เกาะติดสถานการณ์ ดิน น้ำ ลม ฝน พายุ **เฝ้าระวัง !!!!2556(2013)**

สังเกตุดูตารางนี้ดีๆครับ ปริมาณน้ำฝนเทียบกับ 30 ปีที่ผ่านมา

<a href="http://pic.free.in.th/id/9a55ba64ed1375028bcbe4978b1f0b39" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/in/130923031030.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

 

ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆอย่างละเอียดครับ

<a href="http://pic.free.in.th/id/941b471f0813e7b8b8fb9ab7c13647b5" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/in/130923031233.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

 

ต่อไปก็มาดูน้ำในแม่น้ำหลักๆที่เราควรจับตามองและเฝ้าระวัง อย่าลืมสังเกตุสัญญลักษณ์สถานะน่ะครับ

<a href="http://pic.free.in.th/id/3e063d4e8aecb1e071b550ecb4476516" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ix/130923031430.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

 

สังเกตุภาพล่างนี้ให้ดีครับ จุดที่ผมวงกลมสีแดงเอาไว้ ปริมาณและระดับน้ำอยู่ในขั้นวิกฤตน่ะครับ ท่านใดที่อยู่บริเวณนั้นและใกล้เคียงหากยังไม่ขนข้าวของหนีน้ำ ผมว่าขนเตรียมไว้ก่อนดีกว่าครับ

<a href="http://pic.free.in.th/id/eab1909f0f6fd5444c0a4e5146abf45a" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ij/130923031528.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

 

สถานการณ์วิกฤติน้ํารายวัน
ภาคเหนือ
จ.เพชรบูรณ์หลังจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องติดต่อกันตลอดคืนที่ผ่านมา ทําให้คลองบุษบงและคลองหินเหล็กไฟ ซึ่งรับน้ํามาจากเทือกเขารัง เกิดการเอ่อทะลักออกจากตลิ่งในเขตอ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์เข้าท่วมพื้นที่ หมู่ 1, 2 และ 3 ของต.ชนแดน
นอกจากนี้ยังท่วมพื้นที่เขตชุมชนเทศบาลตําบลชนแดน โดยระดับน้ําสูงราว 50 ซม. นอกจากนี้ถนนหลวงหมายเลข 113 สายวังชมภู-ตะพานหิน บริเวนหน้าขนส่งอําเภอชนแดน มีกระแสน้ําไหลข้ามถนน ระดับน้ําสูงราว 30 ซม.

ภาคตอ.เฉียงเหนือ
จ.อุบลราชธานีปริมาณฝนที่ตกหนักเกินกว่า 100 มม. ทําให้ลําน้ําสาขาของแม่น้ํามูลมีระดับน้ําล้นตลิ่งหลายสายโดยเฉพาะที่ลําห้วยผับในอ.วารินชําราบ เริ่มล้นตลิ่งและไหลท่วมทางรถไฟระหว่างบ้านฮ่องซัน-บ้านถ่อน ต.บุ่งหวายอ.วารินชําราบ ระดับนํ้าท่วมสูงประมาณ 50 ซม.
ล่าสุดระดับแม่น้ํามูลที่สะพานเสรีประชาธิปไตยเพิ่มขึ้นจากวานนี้และมีระดับน้ําสูงกว่าตลิ่ง 8 ซม. ทั้งนี้ปภ.จังหวัดได้ประกาศเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์จากน้ํา
เหนือที่กําลังไหลมาจากจ.สุรินทร์และจ.ศรีสะเกษ ใน 1-2 วันนี้จ.ศรีสะเกษ มวลน้ําจํานวนมหาศาลจากเทือกเขาพนมดงรักเทือกเขาพนมดงรักชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ล้นเขื่อน
ห้วยติ๊กชูเขื่อนห้วยศาลาและเขื่อนห้วยตาจูได้ไหลทะลักลงมาตามลําห้วยสําราญ เข้ามาท่วมบ้านเรือน และไร่นาของประชาชน 4 อําเภอคืออ.ขุขันธ์อ.ปรางค์กู่อ.วังหิน
และอ.อุทุมพรพิสัย
โดยหมู่บ้านที่ถูกน้ําท่วมหนักเป็นบริเวณกว้าง ได้แก่ หมู่บ้านในเขตต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย หมู่บ้านในเขตต.บุสูงต.ธาตุและต.ศรีสําราญ อ.วังหิน ต.ใจดี
อ.ขุขันธ์และต.ตูมอ.ปรางค์กู่
จ.สุรินทร์มีรพ.ได้รับผลกระทบจากน้ําท่วม 3 แห่งคือรพ.สุรินทร์รพ.ศรีขรภูมิและรพ.สําโรงทาบ น้ําท่วมทางเข้าโรงพยาบาลแต่ยังเปิดให้บริการ

ภาคตะวันออก
จ.ปราจีนบุรีสถานการณ์แม่น้ําปราจีนบุรีด้าน อ.กบินทร์บุรีมีปริมาณน้ําสูงจนเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนบ้านปากแพรกและบ้านริมน้ําส่วนที่ตลาดเก่ากบินทร์
มีระดับน้ําที่สูงประมาณ 1 มจ.สระแก้ว พบรพ.ส่งเสริมสุขภาพตําบลถูกน้ําท่วม 2 แห่งคือรพ.สต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูงและรพ.สต.คลองตะเคียน อ.วัฒนานครระดับน้ําสูง
50ซม.

