ติดตามสถานะการณ์

นักวิทยาศาสตร์รัสเซียค้นพบ UFO ใกล้ดวงจันทร์ Phobos

Submitted by djmoder on Sun, 2013-01-27 08:50

Mars mission phobos 2 - Russian scientists confirmed alien spacecraft OFFICIAL - YouTube

 

ดวงจันทร์โฟบอส (Phobos)
ดวงจันทร์โฟบอส

ดาวจันทร์โฟบอส เป็น ดาวจันทร์บริวารของดาวอังคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุด(ดาวอังคารมีดาวบริวาร 2 ดวงคือ โฟบอส และ และ ดีมอส) มันมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 22.2 กิโลเมตร ซึ่งมันอาจจินตนาการยากว่ามันใหญ่ขนาดไหน นักวิทยาศาสตร์จึงได้สร้างภาพจำลองนำดวงจันทร์โฟบอส มาเปรียบเทียบกับเมือง Grenoble ในประเทศฝรั่งเศล ดังภาพจั่วหัว(เห็นแล้วแอบสยองเนื่องจากถึงโลกจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 12,742 กิโลเมตร แต่ถ้าหากโลกถูกอุกกาบาตขนาดเท่าดวงจันทร์โฟมอสพุ่งชนโดยตรง มันก็รุนแรงเพียงพอที่จะทำลายทุกสรรพชีวิตบนโลกให้จบสิ้นลงได้ไม่ยาก)

wowboom: ดวงจันทร์โฟบอส (Phobos)

 

เกิดเปลวไฟสุริยะระดับ C. จำนวน 3 ครั้ง
C 2.1, C 3.8, C 2.3

Sun Whisperers
11 ชั่วโมงที่แล้ว ·
3 C level flares in the last 12 hours. There was a C2.1 at 10:02 and then these. C3.8 and C2.3 at 11:53 and 12:51 respectively. There was a CME associated with these flares propagating north east directed toward Stereo Behind and not earth directed.

 

ดูวีดีโอชุดนี้เราจะเข้าใจว่าเมื่อเกิด CME. จากดวงอาทิตย์ถึงจะมีตำแหน่งไม่ตรงกับโลกทำไมโลกจึงได้รับผมกระทบ



Sun Whisperers
เมื่อวานนี้ เวลา 3:26 น. ·
NASA - Dynamic Earth CME (Coronal Mass Ejection) Magnetosphere
YouTube

คลิก-> http://youtu.be/5ccFvmi37Ro NASA - Dynamic Earth CME (Coronal Mass Ejection) Magnetosphere - YouTube

 

′ฮ่องกง-จีน′เตรียมรับมือไต้ฝุ่นอุซางิแผลงฤทธิ์
วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 18:20:17 น.






เมื่อวันที่ 20 กันยายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ไต้ฝุ่น"อุซางิ" ซึ่งเป็นพายุไต้ฝุ่นที่มีความรุนแรงที่สุดลูกหนึ่งของปีนี้ โดยขณะนี้มีความเร็วลมสูงสุด 205 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและกำลังเคลื่อนตัวอยู่ระหว่างประเทศฟิลิปปินส์และไต้หวันนั้น จะมุ่งหน้าไปยังเกาะฮ่องกงและพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศจีนในสุดสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ทางการฮ่องกงและจีนประกาศเตือนภัยประชาชนให้เฝ้าระวังภัยแล้ว

สำนักงานอุตุนิยมวิทยากลางของไต้หวันคาดการณ์ว่า ไต้ฝุ่นอุซางิจะเคลื่อนตัวเข้าสู่แหลมทางตอนใต้ของไต้หวันในช่วงเช้าวันที่ 21 กันยายน ซึ่งจะทำให้เกิดลมกระโชกแรงและฝนตกหนักที่อาจก่อให้เกิดดินถล่มตามมา จึงได้ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ได้แก่ จังหวัดไถตง ผิงตง และ เกาเสียง ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ

ขณะที่สำนักงานสังเกตการณ์ฮ่องกงประกาศเตือนสภาพอากาศเลวร้ายในฮ่องกงและพื้นที่ทางตอนใต้ของจีนว่า ไต้ฝุ่นอุซางิที่คาดว่าจะเคลื่อนตัวถึงฝั่งฮ่องกงหลังเวลา 20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 22 กันยายน ก่อนที่จะอ่อนกำลังลงหลังพัดขึ้นฝั่งฮ่องกงแล้วนั้น จะทำให้สภาพอากาศเลวร้ายมากขึ้น โดยกระแสลมและทะเลจะมีความรุนแรง ด้านรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ประกาศเตือนภัยสีเหลืองระดับ 3 หรือระดับเกือบสูงสุดจากทั้งสิ้น 4 ระดับ คาดว่าไต้ฝุ่นอุซางิจะพัดถล่มชายฝั่งจีนที่ระหว่างเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และมณฑลฝูเจี้ยนในช่วงเย็นวันที่ 22 กันยายน

′ฮ่องกง-จีน′เตรียมรับมือไต้ฝุ่นอุซางิแผลงฤทธิ์ : มติชนออนไลน์

 

The Event
1 ชั่วโมงที่แล้ว ·
Video: Pole Shift and The End of The World, Evidence from NASA | Space
beforeitsnews.com

(Before It's News)

การสลับขั้วสนามแม่เหล็กโลก ข้อมูลของ NASA ครับ ซึ่งพูดราวๆว่าได้เกิดการเร่งสลับขั้วอย่างรวดเร็ว ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุให้เกิด น้ำท่วม และการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกเป็นต้น

Here is Evidence that proofs pole Shift. It is from NASA files

The cataclysmic pole shift hypothesis suggests that there have been geologically rapid shifts in the relative positions of the modern-day geographic locations of the poles and the axis of rotationof the Earth, creating calamities such as floods and tectonic events.

There is evidence of precession and changes in axial tilt, but this change is on much longer time-scales and does not involve relative motion of the spin axis with respect to the planet. However, in what is known as true polar wander, the solid Earth can rotate with respect to a fixed spin axis. Research shows that during the last 200 million years a total true polar wander of some 30° has occurred, but that no super-rapid shifts in the Earth’s pole were found during this period. A characteristic rate of true polar wander is 1° per million years or less. Between approximately 790 and 810 million years ago, when the supercontinent Rodinia existed, two geologically rapid phases of true polar wander may have occurred. In each of these, the magnetic poles of the Earth shifted by ~55° WIKIEPEDIA

pole shift news update evidence NASA lies - YouTube

What is causing the changes!!
Alert pole shift news update whats causing the changes - YouTube


Pole shift news Cosmic rays
Alert pole shift news Cosmic rays - YouTube


pole shift news the source of universal knowledge
Alert pole shift news the source of universal knowledge - YouTube


pole shift news update have you prepared yet poll
pole shift news update have you prepared yet poll - YouTube


Alert pole shift news update solar 24 new data
Alert pole shift news update solar 24 new data - YouTube

Alert pole shift news update re two suns
Alert pole shift news update re two suns - YouTube



ข้อมูลจาก Video: Pole Shift and The End of The World, Evidence from NASA | Space

 

ศูนย์เตือนภัย พิบัติโลก ได้แชร์ ลิงก์
5 ชั่วโมงที่แล้ว ·
CNN รายงาน ซูเปอร์ไต้ฝุ่นยูซากิ กระทบไต้หวัน เหนือฟิลิปปินๆส์ และฮ่องกง
Super typhoon Usagi may strike Hong Kong

คลิกเพื่อชมวีดีโอข่าว-> Super typhoon Usagi may strike Hong Kong

mash.network.coull.com
13 คนที่ถูกใจ

 

Usagi ชื่อไต้ฝุ่นเรียกตามภาษาท้องถิ่นของจุดกำเหนิดก็เป็น"อูซางิ"
ถ้าเรียกเเบบสะกดตัวตามพยัญชนะก็จะเป็น ยูซากิ หรือใครจะออกเป็น
ยูซาไก อูซากิ ก็เเล้วเเต่พอใจ ไม่ผิดกฎหมาย!?!!!

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
กลุ่มรถบรรทุกในอเมริกานัดหยุดงานปิดถนนในช่วงเดือนภัยพิบัติ strike being set up to be a false flag?

กลุ่มรถบันทุกมีการวางแผน ปิดอเมริกาเป็นเวลาสามวันระหว่างวันที่ 11 ตุลาคมและ 13 ตุลาคม 2013 ในส่วนหนึ่งเพื่อประท้วงต่อต้านนโยบายหายนะของ Barack Obama
P P S I M M O N S: A trucker shutdown may be looming and it's doubtful Americans can handle it

วิดีโอ
Truckers to shut down America for 3 days - YouTube

หน้า Facebook ที่เรียกว่า " Truckers การปิดอเมริกา https://www.facebook.com/truckerstoshutdownamerica

truckers วางแผนปิดอเมริกา 11-13 ตุลาคม ดูเหมือนจะผูกโยงโดยตรงในการเตรียมการไปตาม DHS และ FEMA ในช่วงเวลาเดียวกัน

...... "ซึ่งมันจะนำไปสู่ผลกระทบอื่นๆ" .........

สายข่าวบอกว่าอาจเป็นการวางแผนเพื่อเหตุผลบางอย่าง being set up to be a false flag?

