เกาะติดสถานการณ์ ดิน น้ำ ลม ฝน พายุ **เฝ้าระวัง !!!!2556(2013)**

อุทยานฯเขาใหญ่เตือนนักท่องเที่ยวระวังอันตรายเล่นน้ำตก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กันยายน 2556 10:30 น.

นายกฤษฎา หอมสุก หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ในระยะนี้มีฝนตกหนักครอบคลุมในพื้นที่อุทยานฯ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ระดับน้ำในแหล่งน้ำตกเหวสุวัต น้ำตกเหวนรก และน้ำตกผากล้วยไม้ มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น และไหลเชี่ยวกราด ดังนั้น จึงขอเตือนนักท่องเที่ยวระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าไปประจำในจุดเสี่ยง พร้อมเตรียมอุปกรณ์ให้การช่วยเหลือไว้ให้กับนักเที่ยวในอุทยานฯ ทุกแห่งตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะเดียวกัน ได้ขอความร่วมมือกับนักท่องเที่ยวอย่าให้อาหารสัตว์ป่า โดยเฉพาะลิงจะทำให้มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป และมีความดุร้ายเมื่อไม่ได้รับอาหาร รวมทั้งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุในบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 30 บนอุทยานฯ ด้วย

 

บก.จร.จับมือ กทม.ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจุดเสี่ยงทั่วกรุง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กันยายน 2556 09:11 น.

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บังคับการตำรวจจราจร กล่าวถึงมาตรการแก้ปัญหาจราจรช่วงฝนตก น้ำท่วมขัง ว่า กองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมกับสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร สำรวจพื้นที่ราบต่ำที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อน้ำท่วมขัง หรือมีน้ำท่วมขังบ่อยครั้ง จำนวน 35 จุด ซึ่งหลังจากกำหนดพื้นที่เรียบร้อยแล้ว กรุงเทพมหานครจะติดตั้งเครื่องสูบน้ำ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ สำนักการระบายน้ำบริหารจัดการ และสำนักงานเขตบริหารจัดการ
ทั้งนี้ กองบังคับการตำรวจจราจร ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรพื้นที่ 88 สถานี ประสานสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ในการสูบน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำท่วมขัง และมีผลกระทบต่อการจราจร
สำหรับจุดเสี่ยงที่เกิดน้ำท่วมขังบ่อยครั้ง อาทิ บริเวณถนนรัชดาภิเษก หน้าสถานทูตจีน ถนนพหลโยธิน แยกเกษตร ถนนงามวงศ์วาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจะประสานไปยังสำนักงานเขตตั้งแต่ฝนเริ่มต้น และมีแนวโน้มผลกระทบกับการจราจร โดยจะประสานระบายน้ำทันที ไม่ต้องรอให้ฝนหยุดตก
นอกจากนี้ ผู้บังคับการตำรวจจราจร กล่าวว่า หากประชาชนต้องการทราบสภาพการจราจร สาามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วน บก.จร. หมายเลข 1197

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"สภาวะฝนในประเทศไทย "
ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 13 กันยายน 2556​

ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดจากหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคกลางผ่านภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง โดยหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคกลางกำลังเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมลงสู่อ่าวมะตะบัน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนล่างรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ชายฝั่งภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังฝนตกหนักในระยะนี้
สำหรับ คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 05.00 น.

(ลงชื่อ) วรพัฒน์ ทิวถนอม

(นายวรพัฒน์ ทิวถนอม)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

​

 

พายุดีเปรสชันเขตร้อน-Man Yi

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"สภาวะฝนในประเทศไทย "
ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 13 กันยายน 2556​

ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และชายฝั่งภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง สำหรับ คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย
อนึ่ง พายุโซนร้อน “มานหยี่” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีทิศทางการเคลื่อนตัวไปยังประเทศญี่ปุ่น พายุนี้

ไม่ผลกระทบต่อประเทศไทย

ประกาศ ณ วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 11.00 น.