ภาคกลาง
จ.อ่างทอง น้ําในแม่น้ําเจ้าพระยามีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทําให้หลายพื้นที่เกิดน้ําล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ทางการเกษตร เช่น ต.โผงเผงอ.ป่าโมกซึ่งบางจุดระดับน้ําท่วมสูงกว่า 1 ม. จ.พระนครศรีอยุธยา
ปภ. เปิดเผยว่าเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ําเพิ่มขึ้น ทําให้แม่น้ําป่าสักมีระดับน้ําสูงขึ้นอีก 50-80 ซม.
ประกอบกับเขื่อนพระราม 6 ระบายน้ําอยู่ที่ 550-600 ลบ.ม.ต่อวินาที ทําให้บ้านที่อยู่ริมแม่น้ําป่าสักและวัดกษัตราธิราชวรวิหารได้รับผลกระทบจากน้ําล้นตลิ่งจ.นครสวรรค์
น้ําป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์และเขาพระ ที่หลากท่วมเขตเศรษฐกิจอ.หนองบัว เริ่มลดลง หลังเทศบาลและชลประทานจังหวัดติดตั้งเครื่องสูบน้ํา พร้อมขุดลอกเปิดทางน้ํา
ส่งผลน้ําหลากลงคลองสาขาเอ่อล้นเข้าท่วมทุ่งนาและบ้านเรือนนอกเขตเทศบาลและกําลังไหลหลากต่อไปยังอ.ท่าตะโกและอ.ชุมแสงก่อนจะลงสู่งบึงบอระเพ็ด

ภาคใต้
จ.ชุมพร หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. ทําให้น้ําที่ไหลมาจากต.ปากจั่น อ.กระบุรีจ.ระนอง ไหลมาตามคลองชุมพรได้เอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 6 ต.บ้านนาอ.เมืองชุมพรโดยเฉพาะถ.สายวัดบ้านนา–ค่ายอส.

 

11:01 ภาพดาวเทียมพายุปลาบึกในมหาสมุทรแปซิฟิค เคลื่อนเหนือไปทางญี่ปุ่นและจะเลี้ยวขวาออกทะเลลึก ไม่ส่งผลใดๆ

 

น้ำท่วมสุรินทร์ยังน่าห่วง อ.ศีขรภูมิ-สำโรงทาบอ่วม ถนนเชื่อมศรีสะเกษถูกตัดขาด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กันยายน 2556 12:54 น.


สุรินทร์ - สถานการณ์น้ำท่วมเมืองช้างล่าสุดยังน่าเป็นห่วง พื้นที่ตอนล่างอ่างฯ ห้วยเสนงน้ำยังไหลหลากเข้าท่วมไร่นา-หมู่บ้านในที่ลุ่มเป็นบริเวณกว้าง ถนนหลายจุดถูกตัดขาด ขณะมวลน้ำมหาศาลจากเทือกเขาพนมดงรักไหลเข้าท่วมถึงเขต อ.ศีขรภูมิ อ่างเก็บน้ำลำพอก เร่งระบายสู่ อ.สำโรงทาบ ทำให้ถนนหลักสาย 226 บริเวณสะพานลำห้วยทับทันเชื่อมสุรินทร์-ศรีสะเกษ จมบาดาล การสัญจรถูกตัดขาด

วันนี้ (23 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สุรินทร์ว่า ล่าสุดในเขต อ.เมือง จ.สุรินทร์ พื้นที่ตอนล่างอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ตามลำห้วยเสนงก่อนไหลลงแม่น้ำชี และไปลงน้ำมูลที่บริเวณวังทะลุ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ นั้น ทั้งสองฟากฝั่งลำห้วยเสนงน้ำยังคงเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร นาข้าวเป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งหมู่บ้านที่อยู่ในที่ลุ่มหลายแห่ง และเส้นทางหลายจุดถูกน้ำท่วมตัดขาดไม่สามารถสัญจรผ่านได้

อย่างไรก็ตาม สภาพโดยรวมปริมาณน้ำได้ลดลงจากเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมา โดยอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงซึ่งรับน้ำจากเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา ได้ลดการระบายน้ำลงจาก เดิมเมื่อวานนี้ (22 ก.ย.) วันละ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือวันละ 14 ล้าน ลบ.ม.

