เกาะติดสถานการณ์ ดิน น้ำ ลม ฝน พายุ **เฝ้าระวัง !!!!2556(2013)**

ผู้ว่าฯกรุงเก่าจัดเตรียมทุ่งรับน้ำ
วันพุธที่ 18 กันยายน 2556 เวลา 14:39 น.








ผู้ว่าฯเมืองกรุงเก่า ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านเรือนประชาชนริมแม่น้ำ หลังเขื่อนปล่อยน้ำล้นตลิ่ง ท่วมบ้านเรือนประชาชน เตรียมระบายน้ำเข้าทุ่งบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมตำหนิ หน่วยงานเกี่ยวข้อง รายงานล่าช้า ไม่เป็นตามความจริง ไม่ชัดเจน


เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่เทศบาลตำบลหัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นายเรวัต ประสงค์ นายอำเภอเสนา พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมประเมินสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.เสนา โดยนายวิทยา ได้ตำหนิการทำงานของชลประทานจังหวัด และป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ทำงานล่าช้า รายงานสถานการณ์ไม่เป็นไปตามความจริงไม่มีความชัดเจน การแจ้งเตือนขอให้แจ้งเตือนประชาชนให้เข้าใจง่ายรวดเร็ว และให้ติดตามสถานการณ์พายุและปริมาณฝน การระบายน้ำของเขื่อนๆต่างๆอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นนายวิทยา ได้ลงเรือออกสำรวจภายในแม่น้ำน้อย พบว่าระดับได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน โรงเรียน แต่ส่วนใหญ่บ้านเรือนประชาชนได้ยกพื้นสูงจึงยังไม่ได้รับผลกระทบมากหนักมีเพียงความเดือดร้อนในเรื่องของการสัญจรไปมาเข้าออกมหมู่บ้าน จากนั้นได้เข้าเยี่ยมชาวบ้านที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วม มาพักอาศัยอยู่ที่ศาลาประจำหมู่บ้านตำบลบ้านกระทุ่ม ซึ่งได้จัดทำเอาไว้เป็นสถานที่อพยพชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม

นายวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้พบว่าในพื้นที่ อ.เสนา มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมแล้ว 1,900 หลังคาเรือน มีนาข้าวที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว 400 ไร่ ส่วนในพื้นที่ในอำเภอต่างๆได้ให้นายอำเภอเสนา บางบาล บางไทร ลาดบัวหลวง ผักไห่ สำรวจพื้นที่เกษตรกรทำการเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว เพื่อใช้เป็นที่ระบายน้ำเข้าทุ่งบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยใช้วิธีธรรมชาติระบายเข้าคลองต่างๆลงสู่ทุ่งนา ในส่วนของ อ.เสนา ได้ระบายเข้าทุ่งลาดงาแล้วได้วันละ 6 แสนคิวต่อวัน ส่วนนาข้าวที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวได้สั่งให้นายอำเภอ พร้อมกับชลประทานจังหวัด เกษตรจังหวัด ให้ความช่วยเหลือ จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำไว้ เนื่องจากจะมีพายุโซนร้อน ที่จะส่งผลกระทบต่อนาข้าวของเกษตรกร ทางจังหวัดได้เตรียบงบประมาณเร่งด่วน 10 ล้านบาท ในการจัดเตรียมกระสอบทราย น้ำมัน ไม้ทำสะพาน ระดับน้ำจะสูงขึ้นอีกระยะหนึ่งและจะกลับสู่สภาวะปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำส่งผลกระทบสู่พื้นที่ในท้ายเขื่อน ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ล่าสุดพบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำน้อยซึ่งรับน้ำมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นเช่นกัน เข้าท่วมหมู่บ้านในอำเภอเสนา 2 ตำบล ขยายวงกว้าง เข้าท่วมอำเภอบางบาล แล้วโดยเฉพาะที่อำเภอบางบาลระดับน้ำสูงอย่างต่อเนื่องเข้าท่วมหลายตำบลเช่นตำบลบางหัก ตำบลบางหลวง ตำบลบางหลวงโดด ตำบลวัดยม ตำบลน้ำเต้า ชาวบ้านต้องเก็บของหนีน้ำไว้ในที่สูง

ทั้งนี้พบว่าระดับน้ำในปีนี้มาเร็วมาก และสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแทบจะเก็บของไม่ทัน ปกติระดับน้ำจะขยับตัวขึ้นวันละเล็กน้อย แต่ปีนี้ขึ้นที่ละ 10-20 ซม.เลยที่เดียว ส่งผลกระทบให้ชาวบ้านที่ปลูกกล้วย ไม่สามารถเก็บหน่อกล้วยได้ทัน จึงเสียหายเป็นจำนวนมาก.


