เกาะติดสถานการณ์ ดิน น้ำ ลม ฝน พายุ **เฝ้าระวัง !!!!2556(2013)**

กรุงเก่าผวาน้ำขึ้นวันละ30ซ.ม.
วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2556 เวลา 12:18 น.

อำเภอเสนา กรุงเก่า อ่วม 800 หลัง ชลประทานระบายน้ำมากขึ้น น้ำสูงวันละ 30 ซม. ต้องยกของหนีเดินลุยน้ำ นายอำเภอเตรียมศูนย์พักพิงหากน้ำยังสูงพักอาศัยไม่ได้

น้ำจากแม่น้ำน้อยเริ่มล้นตลิ่งเข้าใต้ถันบ้าน ที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา




เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 16 ก.ย. นายเรวัต ประสงค์ นายอำเภอเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ออกสำรวจพื้นที่ต.หัวเวียง ดูผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำน้อยซึ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ โดยพบว่าบริเวณหลังเทศบาลตำบลหัวเวียง หมู่ 9 ต.หัวเวียง บ้านเรือนส่วนใหญ่มีน้ำล้นตลิ่งจากแม่น้ำน้อยเข้าท่วมบริเวณใต้ถุนแทบทุกหลัง ประชาชนเริ่มเก็บข้าวของขึ้นที่สูง โดยเฉพาะทางเดินในหมู่บ้านน้ำท่วมสูงจากพื้นประมาณ 20-80 ซม. แล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่เดินลุยน้ำ และที่สร้างความลำบากคือผุ้สูงอายุต้องใช้ไม้เท้าเดินลุยน้ำเพื่อเข้าออกบ้าน บางบ้านก็นำเรือออกมาพายกันแล้ว ส่วนรถจยย.ที่เคยเข้าหมู่บ้านได้ ถูกนำออกมาจอดข้างนอก หากระดับน้ำท่วมสูงขึ้นกว่านี้ ก็อาจจะต้องมีการหาเวรยามมาเฝ้ารถที่เข้าบ้านไม่ได้

นายสนิท กิจเมฆ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/1 หมู่ 9 ต.หัวเวียง กล่าวว่า น้ำท่วมใต้ถุนบ้านทุกปีและจะท่วมก่อนจนรู้สึกเบื่อ แต่ก็ต้องทน เนื่องจากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปีนี้ยังหวังว่าน้ำจะไม่ท่วมมาก ทั้งที่ปี54 น้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร

ด้านนางทองใบ ฤกษ์ประกอบ อายุ 88 ปี เดินลุยน้ำออกมาจากบ้านเพื่อไปตลาดในหมุ่บ้าน โดยใช้ไม้เท้า เปิดเผยว่ารู้สึกลำบาก และเจอเหตุการณ์น้ำท่วมทุกปี แต่ไม่รู้จะทำยังไง ส่วนใต้ถุนบ้านลูกหลานช่วยเก็บของขึ้นที่สูงไปก่อนหน้าแล้ว

นายเรวัติ กล่าวว่า จากการระบายน้ำของชลประทานช่วงสองสามวันนี้ ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นเฉลี่ยวันละประมาณ 30 ซม.ได้แจ้งเตือนชาวบ้านไปก่อนแล้ว แต่อยากให้ชลประทานแจ้งทางอำเภอแต่ละแห่งทราบล่วงหน้า 2-3 วันในการปล่อยน้ำ ช่วงนี้มีการระบายน้ำอยู่ที่ 900 – 1,200 ลบ.ม.ต่อวินาที และยังจะต่อเนื่องเพิ่มขึ้นในสองสามวันนี้อีก ทำให้ขณะนี้มีน้ำท่วมเข้าใต้ถุนบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยาใน 8 ตำบลในเขต อ.เสนา ได้แก่เขตเทศบาลเมืองเสนา บ้านแพน บ้านโพธิ์ รางจระเข้ หัวเวียง บ้านกระทุ่ม บางนมโค และสามกอ รวม 800 หลังคาเรือน แต่ยังไม่ถือว่ากระทบกับชีวิตประชาชนมากนักเนื่องจากเป็นภาวะน้ำล้นปกติ อย่างไรก็ตามทางอำเภอได้มีการเสนอให้ทำคันดินป้องกันเทศบาลหัวเวียง และวัดอีกหลายแห่งสำหรับใช้เป็นศูนย์พักพิง หากเกิดภาวะน้ำท่วมจริงๆ


กรุงเก่าผวาน้ำขึ้นวันละ30ซ.ม. | เดลินิวส์

 

มาดูปริมาณในเขื่อนต่างๆกันหน่อยครับ
<a href="http://pic.free.in.th/id/6782788c51b08d5fe1f9f36afdd92b60" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/iz/130916025823.gif" alt="images by free.in.th" /></a>

 

<a href="http://pic.free.in.th/id/eb7c75d3568448249e5ba6ca1797f78e" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ip/130916030404.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

 

(ความเห็นส่วนตัวค่ะ)

ไม่รูว่าตัวเองคิดไปเองหรือเปล่า
แต่คาดว่าปีนี้น้ำจะมาเยอะและนานกว่าปี 54 มากเลยทีเดียว

 

“ปภ.”รายงานน้ำท่วม 3 จว.คลี่คลาย
วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2556 เวลา 13:47 น.