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
คำทำนายที่น่ากลัวของแม่มด Shipton เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในยุคปัจจุบัน
MOTHER SHIPTON'S PROPHECIES

Mother Shipton แม่มดนักทำนายชาวอังกฤษ ได้ทำนายเกี่ยวกับหายนะโลกตอนหนึ่งไว้ว่า

- Disaster fill the world with woe. ภัยพิบัติประเดประดังจนโลกมีแต่ความวิบัติ
- The dragons tail is but a sign มีหางมังกรเป็นสัญญาณ
- And water shall great wonders do น้ำที่เพิ่มปริมาณขึ้นมากอย่างแปลกประหลาด

These states will lock in fiercest strife,
and seek to take each other's life.
When north shall thus divide the south
an eagle build in lion's mouth
then tax and blood and cruel war
shall come to every humble door.
รัฐเหล่านั้นจะขังตัวเองอยู่ในการต่อสู้ที่รุนแรงอย่างที่สุด
และหาทางจะทำลายชีวิตของผู้อื่น
เมื่อทางเหนือจะแยกออกจากทางใต้
และอินทรีย์ในการรังสรรค์ในปากสิงห์โต
ตามด้วยภาษีและเลือดและสงครามอันทารุณ
จะมาเยือนทุกบ้านราษฏร์ทั่วไป

Three times shall lovely sunny France
be led to play a bloody dance.
Before the people shall be free
three tyrant rulers shall she see.
สามครั้งที่ประเทศฝรั่งเศษเมืองแห่งแสงแดด
จะนำเข้าสู่การเต้นรำเลือด
ก่อนที่ประชาชนจะเป็นอิสระ
ผู้ปกครองทรราชสามคนจะปรากฏให้เห็น

When pictures seem alive with movements free,
when boats like fishes swim beneath the sea.
When men like birds shall scour the sky.
Then half the world, deep drenched in blood shall die.
เมื่อภาพทั้งหลายเหมือนมีชีวิตและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
เมื่อเรือที่เหมือนปลาจะเวียนว่ายอยู่ใต้มหาสมุทร
เมื่อมนุษย์จะเหมือนนกที่บินไปทั่วท้องฟ้า
กว่าครึ่งหนึ่งของโลกของพวกที่ชุ่มไปด้วยเลือดจะตาย

For those who live the century through
in fear and trembling this shall do.
Flee to the mountains and the dens
to bog and forest and wild fens.
สำหรับพวกที่อยู่ในศตวรรตนั้น ความกลัวและสั่นจะทำให้พวกเขาอพยพไปอยู่บนเขาและถ้ำ

For storms will rage and oceans roar
when Gabriel stands on sea and shore,
and as he blows his wondrous horn
old worlds die and new be born.
พายุทั้งหลายจะบ้าคลั่งและมหาสมุทรจะคำราม
เมื่อยมทูตยืนในทะเลและชายฝั่ง และเมื่อเขาเป่าเขาสัตว์อันประหลาดนั้นโลกเก่าทั้งหลายก็จะตาย และโลกใหม่ก็จะเกิด"

For seven days and seven nights
man will watch this awesome sight.
The tides will rise beyond their ken.
To bite away the shores and then
the mountains will begin to roar
and earthquakes split the plain to shore.
ทั้งเจ็ดวันเจ็ดคืนนั้นผู้คนจะเฝ้าดูสั่งอันน่ากลัวนี้
ระดับน้ำจะขึ้นเกินกว่าที่เราจะคาดคิด และจะกวาดชายฝั่งทั้งหลายและจากนั้นภูเขาทั้งหลายก็จะเริ่มคำราม และแผ่นดินไหวหลายครั้งจะทำให้ที่ราบกลายเป็นชายฝั่ง

And flooding waters rushing in,
will flood the lands with such a din
that mankind cowers in muddy fen
and snarls about his fellow men.
และท่วมเต็มไปด้วยน้ำ ที่รี่เข้ามาจะท่วมพื้นที่ทั้งหลาย
ด้วยเสียงสนั่นหวั่นไหวที่ทำให้มนุษย์ชาติล่าถอยหรือเข้าไปหลบในโคลนเลน และจะข่มขู่คนรอบข้างให้กลัวเกรง

Man flees in terror from the floods
and kills, and rapes and lies in blood
and spilling blood by mankind's hand
will stain and bitter many lands.
ผู้คนจะอพยพออกไปจากความกลัวที่เกิดจากน้ำท่วม ฆ่าและข่มขืน และจมอยู่ในกองเลือด
และการหลั่งเลือดก็จะเกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์
จะกลายเป็นรอยด่างและความขมขื่นสำหรับหลายๆพื้นที่

และอื่นๆ ตรงตามคำทำนายของ "พุทธทำนาย"

วิดีโอประกอบ
The Mother Shipton Prophecies
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=JHpPpnpSsMc]The Mother Shipton Prophecies - YouTube[/ame]

สอดคล้องกับเหตุการณ์ปัจจุบันหรือไม่? การต่อสู้กันของประเทศมหาอำนาจที่เป็นข่าว, แปลกๆบนท้องฟ้า, ภัยพิบัติต่างๆ ฯลฯ

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล






by Sean David Morton
from Delphi Associates News Letter


Dateline: 1559, Yorkshire, England

Ursula Sontheil reputedly was born in 1488 in Norfolk, England. From an early age she exhibited stunning psychic gifts of foresight and prophecy. She was a contemporary of Nostradamus, but, being a woman, was not allowed his level of education and lacked his medical and astrological training and the forbearance of royal friends at court to nurture and protect her. At the ripe old age of 24 she entered a difficult marriage to Toby Shipton.

She correctly predicted the dissolution of the Catholic Church under Henry VIII, the fall of Cardinal Wolsey, the untimely death of Henry’s son Edward VI, the horrific reign of “Bloody” Mary I, and the ascent of Queen Elizabeth to the throne of England. Many of her visions came true with shocking and specific clarity within her own lifetime and then in subsequent centuries as she peered down the corridors of Time to view the fate of Earth and all mankind. She became the feared and revered prophet of Tudor England. Her name was spoken in low, hushed whispers, as if the very mention of her name would bring the disasters she spoke of down upon the head of he that spoke them. She eventually became known to serf and lord alike as Mother Shipton.

Like Nostradamus, to capture the public imagination and most likely to also avoid persecution for the crime of witchcraft, she published her prophecies in rhyme and verse. Still, she saved her penultimate work for her later years just before her death. And so in 1559 she published an epic poem for which she would become best known down through the ages. She died in Clifton, Yorkshire, in 1561, five years before Nostradamus.

This rare collection of Mother Shipton’s prophecies was published thirty years ago. They were found by a woman who painstakingly transcribed them and managed to smuggle them out of the Mitchell Library, in Sydney, Australia (now the State Library of New South Wales). The originals were kept in a locked room, along with many other volumes of prophetic writings deemed unsuitable for viewing by the general public. In light of recent world events these rare verses from Mother Shipton seem to have prophetic indications for our times, but, of course, are open to interpretation. My brief interpretations and explanations are in { }:

And now a word, in uncouth rhyme of what shall be in future time:
Then upside down the world shall be And gold found at the root of tree All England’s sons that plough the land Shall oft be seen with Book in hand The poor shall now great wisdom know Great houses stand in far flung vale All covered o’er with snow and hail.
{The advent of the printing press and the mass distribution of books, a dearly expensive rarity in her day, seemingly to herald an age of knowledge and enlightenment even for the very poor. But this also leads to the mass migration into festering cites, leaving the great houses of the countryside bare and forlorn.}
A carriage without horse will go, Disaster fill the world with woe. In London, Primrose Hill shall be In center hold a bishops sea.
{Motorcars and trains and their accidents, and the formation of the Church of England by Henry VIII as its sole head.}
Around the world men’s thoughts will fly, Quick as the twinkling of an eye. And water shall great wonders do, How strange, and yet it shall come true.
{Telephone, radio, television and the internet. The building of massive dams and the harnessing of waterfalls, like Niagara, for hydroelectric power which then lights the world.}
Through towering hills proud men shall ride, No horse or ass move by his side. Beneath the water, men shall walk, Shall ride, shall sleep, shall even talk.
{Cities with canyons made of skyscrapers. Submarines, the aqua-lung and SCUBA gear allowing man to work and even live beneath the sea. Aquatic cities in our future, maybe.}
And in the air men shall be seen, In white and black and even green. A great man, shall come and go For prophecy declares it so.
{Modern aircraft. There have been many great men since Mother Shipton’s time. But she points to a great prophet that may be yet to come.}
In water, iron then shall float As easy as a wooden boat. Gold shall be seen in stream and stone, In land that is yet unknown.
{Ships made of iron and steel and probably a description of America and its wealth. Certainly an accurate description of California in the Gold Rush days.}
And England shall admit a Jew, Do you think this strange? But it is true! The Jew that once was led in scorn, Shall of a Christian then be born.
{Help in creation of Israel in 1948 by the British and the United Nations.}
A house of glass shall come to pass, In England. But alas, alas!
A war will follow with the work Where dwells the pagan and the Turk.
{Describes the building of a gigantic glass atrium in London called The Crystal Palace for The Great Exhibition of 1851. It was a huge iron Goliath with a million feet of glass housing over 13,000 exhibits. It was destroyed by fire November 30, 1936. The rest could describe any number of British wars or adventures in the Mid and Far East after that, and the massive expansion of the British Empire under German Queen Victoria Hapsburg. The Afghan, Indian and Boer wars.}
These states will lock in fiercest strife, And seek to take each other’s life. When north shall thus divide the south An eagle build in lion’s mouth Then tax and blood and cruel war Shall come to every humble door.
{Probably describes a war between the Northern & Southern countries as above, describing joint US (Eagle) and British (Lion) forces. It could also allude to the American Civil War.}
Three times shall lovely sunny France Be led to play a bloody dance. Before the people shall be free Three tyrant rulers shall she see.
{The different French Republics. The French Revolution under Robespierre, however Napoleon had two successors, Napoleon II and III.}
Three rulers in succession be Each springs from different dynasty. Then when the fiercest strife is done.
England and France shall be as one.
{World War II - England & France as allies}
The British olive shall next then twine, In marriage with a German vine. Men walk beneath and over streams Fulfilled shall be their wondrous dreams.
{Queen Victoria and Prince Albert were German Hapsburgs, who later changed their name to Windsor, supplanting the rightful heirs of the House of Stewart. Post Second World War scenario}
For in those wondrous far off days, The women shall adopt a craze To dress like men, and trousers wear And to cut off all their locks of hair. They’ll ride astride with brazen brow, As witches do on broomsticks now.
{Craze in women to dress like men, wearing trousers and cutting their hair, adopting various hairstyles and riding horses, and bikes straddle instead of side-saddle (Nice description J )}
And roaring monsters with men atop, Does seem to eat the verdant crop. And men shall fly as birds do now, And give away the horse and plow.
{Crop harvesting machines & tractors, and the mass exodus from farms into cities}
They’ll be a sign for all to see Be sure that it will certain be.
Then love shall die and marriage cease And nations wane as babes decrease.
{Failure of marriages and divorce. Decrease in population (in Europe) and wholesale abortion in America. Could be a future time when birth rates plummet due to radiation, earth changes or volcanic ash.}
And wives shall fondle cats and dogs And men live much the same as hogs.
{Sounds like a very female point of view here!}
Mother Shipton’s next prophecies continue on the outer wrappings of the scrolls.
I know I go, I know I’m free, I know that this will come to be, Secreted this, for this will be Found by later dynasty.
{Describes how her prophecies written on scrolls will be discovered at a later date after her death.}
A dairy maid, a bonnie lass, Shall kick this tome as she does pass And five generations she shall breed Before one male child does learn to read.
{For five generations these scrolls will be held by a family of a girl and then the fifth generation male child will learn to read and understand them.}
This is then held year by year, Till an iron monster trembling fear, Eats parchment, words and quill and ink, And mankind is given time to think.
{Nice description of a printing press, which “eats” papers, “words” and ink. With the burden of manual copying of books removed, this brings about a new age of learning and enlightenment when man can devote more time to thinking.}
And only when this comes to be Will mankind read this prophecy. But one man sweets another’s bain So I shall not have burned in vain.
{After the invention of the printing press her prophecies will be printed and man will read this.}
Mother Shipton’s next set of prophecies are found on a scroll in another jar.
The signs will be there for all to read;
When man shall do most heinous deed Man will ruin kinder lives;
By taking them as to their wives.
And murder foul and brutal deed:
When man will only think of greed.
And man shall walk as if asleep;
He does not look - he may not peep And iron men the tail shall do;
And iron cart and carriage too.
{The greed of modern man}
The king shall false promise make;
And talk just for talking’s sake.
And nations plan horrific war;
The like as never seen before.
And taxes rise and lively down;
And nations wear perpetual frown.
{False promises by politicians, wars between nations, increase in taxes and perpetual tension among nations.}
Yet greater sign there be to see;
As man nears latter century.
Three sleeping mountains gather breath, And spew out mud, ice and death. An earthquake swallow town and town;
In lands as yet to me unknown. And Christian one fights Christian two And nations sigh, yet nothing do. And yellow men great power gain;
From a mighty bear with whom they’ve lain.
{Volcanoes, earthquakes (in unknown land - America?) destroying town after town, fighting between nations. Speaks of a Chinese (yellow) - Russian (bear) alliance against the west. Most of China’s current weapons have come in deals with Russia.}
These mighty tyrants will fail to do, They fail to split the world in two. But from their acts a danger bred;
An ague, leaving many dead.
{Failure of this Russian/Chinese alliance, indication of war leaving many dead. The word “Ague” means flu plague or epidemic of disease.}
And physics find no remedy;
For this is worse than leprosy.
Oh many signs for all to see;
The truth of this true prophecy.
{No remedy in science for this coming plague.}
Mother Shipton’s last prophecy:
In nineteen hundred and twenty-six Build houses light of straw and sticks. For then shall mighty wars be planned And fire and swords shall sweep the land.
{Mistimed prophecy for World War I or WWII? Of course she may still be correct, as this is the period of time in which the NEXT great war is being PLANNED. In this same approximate time-frame, Hitler and Rudolph Hess are in jail together writing MEIN KAMPF.}
When pictures seem alive with movements free, When boats like fishes swim beneath the sea. When men like birds shall scour the sky. Then half the world, deep drenched in blood shall die.
{Television ! Submarines, aircraft and then death through War.}