ผู้ว่าฯกรุงเก่าจัดเตรียมทุ่งรับน้ำ | เดลินิวส์

 

น้ำป่าทะลักท่วมย่านเศรษฐกิจ จ.ลำพูน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 กันยายน 2556 14:35 น.


น้ำป่าจากดอยจำขี้มดและพื้นที่ป่าต้นน้ำเขตอำเภอแม่ทา รอยต่อระหว่างอำเภอแม่ทา และอำเภอเมืองลำพูน ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและย่านการค้าใน ต.ศรีบัวบาน และ ต.บ้านกลาง อ.เมือง กว่า 50 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรอีกหลายร้อยไร่ โดยเฉพาะตลาดสิงเค่ง ต.บ้านกลาง น้ำท่วมกว่า 1 เมตร รวมทั้งถนนสายบ้านกลาง-นิคมอุตสาหกรรม ระดับน้ำ 30-50 เซนติเมตร ซึ่งประชาชนเร่งเตรียมกระสอบทราย ขนย้ายทรัพย์สินขึ้นบนที่สูงไว้ล่วงหน้า เพราะเกรงว่าน้ำจะขยายวงกว้าง
ส่วนสถานการณ์แม่น้ำกวง แม่น้ำปิง แม่น้ำทา แม่น้ำลี้ ที่ไหลผ่านตัวเมืองลำพูนมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด

 

ขณะนี้ก็เตรียมใส่กล่องไว้ที่เดิมก่อนยังไม่ต้องขนย้ายก็คงไม่เหนื่อยเท่าไร
แล้วรอฟังสถานการณ์ไปพลางๆก่อน ถ้าเมื่อไรทางรัฐบาลออกมาประกาศว่า
"ขณะนี้สถานการณ์ไม่น่าห่วงเพราะเราพร้อมดูแลความปลอดภัยไม่มีอะไรน่าห่วง"นั่นแปลว่าย้ายขึ้นที่ได้ทันทีทันใด!!!(จะประกาศในช่วงที่ฉุกละหุกเสมอ)

 

คุณบ่วง : ติดตามความเคลื่อนไหวของภัยทางน้ำได้ในกระทู้นี้แหล่ะค่ะ คุณในนิมิตรและเพื่อน ๆ จะคอยช่วยกัน Update และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
และดิฉันเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านก็ได้มีประสบการณ์จากปี 54 มาพอสมควรคงจะมาร่วมด้วยช่วยการประเมินสถานการณ์

คุณ Neoworld : .... ลืมประโยควลีเด็ดประจำปี 54 ไปได้อย่างไรค่ะ คำว่า "เอาอยู่" อ่ะค่ะ เพราะเจอคำนี้เมื่อไร พวกเราจะอยู่เฉย ๆ กันไม่ได้
ต้องรีบเตรียมตัวทันที!!!

 

เอาเป็นว่าติดตามสถานการณ์น้ำตามที่คุณในนิมิตรแนะนำ แล้วก็รอสัญญาณ "เอาอยู่" 555

 

เตรียมตัวรับน้องน้ำได้เลยนะคะ ปีนี้น้ำมากและนาน
เตรียม เสบียง ข้าวของเครื่องใช้ที่เคยมีไว้เมื่อปี54ที่ยังจำกันได้ เรือ เสื้อชูชีพ ยารักษาโรค
เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ให้ดี
ไม่ตื่นตระหนกแต่ต้องเตรียมพร้อมค่ะพี่น้องชาวพลังจิตทุกท่าน

 

รอสัญญาณ _ _ ด้วยคน ^^

ของที่เก็บขึ้นชั้นบนตั้งแต่ปี 54 ประมาณ 80% ยังอยู่ชั้นบนนั่นแหล่ะครับ ไม่ต้องย้ายไปย้ายมาให้เหนื่อย แต่โชคดีที่น้ำท่วมแค่ถนนหน้าหมู่บ้าน ปีนี้ลุ้นต่อกับคำทำนาย เจ้าแรกๆที่ว่าน้ำจะท่วมปีนี้ ก็หมอดูอีที และอีกหลายๆสำนักตามมาอีกเพียบ

.