“ปภ.”รายงานน้ำท่วม 3 จังหวัดคลี่คลายแล้ว ส่วนขอนแก่น 3 ตำบล 14 หมู่บ้านปชช.เดือดร้อน70 ครัวเรือน พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย


เมื่อวันที่ 16 ก.ย. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 14 – 15 ก.ย. ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยรวม 3 จังหวัด 4 อำเภอ 11 ตำบล ได้แก่ จ.ตาก เพชรบูรณ์ และขอนแก่น โดยจ.ตาก เกิดน้ำท่วมฉับพลันในอ.เมืองตาก รวม 4 ตำบล ได้แก่ ต.วังหิน น้ำรึม โปร่งแดง และต.วังประจบ ปัจจุบันระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกในพื้นที่ คาดว่า สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันนี้

ส่วนจ.เพชรบูรณ์ เกิดน้ำป่าจากภูทับเบิกไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ 4 ตำบล ได้แก่ อ.หล่มเก่า และอ.หล่มสัก โดยที่อ.หล่มเก่า ระดับน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนอ.หล่มสัก ระดับน้ำเริ่มทรงตัว

ด้านจ.ขอนแก่นเกิดน้ำป่าไหลหลาก รวมถึงลำน้ำเชิญและลำน้ำสาขาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในอ.ภูผาม่าน รวม 3 ตำบล14 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.นาฝาย ภูผาม่าน และต.โนนคอม ประชาชนเดือดร้อน 70 ครัวเรือน 160 คน

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ออกปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยนำเครื่องอุปโภคบริโภค ถุงยังชีพ แจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงเร่งตรวจสอบและสำรวจความเสียหายของพื้นที่ประสบภัย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ อย่างไรก็ตาม ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อแจ้งเหตุและขอรับการช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง



“ปภ.”รายงานน้ำท่วม 3 จว.คลี่คลาย | เดลินิวส์

 

อุตุฯเตือน"พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ "จ่อถล่มไทย
วันอังคารที่ 17 กันยายน 2556 เวลา 07:08 น.


อุตุฯ ประกาศเตือน "พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ " ความเร็วลมสูงสุด55 กม.ต่อชม. กำลังเคลื่อนเข้าปกคลุมเวียดนามตอนกลางและภาคอีสานของไทย ทำให้ทุกภาคมีฝนตกหนักขึ้น 70-80%ยกเว้นภาคใต้ตกแค่20%

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 17 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศฉบับที่ 3 เรื่อง "พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ " โดยระบุว่า เมื่อเวลา 04.00 น. พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 450 กม. ทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 16.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กม. ต่อชม. กำลังเคลื่อนที่ทางตะวันตกอย่างช้าๆ

คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทางตอนล่างและด้านตะวันออก รวมทั้งภาคตะวันออกจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในระยะ 2-3 วันนี้

อนึ่ง ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และชายฝั่งภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันนี้ (17 ก.ย.) ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ (18 ก.ย.) ด้วยว่า

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร
อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี และนครสวรรค์
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 70 อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

อุตุฯเตือน"พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ "จ่อถล่มไทย | เดลินิวส์

 

ญี่ปุ่นอ่วมหนักไต้ฝุ่น "มานหยี่" ถล่มดับแล้ว 3 ศพ
วันอังคารที่ 17 กันยายน 2556 เวลา 08:28 น.














อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น "มานหยี่" ซึ่งยังคงถล่มภาคกลางของญี่ปุ่นอย่างหนัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ศพ และสร้างความกระทบกระเทือนให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ "ฟูกูชิมะไดอิจิ" ต้องปล่อยน้ำปนกัมมันตังสีระดับต่ำลงสู่ทะเล


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 17 ก.ย. อ้างอิงรายงานจากสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค ระบุการพบผู้เสียชีวิตจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นมานหยี่แล้วอย่างน้อย 3 ศพ เป็นหญิงชราวัย 71 ปี ในจังวัดชิงะ ทางตะวันตกของประเทศ ซึ่งถูกดินถล่มลงมาทับ ขณะที่หญิงชราวัย 77 ปี ในจังหวัดฟูกูอิที่อยู่ไม่ห่างออกไปนัก เสียชีวิตจากสาเหตุเดียวกัน ส่วนผู้เสียชีวิตอีกรายเป็นชายวัย 63 ปี เสียชีวิตจากการพลัดตกลงมาจากบันไดช่าง ระหว่างพยายามปีนขึ้นไปปิดหน้าต่าง

