เพิ่มการเฝ้าระวังปี 2556 เป็นขีดสูงสุด ได้แล้ว อย่ามัวช้า มันมาแล้ว ด่วน!!!!!

ในที่สุดสิ่งที่น่ากลัว ขนพองสยองเกล้า ก็ตามมาหลอกหลอนปวงประชาอีกจนได้

เมื่อรองนายกรัฐมนตรี ออกมาพูดว่า
"ผลการตรวจในวันนี้ว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่น่าเป็นห่วง และจะไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 54"

พระเจ้ามันมาอีกแล้วเจ้าเดิม พูดง่าย แต่ประชาชนกล้ำกลืน กับวลีว่าเดิม "ไม่น่าห่วง ไม่มีปัญหา ควบคุมได้ ฯลฯ แม้กระทั่ง เอาอยู่"

พายุเข้า 10 ลูกแล้วแจ้งว่าให้ระวังสูงสุด อาจมีน้ำท่วมใหญ่ยังไม่น่ากลัวเท่ากับ
ผู้รับผิดชอบออกมาบอกว่า "ไม่น่าห่วง ไม่มีปัญหา เราควบคุมได้"

"ปลอด" ยันเอาอยู่ ฟันธงน้ำไม่ท่วมใหญ่เหมือนปี 54
วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2556 เวลา 15:59 น.



“ปลอดประสพ” นำทีมงาน กบอ. ล่องเรือดูน้ำ เจ้าพระยา ยัน ควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่ห่วงน้ำท่วมเหมือนปี 54
เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ประธาน คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย ( กบอ.) พร้อมด้วยคณะ อาทิ นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เลขาธิการ สบอช. นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน ได้ลงเรือบริเวณท่าเรือปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อตรวจแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ จ. นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และ อ่างทอง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดของแต่ละจังหวัดเข้ารายงานสถานการณ์น้ำของแต่ละจังหวัด

โดยนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.นนทบุรี รายงานสถานการณ์น้ำในจังหวัดนนทบุรีว่า ยังอยู่ในภาวะปกติ โดยปริมาณน้ำริมแม่น้าเจ้าพระยา บริเวณ ท่าน้ำปากเกร็ดต่ำกว่าระดับที่จะกระทบบ้านเรือนประชาชน ส่วนปริมาณน้ำที่ปล่อยมาทางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ อ.บางไทร อยู่ที่ 1546 ลูกบาตรเมตรต่อวินาที ต่ำกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบต่อ จ.นนทบุรี ทั้งนี้ก็ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมตัวในการประกาศเตือนภัยล่วงหน้า หากมีเหตุฉุกเฉิน และเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด โดยให้พื้นที่ทำการลอกท่อระบายน้ำ กำจัดผักตบชวา วางคันกั้นน้ำในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก รวมถึงยังได้เตรียมเครื่องสูบน้ำป้องกันน้ำท่วมผิวการจราจรบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ แคราย ราชพฤกษ์ ด้วย

ขณะที่ จ.ปทุมธานี นายชูชาติ ศุภวรรธนางกูร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ 2.25 ม. ต่ำกว่าแนวเขื่อนกั้นน้ำ ที่สูง 3.35ม. ถือว่าสถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วง แต่เพื่อป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจฝั่งตะวันออก เช่น ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต และเซียร์รังสิต จะเร่งระบายน้ำให้อยู่ที่ 1.60 ม. จากปัจจุบันที่ปริมาณน้ำฝั่งตะวันออกในคลองรังสิตประยูรสักที่ 1.70ม. เพื่อเตรียมรองรับน้ำที่จะมาจากอำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ ปริมาณน้ำดังกล่าวยังไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนแต่อย่างใด