ขณะที่อ่างเก็บน้ำลำพอก อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่รองรับน้ำที่ไหลทะลักลงมาจากเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่าน อ.สังขะ และ อ.ศรีณรงค์ รวมทั้งจากอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงบางส่วน ทำให้มีมวลน้ำมหาศาลมารวมตัวกันเอ่อล้นเข้าท่วมเขตตัว อ.ศีขรภูมิอย่างหนักมาตั้งแต่วานนี้ (22 ก.ย.) และท่วมเส้นทางหลักในอำเภอระยะทาง 1.5 กิโลเมตร (ก.ม.) ล่าสุดน้ำยังท่วมในระดับสูง ประชาชนเดือดร้อนการสัญจรเป็นไปด้วยความลำบาก

ทางด้านอ่างเก็บน้ำลำพอกได้เร่งระบายมวลน้ำมหาศาลออกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมวลน้ำดังกล่าวได้ไหลไปยังพื้นที่ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ และ อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ต่อไป และในพื้นที่ อ.สำโรงทาบจะถูกน้ำท่วมหนักเป็นพื้นที่สุดท้ายของ จ.สุรินทร์ ซึ่งขณะนี้พบว่าน้ำได้ท่วมสูงช่วงสะพานลำห้วยทับทันบนถนนสาย 226 อ.ทับทัน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นถนนสายหลักเชื่อมต่อกับพื้นที่ ต.หมื่นศรี อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ การสัญจรบนถนนสาย 226 ช่วงนี้ถูกตัดขาด ผู้ที่จะเดินทางไป จ.ศรีสะเกษใช้เส้นทางสุรินทร์-รัตนบุรี เข้า อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แม้สถานการณ์น้ำท่วมโดยภาพรวมของ จ.สุรินทร์ระดับน้ำจะลดลง แต่ยังมีพื้นที่อยู่ใต้อ่างเก็บน้ำ และที่ลุ่มหลายแห่งยังคงมีน้ำท่วมสูงน่าเป็นห่วง และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ประกอบด้วย บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำเกาะแก้ว อ.สำโรงทาบทั้งอำเภอ, ท้ายอ่างเก็บน้ำลำพอก อ.ศีขรภูมิ รวมทั้งพื้นที่ตอนล่างอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง อ.เมืองสุรินทร์ และหลายตำบลรอบตัวเมืองสุรินทร์ที่ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น

ส่วนถนนทางหลวงสายหลักถูกตัดขาด รถไม่สามารถสัญจรได้ ได้แก่ สาย สร 4015 แยกทางหลวง 2371-บ้านอาโพน อ.ศีขรภูมิ และ อ.สำโรงทาบ สภาพน้ำท่วมไหลผ่านถนนสูงประมาณ 50-70 เซนติเมตร (ซม.) ถนนบริเวณแยกเลี่ยงเมือง สายสุรินทร์-อ.ปราสาท และถนนสายสุรินทร์-บุรีรัมย์ วันนี้ (23 ก.ย.) รถยนต์ยังผ่านไม่ได้ในช่วงหน้าร้านอาหาร อ.กุ้งเผา ถึงสำนักงานประมงจังหวัดสุรินทร์


อ่างเก็บน้ำลำพอก อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เร่งระบายมวลน้ำมหาศาล หลังน้ำจากเทือกเขาพนมดงรักไหลเข้าท่วมพื้นที่ อ.ศีขรภูมิ และกำลังไหลลงไปท่วมเขต อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ เขตรอยต่อกับ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ ( 23 ก.ย.)

 

จ.อ่างทอง เร่งจัดที่พักชั่วคราวช่วยผู้ประสบอุทกภัย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กันยายน 2556 14:47 น

นายศักดิ์ฤทธิ์ สลักคำ นายอำเภอป่าโมก จ.อ่างทอง กล่าวว่า ประชาชนชาว ต.โผงเผง ประสบภาวะน้ำท่วม 8 หมู่บ้าน จำนวน 323 ครัวเรือน 967 คน
ด้านการช่วยเหลือเร่งด่วนที่ผู้ประสบภัยต้องการขณะนี้ คือที่พักอาศัยชั่วคราว เรือ และห้องน้ำ ซึ่งทาง อ.ป่าโมก และองค์การบริหารส่วนตำบลโผงเผงได้จัดเต็นท์ที่พักชั่วคราว พร้อมระบบไฟฟ้า จำนวน 120 หลัง ให้ราษฎรที่ประสบภัยในพื้นที่ หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 หมูที่ 4 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 7
นอกจากนี้ ยังจัดเรือจำนวน 120 ลำ ห้องน้ำชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเร่งด่วนแล้ว
ทั้งนี้ ในวันพุธที่ 25 กันยายน 2556 ทางมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก จะนำสิ่งของพระราชทานมาช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมที่องค์การบริหารส่วน ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง

 

ระดับน้ำ"กรุงเก่า"ขึ้นอีก10-15 ซม.
วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 เวลา 14:42 น.




เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 ก.ย. นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รายงานสถานการณ์น้ำวันนี้ว่าในพื้นที่อ.บางบาล ผักไห่ เสนา พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน และบางไทร ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 10- 15 ซม. สาเหตุเนื่องจากมีปริมาณน้ำผ่าน จ.นครสวรรค์ 1,564 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 108 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผ่านจ.สิงห์บุรี 2,044 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 84 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผ่าน จ.อ่างทอง 2,028 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คลองบางบาล 183 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 13 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงมีผลทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกจากเมื่อวานนี้


นายอุดมศักดิ์กล่าวอีกว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ริมคลองบางหลวง อ.บางบาล แม่น้ำน้อย และแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตอ.บางบาล พระนครศรีอยุธยา เสนา ผักไห่ บางไทร บางปะอิน จะเพิ่มต่อเนืองเกือบทุกวัน เพราะน้ำจากจ.นครสวรรค์ค่อนข้างเยอะพอสมควร แต่หากชลประทานควบคุมการระบายน้ำให้อยู่ไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้ระดับน้ำในจ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มขึ้นไม่มาก ประมาณวันละ 15-20 ซม. อย่างไรก็ตามคาดว่าจากนี้ไปอีก 4-5 วัน น้ำจะเพิ่มขึ้นอีก 50 ซม.

ระดับน้ำ"กรุงเก่า"ขึ้นอีก10-15 ซม. | เดลินิวส์

 

จระเข้โผล่อาบแดด ริมคลองเมืองนครปฐม



จระเข้โผล่อาบแดด ริมคลองคูเมือง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม คาดหลุดมาเมื่อครั้งมหาอุทกภัยปี 54 ชาวบ้านผวา ไม่กล้าลงอาบน้ำและหาปลา...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ก.ย. 56 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีชาวนา พบจระเข้โผล่อาบแดด ถูกจับไว้ได้ที่ริมคลองคูเมือง ม.9 ต.บางหลวง อ.บางเลน จ.นครปฐม เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบจระเข้ 1 ตัว ขนาดยาว 1.20 เมตร หนัก 5.5 กก. อายุประมาณ 1 ปีเศษ ผู้จับจระเข้ตัวดังกล่าว คือ นายถนอมจิตร ฮะชะชู อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 ม. 2 ต.ไผ่หูช้าง อ.บางเลน จ.นครปฐม อาชีพทำนา

นายถนอมจิตร กล่าวว่า ตนได้ขี่จักรยานยนต์ ฮอนด้าสีส้ม ทะเบียน ขคธ 815 นฐ กลับจากนาเพื่อจะเข้าบ้าน เมื่อถึงริมคลองคูเมือง พบจระเข้นอนอาบแดด ตนจึงขี่จักรยานยนต์ไปเอาปืนยิงปลาที่บ้าน โดยใช้ลูกดอกเหล็ก ยิงจระเข้เข้าที่กลางหลัง 1 ครั้ง และหางตาด้านขวา 1 ครั้ง จนจระเข้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นจึงจับมามัดเชือกไว้ และอยากเตือนชาวบ้านที่ลงอาบน้ำ และหาปลาในคลองคูเมือง ให้คอยระวังจระเข้ไว้ด้วย คาดว่า จระเข้ดังกล่าวน่าจะหลุดมาเมื่อครั้งที่เกิดมหาอุทกภัย ปี 54 เนื่องจากคลองคูเมืองเป็นคลองแยกสาขามาจากแม่น้ำท่าจีน ซึ่งห่างจากจุดที่พบจระเข้ประมาณ 1 กม. ส่วนตัวที่จับได้นี้ได้รับบาดเจ็บและยังมีชีวิตอยู่ ตนจะเก็บไว้ดูอาการก่อน เพราะไม่แน่ใจว่าจระเข้จะเสียชีวิตหรือไม่


ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ - Site
วันที่ 23 Sep 2013 - 14:44


..........................................
น้ำท่วมทีไรมีข่าวแบบนี้ให้เห็นให้หวาดผวากันตลอด

คนเลี้ยงก็ช่างกระไรมีความประมาทเป็นที่ตั้งตลอด เวรกรรมจริงๆ อยากจะเลี้ยงแต่ไม่นึกถึงความปลอดภัยเป็นที่ตั้ง

 

แปดริ้ว จมบาดาล สั่งปิดร.ร.หลายแห่ง



สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรายังอ่วม โดยเฉพาะพื้นที่ อ.พนมสารคาม ปริมาณน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา ขณะที่โรงเรียนในเขต อ.พนมสารคาม สั่งปิดการเรียนการสอนไปหลายแห่งแล้ว...

