียดกว่านี้ได้มั๊ยครับ พอดีอยากทราบโดยพิสดาร
     
  13. รอดป่อง

    รอดป่อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2013
    โพสต์:
    292
    ค่าพลัง:
    +2,473
    !!!เออ!!!??อะไรครับนี่ ต้องขออภัยจริงๆครับ ภาษาไทยยังเข้าใจยากเลยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...