ด้านจำนวนสูญหายอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 5 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกราว 130 คน นอกจากนี้ บ้านเรือนกว่า 4,000 หลังต้องจมอยู่ใต้บาดาล ซึ่งในจำนวนนี้ราว 270 หลังถูกดินถล่มและลมพัดกระโชกเข้าสร้างความเสียหายด้วย ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติรายงานว่า พายุซึ่งเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งเมื่อวันจันทร์ มีแนวโน้มเคลื่อนที่ต่อไปทางตอนเหนือของประเทศ คาดจะถล่มกรุงโตเกียวภายในช่วงบ่ายของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น

มีรายงานด้วยว่า บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะไดอิจิ ได้รับอิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่นลูกนี้ด้วยเช่นกัน ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองทั่วพื้นที่ กระตุ้นให้เท็ปโกตัดสินใจระบาย "น้ำเสีย" เพิ่มบางส่วน ซึ่งนายโย โคชิมิสึ โฆษกของเท็ปโกยืนยันว่า น้ำที่ระบายออกมา 1 ลิตร ปนเปื้อนธาตุสตรอนเชียม 24 เบ็กแรล ถือว่ายังต่ำกว่าเกณฑ์อันตรายซึ่งกำหนดเอาไว้ที่ไม่เกิน 30 เบ็กแรล อย่างไรก็ตาม เท็ปโกไม่ได้เผยปริมาณน้ำปนเปื้อนสารพิษ ที่จำเป็นต้องระบายออกสู่ทะเลว่ามีปริมาณเท่าใด


ญี่ปุ่นอ่วมหนักไต้ฝุ่น "มานหยี่" ถล่มดับแล้ว 3 ศพ | เดลินิวส์

 

ระดมกำลังเปิดเส้นทางชายแดนเสาหินได้แล้ว
วันอังคารที่ 17 กันยายน 2556 เวลา 07:18 น.

















ระดมเครื่องจักรเปิดเส้นทางชายแดนเสาหินได้แล้ว หลังทำงานตลอดทั้งวันทั้งคืน แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะช่วงข้ามลำห้วยอาจมีน้ำป่าทะลัก


เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 17 ก.ย. นายไพบูลย์ ใจตูม ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันอำเภอแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้ระดมกำลังคนรวมทั้งเครื่องจักรของอบจ.แม่ฮ่องสอนและอบต.เสาห่ิน ทั้งกลางวันกลางคืน เพื่อเปิดเส้นทางสายแม่สะเรียง – เสาหิน ถนนสู่ชายแดน ให้พี่น้องประชาชน 6 หมู่บ้าน 800 กว่าครอบครัว สามารถเดินทางไปมาได้ตามปกติ หลังจากถูกดินพังถล่มปิดทับเส้นทาง ไหล่ทางทรุด ซึ่งแต่ละจุดต้องใช้ระยะเวลาในการทำงานอย่างมากทั้งการไถ่เปิด และกลบถมดินถนนที่ทรุดตัวเป็นบริเวณกว้าง แต่ก็สามารถเปิดเส้นทางได้แล้ว

อย่างไรก็ตามยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยของการใช้เส้นทางมากนัก เนื่องจากหากฝนตกลงมาต่อเนื่อง ดินอาจสไลด์อีก ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนว่าฝนจะตกเพิ่มขึ้นแน่นอนในระยะนี้ จึงฝากเตือนผู้ขับขี่ระมัดระวังขณะฝนตกหนักเมื่อวิ่งผ่านลำห้วยกว่า 50 แห่ง แต่ละจุดยังมีประมาณน้ำสูง อาจมีน้ำป่าทะลัก ทำให้เกิดอันตรายได้

ระดมกำลังเปิดเส้นทางชายแดนเสาหินได้แล้ว | เดลินิวส์

 

ชาวบ้านโผงเผงผวาน้ำมาเก็บของหนีจ้าละหวั่น
วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2556 เวลา 23:25 น.