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ถึงแม้อิทธิพลพายุดีเปรสชัน ที่ทำให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคกลางและอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ระดับน้ำท่วมขังยังเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา โดยในพื้นที่ ต.เกาะขนุน และ ต.ท่าถ่าน บริเวณถนนสายพนมสารคาม-สนามชัยเขต หน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะขนุน และหน้าวัดพงษาราม เขตเทศบาลตำบลเกาะขนุน ปริมาณน้ำได้ท่วมถนนสูงประมาณ 50 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้ เนื่องมาจากน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองสียัดและน้ำป่าในเขต อ.ท่าตะเกียบ ไหลมาตามคลองท่าลาด เพื่อที่จะไหลลงแม่น้ำบางปะกง แต่ระบายไม่ทัน จึงเอ่อล้นตลิ่งท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมคลอง และขณะนี้โรงเรียนในเขต อ.พนมสารคาม ได้ปิดหยุดเรียนไปหลายโรงเรียนแล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำได้ท่วมสูง

นายคมทัตย์ ตันติยมาศ นาอำเภอพนมสารคาม เปิดเผยว่า ในปีนี้น้ำมีมากกว่าปีที่ผ่านมาและน้ำมาเร็วมาก ซึ่งน้ำที่ท่วมนี้เป็นน้ำที่ไหลมาจาก อ.ท่าตะเกียบ ขณะนี้ได้ให้ผู้นำท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นร่วมกันเร่งสำรวจความเสียหาย และชาวบ้านที่ได้รับความเดือนร้อนและรายงานให้ทางจังหวัดทราบ
ขณะนี้เท่าที่ทราบพบว่า พื้นที่ ต.เกาะขนุน และ ต.ท่าถ่าน ที่มีพื้นที่ติดกับคลองท่าลาด ได้รับความเสียหายพอกัน ทางอำเภอได้จัดทำถุงยังชีพ และมอบให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนไปบางส่วนแล้ว และจะเร่งดำเนินการต่อไป.


ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ cisco พบกับข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรุ่น SX20
วันที่ 23 Sep 2013 - 14:00

 

น้ำท่วมอีสานอ่วม รฟท.แจ้งเปลี่ยนเส้นทาง



"การรถไฟฯ" ประกาศเปลี่ยนแปลงการเดินรถไฟสายอีสานหลายขบวน หลังน้ำท่วมสูงในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ปิดเส้นทางเดินรถไฟช่วงสถานีสำโรงทาบ-สถานีห้วยทับทัน...
นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จากเหตุจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในพื้นที่หลายจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้กระแสน้ำไหลบ่าท่วมทางรถไฟในระดับสูง และพัดหินรองรางสูญหายไม่ปลอดภัยต่อการเดินรถ ขบวนรถไฟไม่สามารถผ่านไปได้ การรถไฟฯ จึงประกาศปิดทางช่วงสถานีสำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ถึงสถานีห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ระหว่าง สทล.476/9-478/9 ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา

โดยในวันนี้ (23 ก.ย. 56) การรถไฟฯ ได้ประกาศงดเดินรถไฟขบวนรถเร็วที่ 145 (รถไฟฟรี) กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ส่วนขบวนรถเร็ว 139 และขบวนรถด่วนที่ 67 กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี เดินรถได้ถึงปลายทางสถานีศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เท่านั้น โดยไม่มีการขนถ่ายผู้โดยสาร เนื่องจากเส้นทางถนนทางหลวงก็ถูกน้ำท่วมเสียหาย สัญจรไม่ได้เช่นเดียวกัน

ส่วนในขบวนรถสายหนองคาย ที่ต้องเดินขบวนรถผ่านจุดที่มีน้ำท่วม จะต้องเปลี่ยนเดินขบวนรถเลี่ยงไปทางชุมทางบัวใหญ่-แก่งคอย ต่อไปจนถึงสถานีหนองคาย

อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารสามารถนำตั๋วมาเลื่อนการเดินทาง หรือติดต่อขอรับเงินคืนได้ที่นายสถานีรถไฟทุกแห่ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลข 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง.


ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์ cisco พบกับข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรุ่น SX20
วันที่ 23 Sep 2013 - 13:45

 

ศูนย์รายงานอุบัติภัยกรมทางหลวง พบ 13 จังหวัด 27 เส้นทาง "น้ำท่วมขัง



ศูนย์รายงานอุบัติภัยกรมทางหลวง สรุปสถานการณ์ภัยพิบัติพื้นที่น้ำท่วมขัง พบว่ามี 13 จังหวัด มี 27 สายทางถูกน้ำท่วมขัง รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้

ศูนย์รายงานอุบัติภัยกรมทางหลวง สรุปสถานการณ์ภัยพิบัติพื้นที่น้ำท่วมขังถนนทางหลวง 13 จังหวัด ได้แก่ จ.ฉะเชิงเทรา, ปทุมธานี, ลพบุรี, สระบุรี, สุพรรณบุรี, ชัยภูมิ, นครราชสิมา, บุรีรัมย์, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, อุบลราชธานี และเพชรบรูณ์