The following are prophecies on our future:
For those who live the century through In fear and trembling this shall do. Flee to the mountains and the dens To bog and forest and wild fens.
{After the 20th century is over, people will live in fear and flee to mountains, dens & forests for refuge.}
For storms will rage and oceans roar When Gabriel stands on sea and shore, And as he blows his wondrous horn Old worlds die and new be born.
{The Last Trumpet. The Biblical Revelation. The destruction of this civilization and creation of a new one - the so called “End Of The World”.}
A fiery dragon will cross the sky Six times before the earth shall die. Mankind will tremble and frightened be For the six heralds in this prophecy.
{Appearance of a series of six comets and a probable collision with earth as indicated in the Bible and by Nostradamus. In the last 20 years alone we have seen at least four spectacular comets or “fiery dragons”: Halley’s, Kahoutek (a bit of a dud), Hyakutake and Hale-Bopp. But it appears here that she is referring to a SINGLE OBJECT that grazes the atmosphere before a collision, like the near asteroid miss we had last week, looping around us six times over seven days before a collision with Earth.}
For seven days and seven nights Man will watch this awesome sight. The tides will rise beyond their ken. To bite away the shores and then The mountains will begin to roar And earthquakes split the plain to shore.
{After asteroid hits in the oceans, huge tidal waves will strike followed by awakening of volcanoes and earthquakes.}
And flooding waters rushing in, Will flood the lands with such a din That mankind cowers in muddy fen And snarls about his fellow men.
{Tidal waves and wars continue.}
He bares his teeth and fights and kills And secrets food in secret hills And ugly in his fear, he lies To kill marauders, thieves and spies.
{Continuation of wars in spite of disasters. The storing up of secret food supplies in underground bases.}
Man flees in terror from the floods And kills, and rapes and lies in blood And spilling blood by mankind’s hand Will stain and bitter many lands.
{Continuation of the World War}
And when the dragon’s tail is gone Man forgets and smiles and carries on. To apply himself - too late, too late For mankind has earned deserved fate.
{War and natural disasters will abate for a brief period of time after the dragon’s tail of a comet or asteroid disappears from the heavens. Peace will seemingly return but man’s fate is already sealed.}
His masked smile, his false grandeur, Will serve the gods their anger stir And they will send the dragon back To light the sky—his tail will crack. Upon the earth and rend the earth And man shall flee, king, lord and serf.
{When peace has returned and man is complacent, suddenly an even greater disaster happens. Could this be symbolic of those who escape “The Pit” at the bottom of Great Pyramid in 2005, only to be washed back into it by “The River of Fire” between 2012 to 2014? Is this the famous 3 Days Of Darkness of the Judgment day?}
But slowly they are routed out To seek diminishing water spout And men will die of thirst before The oceans rise to mount to the shore. And lands will crack and rend anew Do you think it strange? It will come true!
{More earthquakes, floods and death.}
And in some far—off distant land Some men—Oh, such a tiny band Will have to leave their solid mount And span the earth, those few to count.
{Survivors coming out from their hiding places underground - the Biblical phrase “dead will come out of their graves.”}
Who survives this (unreadable) and then Begin the human race again.
But not on land already there, But on ocean beds, stark, dry and bare.
{Survivors start a new civilization, not on lands which are poisoned due to war and nuclear radiation but on lands rising out of the sea after the Great Tribulation.}
Not every soul on earth will die, As the dragon’s tail goes sweeping by, Not every land on earth will sink, But these will wallow in stench and stink, Of rotting bodies of beast and man, Of vegetation crisped on land.
{The existing lands will be littered with bodies of humans, animals and burned vegetation, although all humans will not die during the “Judgement Day”.}
But the land that rises from the sea Will be dry and clean and soft and free. Of mankind’s dirt and therefore be, The source of man’s new dynasty. And those that live will ever fear The dragon’s tail for many year But time erases memory You think it strange? But it will be!
{Land rising from the sea will be clean and free of all these and this is where the new civilizations will be started. Slowly the memory of the disasters will fade away as time passes and fear will subside.}
And before the race is built anew, A silver serpent comes to view And spew out men of like unknown. To mingle with the earth now grown Cold from its heat and these men can Enlighten the minds of future man. To intermingle and show them how To live and love and thus endow The children with the second sight A natural thing so that they might Grow graceful, humble and when they do The Golden Age will start anew.
{The arrival of extraterrestrials in their space ships who will enlighten the men starting the new civilization. Children will be gifted with special (mental) powers which becomes a naturally occurring phenomenon. Then The Golden Age of man will begin again.}
The dragon’s tail is but a sign For mankind’s fall and man’s decline. And before this prophecy is done I shall be burned at the stake, at One. My body singed and my soul set free.
You think I utter blasphemy? You’re wrong! These things have come to me THIS PROPHECY WILL COME TO BE!
{Asserts that this prophecy will come true even though people might think of her prophecy as blasphemy.}

So, how do we save the world?

It may now only be possible to save the WORLD, but not our TIME. Not our current structure, or society or civilization. Any more than it was possible to save the countless people and civilizations that have lived and died before ours.

The needless suffering on this planet is now so immeasurable that it pains the very universe in a way many of you who may lack the focus, intuition, training or ability to tune in to the Creator at Its Source, cannot understand. When you learn the ability to be centered and still within yourselves, and make the water of the Earth your blood, the stone your bones, and the atmosphere your breath, you can hear Gaia weep. It cries out for an end.


And there will be an answer. Very soon

Our prophets knew this time would come, and wove their awareness into our holiest texts. We now have split the seal on the Great Mysteries. The Book of the Seven Thunders is being revealed. We have stupendous Thinking Machines at our fingertips that have cracked the very codes of Creation. From within the heart of the enigma, fragmented words and exact dates spill forth from the Torah, the Old Testament, the Hindu Vedas, that now seem to be giving us warnings, cryptic though they may be, for those with the eyes to see and the ears to hear. The knowledge is burned within your genes, and now seeps into the superconscious and haunts the dreams of all of the people of the Earth.

I have long done what others have asked. What I felt was necessary. What I thought was right. I have delayed it. Others have delayed it. Teachers, healers and Masters have taken their students, friends, family, and followers into the very center of the maelstrom. At the eye of the hurricane we have used our bodies and focus and power to act as golden shards of light to quell the tide. Like sparking acupuncture needles into the skin of Mother Earth, to adjust and realign her energy, to force her back into balance so that catastrophe might be averted and deflected time and time again.

