ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905

    ณ ตอนนี้ สำหรับรถตู้ ที่จัดไปทริปนี้ เต็มแล้วค่ะ

    ถ้าท่านใดมีความประสงค์จะร่วมเดินทางทริปนี้ โดยนำส่วนตัวไปเองนั้น
    พบกันที่วัดบูรณศิริ เวลา 8.00 น. แล้วออกเดินทางพร้อมกันค่ะ

    ขอกราบอนุโมทนาบุญกับทุกๆท่าน ด้วยค่ะ

    จันทรกาล
     
  2. kit_por

    kit_por เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +1,341
    วันที่ 27/9/56 เวลาประมาณ 12.34 น. ร่วมบุญถวายดวงแก้ว1คู่พร้อมพระบรมสารีริกธาตุ ณ ลานธรรม อ หนองปรือ จ กาญจนบุรี 100 บาท ค่ะ
     
  3. world999

    world999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +1,992
    ขอแสดงความยินดี และขอร่วมอนุโมทนาบุญกับท่าน WIDYA ด้วยครับ
    สาธุๆๆ
     
  4. sun2555

    sun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +6,619
    วันที่ 26 กันยายน 2556 เวลาประมาณ 17.14 น. ได้โอนเงินร่วมบุญถวายดวงแก้ว 1 คู่พร้อมพระบรมสารีริกธาตุ ณ ลานธรรม อ หนองปรือ จ กาญจนบุรี จำนวน 300 บาท
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ
     
  5. widya

    widya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,095
    ค่าพลัง:
    +13,214
    ได้โอนปัจจัยที่คณะกัลยาณมิตรญาติธรรมร่วมบุญ

    เป็นเจ้าภาพถวายดวงแก้ววสันตรัตนญาณ จ.กาญจนบุรี

    สมทบบุญ ดังนี้....


    ๑. ร่วมบุญกฐิน ๙ วัด ในนามกองบุญสมเด็จพระพุทธวิปัสสีโภคมหาบพิตร ๓๐๐ บาท

    ๒. ร่วมบุญกฐินวัดพระพุทธบาทหริภุญชัยห้วยทราบขาว จ.ลำพูน ๓๐๐ บาท

    ๓. ร่วมบุญกฐินวัดพระโพธิญาณรังสี จ.สุรินทร์ ๓๐๐ บาท

    ๔. ร่วมบุญกฐินวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ จ.สมุทรสาคร ๕,๕๐๐ บาท

    ๕. ร่วมบุญถวายดวงแก้วเป็นบริวารกฐิน ๓ วัด ๓๐๐ บาท

    รวม ๖,๗๐๐ บาท


    ขออนุโมทนาบุญอันเป็นมหากุศลกับทุกท่านด้วยนะครับ
     
  6. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุโมทนาบุญดัวยค่ะ

    Numsai
     
  7. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    สรุปยอดเงินที่กัลยานมิตรได้ร่วมบุญถวายดวงแก้วและพระบรมสารีริกธาตุ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๖,๗๐๐ บาท​

    จำนวนเงินที่โอนผ่านบัญชีธนาคาร.. ๕,๓๒๙.๕๙ บาท
    จำนวนเงินที่เป็นเงินสด ๑,๓๗๐.๑๐ บาท


    รูปภาพ2.png

    ซึ่งยอดเงิน ๖,๗๐๐ บาท ได้ถวายให้กับท่าน widya หลังจากที่ภาระกิจงานบุญเสร็จเรียบร้อยและเดินทางกลับมาส่งท่านที่วัดบูรณะศิริ ซึ่งในระหว่างที่กำลังเดินทางกลับ อยู่บนทางด่วน ปรากฏว่า ท่านจัดสรรเงินจำนวนนี้เข้าร่วมบุญ ทุกรายการเรียบร้อย เลยค่ะ ตามรายละเอียดที่ท่านได้แจกแจงให้ทราบ

    ขอกราบอนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลกับท่าน widya ด้วยเจ้าค่ะ ที่ทำให้ผู้ร่วมบุญ ได้อานิสงค์กันแบบเต็มอิ่ม รับบุญกันแทบไม่ทันเลยเจ้าค่ะ อิอิ

     
  8. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    เชิญร่วมอนุโมทนาบุญ...มหากุศลกับการถวายดวงแก้ว ๑ คู่ พร้อมพระบรมสารีริกธาตุ
    ณ. ลานธรรม จังหวัดกาญจนบุรี

    การเดินทางในครั้งนี้ กว่าจะถึงที่หมายใช้เวลาประมาณ สามชั่วโมง สถานที่แห่งนี้...เป็นลานธรรมที่เต็มไปด้วยความสงบและ ร่มเย็น สิ่งปลูกสร้างเป็นไปด้วยความเรียบง่าย แต่สวยงาม

    IMG_1.JPG IMG_2.JPG

    เมื่อมาถึง เราได้จัดเตรียมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ลงในผอบแก้ว ซึ่งท่าน widya และคุณ Namfon ได้นำพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐม บรรจุในผอบแก้ว มาร่วม ด้วย...ในส่วนของชุดสังฆทาน ที่จัดเตรียมมาประกอบไปด้วย หมอน, ผ้าห่ม, ผ้าอาบน้ำฝน, สบง, ร่ม, ยากันยุง, น้ำปานะที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ ท่านwidya ได้เตรียมบาตร พร้อมหนังสือธรรมะ , พี่น้ำใสได้นำสมเด็จองค์ปฐม และฐานดวงแก้ว มาร่วมถวายในครั้งนี้ด้วย และอื่นๆอีกหลายรายการที่ ผู้ปฏิบัติธรรม นำมาร่วมถวายสังฆทานพร้อมกัน

    IMG_3.JPG IMG_4.JPG IMG_5.JPG IMG_6.JPG IMG_7.JPG

    IMG_9.JPG IMG_10.JPG IMG_11.JPG IMG_12.JPG

    พร้อมกันนี้ได้ร่วมถวายปัจจัยเพื่อสร้างสมเด็จองค์ปฐม ปางเปิดโลกสูง ๑๑ เมตร จำนวน ๕,๒๐๐ บาท
    ร่วมถวายสังฆทาน ๒,๗๐๐ บาท
    ร่วมบุญโรงทาน ๑,๙๐๐ บาท

    IMG_13.JPG IMG_8.JPG IMG_14.JPG

    หลังจากนั้นพระอาจารย์ได้พาขึ้นไปบนภูเขาเพื่อดูสถานที่ที่ประดิษฐานสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกสูง ๑๑ เมตร บริเวณด้านบนเป็นยอดเขาที่สามารถมองเห็นบรรยากาศโดยรอบได้ ๓๖๐ องศา

    IMG_15.JPG IMG_16.JPG

    บรรยากาศในการเดินขึ้นภูเขา เหมือนที่วัดป่าชลิตานุสรณ์ เลยค่ะ ในระหว่างที่เดินขึ้นต้องปิดวาจา ให้สนิท (เพราะถ้าพูดมากๆ แล้วจะเหนื่อย อิอิ)

    IMG_17.JPG IMG_18.JPG IMG_19.JPG

    ...กราบขอบพระคุณท่าน widya เจ้าค่ะ ที่ให้พวกเราได้มีโอกาสร่วมบุญและร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วย
    ...อนุโมทนาบุญกับน้อง kitphi ที่มีมานะนำรถไปเอง เกาะติดสถานการณ์อย่างเหนียวแน่น
    ...กราบขอบพระคุณ พี่เล็กที่นำทางให้พวกเราไปถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แบบไม่เสียเวลา
    ...อนุโมทนาบุญกับน้องนู่ดี, คุณจันทกาล, พี่เดือน, คุณอาย, คุณน้ำฝน, น้องโคอี้, พี่น้ำใส, น้องแพร ที่ทำให้ทริปนี้สมบูรณ์แบบ
    ...อนูโมทนาบุญกับคุณ Vatechayana ที่เนรมิตรภาพสวยๆ มาให้ชาวเมืองได้ชื่นชมกันค่ะ