(ลงชื่อ) วรพัฒน์ ทิวถนอม

(นายวรพัฒน์ ทิวถนอม)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


​

 

ท่านที่อยู่ในพื้นที่ ระมัดระวังกันด้วยน่ะครับ
โดยเฉพาะที่ที่มีปริมาณฝนสะสม 24 ชม.มากกว่า100มม.

 

<a href="http://pic.free.in.th/id/b63165fc066d7865ecd51f80795fa9ab" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/io/130913012924.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

 

หนองคายฝนตกหนักน้ำท่วมถนน
วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 เวลา 12:08 น.



หนองคายฝนถล่มอย่างหนักตั้งแต่เมื่อคืนนานหลายชั่วโมง ทำให้ระบายไม่ทันเอ่อท่วมถนน เกิดอุบัติเหตุ 1 ราย

ซิ่งฝ่าน้ำท่วมถนนแฉลบตกถนน ระหว่าง กม.7-8 ถนนมิตรภาพ หนองสองห้อง-ท่าบ่อ

เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 56 ที่จังหวัดหนองคาย ได้มีฝนตกอย่างหนักเป็นช่วง ๆ ตั้งแต่เมื่อคืนกระทั่ง 11.00 น.วันนี้จึงหยุด จากปริมาณน้ำฝนที่มีจำนวนมากทำให้เอ่อล้นถนนถนนมิตรภาพสาย 211 บ้านหนองสองห้อง อ.เมืองหนองคาย-อ.ท่าบ่อ บริเวณหน้าศูนย์ฟื้นฟูคนพิการ – ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดหนองคาย ระยะทางประมาณ 80 เมตร ทำให้การสัญจรไปมาเป็นไปด้วยความลำบาก นอกจากนี้ระยะกิโลเมตรที่ 7-8 ได้มีน้ำท่วมถนนเช่นกัน ทำให้รถยนต์กระบะเชฟโรเล็ต 4 ประตู สีดำ หมายเลขทเบียน ฆส – 7464 กรุงเทพมหนคร ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงแฉลบลงข้างทาง เฉียดเสาไฟฟ้า รถได้รับความเสียหาย โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ.


หนองคายฝนตกหนักน้ำท่วมถนน | เดลินิวส์

 

ซ้อมแผนแผ่นดินไหว-อพยพนักเรียนหนีตาย
วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 เวลา 14:11 น.











เทศบาลนครเชียงราย ซ้อมแผนป้องกัน-บรรเทาสาธารณภัย มีการจำลองเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว


เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่อาคารเรียน 4 โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีเกิด เขตเทศบาลนครเชียงราย นายทนง ดอนชัย รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการอบรมพัฒนาประสิทธิภาพพนักงานดับเพลิง และซ้อมแผนป้องกัน-บรรเทาสาธารณภัย มีการจำลองเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเพื่อน ขนาดแรงสั่นสะเทือน 6.9 ริกเตอร์ ส่งผลกระเทือนถึงเขตเทศบาลนครเชียงราย โดยเฉพาะที่โรงเรียนเทศบาล 1 มีอาคารเรียน 4 ที่สูง 4 ชั้น เกิดแตกร้าว เกิดไฟลุกไหม้ มีนักเรียนตึกอยู่บนอาคารเรียนทั้งหมด 15 คน และบาดเจ็บสาหัส 3 คน ต้องขอความช่วยเหลือรถดับเพลิงและหน่วยกู้ภัย จัดกำลังมาอพยพนักเรียนออกจากที่เกิดเหตุ พร้อมช่วยเหลือคนที่ติดอยู่บนอาคารเรียนอย่างเร่งด่วน