Minute grains of salt can preserve a large quantity of food. Never underestimate the greatness of the battle by size of the battlefield. The fate of nations has rested on a few square feet of ground. But there are powers so much greater than myself, and so much grander than all of us. Those powers do not see death as you do. They do not exist in TIME. They have seen the universe die and be reborn. Again and again. Even so they mark the passing of a sparrow with as much reverence as the passing of a world.


All that happens, happens for a reason

So much of the past year has been focused on politics, economics, terrorism and holy war, that we seem to forget, or have been purposely led away from, the realities of the real dangers, both geologic and astronomic, that lie in wait beneath our feet or above our heads.

First let us look to the sky and to the past for the wisdom of the Mayans who were obsessed with TIME and the future.
THE VENUS PASSAGE and the MAYAN CALENDAR As I said before, global meditations act to absorb, deflect, direct or transmit energy. And just as a tiny acupuncture needle can be used to alter and heal the electromagnetic system of the entire body, by bringing energy into damaged areas, so can prayer direct and focus energy. Sometimes the location is important, like knowing the exact place to stick the needle. But on other occasions, the TIMING is predominant, because we can then ride, guide, direct and surf a WAVE of preexisting energy.

So it was with the Harmonic Convergence of August 17th, 18th and 19th of 1987 and the Harmonic Concordance on November 8, 2003. Well, coming up there will be another opportunity to GUIDE and DIRECT a fabulously powerful vibration of LOVE down into the energy field of the Earth. The meditations on these occasions will be on the rare Venus passages in front of the Sun in the years 2004 and 2012. Why is this? The most important reason is that we may already now know of their critical importance based on the nature of these astronomical occurrences and their place according to Mayan calendrics. Because the Mayan calendar, properly understood, is an expression of the divine plan predictions and based on this calendar we can make plans to utilize and direct this energy several years into the future.

The solar eclipse of August 11, 1999 was the last eclipse of that century, which moved from the Eastern United States, across the British Isles, through France and Iraq to complete its path in India. It created a dramatic Great Cross in the stable fixed signs of the zodiac, Scorpio, Taurus, Leo and Aquarius, all of which are found in the Book of Revelation, as the Angel (Aquarius), the bull (Taurus), the lion (Leo) and the eagle (Scorpio). My wife Melissa and I traveled to visit relatives in Vienna, Austria, to see the total eclipse. I wrote at length that the areas where the eclipse touched would be torn apart by disaster and war, that this would be the beginning of the “Crucifixion” of humanity, and the “True Cross” within the hearts of all mankind.

So if we think in terms of what the cross symbolized, it was the way of pain and death into redemption for all and new life. The Tibetans call it the ultimate “Tong Len”, or to take in and give out, in which Christ takes all the sin of the world upon himself, processes, transmutes and transmogrifies that negative energy through the meditation of the Violet Fire, and then gives His godly nature, all that is divine about Himself, back into the world. It is the ultimate message of Easter and The Passion.

The Great Cross in the sky occurred on the tzolkin day 4 Ahau. The Mayan Long Count was began in the year 3114 BC. If we focus on these coincidences we may be alerted, not only to the increasing relevance of the Mayan calendar in the years ahead, but also to the Return of the True Cross. On January 4, 1999 began the creation cycle of 13 tun, 360-day periods, designed to lead to the completion of the ascension of humanity to a time-less cosmic consciousness and currently we are in the beginning of the first of these tuns of setting seeds for the future (among the Maya the tun, the 360-day year, rather than the solar year of 365 days, was the prophetic year). Seeds are now set in a multitude of ways for what is to follow in the progression of these thirteen tuns.

A seed is set by some now beginning to use the Mayan calendar as a map of time for Revelation and another seed is set for the coming emergence of Christ consciousness, a galactic Christ consciousness, that will be carried by the True Cross. The two, the Mayan calendar and the return of Christ consciousness, are related and in a much more exact way than most people probably realize today. Not many are yet aware that the Mayan calendar is a calendar of the divine plan, something entirely different from an astronomical calendar. The Return of Christ Consciousness, that is to say the Apocalypse, is intimately linked to the Return of the True Cross.

But the True Cross is not a cross of planets or any other physical, astronomical, objects, but a cross that will dominate not only our own individual minds, but also the entire planet and the galaxy. It is a cross that exclusively exists in the invisible universe but yet will completely dominate the course of events in our earthly reality. This is a cross of Yin/Yang dualities that will provide us with an entirely new framework for viewing the world around us.

Although non-physical by nature it will be visible to some as an inner cross or as a cross in the sky, the Star of Bethlehem. This Holy True Cross will increasingly make its presence known at tuns 1, 3, 5, 7, 9, 11 and 13 of the Galactic Creation Cycle that has just began. Since the tuns with these particular numbers represents the periods of the greatest moves forward in a spiritual sense, the pulses of light, the days in the divine creation scenario of Seven days and Six nights, which will now begin to alternate every 360 normal days.

In the past during days 1, 3 and 5 (corresponding approximately to the years 1999, 2001 and 2003) our materialist consciousness continued to dominate over the True Invisible Cross, whereas during days 9, 11 and 13 the roles will become reversed, with the most important breakthrough of the new galactic Christ consciousness taking place in day 9, corresponding approximately to the year 2007.

In day 7 (the year 2005) the True Cross reaches a balance with our current materialist consciousness. The map of time thus created is given by the Mayan calendar through the ancient tzolkin count developed through an advanced resonance with the cosmos. In my view, what the Great Cross during the solar eclipse in the first of these Seven tuns of light heralds is the Invisible True Cross that this divine scenario of creation carries. The incarnation of this True Cross among human beings is what will give rise to the new consciousness of Christ.

The new reversed Yin/Yang polarity is what will give rise to a new way of viewing the world and relating to it. In this emerging Yin/Yang duality the East and the West will switch places, so that the light will now fall on the Eastern, wholeness directed, hemisphere. On an individual level the divine light will favor the right, female, brain half and the qualities associated with this, in women and men alike.

In all of my Spiritual Remote Viewing seminars I first teach the differences between the right and left hemispheres of the brain. That we are two brained, bi-cameral beings. In fact the real mystery is how we evolved an organ that we don’t know how to work and that we only use ten percent of. The left hemisphere, which is cross-wired to control the right side of the body, can be related to the “Western Mind”, in that it only exists in a realm that it BELIEVES is reality. It is dominant, masculine and aggressive. A four-dimensional world of height, width, breadth and time.

All it is good for is measuring things in a straightforward, linear fashion of what it thinks is time. It uses the five senses of the body to gather information (how far, how high, what color, taste and smell) and then uses that information to make judgments of good or bad. First theory, then antithesis and finally synthesis. In Western science we only know the universe around us through what our machines tell us, and the better the machines get, the more of the universe we see. It is all geometry and mathematics.

The right side of the brain, controlling the left side of the body, is passive, feminine and submissive. It relates to the “Eastern Mind” of thought, meditation and experience. It has no conception of math, it can’t add 2+2, does not even understand up, down, right or left. It is designed for outer space. This side of the brain thinks in terms of pictures, symbols, archetypes, color, emotions and music. It is believed that the superior anterior (right, back) section of the brain is where psychic power and intuition exists, because this part of the brain functions in a quantum reality where there is no linear time.

The past, present and future are all the same to it. It can sense when certain events are going to occur, and then tries to communicate that information to the “Conscious” side of the brain through dreams (symbols, archetypes, pictures) when it is asleep and its guard is down. It is this part of the brain that we have now managed to tap into so successfully with Remote Viewing techniques, and especially with my system which is a combination of Western science and Eastern meditation and exercises.

This new Yin/Yang polarity maintained by the True Cross will amount to a new morality that bases itself on a larger perspective. What effects our actions may have on the larger whole, as this is the perspective of the right brain half that is now to be favored. This emerging holistic morality, and the actions and ways of being that will stem from it is none other than the Returning Consciousness of Christ, and this returning consciousness will then be incarnated in any human being who chooses to let this happen. Maybe this is the true Resurrection as well.

If we choose to become carriers of this new Christ consciousness what can we do to make this happen? We may of course continue along old lines and just practice the morality that we may have intellectually assimilated from the Gospels, but since this would not necessarily lead to an immersion of the new ways of thinking by our entire being it may falter as we encounter obstacles. Another way would seem to be to seek, through meditation, to put ourselves in resonance with the new Yin/Yang duality and then as a result, become incarnations of the new consciousness in a complete sense of the word.

It is also what the Age of Aquarius is all about. We are now officially standing on the threshold, with one foot in and one foot out. The Grand Man walks across the Milky Way, and tips the great cistern filled with consciousness and bathes us. The WATER is symbolic of this. Even the symbol for Aquarius is squiggly lines of electromagnetic force. And of course the consciousness is that of ONENESS with all beings, selflessness and COMMUNITY and FAMILY coming first. This is where the Venus passages come in, and especially the first one occurring during seven hours on June 8, 2004.

Venus is the female planet of Love and Mars is the masculine planet of War and Hate. We are of course smack dab between them. Is it any wonder that these are the two most powerful forces on Earth? Love and War? During the Venus passage the planet will pass across the disk of the sun and create an eclipse, and by its very nature it provides an ideal Cosmic Mirror. A Cosmic Mirror, held up for us by Venus herself, for our own aspirations of developing a consciousness of Christ. While prayer is all about TALKING to God, meditation is all about LISTENING to God.

This is a meditative event and about listening to the new message, the new imprint of the Cross, and to God’s guidance for developing a consciousness of Christ. The Venus passage of June 8, 2004, occurring shortly before the True Cross will become powerful enough to balance our present materialist consciousness, will thus by its very astronomical nature allow meditators to effectively assimilate the True Cross in their consciousness, the new Yin/Yang duality favoring a wholeness-oriented creativity and morality, favoring the consciousness of Christ.

