<VSN><<<พระเครื่องเมืองเหนือ สิงห์รุ่นแรก ครูบาออหน้า4 เชิญชมได้เลยครับ>>><NSV>

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย momotaro67, 21 กันยายน 2013.

  1. jimmyuro

    jimmyuro เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,500
    ค่าพลัง:
    +6,014
    จองด้วยนะครับ
     
  2. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    รับทราบครับท่าน
     
  3. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    รับทราบการโอนเงินครับผม พรุ่งนี้จัดส่งให้นะครับ
     
  4. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    [​IMG]
    ครูบาเจ้าตั๋น ปัญโญ สำนักสงฆ์ม่อนปู่อิ่น​

    พระผงโต๊ะ หมู่ครูบาตั๋น วัดม่อนปู่อินติดเกศาจีวรและโรยพลอยด้านหลัง นานๆเห็นองค์ครับพระผงรุ่นเป็นพระผงยุคแรก หรือ รุ่นแรกของท่านเลยก็ว่าได้ ครับสวยเดิมครับ

    [​IMG]

    ให้บูชา 1,150บ.ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • kbt1.jpg
      kbt1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.4 KB
      เปิดดู:
      7,891
    • vnimgd.jpg
      vnimgd.jpg
      ขนาดไฟล์:
      119 KB
      เปิดดู:
      5,353
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2013
  5. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    ล็อกเก็ตฉากขาว ครูบาตั๋น ปัญโญ วัดม่อนปู๋อิ่น รุ่นแรก

    ล็อกเก็ตนี้สร้างเป็นรุ่นแรก อุดผงเกศา จีวร พลอยเสก ตะกรุด ครูบาตั๋น สำนักสงฆ์ม่อนปุ่อิน เชียงใหม่ ปี48 ตอนนี้ ท่านอายุจะ 100ปีละครับ สร้างน้อยมาก ปลุกเสกถึงสามปีครับ เจตนาสร้างดี เสกนาน มวลสาร สุดยอด หลังฝัง ตะกรุดจารมือ พลอยเสกหลวงพ่อคูณด้วย สวยงามมากๆ ครับ
    จำนวนสร้าง
    ฉากขาว 400 อัน
    ฉากซีเปีย 400 อัน
    หายากสุดๆ เก็บได้เก็บครับ

    [​IMG][​IMG]


    ให้บูชา 1,750บ.ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • kbt3.jpg
      kbt3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.3 KB
      เปิดดู:
      5,126
    • kbt4.jpg
      kbt4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.9 KB
      เปิดดู:
      5,761
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2013
  6. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    ล็อกเก็ตฉากซีเปีย ครูบาตั๋น ปัญโญ วัดม่อนปู๋อิ่น รุ่นแรก

    ล็อกเก็ตนี้สร้างเป็นรุ่นแรก อุดผงเกศา จีวร พลอยเสก ตะกรุด ครูบาตั๋น สำนักสงฆ์ม่อนปุ่อิน เชียงใหม่ ปี48 ตอนนี้ ท่านอายุจะ 100ปีละครับ สร้างน้อยมาก ปลุกเสกถึงสามปีครับ เจตนาสร้างดี เสกนาน มวลสาร สุดยอด หลังฝัง ตะกรุดจารมือ พลอยเสกหลวงพ่อคูณด้วย สวยงามมากๆ ครับ
    จำนวนสร้าง
    ฉากขาว 400 อัน
    ฉากซีเปีย 400 อัน
    หายากสุดๆ เก็บได้เก็บครับ

    [​IMG][​IMG]


    ให้บูชา 2,050บ.ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • kbt5.jpg
      kbt5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.4 KB
      เปิดดู:
      5,661
    • kbt6.jpg
      kbt6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.5 KB
      เปิดดู:
      6,410
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2013
  7. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    เหรียญอายุ ๘๕ ปี ครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน "หน้ากากเงิน กรรมการ" สร้างหลักสิบครับ สายตรงไปควรพลาด
    [​IMG][​IMG]


    ให้บูชา 2,050บ.ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • kg1.jpg
      kg1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.8 KB
      เปิดดู:
      5,477
    • kg2.jpg
      kg2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.8 KB
      เปิดดู:
      5,028
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2013
  8. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    [​IMG]
    หลวงพ่อสำเภา วัดพระธาตุจอมดอย(เขาพนมเศษ) นครสวรรค์ ครับ

    วัดพระธาตุจอมดอยตั้งอยู่บนยอดเขาพนมเศษ สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี
    พ.ศ. 2508 หลวงพ่อสำเภา(สุชาโตภิกขุ) ท่านได้สร้างพระธาตุเจดีย์ ให้ประชาชนทั่วไปได้กราบไหว้ และได้สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2518 หลังจากนั้นท่านได้มรณะภาพในวันที่ 16 พฤษจิกายน พ.ศ. 2525 และได้เก็บร่างของท่านไว้ในโรงแก้วซึ่งร่างของท่านไม่เน่าไม่เปื่อย ในตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านเป็นพระที่มีผู้คนศรัทธาเลื่อมใสเป็นจำนวนมาก จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังมีผู้คนไปกราบไว้ศพของท่านอย่างไม่ขาดสาย หลังจากท่านได้มรณะภาพก็ไม่มีพระมาจำพรรษาประจำ ปัจจุบันมีพระสงฆ์มาจำพรรษาได้ 4-5ปี ท่านก็ได้ช่วยๆกับพัฒนา ให้ดีขึ้น

    ปล. แต่ไม่ทราบได้ว่าเหตุใดถึงได้สร้างเหรียญเหมือนกันกับวัดลาดศรัทธาราม จ.เพชรบุรี