ด้าน นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา รายงานว่า แม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางบาล อ.บางปะอิน อ.บางไทร คลองบางหลวง คลองโผงเผง และคลองบางบาล ระดับน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 20-30 ซม. แม่น้ำน้อย ตั้งแต่ อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.บางบาล อ.บางไทร ระดับน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 10-20 ซม.แม่น้ำลพบุรี อ.บ้านแพรก อ.มหาราช อ.บางปะหัน อ.พระนครศรีอยุธยา น้ำเพิ่มขึ้น 10-20 ซม. ส่วนแม่น้ำปากสัก ระดับน้ำทรงตัว เพราะ น้ำจาก อ.มวกเหล็ก และแก่งคอย จ.สระบุรี เริ่มทรงตัวแล้ว เฉลี่ยแล้ว มีน้ำล้นตลิ่งตามจุดต่างๆ ประมาณ 20 ซม. ถึง 1.50 เมตร โดยเฉพาะที่ อ.บางบาล เนื่องจากถือเป็นที่ลุ่มรับน้ำอยู่แล้ว ส่วนตัวเมืองโดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจ หรือเขตชุมชน ได้ทำผนังกันน้ำไว้แล้ว สูง 2.30 เมตร คาดว่าสามารถป้องกันน้ำเข้าตัวเมืองได้ สรุปแล้ว รวมพื้นที่น้ำล้นตลิ่งทั้งหมด 8 อำเภอ 80 ตำบล 1 เทศบาลเมือง คิดเป็น 405 หมู่บ้าน 11,908 ครัวเรือน วัด 7 วัด ซึ่งทางจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ให้ความช่วยเหลือ ชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

นอกจากนี้ นายวิศวะ ศะศิสมิต ผวจ.อ่างทอง ได้รายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อดูจากปริมาณการปล่อยน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา คาดว่า พื้นที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จะไม่เกิดปัญหาน้ำท่วม แต่ข้อเท็จจริงเมื่อมีการปล่อยน้ำปริมาณ 1750 ลูกบาทเมตรต่อวินาที ประกอบกับน้ำฝนที่ตกลงมา ก็ทำให้ ต.โผงเผง มีน้ำท่วม 8 หมู่บ้านจากทั้งหมด 10 หมู่บ้าน ทำให้มีประชาชนได้รับผลกระทบ 350 ครัวเรือน ทั้งนี้ ในพื้นที่ดังกล่าวบริเวณคลองโผงเผง ตลิ่งจะสูง 4 เมตร จากระดับน้ำทะเลปลานกลาง แต่ขณะนี้ น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงถึง 6 เมตร แล้วทำให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน แต่ก็เป็นเพียงประชาชนที่อยู่ริมน้ำ เพราะ ยังมีคันกั้นน้ำที่เป็นแนวถนนอยู่ และ ระดับน้ำก็ห่างจากแนวถนนดังกล่าวประมาณ 2-3 เมตรแต่ก็ถือว่าเป็นวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ และ ปริมาณน้ำดังกล่าวก็ถือว่าเป็นเพียง 1 ใน 10 ของปี 54 นอกจากนี้ ก็ยังมี อ.เมือง ที่มีความสุ่มเสี่ยงจากคันดินที่ทรุดตัวลง ทำให้ระดับน้ำปริ่มตลิ่ง แต่ขณะนี้มีผลกระทบกับประชาชนเพียง 1 ครัวเรือนเท่านั้น แต่หากมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นมาอีกคงต้องเตรียมตัวหนักขึ้น

ทั้งนี้ นายเลิศวิโรจน์ ได้กล่าวสรุปปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาว่า ช่วง 2-3วันที่ผ่านมาที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมานน้ำสะสมในพื้นที่จุดรับน้ำจังหวัดนครสวรรค์อยู่ที่ 1,456 ลูกบาตรเมตรต่อวินาที และจากนี้ระดับน้ำอาจสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ถ้าฝนไม่ตกลงมาอีก ระดับน้ำก็จะลดลงไป ทั้งนี้ในส่วนของ เขื่อนเจ้าพระยา มีน้ำไหลผ่าน 1912 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ต่ำหว่าปริมาณที่สามารถรองรับได้ที่2840 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังอยู่ในปริมาณที่รองรับได้ โดยกลมชลประทาน จะระบายน้ำผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหลัก เนื่องจากพื้นที่ด้านข้าง ทั้ง บริเวณแม่น้ำท่าจีน ,แม่น้ำน้อย แม่น้ำชัยนาทป่าสัก, แม่น้ำ ชัยนาทอยุธยา อยู่ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวที่ประชาชนต้องพร่องน้ำออกมาจากนาข้าว ประกอบกับฝนที่ตกลงมาทำให้ยังมีน้ำในพื้นที่ และแม่น้ำเจ้าพระยายังสามารถระบายน้ำได้อยู่