To alert people to this unique opportunity to have the consciousness of Christ incarnate among us human beings is thus a crucial task of the present. We may do this by disseminating information about the importance of the meditation of June 8, 2004, but we may also do this by organizing yearly meditations on June 6 (which is the date of the second in this pair of Venus Passages occurring in the year 2012). The reward for this will be purely spiritual and lies in the joy of having contributed to the emergence of a new human being, a human being who looks for the best of all and to serve the planet and God’s creation in its entirety.


ASTEROIDS

There is a story in the Talmud about a king who became very angry at his son. The king ordered that his son be crushed under a huge stone. But the prince appeared before his father, admitted his mistake and repented before the kingdom. He wept at the king’s feet begging forgiveness, swearing that he had learned his lesson. The people were also moved and a great roar went up that he should not be put to death. This softened the king’s heart and he took pity on his son. But his word was law which he could not go back on. He had already made his pronouncement and he could not be forsworn.

But then he had an idea. He had the stone that was to crush the prince broken and smashed into pebbles. He ordered his subjects to hit the prince with the pebbles, so his order would be carried out and the prince’s life would be spared. So it is with what is yet to come. There are a number of asteroids headed towards us that have our number. Some of them are already in a convoluted orbit around Earth, and the symbology of Mother Shipton could not be more accurate.
We would no doubt have to sit powerless as one of these great rocks, looking like a “Fiery Dragon” grazed the upper atmosphere coming closer and closer with each pass before it finally struck us.

In the Delphi Associates Newsletter article called “CHILDREN OF THE BLUE STAR” (March 2002, Issue 91) we spoke
of the Golden Age for all humanity beginning “A long time ago, in a galaxy far, far away…” On February 24th, 1987 the light from a supernova which exploded 160,000 years ago in the satellite galaxy of our Milky Way known as the Large Magellanic Cloud, became visible from Earth. A supernova is basically an exploding super-hot star, usually a “Red Giant”. But in this case it was a gigantic BLUE STAR, much older, hotter and far more powerful.

This super-giant BLUE STAR, inside what is called the Tarantula Nebula, exploded and then imploded into a very dense neutron star called a PULSAR. When stars become pulsars, it radiates energy at precise intervals. The star either pulses like a heart or SPINS, with the radiation coming out only one side like a fantastically huge light house keeping ships off the cosmic rocks. This supernova, which made the front covers of every science magazine and newspaper at the time, was named SN (Supernova) 1987-A.

It went on to exhibit such unusual traits that it is currently under intense scrutiny by the world astronomical and scientific community. The US, Japan and Russia recorded bursts of neutrinos in deep underground sensors at the same time the supernova was observed. Neutrinos are massless neutral particles that travel at the speed of light. Our Earth was bathed, in fact saturated, down to its very core in this energy, affecting every man, woman and child and every part of the ecological food chain.

Since we rarely observe a supernova, and this one seemed to fit in with the Hopi prophecies of a BLUE STAR which would be seen before the beginning of the great changes, Bible Code researcher Joseph Noah searched the code to see if this radiation had some impact on our body frequency. He ran (SUBJECT: HUMAN/LIFE) and found in Numbers 34:14 to 35: 20, revealed that the human life span is increased by the Blue Nova Cosmic Ray in the coming Golden Age. The follow up Bible Code search:
(SUBJECT: BLUE/STAR) Genesis 28:28 to 31:25, revealed that a cosmic ray from the Blue Star supernova of 1987 is beginning a new race in 2011.

RAY/RACE/2011/EXPLOSION/NEW/COSMOS/BEGINNING/1987/STAR/BLUE/ NOVA

INTERPRETATION:
“A cosmic ray from the Blue Star Nova explosion of 1987 is beginning a new race in 2011.”
How could a ray from the 1987 supernova initiate a new RACE 24 years later? Remember that this energy began to bathe us all only SIX MONTHS before the celebration of the Mayan Harmonic Convergence in August 1987, and only 27 months after the prediction in the sacred geometric timecoding of the Great Pyramid of Giza which states that on November 30, 1985:
“Powerful spiritual influences will begin to IRRADIATE THE ENLIGHTENED bringing them closer to spiritual and material (physical) PERFECTION.”
In fact, according to the Great Pyramid, it is the “Coming to Earth” or physical manifestation of the Christ Force that began to irradiate the Earth in November 1933.

But the bursts from the Blue Star Nova (SN 1987-A) are coming in waves every seven years, and are getting exponentially more powerful each time they hit us. AND IT HITS US EACH TIME IN FEBRUARY RIGHT ON THE CUSP OF AQUARIUS AND PISCES!
February 1987,
February 1994,
February 2001
and finally in what is being theorized as the most powerful blast EVER, on February 29, 2008.
There is no more powerful symbology of the sign of Aquarius than this. The Great Man pouring out the energy of the stars and cosmic consciousness is in fact HAPPENING, LITERALLY, right before our very eyes. Even on the LEAP DAY, as we are to LEAP forward in our expansion and evolution.

The Bible Code states:
“MARK/ G O D / 2 0 0 8 / G I V E N / P R O S P E C T / F I N A L / SALVATION / 2-29”
“February 29, 2008 is the final prospect to be given God’s Mark of Salvation.”

SO WHAT ABOUT ASTEROIDS?

It is my theory that this same energy bombarding us, energizing our endocrine systems and pouring BLUE LIGHT into our pineal gland, amping up the hippocampus allowing faster and more accurate transmission from one side of the brain to the other, is also causing a great disturbance in our solar system which may bring about our destruction.

In 1994 in THE VAJRA CHRONICLES, my future incarnation speaking from about 100 years from now, said that a large asteroid would strike the earth sometime in the year 2027-2028 AD that would lead to the last seven year phase of destruction.

To quote from August 17, 1994:
“In our calendar it would be 7 years B.I. (Before Immanuella) which would be from our year ZERO back 7 or 8 years to [about] your year 2027 AD.”
NASA made it official with an announcement in 1998 that there was in fact an asteroid on a collision course, scheduled to hit on October 28, 2028. This made international news, only to be denied later as a “miscalculation”. A small near-Earth asteroid (NEA), discovered March 15th by the NASA-funded LINEAR asteroid survey, made the closest approach to Earth ever recorded.

The object, designated 2004 FH, is roughly 30 meters (100 feet) in diameter and passed just 43,000 km (26,500 miles, or about 3.4 Earth diameters) above the Earth’s surface on March 18th at 5:08 PM EST (2:08 PM PST, 22:08 UTC).
On average, objects about the size of 2004 FH pass within this distance roughly once every two years, but most of these small objects pass by undetected.

This particular close approach is unusual only in the sense that scientists know about it. The fact that an object as
small as asteroid 2004 FH has been discovered now is mostly a matter of perseverance by the LINEAR team, which is funded by NASA to search for larger kilometer-sized NEAs, but also routinely detect much smaller objects. Asteroid 2004 FH’s point of closest approach with the Earth was over the South Atlantic Ocean. Using a good pair of binoculars, the object was bright enough to be seen during this close approach from areas of Europe, Asia and most of the Southern Hemisphere.

Scientists were excited by the flyby as it provided them an unprecedented opportunity to study a small NEA asteroid up close.

This is good news and bad news. The good news is that through the LINEAR asteroid survey, NASA and government agencies are spending more time, money and resources now taking the asteroid threat seriously. They KNOW there are a swarm of these things headed our way, and a great deal of information on this subject is being kept from the public. And what DOES leak out is later feverishly denied. Forewarned is forearmed, and the more we know about where these things are, gives us more time to do something about it.

The bad news is that an asteroid came within 26,500 miles of us, and we only saw it five days before it flew past us. Prophecy, and especially the Bible Code, is filled with predictions of numerous asteroid strikes from now all the way through 2027 to 2030 AD, which have been documented by NASA and proving my predictions.



I believe the 7 year Blue Star supernova pulse is responsible for a huge disturbance in the Oort cloud outside our solar system. This has sent a swarm of asteroids our way. Also that an asteroid strike on Mars in 1998, blew it’s moon Phobos out of orbit, and that it is now erratically circling Earth, and may be The Wormwood star of Revelation. In Revelation, the prophet John is shown the contents of seven bowls that are cast down upon the earth.

Their contents represent the holocausts that break out during the later days of the Tribulation from 2005 to 2012 AD, with the worst of the world armed struggle being from 2010 to 2012. It may have to take natural disasters of gigantic proportions to stop us from being completely destroyed by World War III.

Revelation describes stars falling from the sky and the moon becoming red as blood and the sun becoming like the sackcloth of ashes. Joseph Noah checked the Bible Code for this possibility and ran the slid:
(SUBJECT:ASTERIOD/CAUSE) and using just these words found in Exodus 10:29 and 12:28 confirms the prospect that asteroid strikes will cause three world axis shifts, commencing in 2010.
Noah then ran:
(SUBJECT: ASTEROID/ WORLD) found in Genesis 20:2 to 21:2, that reveals the prospect that seven asteroids strike the world from 2010 to 2012.
(SUBJECT: POLE/SHIFT) reveals the first shift is five degrees rotary measure southwest and that the third and final shift comes in 2012. But the question is WHERE will these asteroids strike?
Running (SUBJECT: ASTEROID/U.S.) and (SUBJECT: ASTEROID/NEVADA) we find that a single asteroid breaks into three pieces and hits Utah, Nevada and California. Nine more pieces hit the rest of the world destroying most of China, Russia and the Middle East.
Remember the story of the King and his son? The more godly we become, the more mercy and grace we deserve, and the smaller the pieces may be.

I have SEEN the technology available to the military and the secret government Black Ops programs at AREA 51 with my own eyes! I have seen everything from a gigantic space shuttle over 1200 feet long, to antigravity disks that defy the laws of physics. I just find it hard to believe that people in control of this super advanced technology would allow the previous scenario to happen.

With an antigravity beam or device, you could alter the course of any object, no matter how large. I mean they may be evil men with plans to enslave us all, but even a slave master will fight to save his plantation. Even as slaves and collateral I would think we would have SOME value. So as dire as this scenario may be, it is still more likely that someone will step in to stop it.