นายทนง กล่าวว่า การฝึกซ้อมแผนป้องกันและระงับอัคคีภัย เกิดแผ่นดินไหว ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคณะครู นักเรียน พยาบาลวิชาชีพ อปพร. และทีมกู้ภัยนครเชียงราย ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ได้สมมุติขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใกล้เคียงกับความจริงที่สุด มีการอพยพนักเรียนหนีตายจากที่สูง การลำเลียงคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ทุกคนที่ได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ ได้รับความรู้ ความเข้าใจถึงวิธีการดับเพลิง การช่วยเหลือคนเจ็บ การอพยพผู้คน จะได้นำสิ่งใหม่ๆที่ได้รับจากการฝึกซ้อมในครั้งนี้ ไปถ่ายทอดให้ประชาชน สถานศึกษาอื่นๆ ได้เข้าใจ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจริงจากการฝึกซ้อมในครั้งนี้แต่อย่างไร และบรรลุตามเป้าประสงค์ที่ได้วางไว้.


ซ้อมแผนแผ่นดินไหว-อพยพนักเรียนหนีตาย | เดลินิวส์

 

มั่นใจปี 2556 ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างน้ำไม่ท่วม - ทิศทางเกษตร
วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556




ปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ที่มีผลต่อลุ่มเจ้าพระยา ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2556 เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำ 4,772 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือร้อยละ 35 เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำ 4,646 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 48 เขื่อนกิ่วลม มีปริมาณน้ำ 66 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 62 เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาณน้ำ 413 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 44 และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำ 143 ล้าน ลบ.ม. หรือเพียงร้อยละ 18

5 เขื่อนใหญ่ดังกล่าวมีปริมาณน้ำรวมกันเพียง 10,040 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณร้อยละ 40 ของปริมาณการกักเก็บเท่านั้น ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำได้รวมกันอีกไม่น้อยกว่า 14,700 ล้าน ลบ.ม. ดังนั้นหากพายุหรือฝนตกหนักในพื้นที่เหนือเขื่อน เขื่อนก็จะสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ทั้งหมด

นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่าหากปริมาณน้ำเหนือในปีนี้เท่ากับปี 2554 ก็จะไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ซ้ำรอยอย่างแน่นอน และกรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญพื้นที่ต้นน้ำกลางน้ำ ยังมีพื้นที่รับน้ำได้มีจำนวนมหาศาล โครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยในระยะเร่งด่วนทุกโครงการ ก็จะแล้วเสร็จก่อนเดือนกันยายน 2556 นอกจากนี้ในเกือบทุกลุ่มน้ำ โดยเฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีระบบโทรมาตรที่สมบูรณ์แบบที่สุดซึ่งจะทำให้บริหารจัดการน้ำทั้งลุ่มน้ำสอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้มีการสร้างคันกั้นน้ำ ต่อจากคันกั้นน้ำของกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่สะพานพระราม 5 ไปจนถึง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ถนนของกรมทางหลวงชนบท และกรมทางหลวง เป็นคันกั้นน้ำ โดยจะเสริมและยกระดับให้สูงขึ้น สูงกว่าระดับน้ำท่วมสูงสุดในปี 2554 ประมาณ 50 เซนติเมตร

มีการยกระดับถนนพหลโยธินช่วง อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ให้สูงขึ้นเพื่อเป็นคันกั้นน้ำ มีการสร้างคันกั้นน้ำที่คลองระพีพัฒน์ เพื่อผันน้ำไปยังฝั่งตะวันออก และแม่น้ำนคร นายก ก่อนที่จะออกสู่ทะเลที่แม่น้ำบางปะกง