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ "
ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 19 กันยายน 2556​

เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (19 ก.ย. 56) พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 200 กิโลเมตรทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 15.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนที่ทางตะวันตกด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในวันนี้ (19 ก.ย. 56) และจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศลาวตอนล่างเข้าสู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณจังหวัดมุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สุรินทร์ และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัด สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราดมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในช่วงวันที่ 19-21 กันยายน 2556
อนึ่ง พายุโซนร้อน “อุซางิ” (USAGI) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์มีทิศทางเคลื่อนตัวเข้าตอนใต้ของไต้หวันและด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนในช่วงวันที่ 21-22 กันยายน 2556 ซึ่งพายุอุซางิไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 05.00 น.

(ลงชื่อ) วรพัฒน์ ทิวถนอม

(นายวรพัฒน์ ทิวถนอม)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


​

 

<a href="http://pic.free.in.th/id/7ac18764e02788a7ebc61bf266f8ef56" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ij/130919095043.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

พายุดีเปรสชั่นตัวนี้คล้ายพายุโซนร้อนช้างสาน ปี 2006 กำลังน้อยกว่าโซนร้อน ซึ่งเคลื่อนผ่านมายังอุบลฯ แนวเดียวกันแป๊ะเลยและมุ่งตะวันตก ดังนั้น
-ภาคตะวันออกฉียงเหนือก็ระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน แถวๆป่าเขาโดยเฉพาะเขาใหญ่ควรงดกิจกรรม เพราะอาจเกิดปัญหาได้...ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างได้รับน้ำเต็มๆ...
-ส่วน กทม.ก็จะเริ่มฝนหนักขึ้นเรื่อยๆราวๆ 19-20 นี้
และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ก็จะแรง ควรงดท่องเที่ยวทางเรือช่วงอาทิตย์นี้ครับ
ช่วงนี้
-ทางเหนือก็ระวังช่วง 20-21 เพราะน้ำสะสมอยู่ละ ตกลงมาอีกก็จะสร้างปัญหาพอควร เขื่อนอุบลคราวนี้คง Happy......ส่วนภูมิพลคงไปไม่ถึง...แต่ก็มีบ้างไม่มากนัก

-ทางใต้ก็อย่าลืม...การท่องเที่ยวต้องระวังอย่างยิ่งโดยเฉพาะทางทะเล...ส่วนการไปเที่ยวน้ำตก..หากเป็นไปได้ควรงดไปก่อน...เพราะพายุใกล้เข้ามาและฝนที่ตกสะสมบนภูเขา...จะทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเกิดขึ้นได้ครับ...ประวัติที่ผ่านมา...เดือนกันยายน...เคยเกิดที่วังตะไคร้..น้ำป่าไหลหลากเสียชีวิต 23 ศพ....ดังนั้นช่วยกันเฝ้าระวังครับสถานการณ์ไม่ดีอย่างนี้.สำคัญต้องเฝ้าระวังอย่างยิ่งทุกทาง ทั้งอากาศ ทั้งทะเล ทั้งภูเขา...อย่าลังเลหากเกิดอพยพ ก็ต้องทำ...ต้องติดตามข่าวสารทางการ..โดยเฉพาะหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง... ..สำหรับข่าวทาง TV และหนังสือพิมพ์ต่าง...ตามความคิดผมดูได้แต่ไม่รู้ว่าภาพใช่หรือป่าวจริงมากน้อยแค่ไหน...โดยเฉพาะเวลาสัมภาษณ์ก็นักวิชาเกินบางคน..แล้วแต่เขาจะพูดไปตามความคิดเขา...เขาไม่รู้หัวอกคนพื้นที่จะเป็นอย่างไร...บางอย่างเกินจริง...บางอย่างก็ไม่ใช่และคิดไม่ถึง บางคนเอาความมันสะใจเป็นหลักไม่แตกต่างจากพวกโหร ..ดังนั้น...ผมอยากให้ฟังและติดตามข่าวให้ดีแล้ววิเคราะห์ สำคัญต้องรับฟังข่าวสารที่มาจากผู้รับผิดชอบโดยตรงจากหน่วยงานนั้นๆด้วยครับ...

วันนี้คงมีข่าวน้ำท่วมทางศรีษะเกษ สุรินทร์ อุบลฯ บ้าง ท่านใดอยู่ทางนี้รายงานเข้ามาหน่อยก็ดีน่ะครับ

 

น้ำเทือกเขาเพชรบูรณ์ทะลักท่วมอ.วังทอง
วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2556 เวลา 08:00 น.