    พระผงพระพุทธหิรัญญราชหลังพระธาตุจอมดอย อ.ท่าตะโก นครสวรรค์ ปัดทองทั่วทั้งองค์ สวยงามมากครับ

    [​IMG]


    ให้บูชา 750บ.ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2013
  9. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    เหรียญรุ่นแรก หน้าเณร หลวงพ่อเกษม เขมโก ออกวัดคะตึกฯ ลำปาง ปี ๒๕๑๔ เนื้อทองแดง
    [​IMG][​IMG]


    ปิดรายการนี้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • kbjk1.jpg
      kbjk1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      123.6 KB
      เปิดดู:
      12,106
    • kbjk2.jpg
      kbjk2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      120.8 KB
      เปิดดู:
      10,328
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2013
  10. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,971
    ค่าพลัง:
    +5,386
    ขอจองครับ-----------------------
     
  11. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    รับทราบการจองครับผม
     
  12. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,971
    ค่าพลัง:
    +5,386
    ได้โอนเงิน ๑๕๑๐ บาท เมี่อ ๙ ตค. เวลาประมาณ๑๐.๔๗ น. เป็นค่าพระ ๑.ลพ.เกษมหน้าเณร รุ่นแรก ที่อยู่ ดูในpmครับ
     
  13. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457

    รับทราบการโอนครับผม
    เหรียญหลวงปู่แก้วรุ่นแรก เลี่ยมบูชาหรือยังครับ มีประสบการณ์อย่างไรเล่าสู่กันฟังมั่งนะครับ
     
  14. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    ปิด 1องค์ แจกให้สหายเก่าเด้อคับ เด้ออออออ

     
  15. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    จัดส่งให้แล้วนะครับวันนี้
    EJ687288880TH​
     
  16. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    ปิดรายการนี้ให้คุณศรัยณ์พัศ นะครับ จัดส่งให้แล้ววันนี้
    EJ525479524TH​


     
  17. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    [​IMG]

    ครูบากองแก้ว ญาณวิชโย
    วัดต้นยางหลวง อ.สารภี จ.เชียงใหม่


    พระวิสุทธิสงฆ์แห่งลานนา

    หนึ่งในไตรลักษณ์ของพุทธศาสนานั้นคือพระเถราเถระผู้มั่งคั่งเปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรม ถือการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามหลักธรรมคำสอนขององค์พระศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามุ่งแสวงหาความหลุดพ้นมีนิพพานเป็นที่ตั้ง ดินแดนแผ่นดินลานนาเป็นสถานที่ที่รุ่มรวยเหล่าพระสุปฏิปัณโณ มากมายหลายรูปครูบากองแก้ว ญาณวิชโย วัดต้นยางหลวง ต.ไชยสถาน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พระสุปฏิปัณโณรูปหนึ่งผู้ที่สูงส่งไปด้วยศีลาจารวัตร ที่พุทธศาสนิกชนมากมายมุ่งหวังที่จะทำบุญสร้างกุศลกับท่าน เพื่อให้ได้มาซึ่งบุญกุศลที่จะก่อเกิดความสุขทางใจให้กับตน ส่วนวัดต้นยางหลวงนั้น เป็นวัดเก่าแก่แต่โบราณ เนื่องด้วยจารึกใบลาน แนกระดาษสาที่บันทึกประวัติวัดต้นยางหลวง ได้ชำรุดสูญหายไปเกือบหมด จึงทำให้ขาดรายละเอียดไปเป็นอย่างมาก

    ครูบาแก้ว ท่านถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม 2440 ตรงกับเดือน 11 เหนือ ขึ้น 15 ค่ำ ณ บ้านร้อง ต.ป่าบง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวนทั้งหมด 7 ในสุกลอุตใจมา ครูบากองแก้ว เรียนจบชั้นประถมศึกษาที่วัดศรีสองเมือง มีครูบาเผือกเป็นผู้สอน

    ปี พ.ศ.2454 อายุ 14 ปี บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดต้นยางหลวง สมัยครูบาจันทร์เป็นเจ้าอาวาส

    ปี พ.ศ.2459 อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีเจ้ากาบแก้ว ณ เชียงใหม่ เป็นโยมอุปัฏฐาก มีครูบาสิทธิ วัดศรีคำชมพู เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระคันธวงศ์ วัดศรีคำชมพู เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอินทรส วัดไชยสถาน เป็นพระอนุสาวนาจารย์โดยได้รับฉายาว่า “ญาณวิชโย”