    ขอให้อานิสงส์ในการร่วมบุญครั้งนี้ จงเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ท่านทั้งหลาย พบแต่คำว่าได้ มี สำเร็จ สมหวัง ดังที่ใจปรารถนาทุกประการเทอญ
    สาธุ สาธุ สาธุ 
     
  9. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ทางขึ้นเหมือนกันเดี๊ยะกับทางขึ้นถ้ำวัดป่าชลิตานุสรณ์เลยค่ะพี่หม่อน
    โอวว...อยากไปด้วยจัง...มองรูปตาละห้อย...น้ำลายไหลย้อยเลย
    แต่ก็ขอโมทนาบุญด้วยนะคะ...หน้าตาแต่ละท่านอิ่มบุญกันจัง

    ว่าแต่คุณ Kitphi นี่ไม่ยอมพลาดซักงานเลยนะ
    รถเต็มยังแอบตามไปได้อีก อิอิอิ


    รูปสวย ดูแล้วอิ่มเอม จุใจ...ขอขอบพระคุณพี่หม่อนมากมายที่นำรูปมาให้ชมกันค่ะ
    และขอโมทนาสาธุกับญาติธรรมทั้งหลายทุก ๆ คนในคณะนะคะ
     
  10. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    พี่หม่อน ตีหนึ่งแล้วยังไม่นอน สุดยอดมาก ๆ สตรีเหล็กจริง ๆ
    แอบแซวนิดนุงนะคะ
     
  11. world999

    world999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +1,992
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านจริงๆ ช่วงนี้มีภาระและงานยุ่งมากๆ เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ ขอทุกท่าน จงสมหวัง ดังที่ใจประสงค์และปรารถนาทุกประการเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  12. NamfonBaanfa

    NamfonBaanfa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +7,086
    กราบอนุโมทนาบุญกับคุณหม่อนผู้จัดการทริปมหากุศลในครั้งนี้เช่นกันค่ะ _/|\_

     
  13. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,344
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,298
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ แหมอิ่มบุญกันทั่วหน้า
    แต่บนภูเขาอากาศดีนะครับ ถ้าสร้างพระคงจะเด่นเป็นสง่าจริงๆ ครับ
     
  14. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    น้องตาลพี่มีความในใจจะบอกว่าทำไมต้องโพส กระทู้ตอนตีหนึ่ง....อยากถ่ายทอดเรื่องราว
    ที่มีความสุขกับการทำบุญให้ กัลยานมิตรได้อนุโมทนาบุญ ให้สมกับที่ไว้ใจโอนเงินมาร่วมบุญ ทั้งๆที่บางท่านไม่เคยเห็นกันด้วยช้ำไป...
    แต่บังเอิญวันอาทิตย์ ติดธุระยาวเลย ว่างอีกทีตอนสี่ทุ่ม ถ้าไม่ทำตอนนี้คงยาว(เพราะอาทิตย์หน้าคิวเต็มหมดแล้ว อิอิ)
    ก็เลยนั่งทำไปเรื่อยๆ ดูรูปไปมีความสุขไป ดูนาฬิกาอีกที อ้าวตีหนึ่งแล้วหรือนี่
    เลยต้องรีบจบ...ทันเวลาพอดี คริ คริ​


    กราบอนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลกับทุกๆ ท่านอีกครั้งนะคะ
     