ขณะที่จ.สุรินทร์ มีน้ำท่วมขังถนนทางหลวง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ จำนวน 16 เส้นทาง ระดับน้ำอยู่ที่ 20-80 เซนติเมตร ผู้ใช้รถใช้ถนน จึงควรหลีกเลี่ยงเส้นทาง เพราะสถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย ส่วนจ.ปราจีนบุรีมี 1 เส้นทาง ที่ อ.ศรีมหาโพธิ รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ เนื่องจากยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง


ไทยพีบีเอส Thai PBS

 

"เสริมศักดิ์"มั่นใจป้องกันน้ำท่วมโบราณสถานได้
วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 เวลา 14:30 น.



เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ก.ย. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ เดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำที่บริเวณถนนอู่ทอง หน้ากรมสรรพาวุธซ่อมยาง จ.พระนครศรีอยุธยา ตรงข้ามวัดกษัตราธิราชวรวิหาร พบว่าน้ำไหลเชี่ยวแรงและมีระดับสูงขึ้น โดยระดับน้ำยังอยู่ต่ำกว่าผิวการจราจรลงไปประมาณ 1 เมตร โดยการตรวจสอบสภาพครั้งนี้ นายเสริมศักดิ์กล่าวว่าระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจจะส่งผลกับโรงเรียนริมแม่น้ำอย่างมาก จึงได้สั้งการให้โรงเรียนเก็บข้าวของขึ้นที่สูงแล้ว ซึ่งในส่วนของจ.พระนครศรีอยุธยา โรงเรียนริมแม่น้ำส่วนใหญ่รู้ล่วงหน้ามีการขนย้ายก่อนแล้ว และมีการปรับตัวจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่มีการสร้างอาคารเรียนใหม่และมีระดับสูงขึ้น ในส่วนของโบราณสถานที่เป็นแหล่งศึกษาของนักเรียนได้กำชับให้ป้องกันเต็มที่ จึงยังไม่น่าตกใจ และคาดว่าสามารถป้องกันได้

ขณะเดียวกัน พบว่าระดับน้ำที่สูงขึ้นในแม่น้ำเจ้าพระยาขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อเรือข้ามฟากรอบเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีอยู่ด้วยกันประมาณ 4 แห่ง ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยวมาก ซึ่งทางเจ้าท่าได้ส่งเจ้าหน้าที่มาควบคุมดูแลช่วงเช้าทุกวัน

น.ท.รัชตะ ผกาฟุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา เปิดเผยถึงการเดินเรือขนส่งในช่วงนี้ว่า ได้แจ้งเตือนการเดินเรือในช่วงระยะน้ำมีระดับสูงกว่าปกติ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่น้ำในแม่น้ำลำคลองต่างๆ มีระดับสูง อาจทำให้ประชาชนที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ริมแม่ฝั่งแม่น้ำได้รับความเดือดร้อน จากเรือที่เดินผ่านขึ้น-ล่อง เป็นประจำ โดยกำหนดเขตควบคุมการเดินเรือ ในเขตท้องที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และสิงห์บุรี

โดยให้ผู้ควบคุมเรือทุกลำเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามประกาศและเชื่อฟังคำสั่งของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากผู้ใดฝ่าฝืน และเป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนหรือเป็นเหตุให้ทรัพย์สินประชาชนเสียหาย จะต้องรับผิดชอบทางแพ่ง รวมถึงถูกระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 500 – 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมยึดประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือมีกำหนดไม่เกิน 6 เดือน

"เสริมศักดิ์"มั่นใจป้องกันน้ำท่วมโบราณสถานได้ | เดลินิวส์

 

"ปลอด"ตั้งวอร์รูมรับสถานการณ์น้ำ24ชม.
วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 เวลา 12:45 น.

เกาะติดสถานการณ์น้ำนาน 2 เดือน ห่วงระดับน้ำกึ่งวิกฤต เร่งแก้ขยายทางระบายน้ำ-ขุดคลองลัดแม่น้ำปราจีนให้ไหลลงแม่น้ำบางปะกงเร็วขึ้น

เมื่อวันที่ 23 ก.ย. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.) เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำทั้งในระดับกระทรวงและระดับกรม ตั้งศูนย์เฉพาะกิจขึ้นในหน่วยงานของตัวเองและส่งตัวแทนมาที่ศูนย์บัญชาการ(ซิงเกิ้ล คอมมานด์ เซ็นเตอร์) ของสำนักงานงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ(สบอช.) ภายในทำเนียบรัฐบาล เพื่อตั้งเป็นวอร์รูมติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 2 เดือน