    เมื่ออุปสมบทแล้วก็ได้ไปศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมจนจบนักธรรมตรีเพียงรูปเดียวของ อ.สารภี ในสมัยนั้น จากนั้นก็ไปศึกษาแนวทางปฏิบัติกรรมฐานที่วัดป่าเหียง จ.ลำปางถือว่าในสมัยนั้นวัดนี้มีชื่อเสียงที่สุดในด้านนี้มีพระอาจารย์เก่งหลายรูป จากนั้นพระครูคัมภีร์ธรรมก็ได้นิมนต์ท่านกลับมาที่วัดต้นยางหลวง เพื่อให้สอนในโรงเรียนพระปริยัติธรรมที่สร้างขึ้นมาสอนนักธรรมอยู่หลายปี จึงได้ลาออกจากครูสอนนักธรรม ส่วนท่านกลับมาเน้นในแนวทางปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานต่อไปปี พ.ศ.2474 ครูบามูลได้ลาสิกขาบท ทางคณะกรรมการวัดและชาวบ้านทั้งหลายที่ศรัทธาในตัวครูบากองแก้ว ได้อาราธนาท่านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสดูแลวัดต้นยางหลวง เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2474 ขณะเดียวกันได้มีพระภิกษุจากอินเดียรูปหนึ่งเดินทางเข้ามาเผยแพร่ธรรมและแนวทางการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานในประเทศไทย ตามคำอาราธนาของสมเด็จพระสังฆราชในขณะนั้น พระสงฆ์ชาวอินเดียรูปนั้นชื่อว่า “พระโลกนาถ”ครูบากองแก้วจึงได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์ร่ำเรียนทางวิปัสสนาเพิ่มเติม จนซึ้งในหลักธรรมต่างๆ จึงได้ตั้งสัตยาธิษฐานฉันมังสวิรัติเพียงวันละมื้อ ตั้งแต่นั้นมาจนมรณภาพ ครูบากองแก้วนั้นถือธุดงค์เป็นประจำไปทั่วภาคเหนือ ตลอดจนเพื่อนบ้านใกล้เคียง เมื่อพบอาจารย์ดีที่ไหนก็ขอร่ำเรียนวิชาต่างๆ ที่นั่น โดยครั้งหนึ่งได้พบและพูดคุยกับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานอีกด้วย ครูบากองแก้ว ใช้ชีวิตธุดงค์จนมีอายุมากสังขารไม่อำนวย ท่านจึงหยุดธุดงค์ทางไกล เพียงแต่ใช้การปฏิบัติอยู่ภายในวัดเท่านั้นนอกจากนี้ช่วงที่ครูบาศรีวิชัย นำสร้างถนนขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ ครูบากองแก้ว เป็นรูปหนึ่งที่เป็นกำลังสำคัญในการนี้ โดยชักชวนชาวบ้านทั้งหลาย ร่วมสละแรงกายแรงทรัพย์ช่วยสร้างทางขึ้นดอยสุเทพจนกระทั่งสำเร็จ ทั้งนี้ด้วยบารมีของครูบาศรีวิชัยและครูบากองแก้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจึงได้บรรลุสำเร็จเป็นถนนประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่จนทุกวันนี้

    เมื่อต้นที่ครูบากองแก้ว เข้ารับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดต้นยางหลวง ได้พัฒนางานด้านถาวรวัตถุไว้มากมาย เริ่มตั้งแต่ปี 2473 สร้างกุฏิสงฆ์ และก่อสร้างงานอื่นๆ เรื่อยมาจน พ.ศ.2507 จึงสร้างหอพระไตรปิฎก ส่วนวัตถุมงคลของท่าน มีมากมายหลายอย่าง ทั้งชนิดวัดอื่นสร้างแล้วขอเมตตาบารมีให้ท่านช่วยอธิษฐานจิตปลุกเสกให้ ทางวัดต้นยางหลวงหรือศรัทธาญาติโยมขอสร้างก็มี อาทิ

    เสื้อยันต์ น้ำมันมนต์โดยเฉพาะน้ำมันมนต์ที่มักจะมีผู้นำน้ำมันงามาให้ท่านอธิษฐานจิตให้เสมอ มีผู้เชื่อถือกล่าวว่า น้ำมันมนต์ของครูบากองแก้วศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก สามารถรักษากระดูกที่หักหรือผู้ที่โดนไฟโดนน้ำร้อนลวกได้ผลดีนัก

    ชานเมี่ยง

    โดยปกติครูบากองแก้วจะเคี้ยวเมี่ยงเป็นประจำ เมื่อมีผู้มาขอเมี่ยงที่ท่านเคี้ยวอยู่ ท่านก็จะคายให้ไป ชานเมี่ยงก็มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งในด้านคงกระพัน

    ตะกรุดกาสะท้อน

    สร้างจากตำราโบราณของทางภาคเหนือ เป็นเอกลักษณ์พิเศษของวิชาอาคมภาคเหนือ ทำจากหนังลูกวัวที่ตายในท้อง นำมาลงอักขระเลขยันต์ คุณวิเศษของตะกรุดนี้คือ ผู้ที่มีไว้ครอบครองจะไม่มีผู้ใดคิดร้ายได้ เพราะจะสะท้อนย้อนกลับเข้าหาตัวผู้ที่คิดร้ายนั้นทั้งหมด วิชาทำตะกรุดกาสะท้อนนี้มีพระเกจิอาจารย์ที่สำเร็จวิชานี้เพียง 2 รูป เท่านั้น คือ ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย ลำพูน และครูบากองแก้ว วัดต้นยางหลวง ซึ่งมีความแตกต่างกันคือ ตะกรุดการสะท้อนของครูบาชุ่ม จะใช้แผ่นตะกั่วหุ้มหนังลูกวัวม้วน ส่วนของครูบากองแก้วนั้นใช้ครั่งจากต้นพุทราที่เกิดจากกิ่งที่ชี้ไปทางทิศตะวันออกหุ้มเท่านั้น ท่านสร้างไว้จำนวน 212 ดอก เท่านั้น

    พระเนื้อดินเผา ปี พ.ศ.2517

    คณะกรรมการวัดได้จัดสร้างขึ้นมาจำนวนประมาณ 20,000 องค์ มี 4 พิมพ์ด้วยกัน พิมพ์รูปเหมือนสี่เหลี่ยม, พิมพ์รูปเหมือนสามเหลี่ยม, พิมพ์นางกวัก, พิมพ์พระสีวลี เพื่อนำไปบูชาในหมู่คณะใกล้ชิด พิมพ์พระไม่ค่อยสวยงาม ชัดเจน ด้วยเป็นฝีมือชาวบ้าน เมื่อสร้างเสร็จก็ได้นำมาให้ครูบากองแก้วอธิษฐานจิตให้ แล้วแบ่งไว้จำนวน 10,000 องค์ นำไปบรรจุไว้ใต้ฐานพระประธาน