AMERICA’S SLEEPING DRAGONS

Here in North America there are four great threats that have lain dormant for many, many years:
The Yellowstone Caldera
Mount Rainier
The New Madrid Fault
The San Andreas Fault
But as the old Chinese proverb goes, when you build your house next to a dragon, it should not matter that the dragon is sleeping. Eventually he is going to wake up. And these snoozing dragons are about to awaken with a major attitude....

Return to 2012

Return to Temas / Misticismo

Return to Sean David Morton

Return to Las Profecías y El Futuro

ข้อมูลจาก. Prophecies of Mother Shipton
Prophecies of Mother Shipton
bibliotecapleyades.net

 

Voice TV
พบแล้วหลักฐานสำคัญ "สิ่งมีชีวิตในอวกาศ" : อ่านข่าวที่นี่
พบแล้วหลักฐานสำคัญ สิ่งมีชีวิตในอวกาศ - Voice TV

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ในอังกฤษ รายงานผลทดลอง พบสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในชั้นบรรยากาศโลก (Stratosphere) เชื่อสิ่งมีชีวิตในอวกาศเดินทางมายังโลกตลอดเวลาโดยติดมากับอุกกาบาต และ สะเก็ดดาว

‪#‎voicetv‬ ‪#‎technology‬ ‪#‎Science‬ ‪#‎alien‬ ‪#‎originoflife‬ ‪#‎space‬ ‪#‎อวกาศ‬

พบแล้วหลักฐานสำคัญ "สิ่งมีชีวิตในอวกาศ"

คลิกเพื่อชม-> Alien life in space: Scientists discover extraterrestrial organisms in Earth's atmosphere - YouTube

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ในอังกฤษ รายงานผลทดลอง พบสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในชั้นบรรยากาศโลก เชื่อสิ่งมีชีวิตในอวกาศเดินทางมายังโลกตลอดเวลาโดยติดมากับอุกกาบาต และ สะเก็ดดาว

สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่พบในชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์ มีขนาดประมาณ 300 ไมครอน ซึ่งใหญ่เกินกว่าที่จะลองล่อยขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศโลกได้ โดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ในประเทศอังกฤษ ระบุว่าเหตุผลที่สิ่งมีชีวิตที่พบลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศได้จะต้องได้รับแรงผลักดันขึ้นไประดับภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่เท่านั้น ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่าลักษณะของสิ่งมีชีวิตรูปแบบจุลินทรีย์ดังกล่าว ไม่เคยถูกค้นพบบนโลกมาก่อน

รายงานการค้นพบที่น่าจะเป็นการพบสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกครั้งแรกดังกล่าว ถูกระบุไว้ในวารสารวิชาการ "Journal of Cosmology" โดยศาสตราจารย์ มิลตัน เวย์นไรท์ จากมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ประเทศอังกฤษ ซึ่งระบุว่าเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้ทดลองด้วยการส่งบอลลูนตรวจอากาศขึ้นไปยังชั้นบรรยากาศโลกในระดับสตราโตสเฟียร์ หรือ ชั้นบรรยากาศชั้นที่สองของโลก โดยได้ติดตั้งปุ่มดักจับละลองบนชั้นบรรยากาศเอาไว้ ซึ่งหลังจากบอลลูนตกลงมายังพื้นโลก ก็ได้นำตัวอย่างกลับไปสำรวจอย่างละเอียด ภายใต้การควบคุมการปนเปื้อนอย่างเข้มงวด
อ่านผลการทดลองใน Journal of Cosmology คลิกที่นี่ : http://journalofcosmology.com/JOC22/Milton5R.pdf

ศาสตราจารย์ เวย์นไรท์ เชื่อว่าหากการค้นพบครั้งนี้ได้รับการยืนยันในวงกว้างในแวดวงวิชาการวิทยาศาสตร์ จะถือว่าเป็นการปฏิวัติด้านชีวะวิทยา ไปจนถึงความคิดและทฤษฎีเรื่องกำเนิดสิ่งมีชีวิตครั้งสำคัญ โดยการค้นพบนี้อาจจะเป็นหลักฐานที่บ่งบอกว่าสิ่งมีชีวิตจากอวกาศ เดินทางมายังโลกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจจะปนเปื้อนอยู่กับอุกกาบาต หรือ สะเก็ดดาว ที่ผ่านเข้ามายังชั้นบรรยากาศโลก

การค้นพบครั้งนี้ได้รับการเปิดเผยในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่ เคียวริออสซิตี้ โรเวอร์ ยานสำรวจบนดาวอังคาร รายงานกลับมายังองค์การนาซา ว่าไม่พบร่องรอยของก๊าซมีเทนในตัวอย่างที่เก็บได้จากพื้นผิวดาวอังคาร นั่นก็หมายความว่าอาจจะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆอยู่บนดาวเคราะห์สีแดงเลยก็ได้

ท่านผู้เข้าชมเว็บไซต์วอยซ์ทีวี คิดอย่างไรกับการค้นพบครั้งนี้ หรือมีจินตนาการว่าสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกน่าจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร สามารถคอมเมนต์เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้อย่างเต็มที่ในพื้นที่แสดงความคิดเห็นด้านล่าง

ภาพประกอบ : มหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ /University of Sheffield : UK
by Tortermpong

21 กันยายน 2556 เวลา 16:20 น.

View 1633

 

วันที่ 19 กันยายน เวลา 14:20 UT เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์ที่มีทิศทาง-เดียวกับโลก- โดยเยื้องออกไปทางทิศตะวันออก จากการคำนวณพบว่าคลื่นพลังงานจะเดินทางมาถึงโลกในวันที่ 23 กันยายน เวลา 12 UT +/- 7 ชั่วโมง และในวันที่ 21 กันยายน เวลา 15 UT เกิดปฏิกริยาเพิ่มเติมในทางทิศตะวันออก ซึ่งคลื่นพลังงานจะเดินทางมาถึงโลกในวันที่ 25 กย เวลา 6 UT +/- 7 ชั่วโมง นอกจากนั้นช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่แนวสนามแม่เหล็กเปิดเรียงตัวกับโลก ซึ่งโลกจะได้รับความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับลมสุริยะมากกว่าปกติ ดังนั้นท่านผู้สนใจสามารถติดตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงบนโลกที่สัมพันธ์กันได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 25 กันยายนครับ

ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน จึงมีความเสี่ยงเกี่ยวกับเรื่องสภาพอากาศสูงกว่าปกติกริยาใต้ผิวโลก สำหรับประเทศไทยและบริเวณใกล้เคียง ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมหรือมีน้ำท่วมอยู่แล้วในขณะนี้ โปรดติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเป็นพิเศษครับ

รายละเอียดของเหตุการณ์มีดังนี้ครับ :

- โมเดลการแพร่กระจายของคลื่นพลังงานจากดวงอาทิตย์สู่โลกของวันที่ 19 กย SOLARHAM.com - CME Tracker
http://iswa.ccmc.gsfc.nasa.gov:8080/IswaSystemWebApp/StreamByDataIdServlet?allDataId=574735589
- โมเดลการแพร่กระจายของคลื่นพลังงานจากดวงอาทิตย์สู่โลกของวันที่ 21 กย กยhttp://iswa.gsfc.nasa.gov/IswaSyste...mp=2038-01-23+00:44:00&window=-1&cygnetId=261
- วิดิโอภาพถ่ายมุมกว้างของการแพร่กระจายพลังงานจากดวงอาทิตย์วันที่ 21 กย โดยโลกอยู่ทางด้านซ้ายมือของภาพ http://stereo.gsfc.nasa.gov/browse/2013/09/21/ahead_20130921_cor2_512.mpg
- วิดิโอภาพถ่ายมุมกว้างของการแพร่กระจายพลังงานจากดวงอาทิตย์วันที่ 19 กย โดยโลกอยู่ทางด้านซ้ายมือของภาพ
http://stereo.gsfc.nasa.gov/browse/2013/09/19/ahead_20130919_cor2_512.mpg
- แนวสนามแม่เหล็กเปิดที่ดวงอาทิตย์เรียงตัวกับโลก
SOLARHAM.com - CME Tracker

SOLARHAM.com - CME Tracker
solarham.net

 

Kaokala Fc
5 ชั่วโมงที่แล้ว ·
อุซางิ...เส้นผ่าศูนย์กลาง 1,000 กิโลเมตร !!

ภาพถ่ายดาวเทียมซูเปอร์ไต้ฝุ่น"อุซางิ" ไต้ฝุ่นทรงพลังที่สุดแห่งปี หมุนเกลียวเข้าหาทางเหนือของฟิลิปปินส์และทางใต้ของไต้หวันในวันศุกร์(20 ก.ย.) ด้วยมีลมกระโชกสูงสุดดถึง 294 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่นแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ คาดหมายว่ามันจะส่งผลกระทบทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก

อุซางิ มีเส้นผ่าศูนย์กลางมหึมาถึงกว่า 1,000 กิโลเมตร ซึ่งอิทธิพลของมันส่งผลให้มีฝนตกหนักทั่วเกาะลูซอน ทางเหนือของฟิลิปปินส์และทางใต้ของไต้หวัน ขณะที่มันมีปริมาณฝนสะสมใกล้ศูนย์กลางในรอบ 24 ชั่วโมงเกือบๆ 20 นิ้วเลยทีเดียว

 