ถัดจากคลองระพีพัฒน์ลงมา มีการสร้างคันกั้นน้ำตามแนวพระราชดำริ เริ่มจากถนนติวานนท์ บริเวณ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เชื่อมต่อกับคันกั้นน้ำเดิมจนมาถึงสถานีสูบน้ำจุฬาลงกรณ์ จากนั้นก็จะสร้างคันกั้นน้ำตามแนวทิศใต้ของคลองรังสิตประยูรศักดิ์จนถึงคลอง 7 จากคลอง 7 เลี้ยวขวาไปตามถนนเลียบคลอง 7 ฝั่งตะวันออก (ทางหลวงชนบทหมายเลข ปท 3004) จะยกระดับถนนให้สูงขึ้นเพื่อทำเป็นแนวคันกั้นน้ำจนถึงถนนนิมิตใหม่ ซึ่งเป็นคันกั้นน้ำเดิมของกรุงเทพมหานคร จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามถนนประชาร่วมใจ ผ่านประตูระบายน้ำมีนบุรีถึงถนนสุวินทวงศ์ต่อเชื่อมไปยังถนนสุขาภิบาล 3 ถนนร่มเกล้า ไปจนถึงคลองประเวศบุรีรมย์ เชื่อมต่อถนนอ่อนนุช ถนนกิ่งแก้ว ลงทางใต้ต่อกับถนนบางพลี-ลาดกระบัง คันกั้นน้ำตามแนวพระราชดำรินี้ จะช่วยป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพฯ

ด้านนายธนา สุวัฑฒน ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ในฐานะโฆษกกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทานได้เพิ่มศักยภาพการระบายจากน้ำคลองรังสิตประยูรศักดิ์ โดยได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 3 ลบ.ม.ต่อวินาที จำนวน 12 เครื่องที่สถานีสูบน้ำจุฬาลงกรณ์เพิ่มขึ้น อีกทั้งจะดำเนินการปรับปรุงเครื่องสูบน้ำที่มีอยู่เดิม 2 สถานี โดยเปลี่ยนเครื่องสูบน้ำจากขนาด 3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นเครื่องสูบน้ำขนาด 6 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สถานีละ 6 เครื่อง รวม 12 เครื่อง ซึ่งจะทำให้สามารถระบายน้ำจากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้สูงสุดถึง 108 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือคิดเป็นปริมาณน้ำที่ระบายสูงสุดต่อวันถึงประมาณ 9.33 ล้าน ลบ.ม.

นอกจากนี้เพื่อช่วยระบายน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วขึ้น ยังได้ก่อสร้างสถานีสูบน้ำกึ่งถาวรบริเวณปากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ พร้อมกับติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 6 ลบ.ม.ต่อวินาที จำนวน 8 เครื่อง และอยู่ระหว่างการจัดหางบประมาณติดตั้งอีก 12 เครื่อง รวมเป็น 20 เครื่อง ซึ่งจะสามารถสูบน้ำได้ถึง 120 ลบ.ม.ต่อวินาที

ด้านตะวันออกของคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ได้ปรับปรุงสถานีสูบน้ำเสาวภาผ่องศรี บริเวณคลอง 13 ให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ เพื่อสูบน้ำออกไปยังแม่น้ำนครนายก ซึ่งขณะนี้มีเครื่องสูบน้ำขนาด 3 ลบ.ม.ต่อวินาที จำนวน 15 เครื่อง รวม 45 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือประมาณวันละ 3.8 ล้านลบ.ม.กรมชลประทานจึงให้ความมั่นใจว่าในปี 2556 นี้น้ำจะไม่ท่วมพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างรวมทั้งกรุงเทพมหานครเช่นปี 2554 ที่ผ่านมา.

 

วันนี้ กทม.ฝนตกกระจาย 80% ของพื้นที่
วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 เวลา 14:31 น.

วันนี้ กทม.ฝนตกกระจาย 80% ของพื้นที่ จัดเจ้าหน้าที่ได้ประจำจุดอ่อนน้ำท่วม ตลอด ก.ย.นี้ จับตาดูพายุมานหยี่และพายุอุซางิกระทบไทย

เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงสถานการณ์ฝนตกและน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯว่า ในช่วงเช้ายังไม่ได้รับรายงานว่าถนนสายหลักมีน้ำท่วมขังแต่อย่างใด มีเพียงในซอยหมู่บ้านกรุงเทพกรีฑาเท่านั้น นอกจากนี้ กทม. ยังได้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม กทม. ได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว ปัญหารถติดนั้น ต้องยอมรับว่าถึงแม้ว่าฝนจะไม่ตก รถก็ติดเป็นปกติอยู่แล้ว โดยในส่วนของ กทม.ได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ ไปช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกการจราจรทุกวันศุกร์ เพื่อช่วยแก้ปัญหาอีกทางหนึ่ง