น้ำเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ อำเภอวังทอง ชาวบ้านเร่งกรอกกระสอบทราย น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ระดับน้ำแม่น้ำวังทอง สูงขึ้นเกือบล้นตลิ่ง ขณะปภ.เตือน 5 อำเภอระวังน้ำท่วมฉับพลัน

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 19 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากฝนที่ตกลงมาติดต่อกันจนทำให้น้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ได้ไหลลงสู่ลำน้ำเข็ก หรือแม่น้ำวังทองเป็นจำนวนมาก และไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตร ของ อ.วังทอง โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 1 บ้านคลองตาคง ต.ดินทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก มีน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตร นาข้าวกว่า 500 ไร่ และระดับน้ำยังท่วมตัดถนนเชื่อมหมู่บ้านระหว่างบ้านตลองตาคงกับบ้านซำเตย หมู่ที่ 2 ต.ดินทอง อ.วังทอง ขาด ชาวบ้านต้องเลี่ยงใช้เส้นทางอื่นแทน ขณะนี้น้ำที่ไหลจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ส่วนหนึ่งไหลเข้าแม่น้ำวังทอง จนเริ่มเอ่อล้นตลิ่ง โดยเฉพาะบริเวณตลาดสดเทศบาลวังทอง ระดับน้ำวังทอง เหลือเพียงประมาณ 1 เมตรเท่านั้นก็จะท่วมบ้านเรือนราษฎร ที่อาศัยอยู่ริมตลิ่ง และคาดว่ามีระดับสูงขึ้นอีกใน 1-2 วันนี้ ทำให้ชาวบ้านชุมชนโรงสี ที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำวังทองต้องเตรียมความพร้อม ช่วยกันบรรจุกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าบ้านกันจำนวนมาก

นายบุญยิ่ง คุ้มสุพรรณ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างจะได้รับผลกระทบจากพายุดีเปรสชั่นที่ก่อตัวที่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มี โดยจะทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในช่วงวันที่ 19-21 กันยายนนี้ ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมจึงเตือนให้ประชาชนระมัดระวังพายุดังกล่าว ซึ่งจังหวัดพิษณุโลก จะได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ 5 อำเภอที่เสี่ยงต่อดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก คือ อ.วังทอง อ.เนินมะปราง อ.วัดโบสถ์ อ.นครไทย และอ.เนินมะปราง ให้ประชาชนเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และควรนำทรัพย์สินขึ้นไปอยู่บนที่สูงเพราะอาจมีน้ำท่วมฉับพลันได้


น้ำเทือกเขาเพชรบูรณ์ทะลักท่วมอ.วังทอง | เดลินิวส์

 

จากที่ติ๊กสังเกตการณ์ คงต้องเฝ้าระวังกันนะค่ะ ขอแสดงความเห็นนิดนึง

รัฐบาลมัวแต่ มองประเด็นการบริหารระบายน้ำทางเขื่อนเป็นหลักสำคัญ (เนื่องจากความล้มเหลวในการบริหารระบายน้ำในเขื่อน ปี 54 จึงเกิดน้ำท่วมขึ้น)
พอปีนี้ เมื่อเห็นว่าประมาณน้ำในเขื่อนไม่มาก จึงเบาใจว่าคงไม่มีการเกิดน้ำท่วมขึ้นแน่นอน

แต่.... แท้ที่จริงแล้ว น้ำท่วมนั้นยังมีตัวแปรอื่น ๆ อีกมากมายที่อาจจะทำให้เกิดขึ้นได้
(นั่นก็อาจจะหมายความว่า ตัวแปรนั้นอาจจะเป็นประสบการณ์ให้กับรัฐบาลแก้ไขต่อไปในคราวหน้าก็ได้ และก็มักจะแก้ตัวด้วยคำกล่าวที่ว่า
....คาดไม่ถึง.... ซึ่งเป็นคำตอบที่ง่ายมาก แต่ความเสียหายมันเกิดขึ้นกับประชาชนอย่างมาก แต่ได้รับการชดเชยแค่ 5000
กับคำขอโทษ ไม่คาดคิดว่า... คาดไม่ถึงว่า....)