นายปลอดประสพ กล่าวถึงผลการตรวจในวันนี้ว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่น่าเป็นห่วง และจะไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 54 แต่สิ่งที่ต้องติดตามหลังจากนี้คือ พายุจากคาบสมุทรแปซิฟิก ที่อาจจะเข้ามาหลังจากนี้ เพราะจากสถิติจากนี้ถึงสิ้นปี จะเกิดพายุในคาบสมุทรแปซิฟิก 5-10ลูก แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าจะเข้าที่ใด และร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคกลางตอนบน ซึ่งจะมีแน่นอนโดยจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ภาคกลางตอนบน รวมถึงน้ำทะเลหนุนสูง ที่ปีนี้สูงกว่าปกติ10-30 ซม. จะส่งผลต่อพื้นที่ กทม. โดยเฉพาะฝั่งธนบุรี ทั้งนี้หากองค์ประกอบ ดังกล่าวไม่เกิดพร้อมกันก็ไม่น่าเป็นห่วงให้พื้นที่ที่มีปัญหาแก้ปัญหาของตนเองไป แต่หาก ทั้ง3องค์ประกอบเกิดขึ้นพร้อมกัน อาจทำให้เกิดปัญหาในระยะสั้นได้ และมั่นใจว่าจะคลี่คลายสถานการณ์ได้


นายปลอดประสพ กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน จะได้รับข้อมูล กรม กระทรวง แต่หลังจากนี้ อยากได้ข้อมูลจริง จากระดับ จังหวัด และอำเภอเพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการ.

"ปลอด" ยันเอาอยู่ ฟันธงน้ำไม่ท่วมใหญ่เหมือนปี 54 | เดลินิวส์

 

ท่าจะจริงอย่างที่ท่านว่า พูดปุ๊บเริ่มท่วมปั๊บ

ว่าแต่ท่านปลอดไม่รู้ไปตรวจแถวไหนมา สงสัยไม่ได้ไปแถวนี้แน่ๆครับ

 

นี่ขนาดฝนยังมาไม่มากนะเนี่ย เพิ่งกันยายนเอง เหลืออีกเดือนสองเดือนก่อนเข้าหน้าหนาว
... พี่น้องทุกๆท่าน เตรียมตัวเตรียมใจใว้ด้วยครับ ...
เตรียมที่ว่ามาก็คือเตรียมแรง อาจต้องนำของขึ้นสูงถ้าน้ำมามากเกิน เตรียมเสบียงปกติประจำวัน
ให้มากขึ้นบ้างก็ดีหากไปซื้อหาลำบากเช่นมันไกลบ้าน น้ำท่วมเข้าถึงยากอย่างนี้น่ะ
และก็เตรียมใจ เพื่อพากายไปรับสถานการณ์โดยที่ใจยังมีสติคุมอยู่ตลอดน่ะครับ ...

"เป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยทุกๆท่าน ฝ่าฟันให้ผ่านพ้นไปให้ได้ครับ"

^_^

............................................................................

 

ทั่นปลอด ทั่นปู อิอิ

 

เห็นน้ำเข้า กทม ปลายเดือนนี้จนถึงต้นเดือนไม่ต่างกับปี54 อาทิตย์หน้าผมออกก่อนแล้วไม่ต้องเชื่อผมเพราะเป็นแค่คำทำนายแค่แวะผ่านมาและผ่านไป

 

เห็นรูปในข่าวบางรูปน่าจะเป็นปากแม่น้ำบางปะกงนะ แต่ว่านั่นมันเป็นจุดสุดท้ายที่น้ำที่มาจากด้านตะวันออกจะไปลงทะเลที่นั่น...เวลานี้ควรจะต้องไปดูที่ต้นน้ำมากกว่า...ไม่ใช่ปลายน้ำ

อย่านี้คงต้องเรียกว่าไปดูผิดที่ผิดเวลาแล้วล่ะครับ...ข้อมูลเลยออกมาแบบที่รับทราบกัน...555

 