  15. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,344
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,298
    สาธุครับ พี่หม่อน ได้ครบเลยนะครับ
    มีความปิติยินดีทั้งก่อนทำ ระหว่างทำ และหลังทำบุญ อีกทั้งการที่เอาภาพงานบุญมาโพสให้สมาชิกได้ร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกัน
    ก็เป็นพรหมวิหาร ในเรื่องของเมตตาวิหารธรรม เกิดทีก็จะรวยตั้งแต่เกิดจนตายเลยนะครับ น่ายินดีมากๆครับ
    ที่จริงทำบุญต้องขยันทำไดอารี่ไว้ครับ ว่าทำไรไปบ้างแล้ว ตอนว่างๆจะได้กลับมาดูแล้วมานั่งชื่นชมในสิ่งที่เราได้เคยทำบุญไว้นะครับ

    ขออนุโมทนาบุญกับพี่หม่อนอีกครั้งนะครับ ขอให้มีความสุข และสมหวังทุกประการครับ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2013
  16. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    ขอบคุณคุณชายนะคะ ที่ให้ธรรมทาน ขอเสวยบุญชาตินี้ได้ไหม รวยตั้งแต่เกิดจนตาย สาธุ สาธุ สาธุ (อย่างน้อยไม่รวยเงิน ก็รวยความสุขแหละ ชาตินี้)
    ขออาศัย พื้นที่ตรงนี้เป็นไดอารี่แล้วกันนะจ๊ะ จะได้ให้คนอื่นๆ ได้อนุโมทนาบุญด้วย อิอิ พรใดที่คุณชายให้มา ขอจงบังเกิดกับคุณชายร้อยเท่าพันเท่าค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2013
  17. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,344
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,298
    สาธุครับ ขอรับไว้นะครับ สำหรับพรของพี่หม่อน
    ที่จริงผมว่ารวยความสุขดีกว่าครับ คนมีเงินแล้วไม่มีความสุขมีให้เห็นเยอะแยะไปครับ
    ขอให้รวยความสุข เหลือกินเหลือใช้มีทรัพย์ไปทำบุญทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาตามที่ตั้งใจไว้ก็พอครับ
     
  18. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วอนันตกาลสุริยจักร ตอน ๘ บริจาคพระโอรสองค์ที่ ๗

    IMG_13.JPG

    กล่าวถึงพระนางวสุมิตตา หลังจากที่มอบเจ้าชายสรรพญาณรังสีให้เป็นพระโอรสบุญธรรมของพระเจ้าวนราชไปแล้ว ในพระทัยของพระนางกลับรู้สึกไม่เป็นสุข กลางคืนก็นิมิตร้าย จึงคิดว่าอาจจะเกิดภัยแก่พระโอรสของพระนาง จึงให้ทหารคนสนิทจ้างพ่อค้าที่ไปค้าขายยังเมืองปัญจานาค

    ต่อมาพระนางจึงทราบข่าวจากผู้ที่เจ้าชายสรรพญาณรังสีได้ให้นำลิขิตมาให้พระนาง ถึงกับทรงหลั่งน้ำตา ทุกข์ระทมของพระโอรสองค์ที่ ๕

    ฝ่ายพระเจ้าสุริยจักรนั้น ทรงทราบเรื่องถึงกับหลั่งน้ำตา คิดว่า การที่ใครมาขอสิ่งใดแล้วเราก็ให้เขาไปอย่างนั้น โดยไม่คิดว่า ลูกของเรานั้นมีความทุกข์ ที่ผ่านมาลูกของเรานั้นมีความสุขสบาย ต่างกับสรรพญาณฯที่ต้องทนทุกข์ในต่างแดนเช่นนี้ เราควรสร้างกุศลครั้งใหญ่ เพื่อให้กุศลเหล่านี้ส่งผลให้ลูกของเราทุกคน มีความสุขความเจริญ

    จากนั้นพระองค์จึงสั่งให้เปิดคลัง เพื่อบริจาคแก่ชาวเมืองทั้งหลาย โดยผู้ใดปรารถนาสิ่งใด ก็จะให้สิ่งนั้น พระองค์ได้เปิดคลังเป็นเวลา ๗ วัน จนไม่เหลือพระราชทรัพย์ในท้องพระคลังอีก