ด้านนายอดิศักดิ์ ขันตี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ(สนน.) กทม. กล่าวว่า ในระยะนี้ พื้นที่กรุงเทพฯ ยังคงมีฝนตกกระจายในพื้นที่ ซึ่งตามข้อมูลพยากรณ์อากาศรายงานว่า ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดจากหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคกลางผ่านภาค ตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศ เวียดนามตอนกลาง โดยหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคกลางกำลังเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมลงสู่ อ่าวมะตะบัน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลัง ค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังมีฝนตกชุกหนาแน่น รวมทั้งกทม. ซึ่งในวันนี้มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 80 และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกอ่อน-ปานกลางในพื้นที่ กทม. ปริมาณฝนสูงสุดที่ประตูระบายน้ำคลองสามวา เขตคลองสามวา 75 มิลลิเมตร มม. และจุดวัดน้ำคลองเก้าศรีสุขสถาพร เขตคลองสามวา 72 มม. ทั้งนี้ ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กทม. รายงานจุดน้ำท่วมขังว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย. เกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่ในช่วงบ่าย ประกอบกับฝนที่ตกก่อนหน้านี้ทำให้น้ำในคลองหลายแห่งมีปริมาณสะสมมาก ซึ่งเป็นฝนอ่อนกระจายในพื้นที่ ซึ่งเป็นฝนรำคาญ ส่งผลให้เมื่อช่วงเช้าเกิดรถติดหนักหลายพื้นที่ และทำให้บางพื้นที่เกิดน้ำท่วมขังรอการระบาย อาทิ ถนนสามเสน หน้าโรงเรียนโยธินบูรณะ ถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณวงเวียน-สำนักงานประปา และหน้าโลตัส ถนนวงเวียนบางเขน หน้าสน.บางเขน ถนนเพชรเกษมปากซอย37 ถนนเอกชัยปากซอย62 ถนนบางขุนเทียน แยกถนนพระราม2-ปั้มแก๊ส ถนนพหลโยธิน บริเวณแยกลำลูก-ซอยแอนเน็กซ์ถนนบางบอน1 บ่อสูบบางโคลัด เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ได้ระบายจนแห้งแล้ว อย่างไรก็ตาม สนน.จะทำความสะอาดท่อ ถนนโชคชัย4 หน้าโรงพยาบาลเปาโล ถนนเลียบคลองลำเจียก และบรรจุกระสอบทรายใต้สะพานรัชวิภา พร้อมจะทำความสะอาดท่อระบายน้ำด้วยรถดูดเลน ที่ถนนประเสริฐมนูกิจช่วงคลองบางบัว อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ประจำจุดอ่อนน้ำท่วมขังแล้ว เพื่อเร่งระบายน้ำให้แห้งเร็วที่สุด คาดว่าสภาพเช่นนี้จะมีไปตลอดเดือน ก.ย. นอกจากนี้ยังได้จับตาดูพายุมานหยี่และพายุอุซางิที่กำลังจะเข้าไต้หวัน ที่อาจส่งกระทบต่อประเทศไทย

วันนี้ กทม.ฝนตกกระจาย 80% ของพื้นที่ | เดลินิวส์

 

จับตาหย่อมความกดอากาศต่ำเกิดใหม่ 98W และ 99W

 

มีหย่อมความกดอากาศต่ำ (LPA) หย่อมใหม่เกิดในทะเลจีนใต้ แนวโน้มพัฒนาแรงขึ้น

 

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนยังตกหนักต่อเนื่อง
วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2556

ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านเหนือ และอีสาน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ทั่วทุกภาค ฝนยังตกหนักต่อเนื่อง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจะวันว่า ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และชายฝั่งภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย ส่วนภาคใต้มีฝนน้อย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย

อนึ่ง พายุโซนร้อน “มานหยี่” ได้เคลื่อนตัวเข้าใกล้ประเทศญี่ปุ่นแล้ว สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นควรตรวจสอบสภาพก่อนออกเดินทางและ พายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย


พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท และลพบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 70 และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

 

เม็กซิโกอ่วม! เจอพายุถล่มพร้อมกัน 2 ลูกทั้งเฮอร์ริเคน-โซนร้อน สังเวยแล้วอย่างน้อย 17 ศพ

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-พายุเฮอร์ริเคนอิงกริด และพายุโซนร้อนมานูเอลก่อให้เกิดฝนตกหนัก จนเกิดน้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่แถบชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก รวมถึงพื้นที่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของแดนจังโก้ในวันอาทิตย์ (15) ซึ่งล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 17 ราย ขณะที่ประชาชนอีกหลายพันคนต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวหวั่นได้รับอันตรายจากพายุทั้งสองลูกที่กำลังเคลื่อนตัวเตรียมขึ้นฝั่งเม็กซิโกในเวลาไล่เลี่ยกัน

รายงานข่าวระบุว่าเฮอร์ริเคน อิงกริดซึ่งมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางล่าสุดที่ราว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเตรียมเคลื่อนตัวขึ้นสู่ชายฝั่งของรัฐตาเมาลิปาสและเบรากรูซ ที่อยู่ติดกับอ่าวเม็กซิโก เป็นเหตุให้ทางการต้องสั่งอพยพประชาชนกว่า 6,000 คนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่ “เปเม็กซ์” บริษัทน้ำมันแห่งชาติของเม็กซิโกต้องประกาศอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันอย่างน้อย 3 แห่งในอ่าวเม็กซิโกด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

ในจำนวนผู้เสียชีวิต 17 รายนั้น มีรายงานว่ารัฐเกร์เรโรเป็นพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดถึง 11 คนจากเหตุดินถล่ม ขณะที่รัฐปวยบลาและรัฐอิดัลโก มีผู้เสียชีวิตรัฐละอย่างน้อย 3 ราย

ขณะเดียวกันพายุโซนร้อนมานูเอลได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งเม็กซิโกด้านที่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกแล้วด้วยความเร็วลมที่ศูนย์กลาง 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังทำให้เกิดคลื่นสูง ตลอดจนทำให้เกิดฝนตกหนักกว่า 10-15 นิ้ว ( ราว 25-38 เซนติเมตร) ในพื้นที่เมืองตากอากาศหลายเมือง รวมถึงเมืองอกาปุลโก






โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กันยายน 2556 05:39 น.

 

พิจิตร-น่านน้ำท่วมหนัก! ชาวบ้านเร่งอพยพข้าวของหนี

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กันยายน 2556 09:42 น.


ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องหลายวัน ทำให้น้ำป่าจาก จ.กำแพงเพชร และพิษณุโลก ไหลหลากมาตามลำคลองสาขา ที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำยม ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้น เอ่อล้นลำคลองสาขา ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำ ถนนที่เชื่อมต่อภายในหมู่บ้านบ้านปากคลอง ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร ถูกน้ำท่วม ชาวบ้านต้องเร่งอพยพข้าวของ และสัตว์เลี้ยงหนีน้ำ และต้องนำเรือมาใช้สัญจรแทน
ส่วนที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำลำห้วยดีหมี ลำห้วยห้ามเพิ่มสูงขึ้น ล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ อบต.ผาตอ น้ำสูง 70 เซนติเมตร บ้านเรือนของชาวบ้านถูกน้ำท่วม ตู้เสื้อผ้า เครื่องนอน เครื่องใช้ไฟฟ้าถูกน้ำท่วมเสียหาย รวมทั้งเครื่องมือทางการเกษตร เมล็ดพันธุ์พืช ปุ๋ย ถูกพัดหายไปกับน้ำ ล่าสุดระดับน้ำเริ่มลดลง ทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายทรัพย์สิน และทำความสะอาดบ้านเรือน