ชาวบ้านโผงเผงรีบเก็บข้าวของหนีน้ำ หลังเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำเพิ่มขึ้น ประกอบกับในพื้นที่ฝนพรำต่อเนื่อง เผยหากน้ำเท่าปี 54 คงย่ำแย่อีก แต่ถ้าน้อยกว่าน่าจะรอดเพราะดีดบ้านให้สูงขึ้นแล้ว


เมื่อวันที่16 ก.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสำรวจในพื้นที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง พบนางทุเรียน มะลิวัลย์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/1 หมู่ 6 ซึ่งปลูกบ้านพักเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงอยู่ริมคลองโผงเผง ใกล้กับสะพานข้ามคลองโผงเผง กำลังรีบเก็บข้าวของที่จำเป็นขึ้นหนีน้ำเป็นการใหญ่

นางทุเรียน เล่าว่า เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำเพิ่มขึ้นประกอบกับในพื้นที่มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในคลองโผงเผงเพิ่มสูงขึ้นและทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนริมคลองหลายหลัง รวมถึงบ้านตนด้วย พืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้ริมคลองเสียหายหมด ตนและสมาชิกในครอบครัวจึงช่วยกันเก็บข้าวของที่สำคัญให้พ้นน้ำ ไม่ให้เสียหายเหมือนน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ถ้าน้ำปีนี้เท่ากับปี 54 ตนเองและครอบครัวคงต้องไปนอนในเต็นท์ริมถนนเช่นเคย แต่ถ้าระดับน้ำไม่ถึงปี 54 ก็น่าจะอาศัยกันได้เพราะดีดบ้านให้สูงขึ้่น 1.30 เมตรแล้ว

ชาวบ้านโผงเผงผวาน้ำมาเก็บของหนีจ้าละหวั่น | เดลินิวส์

 

จ.ลพบุรีจ่อชง ครม.พิจารณาโครงการเฝ้าระวัง-แจ้งเตือนอุทกภัย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กันยายน 2556 10:26 น


นายธีรศักดิ์ ทรัพย์ศิริ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ลพบุรี กล่าวว่า จ.ลพบุรีได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเมื่อปี 2551 2553 และ 2554 สร้างความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก ดังนั้นทางจังหวัดจึงได้จัดทำโครงการเฝ้าระวัง และแจ้งเตือนอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำ จ.ลพบุรี โดยแบบจำลอง 3 มิติทางภูมิศาสตร์ และระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบประมาณ 18 ล้านบาท ดำเนินการติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ จำนวน 30 จุด ในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น อ.โคกเจริญ สระโบสถ์ ลำสนธิ เพื่อวัดปริมาณน้ำฝน วัดอุณหภูมิ ความชื้น พร้อมกับการติดตั้งกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ 30 ชุด เพื่อตรวจสอบสถานการณ์น้ำ โดยสามารถดูปริมาณน้ำที่ไหลลงจากพื้นที่สูงในรูปแบบ 3 มิติ หากเกินขีดอันตราย จะมีระบบแจ้งเตือนมายังห้องปฏิบัติการติดตามสถานการณ์ ซึ่งอยู่ที่ศาลากลางจังหวัด
ส่วนคณะทำงานจะประเมินสถานการณ์ก่อนสั่งการผู้นำชุมชนแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้ขนย้ายสิ่งของ และอพยพไปยังที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวทางศูนย์ซิงเกิลคอมมานด์ของรัฐบาลยังสามารถนำไปใช้ประมวล ร่วมกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดอื่นด้วย

 

ปภ.อยุธยาเตือน 6 อำเภอเฝ้าระวังรับมือสถานการณ์น้ำ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กันยายน 2556 10:46 น.

นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงระดับน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาในวันนี้ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ของจังหวัด ได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนใน อ.ผักไห่ เสนา บางบาล พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน และบางไทร ที่อยู่ริมแม่น้ำน้อย แม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางหลวง และคลองบางบาล เตรียมขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่ปลอดภัย และได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ในการให้ความช่วยเหลือภัย ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ

 

CURRENT STORM ANALYSIS

วันนี้ (17ก.ย.56) พายุ "อุซางิ" [พายุโซนร้อน] บริเวณด้านทิศตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 1010 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของซานตาอานา Cagayan หรือ 1020 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ Basco, Batanes ขณะนี้ กำลังเคลื่อนที่ไปทางตะวันตกด้วยาความเร็ว 7 กม./ชม.ไปทางเกาะไต้หวัน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 45 กม./ชม.

ภาพถ่ายแบบเต็ม ทุกๆ 1 ชั่วโมง บนโลกของเราแถบเอเชีย เน้นมหาสมุทรนะครับ


ภาพถ่ายดาวเทียม RAINBOW ของพายุ (ทุกๆ 1ชั่วโมง) บ่งบอกถึงระดับอุณหภูมิที่พื้นผิวเมฆและชั้นบรรยากาศของพายุ


จุดที่เกิด พายุในขณะนี้นะครับ



Tropical Storm Tracking Map - เส้นทางการเคลื่อนตัว ของพายุ จากหลายๆที่นะครับ








รวมการคาดหมายเส้นทางล่วงหน้า จากสำนักพยากรณ์ ดูเป็นแนวทางว่า สำนักไหน คาดหมายได้ดีสุด


ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ (ช่วง ลองจิจูดที่ 100-150 องศาตะวันออก)


ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิคด้านตะวันตกตอนเหนือ (ช่วง ลองจิจูดที่ 140-180 องศาตะวันออก)


ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทุก ๆ 1 ชั่วโมง



ขอบคุณการรวบรวมข้อมูลของคุณ ณัฐพงษ์ ครับ


....................................
สงสัยจะไม่ผ่านเข้ามาทางไทยอย่างที่คาดไว้ตอนแรกแล้วมั้งครับ

 

ปภ.เตือน14จว.ฝนตกหนัก
วันอังคารที่ 17 กันยายน 2556 เวลา 10:36 น.