ผมอยู่ที่ชลบุรีนะ ทำงานอยู่แถวๆปลายแม่น้ำบางปะกง ไม่ไกลนักตอนนี้ยังทรงๆครับ
ฝนก็พรำๆอยู่ไม่มาก เมื่อกี่โทรไปหาเพื่อนที่แถบ ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
อันนี้เป็นแนวกั้นน้ำตะวันออก เพื่อป้องกัน กทม.รอบนอก เพื่อกันให้น้ำลงแม่น้ำบางปะกงตั้งแต่ช่วงรอยต่อ
นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ในสายแม่น้ำหลักทั้งหมดแถวนั้น ก่อนดันน้ำออกทะเลครับ
เขาว่าน้ำมาแค่เข่า(ในหมู่บ้าน) ยังไม่มาก(ถ้ามากจะมิดหัวเลย) แต่ปีนี้แปลกเพราะน้ำเอ่อขึ้นเร็วมากครับ
ก็ถ้าเกิดวิกฤตโดยปกติเขาจะนำรถ มาตักดินมาทำคันดินกั้นน้ำยาวหลายกิโลเมตรเชียว ฯลฯ
ตอนนี้ยังไม่มีคันกั้นเลย(เท่าที่ถาม) สงสัยน้ำจะไปทางอื่นรึยังไงก็ไม่ทราบได้ เพราะมันห่างจาก
อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรีที่โดนหนักๆตอนนี้ไม่มาก เลยก็แปลกใจที่เขาไม่เตรียมการกัน คงพอได้อยู่มั้ง
รึเตรียมการอยู่แล้วผมไม่ทราบก็อาจเป็นได้นะ ...

หากวิกฤตขึ้นมาก็อาจจะจัดทีมไปช่วยครับ ปี 2554 ก็ไปมา 3 เที่ยว ตอนท่วมสุดๆ ท่วมมากกำลังลง
และหลังท่วมแล้ว แจกของกันตามสมควรกับสถานการณ์เลยครับ ครั้งแรกเวลาน้อยแจกไม่ค่อยทัน
ครั้งที่สองแจกกันขนาดหนัก 5 ชั่วโมงได้ครับ แจกกันทั้งบางเลยครอบคลุมมากๆ เริ่มจากถวายที่วัดก่อน
แล้วนั่งเรือไปแจกถึงที่เลยครับ(เรือไฟเบอร์ลำใหญ่)ไปกันสองสามลำเรี่ยรายกันไปเอง ชาวบ้านยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
ที่เห็นคนไทยยังรักกันดีครับ ไทยช่วยไทยจริงๆน่ะ ถ้าจำไม่ผิดทำไปกันทั้งอาหารสดคือข้าวเหนียวหมู ฯลฯ
จัดเป็นชุดๆหลายร้อยชุดมากๆ ของแห้ง ขนมแห้ง ของใช้ส่วนตัว และก็เสื้อผ้า ฯลฯ เอาไปให้ชาวบ้านและยัง
เอาไปให้จิตอาสา ที่เขามาเฝ้าเครื่องสูบน้ำ เพื่อผันน้ำกันทั้งวันทั้งคืนครับ และเอาไปฝาก อ.บ.ต.ช่วยแจก ฯลฯ

นึกแล้วก็สุขใจครับ(ที่ใด้ช่วยบ้างตามสมควร) เพราะเขายอมรับน้ำท่วมกันโดยไม่บ่นเลย(ท่วมประจำอยู่แล้ว)
นาบางส่วนก็ล่ม สองฝั่งถนนฝั่งนึงท่วมเป็นแม่น้ำเลย พอเดินมาอีกฝั่งนึงห่างกันแค่ 10 เมตรเป็นนาข้าวกำลังออก
รวง ตอนนั้นเขาเฝ้าระวังกันได้ดีครับ ... ผมก็ไปแบบคนจนๆ เพราะก็จนจริงๆ แต่ใจไม่จนนะ ฮ่า ฮ่า ...


... "รักกันใว้เถิด" ...


^^

.....................................................................

 

ผมประเมินส่วนตัวครับ

นับจากนี้ถ้าฝนค่อยๆ ลด ผมว่าน้ำคงไม่ท่วมทั่วภาคกลางเหมือนปี 54

แต่ถ้าฝนยังไม่หยุด พายุเข้าสักหน่อย สักลูกสองลูก มีลุ้นครับ ถ้าจะท่วมกรุงเทพ ก็อาจมาจากเขื่อนป่าสัก กับเขื่อนขุนด่าน ดูตัวเลขแล้ว 88 กับ 90 กว่าเปอร์เซนต์

ส่วนน้ำเหนือไม่น่าห่วงแล้ว เพราะน้ำในเขื่อนภูมิพล กับเขื่อนสิริกิต์ น้ำแค่ 40 เปอร์เซนต์เอง