ตัวแปรที่ว่า คือ

1. ปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง และตกในปริมาณคราวละมาก ๆ ซึ่งมากกว่าปกติทุกครั้งในปีที่ผ่านมา เช่น เกิน 80 มิลลิเมตร ต่อวัน
2. จำนวนพายุที่จะเข้า และความรุงแรงของแต่ละลูก
3. จำนวนปริมาณน้ำที่ไม่สามารถประเมินได้ด้วยสายตา ไม่เหมือนพวกน้ำในเขื่อน น้ำในคลอง นั่นก็คือ ปริมาณน้ำฝนที่ตกตามภูเขา
น้ำที่สะสมอยู่ตามซอกหิน ล่องเขา แอ่ง ตามภูเขาเมื่อมันมีการสะสมปริมาณมากพอสมควรแล้วรวมตัวกัน ไหลทะลักเป็นน้ำป่านั้น
น่ากลัวมากเพราะมันมาก เร็วและแรง
เมื่อหลาย ๆ ที่มารวมกัน ลงไปตามลำน้ำ แม่น้ำเล็ก ๆ แต่ละสายจนไปสมทบกับแม่น้ำหลักสายใหญ่ ๆ
อาจจะทำให้คนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับแหล่งน้ำนั้นได้รับผลกระทบ ตั้งตัวไม่ทันก็เป็นได้
4. น้ำจากประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้เคียง ซึ่งบางทีฝนไม่ได้ตกที่เราแต่ของเค้าตกหนักแล้วไหลมาสมทบ

ฉะนั้น ขอให้เพื่อนสมาชิก ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งพิจารณาคาดการณ์ไว้
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมที่ดี และพร้อมตั้งมือรับกับทุกสถานการณ์

ปล. เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ก็ได้
แต่สำหรับติ๊กแล้ว ส่วนมากการเตรียมตัวรับภัยต่างๆ
จะตั้งเป็น Worst-Case Scenario ไว้ก่อน

 

พายุถล่มร้อยเอ็ดทารกวัย23วันถูกบ้านทับตาย
วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2556 เวลา 12:46 น.



พายุพัดถล่มร้อยเอ็ด หอบโครงหลังคาบ้านกระแทกผนังบ้านทับหนูน้อยวัย 23 วันดับ แม่บาดเจ็บพยายามบังช่วยแต่ไม่ทัน

เมื่อเวลา 04.30 น.วันที่ 19 ก.ย. พ.ต.ท เริงศักดิ์ สุวรรณศรี พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งจากรพ.ร้อยเอ็ดให้ไปชันสูตรศพเด็กเสียชีวิตจากอุบัติเหตุกำแพงล้มทับ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบน.ส แตงไทย พ่อสียา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ที่ 12 ต.กกโพธิ์ อ.หนองพอก ยืนมองศพลูกสาวด.ญ ขนิสรา ขันทวี อายุ 23 วัน ด้วยความอาลัยอาวรณ์

ขณะที่น.ส แตงไทย ก็ได้รับบาดเจ็บมีแผลที่ใบหน้า พร้อมให้การทั้งน้ำตาว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุพายุพัดถล่มอย่างหนักหอบเอาโครงหลังคาเพื่อนบ้านที่อยู่ไกล้เคียงกันมากระแทกเข้ากับผนังบ้านตน ทำให้ผนังบ้านซึ่งเป็นกำแพงคอนกรีตพังถล่มลงมาทับตนและลูกที่กำลังนอนหลับอยู่ แม้พยายามเอาร่างบังร่างลูกน้อยแต่ไม่ทัน ได้แต่ตะโกนร้องเรียนเพื่อนบ้านให้ช่วยนำส่งรพ. แต่ลูกทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา สร้างความเศร้าโศกแก่ครอบครัวยิ่งนัก.

พายุถล่มร้อยเอ็ดทารกวัย23วันถูกบ้านทับตาย | เดลินิวส์

**********************
เป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

 

ดีเปรสชั่นถล่มหนักน้ำท่วมเมืองศรีสะเกษ
วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2556 เวลา 12:04 น.

















พายุฝนถล่มหนักน้ำท่วมเมืองศรีสะเกษ ปภ.จังหวัดระบุ ดีเปรสชั่นจากเวียดนามเคลื่อนพลเข้าถล่ม เฝ้าระวัง 24 ชม.