    เหรียญรูปไข่ รุ่นแรก ปี พ.ศ.2517

    เป็นเหรียญรุ่นแรกของท่าน จัดสร้างถวายโดยคุณชัชวาล ชุติมา ส.ส.เชียงใหม่ ขณะนั้น สร้างเป็นเนื้อทองแดงทั้งหมด เหรียญที่นำมาถวายครูบากองแก้ว จำนวน 5,000 เหรียญ


    วัตถุมงคลจตุพร ปี พ.ศ.2520

    คณะกรรมการวัดและคณะศิษย์ได้ร่วมกันจัดสร้างขึ้น เพื่อให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาในตัวครูบากองแก้วได้เช่าบูชา หาทุนมาสร้างอุโบสถ วัดต้นยางหลวง เป็นวัตถุมงคลรุ่นที่มีการสร้างทั้งเหรียญและเนื้อผง ครูบากองแก้วอธิษฐานจิตเดี่ยว 1 ไตรมาสแล้ว เข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งที่วัดต้นยางหลวงในเดือนธันวาคม พ.ศ.2520 ในพิธีนี้ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วภาคเหนือมาร่วมพิธี อาทิ ครูบาพรหมจักร วัดพระบาตากผ้า, ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี, ครูบาธรรมชัย, ครูบาหล้า, ครูบาคำแสนสุดท้ายแห่งชีวิต ครูบากองแก้ว ญาณวิชโย เริ่มเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนทั้งหลายแล้ว มีผู้มานิมนต์ไปงานต่างๆ มากมายแม้แต่ทางกรุงเทพฯ ก็มีผู้เรียกร้องให้นิมนต์ร่วมงาน การพักผ่อนมีน้อย ท่านเริ่มเจ็บป่วย อาพาธเล็กๆ น้อยๆ เสมอมา ด้วยตรากตรำงานหนัก กระทั่ง ปี พ.ศ.2522 ท่านเกิดอาพาธหนักมาก เข้ารักษาที่โรงพยาบาลลานนา แพทย์วินิจฉัยว่าท่านเป็นโรคขาดสารอาหารทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง จนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายในวันที่ 3 กรกฎาคม 2524 ท่านก็มรณภาพด้วยอาการสงบที่โรงพยาบาลลานนา เวลา 05.00 น. รวมสิริอายุได้ 84 ปี 64พรรษา
    สำหรับครูบากองแก้ว ญาณวิชโยนั้น ถ้าใครเป็นคนทางเหนือคงต้องเคยได้ยินชื่อผมขอเกริ่นนำแบบคร่าวๆหน่อยแล้วกันครับครูบากองแก้วนั้นนับได้ว่าเป็นมือขวาของครูบาศรีวิชัยท่านเป็นศิษย์รุ่นแรกที่ติดตามครูบาศรีวิชัยไปสร้างทางเป็นลูกศิษย์ที่ครูบาศรีวิชัยให้คุมการสร้างทางเป็นหลักท่านมีความอาวุโวกว่าครูบาวงศ์ ครูบาธรรมชัย ครูบาขาวปี หรือ ครูบาดวงดีตอนที่ท่านไปสร้างทางนั้น ครูบาวงศ์ยังไม่บวชเป็นพระเลยและท่านเองก็เคยพบครูบาดวงดีตั้งแต่ยังเป็นเด็กอายุ๑๓ปีด้วยท่านติดตามครูบาศรีวิชัยมาตั้งแต่ยังเป็นเณรดังนั้นคงไม่ต้องคาดเดาถึงวิชาที่ท่านได้สืบต่อมาจะมีขนาดไหน