ปภ.เตือน 14 จังหวัดภาคกลาง ตะวันออก และใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก ช่วงวันที่ 18 - 22 ก.ย. 56 พร้อมประสานจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางมีแนวโน้มจะก่อตัวเป็นพายุหมุนเขตร้อน ส่งผลให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนเพิ่มมากขึ้นและฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่ง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในช่วงวันที่ 18- 22ก.ย. 2556จึงขอเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย 14 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ จะได้อพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที ส่วนคลื่นลมในทะเลนดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า ปภ.ได้ประสาน 14 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2สุพรรณบุรี เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 12 สงขลา เขต 17 จันทบุรี และเขต 18 ภูเก็ต จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย รวมถึงตรวจสอบฝาย อ่างเก็บน้ำ คันกั้นน้ำให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเพื่อประกาศแจ้งเตือนภัยและอพยพนักท่องเที่ยวได้อย่างทันท่วงทีสำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะฝนตกหนัก สามารถติดต่อ ขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784ตลอด 24ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป..

ปภ.เตือน14จว.ฝนตกหนัก | เดลินิวส์

 

มาดูปริมาณในเขื่อนต่างๆประจำวันที่ 17-09-2556 กันหน่อยครับ

<a href="http://pic.free.in.th/id/748b33734de97a67f0e0aef4cd1458bd" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/im/130917113619.gif" alt="images by free.in.th" /></a>


น้ำในอ่างเก็บน้ำ

- เขื่อนขนาดใหญ่มีปริมาณเก็บกักรวม 42,717 ล้าน ลบ.ม.(61%) น้อยกว่าปีที่แล้ว 6% และน้อยกว่าปี 2554 (ปีน้ำท่วม) 23%

- อ่างเก็บน้ าขนาดกลาง ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำขนาดกลางมีปริมาณน้ำเก็บกักรวม 2,729.21 ล้าน ลบ.ม.
(62%) และมากกว่ากว่าปีที่แล้ว 5%

 

สรุปสภาวะอากาศประจำวันที่ วันที่ 17 กันยายน 2556

ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือประกอบกับ
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบน
มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนัก บางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และชายฝั่ง
ภาคตะวันออก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
- วันที่18-22 กันยายน 2556 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และ
อ่าวไทยจะมีก าลังแรงขึ้น ประกอบกับ หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางมีแนวโน้ม
จะพัฒนาตัวแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อนและเคลื่อนเข้ามาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนกลางและภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่ง
ตะวันตกมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

- พายุไต้ฝุ่น “อูซางิ( USAGI)” บริเวณมหาสมุทร แปซิกฟิกมีความเร็วลมศูนย์กลาง
64.75 กิโลเมตร/ชั่วโมง เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 17 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยอยู่ห่างจาก จ.อุบลราชธานี
2,877 กิโลเมตร ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย

- พายุดีเปรสชั่น “TD 1002” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีความเร็วลมศูนย์กลาง 55 กิโลเมตร/ชั่วโมง กำลังเคลื่อนที่ทางตะวันตกอย่างช้าๆ คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนกลาง
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในระยะต่อไป

กรุงเทพฯ และปริมณฑล
- วันที่ 17-18 กันยายน 2556 มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่
- วันที่ 19-22 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง

 

น้ำในแม่น้ำ

1. แม่น้ำเจ้าพระยา
- แม่น้ำเจ้าพระยาที่นครสวรรค์ อัตราการไหล 1,260 ลบ.ม./วินาที (35.10%) เพิ่มขึ้น 197 ลบ.ม./วินาที
- แม่น้ำเจ้าพระยาที่เขื่อนเจ้าพระยาอัตราการไหล1,299ลบ.ม./วินาที(45.74%) เพิ่มขึ้น 99ลบ.ม./วินาที
- แม่น้ำเจ้าพระยาที่อ.บางไทร อยุธยาอัตราการไหล 993ลบ.ม./วินาที(28.37%) เพิ่มขึ้น 119ลบ.ม./วินาที