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.ศรีสะเกษ มีพายุฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน 2 คืน ส่งผลให้หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ มีน้ำท่วมสูง 30-40 ซม. ถนนหลายสายจมอยู่ใต้น้ำ มีรถจอดเสียกลางถนนอยู่เป็นจำนวนมาก การจราจรติดขัดรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไป-มาได้ นอกจากนี้โรงงานอุตสาหกรรมรวมทั้งบ้านเรือนของราษฎรยังถูกน้ำไหลทะลักเข้าท่วมได้รับความเสียหาย เนื่องจากไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน

นายสุขสันต์ บุญโทแสง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไป ว่าจะมีพายุดีเปรสชั่นบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม กำลังเคลื่อนที่ทางตะวันตกด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศลาวตอนล่างเข้าสู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของประเทศไทย นั้น จะส่งผลให้มีฝนตกหนักเพิ่มมากขึ้น ระหว่างวันที่ 19-21 ก.ย. นี้ จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณที่ลุ่มริมแม่น้ำ ให้ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม อีกทั้งได้จัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ประจำจุดเสี่ยงพร้อมเผชิญเหตุ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ในทันทีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะฝนตกหนัก สามารถติดต่อ ขอความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ (อาคารเก่า) ชั้น 1 หรือศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โทรสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานขอความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป.

ดีเปรสชั่นถล่มหนักน้ำท่วมเมืองศรีสะเกษ | เดลินิวส์

 

อุบลฯวิกฤต พายุฝนพัดถล่ม 2 วันติดต่อน้ำท่วม รถติดยาว 5 กิโลเมตร
วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2556









อุบลราชธานีฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน ส่งผลให้ถนนหลายสายในเขตพื้นที่เทศบาลนครอุบลราชธานี น้ำท่วมขัง จราจรติดขัดยาวกว่า 3 กิโลเมตร

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.อุบลราชธานี มีฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน ส่งผลให้ถนนหลายสายในพื้นที่เทศบาลนครอุบลราชธานี เกิดน้ำท่วมขังประมาณ 50 เซนติเมตร การจราจรติดขัด บางแห่งสูงถึง 1 เมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ บางแห่งท่วมเข้าบ้านเรือนประชาชน ต้องขนของขึ้นที่สูง โดยเฉพาะถนนแจ้งสนิท ขาเข้าเมืองอุบลราชธานี รถติดยาวถึง 5 กิโลเมตร จากข้อมูลหน่วยกู้ภัยได้เกิดอุบัติเหตุหลายจุดในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี และมีไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ทำให้ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก

ข้อมูลของสำนักงานอุตุนิยมวิทยา จ.อุบลราชธานี ทราบว่าพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 200 กิโลเมตรทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 15.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนที่ทางตะวันตกด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน โดยจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในวันนี้ และจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศลาวตอนล่างเข้าสู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ ทำให้จ.อุบลราชธานีในสัปดาห์นี้มีฝนตกตลอดทั้งสัปดาห์ จึงขอประชาชนขับขี่รถอย่างระมัดระวัง เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้.

อุบลฯวิกฤต พายุฝนพัดถล่ม 2 วันติดต่อน้ำท่วม รถติดยาว 5 กิโลเมตร | เดลินิวส์

 

อิทธิพลพายุฝนตกทั้งวันทั้งคืนทั่วที่สุรินทร์
วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2556 เวลา






อิทธิพลพายุฝนตกทั้งวันที่สุรินทร์ ช่วยบรรเทาปัญหาสภาวะแห้งแล้งได้

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. จากสภาพอากาศที่มีการเคลื่อนตัวของพายุดีเปรสชั่นจากประเทศเวียดนามเข้าสู่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวตอนล่าง และมีอิทธิเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างทำให้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง

สำหรับที่จ.สุรินทร์ ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ยาวต่อเนื่องมาถึงเช้าวันนี้ขณะนี้ ฝนก็ยังคงตกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวันนี้เป็นวันพระใหญ่ หรือวันสารทเล็ก ตามประเพณี ชาวพุทธจะนำอาหารคาวหวาน มาเลี้ยงดูบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วให้ได้มารับส่วนบุญกุศลจากลูกหลานที่ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ แต่เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเดินทางไปทำบุญตามวัดต่างๆ ของพี่น้องชาวพุทธในวันนี้ ค่อนข้างลำบาก และฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงสองวันนี้ ทำให้น้ำในแม่น้ำมูล บริเวณลำน้ำมูล และลำน้ำนี้ชี ไหลมาบรรจบกัน ที่วังทะลุ บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ หนุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ล้นขอบตลิ่งแม่น้ำมูล ช่วยลดปัญหาความแห้งแล้งลงได้ จนถึงขณะนี้ท้องฟ้ายังปกคลุมด้วยเฆมหนา มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามฝนตกต่อเนื่องในวันนี้ ทำให้ช้างที่หมู่บ้านช้าง ศูนย์คชศึกษา และช้างในโครงการคชอาณาจักร อารมณ์ดีเพราะอากาศไม่ร้อน หลายเชือกพากันยืนรับน้ำฝน.