เนื่องจาก ขณะนี้สถานการณ์อยู่ในระดับกึ่งวิกฤต ขณะเดียวกันในบ่ายวันนี้(23 ก.ย.) ตนจะนั่งเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ไปตรวจดูสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เพราะมีฝนตกลงมาในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลลงแม่น้ำปราจีน ขณะเดียวกันช่วงนี้มีน้ำทะเลสูง ส่งผลให้การระบายน้ำจากแม่น้ำปราจีนฯ ไปยังแม่น้ำบางปะกงเพื่อออกสู่ทะเลไม่ทัน ทั้งนี้เราพยายามหาทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เช่น การขยายท่อ และช่องทางระบายน้ำ รวมถึงการขุดคลองลัดแม่น้ำปราจีนให้ไหลลงแม่น้ำบางปะกงเร็วขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน แม่น้ำปราจีนฯเลี้ยวหักศอกบริเวณ อ.กบินทร์บุรี เมื่อมีน้ำมากก็ล้นเข้าท่วมพื้นที่ของอำเภอดังกล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุถึงสถานการณ์น้ำในภาคกลาง พบว่าน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นน้ำฝนที่เกิดจากอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำต่อเนื่องมาจากปลายสัปดาห์ที่แล้ว ไม่ใช้น้ำจากเขื่อนหรือน้ำเหนือ โดยตัวเลขปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่แค่ร้อยละ 42 ระบายออกมาวันละ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) ส่วนเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีน้ำอยู่แค่ร้อยละ 57 ระบายออกมาวันละ 4 ล้านลบ.ม. ส่วนปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ที่จ.นครสวรรค์ขณะนี้อยู่ที่ 1,572 ลบ.ม.ต่อวินาที ไหลลงมาผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 1,996 ลบ.ม.ต่อวินาที ที่สิงห์บุรีอยู่ที่ 2,052 ลบ.ม.ต่อวินาที ต่ำกว่าตลิ่ง 72 ซม. ที่จ.อ่างทอง 2,028 ลบ.ม.ต่อวินาที ต่ำกว่าตลิ่ง 1.50 เมตร ที่อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ที่ 1,019 ลบ.ม.ต่อวินาที ที่อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ที่ 1,920 ลบ.ม.ต่อวินาที

ดังนั้นสถานการณ์น้ำท่วมในภาคกลางตอนกลาง เช่น จ.พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี จึงเป็นแค่เพียงน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ล้นเข้าท่วมพื้นที่ตลิ่งต่ำนอกคันกั้นน้ำ และระบายไม่ทัน


ส่วนพื้นที่ชั้นในหลังคันกั้นน้ำ ยังไม่ถูกน้ำท่วม แต่ถือว่าอยู่ในระดับเฝ้าระวัง โดยยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ เพราะจะวิกฤติต่อเมื่อมีน้ำไหลผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท สูงขึ้นไปถึง 2,800 ลบ.ม.ต่อวินาที และผ่านอ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา สูงถึง 3,500 ลบ.ม.ต่อวินาที

อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานประเมินว่าในวันที่ 24 ก.ย.นี้ จะมีปริมาณน้ำเจ้าพระยาไหลผ่านจ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นไปเป็น 1,600 ลบ.ม.ต่อวินาที และจะทรงตัวต่อไปอีก 2-3 วัน เมื่อรวมกับแม่น้ำสะแกกรังที่จะไหลเข้ามาท่วม 295 ลบ.ม.ต่อวินาที และน้ำที่ไหลเข้ามาจากด้านข้างประมาณ 200 ลบ.ม.ต่อวินาที จะทำให้มีน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นไปเป็น 2,100 ลบ.ม.ต่อวินาที กรมชลประทานจึงเตรียมแผนบริหารจัดการน้ำ โดยจะเน้นการระบายลงเจ้าพระยาเป็นหลัก เพราะแม่น้ำเจ้าพระยายังรับน้ำได้อยู่ และเป็นทางออกทะเลที่เร็วที่สุด ซึ่งได้มีการส่งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำไปติดตั้งตามจังหวัดรอบนอก และปริมณฑล เช่น จ.นนทบุรี และในคลองพระยาบันลือ อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา รวมถึงที่จ.ปทุมธานี เพื่อเร่งดันน้ำออกทะเลให้ได้มากที่สุดก่อนเข้าสู่เดือน ต.ค.นี้ที่น้ำทะเลจะหนุนขึ้นสูง และจะทำให้ดันน้ำไม่ออก

นอกจากนี้จะผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาบางส่วนลงคลองชัยนาท-ป่าสัก แม่น้ำสุพรรณบุรี และแม่น้ำน้อย เพื่อแบ่งน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาออกมา แต่จะเป็นแค่ส่วนน้อย เพื่อไม่ให้กระทบกับพื้นที่ทำการเกษตร ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยว อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลังจากสัปดาห์นี้ไป ถ้าไม่มีฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องเหมือนสัปดาห์ก่อน สถานการณ์น่าจะค่อยๆดีขึ้น.