2. น้ำในลำน้ำสายหลัก แม่น้ำส่วนใหญ่อยู่ในภาวะน้ำน้อย

สถานการณ์วิกฤติน้ํารายวัน

ภาคเหนือจ.แม่ฮ่องสอน ฝนที่ตกต่อเนื่องกัน 3 วัน ทําให้เกิดน้ําป่าไหลหลากดินโคลนถล่มไหล่ทางทรุดถนนลูกรังสายแม่สะเรียงต.เสาหินอ.แม่สะเรียงซึ่งเป็นถนนการค้าชายแดนที่สําคัญสร้างรายได้ให้กับจังหวัดจ.น่าน เปิดเผยว่าเมื่อเวลา 04.00 น. เกิดฝนตกหนักในพื้นที่อ.ท่าวังผา จ.น่าน ปริมาณน้ําฝนวัดได้ 82 มม. ทําให้ลําน้ําห้วยดีหมีลําห้วยฮ่างและลําห้วยมะหลอดซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้าน มีน้ําปริมาณน้ําเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดน้ําป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนราษฎรในเขตพื้นที่รับผิดชอบของอบต.ผาตอ ที่หมู่บ้านแหน 2 หมู่ 3 ต.ผาตออ.ท่าวังผาจ.น่าน ที่อาศัยเป็นที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ําริมน้ําและเป็นพื้นที่เสี่ยวภัย ทําให้บ้านเรือนเครื่องใช้ในครัวเรือนได้รับความเสียหายเบื้องต้น ประมาณ 20 หลังคาเรือน และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย

ภาคกลาง
กรุงเทพฯ หลายเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีฝนตกอย่างหนักเช่น เขตวังทองหลางลาดพร้าวจตุจักรดอนเมืองส่งผลให้มีน้ําท่วมขังบนพื้นผิวการจราจรหลายจุดอาทิถนนพหลโยธิน ช่วงเชิงสะพานข้ามแยกตรงข้ามห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ที่จะเลี้ยวซ้ายไปทางหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปีมีน้ําท่วมขัง 20 - 30 ซ.ม. รวมไปถึงบริเวณถนนพหลโยธิน ขาออกด้านหน้าบุญถาวรไปถึงมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีน้ําท่วมขังในช่องขนานทุกช่องทางรถเล็กวิ่งผ่านด้วยความยากลําบาก
จ.พระนครศรีอยุธยาอําเภอเสนากรุงเก่าอ่วม 800 หลังชลประทานระบายน้ํามากขึ้น น้ําสูงวันละ 30 ซม. ต้องยกของหนีเดินลุยน้ํา นายอําเภอเตรียมศูนย์พักพิงหากน้ํายังสูง น้ําจากแม่น้ําน้อยเริ่มล้นตลิ่งเข้าใต้ถันบ้าน ที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา น้ําท่วมใต้ถุนบ้าน โดยเฉพาะทางเดินในหมู่บ้านน้ําท่วมสูงจากพื้นประมาณ 20-80 ซม ชาวบ้านส่วนใหญ่เดินลุยน้ํา และที่สร้างความลําบากคือผู้สูงอายุต้องใช้ไม้เท้าเดินลุยน้ําเพื่อเข้าออกบ้าน.

ภาคตะวันออกจ.จันทบุรีหลังจากที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ส่งผลทําให้ระดับน้ําในแม่น้ําจันทบุรีเพิ่มสูงขึ้น 2.90 ม. จุดวิกฤติอยู่ที่ 3.45 ม. ปภ.ต้องนําธงเหลืองไปติดตั้งที่บริเวณสะพานวัดจันทนารามสะพานตรีรัตน์และสะพานมหาราช ประกาศแจ้งเตือนประชาชน ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ําจันทบุรีหรืออยู่ในที่ลุ่มให้เฝ้าระวังน้ําท่วมฉับพลัน น้ําป่าไหลหลากขณะที่น้ําได้ทะลักเข้าท่วมร.ร.ลาซาลจันทบุรี(มารดาพิทักษ์) ซึ่งอยู่ในพื้นที่ลุ่มติดกับคลองบายพาสโดยมีปริมาณน้ําท่วมสูงกว่า 1.30 ม. ทําให้ทางโรงเรียนต้องประกาศปิดโรงเรียนเร่งด่วน
จ.ตราด หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักทั้งคืนใน จ.ตราดก็ทําให้ในช่วงเช้าวันนี้ตั้งแต่เวลา 09.30 น.เป็นต้นมามีน้ําไหลลงมาจากภูเขาผ่านคลองไก่แบ้ส่งผลให้บ้านไก่แบ้ต.เกาะช้างอ.เกาะช้าง ประสบกับน้ําท่วม เพราะน้ําระบายไม่ทัน ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชน และสถานประกอบการจํานวนมากถูกน้ําท่วมสูงประมาณ 80-100 เซนติเมตร ขณะที่บางแห่งมีความสูงเกิน 1 ม.ต่อมาในช่วงบ่ายมีรายงานว่าสถานการณ์น้ําท่วมบ้านไก่แบ้และหมู่บ้านใกล้เคียงเริ่มคลี่คลายแล้ว หลังฝนหยุดที่ตกติดต่อกันนานกว่า 12 ชั่วโมงได้หยุดลงแล้วโดยขณะนี้ระดับน้ําได้เริ่มลดลง