การรายงานแผ่นดินไหว ของ USGS และ GEOFON. ไม่ตรงกันน่ะครับ

รายงานแผ่นดินไหว จาก GEOFON
วันที่ 2013-09-21
- เวลา 23:49:01น. ขนาด 5.8 m. ละติจูด 33.44°ลองจิจูด 178.05°W ความลึก 10กิโลเมตร. สถานที่ MT South of Kermadec Islands
- เวลา 20:16:29 น. ขนาด 5.2 m ละติจูด 43.10°N ลองติจูด 108.89°W ความลึก 10. กิโลเมตร สถานที่ Wyoming
- เวลา 19:42:20 น. ขนาด 5.2 m. ละติจูด 28.07°ลองจิจูด 105.58°W ความลึก 10กิโลเมตร สถานที่ Chihuahua, Mexico
- เวลา19:16:14 น. ขนาด 5.3 m ละติจูด 28.04°N ลองติจูด 105.59°W ความลึก 10 กิโลเมตร สถานที่ Chihuahua, Mexico
- เวลา 14:16:03 น. ขนาด 4.8 m ละติจูด 18.59°S ลองติจูด 68.75°Wความลึก 121 กิโลเมตร สถานที่ Chile-Bolivia Border Region
-เวลา 13:58:13 น. ขนาด 5.0 m ละติจูด 51.68°N ลองติจูด 158.08°E ความลึก 70. กิโลเมตร สถานที่ Near East Coast of Kamchatka
-เวลา 13:43:12 น. ขนาด 5.2m ละติจูด 60.29°S ลองติจูด 25.62°Wความลึก 45. กิโลเมตร. สถานที่South Sandwich Islands Region
- เวลา 09:50:27น. ขนาด 4.5 m. ละติจูด 0.52°ลองจิจูด 120.06°E ความลึก 10กิโลเมตร สถานที่ Minahassa Peninsula, Sulawesi
- เวลา 09:15:37น. ขนาด 4.3 m ละติจูด 38.08°N ลองติจูด 44.45°E ความลึก10กิโลเมตร. สถานที่ Turkey-Iran Border Region
- เวลา 08:39:15 น. ขนาด 6.0m ละติจูด 7.32°Sลองจิจูด 119.99°E ความลำบาก 535 กิโลเมตร. สถานที่ Flores Sea
- เวลาท 06:34:15 น. ขนาด 5.6 m. ละติจูด 52.29°S ลองติจูด 14.59°E ความลึก 10. กิโลเมตร สถานที่ Southwest of Africa
- เวลา 06:02:31 น. ขนาด 4.3 m ละติจูด 18.22°N ลองติจูด 145.52°E ความลึก 352 กิโลเมตร สถานที่ Mariana Islands
- เวลา 04:00:43 น. ขนาด 4.2 m ละติจูด 1.54°ลองติจูด 127.02°E ความลึก 127. กิโลเมตร สถานที่ Halmahera,Indonesia
-เวลา 03:16:46 น. ขนาด 5.0 m. ละติจูด 50.00°ลองติจูด 179.31°E ความลึก 10กิโลเมตร สถานที่ Rat Islands, Aleutian Islands
-เวลา 02:52:27 น. ขนาด 4.9 m ละติจูด 19.04°N ลองติจูด 145.46°E ความลึก 240 กิโลเมตร สถานที่ Mariana Islands
-เวลา 24:01:02 น. ขนาด 4.7 m ละติจูด 1.65°ลองติจูด 127.08°E ความลึก 73กิโลเมตร สถานที่ Halmahera, Indonesia

แผ่นดินไหวทั่วโลก ขนาดใหญ่กว่า M4.5 เป็นต้นไปจาก USGS (วัดขนาดต่ำกว่า 4.5 ได้เฉพาะในบริเวณอเมริกาและใกล้เคียง)
วันที่ 21 กันยายน 2556
เมื่อ 21.48 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.3 บริเวณ Gaspe Peninsula Quebec, ประเทศแคนาดา ที่ความลึก 18.00 กม.
เมื่อ 20.49 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.8 บริเวณ เกาะฮาวาย รัฐฮาวาย ที่ความลึก 42.90 กม.
เมื่อ 20.11 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.2 บริเวณ เปอร์โตริโก ที่ความลึก 83.00 กม.
เมื่อ 18.45 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.9 บริเวณ San Pedro Channel แคลิฟอร์เนีย ที่ความลึก 6.30 กม.
เมื่อ 16.10 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.6 บริเวณ ทางเหนือของ แคลิฟอร์เนีย ที่ความลึก 2.30 กม.
เมื่อ 15.40 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.6 บริเวณ ทางใต้ของ Yukon Territory ประเทศแคนาดา ที่ความลึก 7.50 กม.
เมื่อ 12.41 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.6 บริเวณ เกาะฮาวาย รัฐฮาวาย ที่ความลึก 6.20 กม.
เมื่อ 07.08 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.3 บริเวณ กลุ่มเกาะแอนเดรียน หมู่เกาะอะลูเชียน , อลาสกา ที่ความลึก 27.70 กม.
เมื่อ 06.59 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.0 บริเวณ สาธารนรัฐโดมินิกัน ที่ความลึก 62.00 กม.
เมื่อ 05.22 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.9 บริเวณ ตอนกลางของ อลาสกา ที่ความลึก 100.00 กม.
เมื่อ 03.16 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.6 บริเวณ Rat Islands หมู่เกาะอะลูเชียน , อลาสกา ที่ความลึก 25.00 กม.
เมื่อ 02.42 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.5 บริเวณ ทางเหนือของ แคลิฟอร์เนีย ที่ความลึก 5.30 กม.
เมื่อ 01.05 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.2 บริเวณ รัฐบาฮากาลิฟอร์เนีย ประเทศเม็กซิโก ที่ความลึก 15.90 กม.

 

เสียงเป่าเขาสัตว์อันแปลกประหลาดและไมาสามารถอธิบายได้ในอากาศ
Strange And Unexplained Horn Like Sounds Filling The Air

โดย DiscloseTruthTV220,362 ครั้ง

คลิก -> Strange And Unexplained Horn Like Sounds Filling The Air - YouTube

 

Dutchsinse
เกิดการเคลื่อนไหวใกล้ๆ เยลโล่สโตน

Noticeable movement near Yellowstone, and also on the Northeastern edge of the craton in Canada..

Also north Central Mexico -- 4.0 and 5.0M earthquakes.

This shows that the Western, Southwestern, and Northeastern edges of the craton are currently in flux.

Watch the fracking operations, and also midwest to east coast.

4.9M in Wyoming (south of Yellowstone)

M4.9 - 19km W of Fort Washakie, Wyoming 2013-09-21 13:16:33 UTC

4.4M in southeast Canada (east coast)

M4.4 - 50km SSE of Sept-Iles, Canada 2013-09-21 14:48:23 UTC

multiple earthquake monitoring links here

11/30/2011 — List of Earthquake Links for global monitoring |

 

จนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ บ๊อบ สมิ ธ ไม่เคยเห็นชุดแผ่นดินไหวจำนวน 2 ครั้ง พร้อมกัน ใน 53 ปีที่ผ่านมา ของการตรวจสอบ กิจกรรมแผ่นดินไหวใน และรอบ ๆ Caldera เยลโลว์สโตน

ตอนนี้ สมิธ, อาจารย์ธรณีฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยยูทาห์ ได้เห็นชุดแผ่นดินไหว 3 ชุด ในครั้งเดียว

สมิธ กล่าวว่า "มันเป็นเรื่อง ที่น่าทึ่ง มาก" " ชุดแผ่นดินไหวหนึ่งจะไม่เกี่ยวข้องกับชุดแผ่นดินไหวอื่นได้อย่างไร ในทางกลับกัน สามารถทำให้เกิดชุดแผ่นดินไหวอีกชุดหนึ่ง ? "

เพราะการเกิดชุดแผ่นดินไหวพร้อมกัน ไม่เคยมีการตรวจพบในอดีตที่ผ่านมา สมิธ กล่าวว่าเขา " จะไม่สงสัย " ถ้า อย่างน้อยสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีความสัมพันธ์กัน

Temblors จากชุดแผ่นดินไหวสามชุดส่วนใหญ่ เกิดในสามบริเวณได้แก่ : ทะเลสาบลูอิส และอ่างน้ำพุร้อนด้านล่าง และส่วนตะวันตกเฉียงเหนือของ Norris Geyser Basin

แผ่นดินไหวที่ใหญ่ที่สุดได้เกิดในพื้นดินใกล้น้ำพุร้อนซื่อสัตย์เก่า เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2556

ศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ขนาด 3.6 และมีขนาดใหญ่ที่สุดที่เกิดในเยลโลว์สโตน ในรอบหนึ่งปี ห่างไปเพียง 6 ไมล์ทางตอนเหนือ ของ น้ำพุร้อนผู้ซื่อสัตย์เก่า

" โดยทั่วไป แผ่นดินไหวจะต้องมีขนาด 3.0 หรือ สูงขึ้น จึงทำให้บุคคลจะรู้สึกว่ามันกำลังไหว "

ชุดแผ่นดินไหว ณ เยลโลว์สโตน ล่าสุด เริ่มเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2556 และสั่นจนถึง เวลา11:30 น. ในวันที่ 16 กันยายน 2556

" รวมการเกิดแผ่นดินไหวจ จำนวน 130 ครั้ง ขนาดตั้งแต่ 0.6 - 3.6 ลิกเตอร์ เกิดขึ้นในพื้นที่ทั้งสามส่วน แต่ส่วนใหญ่ เกิดขึ้นใบริเวณน้ำพุร้อน ที่ต่ำกว่า " มหาวิทยาลัยยูทาห์ กล่าวว่า " เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะเกิดชุดแผ่นดินไหวใน เยลโลว์สโตน "

รวมทั้ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีขนาดเล็ก ซึ่งยังไม่ได้ รับการตรวจสอบ และมี แผ่นดินไหว อื่น ๆ อีกมากมาย , สมิ ธ กล่าว

ชุดแผ่นดินไหวล่าสุด ที่ทำให้เกิดประมาณ 4 แผ่นดินไหวที่มีขนาดใหญ่ พอที่จะ รู้สึก

ครั้งแรกขนาด 3.5 ลิกเตอร์ เกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2556 ประมาณ 17 กม. ทางทิศเหนือ ของเวสต์ เยลโลว์สโตน , Mont
ครั้งที่ 2 เกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2556 ตรวจพบแผ่นดินไหวจำนวน 2 ครั้ง ขนาด3.2 และ 3.4 ลิกเตอร์ ถูกตรวจพบ ในเวลาใกล้ๆ กัน คือ เวลา 05:10 และ 05:11 , ประมาณ 15 ไมล์ ตะวันออกเฉียงใต้ของ เวสต์ เยลโลว์สโตน
ครั้งที่ 3 ขนาด3.6 ที่ ทำเครื่องหมาย จุดสูงสุดของ ฝูงชน ที่ใกล้เคียง ประมาณ 4 1/2 ชั่วโมงต่อมา


" เรารู้ว่าพอ เกิดแผ่นดินไหว อย่างมีนัยสำคัญ ในภูมิภาคนี้ มีศักยภาพที่จะ ปรับเปลี่ยน กิจกรรม ของ geyser ของเหลวจากภูเขาไฟ

Triple swarm of earthquakes shakes Yellowstone
By MIKE KOSHMRL, Jackson Hole News & Guide Published: Sep 22, 2013 at 8:46 AM PDT Last Updated: Sep 22, 2013 at 11:11 AM PDT

ACKSON, Wyo. (AP) — Until recently, Bob Smith had never witnessed two simultaneous earthquake swarms in his 53 years of monitoring seismic activity in and around the Yellowstone Caldera.
Now, Smith, a University of Utah geophysics professor, has seen three swarms at once.