    เหรียญที่ขอนำเสนอคือเหรียญจตุรพรสร้างในปี ๒๕๒๐ เพื่อแจกให้กับผู้ที่มาทำบุญกับวัด…เหรียญนี้ไม่ใช่เหรียญทองแดงเหมือนอย่างเหรียญทองแดงที่ปั๊มจากโรงงานอย่างที่ปัจจุบันทำกันอย่างง่ายแต่คาดว่ามีการนำมวลสารศักดิ์สิทธิ์แล้วหลอม รีดออกมาเป็นแผ่นแล้วถึงจะปั๊มทำให้เนื้อเหรียญออกไปทางสัมฤทธิ์มากกว่า
    ลักษณะของเหรียญเป็นเหรียญรูปใบเสมามีหูในตัว
    ด้านหน้า เป็นรูปเหมือนครูบากองแก้วเต็มองค์นั่งสมาธิบนโต๊ะฐานขาสิงห์ภายในซุ้มนาคเกี้ยวปลายหางนาคจะไขว้กันด้านบนสุดโดยโอบรอบพระพุทธองค์เล็กๆที่อยู่เกือบบนสุดของเหรียญด้านหลังครูบาจะเป็นเสมาธรรมจักร มีตัวหนังสือล้อมรอบว่า”ครูบากองแก้ว ญาณวิชโยวัดต้นยางหลวง ต.ไชยสถาน อ.สารภี จ.เชียงใหม่”
    มีลายกนกที่อยู่ถัดลำตัวพญานาคสำหรับด้านล่างโต๊ะจะมีรูปไก่สองตัวหันหน้าชนกัน และตอกโค้กว่า”กก” สำหรับพื้นล่างสุดเขียนว่า”ครบรอบ ๘๑ ปี ๒๕๒๐”
    ด้านหลังเหรียญจะยกขอบขึ้นมาตรงกลางเป็นยันต์อิติปิโส ๘ ทิศ และยันต์พระเจ้า๑๖ พระองค์และด้านบนเขียนว่า”ที่ระลึกในการสมทบทุนสร้างพระอุโบสถ” สำหรับด้านล่างสุดเขียนว่า”จตุรพร คณะศิษย์สร้างถวายบูชาพระคุณรุ่นแรก”
    เนื้อสัมฤทธิ์ สร้างจำนวน ๒๙,๙๙๙ เหรียญ และเหรียญเงินสร้าง๙๙เหรียญ
    ชนวนของเหรียญจตุรพรครูบากองแก้วญาณวิชโย
    1.ชนวนพระกริ่งสังฆราชแพ
    2.ชนวนพระกริ่งหลวงปู่ทิม
    3.ชนวนพระกริ่งหลวงปู่แหวน
    4.ชนวนพระกริ่งหลวงพ่อเกษมเขมโก
    5.ชนวนพระกริ่งหลวงพ่อบุญเย็น เชียงใหม่
    6.ชนวนพระวัดราชบพิธพ.ศ.๒๔๘๑
    7.ชนวนวัดสัตตนารถ ราชบุรี
    8.ตะกรุด หลวงปู่ทิมวัดละหารไร่
    9.ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง
    10.ตะกรุดหลวงพ่อคงวัดบางกะพร้อม
    11.ตะกรุดหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว
    12.ตะกรุดหลวงพ่อปานวัดบางเ***้ย
    13.ตะกรุดพระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    14.ตะกรุดหลวงพ่อเหมือนวัดกำแพง ราชบุรี
    15.ตะกรุดเก่านับร้อยดอก
    16.แผ่นทอง เงิน ทองแดงหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    17.แผ่นจารเจ้าคุณวรพรตฯ วัดป่าชลบุรี
    18.แผ่นจารหลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม สิงห์บุรี
    19.แผ่นจารหลวงพ่อเชื้อวัดใหม่บำเพ็ญบุญ ชัยนาท
    20.แผ่นจารครูบาพรหมจักร ครูบาอินทจักรเชียงใหม่
    21.ชนวนพระ๒๕ศตวรรษ
    22.ชนวนพระกริ่งนเรศวรวังจันทร์
    23.ฆ้องห้ามลมห้ามฝนของครูบา
    24.พระบูชาเก่าชำรุดและอื่นๆ
    ไก่สองตัวใต้ฐานเป็นสัญญลักษณ์ปีเกิดของครูบา
    โค้ดมีสองแบบคือ “กก”และ”กกก”