    ในวันสุดท้ายนั่นเอง มีพราหมณ์เฒ่าผู้หนึ่งนามว่า ปริจาคพราหมณ์ พราหมณ์ผู้นี้มาจากต่างเมือง เพิ่งเสียภรรยาไป ได้ยินข่าวการสละทรัพย์ของพระเจ้าสุริยจักร จึงตั้งใจว่าจะมาขอทรัพย์บ้าง แต่เมื่อมาถึงปรากฏว่า ทรัพย์ในท้องพระคลังหมดสิ้น ไม่เหลือให้ตน พระเจ้าสุริยจักร ทรงตรัสว่า

    “พราหมณ์เอ๋ย ท่านมาช้าไป บัดนี้ทรัพย์ในท้องพระคลังของเราหมดสิ้นแล้ว"

    พราหมณ์นั้นคิดว่า “ไม่ได้ เราอุตส่าห์เดินทางไกลด้วยความยากลำบาก วันนี้จะต้องได้ของอย่างใดอย่างหนึ่งกลับไป”

    ทันใดนั้น “เจ้าชายสัตตบวร” พระโอรสองค์ที่ ๗ ตื่นจากบรรทม และทรงกรรแสงขึ้น เมื่อปริจาคพราหมณ์ได้ยินเช่นนั้น จึงกล่าวแก่พระเจ้าสุริยจักรว่า..

    “มหาบพิตร ไยท่านจึงปดแก่เรา ไหนท่านบอกว่า สละหมดสิ้นแล้ว พระโอรสของท่านยังอยู่นั่นงัย จงให้พระโอรสแก่เราเถิด”

    พระนางวสุมิตตาเทวีได้ฟังเช่นนั้น จึงกรรแสงและกล่าวว่า..

    “ท่านพราหมณ์ เราทั้งสองได้สละของทุกอย่างไปหมดแล้ว ขอโอรสอันเป็นแก้วตาดวงใจของเราไว้เถิด อีกประการ โอรสของเรายังเยาว์นัก ท่านเอาไปคงไม่มีประโยชน์อะไร”

    ปริจาคพราหมณ์ได้ฟังดังนั้น ก็มีโทสะ จึงกล่าวว่า.. “มหาเทวี เราได้ยินว่า พวกท่านนั้นใจบุญสุนทาน เราอุตส่าห์เดินทางไกลมาเพื่อขอของบริจาค มาถึงทำให้เราผิดหวัง เพียงพระโอรสองค์เดียวยังเสียดาย เสียแรงเราชื่นชมพวกท่านมานาน”

    พระนางวสุมิตตาเทวี ถึงกับกรรแสงหนักเข้า ทรงดำริว่า..

    “เออหนอ มนุษย์ผู้นี้ช่างเห็นแก่ตัวเสียจริง เมื่อไม่ได้ดังใจนึก ก็ตำหนิผู้อื่น หาได้คิดถึงความลำบากของผู้อื่นไม่ ซ้ำยังข่มขู่บังคับใจเราอีก ไม่มีความพอเลย”

    พระเจ้าสุริยจักรนั้น ทรงรู้สึกเสียพระทัยที่ในการบริจาคของพระองค์นั้น กลับโดนพราหมณ์ต่างถิ่นตำหนิ จึงกล่าวแก่พระมเหสีว่า...

    “อันพราหมณ์นั้น ย่อมเป็นผู้ทรงศีล หากเรามอบพระโอรสให้ คงจะไม่ทำให้ลูกของเราลำบากหรอก น้องหญิง พราหมณ์ผู้นี้เดินทางไกลมา เพื่อหวังสิ่งตอบแทน เราตัดใจจากพระโอรสเสียเถิด เก็บข้าวของของลูกเรา และมอบลูกของเราให้แก่พราหมณ์นี้เถิดนะ”