"It's very remarkable," Smith said. "How does one swarm relate to another? Can one swarm trigger another and vice versa?"

Because concurrent swarms have never been detected in the past, the answers aren't in yet, Smith said. The geophysicist said he "wouldn't doubt" if at least two of the events were related.

Temblors from the three quake swarms mostly hit in three areas: Lewis Lake, the Lower Geyser Basin and the northwest part of Norris Geyser Basin.

The largest earthquake shook the ground near Old Faithful Geyser on Sept. 15.
The epicenter of the magnitude 3.6 quake, the largest in Yellowstone in about a year, was just 6 miles to the north of Old Faithful.

"Generally speaking it needs to be 3.0 or higher for individuals to feel it," Yellowstone National Park spokesman Al Nash told the Jackson Hole News & Guide. "This one was somewhat stronger than that and it was in an area where a lot of people are."

Yellowstone's recent earthquake swarms started on Sept. 10 and were shaking until about 11:30 a.m. Sept. 16.

"A total of 130 earthquakes of magnitude 0.6 to 3.6 have occurred in these three areas, however, most have occurred in the Lower Geyser Basin," a University of Utah statement said. "Notably much of seismicity in Yellowstone occurs as swarms."

Including smaller events that have not been verified, there were many more quakes, Smith said.

The recent swarms produced roughly four quakes that were large enough to feel.

The first, a magnitude 3.5, struck Sept. 13 about 17 miles northeast of West Yellowstone, Mont. Then, in the early hours Sept. 15, two quakes, a magnitude 3.2 and magnitude 3.4, were detected in quick succession at 5:10 and 5:11 a.m., about 15 miles southeast of West Yellowstone. The magnitude 3.6 that marked the peak of the swarm struck nearby about 4 1/2 hours later.

"They weren't big earthquakes," Smith said, "but they were felt."

About half a dozen earthquakes are felt in Yellowstone in an average year, he said.

"This is pretty unusual, to be honest," Smith said.

None of the recent quakes, Nash said, were strong enough to cause damage or throw off the cycle of the Old Faithful geyser's eruptions.

"We know that a significant enough earthquake in the region has potential to alter geyser activity," the spokesman said. "A strong enough earthquake, like the one that occurred out at Hebgen Lake in 1959, did change the interval of Old Faithful eruptions."

That quake, a 7.3 to 7.5 on the Richter magnitude scale, caused nearly 300 features on the Yellowstone landscape to erupt, 160 of which had no previous record of geysers.

Smith traced the three recent earthquake swarms to the Hebgen Lake quake.

"These are a really related," he said.

"We think that much of the seismicity is still aftershocks from that event in 1959. It can go on for hundreds of years."

 

พายุไต้ฝุ่นอุซางิ บ้าคลั่ง!! ถล่มพื้นที่ใต้ของจีนยับ สังหารพลเรือนกว่า 25 ราย กระทบการคมนาคมขนส่งทันที

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในวันนี้ (23 ก.ย.) รัฐบาลจีน ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่มณฑลกวางตุ้ง ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ขณะนี้ยังเผชิญกับความรุนแรงของ"พายุ อุซางิ" ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญสามารถวัดความแรงของกระแสลมได้ถึง 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากรายงานเบื้องต้น พายุอุซางิ ส่งผลทำให้เกิดความเสียหาย ต้นไม้จำนวนมาก โค่นล้มเกลื่อนกลาดเต็มท้องถนน ทั้งยังทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันจนเกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน

ล่าสุด พบผู้เสียชีวิตแล้ว อย่างน้อย 25 ราย ประชากรกว่า 3.5 ล้านคน ในพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบความเดือด
ร้อน จนต้องอพยพถิ่นฐานชั่วคราว มากไปกว่านั้น สถานีรถไฟจากกว่างโจวไปกรุงปักกิ่ง ถูกยกเลิกฉุกเฉิน ขณะที่เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานของจีน ประกาศยกเลิกเที่ยวบินนับร้อยที่เตรียมออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานนานาชาติเจิ้งโจวซินเจิ้งและฮ่องกง เนื่องจากสภาพอาการที่ยังเลวร้าย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กล่าวสภาพอากาศที่ทวีความรุนแรงปกคลุมทั่วอาณาเขตทางใต้ของจีน ส่งผลให้ตลาดการเงินของจีนได้รับอิทธิพลในเชิงลบ และจำเป็นต้องปิดการทำงานในบางส่วน นักวิเคราะห์หวั่นใจ หากความเลวร้ายที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นอุซางิ ยังไม่มีท่าทีว่าจะสงบ อาจส่งผลกระทบในระยะยาวต่อเศรษฐกิจจีนที่กำลังฟื้นฟูในทางที่ดีขึ้น

http://news.th.msn.com/ภาพระทึก-ไต้ฝุ่นอุซางิ-ถล่มจีนดับ-25-ศพ

 

ศูนย์เตือนภัย พิบัติโลก
1 ชั่วโมงที่แล้ว
นักวิทยาศาสตร์ประมาณการชีวิตอาศัยอยู่บนโลกเหลืออยู่ ประมาณ 1750000000 - 3250000000 ปีนับจากนี้ หลังจากนี้โลกจะอยู่ใน 'โซนร้อนของดวงอาทิตย์มีอุณหภูมิที่สูง ทำให้น้ำทะเลจะจางหายไป มหาภัยพิบัติต่างๆเกิดขึ้น สิ่งมีชีวิตบนโลกไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ เวลาที่เหลืออยู่นี้มนุษย์โลกต้องหาที่อยู่แห่งใหม่ จากดาวเคราะห์นอกระบบอื่นๆ (โซนอาศัึย)

The research team looked to the stars for inspiration. Using recently discovered planets outside our solar system (exoplanets) as examples, they investigated the potential for these planets to host life.

The research was led by Andrew Rushby, from UEA’s school of Environmental Sciences. He said: “We used the ‘habitable zone’ concept to make these estimates – this is the distance from a planet’s star at which temperatures are conducive to having liquid water on the surface.”

“We used stellar evolution models to estimate the end of a planet’s habitable lifetime by determining when it will no longer be in the habitable zone. We estimate that Earth will cease to be habitable somewhere between 1.75 and 3.25 billion years from now. After this point, Earth will be in the ‘hot zone’ of the sun, with temperatures so high that the seas would evaporate. We would see a catastrophic and terminal extinction event for all life.

“Of course conditions for humans and other complex life will become impossible much sooner – and this is being accelerated by anthropogenic climate change. Humans would be in trouble with even a small increase in temperature, and near the end only microbes in niche environments would be able to endure the heat.

“Looking back a similar amount of time, we know that there was cellular life on earth. We had insects 400 million years ago, dinosaurs 300 million years ago and flowering plants 130 million years ago. Anatomically modern humans have only been around for the last 200,000 years – so you can see it takes a really long time for intelligent life to develop.

“The amount of habitable time on a planet is very important because it tells us about the potential for the evolution of complex life – which is likely to require a longer period of habitable conditions.

“Looking at habitability metrics is useful because it allows us to investigate the potential for other planets to host life, and understand the stage that life may be at elsewhere in the galaxy.

“Of course, much of evolution is down to luck, so this isn’t concrete, but we know that complex, intelligent species like humans could not emerge after only a few million years because it took us 75 per cent of the entire habitable lifetime of this planet to evolve. We think it will probably be a similar story elsewhere.”

Almost 1,000 planets outside our solar system have been identified by astronomers. The research team looked at some of these as examples, and studied the evolving nature of planetary habitability over astronomical and geological time.

“Interestingly, not many other predictions based on the habitable zone alone were available, which is why we decided to work on a method for this. Other scientists have used complex models to make estimates for the Earth alone, but these are not suitable for applying to other planets.

“We compared Earth to eight planets which are currently in their habitable phase, including Mars. We found that planets orbiting smaller mass stars tend to have longer habitable zone lifetimes.

“One of the planets that we applied our model to is Kepler 22b, which has a habitable lifetime of 4.3 to 6.1 billion years. Even more surprising is Gliese 581d which has a massive habitable lifetime of between 42.4 to 54.7 billion years. This planet may be warm and pleasant for 10 times the entire time that our solar system has existed!

“To date, no true Earth analogue planet has been detected. But it is possible that there will be a habitable, Earth-like planet within 10 light-years, which is very close in astronomical terms. However reaching it would take hundreds of thousands of years with our current technology.

“If we ever needed to move to another planet, Mars is probably our best bet. It’s very close and will remain in the habitable zone until the end of the Sun’s lifetime – six billion years from now.”

 

Tribulation Now ได้แชร์ ลิงก์
14 นาทีที่แล้ว ·
Fire in the Sky News / 30 states reporting / "Most amazing!" / "Incredible sight!"

Fire in the Sky News / 30 states reporting / "Most amazing!" / "Incredible sight!" - YouTube
Fire in the Sky News / 30 states reporting / "Most amazing!" / "Incredible sight!"
YouTube