    ภาพที่ผมนำมาลงนั้นเป็นภาพที่ผมนำมาจากเวปพระแห่งนี้ ที่เข้าใจว่าไม่มีโค้ด”กกก” จึงตีความว่าเป็นเหรียญเก๊ แต่จากการที่ผมได้อ่านประวัติเพิ่มเติมจากผู้สร้างจึงเห้นว่า ควรจะนำมาให้ชม แต่ผมไม่มีความสามรถลบคำบรรยายในภาพได้ จึงต้องอธิบายในเนื้อความนี้ครับ
    ในขั้นตอนการสร้างแม่แบบก็มีสิ่งที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น…อ่านต่อแล้วกันครับ
    ในการสร้างเหรียญ ผู้สร้างได้ทำการถอดแบบเหรียญนั่งพานของหลวงปู่ทิมมาเฉพาะด้านหน้าเพียงด้านเดียว
    สำหรับด้านหลังเหรียญนั้นครูบาได้กำหนดให้ใช้ยันต์แบบเดียวกับที่ลงที่ฆ้องห้ามลมห้ามฝนของท่านโดยครูบาเป็นผู้เขียนต้นแบบยันต์ด้านหลังให้ผู้สร้างเอง เป็นที่น่าแปลกใจว่าทำไมด้านหลังของเหรียญจึงมียันต์อิติปิโส๘เช่นเดียวกับด้านหลังของเหรียญของหลวงปู่ทิมทั้งๆที่ครูบาไม่เคยเห็นเหรียญของหลวงปู่ทิมมาก่อน
    หลังจากสร้างเหรียญสัมฤทธิ์เสร็จ ครูบาก็ได้นำไปแผ่เมตตาจิตจนครบไตรมาส และทางผู้สร้างได้จัดพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ที่วัดต้นยางหลวงในเดือน ธ.ค. ๒๕๒๐โดยอาราธนาพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทางเชียงใหม่,ลำพูน,ลำปางมาร่วมในพิธี อาทิ ครูบาคำแสน,ครูบาพรหมจักร,ครูบาธรรมชัย,ครูบาหล้า,ครูบาดวงดี และยังมีเกจิที่จำชื่อไม่ได้อีก ๑๒รูป และในพิธีนั้นครูบาได้ให้ลูกศิษย์ท่านนำปืนมีดและดาบมาในพิธี ท่านบอกว่าจะได้สะกดอาวุธเหล่านี้ เพื่อให้พระเครื่องของท่านมีอานุภาพด้านป้องกันได้.ทุกๆครั้งที่ท่านแผ่เมตตาจิตพระเครื่องนั้น ท่านจะอธิษฐานครอบคลุมไว้ทุกอย่าง ไม่ว่าแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยมหรือ ค้าขาย หลังจากอธิษฐานพระเครื่องจนครบทุกด้านแล้ว ท่านจะแยกพระเครื่องออกเป็นพิมพ์ต่างๆแล้วอธิษฐานให้พระเครื่องแต่ละพิมพ์ อย่างเหรียญท่านก็เน้นไปด้านแคล้วคลาดคงกระพัน
    ….หลังจากพิธีพุทธาภิเษก มีตะกรุดตะกั่วเหลือจึงได้นำมาทำพระเนื้อตะกัวพิมพ์รูปเหมือนกับปิดตา โดยได้นำเหรียญเนื้อสัมฤทธิ์จำนวน ๓๐๐ เหรียญมาให้ท่านเสกโดยท่านบอกว่าให้ไปเอาไว้ตรงหัวเตียง ทิ้งให้ท่านเสกจนครบปีจึงได้นำกลับเพราะนำไปแจกในหมู่ลูกศิษย์ใกล้ชิด โดยเหรียญสัมฤทธิ์นั้นมีการตอกโค้ดดอกจันเพิ่มมาที่บริเวณสังฆาฎิที่หน้าอกสำหรับครูบากองแก้วนั้น..ท่านก็เก่งครับ แต่เก่งในพื้นที่
    อย่างวันที่เสกเหรียญรุ่นแรกของท่าน เมื่อ ปี๒๕๑๗ ลูกศิษย์นำเหรียญใส่ลังไว้บรรจุ ๕๐๐ เหรียญเมื่อเริ่มพิธี ครูบาก็นั่งเข้าสมาธิจิต เพ่งพลังสู่เหรียญ ในเวลาไม่นานก็มีเสียงดังมาจากลังบรรจุเหรียญ เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งครูบาถอนจิตออกจากการปลุกเสก เสียงดิ้นในลังพระจึงหยุดหายไป
    …เมื่อคราวที่วัดมีงานแห่สลาก เมฆฝนก็ได้ตั้งเค้าเริ่งสาดเม็ดฝนลงมา ลูกศิษย์ท่านจึงไปกราบเรียนครูบาขอให้ครูบาช่วยห้ามฝน ไม่งั้นของที่จัดเตรียมไว้กลางแจ้งจะเสียหายหมด ท่านก็บอกให้ไปเอาฆ้องใหญ่บนศาลาลงมา ท่านก็ลงอักขระเขียนไปที่ฆ้องและร่ายคาถา แล้วท่านให้เอาฆ้องไปแห่รอบพระวิหารพร้อมกับตีฆ้องไปด้วย พอแห่ครบสามรอบท้องฟ้าท่มืดครึ้มอยู่ก็กลายเป็นฟ้าเปิด เมฆฝนกระจายออกไปรอบๆ
    …ครูบาท่านนั้น มีวัตรปฎิบัติที่คล้ายหลวงปู่ทิม คือการฉันมังสวิรัติ เพียงมือเดียว ส่วนใหญ่ก็เป็นถั่วกับเกลือ ผักต้มโดยเฉพาะผักตำลึง
    ..สำหรับเหรียญของท่านเด่นไปทางคุ้มครองเกือบทุกด้าน มีประสบการณ์ตั้งแต่รอดตายจากอุบัติเหตุ รอดตัวจากพวกภูติผีต่างๆ…ตอนนี้ราคายังไม่น่าจะแพงหลักร้อยต้นๆ ผมว่าของเก๊ไม่น่าจะมี เพราะเหรียญไม่ได้มีความนิยมอะไรมาก แต่ถ้าผมเจอแล้วจะนำมาแจ้งอีกทีครับ..เหรียญนั่งพานหลวงปู่ทิมก็ไปไกลแล้ว ไม่ต้องหาหรอกครับ เก็บตังค์มาเช่าเหรียญจตุรพรครูบากองแก้วดีกว่า แค่ดูชนวนก็ใช่ย่อยแล้ว นับประสาอะไรกับเหรียญใหม่ๆ ไม่มีมวลสาร เอาแผ่นทองแดงมาปั๊ม

    เหรียญจตุรพร ครูบากองแก้ว ญาณวิชโย วัดต้นยางหลวง เชียงใหม่ เนื้อสัมฤทธิ์ ชนวนกริ่งชินบัญชร ปี ๒๕๒๐ กรรมการโค๊ต ๒ก สภาพเก่าเก็บเดิม สวยครับ

    [​IMG][​IMG]



    ให้บูชา 2,250บ.ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • spd_20121026112543_b.jpg
      spd_20121026112543_b.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.7 KB
      เปิดดู:
      4,943
    • kkkk3.jpg
      kkkk3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.8 KB
      เปิดดู:
      6,971
    • kkkk4.jpg
      kkkk4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.3 KB
      เปิดดู:
      5,503
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2013
  18. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    เหรียญครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดสวนดอก รุ่นแรก ปี 2497 เนื้อทองแดง สุดสวย ระดับล่าโล่ห์รางวัลงานประกวด เนื้อทองแดงหายากครับ พระดี พิธีเยี่ยม พุทธคุณยอด พ.ศ.ลึกครับผม บูชาแทนรุ่นแรกได้สบายเลยครับ

    พระรุ่นนี้มี 2เนื้อ คือเนื้อทองแดง จะเป็นลักษณะเหรียญปั๊ม ส่วนอีกเนื้อคือเนื้อตะกั่ว จะใช้แบบประกบหล่อ ปลุกเสกด้วยศิษย์สายตรงครูบาเจ้าศรีวิไชย เป็นเหรียญรุ่น1 วัดสวนดอก ปี2497 เนื้อทองแดงรมดำ มีทั้งหมด 2บล๊อคครับ บล๊อคหูติ่ง(นิยม) กับบล๊อคแว่นตา สมัยก่อนมีการเล่นหาว่าทั้ง 2บล๊อคคือรุ่นแรกปี97 หมด หลังๆ ได้มาได้มีการแยกว่าบล๊อคแว่นตานั้นเป็นรุ่นสองปี 2500

    [​IMG][​IMG]



    ให้บูชา 1,000บ.ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • sd1.jpg
      sd1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.7 KB
      เปิดดู:
      4,107
    • sd2.jpg
      sd2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.4 KB
      เปิดดู:
      4,090
  19. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    [​IMG]