    พระนางวสุมิตตาเทวีนั้น แม้จะเสียพระทัยเพียงใด คิดว่า หากไม่มีโอรส อย่างน้อยพระสวามีก็เป็นที่พึ่งแก่พระนางต่อไป จึงตอบตกลง จากนั้น พระเจ้าสุริยจักรได้หลั่งน้ำสิโณทก มอบพระโอรสองค์สุดท้ายแก่พราหมณ์ไป

    ปริจาคพราหมณ์นั้น ยินดียิ่งนัก เห็นคิดว่าจะนำเสื้อผ้าเครื่องประดับพระโอรสไปขาย นำทรัพย์มาดื่มสุราเที่ยว และนำพระโอรสนี้ไปเป็นทาสของตน แต่มิได้กล่าวต่อหน้า ทำทีก้มลงกราบพระขัตติยะทั้งสอง และลาจากไป

    ฝ่ายเจ้าชายสัตตบวรนั้น ยังทรงพระเยาว์นักได้แต่ร่ำร้องหาพระบิดาและพระมารดา สักพักจึงคิดว่า ที่ผ่านมานั้นพระเชษฐา และพระกนิษฐาของพระองค์ก็ถูกบริจาคไปแล้วไม่มีใครกรรแสง จึงหยุดร้องไห้ จนปริจาคพราหมณ์นั้นรู้สึกแปลกใจ
    เมื่อลับตาไปแล้ว ปริจาคพราหมณ์ได้ขู่เอาทรัพย์สินของพระโอรสไปหมดสิ้น จากนั้นก็บังคับให้เป็นขอทาน เที่ยวเร่ร่อนไปจนถึงบ้านของปริจาคพราหมณ์แห่งเมืองสุทธิสา

    จากนั้นก็ถูกบังคับให้ทำงานหนัก และหาทรัพย์มาเลี้ยงปริจาคพราหมณ์ต่อไป ฝ่ายปริจาคพราหมณ์นั้น แม้เกิดในสกุลพราหมณ์แต่ก็ไม่เคยทำกิจที่ควรทำ กลับผิดศีลดื่มสุรา เป็นประจำ เจ้าชายสัตตบวรนั้นได้ถุกนำไปขายใช้แรงงาน ค่าแรงนั้นปริจาคพราหมณ์นำไปใช้หมดสิ้น

    มีหญิงม่ายผู้หนึ่งเห็นความเดือดร้อนของพระโอรส จึงคิดว่า นางไม่มีบุตร จึงได้นำอาหารบ้าง เครื่องนุ่งห่มบ้างมาแอบให้เจ้าชายสัตตบวรเสวยเป็นประจำ แต่นางไม่ให้ทรัพย์ เพราะคิดว่า หากให้ทรัพย์ ปริจาคพราหมณ์ย่อมนำไปหมดนั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2013
  19. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติดวงแก้วอนันตกาลสุริยจักร ตอน ๙ บริจาคภรรยา..

    หลังจากพระเจ้าสุริยจักรได้บริจาคเจ้าชายสัตตบวรแก่พราหมณ์ไปแล้ว เกิดร้อนถึงท้าวสักกเทวราช จอมราชาแห่งสวรรค์ ทรงตรวจดูด้วยทิพยเนตร พบว่าพระเจ้าสุริยจักรนั้น ทรงบริจาคพระโอรส-ธิดาไปแล้ว เกรงว่าจะมีผู้มาขอพระนางวสุมิตตาเทวีไปเป็นภรรยา

    จึงแปลงกายเป็นกษัตริย์อีกเมือง นามว่า “จอมไตร” มาขอพระนางวสุมิตตาเทวีไปเป็นพระมเหสี พระเจ้าสุริยจักรนั้น ทรงคิดว่าหากพระมเหสีอยู่กับพระองค์อาจจะลำบาก เนื่องจากทรัพย์ต่าง ๆ ถูกบริจาคไปหมดสิ้นแล้ว