อิทธิพลพายุฝนตกทั้งวันทั้งคืนทั่วที่สุรินทร์ | เดลินิวส์

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ "
ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 19 กันยายน 2556​

พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางแล้วเมื่อคืนนี้ และได้เคลื่อนตัวผ่านประเทศลาวเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดอุบลราชธานีเมื่อเช้าวันนี้ และเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (19 ก.ย. 56)
มีศูนย์กลางอยู่บริเวณอำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านในแนวจังหวัดอำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และนครราชสีมา โดยจะมีกำลังอ่อนลงเป็นลำดับและคาดว่าจะสลายตัวในบริเวณภาคกลาง ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ย. 56)

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณจังหวัดมุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ มหาสารคาม นครราชสีมา และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดสระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด มีฝนทั่วไป โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ในช่วงวันที่ 19-21 กันยายน 2556 นี้

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “อุซางิ” (USAGI) ซึ่งเป็นพายุอีกลูกหนึ่งทางด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ได้เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวมาทางตะวันตก เข้าหาตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ และลงทะเลจีนใต้ในระยะต่อไป สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์ ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 11.00 น.

(ลงชื่อ) วรพัฒน์ ทิวถนอม

(นายวรพัฒน์ ทิวถนอม)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
​

 

โชคดี ในตัวอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ฝนไม่เยอะ ตั้งแต่เมื่อวานเช้า ฝนตกเบาๆ หยุดๆตกๆทั้งวัน จนถึงช่วงเช้าวันนี้ แล้วก็เงียบหายไป แต่เมฆหนามาก ไม่เห็นตะวันเลย อากาศเย็นสบายเหมือนอยู่ชายทะเล

.

 

เรียกประชุมด่วนรับมือเกาะเมืองกรุงเก่าจมน้ำ
วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2556 เวลา 15:11 น.

กรุงเก่าโรงเรียนขนของหนีน้ำ ชาวบ้านอพยพไปนอนศาลา วอนรัฐบาลสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมถาวรรอบเกาะเมือง ผุดแม่น้ำเจ้าพระยา 2 จากจ.สิงห์บุรี -ชัยนาท ไปออกอ่าวไทย


ร.ร.ใน อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยาน้ำท่วม






เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 19 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยยังคงสูงขึ้นอีกประมาณ 20 ซม. ทำให้น้ำยังคงเอ่อไหลเข้าท่วมบ้านริมแม่น้ำขยายเป็นวงกว้าง โดยที่ อ.เสนา น้ำท่วมเข้าพื้นที่ 8 อำเภอเต็มร้อยเปอร์เซ็น ส่วนที่อ.บางบาล น้ำเอ่อเข้าท่วมชั้นล่างโรงเรียนประชากรรังสฤษฏ์ หมู่ 2 ต.บางหลวง

นายสมยศ แสงจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ได้สั่งการให้ครูอาจารย์ช่วยกันขนสิ่งของย้ายไปยังอาคารหลังใหม่สองชั้นก่อนหน้าแล้ว พร้อมกล่าวว่า อาคารเรียนหลังใหม่เป็นอาคารขนาดใหญ่ สูงกว่าอาคารเดิม 3 เมตร มั่นใจว่าน้ำไม่ท่วมอย่างแน่นอน ที่สำคัญหากเกิดวิกฤตน้ำท่วมจริง จะสามารถใช้อาคารเรียนหลังใหม่หลังนี้ในการเป็นศูนย์ผู้ประสบภัยได้ ขณะเดียวกันชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงอย่างที่ หมู่ 8 ต.บางหัก ต้องนำรถจยย.และรถยนต์ รวมทั้งข้าวของออกมากองบนถนนหลังหมู่บ้าน หลังจากระดับน้ำล้นตลิ่ง ทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ และบางบ้านน้ำท่วมบ้านทั้งหลังแล้ว เนื่องจากเป็นบ้านชั้นเดียวและอยู่ต่ำ ชาวบ้านจึงต้องออกมาอาศัยนอนอยู่ที่ศาลาที่พักหลังหมู่บ้าน