ภาคตอ.เฉียงเหนือ
จ.นครราชสีมาผู้ว่าฯ เปิดเผยถึง สถานการณ์ฝนและน้ําตามอ่างเก็บน้ําขนาดใหญ่ ว่าสถานการณ์น้ําในอ่างขนาดใหญ่เฉลี่ยมีประมาณกว่า 30% ช่วงนี้แม้มีฝนตกลงมาแต่ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่และฝนตกช่วงสั้น ๆซึ่งตามที่พี่น้องเกษตรกรได้มีการทํานาปลูกข้าวในช่วงที่ฝนทิ้งช่วงไปช่วงหนึ่งแต่ช่วงนี้เริ่มมีน้ําฝนทําให้นาข้าวฟื้นขึ้นมาบ้างและคิดว่าจะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องต่อไป แต่ในบางพื้นที่ที่ขาดแคลนฝนไม่ตกติดต่อกัน หรือตกกระปริบกระปรอยหรือไม่ตก ทางจังหวัดได้ประสานขอความร่วมมือทางฝนหลวงในการทําฝนเทียมให้แก่พี่น้องเกษตรกรที่ได้มีการหว่านนาข้าวไว้แล้ว

พื้นที่ที่ควรเฝ้าระวังเตือนภัยน้ําท่วม
ภาพถ่ายดาวเทียมโดย NASA (๒๔ ชม) ได้แก่
ภาคเหนือคือจ.เชียงราย และตาก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือคือ จ.บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด อํานาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ อุบลราชธานี

ภาคกลางคือจ.ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐมสมุทรปราการ กรุงเทพฯ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรีและกาญจนบุรี

ภาคตะวันออกคือจ.สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด

 

น้ำท่วมไหลแรงหวั่นสะพานพัง
วันอังคารที่ 17 กันยายน 2556 เวลา 14:07 น.

น้ำเจ้าพระยาท่วมล้นตลิ่ง ไหลแรงหวั่นสะพานหน้าวัดกระจาบพัง

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ออกสำรวจดูบ้านเรือนประชาชนที่ถูกน้ำท่วมในพื้นที่ ม.4 ต.วัดยม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมหมู่บ้านและถนนทางเข้าหมู่บ้าน ระดับสูงขึ้น20-30 ซม. ชาวบ้านต้องขนข้าวของขึ้นเอาไว้ที่สูงเกือบทุกบ้านได้เร่งยาเรือเตรียมรับสภาพน้ำท่วม
นายศิริชล ปานศรี ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.วัดยม เปิดเผยว่าพื้นที่ต.วัดยม เป็นตำบลแรก ของ อ.บางบาล ที่น้ำไหลเข้าท่วมแม้ว่าในปีนี้น้ำจะมาช้าแต่ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วได้ออกแจ้งเตือนชาวบ้านให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือสะพานไม้เก่าแก่สร้างมาแล้วกว่า 70 ปี ที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาระหว่างม.4 กับ ม. 3 หน้าวัดนกกระจาบ ยาวประมาณ 75 เมตร กว้าง 1 เมตร กระแสน้ำได้ไหลมาปะทะอย่างแรง จนทำให้เสาตอม่อบางต้นเริ่มฉีกขาด สะพานเริ่มมีอาการสั่นขณะนี้เทศบาลตำบลมหาพราหมณ์ ได้นำป้ายประกาศเตือนห้ามรถจยย.วิ่งผ่าน ให้ใช้เดินข้ามได้เพียงอย่างเดียว สิ่งที่เป็นห่วงตามมาคือมีเด็กนักเรียนต้องเดินข้ามไปเรียนหนังสือต้องระมัดระวังเพราะไม่แน่ใจว่าสะพานจะพังเมื่อไร ประกอบกับมีผักตบชวาไหลมาติดอยู่จำนวนมาก ชาวบ้านต้องช่วยกันผลักดันผักออกทุกวัน หากสะพานพังจะทำให้ชาวบ้านสองหมู่บ้านต้องอ้อมไปใช้เส้นทางอื่นใช้เวลานานและระยะทางไกลถึง 6 กม. เคยของบประมาณในการซ่อมแซมสะพานจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข
ส่วนที่อ.เสนา นายเรวัต ประสงค์ นายอำเภอเสนา เปิดเผยว่าแม่น้ำน้อยได้ท่วมบ้านเรือนประชาชน ในต.หัวเวียง ต.รางจรเข้ ต.บ้านกระทุ่ม มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมไปแล้ว 1.800 หลังคาเรือน นาข้าวถูกน้ำท่วม 400 กว่าไร่ กระแสน้ำจากท้ายเขื่อนเจ้าพระยาระบายด้วยความเร็ว 1,400 ลบ.เมตร ต่อวินาที ไหลจากคลองโผงเพง อ.ป่าโมก เข้ามาบรรจบกับแม่น้ำน้อย ด้วยความเร็ว 400 ลบ.เมตร ต่อวินาที ขณะนี้ได้เตรียมพื้นที่บนถนน สายต่างๆจัดชุดสายตรวจออกตรวจ พร้อมทั้งประสานกับไฟฟ้าอ.เสนา ให้เตรียมเคลื่อนย้ายหม้อไฟตามหมู่บ้านให้สูงขึ้นใน ระดับ 2 เมตร..