    พระนางวสุมิตตาเทวีนั้น แม้รู้สึกเสียพระทัย แต่คิดว่า หากเป็นความประสงค์ของพระสวามี พระนางก็พร้อมจะปฏิบัติตาม เมื่อพระเจ้าสุริยจักรทรงเห็นว่าพระมเหสียินยอมแล้ว จึงได้หลั่งน้ำสิโนทกลงพื้นดิน เกิดแผ่นดินสั่นสะเทือนไปทั่ว พระนางวสุมิตตานั้นรับรู้สึกความอัศจรรย์นี้ จึงได้กล่าวโมทนาสาธุการกับพระสวามี จากนั้นได้ก้มกราบพระบาท จากไปพร้อมกับพระเจ้าจอมไตรทันที

    ฝ่ายพระเจ้าจอมไตร หรือท้าวสักกเทวราชนั้น เมื่อรับพระนางวสุมิตตาเทวีออกมานอกเมืองแล้ว จึงกลายร่างกลับสู่สภาพเดิม พระนางวสุมิตตาเทวีเห็นดังนั้น เกิดความประหลาดใจ ท้าวสักกเทวราชได้กล่าวว่า..

    “มหาเทวี เราขอโมทนาสาธุการในการเสียสละความสุขส่วนพระองค์ และยอมมากับเรา หากเราไม่มาของพระนาง ก็จะมีผู้อื่นมาขอเช่นกัน มหาเทวี อย่าได้เศร้าโศกพระทัยเลย เราจะพาท่านไปหาพระธิดาของพระนาง เพื่อให้นางได้มีโอกาสได้ตอบแทนคุณของท่าน”

    จากนั้นท้าวสักกเทวราชได้พาพระนางวสุมิตตาเทวีไปหาพระนางสิริรัศมี ชายาของพญาภุมรินทร์นาคราชทันที เมื่อไปถึงนาคพิภพ สร้างความปิติแก่ชาวนาคพิภพทั้งหลายที่ท้าวสักกเทวราชมายังเมืองของตน เมื่อเห็นความสง่างามของท้าวสักกเทวราช

    พญาภุมรินทร์ จึงได้สอบถามเรืองการบำเพ็ญตนของท้าวสักกเทวราช ท้าวสักกเทวราชนั้น ได้เล่าถึงการบำเพ็ญวัตตบท ๗ และเทวธรรม เพื่อเป็นจอมราชาแห่งสวรรค์ ทำให้ชาวนาคพิภพนั้น ต่างตั้งใจบำเพ็ญบารมี ปรารถนาที่จะเป็นท้าวสักกเทวราชในภพภูมิต่อไป


    ฝ่ายพระนางวสุมิตตาเทวีนั้น เมื่อมายังนาคพิภพมีความตื่นตาตื่นใจ กับทิพยสมบัติต่าง ๆ ซึ่งต่างจากโลกมนุษย์ อีกทั้งพระธิดาได้ดูแลเอาใจใส่พระนางเป็นอย่างดี มีความสบายพระทัยมากขึ้น ทำให้ลืมความทุกข์ชั่วคราว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2013
  20. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วอนันตกาลสุริยจักร ตอน ๑๐ ออกผนวช

    กล่าวถึงพระเจ้าสุริยจักร เมื่อได้บริจาคพระนางวสุมิตตาเทวีแล้ว ก็ไม่มีห่วงใด ๆ ได้บอกกล่าวแก่เสนาอำมาตย์ว่า

    “ผู้ใดปรารถนาเมืองนี้ เราจะยกให้ ทรัพย์ต่าง ๆ เราก็มอบแด่ท่านทั้งหลายไปแล้ว ให้ตั้งผู้เหมาะสมในการปกครองเมืองต่อไป เราปรารถนาจะออกบวช”


    แต่ปรากฏว่า ไม่มีผู้ใดปรารถนาจะขึ้นครองราชย์แทน สันติสนธิอำมาตย์ ผู้อาวุโสในบรรดาอำมาตย์กล่าวว่า..