ขณะที่เกษตรกรสวนกล้วยในพื้นที่หมู่ 1 ต.บางหลวง ก็ได้รับผลกระทบด้วย โดยนางสำรี เขตกุฎี อายุ 64 ปี กล่าวว่า จากน้ำท่วมล่าสุดทำให้ตนไม่สามารถขุดเก็บหน่อกล้วยได้ทัน ทำให้ได้รับความเสียหายมูลค่าหลายหมื่นบาท บางส่วนที่กำลังออกเครือก็ต้องเสียหาย เนื่องจากน้ำที่ท่วมจะทำให้การเจริญเติบโตของต้นกล้วยหยุดชะงักผลผลิตเสียหาย

นอกจากนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา เรียกคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ ประชุมด่วน เพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วน ในการป้องกันเกาะเมืองกรุงเก่า เนื้อที่ 18 ตารางกม. ที่มีแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่ล้ำลพบุรี ไหลล้อมรอบ และทุกแม่น้ำมีระดับน้ำ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เริ่มล้นตลิ่งท่วมอ.บางบาล ที่อยู่เหนือน้ำขึ้นไปแล้ว ซึ่งเกาะเมือง ถึงแม้ระดับน้ำยังไม่ล้นตลิ่ง แต่อยู่ในระยะเสี่ยงภัย

โดยแนวทางป้องกันน้ำท่วมเฉพาะหน้า คือปิดจุดเสี่ยงน้ำเข้าเกาะเมือง ที่ปากคลองตรงหัวรอและหัวแหลม พร้อมเสริมแนวป้องกันน้ำท่วมเดิมที่ปากคลองต่าง ๆ และหากระดับน้ำมากขึ้นกว่านี้ จะต้องทำแนวคันดิน เสริมบนถนนอู่ทองรอบเกาะเมือง ระยะทาง 13 กม. ให้สูงขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 2 เมตรครึ่ง ซึ่งแนวทางนี้ เคยป้องกันน้ำท่วมเกาะเมืองได้ทุกปี ยกเว้นในปี 2538 และ ปี 2554 ที่ระดับน้ำมาสูงกว่าแนวป้องกัน

อย่างไรก็ตามชาวกรุงเก่า เรียกร้องรัฐบาลเพื่อ ของบประมาณการก่อสร้างเขื่อน ป้องกันน้ำท่วมแบบถาวรรอบเกาะเมือง และขอให้สร้างแม่น้ำเจ้าพระยา 2 เริ่มจากจ.สิงห์บุรี หรือชัยนาท ไปออกปากอ่าวไทย


เรียกประชุมด่วนรับมือเกาะเมืองกรุงเก่าจมน้ำ | เดลินิวส์

 

ชาวนากรุงเก่าเร่งเก็บเกี่ยวข้าวหนีน้ำ
วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2556

น้ำท่วมขยายวงกว้างชาวนากรุงเก่า เร่งเก็บเกี่ยวข้าวหนีน้ำ

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระดับน้ำในแม่น้ำน้อย ที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้เพิ่มสูงขึ้นอีกและขยายวงกว้างเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา มีบ้านเรือนได้รับความเดือดร้อน 2500 หลังคาเรือนที่ถูกน้ำท่วม โดยชาวบ้าน หมู่1 ต.บ้านแพน อ.เสนา ต้องเร่งสร้างแพลอยน้ำขนย้ายสิ่งของขึ้นเก็บที่สูง และทำสะพานเข้าบ้านพักเตรียมย้ายรถยนต์ไว้บนถนนหลังน้ำไหลเอ่อเข้าท่วมสูงถึง 50 ซม. ส่วนเกษตรกรทำนาใน อ.เสนา และ อ.บางบาล กว่า 400 ไร่ ต้องเร่งนำรถเกี่ยวข้าวเกี่ยวข้าวหนีน้ำ ให้เสร็จภายสัปดาห์นี้เกรงว่าหากปล่อยไว้นาข้าวจะถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย

นางเสาวนีย์ บุญญะเขตร์ อายุ 53 ปี ชาวนาตำบลบางหลวงโดด อ.บางบาล กล่าวว่าปีถึงแม้น้ำจะมาช้ากว่าทุกปีแต่ระดับน้ำขึ้นเร็วมากต้องเร่งเก็บเกี่ยว เพราะถ้าช้ากว่านี้นาข้าวอาจจะจมน้ำและข้าวจะมีความชื้นได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน

ชาวนากรุงเก่าเร่งเก็บเกี่ยวข้าวหนีน้ำ | เดลินิวส์