น้ำท่วมไหลแรงหวั่นสะพานพัง | เดลินิวส์

 

กทม.พร้อมรับมือฝนถล่มกรุง 19-20 ก.ย.นี้ แนะ ปชช.เลี่ยงสัญจรเส้นทางน้ำขัง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กันยายน 2556 15:35 น




วันนี้ (17 ก.ย.)นายสัญญา ชีนิมิตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า จะเกิดพายุดีเปรสชันที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกรุงเทพมหานคร จะได้รับผลกระทบเกิดฝนตกหนัก 100 เปอร์เซ็นต์ทั่วทุกพื้นที่ ดังนั้น ผู้ว่าฯ กทม.ได้สั่งให้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ โดยเบื้องต้น กทม.ได้มีการเตรียมความพร้อม ทั้งจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำในทุกพื้นที่ จัดเตรียมข้อมูลในศูนย์ป้องกันน้ำท่วม การขุดลอกคูคลองซึ่งกทม.ได้ดำเนินการไปแล้วถึง 98 เปอร์เซ็นต์ และมีการลอกท่อไปแล้วกว่า 96 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังจัดให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่า ถนนเส้นใดบ้างที่มีน้ำท่วมขัง และควรหลีกเลี่ยง ทั้งนี้ได้มีการสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่กี่ยวข้องกทม.ไม่ว่าจะเป็นสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักระบายน้ำ สำนักเทศกิจ สำนักการโยธา สำนักการคลัง ทำงานร่วมกันแบบบูรณาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ใน กทม.มีพื้นที่ไม่เท่ากัน ในพื้นที่ลุ่มต่ำ 37 จุด กทม.ได้เข้าไปติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมเพื่อช่วยเร่งการระบายน้ำให้รวดเร็วขึ้นซึ่งในอดีตการระบายน้ำฝนปริมาณ 60-80 มิลลิเมตร ใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง แต่ปัจจุบันการระบายน้ำใช้เวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง ซึ่ง กทม.ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เข้าไปเฝ้าระวังในพื้นที่จุดเสี่ยง เพื่อทำการพร่องน้ำ และเก็บขยะเพื่อเพิ่มความสะดวกในการแก้ปัญหามากขึ้น

นายสัญญา กล่าวต่อว่า สำหรับอุโมงค์ระบายน้ำ สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในบางพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มต่ำ เช่น ถนนรามคำแหง ก็ยังมีการใช้กระสอบทรายเข้าไปอุดท่อเพื่อเปลี่ยนทางเดินน้ำอยู่ แต่ กทม.ก็พยายามลดจำนวนลงตามคำแนะนำของรัฐบาล โดยการเปลี่ยนเป็นประตูกั้นน้ำในท่อ (Falpgate) ซึ่งสามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้กำลังคนในการดูแล โดย กทม.ได้นำมาใช้งานแล้วในบางพื้นที่

อย่างไรก็ตาม กทม.ยังพบว่ามีขยะที่ไหลมาตามคูคลองเป็นจำนวนมาก โดยในแต่ละเดือนมีจำนวนมากถึง 3,000-10,000 ลูกบาศ์กเมตร โดยคลองที่พบขยะจำนวนมากคือคลองเปรมประชากร คลองลาดพร้าว คลองแสนแสบ และคลองประเวศ เนื่องจากเป็นแหล่งชุมชนที่มีผู้อาศัยอยู่หนาแน่น ทั้งนี้ตนเมองว่าทุกพื้นที่ในกรุงเทพฯต่างก็มีความน่าเป็นห่วงเท่ากัน เนื่องจากเมื่อเกิดเหตุการณ์ก็จะสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน โดยประชาชนที่เดือดร้อนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ คอลเซ็นเตอร์ 1555 หรือโทร.ไปที่สายด่วนศูนย์ป้องกันน้ำท่วม 02-2485115 ตลอด 24 ชั่วโมง