    ชีวประวัติ

    หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทโท ถือกำเนิดที่บ้านท่าจำปี ต.ทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เป็นคนพื้นเพบ้านท่าจำปีมาแต่กำเนิด บิดามารดา เป็นชาวไร่ชาวนา โยมบิดาชื่อ พ่ออูบ โยมมารดาชื่อ แม่จั๋นติ๊บ (สมัยนั้นยังไม่มีการใช้นามสกุล) หลวงปู่ถือกำเนิดในแผ่นดินรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ตรงกับสมัยพ่อเจ้าอินทวิชยานนท์ (เจ้ามหาชีวิต) เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 เดือนเมษายน พ.ศ. 2449 มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 8 คน เป็นชาย 4 คน เป็นหญิง 4 คน หลวงปู่เป็นลำดับที่ 7 และมีน้องสุดท้องชื่อแม่นิน


    เริ่มต้นชีวิตในผ้ากาสาวพัตร

    เมื่อหลวงปู่อายุได้ 11 ปี ได้ติดตามพ่อแม่ไปทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารแด่ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นท่านครูบาถูกทางการจังหวัดลำพูน นำตัวมากักขังบริเวณที่วัดพระธาตุเจ้าหริภุญชัย (วัดหลวงลำพูน) ในข้อหาเป็นพระอุปัชฌาย์เถื่อนไม่มีหนังสืออนุญาตบวชพระ เมื่อท่านครูบาเจ้าฯได้เห็นเด็กชายดวงดี ท่านก็มีเมตตาอย่างสูงเรียกเข้าไปหาพร้อมกับบอกพ่อแม่ว่า "กลับไปให้เอาไปเข้าวัดเข้าวา ต่อไปภายหน้าจะได้พึ่งพาไหว้สามัน" นับเป็นพรอันประเสริฐ ยิ่งในการที่ท่านครูบาเจ้าฯได้พยากรณ์พร้อมกับประสาทพรให้หลวงปู่ตั้งแต่ยัง เด็กหลังจากที่เดินทางกลับถึงบ้าน ไม่กี่วันต่อมาบิดาก็นำขันข้าวตอกดอกไม้ พร้อมกับนำตัวเด็กชายดวงดีไปถวายฝากตัวเป็นศิษย์ (ขะโยม) ในท่านครูบาโปธิมา ซึ่งเป็นอธิการวัดท่าจำปี ใกล้ๆ บ้านนั่นเอง ครูบาโปธิมาก็ได้พร่ำสอนหนังสือของทางการบ้านเมืองสมัยนั้น หลังจากสั่งสอนเด็กชายดวงดีจนพออ่านออกเขียนได้ ท่านครูบาโปธิมาก็ย้ายจากวัดท่าจำปีไปเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ห่างจากวัดท่าจำปีไปเล็กน้อย

    ท่านครูบาสิงหะ เจ้าอาวาสองค์ต่อมา ได้ให้เด็กชายดวงดีศึกษาเป็นขะโยม (เด็กวัด) อยู่กับครูบาสิงหะได้ไม่นาน ครูบาสิงหะก็มรณภาพ คงเหลือสามเณรสิงห์แก้วดูวัดท่าจำปีแทนและทำหน้าที่สั่งสอนลูกศิษย์ไปด้วย หลังจากทำบุญประชุมเพลิงครูบาสิงหะแล้วสามเณรสิงห์แก้วก็ลาสิกขา จึงทำให้วัดท่าจำปีร้างรกไม่มีเจ้าอาวาสติดต่อกันถึง 3 ปี ในขณะที่วัดร้างรานั้น หลวงปู่หรือเด็กชายดวงดีขณะนั้นก็ทำหน้าที่ดูแลวัดอย่างที่เคยปฏิบัติมา เช่น ปัดกวาดกุฏิวิหาร จัดขันดอกไม้บูชาพระ ตักน้ำคนโท (น้ำต้น) ถวายพระพุทธรูปตลอดเวลา

    ต่อมาคณะศรัทธาวัดท่าจำปี ได้อาราธนานิมนต์ท่านครูบาโสภามาเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าจำปี เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่จึงได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตกอีกตำแหน่งด้วย ทำให้วัดท่าจำปีเกิดความสำคัญขึ้นมาอย่างยิ่ง เพราะนอกจากท่านครูบาโสภณจะเป็นเจ้าคณะตำบลแล้ว ท่านยังเป็นพระสหธรรมิกที่มีอายุพรรษารุ่นราวคราวเดียวกันกับท่านครูบาศีลธรรม (ครูบาเจ้าศรีวิชัย) มีผู้คนเคารพนับถือมากมายถึงกับขนานนามท่านว่า "ตุ๊เจ้าตนบุญตนวิเศษแห่งล้านนา" จริงๆ เพราะท่านมีบุญญาภินิหารปรากฏแก่สายตาคนทั้งหลาย ซึ่งเป็นที่ร่ำลือถึงเหตุการณ์ต่างๆ อย่างไม่ลดละตราบจนทุกวันนี้

    หลังจาก เด็กชายดวงดี ศึกษาภาษาพื้นเมืองได้คล่องแคล่ว อายุได้ 13 ปีพอดีท่านครูบาโสภาจึงนำเด็กชายดวงดีไปปรึกษากับท่านครูบาศรีวิชัย ซึ่งขณะนั้นท่านได้ขึ้นมาบูรณะปฏิสังขรณ์ทางเมืองเชียงใหม่ พ.ศ.2462 ท่านครูบาศรีวิชัยมีความพอใจเด็กชายดวงดีมาก ท่านครูบาโสภาก็เล่าเรื่องการบวชเณรให้ท่านครูบาศรีวิชัยฟัง ท่านก็บอกกับครูบาโสภณว่า "ถ้าบวชพระแล้วก็หื้อขึ้นมาจำพรรษาอยู่วัดพระสิงห์นี่แหละ จะได้เป็นเพื่อนกับนายสิงห์ดำ" (ซึ่งเป็นหลานแท้ๆ ของท่านครูบาศรีวิชัย) ซึ่งมีหน้าที่ปลงเกศาให้กับท่านครูบาศรีวิชัย