    “ข้าฯ แต่จอมราชา พวกเราซาบซึ้งในการเสียสละของพระองค์ แต่ว่าไม่มีใครที่จะกล้าขึ้นครองราชย์แทนพระองค์พะยะค่ะ กระหม่อมจะขอทำหน้าที่ดูแลบ้านเมืองชั่วคราวไปก่อน หากวันใด พระโอรสองค์ใด องค์หนึ่งของพระองค์เสด็จกลับมา เราจะยกเมืองนี้คืนแก่ราชนิกูลของพระองค์พะยะค่ะ”

    พระเจ้าสุริยจักรไม่ได้กล่าวเช่นใด ได้นำมงกุฎ เครื่องทรงกษัตริย์วางไว้ และเดินออกไปจากท้องพระโรงอย่างไม่เหลียวหลัง

    จากนั้นได้เดินทางรอนแรมไปเรื่อย ๆ หาผลไม้ในป่าเสวยพอประทังชีวิต จากเมืองไปทางทิศตะวันออกนับ ๑๑ โยชน์ ได้พบสถานที่เหมาะสมมีถ้ำ มีน้ำตกสวยงาม เหมาะสมกับการบำเพ็ญสมณธรรม จนได้ฌานสมาบัติ


    ต่อมาทรงพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ที่พระองค์กระทำตั้งแต่ต้นชาติ และพิจารณาเรื่องของผู้ที่มาขอสิ่งต่าง ๆ จากพระองค์ โดยเฉพาะการบริจาคพระโอรสองค์ที่ ๗ ทรงดำริว่า

    “เราให้จนไม่เหลืออะไรจะให้แล้ว เหตุใดบุคคลเหล่านั้นจึงไม่มีความพอ อะไรหนอเป็นเหตุให้มนุษย์มีความเห็นแก่ตัวเช่นนั้น ในอดีตเราเคยทำเช่นนี้หรือไม่”

    จากนั้นทรงย้อนระลึกถึงบุพกรรมเก่า ๆ ของพระองค์และพระนางวสุมิตตาเทวี จึงพบว่า ทรงกระทำเช่นนี้ ชาตินี้มิใช่ชาติแรก ทรงกระทำมานับครั้งไม่ถ้วน และยังมีผู้ต้องการของมากมายจากพระองค์ แม้บางชาติถึงกับต้องอวัยวะ และชีวิตพระองค์ให้ คนเหล่านั้นจึงจะพอใจ

    กาลนั้น ทรงมองไปที่ชะโงกผาตรงข้ามเขาที่ทรงบำเพ็ญเพียง ทรงเห็นกวางตัวหนึ่งได้วิ่งหนีเสือ และถูกเสือจับได้และกัดกิน ทรงพิจารณาว่า

    “เออหนอ เราเคยเกิดเป็นกวาง และเสือหรือไม่หนอ “ ทรงย้อนอดีตพบว่า พระองค์เคยเกิดเป็นผู้ล่า และผู้ถูกล่า ทรงเห็นสัตว์ต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณนั้น ทรงดำริว่า หากสัตว์เหล่านั้นไม่ทำร้ายกัน ป่าแห่งนั้นคงมีความสุข หากมนุษย์ทั้งหลายไม่ทำร้ายกัน ไม่เบียดเบียนกันทุกชีวิตในโลก คงมีความสุข อะไรหนอเป็นเหตุทำให้สุข”


    ทรงพิจารณาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ไม่พบเหตุแห่งทุกข์นั้น จึงดำริว่า..

    “นับแต่นี้ไป เราขอบำเพ็ญเพื่อหาเหตุแห่งทุกข์ของโลกนี้ เราจะไม่เดินทางเพียงลำพัง ขอพาสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์ด้วย”

    เมื่อตรัสเสร็จ แผ่นดินสั่นสะเทือนไปทั่ว จากนั้นพระองค์ทรงเข้าสมาบัติเป็นเวลานานนับหมื่นปี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2013
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...