"ปลอด"ตั้งวอร์รูมรับสถานการณ์น้ำ24ชม. | เดลินิวส์

 

ตำบลโผงเผงวิกฤต!! ระดับน้ำเพิ่มสูงกว่า 2 เมตร

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กันยายน 2556 15:28 น.

ที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว บางจุดสูงกว่า 2 เมตร ขณะนี้ชลประทานยังคงเร่งเปิดประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว โดยเปิดสูงขึ้นจากเดิมอีก 10 เซนติเมตร เนื่องจากมีชาวบ้านใน ต.บ้านอิฐ และบ้านรอชุมนุมประท้วงไม่พอใจที่ชลประทานเปิดประตูระบายน้ำเพียงบานเดียว ทำให้ระดับน้ำหน้าประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว ซึ่งเป็นคลองสาขาแม่น้ำเจ้าพระยาสูงเกือบ 8 เมตร และบางส่วนยังทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะที่หลังประตูระดับน้ำเพียง 4 เมตรเท่านั้น
ส่วนที่ จ.สิงห์บุรี ชาวนาใน ต.นางาม อ.อินทร์บุรี เร่งสูบน้ำออกจากนาข้าว เพื่อไม่ให้ข้าวที่กำลังออกรวงใกล้เก็บเกี่ยวเสียหาย รวมทั้งเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วม โดยขณะนี้การระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 2,000 ลูกบาศก์เมตรเศษต่อวินาที ซึ่งเพิ่มจากเมื่อวาน แต่ยังไม่กระทบกับระดับน้ำมากนัก

 

น้องน้ำมาแล้วก.อุตฯสั่งเกาะติดรับนิคมฯ”สหรัตนนคร”เสี่ยงสุด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กันยายน 2556 15:17 น.

กระทรวงอุตสาหกรรมสั่งกนอ.เกาะติดสถานการณ์น้ำใกล้ชิด หวั่น 3 นิคมฯเสี่ยงซ้ำรอยปี 2554 ยอมรับ”นิคมฯสหรัตนนคร”จ.อยุธยาเสี่ยงสุดเหตุคันกั้นน้ำคืบแค่ 30% ขณะที่รายอื่นๆ พร้อมแล้ว มั่นใจเอาอยู่


นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึง สถานการณ์นิคมอุตสาหกรรมต่อกรณีน้ำเหนือหลากในขณะนี้ว่า ยอมรับว่านิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร จ.พระนครศรีอยุธยา มีความเสี่ยงมากที่สุด เพราะยังก่อสร้างคันกั้นน้ำไม่เสร็จเพียงแห่งเดียวจากที่เคยถูกน้ำท่วมเมื่อปี 2554 โดยมีความคืบหน้าการก่อสร้างเพียง 30% เท่านั้นโดยได้มอบหมายให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)ไปติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงอย่างจังหวัดอยุธยา ปทุมธานีและปราจีนบุรี

“ นิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในพื้นที่จ.อยุธยา และเจอปัญหาน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 ที่ทางกนอ.จับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมีอยู่ 3 แห่งคือ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร และนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) “นายประเสริฐกล่าว

สำหรับกระแสข่าวที่ว่า ขณะนี้เริ่มมีกระแสน้ำไหลเอ่อไปถึงนิคมไฮเทคกบินทร์ อินดัสเตรียล จ.ปราจีนบุรี แล้วนั้น ทางกระทรวงยังไม่ได้รับรายงานเข้ามา เนื่งจากเป็นนิคมที่ขยายเพิ่มมาจากนิคมฯบ้านหว้าที่มีประสบการณ์มาแล้ว และตั้งอยู่บนพื้นที่สูง รวมทั้งยังไม่มีการเปิดดำเนินการจึงไม่น่าจะมีปัญหา

ทั้งนี้ล่าสุดกนอ. ได้รายงานเข้ามาว่า ล่าสุดได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับรองผู้ว่าการ ไปประจำการเพื่อคอยติดตามสถานการณ์น้ำที่จ.อยุธยาอย่างใกล้ชิดแล้ว ขณะเดียวกัน ก็เตรียมพร้อมเขื่อนกั้นน้ำชุดเคลื่อนที่เร็ว ที่มีความยาว 20 กิโลเมตร จำนวน 1 ชุด ซึ่งขณะนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนกระจายอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมบางพลี นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร เตรียมพร้อมขนส่งไปยังพื้นที่นิคมที่มีความเสี่ยงแล้ว

 

นี่ใช่ผลจาก พายุที่สลายตัวในประเทศเราเมื่อสัปดาห์ก่อนหรือเปล่าครับ