    ในขณะที่หลวงปู่อยู่จำพรรษากับท่าครูบาเจ้าศรีวิชัยนับตั้งแต่เป็นสามเณรใหม่ๆ และเดินทางปฏิบัติเล่าเรียนอยู่กับท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยนั้น ท่านอายุได 28 ปี เป็นช่วงที่ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยต้องอธิกรณ์ข้องกล่าวหาต่างๆ นานา เช่นการบุกรุกป่าสงวน ซ่องสุมผู้คน ตั้งตนเป็นผีบุญ จนถึงกับถูกจับส่งตัวไปตัดสินความที่กรุงเทพฯ เนื่องจากถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่โต เมื่อคณะสงฆ์ในเขตปกครองแขวงบ้านแมง (อ.สันป่าตอง) ขอลาออกจากการปกครองเมืองเชียงใหม่ถึง 60 วัด ท่านครูบาโสภาวัดท่าจำปี ท่านครูบาปัญญา วัดท่ากิ่งแลหลวง ก็ถูกไต่สวนจนต้องนำคณะศิษย์หนีไปแสวงบุญก่องสร้างวิหารพระพุทธบาทฮังฮุ้ง ในเขตประเทศพม่า จนไม่ยอมกลับมาอีกเลย บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของท่านครูบาศรีวิชัยต้องแยกย้ายกันไปแสวงบุญคนละทิศละทาง คงค้างแต่ท่านครูบาขาวปีทำหน้าที่ดูแลวัดสิงห์ และเป็นหัวแรงในการก่อสร้างวัดวาอารามที่ค้างไว้

    ต่อมา ท่านครูบาศรีวิชัย ถูกชำระความพ้นผิดเดินทางกลับเมืองลำพูนอยู่ได้ไม่นาน ก็ถึงแก่มรณภาพที่วัดจามเทวี เมื่ออายุได้ 61 ปี ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่ดวงดีอายุได้ 32 ปี หลวงปู่ได้เดินทางไปก่อสร้างวัดวาอารามเจริญรอยตามท่านครูบาศรีวิชัยผู้เป็นพระอาจารย์ หลังจากนั้นก็ติดตามครูบาเจ้าอภิชัยผ้าขาวปีมาสร้างวิหารวัดท่าจำปีหลวงปู่ เดินทางกลับมาก่อสร้างวัดท่าจำปี ขณะนั้นอายุได้ 42 ปี ได้รับตำแหน่งเจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตกจากท่านครูบาโสภาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าหลวงปู่จะมีตำแหน่งหน้าที่ทางการคณะสงฆ์ก็ตาม ท่านก็มิได้ละเลยข้อวัตรปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งท่านมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ในระหว่างที่มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อจากท่านครูบาโสภา หลวงปู่ก็มิได้สร้างแต่เฉพาะวัดท่าจำปีเท่านั้น ทุกวัดในละแวกเดียวกันหลวงปู่ก็ช่วยเหลือเป็นแรงสำคัญ ไม่ว่าถนนหนทาง อุโบสถ วิหาร เจดีย์ สะพาน หรือแม้แต่โรงเรียน โรงพยาบาล หลวงปู่ก็ให้ความอุปถัมภ์บำรุง แม้กระทั่งวัดในเขตอำเภอสันป่าตอง หรือต่างอำเภอ หรือต่างจังหวัด จนไม่สามารถนำมาบรรยายได้ทั้งหมด

    หน้าที่การคณะสงฆ์และสมณศักดิ์


    หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภัทฺโท ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่พ.ศ. 2492

    - วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2520 ได้รับตั้งเป็นพระครูชั้นประทวนเจ้าคณะตำบล นามว่า "พระครูดวงดี"

    - วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนาม "พระครูสุภัทรสีลคุณ" ณ พุทธมณฑล จังหวัด นครปฐม

    - วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะ (เจ้าคุณ) ชั้นสามัญ ในราชทินนาม "พระมงคลวิสุต"

    - สิ้นเกจิชื่อดังล้านนา "ครูบาดวงดี สุภัทโท" วัดท่าจำปี เชียงใหม่ รวมอายุ 104 ปี พรรษา 83 หลังอาพาธด้วยโรคชรา ที่โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ ตึกศรีพัฒน์ ชั้น 4 ห้อง 1 และได้มรณภาพลงแล้วที่ห้องไอซียู ชั้น 4 ตึกศรีพัฒน์ ยังความเศร้าใจแก่หมู่ศิษท์ทั้งหลาย

    เหรียญรุ่นสองครูบาดวงดี วัดท่าจำปี สร้างปี2518 ครับ ประสบการณ์มีมากมาย สภาพสวยหายากแล้วครับ

    [​IMG][​IMG]



    ให้บูชา 1,550บ.ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Kruba doungdee01.jpg
      Kruba doungdee01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.4 KB
      เปิดดู:
      4,784
    • jp1.jpg
      jp1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.1 KB
      เปิดดู:
      6,420
    • jp2.jpg
      jp2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.3 KB
      เปิดดู:
      5,514
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2013
  20. untra7

    untra7 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2012
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +209
    ขอจองครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...